เพื่อนผมคนนี้...เขามีพลังจิตล่ะ (My dear’ Psychic)
นิยายเรื่องนี้จะว่าแฟนตาซีก็ไม่ใช่ วิทยาศาสตร์ก็คงไม่เชิงเพราะไม่รู้ว่าจะมีฝีมือแต่งถึงขั้นนั้นไหม แต่ก็อยากให้ผู้อ่านทั้งหลายลองเปิดใจดู ถ้าอ่านแล้วไม่อินอนุญาตให้ด่าได้นะครับ (แต่อย่าแรง)
ผู้เข้าชมรวม
351
ผู้เข้าชมเดือนนี้
21
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เพื่อนผมคนนี้...เขามีพลังจิตล่ะ (My dear’ Psychic)
จากใจนักเขียน
Materialise
เพื่อนผมคนนี้...เขามีพลังจิตล่ะ (My dear’ Psychic) เป็นนิยายแนวรั้วโรงเรียน
ซึ่งผมได้แรงบันดาลใจจากโรงเรียนเดิมที่เคยศึกษาตอนสมัยมัธยมฯ
คืนก่อนที่จะแต่งเรื่องนี้ ผมนั่งฟังเพลงเก่าๆก่อนเข้านอน และแล้วจู่ ๆ ก็ผุดความทรงจำในวัยเยาว์ขึ้นมา
‘มันคงจะดีเหมือนกันนะถ้ามีเพื่อนที่มีพลังจิตกับเขาบ้าง’
ด้วยแรงบันดาลใจนี้จึงคิดได้ว่า
งั้นก็เอาไอ้บรรดาเพื่อนสนิทในแก๊งนี่แหละ มายำในนิยายสะ ว่าแล้วก็เข้าเว็บ
สืบค้นข้อมูลสักหน่อย ไอ้คนที่มีพลังจิต เขาทำอะไรกันบ้างในวันหนึ่ง ๆ
นิยายเรื่องนี้จะว่าแฟนตาซีก็ไม่ใช่
วิทยาศาสตร์ก็คงไม่เชิงเพราะไม่รู้ว่าจะมีฝีมือแต่งถึงขั้นนั้นไหม แต่ก็อยากให้ผู้อ่านทั้งหลายลองเปิดใจดู
ถ้าอ่านแล้วไม่อินอนุญาตให้ด่าได้นะครับ (แต่อย่าแรง)
เรื่องนี้แต่งเป็นเรื่องที่สามแล้ว ขอฝากนายพลังจิตไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ
ขอบคุณเด้อ
Materialise
บทนำ
โรงเรียนชายล้วน
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ามีแต่เด็กผู้ชาย โรงเรียนคือศูนย์รวมเด็กผู้ชายอายุระหว่าง ๑๓
– ๑๘ ปี
ซึ่งแน่นอนว่าสังคมของโรงเรียนชายล้วนนั้นปกครองแบบรุ่นพี่ปกครองรุ่นน้อง
เด็กใหม่น้อยคนนักที่จะกล้าประจันหน้ากับรุ่นพี่โดยไม่หลบสายตา
และแน่นอนที่สุดก็คือ ผู้หญิงเป็นแรร์ไอเท็มเลยล่ะ การพิชิตใจสาวจากโรงเรียนข้าง ๆ
ถือได้ว่าเป็นภารกิจหลักของชาวเราเลยก็ว่าได้
แต่ก็มีกฎประหลาด ๆ
ระหว่างเพื่อนในกลุ่มด้วยกันเองคือ ถ้านายมีแฟน นายออกจากแก๊งเราไปเลย
ไม่ใช่อะไรหรอก การที่เพื่อนในแก๊งจะพาสาวมาอวด
มันช่างทำร้ายจิตใจคนโสดสะเหลือเกิน T_T
โรงเรียนของผมนั้นชื่อ โรงเรียนเอกบดินทร์
เป็นโรงเรียนใหญ่ประจำจังหวัด
การที่ได้เข้าโรงเรียนประจำจังหวัดนี้นำมาซึ่งเกียรติคุณของครอบครัวเลยก็ว่าได้
อย่างน้อยพ่อแม่ก็พูดอวดได้สามบ้านแปดบ้านว่าลูกชายของตนเรียนโรงเรียนประจำจังหวัดชื่อดัง
ภายนอกดูสวยหรู แต่ภายในจะเป็นอย่างไรนั้นต้องติดตาม
อีกเรื่องที่ผู้แต่งอยากจะนำเสนอนั่นก็คือ
จะเป็นไปได้ไหม ถ้าเด็กผู้ชายคนหนึ่งจะมีความรักกับเด็กผู้ชายอีกคน
ถ้าเพื่อนในห้องรู้ คงโดนล้อยันลูกบวชเลยทีเดียว ความรักที่ต้องเก็บซ่อนนั้น
มันจะทรมานถึงเพียงไหนกันนะ และที่สำคัญก็คือ
คนที่ผมชอบนั้นเขาไม่ใช่คนธรรมดาล่ะ...
