คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 3 เมื่อนางฟ้าปรากฏตัว
ยุนอากลับมาเก็บของที่คอนโดตัวเอง เธอเลือกเสื้อผ้าที่รัดกุมที่สุด เน้นไปทางเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ผ้าพันคอ หมวก แว่นตา เสื้อคลุม บลาๆๆ ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋าเดินทางขนาดกลางที่มีข้าวของเครื่องใช้อื่นๆถูกจัดอย่างเป็นระเบียบอยู่ก่อนแล้ว และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือกล้องถ่ายรูปโพลารอยด์สีขาวคู่ใจของเธอ เธอชอบถ่ายรูปเพื่อเก็บความประทับใจต่างๆมากมายและแปะมันลงในไดอารี่ ที่ๆเธอจะแสดงทุกความรู้สึกได้อย่างไม่ต้องกลัวใครจะรู้ หลายๆความคิดสร้างสรรค์ก็เกิดมาจากไดอารี่และรูปภาพต่างๆ พรุ่งนี้แล้วที่เธอจะต้องจากคอนโดสุดที่รักไป เธอไม่ได้อยู่กับซูยอนที่บ้านเพราะว่าการอาศัยอยู่คอนโดสะดวกต่อการทำงานของเธอมากกว่า ทั้งใกล้บริษัทแถมยังมีเนื้อที่กว้างขวางให้เธอสะสมผลงานการออกแบบต่างๆได้อย่างมากมาย คอนโดของเธอเป็นแบบ Duplex นั่นคือมีชั้นลอยแบ่งระหว่างโซนทำงานและโซนพักผ่อน ด้านบนจะเป็นห้องนอนส่วนด้านล้างจะเป็นห้องรับแขกห้องน้ำและมีครัวเล็กๆใกล้ทางเข้า เธอเก็บเงินซื้อมันด้วยตัวเอง นี่คือสมบัติชิ้นแรกของเธอจากการทำงานซึ่งเธอภูมิใจกับมันเป็นอย่างมาก ยุนอาเดินขึ้นไปที่ห้องนอนและหยิบกรอบรูปที่มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆกับพ่อแม่ที่ส่งยิ้มมาอย่างมีความสุข เธอมองมันก่อนที่จะหยิบมันลงกระเป๋า
“พรุ่งนี้หนูจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปดูที่ๆหนูจะไปทำงานนะคะ ช่วยเป็นกำลังใจและคุ้มครองหนูด้วยนะคะ คุณพ่อ คุณแม่... หนูสัญญาว่าจะทำมันให้ดีที่สุดค่ะ”
บ้านพักศิลผิน
ที่พักของศิลปินฝึกหัดที่กำลังจะเดบิวท์ลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว ภายในหอประกอบไปด้วยห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำ 2 ห้อง ครัวเล็กๆที่แทบจะไม่ค่อยได้ใช้งานเท่าไหร่ และห้องนั่งเล่นขนาดกลางที่มักจะเป็นศูนย์รวมของเหล่าลิง หลังจากซ้อมเต้นเสร็จ พวกเขามักจะมานั่งทำกิจกรรมด้วยกัน บ้างก็เล่นเกมส์บ้างก็ดูทีวี บ้างก็พักผ่อน วันนี้มีสมาชิกอยู่หอด้วยกัน 4 คน คือจุนมยอน แบคฮยอน คยองซู และจงอิน ส่วนเซฮุนกับชานยอลออกไปซื้อของข้างนอก
Rrr Rrr
เสียงโทรศัพท์ของจุนมยอนดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มที่เป็นเจ้าของผิวขาวราวกับหิมะ ต้องละจากกิจกรรมมารับอย่างเสียไม่ได้
“สวัสดีครับ ฮยอง”
