คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 10 แค่เปิดใจอะไรๆก็สดใสขึ้น+ชูซอกเป็นเหตุ^^
หอพัก
อากาศยามเช้าในช่วงปลายหน้าร้อนนี้ดีเหลือเกิน ต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม เสียงนกร้องและดอกไม้ที่บานสะพรั่ง มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความสดใส
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอจ้ะ”
ยุนอาทักขึ้นหลังจากที่จุนมยอนเดินออกมาจากห้องนอนตามด้วยเซฮุน
“อ๊ะ นูน่า มาได้ไงฮะ”
เซฮุนยิ้มดีใจที่เห็นยุนอา
“นั่นสิครับ เห็นเมื่อคืนคริสฮยองบอกว่านูน่าจะไม่กลับ”
“ก็นั่นมันเมื่อคืนนี่นา แต่วันนี้กลับมาแล้ว รีบปลุกคนอื่นแล้วก็อาบน้ำแต่งตัวเถอะจ้ะ เช้านี้พี่ทำมันบดราดน้ำเกรวี่หอมๆให้พวกเธอทานกัน แล้วยังมีน้ำพันช์ด้วยนะ”
ยุนอาพูดพลางยกเหยือกน้ำพันช์ขึ้นมาโชว์
“ฮะ เดี๋ยวผมไปปลุกเจ้าชานยอลก่อนดีกว่า เมื่อคืนฟูมฟายร้องหาแต่นูน่ายังกับเด็กๆ”
จุนมยอนพูดก่อนจะเดินเข้าไปที่ห้องของชานยอลและแบคฮยอน
“ผมคิดว่านูน่าจะไปที่บริษัทเลยซะอีก”
เซฮุนนั่งลงที่โต๊ะอาหาร เอ๊ะ โต๊ะอาหารงั้นเหรอ เค้าแปลกใจเล็กน้อย
“ที่หอมีโต๊ะอาหารตั้งแต่เมื่อไหร่...อย่าบอกนะฮะว่า...”
“ใช่แล้วจ้ะ พี่ซื้อมาเอง พวกเราจะได้ทานอาหารกันสบายๆไง เพราะหลังจากนี้พี่จะทำอาหารเช้าให้พวกเราทุกวัน ดีมั๊ยจ้ะ”
“ดีมากๆเลยล่ะฮะ....เออ...งั้นผมไปเตรียมตัวอาบน้ำก่อนนะฮะ”
เซฮุนยิ้มอย่างอายๆ เธอน่ารักกว่าที่เค้าคิดไว้เยอะ ถ้ายุนอาเป็นพี่สาวเค้าจริงๆก็ดีนะสิ เซฮุนคิดพร้อมกับเดินออกไป ในขณะที่ชานยอลวิ่งเข้ามาที่ครัวพร้อมกับแบคฮยอนอย่างตื่นเต้น
“ว๊ากก ยุนอานูน่าจริงๆด้วย”
ชานยอลยิ้มอย่างดีใจก่อนจะโผเข้าหายุนอาแต่ก็ไม่วายโดนแบคฮยอนดึงเสื้อไว้
“อย่าแม้แต่จะคิด...”
