เพื่อนผมคนนี้...เขามีพลังจิตล่ะ (My dear’ Psychic) - นิยาย เพื่อนผมคนนี้...เขามีพลังจิตล่ะ (My dear’ Psychic) : Dek-D.com - Writer
×

    เพื่อนผมคนนี้...เขามีพลังจิตล่ะ (My dear’ Psychic)

    นิยายเรื่องนี้จะว่าแฟนตาซีก็ไม่ใช่ วิทยาศาสตร์ก็คงไม่เชิงเพราะไม่รู้ว่าจะมีฝีมือแต่งถึงขั้นนั้นไหม แต่ก็อยากให้ผู้อ่านทั้งหลายลองเปิดใจดู ถ้าอ่านแล้วไม่อินอนุญาตให้ด่าได้นะครับ (แต่อย่าแรง)

    ผู้เข้าชมรวม

    319

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    10

    ผู้เข้าชมรวม


    319

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    9
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  7 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  24 พ.ค. 63 / 00:47 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เพื่อนผมคนนี้...เขามีพลังจิตล่ะ  (My dear’ Psychic)

     

    จากใจนักเขียน

    Materialise

                       เพื่อนผมคนนี้...เขามีพลังจิตล่ะ  (My dear’ Psychic) เป็นนิยายแนวรั้วโรงเรียน ซึ่งผมได้แรงบันดาลใจจากโรงเรียนเดิมที่เคยศึกษาตอนสมัยมัธยมฯ คืนก่อนที่จะแต่งเรื่องนี้ ผมนั่งฟังเพลงเก่าๆก่อนเข้านอน และแล้วจู่ ๆ ก็ผุดความทรงจำในวัยเยาว์ขึ้นมา มันคงจะดีเหมือนกันนะถ้ามีเพื่อนที่มีพลังจิตกับเขาบ้างด้วยแรงบันดาลใจนี้จึงคิดได้ว่า งั้นก็เอาไอ้บรรดาเพื่อนสนิทในแก๊งนี่แหละ มายำในนิยายสะ ว่าแล้วก็เข้าเว็บ สืบค้นข้อมูลสักหน่อย ไอ้คนที่มีพลังจิต เขาทำอะไรกันบ้างในวันหนึ่ง ๆ

                       นิยายเรื่องนี้จะว่าแฟนตาซีก็ไม่ใช่ วิทยาศาสตร์ก็คงไม่เชิงเพราะไม่รู้ว่าจะมีฝีมือแต่งถึงขั้นนั้นไหม แต่ก็อยากให้ผู้อ่านทั้งหลายลองเปิดใจดู ถ้าอ่านแล้วไม่อินอนุญาตให้ด่าได้นะครับ (แต่อย่าแรง) เรื่องนี้แต่งเป็นเรื่องที่สามแล้ว ขอฝากนายพลังจิตไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ

     

    ขอบคุณเด้อ

    Materialise



    บทนำ

     

              โรงเรียนชายล้วน ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ามีแต่เด็กผู้ชาย โรงเรียนคือศูนย์รวมเด็กผู้ชายอายุระหว่าง ๑๓ ๑๘ ปี ซึ่งแน่นอนว่าสังคมของโรงเรียนชายล้วนนั้นปกครองแบบรุ่นพี่ปกครองรุ่นน้อง เด็กใหม่น้อยคนนักที่จะกล้าประจันหน้ากับรุ่นพี่โดยไม่หลบสายตา และแน่นอนที่สุดก็คือ ผู้หญิงเป็นแรร์ไอเท็มเลยล่ะ การพิชิตใจสาวจากโรงเรียนข้าง ๆ ถือได้ว่าเป็นภารกิจหลักของชาวเราเลยก็ว่าได้

              แต่ก็มีกฎประหลาด ๆ ระหว่างเพื่อนในกลุ่มด้วยกันเองคือ ถ้านายมีแฟน นายออกจากแก๊งเราไปเลย ไม่ใช่อะไรหรอก การที่เพื่อนในแก๊งจะพาสาวมาอวด มันช่างทำร้ายจิตใจคนโสดสะเหลือเกิน T_T

              โรงเรียนของผมนั้นชื่อ โรงเรียนเอกบดินทร์ เป็นโรงเรียนใหญ่ประจำจังหวัด การที่ได้เข้าโรงเรียนประจำจังหวัดนี้นำมาซึ่งเกียรติคุณของครอบครัวเลยก็ว่าได้ อย่างน้อยพ่อแม่ก็พูดอวดได้สามบ้านแปดบ้านว่าลูกชายของตนเรียนโรงเรียนประจำจังหวัดชื่อดัง ภายนอกดูสวยหรู แต่ภายในจะเป็นอย่างไรนั้นต้องติดตาม

