หนึ่งชีวิตของฉัน - หนึ่งชีวิตของฉัน นิยาย หนึ่งชีวิตของฉัน : Dek-D.com - Writer

    หนึ่งชีวิตของฉัน

    ก็เป็ฯเกี่ยวกับชิวิตชีวิตหนึ่งอ่ะนะ ในอีกมุมมองอะไรประมานเนี๊ย

    ผู้เข้าชมรวม

    1,640

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    1.64K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  จิตวิทยา
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 ส.ค. 46 / 19:19 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      หนึ่งชีวิตของฉัน

                  “เร็ว เร็วเข้ามันตามทันแล้วเร่งฝีเท้าขึ้นอีก”  สมองของฉันสั่งการอย่างนั้น  สิ่งที่ไล่ล่าฉัน  มันส่งเสียงร้องดังบาดหู    อีกนิดเดียวตัวฉันจะถึงที่หลบซ่อนแล้วอีกนิดเดียว     สวบ ! ถึงแล้ว มันไปแล้วมันบินผ่านไปแล้ว  ฉันนั่งพัก หายใจหอบอย่างแรงเพราะความเหนื่อย             “ รอดแล้ว เราทำได้ เราทำได้” ฉันบอกกับตนเอง  
                    ครอบครัวพ่อแม่ญาติพี่น้องและเพื่อนๆของฉันมักจะประสบพบเจอ เหตุการณ์อย่างเดียวอย่างเดียวกันคือการถูกตามล่า ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงต้องมาเกิดกับผู้ใกล้ชิดและตัวฉันเองด้วย ฉันไม่เคยเข้าใจ และก็ไม่รู้ว่าฉันจะต้องทนทุกข์ทรมานกับชีวิตที่เกิดมาแบบนี้อีกนานแค่ไหน
                  เช้าอันสดใสสำหรับใครหลายๆคนรวมถึงฉันด้วย และเป็นวันที่ต้องออกมาเผชิญกับโลกแห่งความจริงอีกครั้ง ฉันเดินออกมาจากที่หลบภัย เพื่อนๆของฉัน เราทักทายกันตามประสาผู้ที่รู้จักกัน ฉันเริ่มหาอะไรกิน สำหรับวันนี้ก็ไม่มีอะไรมากนักก็มีกินพออิ่ม  ไม่ได้     อดอยากเลยแม้แต่น้อย นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับฉัน     ฉันเริ่มเดินหาอะไรทำไปเรี่อย  ตุบ!  โอ๊ย !  “เดินไม่ดูทางเลยรึไง” ฉันโพล่งออกมาใส่ผู้ที่ชนฉัน “ขอโทษ”เธอเอ่ยเสียงสั่นพร้อมจ้องหน้าฉันเป็นเชิงขอโทษ  ฉันไม่เคยเห็นอะไรที่น่ารักอย่างนี้เลย  แล้วเธอก็เดินจากไป ตลอดวันนั้นฉันคิดถึงแต่เธอ ภาพของเธอติดตา   ฉันไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับฉัน ฉันไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน แต่ที่รู้ๆฉันผลอยหลับไปพร้อมกับความรู้สึกแปลกๆนี้
                  “เฮ้ย ! เฮ้ย !เป็นอะไรไปหยุดกินไปเฉยๆ” เพื่อนของฉันเริ่มถามด้วยความสงสัย ” เอ่อไม่มีอะไรหรอก ”  ฉันโกหกตอบกลับไปทั้งๆที่ความจริงฉันคิดถึงเธอผู้นั้นมาก “พักนี้ได้ข่าวว่ามีอะไรใหม่ๆเกิดขึ้นแถวนี้เหรอ”  ฉันเริ่มเปลี่ยนเรื่องคุย “อืม ใช่มีสัตว์ใหม่มาตามล่าพวกเราอีกแล้ว ตัวมันเป็นสีส้มๆมีสี่ขาหางเป็นพวง“ ฉันฟังถึงตรงนี้ก็ถึงบางอ้อ รู้แล้วว่ามันคือตัวอะไร  และทันใดนั้น มีเสียงบางอย่างเกิดขึ้น สวบ ! เป็นเสียงเหมือนอะไรบางอย่างกำลังแหวกพงหญ้ามา ประสาทหูของฉันรับรู้ได้ทันทีพร้อมทั้งเพื่อนของฉันด้วย   “วิ่ง วิ่งเร็วมัน