“อะไรกันแบคฮยอน ฉันแค่จะเข้าไปดูว่านูน่าทำอะไรอยู่ต่างหาก”
ชานยอลปฏิเสธทั้งๆที่ความจริงแล้วเค้าแทบจะโผเข้ากอดยุนอาด้วยซ้ำ ก็น่ารักขนาดนี้ใครจะอดใจไหวล่ะ
“ฮ่าๆๆ เห็นจุนมยอนบอกว่าเมื่อคืนเธอเอาแต่ร้องไห้หาพี่ จริงเหรอจ้ะ”
“จริงสิฮะนูน่า เจ้านี่นะร้องเสียงดังมากแม้กระทั่งตอนนอนก็ยังไม่เลิกร้อง ผมน่ะรำคาญมากๆเลยล่ะฮะ”
แบคฮยอนตอบยุนอา ทำให้เธอขำขึ้นมาส่วนชานยอลก็ไม่ยอมให้แบคฮยอนใส่ร้ายป้ายสีฝ่ายเดียว
“นายอย่ามาเว่อร์ไปหน่อยเลยแบคฮยอน เมื่อคืนนายก็สะอึกสะอื้นเหมือนกันแหล่ะน่า อีกอย่างตอนนอนฉันแค่หายใจเสียงดังต่างหากไม่ได้ร้องไห้ซะหน่อย ใครมันจะบ้านอนไปด้วยร้องไห้ไปด้วย ยกเว้นนายอ่ะ ก่อนนอนร้องยังกะลูกหมา 40 กว่ารอบกว่าจะนอนได้ ทำมาเป็นว่าฉัน แต่ช่างเหอะ ถึงยังไงเราก็รักกันเนาะ”
ชานยอลว่าก่อนจะเดินไปกอดคอแบคฮยอนทั้งสองยิ้มให้กันอย่างมีความสุข(กรี๊ดด ชานแบคโมเมนต์ : ไรเตอร์) ยุนอายิ้มออกมาอย่างมีความสุข ถึงแม้สองคนนี้จะหยอกล้อหรือแกล้งกันบ่อยๆแต่ก็รักกัน ดูจากรอยยิ้มที่ยิ้มให้กันมันช่างน่ารักซะเหลือเกิน
“โอเคๆ รีบไปอาบน้ำเถอะจ้ะ พี่ทำอาหารเสร็จแล้ว จะได้มาทานกัน”
“ผมก็อยากจะรีบอาบนะครับ แต่ตอนนี้เซฮุนใช้ห้องน้ำอยู่ คิวต่อไปก็เป็นจุนมยอนฮยองแล้วก็แบคฮยอน”
“อืม จริงสิ ตอนนี้เหลือห้องน้ำห้องเดียวแล้วนี่นา”
“งั้นตอนรอ ยุนอานูน่าออกไปเดินที่สนามหญ้าหน้าบ้านกับผมมั๊ยฮะ เมื่อวานนูน่าบอกว่าตื่นมาตอนเช้าๆ ถ้าได้เหยียบน้ำค้างบนยอดหญ้าจะทำให้สดชื่น”
ชานยอลยิ้มโชว์ฟัน 32 ซี่ก่อนที่จะลากยุนอาออกไป โดยไม่วายหันมาสั่งแบคฮยอนให้จัดอาหาร
“แบคฮยอน นายจัดอาหารใส่จานด้วยนะ ไปกันเถอะฮะนูน่า”
เค้าจูงมือยุนอาออกไป ทิ้งให้แบคฮยอนบ่นพึมพำอยู่คนเดียว
“เอะอะก็ใช้แต่ฉัน เห็นฉันเป็นพ่อบ้านรึไง…คิดว่านูน่าเป็นของนายคนเดียวงั้นสิ หึ อย่าให้ถึงทีของฉันบ้างละกัน ชานยอล...”
