ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : [yeryeo] สู้โว้ย!!!
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณรีดเดอร์ผู้ใจดี ที่มาเม้นเป็นกำลังใจนะคะ *กระโดดกอด* ถ้าใครลองมาเป็นคนเขียนก็จะรู้ทันทีว่าจำนวนเม้นมันมีผลต่อจิตใจมากนะ
เนี่ยขนาดเพิ่มมานึดนึงไรท์เตอร์ก็ดีใจแล้ว
แต่ถ้าเม้นไม่เพิ่มเลยก็จะแบบว่า ...กูจะแต่งให้ใครอ่านอะ(ทำหน้าผีๆ) ล้อเล่นๆ อย่าเครียดน้า^^
อาทิตย์หน้าไรท์เตอร์เที่ยวสงกรานต์ ไม่รู้จะมาอัพตอนใหม่ทั้นมั้ยนะ แต่ก็จะลองหาเวลาดู ถ้าได้ไปวัดจะเอาบุญมาฝากนะจ๊ะ(เกี่ยว??) 5555
ปล.เปลี่ยนบีจีใหม่คงอ่านสบายขึ้นเนาะ^^ อันเก่ามันยุกยิกๆลายตาเกิน(เพิ่งรู้สึก 555)
ปล.เปลี่ยนบีจีใหม่คงอ่านสบายขึ้นเนาะ^^ อันเก่ามันยุกยิกๆลายตาเกิน(เพิ่งรู้สึก 555)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
(เย่แอบโหด==")
"ห้ะ?…เทรนเนอร์เรื่อง?"
"เรื่องร้องเพลงไง ในเมื่อคุณพูดแล้วก็ต้องรับผิดชอบ มาสอนผมร้องเพลง"
"เอ่อ…ผมขอโทษที่ผมพูดไปอย่างนั้น แต่ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่างน่ะครับ" น้ำเย็นๆเริ่มผุดเป็นเม็ดที่หน้าผาก แววตาเริ่มไม่นิ่ง คยูฮยอนใกล้ถึงจุดหายนะของชีวิต
"คุณต้องไปทำธุระอะไรเดี๋ยวผมให้ลูกน้องจัดการแทนก็ได้ ถ้าไม่ลำบากอะไร "
"งั้นผมขอเวลาเตรียมตัวซักเดือนนึงได้มั้ยครับ"
"นานไป ผมให้เวลา3วันพอ มันเป็นเรื่องสำคัญเข้าใจมั้ย"
"แต่ท่านประธา…"
"ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ถ้ากล้าขัดคำสั่ง เดี๋ยวผมจะขายหุ้นส่วนของคุณให้คนอื่น"
"ก็ได้ครับ 3วันก็3วัน"
"งั้นตกลงตามนี้"
เมื่อเสร็จธุระเยซองทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่หนานุ่ม แล้วหมุนไปหมุนมาอย่างไม่ตั้งใจ จ้องมองท้องฟ้าแล้วปล่อยความคิดให้ล่องลอยไป
เขาสัญญากับตัวเองว่า ถ้าฝึกร้องเพลงไม่สำเร็จ เขาจะไม่ไปหารยออุค เขาตั้งใจจะร้องเพลง(แบบเพราะๆ)ให้รยออุคฟัง เป็นการตอบแทนอาหารสุดพิเศษในวันนั้น
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รยออุคนั่งเท้าคาง และกระดิกนิ้วอย่างเบื่อหน่ายบนเค้าท์เตอรร้านกาแฟที่ขัดจนมันเงา …
พี่เยซองหายไปเลยอ่า โทรไปก็ไม่ว่างทุกที บอกว่า ช่วงนี้งานยุ่ง ไม่ค่อยมีเวลา เฮ้อ แล้วเมื่อไหร่จะได้เจอเนี่ย
พูดถึงคยูฮยอน ช่วงนี้ก็ทำท่าทางแปลกๆ เหมือนตื่นกลัว วิตกกังวลอะไรบางอย่าง แต่พอถามก็บอกไม่มีอะไร ไม่ต้องเป็นห่วง
"นี่คยู แกทำหน้าเหมือนมีใครไล่แกไปตาย เกิดอะไรขึ้นวะ"
"ไม่มีอะไรหรอก ผมแค่เครียดเรื่องงานเท่านั้นเอง"
"ให้มันแน่นะ แกคงไม่มีอะไรปิดบังพี่อยู่หรอกนะ"
"ไม่มีๆ ไม่มีหรอก555 " หัวเราะกลบเกลื่อนแบบไม่มีความเนียนเลย
รยออุคก็ไม่อยากจะถามต่อ เสียอารมณ์ คยูฮยอน์รีบยัดแซนด์วิชที่พี่ชายเตรียมไว้ให้แล้วรีบลุกออกไป
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ห้องส่วนตัวที่มีไว้ให้ท่านประธานใช้แต่เพียงผู้เดียวถูกเปิดขึ้น มือหนาผลักประตูให้แสงพอส่องเข้าไปข้างใน แล้วเปิดไฟทุกดวง
พรึบ!
พระเจ้า…นี่มันโรงละครโอเปร่าของเกาหลีหรือนี่ บริษัทเรามีแบบนี้่ด้วยหรอ อลังการงานสร้างสุดๆ
คนที่ตามมาถึงกับเบิกตากว้าง ปากเผยอกว้างด้วยความตะลึง ดนตรีแนวคลาสสิคลอยเข้ามาในความคิด แต่ท่านประธานกลับพูดด้วยอารมณ์ตรงกันข้าม
“ห้องนี้แม่ผมสร้างให้ตั้งนานแล้ว ผมเคยเข้ามาแค่ครั้งเดียว เพราะไม่รู้จะทำอะไร“
"แต่ห้องนี้ดูดีมากเลยนะครับท่าน ยังกับโรงละครแน่ะ"
"หรอ ผมว่าก็งั้นๆแหละ วันนี้คุณจะสอนอะไร"
"ห้องนี้เก็บเสียงใช่มั้ยครับ" คยูฮยอนถามเพื่อความแน่ใจ …เดี๋ยวบริษัทจะทรุด!
