คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 7 ได้โปรด....
SM Production
ภายในห้องทำงานของท่านประธานสาวจองซูยอน หญิงสาวกำลังนั่งอ่านหนังสือที่หลายๆคนร้องเรียนเรื่องที่เธออนุญาติให้ยุนอากับคริสทำงานนี้ ส่วนใหญ่ก็มาจากเหล่าลูกน้องของมิสเตอร์คิมทั้งนั้น เธอรู้สึกเหนื่อยใจจริงๆ แต่ก็เอาเถอะ เธอเชื่อมั่นว่าน้องสาวของเธอจะสามารถทำงานนี้ให้สำเร็จได้
ก่อก ก่อก ก่อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ คงจะเป็นยูริที่เอาหนังสือมารายงานให้อีกน่ะสิ เธอคิดก่อนจะก้มหน้าฟุบลงกับโต๊ะ ถ้าอารองของเธอไม่ลาออกไปเธอก็คงไม่ต้องมานั่งปวดหัวแบบนี้ วันๆแทบจะไม่ต้องแตะเอกสารอย่างอื่นนอกจากต้องมานั่งอ่านรายงานของพนักงานที่ไม่พอใจในตัวเธอ คิดแล้วมันน่าน้อยใจนัก แต่ในเมื่อคุณพ่อของเธอไว้ใจให้เธอขึ้นมาบริหารเธอก็จะต้องทำให้สุดความสามารถ แต่จริงๆแล้วเธอโดนบังคับมากกว่า เธอเพิ่งจะเรียนจบก็ต้องมานั่งบริหารบริษัทใหญ่ขนาดนี้ มันค่อนข้างหนักกับผู้หญิงที่อายุยังไม่ถึงเบญจเพสอย่างเธอที่ต้องมารับหน้าที่ที่จะมาล้อเล่นไม่ได้ เพราะนี่มันหมายถึงหน้าตาของบริษัทและที่สำคัญหน้าตาของคุณพ่อเธอด้วย
“ถ้ามีคนเอาหนังสือมายื่นอีก รบกวนคุณยูริเก็บไว้ก่อนนะคะ ขอฉันอยู่คนเดียวซักพักนึง แล้วฉันจะออกไปเอาเองค่ะ”
เธอพูดอย่างเนือยๆ
“เอ่อ ขอโทษด้วยนะครับท่านประธาน ผมคริสเองครับ”
เสียงของชายหนุ่มทำให้ซูยอนตกใจก่อนจะรีบลุกขึ้นมาจากโต๊ะ โอ๊ยย ให้ตายสิ ขายหน้าชะมัด เธอรีบจัดทรงผมให้เข้าที่ก่อนจะเก็กโหดต่อ
“อ่อ คุณคริส มาแล้วเหรอคะ ฉันคิดว่าคุณจะเข้ามาตอนบ่ายๆซะอีก เชิญนั่งสิคะ”
คริสมองซูยอนที่พยายามจะเก็กโหด เค้ายิ้มให้เธอเล็กน้อย มันช่างเป็นรอยยิ้มที่หลอมละลายคนมองได้อย่างมากทีเดียว ซูยอนก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนที่คริสจะนั่งลงในฝั่งตรงข้าม
“จริงๆ ผมกะจะมาตั้งแต่เช้าแล้วล่ะครับแต่ว่าเพิ่งทำธุระเสร็จ”
“อ่อ ค่ะ แล้วเมื่อวานเป็นยังไงบ้างคะ คุณยุนอากับเด็กๆ เข้ากันได้มั๊ย”
คริสรู้สึกอารมณ์เสียนิดๆที่ได้ยินซูยอนถามถึงยุนอา ทำไมนะ ทำไมเค้าต้องรู้สึกแบบนี้ ถ้าอาการนี้มันคือการตกหลุมรักล่ะก็ เค้าต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เค้าไม่เคยตกหลุมรักใครภายใน 3 วันที่รู้จักกัน(แต่สำหรับท่านประธานสาวสวยของนาย อาจจะใช่ก็ได้นะ รู้จักมะ Love at first sight อ่ะ คิคิ : ไรเตอร์)
แต่ถึงจะตกหลุมรักเจ้านายเค้าก็คงทำได้แค่ตกหลุมรัก ก็ในเมื่อเธอมีคนที่อยู่ข้างกายอย่างคุณยุนอาทั้งคนแล้วนี่ เฮ้อ โลกนี่ช่างไม่ยุติธรรม ทำไม ทำไม ทำม้ายยยยยย...........
