คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 2 จุดเริ่มต้นของความวุ่นวาย...
“อ๊ายยย ให้ตายสิยุนอา วันนี้เราต้องนำเสนอ story board ของ Girls generation ไม่ใช่ของ Super Junior โดนหัวหน้าดุเลย ทำไมถึงขี้ลืมอย่างนี้”
เสียงบ่นของอิมยุนอา หญิงสาวร่างบางที่กำลังหอบของพะรุงพะรัง เดินกลับมาที่โต๊ะทำงานอย่างเซ็งๆ เธอวางของลงก่อนที่จะนั่งลงที่เก้าอี้อย่างหมดแรง...
“นี่ๆ ฉันได้ยินมาว่าท่านประธานคนใหม่เจอของดีเข้าแล้ว”
เสียงของเยริม เพื่อนร่วมงานโต๊ะข้างหลังดังขึ้นทำให้เธอต้องหันไปมอง
“ทำไมเหรอ/เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ”
ดูเหมือนว่าประโยคๆนั้นทำให้นอื่นๆในห้องต่างให้ความสนใจ แน่นอนล่ะ เพราะนี่คือเรื่องของท่านประธานคนใหม่ที่กำลังเป็นที่จับตามองตอนนี้
“เห็นว่าวันนี้มีประชุมเรื่องโปรเจคต์ของเด็กกลุ่มที่กำลังจะเดบิวท์แล้วท่านประธานดันไปขัดคอมิสเตอร์คิมเข้า ใครๆก็รู้ว่ามิสเตอร์คิมเป็นหุ้นส่วนบริษัทที่ซัพพอร์ททางด้านการเงินอยู่ อีกอย่างนะฉันได้ยินมาว่าคุณคริสสุดที่รักของฉัน ก็ดันเห็นดีเห็นงามกับท่านประธานด้วย”
ยุนอาตั้งใจฟังถึงแม้ว่าจะไม่ได้เข้าไปร่วมในวงสนทนาก็ตาม ตอนนี้สีหน้าเธอเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด จากเหนื่อยกลายเป็นตื่นตัว เมื่อสิ่งที่บรรดาเพื่อนร่วมงานพูดถึงมันเป็นเรื่องของพี่สาวเธอ
“บ้าเหรอแก ที่ฉันได้ยินมาน่ะ คุณคริสเป็นคนเสนอไอเดีย แต่มิสเตอร์คิมไม่เห็นด้วยต่างหาก”
“เหรอ จะยังไงก็ช่าง แต่สุดท้ายท่านประธานก็มีปัญหากับมิสเตอร์คิมนี่นา ไงล่ะ เข้ามาทำงานวันเดียวก็ได้เรื่อง มีปัญหากับหุ้นส่วนใหญ่เลยนะ อีกอย่างเธอควรจะเป็นคุณหนูอยู่ที่บ้านมากกว่า หรือว่าถ้าจะมาทำงานก็ควรจะเริ่มจากตำแหน่งเล็กๆแบบพวกเราก่อนสิ ฉันว่าถ้าไม่ได้เส้นของท่านประธานใหญ่ ยัยคุณหนูซูยอนอะไรนั่น ไม่มีทางได้ขึ้นมาบริหารหรอก ชิ”
ปั้ง!!!!!