"ก็ใช่น่ะสิครับ ผมถึงได้มาห้องนี้ไง "
"อืม…ก่อนอื่นผมว่า เสียงท่านประธานเป็นเสียงที่หาได้ยากนะครับ"
"ยังไง"
"เสียงพูดฟังดูอบอุ่นและมีพลัง เพราะฉะนั้นต้องฝึกร้องเพลงที่ใช้พลัง"
"เฮ้ย! แค่เพลงธรรมดาผมยังไปไม่รอดเลย ล้อเล่นป่ะเนี่ย"
"ไม่ล้อเล่นครับ ท่านประธานลองร้องด้วยอารมณ์ แล้วก็ควบคุมจังหวะของเสียงดูสิครับ"
"เอ่อ…ฟังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ผมจะลองดูก็ได้" คยูฮยอนหยิบกระดาษเนื้อเพลงไปให้ท่านประธาน มันคือเพลงIt has to be you ที่ประกอบซีรีส์เรื่องCinderella sister ดาราในดวงใจ มุน กึนยอง แสดง แน่นอนว่าเยซองจำเพลงนี้ได้ดี
“เอ่อ...ผมว่า เนื้อหามันเศร้าน่ะ ผมใส่อารมณ์ไม่ถูกเลย”
“ท่านประธานลองนึกดูนะครับ นึกถึงคนที่ท่านขาดไม่ได้ คือ...ไม่อยากจะสูญเสียเค้าไป”
“อื้ม” ดวงตาชั้นเดียวปิดลง แล้วลองนึกตามที่คยูฮยอนพูด นึกเท่าไหร่ก็มีแต่หน้าเจ้าเด็กร้านกาแฟไม่เข้าใจเลยจริงๆ แต่ก็เอาเถอะ ดีกว่านึกแล้วไม่เห็นใครเลย
"ไปช้าๆะครับ เริ่มท่อนแรกเลย"
ร่างสูงขยับไปนั่งบนเก้าอี้ที่หน้าเปียโน นิ้วเรียวพรมลงบนเครื่องดนตรีอย่างพริ้วไหว เสียงบรรเลงอ่อนหวานค่อยๆกระจายไปทั่วห้อง
"มีอะไร" ถามหน้าตาเฉยมาก
"แค่คำแรกก็เพี้ยนแล้วครับ แล้วก็ต้องร้องเบาๆก่อนค่อยไปดังสิครับ"
"ร้องเบาๆแล้วจะมีพลังอะไรล่ะ"
"ต้องตามอารมณ์เพลงสิครับ มากระแทกเสียงตอนแรกแล้วใครจะอยากฟังล่ะครับ"
"งั้นเอาใหม่ ผมจะลองคิดไปตามเนื้อเพลงแล้วกัน"
"อย่างนั้นแหละท่านประธาน แล้วก็ร้องเบาๆ ลากเสียงยาวๆไปตามเนื้อเพลงด้วยนะครับ"
ตอนแรกเขาคิดว่าคงยากมากที่จะต้องสอนเยซองร้องเพลงให้เพราะ แต่ที่จริง เยซองมีน้ำเสียงที่เพราะมาก เพียงแต่ว่าเขาจับจังหวะและอารมณ์เพลงไม่ถูกเท่านั้นเอง
"ท่านประธานๆ ใกล้ๆท่อนฮุคเสียงดังกว่านี้สิครับ แล้วก็อย่าผิดคีย์ด้วย"
"แสดงว่าผมก็ผ่านมาได้ท่อนนึงแล้วสินะ ว่าแต่…มันผิดตรงไหนคุณช่วยบอกผมหน่อย"
"คำนี้ต้องเสียงสูงกว่านี้ แต่ท่านเสียงสูงไม่ถึง เดี๋ยวผมร้องให้ฟังก่อนแล้วท่านร้องตามนะ"
"เหรอ ได้ๆ เริ่มเลย"
“เอาล่ะ ถึงท่อนที่ต้องใช้พลัง ท่านประธานเก็บลมไว้ในช่องท้องให้มากที่สุด แล้วปล่อยออกมาสุดๆไปเลย แต่ต้องไม่เพี้ยนนะครับ”
“เอาเลย เรื่องควบคุมเสียงก็พอทำได้แล้ว”
ผ่านไปหลายชั่วโมงเสียงเปียโนและเสียงร้องก็ยังก้องอยู่ในโรงละครโอเปร่าของเกาหลี
เพลงแล้วเพลงเล่า เยซองก็ร้องได้ดีขึ้นๆ คยูฮยอนไม่รู้สึกเป็นทุกข์เมื่อได้เป็นเทรนเนอร์ของเยซองอีกต่อไป
แปะ แปะ แปะ แปะ ...
ทุกเสียงหยุดลง เสียงปรบมือดังมาจากข้างนอก! ท่านประธานและลูกน้องอีกคนหันขวับไปตามเสียงนั้น…
ใครกัน ใครรู้จักที่นี่นอกจากผมกับแม่ พอหันไปก็พบ…
"ไม่หรอกครับแม่ ผมยังร้องเพี้ยนอยู่เลย 555" คำพูดแก้เขินที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงเอาซะเลย
"ไหนลองร้องเพลงนี้ให้แม่ฟังหน่อยสิลูก I have a lover ของ ลีอึนมี"
กิตติศัพท์ของนักร้องรุ่นแม่คนนี้ไม่เบาเลยทีเดียวทั้งความสามรถเรื่องเสียงและการแสดงบนเวที และเพลงนี้ นักร้องรุ่นใหม่ๆเอามาโคฟเวอร์กันเยอะเลยทีเดียว
"โห ยากนะครับคุณแม่ เสียงสูงด้วย"
"ร้องมาเถอะลูก เผื่อออกมาดีแม่จะได้ส่งไปประกวดมั่ง"
"ไม่เอาหรอกครับ แค่นี้ผมก็จะตายแล้ว"
"อย่าพูดอย่างนั้น แม่ดีใจนะที่ลูกตั้งใจร้องเพลงอย่างนี้"
"ฮู่ว์…จะร้องแล้วนะครับ"
ลูกชายแก้มป่องพ่นลมหายใจ ก่อนจะหลับตาลง นึกถึงเนื้อเพลงหวานซึ้งนั่น เสียงหวานลอยคลอผสมกับโน๊ตตัวแล้วตัวเล่าที่ออกมาจากเปียโนหลังนั้น
คุณแม่ฟังยังไม่ถึงท่อนฮุคก็ถึงกับน้ำตาคลอ
"พอแล้วจ่ะ พอๆๆ อาเปามาหาแม่สิลูก"
"ลูกร้องเพลงเพราะมาตั้งนานแล้วทำไมไม่บอกแม่" คุณแม่พูดทั้งๆที่น้ำตาไหลออกมาเป็นสายยาวๆ