“คุณคริสคะ..เป็นอะไรรึเปล่าคะ”
“อ่า เอ่อ ครับ”
คริสหลุดออกจากภวังค์ทันทีที่ซูยอนสะกิดเค้า โอ้วว เธอแตะมือเค้าเบาๆ ด้วยความสงสัยหลังจากที่เห็นคริสนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดเข้าหากันเป็นเลขแปด (มันเป็นยังไงวะ : ไรเตอร์)
“อ่อ เรื่องคุณยุนอา เธอโอเคครับ เด็กๆก็โอเคกับเธอมาก เรียกว่าสนิทกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลยก็ว่าได้ แต่มีแค่บางคนที่ยังต่อต้านนิดๆ แต่ผมคิดว่าคุณยุนอาสามารถเอาชนะเค้าได้อย่างแน่นอน”
“ตายจริง ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะคะ แล้วอย่างนี้คุณยุนอาจะรับมือไหวเหรอ ฉันชักจะเป็นห่วงเธอแล้วล่ะสิ แล้วเรื่องที่หลับที่นอน ฉันหวังว่าเธอคงไม่ได้ไปนอนรวมกับเด็กๆนะคะ”
ซูยอนพูดด้วยความเป็นห่วงน้องสาวโดยที่ลืมเก็กโหด เธอแสดงสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด ทำให้คริสคิ้วขมวดอีกครั้ง
‘เป็นห่วงกันซะเหลือเกินกลัวแฟนจะหลงเสน่ห์เด็กๆหรือไงกัน’ คริสคิด(เค้าห่วงน้องสาวเค้าหรอก แกนี่จริงๆเลยคริส เข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว : ไรเตอร์)(ก็แกแต่งให้เค้าเข้าใจผิดนี่หว่า แล้วจะบ่นทำไม : คนอ่าน)
“ผมแยกห้องนอนให้เธอแล้วล่ะครับ อีกอย่างเด็กๆแต่ละคนก็เป็นสุภาพบุรุษมากพอ ไม่ทำเรื่องอะไรแบบนั้นแน่ ท่านประธานไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ”
ดูเหมือนว่าคำพูดของคริสจะทำให้ซูยอนสบายใจขึ้น ก่อนที่เธอจะหันมาเก็กหน้าโหดอีกครั้ง ทั้งสองคุยกันถึงเรื่องรายละเอียดและแผนการทำงานต่อจนเวลาล่วงเลยไปเกือบเที่ยง แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเสร็จ ซูยอนจึงชวนคริสไปทานอาหารด้วยกันเพื่อจะได้คุยเรื่องงานต่อ คริสรู้สึกดีใจมากถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นที่เค้าได้อยู่กับซูยอนตามลำพังแต่มันก็ทำให้หัวใจของเค้ากระชุ่มกระชวยไม่น้อย
หลายๆครั้งที่ซูยอนลืมเก็กโหดใส่เค้าและเผลอแสดงตัวตนจริงๆออกมา มันช่างน่ารักเหลือเกิน ทางซูยอนเองก็ต้องปวดหัวกับการที่จะต้องมานั่งวาดมาดขรึมเพื่อรักษาภาพพจน์ของผู้บริหาร แต่เธอก็หลุดอาการโก๊ะๆให้คริสเห็นบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการเอานิ้วจิ้มปากเวลาดูเมนูอาหาร หรือแม้กระทั่งการแสดงออกว่าอาหารนั้นอร่อยเพียงใด เธอมักจะหลับตาพริ้มเวลาอาหารเข้าปากเพราะนั่นจะทำให้เธอได้ลิ้มรสชาติอาหารจริงๆ(ประมาณว่าตัดขาดจากโลกภายนอก จดจ่อไปที่อาหารและฟินกับรสชาติ ได้ผลจริงๆนะขอบอก : ไรเตอร์)