เสียงตบโต๊ะของอิมยุนอาดังขึ้นก่อนที่เธอจะหันมามองเหล่าเพื่อนร่วมงานช่างเมาท์ของเธอ
“ไม่มีงานทำกันเหรอถึงได้มานั่งนินทาเจ้านาย ระวังไว้เหอะซักวันหัวจะหลุดออกจากบ่าไม่รู้ตัว และอีกอย่างนะ ฉันว่าท่านประธานใหญ่มีวิสัยทัศน์พอและท่านต้องมั่นใจในตัวคุณซูยอนมาก ถึงได้ให้ขึ้นมาบริหารงาน คุณซูยอนเธอจบด้านการบริหารมานะ เรื่องแค่นี้ไม่ยากสำหรับเธอหรอก เอาเวลานั่งเมาท์คนอื่นไปนั่งหาวิธีจัดการกับปัญหาตัวเองเถอะนะ ฉันขอร้องล่ะ”
ยุนอาพูดออกมาอย่างอารมณ์เสีย ก็แน่ล่ะใครมาว่าพี่สาวของตัวเองก็ต้องโมโหกันทั้งนั้น บรรดาเพื่อนร่วมงานช่างเมาท์เมื่อได้ยินเช่นนั้น ต่างก็เบ้ปากหนี บ้างก็ทำปากขมุบขมิบเป็นการล้อเลียน
“เป็นเดือดเป็นร้อนแทนกันจริงๆเลยนะ เธอเป็นญาติเค้ารึไง ถึงได้ทำตัวเหมือนรู้ไปซะทุกอย่าง”
เยริม พีอาร์สาวที่เริ่มตั้งวงเมาท์พูดขึ้น
“จริงๆ ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรกับท่านประธานหรอก แต่ฉันแค่คิดว่าเอาเวลานั่งเมาท์ชาวบ้านไปสร้างสรรค์อะไรดีๆให้สังคมดีกว่า มัวแต่จะหาเรื่องทำลายคนอื่นระวังผลมันจะย้อนเข้าตัวเอง”
เธอหันมาพูดด้วยสีหน้าเอือมระอาสุดๆ
“หนอยย ยัย...”
“อ๊ะๆ นี่ฉันเตือนด้วยความหวังดีนะ เก็บปากเธอไว้ทำงานที่สร้างสรรค์เถอะ ถึงเธอด่าฉัน ฉันก็ไม่เจ็บใจหรอกเพราะฉันจะไม่อยู่ให้เธอด่า ยังไงมีอะไรเขียนโน้ตแปะไว้ เดี๋ยวฉันกลับมาอ่าน โอเค๊”
ยังไม่ทันที่เยริมจะได้หลุดปากด่า ยุนอาก็สวนออกมาก่อน ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้คู่กรณีเต้นเร่าๆอยู่ในห้องด้วยความเจ็บใจ...
Rrr Rrr
เสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น และเมื่อเห็นว่าเบอร์นั่นเป็นเบอร์ของพี่สาว เธอจึงกดรับอย่างไม่ลังเล
“ฮัลโหลค่ะพี่ใหญ่...ค่ะ..ฉันอยู่ที่บริษัทแล้ว....ฉันรู้เรื่องหมดแล้วล่ะค่ะแต่ยังไม่รู้ว่าความจริงเป็นยังไง เอาไว้ฉันขึ้นไปหาแล้วพี่ค่อยเล่าให้ฉันฟังก็ได้ค่ะ”
ยุนอากดวางสาย ซูยอน เธอจำเป็นต้องเรียกซูยอนว่าพี่ใหญ่ เพื่อที่จะได้ไม่มีใครรู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเธอ เธอเดินมาหน้าห้องของประธานผู้บริหาร ในขณะเดียวกันยูริก็กำลังจะกดโทรศัพท์ตามเธอ
“อ้าว คุณยุนอามาพอดี ฉันกำลังจะโทรไปตามพอดีเลยค่ะ ท่านประธานอยากพบคุณน่ะค่ะ”
ยูริพูดก่อนที่จะลุกไปเปิดประตูห้องให้ยุนอา
“ขอบคุณมากนะคะ คุณยูริ”
ยูริยิ้มให้เธอและบอกให้ซูยอนรู้ว่ายุนอามาถึงแล้ว
“ท่านประธานคะ คุณยุนอามาถึงแล้วค่ะ”
เธอว่าและเชิญให้ยุนอาเข้าไปในห้องก่อนที่จะกลับไปนั่งทำงานต่อ ยุนอาเดินเข้ามานั่งบนโซฟาที่แสนจะนุ่มสบาย ในขณะที่ซูยอนกำลังดูเอกสารอะไรบางอย่าง