      มาแล้ว” พวกของฉันรีบวิ่งเข้าที่หลบซ่อนทันที ฉันเข้ามาได้ทัน แต่มี  ผู้ที่หลบไม่ทันอยู่ด้วย  ฉันหันกลับไป  ภาพที่ฉันเห็นตอนนั้นคือ “เธอ ” เธอผู้นั้นที่เคยชนฉัน ใช่แน่ๆ                  เธอตกเป็นเหยื่อของเจ้าสัตว์สีส้มหางเป็นพวงที่เพื่อนของฉันเพิ่งกล่าวถึงเมื่อครู่ มันตรงเข้าขย้ำที่คออย่างแรงจนเธอหยุดดิ้นหยุดเคลื่อนไหว หลังจากนั้นมันก็คาบร่างที่ไร้วิญญาญของเธอผู้นั้นวิ่งหนีหายไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว  พวกของฉันและตัวฉันต่างเริ่มทยอยกันออกจากที่ซ่อน ฉันรู้ว่าฉันจะไม่มีทางได้พบเธออีก เจ้าสัตว์ที่ล่าพวกฉันและมันต้องกลับมาอีกแน่ๆ

                       วันนี้อากาศร้อนเป็นพิเศษ ไม่มีผู้ใดอยากออกมาจากที่หลบซ่อนนัก  รวมทั้งตัวฉันด้วย  แต่ความต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปของฉันมันได้ฉุดกระชากลากถูเอาร่างกายที่อ่อนเปลี้ยเพลียแรงออกมาจากที่ซ่อนอย่างง่ายดาย  ทุ่งหญ้าวันนี้ดูเงียบเป็นพิเศษไม่มีผู้ใดมาปรากฏตัวให้เห็นเลย (เป็นไปได้ไง)  ที่จริงแล้วฉันก็ไม่ควรที่จะไปยุ่งเรื่องของผู้อื่นมากนัก เพราะตัวเองก็จะเอาไม่รอดอยู่แล้ว กลับดีเสียอีกที่ไม่มีใครมาแย่งอาหารกับที่อยู่อาศัย ฉันออกเดินไปเรื่อย ๆ ฉันเห็นบางสิ่งมันคุ้นตามาก ฉันค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าไป สิ่งนั้นคือเพื่อนของฉันสิบกว่าตัว ทุกๆ ตัวนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่ มันไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อนเลย ถึงเพื่อนของฉันจะมีไม่มากมายนัก(ถ้าเทียบกับทั้งฝูง)  แต่ก็ไม่น่าจะมาพร้อมใจกันจากฉันไปอย่างนี้
                ในทุกๆวันฉันจะต้องทนดู  พวกของฉันล้มตายกันเป็นจำนวนมาก แต่ละตัวจะมีอาการเหมือนกันหมด  ทำให้ฉันรู้ว่าพวกเขาทั้งหลายต่าง  ต้องสังเวยชีวิตให้กับโรคร้ายที่เกิดขึ้นนี้มันเป็นการระบาดครั้งใหญ่ซึ่งสิบปีจะเกิดสักครั้ง   มันเป็นเรื่องที่ธรรมชาติสร้างมาให้เกิดขึ้นกับพวกเรา มันเป็นช่วงที่ดีสำหรับพวกเกษตรกรเพราะไม่ต้องมาคอยตามไล่ล่าพวกเรา  และมันก็จะต้องเป็นอีกครั้งที่ฉันรอดชีวิต                  
               ช่วงเวลาอันโหดร้ายผ่านไป ฉันทำสำเร็จ ฉันรู้โล่งและภูมิใจเหลือเกินที่ฉันได้
      เป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิต บางครั้งฉันเองก็เคยรู้สึกหมดกำลังใจ รู้สึกท้อแท้ ในโชคชะตาและ   ฐานะที่เกิดมา แต่ฉันเชื่อว่าโลกนี้ยังมีผู้ที่โชคร้ายกว่าฉันอยู่ ไม่มากก็น้อย พวกเขาเหล่านั้นยังสามารถดำรงค์ชีวิตอยู่ได้ เช่นเดียวกันตัวฉันเองก็ต้องอยู่รอดได้ ฉันมั่นใจว่าชีวิตของฉันจะต้องดีขึ้น ไม่มีใครในโลกนี้ที่เจอแต่เหตุการณ์ร้ายๆเพียงอย่างเดียว และฉันคิดว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ “ กระต่ายป่า”  อย่างฉันคงช่วยทำให้ ใครต่อใครหลายๆคน ที่รู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจ ลุกขึ้นมาต่อสู้กับชีวิตได้อีกครั้ง

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×