คริสเห็นท่าทางเหล่านั้นก็อดขำขึ้นมาไม่ได้ ถึงแม้ว่าเค้าจะพยายามกลั้นหัวเราะ แต่มันก็ทำให้ซูยอนรู้อยู่ดีว่าเค้าขำเธอ
“หัวเราะอะไรเหรอคะ”
ซูยอนวางมีดกับส้อมลงและมองไปที่คริส
“อ่อ เออ คือ เปล่าครับ”
คริสปฏิเสธพร้อมกับหลบตาเธอ
“เปล่าอะไรกัน ก็เห็นอยูว่าคุณคริสหัวเราะ”
คริสค่อยๆเงยหน้ามองซูยอน
“คือว่า...ท่านประธานจะว่าอะไรมั๊ยครับถ้าผมจะขอถามอะไรซักอย่าง”
“ค่ะ ถามมาได้เลย”
คริสวางช้อนส้อมลงก่อนจะหยิบแก้วน้ำมาดื่มไล่ความตื่นเต้น
“ทำไมท่านประธานจะต้องพยายามทำอะไรที่มันไม่ใช่ตัวตนของท่านด้วยล่ะครับ”
ซูยอนแปลกใจกับคำถามของคริสเล็กน้อย หรือว่าเค้าจะรู้ว่าที่เธอทำมาทั้งหมดคือการแสดง
“ปะ..ปะ..เปล่านี่ค่ะ ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้อยู่แล้ว”
“ไม่จริงหรอกครับ ผมสังเกตท่านมาตลอด อีกอย่างการวางมาดมากเกินไปมันก็ทำให้คนอื่นดูออกนะครับ”
คริสตอบซูยอน และนั่นก็ทำให้เธอเกร็งขึ้นมาทันที นี่เค้าสังเกตเธอมาตลอดเลยเหรอเนี่ยย
“ตอนนี้ท่านประธานก็กำลังเก็กโหดใส่ผมอยู่ ฮ่าๆๆๆ”
คริสพูดพลางตัดสเต๊กเข้าปากอีกครั้งก่อนจะพูดกับซูยอน
“เป็นตัวของตัวเองเถอะครับ ตอนนี้พักกลางวัน ผมว่าปล่อยตามสบายแล้วค่อยไปเก็กโหดใส่ผมต่อที่ห้องทำงานดีกว่า ผมเคยอ่านหนังสืออยู่ 1 เล่ม เค้าบอกว่าการที่เราพยายามเก็กหน้ามากๆจะทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นได้เร็ว คิดว่าท่านประธานคงไม่อยากให้หน้าโกงอายุใช่มั๊ยครับ”
คำพูดของคริสทำให้ซูยอนซึ่งกำลังเก็กหน้าอยู่ถึงกับต้องถอนหายใจออกมาและปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
“โดนจับได้จนได้”
ซูยอนบ่นเล็กน้อยก่อนจะมองไปยังคริสซึ่งกำลังก้มหน้าตัดสเต๊กในจาน ตอนนี้ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องเก๊กโหดอีกต่อไปแล้ว ในที่สุดเธอก็ได้เป็นตัวของตัวเองซักที การที่เธอพยายามเก็กโหดตลอดทั้งวันมันเหนื่อยพอๆกับการที่ต้องมานั่งอ่านรายงานบ้าบอนั่น เธอคิด
“ทำไมคุณคริสถึงรู้ล่ะคะว่าฉันพยายามวางมาดขรึม”
“ก็เพราะว่าเวลาผมมองที่ท่านประธาน...”
คริสยังพูดไม่ทันจบก็ต้องสะดุดซะก่อนเพราะเค้าดันเงยหน้าขึ้นมามองซูยอนที่กำลังเอามือเท้าคางและทำตาแป๋วใส่เค้าอยู่นั่นเอง เธอกะพริบตาด้วยความอยากรู้และนั่นก็ทำให้หัวใจของคริสเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เค้าตกในภวังค์อีกครั้ง สายตาของเธอแทบจะทำให้เค้าละลายไปกับเก้าอี้
“คะ..”