‘ห้องทำงานของผู้บริหารนี่ดีจริงเลยแฮะ โซฟาก็นุ่มน่านอนชะมัด’
“สวัสดีค่ะท่านประธาน ฉันมารายงานตัวแล้วนะคะ”
ยุนอาพูดเป็นเชิงล้อเลียน แต่ซูยอนกลับไม่สนุกด้วย
“ไม่ขำเลยนะยุนอา ให้ตายเถอะ พี่จะทำมันได้รึเปล่าเนี่ย มาวันแรกก็งานเข้าเลย โอเอ็มจี เฮ้อ คุณพ่อต้องผิดหวังในตัวพี่มากแน่ๆ”
ซูยอนพูดด้วยสีหน้าเครียดๆ
“โธ่ ออนนี่ อย่าเครียดสิคะ เดี๋ยวแก่เร็วไม่รู้ด้วยนะ ไหนเล่าให้ฉันฟังหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้น”
ซูยอนลุกจากโต๊ะทำงานก่อนที่จะเดินมานั่งข้างๆยุนอาและเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในห้องประชุมวันนี้ให้เธอฟังเพียงคร่าวๆ ซูยอนเล่าเรื่องโปรเจคต์ใหม่แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก เพราะเธอเองก็ต้องรอคริสมาอธิบายรายละเอียดแก่เธอในที่ประชุมอีกครั้ง
“เรื่องมันก็เป็นแบบนี้นี่แหล่ะ พี่ควรจะทำยังไงดียุนอา ให้ทำไงได้ล่ะ พี่ไม่ชอบให้ใครมาว่าน้องสาวของพี่นี่นา เธอก็รู้ใช่มั๊ยว่าตั้งแต่ซูจองไปอยู่อเมริกา เราก็เหลือกันแค่ 2 คนพี่น้อง แล้วยิ่งมิสเตอร์คิมมาพูดแบบนี้มันเท่ากับดูถูกเธอชัดๆ ยุนอาของพี่เก่งจะตาย แต่ว่าเราจะทำยังไงต่อไปดีล่ะทีนี้ เรา 3 คนรับมือไม่ไหวแน่ๆ ทำโปรเจคต์ยักษ์แบบนี้”
ซูยอนบ่นออกมาอย่างอดไม่ได้
“เฮ้อ ทำไงได้ล่ะคะ เออ ว่าแต่เรา 3 คนนี่อย่าบอกนะว่าออนนี่เหมารวมฉันไปแล้ว”
“ก็ใช่น่ะสิ มีพี่ คุณคริส และเธอ”
“อะไรกันคะ ที่ออนนี่เล่ามาคุณคริสเค้าแค่เสนอชื่อฉันเองนะ”
“มันก็ใช่ แต่พอเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ยังไงเธอก็ต้องทำ นะยุนอาอ่า พี่ไม่ยอมให้ใครมาสบประมาทเธอหรอกนะ ยังไงเราต้องช่วยกัน เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ เธอจะไม่ช่วยพี่สาวที่น่ารักคนนี้หน่อยเหรอ นะนะนะ น้องสาวสุดที่รักของพี่ เธอต้องช่วยพี่น้า~”
ซูยอนอ้อนยุนอา ทั้งทำท่าทางน่ารักก่อนจะส่งสายตาอ้อนวอนสุดฤทธิ์ สายตาแบบนี้ใครเห็นเป็นต้องจอดทุกราย ก็สายตาของซูยอนช่างเหมือนกับเด็กที่กำลังอ้อนขอของเล่นจากพ่อแม่ และมันก็ได้ผลกับยุนอาซะด้วยสิ ยุนอามักจะใจอ่อนเมื่อพี่สาวของเธอส่งสายตาแบบนี้มาให้
“ค่ะๆๆ ก็ได้ค่ะ ว่าแต่ฉันต้องทำยังไงบ้าง อยู่ๆมาบอกให้ฉันไปทำงานทั้งๆที่ไม่รู้รายละเอียด ฉันทำไม่ถูกหรอกนะคะ”
“ว้าว เยี่ยมไปเลย ขอบใจมากนะน้องสาวของพี่ พี่รักเธอที่สุดเลย”