              อีกเรื่องที่ผู้แต่งอยากจะนำเสนอนั่นก็คือ จะเป็นไปได้ไหม ถ้าเด็กผู้ชายคนหนึ่งจะมีความรักกับเด็กผู้ชายอีกคน ถ้าเพื่อนในห้องรู้ คงโดนล้อยันลูกบวชเลยทีเดียว ความรักที่ต้องเก็บซ่อนนั้น มันจะทรมานถึงเพียงไหนกันนะ และที่สำคัญก็คือ คนที่ผมชอบนั้นเขาไม่ใช่คนธรรมดาล่ะ...

     

    นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง  ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใด ๆ เลยทั้งสิ้น

     

     

     

     

     

     

     

              เวลา 07.50 น. เสียงดนตรีตามสายดังก้องทั่วโรงเรียน เป็นสัญญาณว่า ได้เวลาเข้าแถวเคารพธงชาติแล้ว วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรก หากแต่ผมไม่ได้มีความตื่นเต้นสักเท่าไหร่ สถานที่ที่เด็กหนุ่มวัยเดียวกันต้องใช้ชีวิตร่วมกันตลอด 3 ปี มันจะไปน่าตื่นเต้นสักแค่ไหนกัน

              กิจกรรมหน้าเสาธงดำเนินได้ไม่นาน หลังจากที่ผอ.กล่าวโอวาท ต้อนรับนักเรียนใหม่ พวกเราต่างพากันเดินเข้าห้องเรียนของใครมัน

              ผมชื่อโก้ ชื่อจริงนายปองพล ก้องสุทธิสาร อายุ 16 ปี ส่วนสูง 173 เซนติเมตรได้ น้ำหนัก 55 กิโลกรัม ปัจจุบันเป็นนักเรียนห้อง ม.4/5 เรียนแผนวิทย์-คณิตฯครับ แม้จะไม่เต็มใจเลือกเรียนสายเรียนนี้เท่าไหร่ แต่ผมก็ต้องทนอยู่กับมันจนจบม. 6 ให้ได้

              เปิดเรียนวันใหม่ แต่ห้องเรียนไม่ได้ใหม่ด้วย โต๊ะเรียนที่บ่งบอกว่าผ่านการใช้งานมานานนับสิบ ๆ ปี สภาพเหมือนผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 มายังไงยังงั้น แต่ก็นะ นี่มันโรงเรียนชายล้วนนี่นา จะให้โต๊ะเป็นระเบียบก็คงกระไรอยู่

              ผมเลือกที่นั่งริมสุดติดหน้าต่าง อย่างน้อย เวลาที่เรียนเบื่อ จะได้มองออกไปข้างนอกพักผ่อนสมองบ้าง

              โต๊ะเรียนถูกจัดไว้ให้นั่งเป็นคู่ ด้วยสีหน้าไม่รับแขกของผม จะมีใครยอมนั่งเป็นเพื่อนผมบ้างไหมน้อ

    ขอนั่งด้วยคนนะเสียงทุ้มแหบ ๆ ดังขึ้น พอหันไปมองยังเจ้าของเสียง สายตาผมหยุดอยู่ที่ชายหนุ่มคนหนึ่ง ผิวที่ขาวซีดเหมือนคนไม่เคยออกแดด คิ้วเข้มรับกับใบหน้า จมูกสันคมได้ที่ แววตา กลม ดำ ออกแนวตี๋ๆ ผมเชื่อเลยว่า หมอนี่ สเป๊กสาว ๆ ชัวร์

    อือ นั่งดิผมตอบกลับไปแบบไม่มองหน้า ใจจริงแล้วผมอยากแสดงออกให้ดูเป็นมิตรมากกว่านี้ แต่มันคงดูไม่ธรรมชาติเท่าไหร่ถ้าจะทำตัวเฟรนด์ลี่กับคนที่เพิ่งรู้จัก

              คาบแรกยังไม่มีอะไรมาก ครูประจำชั้นเข้ามาทักทายและอธิบายถึงกฎระเบียบของโรงเรียน รวมถึงเกณฑ์การให้คะแนนและกิจกรรมต่าง ๆ ครูให้พวกเราเลือกหัวหน้าและรองหัวหน้าห้อง ตามความคิดผมนะ...กับหน้าที่เสี่ยงภัยแบบนี้ ใครจะอยากเป็นล่ะ

