ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic EXO x SNSD : Sitter's mission

    ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 8 ความวุ่นวายที่แสนจะมีความสุข

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ย. 55



    คฤหาสน์ตระกูลจอง

             วันนี้ทุกคนในบ้านดูจะคึกคักเป็นพิเศษเพราะวันนี้เป็นวันที่นายหญิงน้อยกลับมาจากอมเริกา เดาไม่ผิดหรอก จองซูจองนั่นเอง บรรดาคนรับใช้ทั้งหลายต่างตื่นเต้นเพราะนี่คือการกลับมาเกาหลีครั้งแรกในรอบหลายปีของเธอและเธอก็เปลี่ยนไปจนทุกคนแทบจำไม่ได้ จากเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่แต่ก่อนยังดูอ่อนโยนและไร้เดียงสาแต่วันนี้เธอกลับมาพร้อมกับ....


    ออกไปให้พ้น.....ไม่ได้ยินหรือไง ฉันอยากอยู่คนเดียววววว

    ....ความเอาแต่ใจ ดูเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างในตัวเธอจะดูดีขึ้นทั้งหน้าตาและความสามารถ แต่เสียอย่างเดียว นิสัยช่างตรงกันข้ามกับหน้าตาอย่างเห็นได้ชัด คงไม่ต้องแปลกใจว่าเธอเป็นแบบนี้เพราะอะไร การที่ถูกลากกลับมาจากอเมริกาและยังถูกลากขึ้นรถที่สนามบินต่อหน้าคนมากมาย ที่สำคัญต่อหน้านักศึกษาหนุ่มคนนั้น มันก็ทำให้เธอโมโหมากทีเดียว ไหนจะกระเป๋าตังค์ที่มีทั้งพาสปอร์ตและเงินที่เธอจะซื้อตั๋วกลับอเมริกาก็ต้องมาหายไปอีก นอกจากนี้ผู้เป็นพ่อของเธอก็ได้ทำการอายัดบัญชีของเธอเพื่อเป็นการทำโทษที่สร้างเรื่องไว้วันนี้ที่สนามบินอีกด้วย โชคไม่เข้าข้างเธอแม้แต่นิดเดียว

    ฉันอยากจะบ้าตาย อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

    เสียงกรี๊ดจากในห้องนอนของเธอได้ยินไปถึงข้างล่าง ภายในห้องนั่งเล่น ซูยอนนั่งอยู่กับพ่อของเธอ

    คุณพ่อคะ หนูขอล่ะค่ะ แค่นี้ซูจองก็แย่พอแล้ว ถ้าคุณพ่อให้น้องเข้าไปทำงานที่บริษัทอีก หนูกลัวว่าอะไรๆจะแย่ไปกว่าเดิม อีกอย่างน้องเพิ่งจบไฮสคูลมา หนูไม่เห็นว่าจะมีงานไหนที่เธอจะทำได้เลย

    ไม่ได้หรอก ทำไม่เป็นก็ต้องฝึกสิ เริ่มจากงานเล็กๆไปก่อน ลูกก็ให้ท้ายน้องตลอด ให้ท้ายกันจนเสียคนแล้วเนี่ย อย่าให้พ่อเล่าเรื่องที่อเมริกาให้ลูกฟังนะว่าน้องสาวสุดที่รักของลูกไปทำอะไรไว้บ้าง

    ไม่ต้องเล่า ซูยอนก็พอจะรู้วีรกรรมน้องสาวของเธอ ไม่ว่าจะแอบเข้าผับ จัดปาร์ตี้ หรือแม้กระทั่งดื่มแอลกอฮอล์ แต่นั่นก็เป็นปกติของเด็กอเมริกาเพราะเธอเกิดและโตที่นั่น จึงไม่แปลกที่เธอจะมีความเป็นอเมริกันเกิร์ลอยู่ในตัวเองมากกว่าโคเรียนเกิร์ล ไหนจะการพูดจาที่แสดงออกถึงความมั่นใจในทุกๆอย่างรวมถึงการแสดงกิริยาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการกอดกับเพื่อนผู้ชาย การพูดจาที่ดูรุนแรงหรือการใช้คำที่ไม่เป็นทางการกับคนที่อาวุโสกว่า ซึ่งบางครั้งมันก็ขัดกับวัฒนธรรมเกาหลีที่ค่อนข้างซีเรียสเรื่องการให้ความเคารพกับผู้อาวุโส

    โธ่ คุณพ่อคะ น้องยังเด็กนะคะ อีกอย่างวัฒนธรรมที่อเมริกากับที่เกาหลีไม่เหมือนกัน…”