จุนมยอนรับโทรศัพท์ของคริส พวกเขานับถือคริสเหมือนพี่ชายแท้ๆ เพราะคริสเป็นคนที่คอยดูแลและคอยให้กำลังใจพวกเขาในเรื่องต่างๆมาตลอด ในอนาคตคริสจะกลายเป็นผู้จัดการวงของพวกเขาหลังจากเดบิวท์
“อืมจุนมยอน ตอนนี้น้องๆอยู่หอครบกันมั๊ย”
“ตอนนี้ชานยอลกับเซฮุนออกไปข้างนอกน่ะครับ ฮยองมีอะไรรึเปล่าครับ”
“อ่อ งั้นเหรอ คือเรารู้ใช่มั๊ยว่าก่อนการเดบิวท์ เราจำเป็นจะต้องมีการทำทีเซอร์หรือปล่อยภาพของพวกเราออกมาเป็นการวัดความนิยม”
“ครับฮยอง อันนั้นผมทราบดี”
“โอเค งั้นเข้าเรื่องเลยละกัน พรุ่งนี้พี่จะพาคนๆนึงมาแนะนำให้พวกนายรู้จัก เธอจะมาอยู่กับพวกนายที่หอด้วยนะ ชื่อคุณยุนอา เป็นครีเอทีฟของ SM Production เธอจะเข้ามาดูแลพวกนายแทนพี่ในช่วงก่อนการเดบิวท์”
“อ้าว ทำไมละครับ ฮยอง”
จุนมยอนถามด้วยความสงสัย ก็ในเมื่อหน้าที่นี้คริสก็ทำได้ดีมาตลอด
“พวกเราทำอะไรผิดหรือเปล่าครับ”
ด้วยคำพูดนี้ทำให้คนที่เหลือต่างให้ความสนใจและผละจากกิจกรรมของตนมาเพื่อตั้งใจฟังสิ่งที่จุนมยอนคุยกับคริส ไม่เว้นแม้กระทั่งจงอิน เด็กหนุ่มผู้ที่มีผิวเข้มเป็นเสน่ห์ซึ่งปกติมักจะไม่ค่อยใส่ใจอะไรมากนอกจากการเต้น เขาค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูงมากกว่าคนอื่นๆในวง
“เฮ้ย ไม่ใช่อย่างนั้น คุณยุนอา จะเข้ามาดูแลพวกนายเพื่อสร้างจุดเด่นให้กับพวกนายยังไงล่ะ อย่าลืมสิ พวกนายเป็นว่าที่ศิลปินที่จะพลิกหน้าตาวงการบอยแบนด์นะ ทั้งนี้พวกนายจะต้องมีคนเข้ามาดูแล แต่ใช่ว่าพี่จะทิ้งพวกนาย แค่มีคุณยุนอาเข้ามาช่วยดูแลอีกแรง ส่วนพี่ก็จะไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาที่หอเท่าไหร่ เพราะตอนนี้โปรเจคต์เปิดตัวพวกนายสำคัญมากและพี่ต้องติดต่อประสานงานหลายฝ่าย ช่วงนี้เลยต้องเข้าบริษัทบ่อยหน่อย แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ คุณยุนอาเธอสามารถทำหน้าที่นี้ได้ดีแน่ๆ เธอน่ารักและทำงานเก่งมากๆ ผลงานของเธอเป็นที่ยอมรับและเป็นที่สนใจของแฟนคลับหลายๆวง ยังไงก็ฝากบอกน้องๆด้วยนะให้ดีกับเธอมากๆ เพราะเธอจะเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของพวกนาย”
คริสพูด จุนมยอนพยักหน้าด้วยความเข้าใจ อีกใจหนึ่งก็เป็นกังวลเพราะเขาเองก็ไม่แน่ใจว่า ยุนอาจะทำหน้าที่นี้ได้ดีเท่าคริสหรือเปล่า เขาวางสายจากคริสก่อนที่คนอื่นๆจะถามด้วยความร้อนรน
“มีอะไรเหรอครับฮยอง/คริสฮยองว่าไงเหรอครับ/พวกเราทำอะไรผิดเหรอครับ”
“ใจเย็นๆ ถามทีละคน ฉันตอบไม่ทัน”
“คริสฮยองว่ายังไงเหรอครับ”
“คริสฮยองแค่โทรมาบอกนะว่าพรุ่งนี้จะพาคนมาแนะนำให้รู้จักและให้พวกเราดีกับเธอให้มากๆ เพราะเธอจะเข้ามาดูแลพวกเราแทนคริสฮยองในช่วงก่อนการเดบิวท์”
“โธ่ นึกว่าเรื่องอะไรแค่คนดูแลคนใหม่....ห๊ะ!! ธะ ธะ เธอ!!...หมายความว่า...”