คริสเรียกสติตัวเองกลับมาอีกครั้ง
‘ไม่นะ ห้ามเด็ดขาด อย่าถลำลึกกว่านี้นะ อย่าลืมว่าท่านประธานมีคุณยุนอาอยู่แล้ว’
“เอ่อ ช่างเถอะครับ เอาเป็นว่าผมรู้ละกัน ต่อจากนี้ไปท่านประธานไม่ต้องเก็กใส่ผมแล้วนะครับ”
“คิคิ คิดว่าจะไม่ให้ใครจับได้แล้วเชียว ยังไงฉันก็ต้องขอโทษคุณคริสด้วยนะคะที่เก็กโหดใส่ เป็นเพราะฉันไม่เคยมานั่งบริหารอะไรแบบนี้ เคยแต่เห็นคุณพ่อทำงาน แล้วท่านก็มักจะวางมาดขรึมกับพนักงานซึ่งมันก็ทำให้ทุกคนเชื่อและฟังคุณพ่อ ฉันก็เลยคิดว่าถ้าทำแบบนี้มันจะทำให้ฉันเป็นที่ยอมรับและดูน่าเชื่อถือกับทุกคนได้นะค่ะ แต่คุณก็ยังจับได้....เฮ้อออ...ฉันคงต้องไปเรียนการแสดงเพิ่มเพราะฝีมือการแสดงของฉันมันแย่มากจริงๆ คุณคริสว่ามั๊ยคะ”
ซูยอนดูผ่อนคลายทันที นี่แหล่ะคือตัวตนของเธอ ชายหนุ่มพินิจพิจารณาหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเค้าอีกครั้ง เธอดูมีเสน่ห์ในแบบที่เธอเป็นมากๆ ทั้งการพูดจา การแสดงท่าทางต่างๆในตอนนี้ช่างขัดกับใบหน้าที่เย็นชาของเธอซะเหลือเกิน แม้กระทั่งตอนแรกที่เค้าได้เจอเธอเค้ายังรู้สึกเลยว่าผู้หญิงคนนี้ดูเข้าถึงยาก แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว เธอเป็นคนที่น่ารักมากที่สุดเท่าที่เค้าเคยเจอ เธอเหมือนกับเด็กจริงๆ น่ารักและไร้เดียงสา
‘คุณยุนอาครับ ผมขอโทษ เธอน่ารักเกินกว่าที่ผมจะถอนตัวจริงๆ’
ชายหนุ่มคิดในขณะที่มองไปยังท่านประธานของเค้า.........
SM Ent.
ภายในห้องซ้อมเต้นของ SM Ent. หนุ่มๆทั้ง 6 กำลังซ้อมเต้นอย่างขะมักเขม้น ท่าเต้นที่ดูแข็งแรงดุดันช่างทำให้พวกเค้ามีเสน่ห์ยิ่งนัก
ยุนอาหิ้วของพะรุงพะรัง ไม่ว่าจะเป็นกล้องถ่ายรูป สมุดโน้ตสีขาวที่เต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆทั้งไอเดียที่ยุนอาคิดได้หรือแม้กระทั่งเรื่องราวความประทับใจรวมถึงเอาไว้จดงานต่างๆของเธอด้วย นอกจากนี้เธอยังหิ้วถุงผ้าที่ด้านในมีแก้วชานมไข่มุกและเครื่องดื่มเกลือแร่ซึ่งเธอเตรียมเอามาไว้ให้เด็กๆ เธอค่อยๆเปิดประตูห้องซ้อมและเดินเข้าไปในห้องอย่างเงียบๆ เพื่อที่จะได้ไม่ทำให้เด็กๆเสียสมาธิ
วันนี้เธอมาดูพวกเค้าซ้อมเต้นเป็นวันแรกและมันก็ทำให้เธอได้เห็นอะไรหลายๆอย่างระหว่างการซ้อมนี้ เด็กๆผู้น่ารักที่เธออยู่ด้วยที่หอ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นชายหนุ่มที่มีเสน่ห์ดึงดูดมากๆ ท่าทางที่พวกเค้าเต้นกันนั้นมันเหมือนกับเวลาที่สิงโตออกล่า ความแข็งแรงดุดันและความสง่างามของพวกเค้าทำให้ยุนอามองค้างราวต้องมนตร์สะกด เธอลืมที่จะจดสิ่งที่เธอเห็นลงในสมุดโน๊ตหรือแม้กระทั่งจะหยิบกล้องโพลารอยด์ขึ้นมาถ่ายรูปเธอก็ยังทำไม่ได้ ทันทีที่เพลงจบและคิมแทยอน หัวหน้าเทรนเนอร์ปล่อยให้เด็กๆได้หยุดพัก ชานยอลและคนอื่นๆก็วิ่งเข้ามาหายุนอาด้วยความดีใจ