“เป็นอะไรจ้ะ”
“หญ้ามันทิ่มเท้านะฮะ”
ยุนอาขำกับสิ่งที่ชานยอลพูดออกมา
“ค่อยๆวางเท้าลงไปสิจ้ะ เดี๋ยวก็ชิน นี่แสดงว่าเธอไม่เคยเดินบนพื้นหญ้าเลยใช่มั๊ยเนี่ย”
“ฮะ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยฮะที่ผมได้เหยียบพื้นหญ้าโดยที่ไม่ใส่รองเท้า”
ยุนอายื่นมือไปจับมือชานยอล ก่อนจะหันไปยิ้มให้เค้า อย่างจริงใจทำให้ชานยอลรู้สึกตกใจมากแต่ก็แอบหันไปยิ้มเล็กๆด้วยความอาย
“ลองหายใจเข้าช้าๆนะ แล้วก็ค่อยๆผ่อนออกมาเบาๆ ทำพร้อมกันนะ 1 2 3”
ชานยอลทำตามยุนอาอย่างว่าง่าย ทั้งสองคนค่อยๆสูดหายใจเข้าช้าๆและผ่อนลมหายใจออก สูดหายใจเข้า ผ่อนลมหายใจออก สายลมอ่อนๆพัดมาปะทะใบหน้าทั้งสองคน ช่างสดชื่นจริงๆ
“เป็นไงจ้ะ สดชื่นมั๊ย”
ยุนอาถามชานยอลซึ่งกำลังหลับตาพริ้มอยู่ เค้าพยักหน้าให้เธอแทนคำตอบ ยุนอายิ้มออกมาอย่างมีความสุขถ้าจงอินเป็นเหมือนชานยอลก็ดีสินะ เธอคิด แล้วทำไมเธอต้องคิดถึงจงอินด้วยนะ เธอสะบัดหัวไล่ความคิดออกไป ก่อนจะขอตัวชานยอลไปหยิบกล้องถ่ายรูป ส่วนชานยอลก็กำลังหลับตาสูดลมหายใจและย่ำไปบนพื้นหญ้า ยุนอากลับมาอีกครั้งพร้อมกล้องถ่ายรูป เธอถ่ายภาพชานยอลที่กำลังหลับตาพริ้ม ถ้ามองดีๆ เค้าเป็นคนที่ดูดีมากๆคนหนึ่ง รูปร่างสูงโปร่ง เค้าน่าจะสูงกว่าเธอเกือบๆ 20 ซม ดวงตาที่ดูเป็นประกาย จมูกที่โด่งเป็นสัน และปากบางๆของเค้า ช่างรับกับใบหน้าเหลือเกิน ยุนอาสะบัดภาพเพื่อให้สีชัดขึ้น มันช่างเป็นรูปที่สวยมาก เธอถ่ายในมุมที่แสงแดดผ่านพอดีซึ่งทำให้ชานยอลดูมีออร่าแม้ว่าจะอยู่ในชุดนอน ช่างเหมือนกับแองเจิลที่เพิ่งลงมาจากสวรรค์เหลือเกิน
ยุนอาหลุดจากภวังค์ทันทีที่ชานยอลเรียกเธอ
“นูน่าฮะ”
“จ้ะ..ว่าไงเหรอชานยอล”
“ผมขอดูรูปหน่อยสิฮะ”
“อ้อ ได้สิ อ่ะนี่”
ยุนอายื่นรูปให้ชานยอลดูและนั่นก็ทำให้เค้ายิ้มออกมาอย่างพอใจ
“ผมนี่ดูดีแม้กระทั่งตอนหลับตา นูน่าว่ามั๊ยฮะ ฮ่าๆๆ”
ยุนอาหัวเราะออกมาเบาๆ
“ผมขอรูปนี้ได้มั๊ยฮะนูน่า”
“ได้สิ ถ้าเธอชอบมัน”
ชานยอลยิ้มอย่างดีใจก่อนจะจับมือยุนอาขึ้นมา ยุนอาชะงักเล็กน้อย
“~~~นูนันนอมูเยปอซอ นัมจาดือรีคามันอาทวอ ฮึนดึลรีนึนคือนยอเอมัม ซาชิลอัลโกอิทซอ...คือนยอเอเกซารังงึล ฮันซุนกาเนกืออีมิลปุน มวอราเฮโด นาเอเกนซาเร everything~~~...(พี่สาวครับ พี่เป็นคนที่สวยมากๆ ผู้ชายคนอื่นๆคงไม่ปล่อยให้พี่อยู่คนเดียวใช่มั๊ย ความจริงแล้วผมก็รู้นะครับว่าพี่เองก็รู้สึกหวั่นไหว สำหรับพี่ผมรู้ดีว่าความรักนี้มันอาจจะเป็นเพียงช่วงเวลาที่ผมเผลอไป แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามพี่ก็คือสิ่งสำคัญในชีวิตของผม...)”