ซูยอนดีใจมากที่ยุนอาตอบตกลง เธอสวมกอดน้องสาวอย่างดีใจ ในขณะเดียวกันยูริก็เปิดประตูเข้ามาพอดี ทำให้ทั้งคู่ต้องรีบผละออกจากกันเพื่อไม่ให้ใครสงสัย ด้วยไหวพริบของยุนอาเธอจึงแกล้งเบี่ยงเบนความสนใจถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่ายูริเป็นคนนิสัยดีและเก็บความลับเก่งตามแบบฉบับของเลขาทั่วๆไป แต่เธอก็ไม่อยากให้ใครรู้ในความสัมพันธ์ของพวกเธอทั้งสองอยู่ดี
“ได้เลยค่ะท่านประธาน ยังไงรายละเอียดต่างๆ ฉันจะติดต่อไปที่คุณคริสเองนะคะ”
“เอ่อ ท่านประธานคะ คุณคริสขอพบนะค่ะ เห็นว่าจะคุยเรื่องโปรเจคต์เปิดตัวศิลปินต่อ เพราะเกรงว่าจะไม่ทันกำหนดน่ะค่ะ”
“อ่อ ให้เข้ามาสิ งั้นคุณยุนอาก็อยู่ฟังด้วยกันตรงนี้ก็ได้ค่ะ ถือซะว่าประชุมไปเลย ยังไงรบกวนคุณยูริจัดของว่างให้ทั้งสองคนด้วยนะคะ”
“ค่ะ”
ยูริพูดและเดินออกไปพร้อมกับคริสที่เดินเข้ามาในห้องทำงานของซูยอน
“สวัสดีอีกครั้งครับท่านประธาน สวัสดีครับคุณยุนอา”
“สวัสดีค่ะ/สวัสดีค่ะ”
สองสาวตอบพร้อมกันก่อนที่ซูยอนจะเชิญให้คริสนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับเธอและยุนอา คริสรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเพราะว่าซูยอนนั่งฝั่งเดียวกับยุนอาทั้งๆที่ความจริงแล้วทั้งสองคนควรจะนั่งฝั่งตรงข้ามกันหากต้องคุยงาน แถมทั้งสองคนยังนั่งติดกันไม่เผยให้เห็นระยะห่างระหว่างเจ้านายและลูกน้องเลย
“คือว่าผมต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ท่านประธานลำบากใจเรื่องการประชุมวันนี้ เป็นเพราะความสะเพร่าของผมเองที่ไม่ได้คิดให้ดีก่อน...”
“ช่างมันเถอะค่ะ อย่าลืมสิคะว่าฉันเห็นด้วยกับสิ่งที่คุณนำเสนอ อีกอย่างคุณยุนอาเองก็ตกลงที่จะทำงานนี้ด้วย ใช่มั๊ยคะคุณยุนอา”
ซูยอนพูดก่อนที่จะหันไปมองยุนอาและส่งยิ้มให้
‘แปลกจริง ทั้งสองคนเพิ่งเคยเจอกันแต่ทำไมดูเหมือนสนิทกันเร็วขนาดนี้’
ชายหนุ่มคิด ในขณะที่ยุนอาก็ยิ้มและพยักหน้ารับ
“ค่ะ ยังไงก็ตามฉันต้องขอบคุณคุณคริสมากนะคะ ที่อุตส่าห์เสนอชื่อฉันในที่ประชุม”
“ครับ ผมเชื่อว่าคุณยุนอามีความสามารถมากพอที่จะรับผิดชอบเรื่องนี้ และที่สำคัญผลงานที่ผ่านมาของคุณก็ทำให้ศิลปินหลายกลุ่มได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ผมจึงมองไม่เห็นคนอื่นที่จะมาทำหน้าที่นี้เลยถ้าไม่ใช่คุณยุนอา”
คริสตอบยุนอาแต่ว่าสายตาของเขากลับมองไปที่ซูยอนซึ่งไม่ได้รู้ตัวเลยว่าโดนมอง เพราะมัวแต่ยิ้มชื่นชมน้องสาวของตัวเองอยู่แต่พอเมื่อเธอหันมามองคริสเธอก็ต้องรีบหลบสายตาเพราะคริสยังมองเธออยู่นั่นเอง
“เออ คือว่างั้นเรามาเริ่มกันเลยดีมั๊ยคะ เรื่องรายละเอียด”