“ดีใจจัง นูน่ามาดูพวกเราซ้อมด้วย”
ยุนอายิ้มก่อนที่จะเก็บสมุดโน้ตลงกระเป๋าและหยิบกล้องโพลารอยด์ออกมาถ่ายพวกเค้า ทั้งหมดยิ้มให้เธอก่อนจะกรูเข้ามาดูรูปกัน ยกเว้นจงอินที่ถึงแม้จะติดอยู่ในรูปแต่เค้าก็ไม่ยิ้มอยู่ดี และเค้าเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะเดินผ่านเข้ากล้องถ้าหากจุดที่ยุนอานั่งไม่ได้อยู่ติดกับขวดน้ำดื่มที่เค้าวางไว้
“นี่ๆ พี่ซื้อเครื่องดื่มเย็นๆมาให้พวกเราด้วยนะมีทั้งชานมไข่มุกแล้วก็เกลือแร่”
ยุนอาค่อยๆหยิบขวดเกลื่อแร่และแก้วชานมไข่มุกออกมาให้กับทุกคนแต่ที่พิเศษที่สุดก็เห็นจะเป็นของเซฮุน
“เซฮุนจ๊ะ นี่ของเธอจ้ะ ชานมไข่มุกรสช็อคโกแลตผสมกล้วยที่เธอชอบ พอดีพี่ลืมของไว้ที่คอนโดก็เลยแวะกลับไปเอาแล้วก็เลยซื้อชานมร้านที่พี่บอกว่าอร่อยๆมาให้น่ะจ้ะ ดื่มให้หมดนะ ฮี่ๆ”
เซฮุนยิ้มก่อนที่จะรับแก้วชานมไข่มุกมาจากยุนอา เค้าหน้าแดงเล็กเพราะความเขิน
“ขอบคุณฮะนูน่า ผมชอบมันที่สุดเลยฮะ”
เซฮุนรู้สึกประทับใจมากเพราะแม้แต่พี่ๆในวงยังจำไม่ได้ว่าเค้าชอบชานมรสอะไร แต่ยุนอาที่เพิ่งเจอกันไม่กี่วันกลับจำได้ แม้มันจะเป็นเรื่องเล็กๆแต่มันก็ทำให้เซฮุนรู้สึกดีต่อเธอไม่น้อย เขาดื่มมันอย่างมีความสุขและรสชาติมันก็อร่อยแบบที่ยุนอาบอกจริงๆ ทั้งหมดดื่มชานมไข่มุกที่ยุนอาซื้อมามีเพียงแต่จงอินเท่านั้นที่เดินมาหยิบขวดน้ำก่อนจะเดินออกไปนั่งอีกมุมอย่างเงียบๆ ยุนอาเห็นดังนั้นจึงหยิบชานมไข่มุกของจงอินและเดินเอาไปให้เค้า ท่ามกลางสายตาของเหล่าลิงที่ลุ้นว่าจงอินจะทำยังไง
“จงอินจ้ะ นี่ของเธอ ดื่มสิ มันอร่อยมากๆนะ”
ยุนอายื่นแก้วให้จงอินและยิ้มให้เค้าอย่างจริงใจ จงอินเงยหน้ามองยุนอา แววตาของเค้าเต็มไปด้วยความสงสัย อะไรคือสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ต้องการกันแน่ ทำไมเธอต้องทำดีกับเค้าทั้งๆที่เธอเองก็น่าจะรู้ว่าเค้าไม่ชอบเธอเท่าไหร่ จงอินรับแก้วชานมไข่มุกมาจากยุนอา ไม่ใช่ว่าเค้าต้องการมันหรอกนะแต่แค่ต้องการตัดปัญหาเพราะสุดท้ายแล้วยังไงเค้าก็ต้องกินมัน เพราะถ้าเค้าปฏิเสธเธอ คยองซูก็คงต้องเอามาให้เค้าอยู่ดี ทำแบบนี้นั่นแหล่ะ ตัดปัญหาได้ดีที่สุด
“ขอบคุณนะ แต่คราวหลังไม่ต้อง ถ้าอยากให้ผมยอมรับในตัวคุณ อย่ายุ่งกับผมอีก ได้โปรด.......”