"ผมร้องเพราะขนาดนั้นเลยหรอครับ อย่าร้องไห้สิครับคุณแม่" แสงวิบๆในดวงตาประกายของลูกชาย ทำให้ผู้เป็นแม่ยิ้มไม่ยอมหยุด ลูกชายนั่งลงปาดน้ำตาแม่อย่างช้าๆ
"อาเปา เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่จะพาไปsmนะลูก"
"คุณแม่อย่าล้อเล่นสิครับ" ลูกชายก็จะร้องตาม
"สำเร็จแล้วนะครับท่านประธาน ฝึกแค่ไม่กี่วันเอง ผมไม่เคยเห็นใครมีพรสวรรค์มากขนาดนี้มาก่อน ท่านประธานเจ๋งมากเลยครับ"
"จริงหรอ เขินจัง ฮ่าๆๆๆๆ" ประธานประธานบริษัทหัวเราะปากกว้าง มือไม้ไม่อยู่กับที่เลยทีเดียว (เฮ้ย! บ้าไปแล้ว)
"อาเปา นี่ก็เย็นมากแล้วนะ กลับบ้านไปทานข้าวกันเถอะลูก คยูฮยอนก็ด้วยนะ ไปทานข้าวด้วยกัน" จริงสิ นี่หกโมงกว่าแล้ว ร้องเพลงมาทั้งวันยังไม่ได้กินอะไรเลย
"คุณแม่กลับไปก่อนเถอะครับเดี๋ยวผมกับคยูฮยอนต้องเคลียร์งานต่ออีกหน่อยนึง"
"ขอบคุณคุณหญิงมากนะครับที่ให้เกียรติผม"
"ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ นิดๆหน่อยๆน่ะ ไปทำงานให้เสร็จได้แล้วนะ เดี๋ยวจะค่ำ กลับบ้านลำบาก" ความปรารถนาดีเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย น้องฮยอนซึ้งใจมากเลยฮับ ฮึกๆ (ตื้นตันในใจ)
"ท่านประธานจะเอายังไงต่อไปครับ"
"พรุ่งนี้เลยแล้วกัน ไม่ต้องบอกพี่ชายคุณนะว่าผมจะมา"
"ครับ ท่านประธาน"
ผมยังไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่าผมทำไปได้ยังไง หรือเป็นเพราะรยออุค
บ้าน่ะ! เขาแค่อยากฟัง ผมก็เลยฝึกร้องเท่านั้นเอง อย่าโกหกตัวเองสิ ตอนร้องเพลงอยู่ นึกถึงแต่เจ้ากระรอกน้อยรยออุคไม่ใช่หรอ! …ก็จริง ผมนึกถึงเค้า ตลอดเวลาเลย
ผ้าห่มที่เป็นก้อนกลมขยับเขยื้อนเมื่อคนที่นอนคุดคู้อยู่โผล่หน้าออกมา ร่างบางนั่งบิดขี้เกียจ แล้วบรรจงพับผ้าห่ม ปูเตียงให้ตึง มือบางคว้าผ้าขนหนูสีชมพูพันท่อนล่างเดินเข้าห้องน้ำไป !!
เจ้ากระรอกน้อยอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะเมื่อวานได้คุยกับเยซอง!^^
ตั้งแต่ครั้งนั้นก็ไม่ได้คุยอีกเลย โทรไปหลายรอบสายไม่เคยจะว่าง มีครั้งนี้แหละได้คุยซักที บทสนทนาก็มีอยู่ว่า
"ฮัลโหล เยซองพูดครับ"
"ฮัลโหลครับ นี่รยออุคเองนะครับ"
"อย่างงั้นหรอ แล้วโทรมามีไรรึป่าวครับ"
"ผมอยากฟังพี่เยซองร้องเพลงครับ คยูบอกว่าพี่เยซองร้องเพลงเพราะมาก"
"ได้สิ เรื่องร้องเพลงถนัดอยู่แล้ว" ปลายสายพูดได้ไม่อายปาก เอ้ย! ไม่ใช่ เขามั่นใจว่าเขาจะร้องเพลงให้เพราะได้
"ดีจังเลยครับ ที่จริงจะบอกตั้งนานแล้ว แต่สายไม่ว่างตลอดเลย"
"555 ถึงได้ว่ามีเมสเสจว่าเบอร์นี้โทรเข้า บ่อยๆ ขอโทษนะครับ ช่วงนี้ธุรกิจรัดตัวน่ะ" โทรมาบ่อย แอบดีใจนะเนี่ย
"สาวเยอะก็บอกมาเหอะ คิๆ"
"บ้า สาวเสิวอะไรไม่มี" มีแต่คนที่คุยด้วยน่ะ …ฮิ้วววววว~
"งั้นวันนี้ถ้าพี่ว่างก็มาที่ร้านผมหน่อยนะครับ กี่โมงก็ได้"
"โอเค สิบโมงเจอกันนะครับ"
"ครับๆ บาย~ ^^" อึ๊ย~จะได้ฟังพี่เยซองร้องเพลงแล้ว ไม่ได้เจอมาจะเป็นเดือนอยู่แล้ว ว่าแต่…
ทำไมเราถึงต้องอยากเจอพี่เยซองขนาดนี้ด้วยเนี่ย ปกติคนที่เพิ่งเจอกันไม่ได้สนิทอะไร ป่านนี้ก็คงจะลืมแล้วล่ะ …รยออุคคิดถึงพี่เยซองนะ
ร้านกาแฟเล็กๆเพิ่งเปิดยามสาย เจ้าของร้านตัวเล็กปัดกวาดเช็ดถูทุกซอกทุกมุมภายในร้าน ถึงแม้จะไม่มีฝุ่นก็ตาม
มู่ลี่ลูกปัดหน้าร้านถูกมือหนาแหวกออก เสียดสีกันจนเกิดเสียง เจ้าของร้านจึงละสายตาจากถ้วยกาแฟที่เขาทำลาเต้อาร์ทอยู่
"อ้าวคยู พี่เยซอง มาเร็วจัง "
"วันนี้ประชุมเลิกเร็วน่ะ พอเลิกปุ๊บก็มาเลย"
"แล้วคยูมากับพี่เยซองได้ไงอะ"
"อ๋อ~ มาเป็นเพื่อน" รยออุคเห็นหน้าน้องชายที่แสนกวน...ก็ไม่อยากจะถามต่อ
"แล้วจะร้องเพลงให้ผมฟังตอนไหนครับ" รยออุคแสดงจุดมุ่งหมายที่แน่นอน ว่าอยากฟังเพลงที่เยซองร้องมากกกก คนถูกถามหน้าซีด แต่ก็ทำใจดีสู้กระรอก!