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่
หรือเหตุการณ์จริงใด ๆ เลยทั้งสิ้น
เวลา 07.50 น. เสียงดนตรีตามสายดังก้องทั่วโรงเรียน
เป็นสัญญาณว่า ได้เวลาเข้าแถวเคารพธงชาติแล้ว วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรก
หากแต่ผมไม่ได้มีความตื่นเต้นสักเท่าไหร่ สถานที่ที่เด็กหนุ่มวัยเดียวกันต้องใช้ชีวิตร่วมกันตลอด
3 ปี มันจะไปน่าตื่นเต้นสักแค่ไหนกัน
กิจกรรมหน้าเสาธงดำเนินได้ไม่นาน
หลังจากที่ผอ.กล่าวโอวาท ต้อนรับนักเรียนใหม่ พวกเราต่างพากันเดินเข้าห้องเรียนของใครมัน
ผมชื่อโก้ ชื่อจริงนายปองพล
ก้องสุทธิสาร อายุ 16 ปี ส่วนสูง 173 เซนติเมตรได้ น้ำหนัก 55 กิโลกรัม ปัจจุบันเป็นนักเรียนห้อง ม.4/5 เรียนแผนวิทย์-คณิตฯครับ แม้จะไม่เต็มใจเลือกเรียนสายเรียนนี้เท่าไหร่ แต่ผมก็ต้องทนอยู่กับมันจนจบม.
6 ให้ได้
เปิดเรียนวันใหม่
แต่ห้องเรียนไม่ได้ใหม่ด้วย โต๊ะเรียนที่บ่งบอกว่าผ่านการใช้งานมานานนับสิบ ๆ ปี
สภาพเหมือนผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 มายังไงยังงั้น
แต่ก็นะ นี่มันโรงเรียนชายล้วนนี่นา จะให้โต๊ะเป็นระเบียบก็คงกระไรอยู่
ผมเลือกที่นั่งริมสุดติดหน้าต่าง
อย่างน้อย เวลาที่เรียนเบื่อ จะได้มองออกไปข้างนอกพักผ่อนสมองบ้าง
โต๊ะเรียนถูกจัดไว้ให้นั่งเป็นคู่
ด้วยสีหน้าไม่รับแขกของผม จะมีใครยอมนั่งเป็นเพื่อนผมบ้างไหมน้อ
‘ขอนั่งด้วยคนนะ’
เสียงทุ้มแหบ ๆ ดังขึ้น พอหันไปมองยังเจ้าของเสียง
สายตาผมหยุดอยู่ที่ชายหนุ่มคนหนึ่ง ผิวที่ขาวซีดเหมือนคนไม่เคยออกแดด
คิ้วเข้มรับกับใบหน้า จมูกสันคมได้ที่ แววตา กลม ดำ ออกแนวตี๋ๆ ผมเชื่อเลยว่า
หมอนี่ สเป๊กสาว ๆ ชัวร์
‘อือ นั่งดิ’
ผมตอบกลับไปแบบไม่มองหน้า ใจจริงแล้วผมอยากแสดงออกให้ดูเป็นมิตรมากกว่านี้
แต่มันคงดูไม่ธรรมชาติเท่าไหร่ถ้าจะทำตัวเฟรนด์ลี่กับคนที่เพิ่งรู้จัก
คาบแรกยังไม่มีอะไรมาก
ครูประจำชั้นเข้ามาทักทายและอธิบายถึงกฎระเบียบของโรงเรียน
รวมถึงเกณฑ์การให้คะแนนและกิจกรรมต่าง ๆ ครูให้พวกเราเลือกหัวหน้าและรองหัวหน้าห้อง
ตามความคิดผมนะ...กับหน้าที่เสี่ยงภัยแบบนี้ ใครจะอยากเป็นล่ะ
สายตาพวกเราหยุดอยู่ที่หนุ่มแว่นคนหนึ่ง
ที่นั่งหน้าสุด ถ้าดูจากอาการท่าทางแล้ว
ดูทรงเขามีมาดที่จะเป็นหน้าห้องอยู่ไม่น้อยและมติเป็นเอกฉันท์