              สายตาพวกเราหยุดอยู่ที่หนุ่มแว่นคนหนึ่ง ที่นั่งหน้าสุด ถ้าดูจากอาการท่าทางแล้ว ดูทรงเขามีมาดที่จะเป็นหน้าห้องอยู่ไม่น้อยและมติเป็นเอกฉันท์ ทราบชื่อภายหลังมันชื่อว่า ไอ้เอกส่วนรองหัวหน้าห้องพวกเราก็เลือกได้จากคนที่ไม่ใช่ที่ไหนอื่นไกล คนที่นั่งใกล้ ๆไอ้เอกนั่นแหละ ดูมันจะมีอาการหัวเสียไม่น้อย มันชื่อแบงค์ครับ

              กับไอ้เอกผมไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่แต่กับไอ้แบงค์ ทำไมผมรู้สึกไม่ชอบขี้หน้ามันขึ้นมาสะงั้น พอเลือกหัวหน้าและรองหัวหน้าได้เสร็จ ไอ้เอกก็เริ่มแนะนำตัว น้ำเสียงมันฟังแล้วก็สมกับที่มันโดนเพื่อนในห้องเลือกแล้วล่ะ เสียงที่ฟังดูหนักแน่นและมีหลักการทำให้พวกเรายอมรับในข้อนี้ ส่วนไอ้แบงค์นี่เป็นตามที่ผมคาด มันออกอการเซ็งที่โดนเลือกอย่างเห็นได้ชัด และดูเหมือนว่าเพื่อน ๆ หลายคนไม่ชอบขี้หน้ามันสะแล้ว

              ใครว่าเรียนวันแรกไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก แต่ไม่ใช่กับโรงเรียนของผมแน่ ผ่านวิชาที่ 2 ไปเพียงชั่วโมงกว่า ๆ ตอนนี้เรามีรายงานให้ทำถึง 2 ชิ้น เพื่อนผู้ชายในห้องส่วนใหญ่ของผมยังไม่พกปากกามาเรียนด้วยซ้ำ การที่ถูกสั่งให้ทำรายงาน ทำเอาพวกมันหงุดหงิดไม่น้อย

              วิชาที่ 3 กำลังจะเริ่ม เพื่อนใหม่ของผมที่นั่งข้างกัน หลังจากที่มันขอนั่งด้วย พวกผมก็ยังไม่ได้คุยอะไรกัน จนกระทั่ง หมอนี่สะกิดที่แขนผมเบา ๆ

    นาย ๆ

    หือ?ผมมองกลับไปด้วยสีหน้างง ๆ

    นายเอาสมุดมากี่เล่ม

    อ่า..วันนี้เราพกมา 5 เล่มน่ะ ทำไมรึ?

    เราขอยืมนายสักเล่มหน่อยดิ

              ในใจผมค่อนข้างเหวอนิดหน่อย ที่อยู่ ๆ คนที่เพิ่งคุยกันวันแรกขอยืมสมุดสะแล้ว แต่จะให้ผมคิดเล็กคิดน้อยก็คงใช่ที จะให้งกกับเพื่อนแค่สมุดเล่มเดียวมันคงจะใจดำไปหน่อย

    เอาดิผมค้นในกระเป๋าเป้สักพักพรางยืนสมุดโรงเรียนเล่มบางให้ นายไม่ต้องคืนเราก็ได้ ถือว่าเราให้

    อื้อ ขอบใจนะ ว่าแต่นายชื่อไร? เราตุ้ย

    อ่า เราชื่อโก้ น่ะ

    นายเตรียมสมุดมากี่เล่มผมถาม

    เอามาเล่มเดียวน่ะ ไม่คิดว่าวันแรกจะเรียนหนักแบบนี้คนพูดทำหน้าตาเซ็ง ๆ จนผมแทบจะอดขำไม่ได้

    วิชาต่อไปกำลังจะเริ่ม ตุ้ยก็สะกิดที่แขนผมอีกครั้ง

    หือ?คราวนี้ผมหันไปมองคนข้าง ๆ พรางขมวดคิ้ว

    ขอยืมปากกาน้ำเงินด้วยดิไอ้ตุ้ยพูดพรางยิ้มตาหยี

    เห้ย!!!!’ ผมอุทานเบา ๆ ในใจพรางคิดว่า มันไม่ได้เอาอะไรมาเรียนจริง ๆ เลยหรอวะ = =” ไอ้หล่อมันจะ   ขี้เกียจเกินไปแล้ว...

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น