"แล้วจะให้พี่ร้องเพลงอะไรล่ะครับ"
"เอ่อ… อืม… นึกออกแล้ว! เพลงone ของ shinee พอร้องได้มั้ยครับ"
“ได้อยู่แล้ว แต่ไม่เอาท่อนแร็พนะ”
คนตัวเล็กกับคยูฮยอนนั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้าเยซอง คนฟังทั้งสองนั่งตัวตรง หน้าตั้ง เตรียมตัวฟังเต็มที่
ตาชั้นเดียวหลับพริ้ม อกกว้างขยายขึ้นเนื่องจากสูดลมหายใจเข้าไปจนเต็ม แล้วทอดเสียงหวานออกมา
ดวงตาคมสบตาคนตัวเล็กเมื่อจบเพลง รยออุคนั่งตาโต แก้มป่อง มองตาไม่กระพริบ บอกได้คำเดียวว่าน่ารัก^^ มือหนาสัมผัสแก้มใสอย่างอดไม่ได้ ร่างบางเขินจัด จึงเอื้อมไปตีแขนคนฉวยโอกาสเบาๆ
น้องชายที่นั่งอยู่ข้างๆ รุ้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกิน จึงค่อยๆลุกออกไปหลังร้าน แอบสังเกตพฤติกรรมของพี่ชายและเจ้านายของตน ขอ3คำสำหรับเยซองรยออุค... ชอบ กัน ชัวร์ !!!!!
“เพลงจบแล้ว....ทำไมไม่มานั่งซักทีล่ะ” คนตัวเล็กถามกลบเกลื่อนความเขิน กลบไม่มิดหรอก หน้าแดงแป๊ดเลย
“ร้องเพลงด้วยกันมั้ยครับ ” พูดจบร่างสูง ส่งยิ้มเบาๆให้คนตัวเล็ก รยออุคเห็นซาลาเปายิ้มแป้น ก็ทำอะไรไม่ถูกเลย
“ก็ ก็ได้ครับ พี่เยซองจะให้ร้องเพลงอะไร”
“เพลง... เพลงPerhaps love ละกัน”
“นี่มันเพลงคู่นี้นา ผมไม่ถนัดซักเท่าไหร่น่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ถือว่าร้องสนุกๆ ไม่ต้องซีเรียสหรอกน่า”
“งั้นผมร้องท่อนผู้หญิง พี่เยซองร้องท่อนผู้ชาย”
“อื้ม จัดไป”
“ได้ครับ ”
“ออนเจ ยอซตอน กอนจี, คิ ออกนาจิน อานา ชากุ เน มอรีกา นอโร ออ จี ลอบตอน จีจาก....”
มาท่อนแรกคนตัวใหญ่ก็เหวอแล้ว เสียงใสไร้ที่ติ เกิดมาเพิ่งเคยได้ยิน
“ซาลางอินกาโย, คือแด นาวา กาทดามยอน ซิจากอินกาโย”
เพลงแล้วเพลงเล่า ซาลาเปากับเจ้ากระรอกก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดร้องเพลง ไม่ว่าจะเป็นแนวอินเลิฟ ใสๆ หรือว่าเศร้า ซึ้ง ก็ฟังดูไพเราะเหลือเกิน ร้องไปก็ชมกันไป แหม น่าจับเดบิวต์ทำอัลบั้มคู่กันจริงๆเลยนะ
“พี่เยซองมาร้องเพลงด้วยกันบ่อยๆนะ เวลาที่ได้ร้องเพลงมันมีความสุขมากเลยครับ” รยออุคพุดอย่างร่าเริง ในขณะที่คนที่ร้องด้วยกันเมื่อกี้ทำท่าเหมือนคนไร้วิณญาณ
“อืม ได้สิ ว่างเมื่อไหร่พี่ก็จะมา” คนที่ใกล้ตายเมื่อกี้ได้นั่งพักก็เริ่มฟื้นคืนชีพ รยออุคส่งน้ำเย็นชื่นใจมาให้ เขาจึงดื่มไปอึกใหญ่ๆ
"ซัมเมอร์นี้เราไปเที่ยวกันมั้ย" อยู่ๆ ก็ชวนไปเที่ยว รยออุคเอียงคอด้วยความสงสัย
"ไปเที่ยว?"
"ใช่ๆ พี่กับคุณแม่ คุณนายคิม แล้วก็คยูฮยอนจะไปโรมอาทิตย์หน้า ไปด้วยกันมั้ยครับ"
“จะดีหรอพี่เยซอง ” มีแต่คนในครอบครัวทั้งนั้น ว่าแต่คุณนายคิมนี่มันคุ้นๆนะ แล้วคยูฮยอนไปเกี่ยวอะไร... หรือว่า!!!!
(เย่แอบโหด==")
6
อาคารสูงราวๆ100กว่าชั้น หนึ่งในบริษัทของคิมกรุ๊ป ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางกรุงโซล และแน่นอนว่าด้านหลังเป็นพื้นที่หลายร้อยเอเคอร์ของโรงงานผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี
เยซองกำลังก้าวลงจากรถยนต์คันหรู และผ่านประตูบริษัทอย่างรวดเร็ว เพราะเลขาของเขารายงานมาว่าจะมีประชุมในอีก15นาที
วันนี้เขาอยู่ในมาดประธานบริษัทสภาพตอนนี้คือเส้นผมสีดำที่หวีจนเรียบ แสกปัดไปทางซ้ายอย่างเป็นระเบียบ ใบหน้ากลมใสสะอาดปราศจากการเติมแต่ มีเพียงลิปมอยซ์เจอไรเซอร์ไร้สีที่เคลือบริมฝีปากเท่านั้น
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ค่อนข้างกดดันสำหรับเยซอง เพราะต้องพิจารณาอนุมัติโปรเจคต่างๆและเตรียมผลิตรถยนต์นวัตรกรรมใหม่(อ่านแล้วปวดหัวว่ะ) ไม่เพียงเท่านั้นเขายังต้องฝึกร้องเพลงอีก
เอาแล้วไงๆ…คยูฮยอนไม่น่าพูดอย่างนั้นเล๊ยยยยย เรื่องร้องเพลง ยังไงก็ต้องร้องให้ได้
และคนที่จะมาร่วมชะตากรรมกับเขาก็คือ…
"คยูฮยอน คุณช่วยเป็นเทรนเนอร์ให้ผมหน่อยสิ" คนที่ถูกเรียกมาขมวดคิ้วเมื่อได้ฟังคำพูดของท่านประธาน
"ห้ะ?…เทรนเนอร์เรื่อง?"