ทราบชื่อภายหลังมันชื่อว่า ‘ไอ้เอก’ ส่วนรองหัวหน้าห้องพวกเราก็เลือกได้จากคนที่ไม่ใช่ที่ไหนอื่นไกล
คนที่นั่งใกล้ ๆไอ้เอกนั่นแหละ ดูมันจะมีอาการหัวเสียไม่น้อย มันชื่อแบงค์ครับ
กับไอ้เอกผมไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่แต่กับไอ้แบงค์
ทำไมผมรู้สึกไม่ชอบขี้หน้ามันขึ้นมาสะงั้น พอเลือกหัวหน้าและรองหัวหน้าได้เสร็จ ไอ้เอกก็เริ่มแนะนำตัว
น้ำเสียงมันฟังแล้วก็สมกับที่มันโดนเพื่อนในห้องเลือกแล้วล่ะ
เสียงที่ฟังดูหนักแน่นและมีหลักการทำให้พวกเรายอมรับในข้อนี้
ส่วนไอ้แบงค์นี่เป็นตามที่ผมคาด มันออกอการเซ็งที่โดนเลือกอย่างเห็นได้ชัด
และดูเหมือนว่าเพื่อน ๆ หลายคนไม่ชอบขี้หน้ามันสะแล้ว
ใครว่าเรียนวันแรกไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก
แต่ไม่ใช่กับโรงเรียนของผมแน่ ผ่านวิชาที่ 2 ไปเพียงชั่วโมงกว่า ๆ
ตอนนี้เรามีรายงานให้ทำถึง 2 ชิ้น
เพื่อนผู้ชายในห้องส่วนใหญ่ของผมยังไม่พกปากกามาเรียนด้วยซ้ำ การที่ถูกสั่งให้ทำรายงาน
ทำเอาพวกมันหงุดหงิดไม่น้อย
วิชาที่ 3 กำลังจะเริ่ม
เพื่อนใหม่ของผมที่นั่งข้างกัน หลังจากที่มันขอนั่งด้วย
พวกผมก็ยังไม่ได้คุยอะไรกัน จนกระทั่ง หมอนี่สะกิดที่แขนผมเบา ๆ
‘นาย ๆ’
‘หือ?’ ผมมองกลับไปด้วยสีหน้างง ๆ
‘นายเอาสมุดมากี่เล่ม’
‘อ่า..วันนี้เราพกมา
5 เล่มน่ะ ทำไมรึ?’
‘เราขอยืมนายสักเล่มหน่อยดิ’
ในใจผมค่อนข้างเหวอนิดหน่อย ที่อยู่ ๆ
คนที่เพิ่งคุยกันวันแรกขอยืมสมุดสะแล้ว แต่จะให้ผมคิดเล็กคิดน้อยก็คงใช่ที
จะให้งกกับเพื่อนแค่สมุดเล่มเดียวมันคงจะใจดำไปหน่อย
‘เอาดิ’ ผมค้นในกระเป๋าเป้สักพักพรางยืนสมุดโรงเรียนเล่มบางให้ ‘นายไม่ต้องคืนเราก็ได้ ถือว่าเราให้’
‘อื้อ ขอบใจนะ
ว่าแต่นายชื่อไร? เราตุ้ย’
‘อ่า เราชื่อโก้
น่ะ’
‘นายเตรียมสมุดมากี่เล่ม’
ผมถาม
‘เอามาเล่มเดียวน่ะ
ไม่คิดว่าวันแรกจะเรียนหนักแบบนี้’ คนพูดทำหน้าตาเซ็ง ๆ
จนผมแทบจะอดขำไม่ได้
วิชาต่อไปกำลังจะเริ่ม
ตุ้ยก็สะกิดที่แขนผมอีกครั้ง
‘หือ?’ คราวนี้ผมหันไปมองคนข้าง ๆ พรางขมวดคิ้ว
‘ขอยืมปากกาน้ำเงินด้วยดิ’
ไอ้ตุ้ยพูดพรางยิ้มตาหยี
‘เห้ย!!!!’
ผมอุทานเบา ๆ ในใจพรางคิดว่า มันไม่ได้เอาอะไรมาเรียนจริง ๆ
เลยหรอวะ = =” ไอ้หล่อมันจะ ขี้เกียจเกินไปแล้ว...
ผลงานอื่นๆ ของ kaiserpongko ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ kaiserpongko
ความคิดเห็น