แบคฮยอนเด็กหนุ่มเจ้าของตาชั้นเดียวที่ทรงเสน่ห์ตอบและต้องตกใจเมื่อจุนมยอนใช้สรรพนามว่าเธอ...
“ใช่ เธอเป็นผู้หญิง ชื่อคุณยุนอา เป็นครีเอทีฟของ SM Production น่ะ เธอจะเข้ามาเพื่อสร้างจุดเด่นให้กับพวกเราเพื่อจะได้เป็นที่จดจำหลังการเดบิวท์ เห็นฮยองบอกว่าเธอทำงานเก่งและผลงานก็เป็นที่ยอมรับมากๆ เชื่อว่าเธอจะเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของพวกเรา ยังไงฉันก็ขอความร่วมมือดีกับเธอให้มากๆนะ อ้อ และที่สำคัญเธอจะมาอยู่กับพวกเราด้วย”
“อ้อ นึกว่าอะไร...ห๊ะ!!! เธอจะมาอยู่กับพวกเรา!! หมายความว่า...”
คราวนี้เป็นคยองซู เด็กหนุ่มร่างเล็กแต่พลังเสียงของเค้านั้นช่างยิ่งใหญ่ ตอบด้วยความตกใจ
“เรื่องนี่ฉันก็ไม่รู้แฮะ แต่เท่าที่ฟังมา ก็คงมาอยู่ที่หอกับพวกเราแหล่ะ”
“ให้ผู้หญิงมาอยู่ที่หอ เหอะ คริสฮยองคืดอะไรกันแน่”
แบคฮยอนพูดขึ้น
“คริสฮยองก็คงให้เธอเข้ามาทำความสนิทสนมเพื่อเปลี่ยนแปลงพวกเราน่ะสิ”
คราวนี้เป็นฝ่ายจงอินที่พูดบ้าง น้อยครั้งนักที่เค้าจะพูดและแต่ละครั้งที่เค้าพูดก็แทบจะนับคำได้เลย จงอินพูดเสร็จก่อนที่จะเดินเข้าห้องไป ทิ้งให้เพื่อนในวงคนอื่นๆต่างส่ายหัวกับพฤติกรรมของเขา
“เจ้าจงอินนี่จริงๆเลยสิน่า ไม่ว่าใครจะเข้ามาดูแลพวกเราเจ้านี่ก็ต้องคิดว่าเขาจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงพวกเราอยู่เรื่อยเลย”
แบคฮยอนพูดก็ต่อเมื่อเน่ใจแล้วว่าเสียงปิดประตูห้องของจงอินดังขึ้นแล้ว ที่เขาพูดแบบนี้เพราะในช่วงแรกที่พวกเขาเข้ามาเป็นเด็กฝึกหัด ก็มีคนที่ดูแลกลุ่มของพวกเขาสลับหมุนเวียนเปลี่ยนหน้าไม่ขาดสาย และแต่ละคนก็พยายามจะสร้างคาแรคเตอร์ให้กับพวกเขาหลายๆอย่าง ทั้งอยากให้พวกเขาเป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่เห็นทีคนที่จะโดนหนักสุดก็คงไม่พ้นจงอิน เพราะเขาค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูง ทั้งวันหมกตัวอยู่กับการเต้น ซึ่งทุกคนก็คงเห็นแล้วว่านอกจากความสามารถด้านการเต้นที่ศิลปินจะต้องมี พวกเขาควรจะมีทักษะทางด้านการร้องด้วย แต่จงอินกลับไม่ค่อยสนใจร้องเพลงเท่าไหร่นัก ทำให้คนดูแลหลายๆคนไม่พอใจและมีปัญหากับเค้าบ่อยครั้ง ครั้งหนึ่งเค้าเคยถูกเสนอให้ถอนชื่อออกจากการเป็นเด็กฝึกหัดด้วยซ้ำแต่ว่ามีคนทีเห็นแววการเต้นที่ยากจะหาใครเทียบของจงอินเจเข้ามาขอไว้ก่อน นั่นคือคริสนั่นเอง จากนั้นคริสก็เข้ามาดูแลพวกเขาอย่างเต็มตัว...และเขาเองก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า เขาเข้ามาเพื่อดูแลไม่ใช่เปลี่ยนแปลง