"เรื่องร้องเพลงไง ในเมื่อคุณพูดแล้วก็ต้องรับผิดชอบ มาสอนผมร้องเพลง"
"เอ่อ…ผมขอโทษที่ผมพูดไปอย่างนั้น แต่ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่างน่ะครับ" น้ำเย็นๆเริ่มผุดเป็นเม็ดที่หน้าผาก แววตาเริ่มไม่นิ่ง คยูฮยอนใกล้ถึงจุดหายนะของชีวิต
"คุณต้องไปทำธุระอะไรเดี๋ยวผมให้ลูกน้องจัดการแทนก็ได้ ถ้าไม่ลำบากอะไร "
"งั้นผมขอเวลาเตรียมตัวซักเดือนนึงได้มั้ยครับ"
"นานไป ผมให้เวลา3วันพอ มันเป็นเรื่องสำคัญเข้าใจมั้ย"
"แต่ท่านประธา…"
"ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ถ้ากล้าขัดคำสั่ง เดี๋ยวผมจะขายหุ้นส่วนของคุณให้คนอื่น"
"ก็ได้ครับ 3วันก็3วัน"
ไอ้แค่สอนร้องเพลงน่ะสอนได้ แต่สอนท่านประธานบังเกิดเกล้าที่ร้องเพลงผิดคีย์ ผิดจังหวะ เผลอๆอาจจะร้องผิดท่อนด้วยซ้ำ เฮ้อ! เอาไงดี มีเวลาเตรียมใจแค่แป๊บเดียวเอง
"งั้นตกลงตามนี้"
เมื่อเสร็จธุระเยซองทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่หนานุ่ม แล้วหมุนไปหมุนมาอย่างไม่ตั้งใจ จ้องมองท้องฟ้าแล้วปล่อยความคิดให้ล่องลอยไป
เขาสัญญากับตัวเองว่า ถ้าฝึกร้องเพลงไม่สำเร็จ เขาจะไม่ไปหารยออุค เขาตั้งใจจะร้องเพลง(แบบเพราะๆ)ให้รยออุคฟัง เป็นการตอบแทนอาหารสุดพิเศษในวันนั้น
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รยออุคนั่งเท้าคาง และกระดิกนิ้วอย่างเบื่อหน่ายบนเค้าท์เตอรร้านกาแฟที่ขัดจนมันเงา …
พี่เยซองหายไปเลยอ่า โทรไปก็ไม่ว่างทุกที บอกว่า ช่วงนี้งานยุ่ง ไม่ค่อยมีเวลา เฮ้อ แล้วเมื่อไหร่จะได้เจอเนี่ย
พูดถึงคยูฮยอน ช่วงนี้ก็ทำท่าทางแปลกๆ เหมือนตื่นกลัว วิตกกังวลอะไรบางอย่าง แต่พอถามก็บอกไม่มีอะไร ไม่ต้องเป็นห่วง
ยิ่งถามถึงพี่เยซองก็ไม่ได้ความทุกที ตกลงมันเป็นอะไร…
"นี่คยู แกทำหน้าเหมือนมีใครไล่แกไปตาย เกิดอะไรขึ้นวะ"
"ไม่มีอะไรหรอก ผมแค่เครียดเรื่องงานเท่านั้นเอง"
"ให้มันแน่นะ แกคงไม่มีอะไรปิดบังพี่อยู่หรอกนะ"
"ไม่มีๆ ไม่มีหรอก555 " หัวเราะกลบเกลื่อนแบบไม่มีความเนียนเลย
รยออุคก็ไม่อยากจะถามต่อ เสียอารมณ์ คยูฮยอน์รีบยัดแซนด์วิชที่พี่ชายเตรียมไว้ให้แล้วรีบลุกออกไป
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ห้องส่วนตัวที่มีไว้ให้ท่านประธานใช้แต่เพียงผู้เดียวถูกเปิดขึ้น มือหนาผลักประตูให้แสงพอส่องเข้าไปข้างใน แล้วเปิดไฟทุกดวง
พรึบ!
พระเจ้า…นี่มันโรงละครโอเปร่าของเกาหลีหรือนี่ บริษัทเรามีแบบนี้่ด้วยหรอ อลังการงานสร้างสุดๆ
คนที่ตามมาถึงกับเบิกตากว้าง ปากเผยอกว้างด้วยความตะลึง ดนตรีแนวคลาสสิคลอยเข้ามาในความคิด แต่ท่านประธานกลับพูดด้วยอารมณ์ตรงกันข้าม
“ห้องนี้แม่ผมสร้างให้ตั้งนานแล้ว ผมเคยเข้ามาแค่ครั้งเดียว เพราะไม่รู้จะทำอะไร“
"แต่ห้องนี้ดูดีมากเลยนะครับท่าน ยังกับโรงละครแน่ะ"
"หรอ ผมว่าก็งั้นๆแหละ วันนี้คุณจะสอนอะไร"
"ห้องนี้เก็บเสียงใช่มั้ยครับ" คยูฮยอนถามเพื่อความแน่ใจ …เดี๋ยวบริษัทจะทรุด!