ชานยอลร้องเพลง Replay ของ SHINee ให้ยุนอาและยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ยุนอามองไปยังชายหนุ่มข้างหน้าที่กำลังกุมมือเธออยู่ ชานยอลมักจะทำให้เธอยิ้มได้เสมอ ทุกสิ่งที่เค้าทำมันช่างทำให้เธอรู้สึกดีจริงๆ ยุนอาค่อยๆแกะมือของชานยอลออกก่อนจะไล่ให้ชานยอลเข้าบ้านไปอาบน้ำโดยที่เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นอยู่ในสายตาของใครคนหนึ่งตลอดเวลา...
เป็นเวลาเกือบอาทิตย์แล้วที่ยุนอาเข้ามาดูแลเด็กๆ เธอสนิทกับทุกคนมากโดยเฉพาะชานยอลที่มักจะมาป้วนเปี้ยนและคอยสร้างเสียงหัวเราะให้เธอตลอดเวลา เขาดูแลเธออย่างดีในระหว่างอยู่ที่หอ จนทำให้ใครหลายๆคนมักแซวชานยอลว่าชอบเธอ แต่ถึงจะยังไงก็ตามความรู้สึกที่เธอมีให้ชานยอลก็คงไม่มากเกินกว่าน้องชายที่น่ารักคนหนึ่ง ส่วนจงอินก็ยังคงเหมือนเดิมกับเธอ ถึงแม้ว่าเค้าจะยอมทานอาหารที่เธอทำ รับน้ำดื่มและขนมที่เธอซื้อไปให้ตอนพวกเค้าซ้อมเต้น แต่เค้าก็ยังไม่คุยกับเธออยู่ดี ยุนอาเองก็ยอมรับเงื่อนไขที่ว่าจะไม่ยุ่งกับเค้าเพื่อให้เค้ายอมรับในตัวเธอ การกระทำทุกอย่างมันคือหน้าที่เท่านั้น แต่ถึงเธอจะไม่ยุ่งกับเค้าเค้าก็ยังคงเย็นชากับเธอเหมือนเดิมและเธอเองก็รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้จงอินรู้สึกไม่พอใจเธอที่เข้ามาดูแลพวกเค้าจากคยองซู
คยองซูเล่าให้ยุนอาฟังถึงเรื่องคนดูแลคนก่อนๆที่ถูกส่งมาดูแลพวกเค้าโดยที่คนดูแลเหล่านั้นพยายามจะยัดเยียดให้ทุกคนเป็นในแบบที่พวกเขาต้องการ โดยที่จงอินจะโดนหนักสุด คำเสียดสีและด่าทอสารพัดลงมาที่จงอินซึ่งในขณะนั้นเค้าเป็นเพียงเด็กมัธยมต้น ถ้าเป็นคนอื่นคงล้มเลิกความตั้งใจที่จะเป็นศิลปินไปแล้วแต่ไม่ใช่กับจงอินที่ต่อให้โดนกระทำเท่าไหร่ เค้าก็ยังสู้ถึงแม้จะมีบางครั้งทีต้องเสียน้ำตาก็ตาม แต่ที่หนักที่สุดเห็นจะเป็นการถูกเสนอชื่อให้ออกจากการเป็นเด็กฝึกหัด จงอินก็เคยโดนมาแล้วและนั่นก็ทำให้เค้าเสียใจเป็นอย่างมากจนต้องสร้างกำแพงขึ้นมา คนอื่นๆที่ไม่รู้จักตัวตนจริงๆของเค้ามักมองว่าเค้าเย็นชา แต่คนในวงต่างรู้ดีว่าสิ่งที่จงอินทำเป็นเพียงการป้องกันตัวเอง