ซูยอนพูดขึ้น คริสเริ่มอธิบายรายละเอียดให้ทั้งสองฟังและซูยอนก็ตกอยู่ในภวังค์อีกครั้ง ยุนอาตั้งใจฟังมากเป็นพิเศษเพราะนี่คืองานที่เธอจะต้องลบคำสบประมาทของเธอออกไปให้ได้ เธอรู้อยู่แล้วว่ามิสเตอร์คิมไม่ค่อยชอบเธอเท่าไหร่เพราะว่าครีเอทีฟคนเก่าที่เคยรับผิดชอบเรื่องการออกแบบต่างๆให้กับบริษัทเป็นหลานชายของมิสเตอร์คิม แต่พอเธอเข้ามาทำงานและผลงานของเธอเป็นที่น่าพอใจแก่ผู้บริหารระดับสูงหลายๆคนจึงทำให้หน้าที่นี้กลายเป็นของเธอโดยปริยาย ส่วนหลายชายของมิสเตอร์คิมรับไม่ได้ที่แพ้ให้แก่เด็กอย่างเธอจึงชิงลาออกไปเปิดบริษัทของตัวเองแต่ก็ไปได้ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นัก เรื่องนั้นเธอเองก็ไม่รู้อะไรมากแต่สิ่งที่รู้อย่างเดียวคือมิสเตอร์คิมไม่ชอบเธอ
****(ขยายให้เข้าใจมากขึ้น : มิสเตอร์คิมเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทและเป็นคนให้เงินทุนกับเหล่านักออกแบบรวมถึงซัพพอร์ทด้านอุปกรณ์ต่างๆแก่ SM Production เรียกง่ายๆว่าถ้าบริษัทนี้ไม่มีซูยอนเป็นผู้บริหาร มิสเตอร์คิมนี่แหล่ะที่จะขึ้นมาบริหารบริษัท SM Production เสียเอง แต่ติดที่ว่าซูยอนขึ้นมาบริหารแทนคุณอาของเธอที่เพิ่งลาออกไปด้วยเรื่องส่วนตัวทำให้มิสเตอร์คิมไม่มีแม้แต่โอกาสเพราะสิทธิ์การตัดสินใจทุกอย่างเป็นของประธานจอง พ่อของจองซูยอนนั่นเอง และสาเหตุนี้ทำให้มิสเตอร์คิมพยายามขัดขวางทุกอย่าง เพียงแค่ให้โปรเจคต์นี้เละ เหล่าผู้บริหารคนอื่นๆก็จะมีสิทธิ์ประท้วงให้ดึงซูยอนลงจากตำแหน่งและเขาเองก็จะได้ขึ้นบริหารเองจริงๆเสียที ซึ้งตอนนี้เป็นโอกาสของเขาที่จะทำให้แผนสำเร็จ เพราะตอนนี้ซูยอนไม่มีคนหนุนหลัง ประธานจองเดินทางไปเยี่ยมลูกสาวคนเล็กหรือซูจองที่อเมริกา กว่าจะกลับก็เดือนหน้าซึ่งเป็นเวลาที่มากพอที่จะทำให้ความฝันของมิสเตอร์คิมเป็นจริง>>เลวอ๊ะ!!)****
“รายละเอียดทั้งหมดก็ประมาณนี้ล่ะครับ ถ้าคุณยุนอาพร้อมพรุ่งนี้เราก็เริ่มได้เลย ผมจะพาคุณไปรู้จักกับเด็กๆ คุณยุนอาอายุเท่าไหร่นะครับ”
“23 ค่ะ”
“งั้นทุกคนก็เป็นน้องของคุณทั้งหมด และนี่คือพวกเค้าทั้ง 6 คนครับ”
คริสยื่นเอกสารให้กับยุนอาและซูยอนดู ยุนอาเปิดดูด้วยความสนใจ เธอจะต้องหาจุดเด่นของเด็กๆเหล่านี้ให้ได้ คนแรกชื่อซูโฮ หน้าตาหล่อเหลาเอาการ เป็นน้องเธอแค่ 1 ปี คนที่สองชื่อแบคฮยอน ตามมาด้วยชานยอล คยองซู จงอิน และเซฮุนตามลำดับ ทุกคนดูมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองมากๆ
“พวกเค้าเด็กจังเลยนะคะ แสดงว่าต้องฝึกหัดกันตั้งแต่เด็กๆเลยทีเดียว”