“นั่นสิ ตั้งแต่ตอนก่อนที่คริสฮยองจะเข้ามาดูแล เจ้านั่นก็คิดว่าคริสฮยองจะมาเปลี่ยนแปลงพวกเรา แต่สิ่งที่คริสฮยองทำก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เขาไม่ได้เข้ามาเพื่อเปลี่ยนแปลงพวกเรา”
จุนมยอนพูดขึ้นบ้าง
“เอาเถอะครับพี่ๆ เดี๋ยวไว้ผมจะหาทางคุยกับเค้าเอง จงอินเองคงฝังใจกับเรื่องนั้นมากน่ะครับ ทุกครั้งที่เปลี่ยนคนดูแลเค้าก็มักจะเป็นแบบนี้ อาจจะต้องให้เวลาเค้าซักหน่อย”
คยองซูพูดก่อนที่จะเดินเข้าห้องเพื่อไปคุยกับจงอิน
“ฮยองว่าคุณยุนอานั่นจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงพวกเราจริงๆเหรอครับ”
แบคฮยอนว่า
“ไม่หรอก จะเปลี่ยนได้ไงล่ะ ในเมื่อพวกเราก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร เธอแค่เข้ามาเพื่อสร้างจุดเด่นให้เราเท่านั้นเอง แต่จะให้เธอมาอยู่กับพวกเราเนี่ยสิ...ผู้หญิงกับผู้ชายเนี่ยนะ”
“โธ่ ไม่มีอะไรหรอกฮยอง อย่างน้อยคุณยุนอาที่ว่าก็อาจจะรุ่นราวคราวเดียวกับแม่พวกเราหรือบางทีอาจจะเป็นป้าของพวกเราเลยก็ได้นะ เห็นฮยองบอกว่าเธอทำงานเก่งก็น่าจะมีประสบการณ์สูง อายุก็คงมากแล้ว
แหล่ะ ฮ่าๆๆ ไม่มีอะไรเสียหายหรอก(จำคำพูดของแบคฮยอนไว้ให้ดี : ไรเตอร์)”
“ฮ่าๆๆ ก็อาจจะจริงของนาย”
“ฮ่าๆๆ อาจุมม่ายุนอา เธอคงจะเป็นคุณป้าที่แนวมากๆเลยล่ะฮะ ฮ่าๆๆๆๆ”
แบคฮยอนจะรู้มั๊ยนะ ว่าสิ่งที่เค้าคิดมามันผิดมหันต์เลยล่ะ เพราะยุนอาเองก็อายุมากกว่าพวกเขาไม่กีปีเท่านั้นเอง ถ้าแบคฮยอนรู้ว่าจากอาจุมม่าที่เค้าคิดเปลี่ยนเป็นนูน่า เค้าจะทำหน้ายังไงนะ??
“ยังไงก็บอกเจ้าชานยอลด้วยละกันนะ เดี๋ยวฉันบอกเซฮุนเองแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เราไปซื้อของมาต้อนรับคุณยุนอากัน ไหนๆเค้าก็จะมาดูแลพวกเรา”
แบคฮยอนพยักหน้ารับรู้ก่อนที่เขาจะหันไปสนใจเกมส์ในมือต่อ ส่วนจุนมยอนก็เดินเข้าห้องไปเพื่อทำธุระส่วนตัว ไม่นานชานยอลกับเซฮุนก็กลับมาที่หอ
“ขอบคุณนะครับ ชานยอลฮยองที่พาผมไปซื้อชานมไข่มุก ผมล่ะงอนคยองซูฮยองจริงๆ ไม่รู้เป็นอะไรวันนี้ไม่ยอมไปซื้อชานมด้วย ยังไงผมขอตัวก่อนละกันนะครับ เหนียวตัวมากๆเลย ไปละฮยอง พรุ่งนี้เจอกัน”
เซฮุนเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าเจ้าเล่ห์เล็กน้อยถึงปานกลาง ที่ใครเห็นต้องตกหลุมรักอย่างแรงจนโงหัวไม่ขึ้น พูดกับชานยอลเด็กหนุ่มผู้ที่มีรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ที่เรียกได้ว่าเมื่อเค้ายิ้ม ฟันทั้ง 32 ซี่จะออกมาปรากฏตัวทันที
“โอเค ไว้เจอกัน”
ชานยอลพูดก่อนที่จะหันมาดูแบคฮยอนที่กำลังเล่นเกมส์อย่างเมามันส์