เค้าพยายามสร้างบุคลิกนั้นขึ้นมาเพื่อปกปิดความอ่อนแอของตัวเองไม่ให้คนอื่นรู้ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จงอินค่อนข้างเข็ดกับการเปลี่ยนคนดูแลเพราะเค้ากลัวว่าเรื่องราวแบบนั้นจะย้อนกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ยุนอารู้เรื่องจากคยองซู เธอก็รู้สึกสงสารจงอินจับใจและรู้ว่าจงอินไม่ได้มีเจตนาที่จะทำแย่ๆกับเธอ แต่สิ่งเดียวที่จะทำให้เธอกับจงอินสามารถคุยกันได้นั้นก็คงเป็นความจริงใจที่ยุนอาทำและคงต้องใช้เวลาให้จงอินปรับตัวซักพัก
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของอาทิตย์ที่เด็กๆจะซ้อมกันก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้านเนื่องในเทศกาลชูซอก(เทศกาลไหว้พระจันทร์ของเกาหลี) หลังจากที่ทุกคนซ้อมเสร็จพวกเขาต่างก็กลับมาเก็บเสื้อผ้าสำหรับวันหยุดยาว 3 วันที่พวกเค้าจะได้กลับไปอยู่กับครอบครัว และนั่นก็รวมถึงยุนอาที่จะกลับไปอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลจองด้วย เธอกลับมาเก็บของใช้บางอย่างที่หอโดยที่คยองซูก็ขอเข้ามาเก็บของด้วยเพราะของบางอย่างของเค้าก็ไม่ได้ถูกย้ายไปไว้ห้องของจุนมยอนนั่นเอง ยุนอาแปลกใจเล็กน้อยที่ทุกคนต่างเก็บของยกเว้นจงอินเพียงคนเดียวที่ยังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นโดยไม่สนใจอะไร
“คยองซูจ้ะ ทำไมจงอินถึงไม่เก็บของล่ะ เค้าไม่กลับบ้านรึไง”
“เอ่อ...ผมเองก็ไม่ทราบครับ รู้แต่ว่าพอถึงเทศกาลชูซอกทีไร จงอินไม่เคยกลับบ้านเลย เค้าจะอยู่แต่ที่หอนะฮะ และเค้าเองก็ไม่เคยบอกใครถึงเรื่องนี้ด้วย พวกเราเองก็ไม่กล้าถามอะไรมาก ผมเคยชวนจงอินให้ไปบ้านผม เค้าก็ปฏิเสธลูกเดียว พูดแค่ว่าวันของครอบครัวจะให้คนอื่นเข้าไปยุ่งได้ยังไง”
คยองซูตอบก่อนจะหันไปปิดกระเป๋า
“ผมไปก่อนนะฮะนูน่า อีกสามวันเจอกันครับ”
คยองซูก้มหัวให้ยุนอาก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ระหว่างนั้น แบคฮยอน เซฮุนและจุนมยอนก็เดินมาลาเธอเพื่อกลับบ้าน หลังจากที่ยุนอาเก็บของเสร็จเธอก็เดินออกมาที่ห้องนั่งเล่นโดยที่ชานยอลกำลังนั่งรอเธอที่โซฟากับจงอิน
“เธอยังไม่กลับอีกเหรอชานยอล”
“บ้านผมอยู่แค่นี้เองฮะ กลับเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วนูน่าละฮะ อยู่แถวไหนเผื่อไปทางเดียวกันจะได้กลับด้วยกัน”
“พี่อยู่แค่ชองดัมนี่เอง”
ยุนอาตอบชานยอลพลางหันมองไปที่จงอินซึ่งกำลังเล่นเกมส์
“งั้นก็ใกล้ๆกันเลย เรากลับพร้อมกันมั๊ยฮะ”