“ใช่ครับ ถึงแม้ว่าอายุจะน้อยแต่เรื่องความสามารถไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับ ขอแค่
คุณยุนอาดึงจุดเด่นของพวกเค้าออกมาผสมกับพรสวรรค์ในแต่ละด้านก็พอ”
“ค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะทำให้สุดความสามารถเพื่อบริษัทของเราเลยล่ะค่ะ”
ยุนอาตอบก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“ถ้าเป็นไปได้ พรุ่งนี้พาฉันไปเจอพวกเค้าเลยก็ได้ค่ะ จะได้เป็นการทำความรู้จักและสร้างความสนิทสนม เพราะการที่เราจะรู้จุดเด่นหรือคาแรคเตอร์ของเค้า เราจำเป็นต้องใกล้ชิดกับเค้า”
“ครับ ถ้าเป็นไปได้ วันนี้คุณยุนอากลับบ้านไปเก็บเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นเลยก็ได้นะครับ พรุ่งนี้ผมจะได้พาไปที่หอของพวกเค้าเลย”
คริสพูดในขณะที่ยุนอาตอบรับอย่างว่าง่าย แต่ก็ต้องไม่วายตกใจ
“ห๊ะ อะไรนะคะ ทำไมฉันต้องเก็บของด้วยล่ะคะ ฉันแค่ไปดูพวกเค้าไม่ใช่เหรอ”
“นั่นสิคะคุณคริส”
ซูยอนเองก็ตกใจไม่แพ้กันแต่ยังไม่ทันที่คริสจะได้ตอบอะไร โทรศัพท์ของเค้าก็ดังขึ้น
“เออ งั้นรบกวนทั้งสองอ่านเอกสารที่ผมแนบไว้กับข้อมูลของเด็กแต่ละคนอีกรอบนะครับ ผมของตัวไปรับโทรศัพท์ซักครู่ ขอโทษด้วยนะครับ สายนี้ด่วนจริงๆ ขอโทษที่เสียมารยาทครับ”
คริสพูดก่อนที่จะเดินออกไปข้างนอก ปล่อยให้ยุนอาและซูยอนมองหน้ากันอย่างงงๆและก้มลงอ่านเอกสารอีกรอบ
-เราจำเป็นต้องให้ครีเอทีฟเข้ามาดูแลเด็กฝึกหัดตลอด 24 ชม. เพื่อศึกษาการใช้ชีวิตของเด็กแต่ละคนทั้งเวลาทำกิจกรรมต่างๆหรือแม้กระทั่งการอยู่ร่วมกันภายในหอ โดยที่ครีเอทีฟจะคอยทำหน้าที่ดูแลแทนผู้ดูแลศิลปินจริงๆ เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยและสนิทสนม เพื่อเด็กๆจะได้ให้ความไว้วางใจและเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาเอกลักษณ์ของแต่ละคน ครีเอทีฟควรอาศัยอยู่ที่หอเดียวกันกับเด็กฝึกหัดเพื่อดูพฤติกรรมต่างๆและง่ายต่อการทำงาน.....อ้างอิงจากหนังสือจิตวิทยาทั่วไป/การอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นและการเปิดเผยตัวตน
“ไม่นะคะออนนี่ ให้ฉันทำอะไรก็ได้แต่ไม่ใช่แบบนี้”
ยุนอาวางเอกสารก่อนจะส่ายหัวปฏิเสธ ในขณะที่ซูยอนอ่านบทความนั้นซ้ำไปมาหลายรอบ
“แต่พี่ว่าสิ่งที่คุณคริสยกมาประกอบมันค่อนข้างมีเหตุผลนะ พี่เคยอ่านหนังสือจิตวิทยาอยู่เล่มนึง เค้าบอกว่าถ้าเราต้องการให้ผู้อื่นเปิดเผยตัวตนของเค้าเราก็ต้องสร้างความไว้ใจให้พวกเค้า แล้วถ้าเธอไม่ไปอยู่ที่หอหรือไม่ไปใช้ชีวิตกับเด็กๆอ่ะ เค้าจะยอมเผยตัวตนให้เธอค้นหาลักษณะเด่นเหรอ”
ซูยอนยกเหตุผลขึ้นมาอธิบาย
“แต่ออนนี่คะ...”