"ก็ใช่น่ะสิครับ ผมถึงได้มาห้องนี้ไง "
"อืม…ก่อนอื่นผมว่า เสียงท่านประธานเป็นเสียงที่หาได้ยากนะครับ"
"ยังไง"
"เสียงพูดฟังดูอบอุ่นและมีพลัง เพราะฉะนั้นต้องฝึกร้องเพลงที่ใช้พลัง"
"เฮ้ย! แค่เพลงธรรมดาผมยังไปไม่รอดเลย ล้อเล่นป่ะเนี่ย"
"ไม่ล้อเล่นครับ ท่านประธานลองร้องด้วยอารมณ์ แล้วก็ควบคุมจังหวะของเสียงดูสิครับ"
"เอ่อ…ฟังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ผมจะลองดูก็ได้" คยูฮยอนหยิบกระดาษเนื้อเพลงไปให้ท่านประธาน มันคือเพลงIt has to be you ที่ประกอบซีรีส์เรื่องCinderella sister ดาราในดวงใจ มุน กึนยอง แสดง แน่นอนว่าเยซองจำเพลงนี้ได้ดี
“เอ่อ...ผมว่า เนื้อหามันเศร้าน่ะ ผมใส่อารมณ์ไม่ถูกเลย”
“ท่านประธานลองนึกดูนะครับ นึกถึงคนที่ท่านขาดไม่ได้ คือ...ไม่อยากจะสูญเสียเค้าไป”
“อื้ม” ดวงตาชั้นเดียวปิดลง แล้วลองนึกตามที่คยูฮยอนพูด นึกเท่าไหร่ก็มีแต่หน้าเจ้าเด็กร้านกาแฟไม่เข้าใจเลยจริงๆ แต่ก็เอาเถอะ ดีกว่านึกแล้วไม่เห็นใครเลย
"ไปช้าๆะครับ เริ่มท่อนแรกเลย"
ร่างสูงขยับไปนั่งบนเก้าอี้ที่หน้าเปียโน นิ้วเรียวพรมลงบนเครื่องดนตรีอย่างพริ้วไหว เสียงบรรเลงอ่อนหวานค่อยๆกระจายไปทั่วห้อง
คนที่มีหน้าที่ร้องก็ร้องอย่างมั่นใจ พอเปล่งเสียงออกมาคำแรกเท่านั้นแหละ…
"โอ๊ นึล โด ~"
"หยุดๆๆ พอๆ ท่านประธาน" เอิ่ม...เทรนเนอร์อุดหูตัวเองแทบไม่ทัน
"มีอะไร" ถามหน้าตาเฉยมาก
"แค่คำแรกก็เพี้ยนแล้วครับ แล้วก็ต้องร้องเบาๆก่อนค่อยไปดังสิครับ"
"ร้องเบาๆแล้วจะมีพลังอะไรล่ะ"
"ต้องตามอารมณ์เพลงสิครับ มากระแทกเสียงตอนแรกแล้วใครจะอยากฟังล่ะครับ"
"งั้นเอาใหม่ ผมจะลองคิดไปตามเนื้อเพลงแล้วกัน"
"อย่างนั้นแหละท่านประธาน แล้วก็ร้องเบาๆ ลากเสียงยาวๆไปตามเนื้อเพลงด้วยนะครับ"
โอ้ เสียงท่านประธานสุดยอดจริงๆ มีพรสวรรค์มากจริงๆ คนเล่นเปียโน อึ้งกับสิ่งที่เขาได้ยิน
ตอนแรกเขาคิดว่าคงยากมากที่จะต้องสอนเยซองร้องเพลงให้เพราะ แต่ที่จริง เยซองมีน้ำเสียงที่เพราะมาก เพียงแต่ว่าเขาจับจังหวะและอารมณ์เพลงไม่ถูกเท่านั้นเอง
"ท่านประธานๆ ใกล้ๆท่อนฮุคเสียงดังกว่านี้สิครับ แล้วก็อย่าผิดคีย์ด้วย"
"แสดงว่าผมก็ผ่านมาได้ท่อนนึงแล้วสินะ ว่าแต่…มันผิดตรงไหนคุณช่วยบอกผมหน่อย"
"คำนี้ต้องเสียงสูงกว่านี้ แต่ท่านเสียงสูงไม่ถึง เดี๋ยวผมร้องให้ฟังก่อนแล้วท่านร้องตามนะ"
"เหรอ ได้ๆ เริ่มเลย"
การฝึกร้องเพลงเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะท่านประธานเสียงดี คิๆ
“เอาล่ะ ถึงท่อนที่ต้องใช้พลัง ท่านประธานเก็บลมไว้ในช่องท้องให้มากที่สุด แล้วปล่อยออกมาสุดๆไปเลย แต่ต้องไม่เพี้ยนนะครับ”
“เอาเลย เรื่องควบคุมเสียงก็พอทำได้แล้ว”
ผ่านไปหลายชั่วโมงเสียงเปียโนและเสียงร้องก็ยังก้องอยู่ในโรงละครโอเปร่าของเกาหลี
เพลงแล้วเพลงเล่า เยซองก็ร้องได้ดีขึ้นๆ คยูฮยอนไม่รู้สึกเป็นทุกข์เมื่อได้เป็นเทรนเนอร์ของเยซองอีกต่อไป
แปะ แปะ แปะ แปะ ...
ทุกเสียงหยุดลง เสียงปรบมือดังมาจากข้างนอก! ท่านประธานและลูกน้องอีกคนหันขวับไปตามเสียงนั้น…
ใครกัน ใครรู้จักที่นี่นอกจากผมกับแม่ พอหันไปก็พบ…
"เก่งมากลูก อาเปาของแม่ แม่ไม่คิดไม่ฝันเลยนะว่าลูกจะร้องเพลงได้ดีขนาดนี้" โอ้ ชื่นชมราวกับว่าได้ยินเป็นครั้งแรก(ก็จริง)
คุณแม่ยังสาวฉีกยิ้มจนตาเป็นเส้นตรงไม่ต่างจากลูกชาย สองแม่ลูกกอดกันกลมเชียว
"ไม่หรอกครับแม่ ผมยังร้องเพี้ยนอยู่เลย 555" คำพูดแก้เขินที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงเอาซะเลย
"ไหนลองร้องเพลงนี้ให้แม่ฟังหน่อยสิลูก I have a lover ของ ลีอึนมี"
กิตติศัพท์ของนักร้องรุ่นแม่คนนี้ไม่เบาเลยทีเดียวทั้งความสามรถเรื่องเสียงและการแสดงบนเวที และเพลงนี้ นักร้องรุ่นใหม่ๆเอามาโคฟเวอร์กันเยอะเลยทีเดียว
"โห ยากนะครับคุณแม่ เสียงสูงด้วย"
"ร้องมาเถอะลูก เผื่อออกมาดีแม่จะได้ส่งไปประกวดมั่ง"
"ไม่เอาหรอกครับ แค่นี้ผมก็จะตายแล้ว"
ภาพที่คยูฮยอนได้เห็น ท่านประธานผู้สุขุมลุ่มลึก น่าเกรงขามกลายเป็นเด็กง๊องแง๊งงอแงกับแม่
"อย่าพูดอย่างนั้น แม่ดีใจนะที่ลูกตั้งใจร้องเพลงอย่างนี้"
"ฮู่ว์…จะร้องแล้วนะครับ"
ลูกชายแก้มป่องพ่นลมหายใจ ก่อนจะหลับตาลง นึกถึงเนื้อเพลงหวานซึ้งนั่น เสียงหวานลอยคลอผสมกับโน๊ตตัวแล้วตัวเล่าที่ออกมาจากเปียโนหลังนั้น