“เอ่อ...คือว่าพี่ต้องกลับไปเอาของที่คอนโดด้วยเกรงว่าจะไม่สะดวก ยังไงเธอกลับก่อนก็ได้นะจ้ะชานยอล เดี๋ยวพ่อกับแม่ของเธอจะรอ”
ยุนอารีบปฏิเสธชานยอล ไม่ใช่ว่าเธอรังเกียจเค้าหรอกนะ แต่เธอแค่ไม่อยากให้ใครรู้จักคฤหาสน์ของตระกูลจองก็แค่นั้นเอง ดูเหมือนว่าชานยอลจะสลดลงเล็กน้อย แต่เค้าก็ยังยิ้มโชว์ฟัน 32 ซี่ให้กับยุนอาอยู่ดี
“งั้นเหรอฮะ งั้นผมกลับก่อนนะฮะนูน่า อีก 3 วันเจอกัน และมันคงจะเป็น 3 วันที่ทรมานมากๆเลยล่ะฮะ พี่ไปก่อนนะจงอิน ไว้จะเอาขนมมาฝาก”
ชานยอลพูดแค่นั้นก่อนที่จะลาทุกคนและเดินออกไปเรียกแท็กซี่หน้าบ้าน ส่วนจงอินเองก็ยังคงสนใจเกมส์ที่อยู่ในมือ ในขณะที่ยุนอาก็กำลังมองเค้าด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่กล้าถามอะไร เพราะถึงถามไปเค้าก็ไม่ตอบอยู่ดี ยุนอาเดินไปที่ตู้เย็นก่อนจะหยิบวัตถุดิบบางอย่างออกมาทำอาหารเพื่อให้แน่ใจว่าพรุ่งนี้จงอินจะมีอาหารเช้าทาน เพราะเธอคิดว่าคริสก็คงไม่ได้เข้ามาดูเพราะเค้าเองก็คงกลับบ้านเหมือนกัน เธอทำต๊อกโบกีก่อนจะเก็บมันใส่ซุปเปอร์แวร์และนำแช่ตู้เย็น จริงๆเธออยากจะทำอาหารที่ดีกว่านี้ แต่ในตู้เย็นก็ช่างมีวัตถุดิบน้อยเหลือเกิน เธอเดินออกมาที่ห้องนั่งเล่นอีกครั้งก่อนที่จะพูดกับจงอิน
“พี่รู้ว่านายไม่ได้กลับบ้านก็เลยทำต๊อกโบกีไว้ให้สำหรับพรุ่งนี้เช้า ถ้านายหิวนายก็เอาออกมาอุ่นแล้วก็ทานซะนะ พี่เป็นห่วงนายนะจงอิน ถึงนายจะยังไม่ยอมรับพี่ก็ตาม”
ยุนอาพูดเพียงแค่หวังจะให้จงอินหันมาคุยกับเธอซักคำ แต่ก็ไร้วี่แวว จงอินยังคงสนใจเกมส์ในมือ ยุนอามองจงอินอย่างสงสารก่อนที่จะพูดกับตัวเองเบาๆ
“ขอพระเจ้าช่วยเสริมกำลังให้กับจงอินด้วยนะคะ ตอนนี้เค้าต้องการกำลังจากพระองค์มากกว่าใครๆ ขอให้พระองค์ทรงมอบความรัก ความหวัง ความฝันและความกล้าหาญให้กับเค้า ให้เค้ามีกำลังในการดำเนินชีวิตในวันต่อๆไปด้วยเถอะค่ะ”
ยุนอามองไปที่จงอินซึ่งกำลังหันหลังให้เธออยู่ก่อนจะเดินออกไปจากบ้าน จงอินค่อยๆวางเกมส์ในมือลงและค่อยๆหันไปมองยุนอาด้วยความรู้สึกแปลกๆในใจ
“เธอทำแบบนี้...ทำไม”
คฤหาสน์ตระกูลจอง