“แบคฮยอน เล่นมั่งสิ”
“เอาสิๆ ดีเลยงั้นเรามาแข่งกัน นายแพ้ฉันแน่นอน ฮ่าๆๆ”
แบคฮยอนพูดและหยิบจอยสติ๊กให้กับชานยอล นี่เค้าลืมสนืทเลยว่าต้องบอกชานยอลเรื่องที่จะมีคนดูแลคนใหม่มาอยู่กับพวกเขา ทั้งสองเล่นเกมส์กันผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะแต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบคฮยอนที่ชนะมากกว่า (ช่วยบอกชานยอลซักนิดว่าวันนี้ซูโฮพูดอะไร : ไรเตอร์)
ภายในห้องนอนของคยองซูและจงอิน
จงอินกำลังนั่งฟังเพลงอยู่บนเตียงในขณะที่คยองซูกำลังจัดเสื้อผ้าที่เพิ่งส่งซักเข้าตู้ คยองซูพยายามนึกวิธีที่จะพูดกับจงอินให้เค้าเข้าใจเรื่องของยุนอาที่จะเข้ามาดูแลว่าเธอคงไม่ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงอะไรพวกเขาเพียงแค่เธอจะเข้ามาช่วยให้พวกเขามีเอกลักษณ์และง่ายต่อการจดจำของแฟนๆก็เท่านั้น
“อืม จงอิน เอาตะกร้าผ้าของนายมาสิ เดี๋ยวฉันเก็บใส่ตู้ให้”
ดูเหมือนจงอินจะไม่ได้ยิน เพราะเค้ากำลังฟังเพลงอยู่นั่นเอง ทำให้คยองซูผู้เรียบร้อยและน่ารักต้องโยนอะไรบางอย่างใส่จงอินที่ไม่ได้สนใจอะไรเลย จงอินถอดหูฟังออกก่อนจะมองหน้าคยองซูอย่างงงๆ
“ว่าไงครับ ฮยอง”
“ฉันบอกว่าเอาตะกร้าผ้านายมาสิ ฉันจะเก็บใส่ตู้ให้”
“อ้อ ไม่เป็นไรครับฮยอง เดี๋ยวผมทำเอง ฮยองจะไปทำไรก็ไปเถอะครับ”
ดูเหมือนว่าจงอินจะพูดกับคยองซูมากเป็นพิเศษเพราะเค้านับถือและไว้ใจคยองซูเหมือนกับพี่ชายแท้ๆคนหนึ่ง(แต่นอกเรื่องจิ้นไคโด้นะ : ไรเตอร์) จริงๆแล้วจงอินไม่ใช่คนเงียบขนาดนั้น แค่เค้าไม่รู้ว่าจะพูดอะไรก็เท่านั้นเองเพราะบางทีที่เค้าพูดอะไรออกมามันก็ทำให้หลายๆคนถึงกับสะดุด เค้าเลยเลี่ยงไม่พูดซะดีกว่า ในขณะที่จงอินกำลังจะสวมหูฟังอีกครั้ง คยองซูก็พูดขึ้นมาก่อนว่า
“เรื่องคุณยุนอาน่ะ...ฉันขอได้มั๊ยจงอิน ฉันอยากให้นายลองเปิดใจดูว่าเธอเข้ามาช่วยพวกเราไม่ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงอะไรพวกเราหรอก”
จงอินได้ยินดังนั้นเลยถอนหายใจก่อนจะล้มตัวลงบนเตียง
“เอาเป็นว่าผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดละกันนะครับ”
“ฉันเข้าใจนะว่านายอาจจะยังติดภาพเก่าๆอยู่ แต่เรื่องมันก็จบไปแล้วและไม่มีใครจะมาเปลี่ยนแปลงอะไรเราทั้งนั้น เชื่อฉันเถอะน่ะ”
คยองซูพูดก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้จงอินได้คิดอะไรบางอย่างกับตัวเองก่อนที่จงอินจะหลับลงอย่างหมดแรง ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่เค้าเจอทั้งนั้น แม้กระทั่งคยองซู...