คุณแม่ฟังยังไม่ถึงท่อนฮุคก็ถึงกับน้ำตาคลอ
"พอแล้วจ่ะ พอๆๆ อาเปามาหาแม่สิลูก"
"ลูกร้องเพลงเพราะมาตั้งนานแล้วทำไมไม่บอกแม่" คุณแม่พูดทั้งๆที่น้ำตาไหลออกมาเป็นสายยาวๆ
"ผมร้องเพราะขนาดนั้นเลยหรอครับ อย่าร้องไห้สิครับคุณแม่" แสงวิบๆในดวงตาประกายของลูกชาย ทำให้ผู้เป็นแม่ยิ้มไม่ยอมหยุด ลูกชายนั่งลงปาดน้ำตาแม่อย่างช้าๆ
"อาเปา เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่จะพาไปsmนะลูก"
"คุณแม่อย่าล้อเล่นสิครับ" ลูกชายก็จะร้องตาม
"สำเร็จแล้วนะครับท่านประธาน ฝึกแค่ไม่กี่วันเอง ผมไม่เคยเห็นใครมีพรสวรรค์มากขนาดนี้มาก่อน ท่านประธานเจ๋งมากเลยครับ"
"จริงหรอ เขินจัง ฮ่าๆๆๆๆ" ประธานประธานบริษัทหัวเราะปากกว้าง มือไม้ไม่อยู่กับที่เลยทีเดียว (เฮ้ย! บ้าไปแล้ว)
คุณแม่และลูกน้องหัวเราะคิกคัก ก็ไม่เคยเห็นเยซองทำท่าทางแบบนี้ีนี่
"อาเปา นี่ก็เย็นมากแล้วนะ กลับบ้านไปทานข้าวกันเถอะลูก คยูฮยอนก็ด้วยนะ ไปทานข้าวด้วยกัน" จริงสิ นี่หกโมงกว่าแล้ว ร้องเพลงมาทั้งวันยังไม่ได้กินอะไรเลย
"คุณแม่กลับไปก่อนเถอะครับเดี๋ยวผมกับคยูฮยอนต้องเคลียร์งานต่ออีกหน่อยนึง"
"ขอบคุณคุณหญิงมากนะครับที่ให้เกียรติผม"
"ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ นิดๆหน่อยๆน่ะ ไปทำงานให้เสร็จได้แล้วนะ เดี๋ยวจะค่ำ กลับบ้านลำบาก" ความปรารถนาดีเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย น้องฮยอนซึ้งใจมากเลยฮับ ฮึกๆ (ตื้นตันในใจ)
ชายร่างสูงทั้งสองส่งคุณหญิงที่รถเสร็จ ก็พูดเรื่องของตนเองต่อ
"ท่านประธานจะเอายังไงต่อไปครับ"
"พรุ่งนี้เลยแล้วกัน ไม่ต้องบอกพี่ชายคุณนะว่าผมจะมา"
"ครับ ท่านประธาน"
ผมยังไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่าผมทำไปได้ยังไง หรือเป็นเพราะรยออุค
บ้าน่ะ! เขาแค่อยากฟัง ผมก็เลยฝึกร้องเท่านั้นเอง อย่าโกหกตัวเองสิ ตอนร้องเพลงอยู่ นึกถึงแต่เจ้ากระรอกน้อยรยออุคไม่ใช่หรอ! …ก็จริง ผมนึกถึงเค้า ตลอดเวลาเลย
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผ้าห่มที่เป็นก้อนกลมขยับเขยื้อนเมื่อคนที่นอนคุดคู้อยู่โผล่หน้าออกมา ร่างบางนั่งบิดขี้เกียจ แล้วบรรจงพับผ้าห่ม ปูเตียงให้ตึง มือบางคว้าผ้าขนหนูสีชมพูพันท่อนล่างเดินเข้าห้องน้ำไป !!
เจ้ากระรอกน้อยอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะเมื่อวานได้คุยกับเยซอง!^^
ตั้งแต่ครั้งนั้นก็ไม่ได้คุยอีกเลย โทรไปหลายรอบสายไม่เคยจะว่าง มีครั้งนี้แหละได้คุยซักที บทสนทนาก็มีอยู่ว่า
"ฮัลโหล เยซองพูดครับ"
"ฮัลโหลครับ นี่รยออุคเองนะครับ"
"อย่างงั้นหรอ แล้วโทรมามีไรรึป่าวครับ"
"ผมอยากฟังพี่เยซองร้องเพลงครับ คยูบอกว่าพี่เยซองร้องเพลงเพราะมาก"
"ได้สิ เรื่องร้องเพลงถนัดอยู่แล้ว" ปลายสายพูดได้ไม่อายปาก เอ้ย! ไม่ใช่ เขามั่นใจว่าเขาจะร้องเพลงให้เพราะได้
"ดีจังเลยครับ ที่จริงจะบอกตั้งนานแล้ว แต่สายไม่ว่างตลอดเลย"
"555 ถึงได้ว่ามีเมสเสจว่าเบอร์นี้โทรเข้า บ่อยๆ ขอโทษนะครับ ช่วงนี้ธุรกิจรัดตัวน่ะ" โทรมาบ่อย แอบดีใจนะเนี่ย
"สาวเยอะก็บอกมาเหอะ คิๆ"
"บ้า สาวเสิวอะไรไม่มี" มีแต่คนที่คุยด้วยน่ะ …ฮิ้วววววว~
"งั้นวันนี้ถ้าพี่ว่างก็มาที่ร้านผมหน่อยนะครับ กี่โมงก็ได้"
"โอเค สิบโมงเจอกันนะครับ"
"ครับๆ บาย~ ^^" อึ๊ย~จะได้ฟังพี่เยซองร้องเพลงแล้ว ไม่ได้เจอมาจะเป็นเดือนอยู่แล้ว ว่าแต่…
ทำไมเราถึงต้องอยากเจอพี่เยซองขนาดนี้ด้วยเนี่ย ปกติคนที่เพิ่งเจอกันไม่ได้สนิทอะไร ป่านนี้ก็คงจะลืมแล้วล่ะ …รยออุคคิดถึงพี่เยซองนะ
ร้านกาแฟเล็กๆเพิ่งเปิดยามสาย เจ้าของร้านตัวเล็กปัดกวาดเช็ดถูทุกซอกทุกมุมภายในร้าน ถึงแม้จะไม่มีฝุ่นก็ตาม
ตากลมเหลือบมองนาฬิกาติดผนังร้านเป็นระยะๆ …เมื่อไหร่จะสิบโมงนะ~
มู่ลี่ลูกปัดหน้าร้านถูกมือหนาแหวกออก เสียดสีกันจนเกิดเสียง เจ้าของร้านจึงละสายตาจากถ้วยกาแฟที่เขาทำลาเต้อาร์ทอยู่
"อ้าวคยู พี่เยซอง มาเร็วจัง "
"วันนี้ประชุมเลิกเร็วน่ะ พอเลิกปุ๊บก็มาเลย"
"แล้วคยูมากับพี่เยซองได้ไงอะ"
"อ๋อ~ มาเป็นเพื่อน" รยออุคเห็นหน้าน้องชายที่แสนกวน...ก็ไม่อยากจะถามต่อ
"แล้วจะร้องเพลงให้ผมฟังตอนไหนครับ" รยออุคแสดงจุดมุ่งหมายที่แน่นอน ว่าอยากฟังเพลงที่เยซองร้องมากกกก คนถูกถามหน้าซีด แต่ก็ทำใจดีสู้กระรอก!