จงอินพูดเบาๆแค่ให้ยุนอาได้ยินเท่านั้น ส่วนสมาชิกที่เหลือเมื่อเห็นว่าจงอินรับแก้วชานมจากยุนอาต่างก็รู้สึกดีใจที่จงอินเปิดใจรับยุนอาบ้างแล้ว แต่ทว่าความเป็นจริงพวกเค้ายังไม่ได้ยินสิ่งที่จงอินพูด ยุนอาสลดลง เพราะอะไรกันทำให้เค้าปิดใจกับเธอแบบนี้ ทั้งๆที่เธอเข้ามาเพื่อที่จะดูแลพวกเค้า ยุนอายิ้มให้จงอินเล็กน้อยแม้รอยยิ้มนั้นมันจะดูเศร้าก็ตาม เธอลุกออกมาจากที่ๆจงอินนั่งและยิ้มให้กับทุกคนราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ในที่สุดจงอินก็เปิดใจบ้างแล้ว ดีจังเลยนะครับนูน่า”
คยองซูพูดกับยุนอาที่เดินเข้ามาในกลุ่ม
“ใช่ๆ เยียมไปเลยฮะนูน่า”
แบคฮยอนพูดขึ้นบ้าง ส่วนจุนมยอนกับเซฮุนก็ยิ้มให้เธอ หลังจากนั้นแทยอนก็เรียกเด็กๆกลับไปซ้อมอีกครั้ง ยุนอาเองก็กับมาทำหน้าที่ของเธอต่อ เธอหยิบกล้องดิจิตอลที่เธอเพิ่งจะกลับไปเอาที่คอนโดออกมา เธอค่อยๆถ่ายรูปเด็กๆทีละคน ทุกคนดูมีความสุขมากๆเวลาได้เต้นกับเพลงที่พวกเค้าร้อง แน่นอนล่ะก็ในเมื่อมันเป็นเพลงแรกที่พวกเค้าจะได้เปิดตัวต่อหน้าทุกคนในฐานะศิลปินนี่นา ยุนอาพยายามเก็บรายละเอียดต่างๆและจดบันทึกลงในสมุดให้มากที่สุดเพราะนี่คือสิ่งที่เธอต้องทำในฐานะของครีเอทีฟ ถึงแม้ว่าคำพูดของจงอินจะทำให้สมาธิเธอหลุดบ้างก็ตาม ดูเหมือนว่าเค้าจะมีผลต่อเธอมากๆเลยล่ะ
Rrr Rrr
เสียงโทรศัพท์ของยุนอาดังขึ้น ปลายสายที่โทรเข้ามาก็คิอคนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี
“ฮัลโหลค่ะออนนี่”
“ยุนอา เธออยู่ไหนเนี่ย เย็นนี่ว่างมั๊ยจ๊ะ กลับมาบ้านได้หรือเปล่า”
ยุนอาเดินออกมาจากห้องเพราะเสียงเพลงที่ดังมันกลบความสามารถในการได้ยินของเธอ
“ฉันอยู่ที่บริษัทใหญ่น่ะค่ะออนนี่ ที่บ้านมีอะไรเหรอคะ”
“มิสิ แต่อุบไว้ก่อน ให้เธอมาดูเอง รับรองว่าเธอจะต้องดีใจมากๆแน่นอน”
เสียงของซูยอนดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ
“แต่ว่าฉันต้องอยู่กับพวกเด็กๆน่ะค่ะ”
“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง พี่บอกให้คุณคริสไปดูแทนแล้วล่ะจ้ะ พี่บอกเค้าว่าเธอมีประชุมกับหัวหน้าตอนเย็น เค้าสงสัยเล็กน้อยว่าทำไมเธอไม่บอกเค้าแต่ก็ไม่มีพิรุธหรอก เค้าไม่รู้หรอกว่าเราเป็นอะไรกัน นะจ๊ะน้องรัก พวกเราจะรอเธอ อ้อ อย่าเพิ่งทานอะไรเข้ามาล่ะ ไว้มาทานที่บ้าน โอเคนะจ๊ะ เทคแคร์นะ บ๊ายบาย”
ยังไม่ทันที่ยุนอาจะตอบอะไรซูยอนก็ตัดสายไปซะแล้ว จะพูดอะไรทันล่ะ ก็ในเมื่อซูยอนไม่เปิดโอกาสให้เธอพูดเลย เธอส่ายหัวเล็กน้อย
“ใครว่าล่ะคะว่าคุณคริสไม่รู้เรื่อง คุณคริสเค้ารู้หมดแล้วล่ะค่ะ”