“นายต้องหัดร้องเพลงด้วยสิ แค่เต้นอย่างเดียวมันจะไปพออะไร”
“ยิ้มเป็นบ้างมั๊ย”
“คิดเหรอว่าแค่เต้น จะทำให้คนเค้าสนใจนายได้”
“อย่าเป็นตัวถ่วงของวงไปหน่อยเลย”
“นายมันโง่ที่สุดเลยจงอิน ถ้ายังไม่ทำตามที่ฉันบอกฉันจะเสนอไปทางบริษัทให้ถอดชื่อนายออกจากการเป็นศิลปินฝึกหัด รับรองอนาคตนายดับวูบแน่”
“แค่เปลี่ยนแปลงนิดๆหน่อยๆมันจะตายหรือไง”
“คิดว่าทุกคนเค้าง้อนายเหรอ นายมันก็แค่ขยะ แค่เต้นได้ไม่ได้หมายความว่านายจะเป็นศิลปินได้”
ภาพเก่าๆที่เค้าเจอในอดีตปรากฏขึ้นในความฝัน เหล่าผู้ดูแลที่คอยพูดตัดกำลังใจคอยเสียดสีต่างๆนานาค่อยๆผุดขึ้นจนทำให้จงอินสะดุ้งตื่น เค้ามองไปที่นาฬิกา เพิ่งจะตีสี่ครึ่ง เค้ามองไปที่คยองซูซึ่งกำลังหลับไหลอยู่บนเตียงที่ตั้งอยู่อีกด้านนึงของห้อง ทั้งๆที่เรื่องมันก็จบไปตั้งนานแล้วแต่ทำไมมันยังตามมาหลอกมาหลอนเค้าจนได้นะ จงอินสะบัดหัวเพื่อไล่ความคิดนั่นทิ้งไป ดูเหมือนว่าเค้าจะนอนไม่หลับซะแล้วล่ะ จงอินเดินออกมาจากห้องอย่างเงียบๆ เพราะคยองซูนอนหลับอยู่นั่นเอง เค้าเดินออกมาที่ห้องนั่งเล่นซึ่งเปิดไฟอยู่ ก่อนที่จะนั่งลงบนโซฟา
“ทำไมทุกคนจะต้องยัดเยียดในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนของฉัน”
เขาพึมพำกับตัวเอง
7:00 เช้าวันอาทิตย์
จุนมยอนตื่นขึ้นมาและเดินออกมาปลุกทุกคนเพื่อจะไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต คยองซูและแบคฮยอนเดินออกมาด้วยความงัวเงีย
“รีบไปอาบน้ำแต่งตัวกันเลย วันนี้คุณยุนอาจะมา เราต้องเลี้ยงต้อนรับเธอหน่อย อ้าวแล้วเจ้าชานยอลยังไม่ตื่นอีกเหรอ”
“หลับเป็นตายเลยล่ะครับฮยอง ปล่อยเจ้านั่นไปเถอะ ปลุกให้ตายก็ไม่ตื่น”
แบคฮยอนว่าก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไปหลังจากที่เซฮุนออกมา
“จุนมยอนฮยอง เห็นจงอินมั๊ยครับ”
คยองซูถามจุนมยอน
“อ้าว ไม่ได้อยู่ในห้องเหรอ”
“เปล่าครับ ผมตื่นมาก็ไม่เห็นเค้าแล้ว”
“ไปไหนของเค้านะ เอาเถอะเดี๋ยวก็คงกลับมา อาจจะไปซ้อมเต้นก็ได้มั้ง”
“แต่นี่เพิ่งจะ 7 โมงครึ่งและที่สำคัญวันอาทิตย์บริษัทไม่เปิดนะฮะ”
เซฮุนพูดขึ้นมาบ้าง
“นั่นสินะ เอาเถอะอาจจะออกไปทำธุระ”
“งั้นเดี๋ยวผมลองโทรหาเค้าดูก็ได้ฮะ คยองซูฮยองไปอาบน้ำเถอะฮะ ไม่รู้ว่าคุณยุนอาจะมาถึงเมื่อไหร่”
เซฮุนพูดก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์โทรหาจงอิน ส่วนคยองซูก็เดินเข้าห้องน้ำอีกห้องไปแต่ก็ไม่วายเป็นห่วงจงอินอยู่ดีเพราะปกติจะไปไหนมาไหน จงอินจะต้องบอกเขาเสมอ เซฮุนโทรหาจงอิน แต่ไม่มีคนรับสายเลย เค้าเลยเดินเข้าไปดูในห้องนอน ปรากฏว่าจงอินไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป
“จุนมยอนฮยอง จงอินไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปนะฮะ”
จุนมยอนถอนหายใจออกมา เค้าเองก็เป็นห่วงจงอินไม่น้อย เค้าพอจะเข้าใจที่จงอินเป็นแบบนี้อาจเป็นเพราะยังไม่ยอมรับที่จะมีคนดูแลคนใหม่เข้ามา
“อืม...ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเจ้านั่นก็กลับมา”
“ฮยองว่าจงอินจะคิดมากเรื่องคนดูแลคนใหม่หรือเปล่าฮะ”
“ฉันเองก็ไม่รู้แฮะ ได้แต่หวังว่าคุณยุนอาจะรับมือกับความเย็นชาของเจ้านั่นได้ก็เท่านั้น”
จุนมยอนพูดกับเซฮุน ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่ค่อยสนิทกับจงฮุนมากนักแต่เค้าก็รักจงอินเหมือนกับน้องคนหนึ่งและหวังดีกับจงอิน อยากให้จงอินเลิกเป็นคนเก็บตัวและปิดกั้นการเปลี่ยนแปลง แม้บางทีเค้าจะหัวเสียบ้างก็ตามที่จงอินพยายามแยกตัวออกไปและทำให้หลายๆคนเป็นห่วง...
หลังจากที่ทุกคนแต่งตัวเรียบร้อย พวกเค้าก็ออกไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตกัน ปล่อยให้ชานยอลที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับคนที่จะมาดูแลคนใหม่นอนหลับอุตุอยู่ในห้อง
‘ติ๊งต่อง’
เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น แต่เค้าก็ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าเดี๋ยวก็มีคนอื่นไปเปิด แต่ดูเหมือนเสียงนั่นยังดังอยู่เรื่อยๆ
“แบคฮยอนไปดูซิใครมาแต่เช้า”
ชานยอลพูดทั้งๆที่หลับตาโดยที่ไม่รู้เลยว่าที่หอไม่มีคนอยู่
‘ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง’
เสียงนั่นยังดังขึ้นอยู่เรื่อยๆทำให้ชานยอลต้องลุกขึ้นมาด้วยความหงุดหงิดและกำลังจะอาละวาดแบคฮยอนที่ไม่ยอมตื่นไปดู แต่เมื่อลุกขึ้นมาเค้าก็พบว่าไม่มีแบคฮยอนอยู่บนเตียง
“อ้าว ไปไหนนะ ฮ้าวว แล้วใครมาแต่เช้าเนี่ย รู้มั๊ยว่ากำลังฝันดี ขัดหมดเลย ฉันกำลังจะได้จุ๊บๆกับนางฟ้าแสนสวย โอ๊ยหงุดหงิด”
ชานยอลบ่นอุบก่อนที่จะเดินออกมาหน้าบ้านและเปิดประตูรั้ว ภาพที่เค้าเห็นคือผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนหันหลังให้เค้า
“มาหาใครแต่เช้าครับ”
ทันทีที่ผู้หญิงคนนั้นหันมา เค้าก็ต้องตกตะลึงในความน่ารักของเธอ
“สวัสดีจ้า”
“เห้ยย!!! นี่มันนางฟ้านี่...”
เค้ารีบปิดประตูรั้วก่อนที่จะตบหน้าตัวเองอย่างแรงให้แน่ใจว่าไม่ได้ฝันไป เสียงนั่นมันช่างหวานจับใจเขาเสียเหลือเกิน......
เม้นท์เป็นกำลังใจซักนิดแล้วจะรีบมาอัพต่อให้นะค้า ^^
ความคิดเห็น