ยุนอากำลังช่วยซูจองผูกโครึมอยู่ภายในห้องนอน นานๆทีจะได้เห็นซูจองอยู่ในชุดฮันบก มันดูน่ารักและเข้ากับเธอมาก ยุนอายิ้มอย่างพอใจหลังจากที่เธอแต่งตัวให้องค์หญิงน้อยของเธอเสร็จ สักพักซูยอนที่อยู่ภายใต้ชุดฮันบกสีชมพูหวานก็เดินเข้ามาพร้อมกับเข็มกลัดรูปผีเสื้ออันหนึ่งและนำมันมาติดไว้ที่โครึมของซูจอง ซูจองก้มมองเข็มกลัดก่อนที่จะค่อยๆจับมันอย่างเบามือ มันเป็นของสิ่งเดียวที่เธอมักจะนำมาดูต่างหน้าเวลาคิดถึงแม่ แต่ทำไมมันมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ มันควรจะอยู่ในตู้เก็บเครื่องประดับของแม่เธอที่อเมริกาไม่ใช่เหรอเพราะหลังจากที่แม่ของเธอเสียชีวิต เข็มกลัดอันนี้ก็ถูกเก็บไว้ในนั้น
“ขอบคุณค่ะออนนี่...แต่ว่ามันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”
“คุณพ่อให้พี่เอามาให้เธอน่ะ วันที่ท่านไปรับเธอ ท่านไม่ลืมที่จะหยิบมันกลับมาด้วย”
“เหอะ สงสัยคุณพ่อคงกลัวว่าฉันจะหาข้ออ้างเรื่องเข็มกลัดแล้วหนีกลับอเมริกา ก็เลยหยิบมันมาก่อน”
ซูจองว่าก่อนที่จะก้มลงมองเข็มกลัดอีกครั้ง ซูยอนส่ายหัวให้กับความคิดของน้องสาวคนเล็ก
“แล้วแต่เธอจะคิดละกันนะ แต่ตอนนี้พี่ว่าเรารีบลงไปกันเถอะ จะได้ไปช่วยอารองจัดอาหารแล้วก็เครื่องดื่มเพื่อไหว้บรรพบุรุษด้วย”
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีชาเย ก็ถึงเวลาที่ทุกคนจะมาพร้อมกันที่โต๊ะอาหารเพื่ออิ่มหนำสำราญกับอาหารจานอร่อยที่เตรียมไว้สำหรับวันนี้ไม่ว่าจะเป็น จับแช บุลโกกิ หรือแม้แต่ขนมซงพยอนที่ขาดไม่ได้สำหรับเทศกาลชูซอกเลย
“ว้าว ไม่น่าเชื่อว่าสามสาวจะทำขนมซงพยอนกันได้สวยขนาดนี้”
แจวอนชม เพราะขนมซงพยอนที่อยู่ตรงหน้าเธอมันสวยและน่ากินมากๆ
“ก็ได้อารองเป็นคนสอน จะไม่สวยได้ไงล่ะคะ”
“ดูท่าทางหลานเขยของอาทุกคนจะหน้าตาดีแน่นอน”
แจวอนว่า
“ขนมสวยแล้วเกี่ยวอะไรกับหลานเขยหน้าตาดีเหรอคะคุณอา หรือมันเป็นสำนวนอะไรที่หนู่ไม่รู้รึเปล่า”
ซูจองถามขึ้นด้วยความสงสัยทำให้ทุกคนบนโต๊ะอาหารหัวเราะครืนขึ้นมา
“มันไม่ใช่สำนวนหรอกนะองค์หญิงน้อย”
ยุนอายิ้มให้น้องสาวของเธอ
“ที่อาพูดน่ะ หมายถึงขนมซงพยอน เค้าเชื่อกันว่าถ้าใครทำขนมซงพยอนออกมาได้สวยงามน่าทาน จะได้พบคู่รักที่ดีน่ะจ้ะ”
แจวอนอธิบายให้ซูจองฟัง ซูจองตั้งใจฟังก่อนที่จะเหล่มองไปทางซูยอน
“อ้อ เป็นแบบนี้ๆนี่เอง มิน่าล่ะหนูถึงเห็นซูยอนออนนี่ตั้งใจปั้นเป็นพิเศษ ที่แท้อยากได้แฟนหน้าตาดีนั่นเอง ว้าวว สงสัยพี่เขยของหนูจะต้องหน้าตาดีแน่ๆ ฮ่าๆๆๆๆ”