"แล้วจะให้พี่ร้องเพลงอะไรล่ะครับ"
"เอ่อ… อืม… นึกออกแล้ว! เพลงone ของ shinee พอร้องได้มั้ยครับ"
“ได้อยู่แล้ว แต่ไม่เอาท่อนแร็พนะ”
คนตัวเล็กกับคยูฮยอนนั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้าเยซอง คนฟังทั้งสองนั่งตัวตรง หน้าตั้ง เตรียมตัวฟังเต็มที่
คนร้องยังหวั่นใจถ้าเขาร้องออกมาไม่ดีล่ะ...แต่เขาต้องมั่นใจเพราะเขาฝึกซ้อมมาอย่างดี ไม่ว่าเพลงไหนก็ต้องร้องได้
ตาชั้นเดียวหลับพริ้ม อกกว้างขยายขึ้นเนื่องจากสูดลมหายใจเข้าไปจนเต็ม แล้วทอดเสียงหวานออกมา
เนื้อร้องทุกคำร้องด้วยความรู้สึกที่แท้จริง ท่อนที่โชว์พลังเสียงก็ทำให้คนฟังขนลุกได้ไม่ยาก
ดวงตาคมสบตาคนตัวเล็กเมื่อจบเพลง รยออุคนั่งตาโต แก้มป่อง มองตาไม่กระพริบ บอกได้คำเดียวว่าน่ารัก^^ มือหนาสัมผัสแก้มใสอย่างอดไม่ได้ ร่างบางเขินจัด จึงเอื้อมไปตีแขนคนฉวยโอกาสเบาๆ
น้องชายที่นั่งอยู่ข้างๆ รุ้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกิน จึงค่อยๆลุกออกไปหลังร้าน แอบสังเกตพฤติกรรมของพี่ชายและเจ้านายของตน ขอ3คำสำหรับเยซองรยออุค... ชอบ กัน ชัวร์ !!!!!
“เพลงจบแล้ว....ทำไมไม่มานั่งซักทีล่ะ” คนตัวเล็กถามกลบเกลื่อนความเขิน กลบไม่มิดหรอก หน้าแดงแป๊ดเลย
“ร้องเพลงด้วยกันมั้ยครับ ” พูดจบร่างสูง ส่งยิ้มเบาๆให้คนตัวเล็ก รยออุคเห็นซาลาเปายิ้มแป้น ก็ทำอะไรไม่ถูกเลย
“ก็ ก็ได้ครับ พี่เยซองจะให้ร้องเพลงอะไร”
“เพลง... เพลงPerhaps love ละกัน”
“นี่มันเพลงคู่นี้นา ผมไม่ถนัดซักเท่าไหร่น่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ถือว่าร้องสนุกๆ ไม่ต้องซีเรียสหรอกน่า”
“งั้นผมร้องท่อนผู้หญิง พี่เยซองร้องท่อนผู้ชาย”
“อื้ม จัดไป”
“ได้ครับ ”
“ออนเจ ยอซตอน กอนจี, คิ ออกนาจิน อานา ชากุ เน มอรีกา นอโร ออ จี ลอบตอน จีจาก....”
มาท่อนแรกคนตัวใหญ่ก็เหวอแล้ว เสียงใสไร้ที่ติ เกิดมาเพิ่งเคยได้ยิน
“ซาลางอินกาโย, คือแด นาวา กาทดามยอน ซิจากอินกาโย”
เพลงแล้วเพลงเล่า ซาลาเปากับเจ้ากระรอกก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดร้องเพลง ไม่ว่าจะเป็นแนวอินเลิฟ ใสๆ หรือว่าเศร้า ซึ้ง ก็ฟังดูไพเราะเหลือเกิน ร้องไปก็ชมกันไป แหม น่าจับเดบิวต์ทำอัลบั้มคู่กันจริงๆเลยนะ
“พี่เยซองมาร้องเพลงด้วยกันบ่อยๆนะ เวลาที่ได้ร้องเพลงมันมีความสุขมากเลยครับ” รยออุคพุดอย่างร่าเริง ในขณะที่คนที่ร้องด้วยกันเมื่อกี้ทำท่าเหมือนคนไร้วิณญาณ
“อืม ได้สิ ว่างเมื่อไหร่พี่ก็จะมา” คนที่ใกล้ตายเมื่อกี้ได้นั่งพักก็เริ่มฟื้นคืนชีพ รยออุคส่งน้ำเย็นชื่นใจมาให้ เขาจึงดื่มไปอึกใหญ่ๆ
"ซัมเมอร์นี้เราไปเที่ยวกันมั้ย" อยู่ๆ ก็ชวนไปเที่ยว รยออุคเอียงคอด้วยความสงสัย
"ไปเที่ยว?"
"ใช่ๆ พี่กับคุณแม่ คุณนายคิม แล้วก็คยูฮยอนจะไปโรมอาทิตย์หน้า ไปด้วยกันมั้ยครับ"
“จะดีหรอพี่เยซอง ” มีแต่คนในครอบครัวทั้งนั้น ว่าแต่คุณนายคิมนี่มันคุ้นๆนะ แล้วคยูฮยอนไปเกี่ยวอะไร... หรือว่า!!!!
------------------------------------------------------------------------------------------------------
พี่เย่นี่มีพรสวรรค์จริงๆฝึกร้องเพลงได้ในเวลาอันสั้น แต่เรื่องเที่ยวรยออุคจะไปหรือไม่ไปนะ รู้จักกันมาไม่นานเอง ...หรือนานแล้วกันแน่!! พี่เย่ทำตัวน่าสงสัยจัง
(บ้าคลั่งฮิบาริอะค่ะ)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น