ยุนอาบ่นกับตัวเอง เธอเองก็แปลกใจเล็กน้ยว่าคริสไม่ได้บอกซูยอนเหรอว่าเค้ารู้แล้วเรื่องความสัมพันธ์ของเธอและซุยอน แต่ช่างมันเถอะ สิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดคือทำไมออนนี่ถึงดูดี๊ด๊าจังนะ แล้วพวกเรานี่หมายความว่าไงเนี่ย วันนี้จะมีใครมาบ้านงั้นเหรอ ถ้าเป็นคุณลุงก็คงไม่ใช่เพราะกว่าท่านจะกลับจากอเมริกาก็เดือนหน้านู่นแน่ะ เธอคิดก่อนจะกลับมาสนใจกับสมุดโน้ตในมือต่อ
หลังจากที่ซูยอนวางสายจากยุนอา เธอก็เดินออกกลับมานั่งที่โต๊ะอาหารที่คริสนั่งอยู่
“เดี๋ยวเรากลับกันเลยก็ได้ค่ะ ยังไงต้องรบกวนคุณคริสด้วยนะคะเรื่องของคุณยุนอา พอดีทางฝ่ายครีเอทเค้าเพิ่งแจ้งมาทางคุณยูริน่ะค่ะ ยังไงคุณไม่ต้องโทรบอกคุณยุนอานะคะ เมื่อกี้ฉันโทรไปบอกเธอเรียบร้อยแล้ว”
เธอว่าก่อนจะหยิบเงินในกระเป๋าออกมาใส่ในถาด แต่ดูเหมือนคริสจะรู้ทันอีกแล้วว่าตอนเย็นทั้งสองจะออกไปด้วยกัน ทำไมเค้าถึงรู้สึกอิจฉายุนอาจังนะ ได้ใกล้ชิดกับซูยอนแถมดูซูยอนจะดีอกดีใจเป็นพิเศษ แต่ก็ช่างเถอะ เค้าเป็นแฟนกันนี้นา
“เดี๋ยวครับ มื้อนี้ให้ผมเลี้ยงเถอะครับ”
คริสว่าก่อนจะหยิบกระเป๋าตังแบรนด์ดังออกมา ซูยอนแปลกใจเล็กน้อยเพราะพนักงานบริษัทน้อยคนนักที่จะมีกระเป๋าราคาแพงๆแบบนี้
“เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันจ่ายเอง”
“เอ่อ...”
“หรือคุณจะขัดคำสั่งเจ้านาย”
ซูยอนพูดอย่างวางมาดถึงแม้ว่าเธอจะแกล้งทำก็เถอะ
“แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลางานนะครับ แสดงว่าเราสองคนไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบเจ้านายกับลูกน้อง”
คริสพูดก่อนจะวางเงินลงและยิ้มให้ซูยอน เธอยิ้มให้เค้าก่อนจะก้มหน้าเพราะความเขิน ทำไมเวลาผู้ชายคนนี้พูด เธอจะต้องฟังเค้าไปซะทุกเรื่องด้วยนะ
“ขอบคุณค่ะ แต่ว่าครั้งหน้าฉันเลี้ยงนะคะ ตกลงตามนี้”
เธอพูดก่อนจะลุกออกไปรอที่รถ คริสตกใจกับคำพูดที่สุดแสนจะธรรมดาของเธอ แต่คำพูดนี้แหล่ะที่ทำให้หัวใจของเค้าเต้นผิดจังหวะอีกครั้ง เค้ายิ้มออกมาอย่างดีใจ ไม่ใช่ว่าดีใจที่ครั้งหน้าซูยอนจะเลี้ยงอาหารเค้าหรอกนะ แต่เพราะมันจะมีครั้งหน้าที่พวกเค้าจะได้มาทานอาหารด้วยกัน...อีกครั้ง....
สนุกมั๊ยคะเพื่อนๆ นั่งแต่งไปเขินไป เขินคริสของเรา 555 ยังไงอย่าเพิ่งเบื่อกันไปซะก่อนนะคะ ขอโทษที่เมื่อวานไม่ได้มาอัพ กลับถึงบ้านปุ๊บก็หลับยาวเลยทีเดียว ยังไงจะรีบอัพตอนที่ 8 ให้นะคะ กำลังปั่นสุดฝีมือเลยล่ัะค่ะ ช่วยเป็นกำลังใจให้ตัวละครทุกตัวด้วยนะคะ ^^
ความคิดเห็น