“บ้าเหรอ พี่ก็แค่ทำแบบที่อารองบอกต่างหาก ไม่ได้ตั้งใจทำซักกะหน่อย”
ซูยอนรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน ส่วนยุนอาก็คอยเสริมซูจอง
“จะว่าไปแล้ว คุณคริสเค้าก็....อุ๊บส์”
ซูยอนถลึงตาใส่น้องสาวของเธอทันทีที่ยุนอาพูดชื่อคริสออกมา ยัยน้องสาวตัวแสบ พูดออกมาได้ ไม่ดูเลยว่าคุณพ่อกับคุณอานั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคน ประธานจองรู้สึกสนใจสิ่งที่ยุนอาพูดเป็นอย่างมาก ไม่สิ ไม่ใช่แค่ประธานจองแต่เป็นทุกคนในห้องไม่เว้นแม่กระทั่งบรรดาคนรับใช้
“ใครกันเหรอ”
ประธานจองพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ส่วนซูจองก็หันไปสะกิดยุนอาประมาณว่า เล่ามาให้หมดเดี๋ยวนี้นะ
“ป่ะ..เปล่าค่ะคุณพ่อ ค้งคริสอะไรกัน รีบทานกันเถอะค่ะ ดูสิ อาหารน่ากินทั้งนั้นเลย”
ซูยอนรีบเปลี่ยนเรื่องและไม่วายส่งสายตามาที่ยุนอาซึ่งกำลังอมยิ้มกับซูจอง
“จะคบใคร ชอบใคร พ่อไม่ได้ว่าหรอกนะ เราก็โตๆกันแล้ว อย่างน้อยถ้าไม่ใจดำเกินไปก็พามาให้พ่อรู้จักบ้างก็ยังดี ยุนอาก็ด้วยนะ”
ประธานจองพูดขึ้นอย่างนิ่งๆในขณะที่คีบบุลโกกิใส่จาน แจวอนอมยิ้มเล็กน้อยกับท่าทางของพี่ชายเธอ ถึงแม้ว่าปากจะบอกว่าไม่ได้ว่าอะไร แต่เธอรู้ว่าในใจน่ะ หวงลูกสาวกับหลานสาวอยู่ไม่น้อย ก็แน่ล่ะ บ้านนี้ทั้งลูกสาวและหลานสาวต่างก็สวยๆกันทั้งนั้น
“หนูน่ะยังไม่มีหรอกค่ะ ไม่อยากแซงหน้าออนนี่”
ยุนอาตอบผู้เป็นลุงโดยที่มองไปที่ซูยอน
“รีบๆกินเข้าไปเลยยัยน้องบ้า”
ซูยอนมองค้อนยุนอาที่กำลังหัวเราะคิกคักกับซูจองที่ส่งสายตาทะเล้นมาให้เธอ ฮึ่ยย ยุนอานะยุนอา พูดตอนไหนไม่พูด ดันพูดต่อหน้าทุกคน ยัยซูจองก็เหมือนกัน จะมาสังเกตอะไรต้องปั้นขนมซูพยอง เธอคิดก่อนจะก้มหน้าลงด้วยความอาย ฉันจะจำวันนี้ไปจนตายเลย ชูซอกที่น่าอับอายที่สุดในชีวิต
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารวันนี้ช่างเปี่ยมไปด้วยความสุขถึงแม้จะมีบางคนที่ต้องก้มหน้าทานอาหารเพราะเกือบถูกเปิดเผยความลับ แต่สิ่งที่ทำให้มีความสุขที่สุดเห็นจะเป็นมื้ออาหารที่ปราศจากการเล่นสงครามประสาทระหว่างซูจองและผู้เป็นพ่อต่างหาก อยากให้ทุกวันเป็นแบบนี้จริงๆ...
ขอบอกนะคะว่าตอนหน้าห้ามพลาดเด็ดขาด!!!!!!!!!!!! บางทีเราอาจจะรู้จักจงอินมากขึ้น ;)
:)�Shalunla
ความคิดเห็น