“ไม่มีแต่นะจ๊ะน้องรัก ได้โปรดทำเพื่อพี่เถอะนะ” (ส่งสายตาหวานซึ้งอีกรอบ)
“โธ่ ออนนี่ ฉันยังไม่รู้จักพวกเค้าดีพอ อยู่ๆจะให้ฉันไปอยู่หอเดียวกันแถมยังต้องให้ฉันไปทำหน้าที่พี่เลี้ยงอีก ฉันไม่รับข้อเสนอนี้หรอกค่ะ แล้วออนนี่ไม่ต้องมาส่งสายตาแบบนี้อีกนะ มันไม่ได้ผลแล้วล่ะ”
ยุนอาพูดก่อนที่จะเอายกมือปิดตาตัวเองเพื่อไม่ให้เห็นสายตาพิฆาตของซูยอน
“ยุนอาอ่า เพื่อบริษัทนะ เธอเป็นความหวังเดียวของพี่ ไม่เห็นแก่พี่ก็เห็นแก่คุณลุงของเธอเถอะนะ ท่านคงต้องผิดหวังมากแน่ๆถ้าลูกสาวต้องมาทำงานนี้พังแถมหลานสาวยัง...”
ซูยอนอ้อนวอนแต่ยังพูดไม่ทันจบ ยุนอาก็แทรกเสียก่อน
“โอเคๆๆๆ พอเลยออนนี่ ยิ่งออนนี่พูดแบบนี้ฉันยิ่งรู้สึกผิดนะ ก็ได้ค่ะ ฉันจะทำ”
“ว้าววว จริงๆนะ ยุนอาของพี่น่ารักที่สุดเลย”
ซูยอนกอดน้องสาวสุดที่รักของเธอก่อนจะหอมแก้มยุนอาฟอดใหญ่(นี่ถ้าไม่ใช่พี่น้อง ฉันจิ้นไปไหนต่อไหนแล้ว : ไรเตอร์) และเป็นจังหวะเดียวกับที่คริสเปิดประตูเข้ามาพอดี ซึ่งยุนอากับซูยอนรีบผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว แต่ก็ช้ากว่าคริสที่เห็นภาพนั้นเต็มๆ เขาสงสัยในความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง แทนที่จะสงสัยแบบพี่น้องแต่พ่อเจ้าประคุณดันสงสัยแบบชู้สาว โอเอ็มจี!!!
“เอ่อ ขอโทษที่คุยโทรศัพท์นานไปหน่อย...นะครับ คิดว่าคุณทั้งคู่คงได้อ่าน...”
“ค่ะ เราอ่านมันซ้ำแล้ว ยังไงฉันฝากคุณคริสด้วยละกันนะคะ พรุ่งนี้คุณยุนอาจะไปที่หอเพื่อทำความรู้จักกับเด็กๆค่ะ”
ซูยอนพูดอย่างวางมาด ในขณะที่ยุนอากำลังวิตกและคริสกำลังสงสัย เรื่องราววุ่นๆกำลังจะเกิดขึ้น แต่จะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามได้ในตอนต่อไป....(เม้นท์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ : ไรเตอร์)
ความคิดเห็น