    ไม่ต้องมาอ้างเลยนะซูยอน ลูกก็เกิดและโตที่อเมริกาเหมือนกัน ทำไมถึงไม่แก่นกะโหลกอย่างซูจองล่ะ มันไม่เกี่ยวหรอกที่ว่าวัฒนธรรมไม่เหมือนกัน ให้ตายสิ พ่อทนไม่ได้หรอก ขืนไม่พายัยซูจองกลับมา มีหวังอาการหนักกว่านี้แน่ๆ

    โธ่ คุณพ่อขา ยังไงบนโต๊ะอาหารอย่าเพิ่งพูดเรื่องที่จะให้น้องไปทำงานเลยนะคะ เดี๋ยวหนูจะลองหาวิธีคุยกับเธอต่างหากเอง ไม่งั้นทานอาหารไม่อร่อยแน่ๆ

    ผู้เป็นพ่อมองซูยอนก่อนที่จะถอนหายใจออกมา

    เฮ้ออ...ก็ได้ๆ แต่จะช้าจะเร็วยังไง ซูจองก็ต้องไปช่วยงานที่บริษัท เข้าใจตามนี้นะซูยอน

    ผู้เป็นพ่อเดินออกจากห้องนั่งเล่นไป ทิ้งให้ซูยอนนั่งอยู่คนเดียว เสียงเอะอะโวยวายของซูจองยังดังอยู่เรื่อยๆ ทำให้ซูยอนต้องขึ้นไปดูเธอ เสียงเปิดประตูดังขึ้น เธอก้าวเข้ามาในห้องและก็ต้องถูกหมอนใบใหญ่เขวี้ยงใส

    ฉันบอกว่าฉันอยากอยู่คนเดียว หูหนวกเหรอ!!”

    ซูจอง พี่เองนะ

    ซูจองตกใจเพราะไม่คิดว่าคนที่เธอเขวี้ยงหมอนใส่จะเป็นพี่สาวของเธอ

    ออนนี่ ฉันขอโทษนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเขวี้ยงใส่ออนนี่ ฉันคิดว่าเป็นแม่บ้านนะค่ะ

    ซูยอนเดินลงมานั่งบนเตียงของซูจองก่อนจะดึงเธอเข้ามากอด

    พี่รู้นะว่าเธออยากกลับไปอเมริกาแต่พี่ก็อยากให้เธอเข้าใจคุณพ่อด้วยเหมือนกันว่าท่านน่ะเป็นห่วงเธอมากขนาดไหน

    โธ่ ออนนี่คะ แล้วทำไมคุณพ่อไม่เข้าใจฉันบ้างล่ะคะ ฉันไม่ชินที่จะใช้ชีวิตที่นี่ ฉันไม่รู้จักใครเลยด้วยซ้ำอ่ะ แถมคุณพ่อยังอายัดบัญชีของฉัน นี่มันตัดอิสรภาพกันชัดๆ

    ซูจองดันตัวซูยอนออกก่อนจะบ่นและหันหน้าหนีเธอ

    เธอยังมีพี่ มีพี่ยุนอา มีคุณพ่อ มีอารอง แล้วทำไมเธอถึงบอกว่าเธอไม่รู้จักใครล่ะ คนในบ้านไม่ว่าจะเป็นพ่อบ้าน แม่บ้าน เธอก็รู้จักนี่นา

    เข้าใจค่ะ แต่ฉันไม่สนิทกับพวกเค้านี่นา ออนนี่ก็รู้ว่าฉันแทบจะไม่ได้กลับมาเกาหลีเลย

    ก็จริงนะ แต่ว่าพี่ก็เป็นแบบเธอมาก่อนแล้วตอนนี้ทุกอย่างก็โอเคแล้ว

    แต่ฉันไม่โอเคค่ะ ยังไงฉันก็ตองหาทางกลับอเมริกาให้ได้

    ซูจองพูดพลางกอดอก ทำให้ซูยอนถึงกับส่ายหน้าในความรั้นของน้องสาว เธอจะทำยังไงให้น้องของเธอกลับมาเป็นเหมือนเดิมดีนะ แต่ก่อนซูจองเป็นเด็กที่น่ารักมากๆก่อนที่จะเกิดเรื่องเลวร้ายในวันนั้น...

           ชีวิตในวัยเด็กของทั้งสองเกิดและเติบโตที่อเมริกา โดยส่วนใหญ่ทั้งสองจะใช้ชีวิตอยู่กับแม่ส่วนพ่อของทั้งสองทำงานอยู่ที่เกาหลี นานๆทีถึงจะบินไปเยี่ยมซักครั้ง แต่พอซูยอนอายุ 15 ปี และซูจองอายุ 11 ปี แม่ของทั้งสองก็มาเสียชีวิตเพราะถูกรถชนต่อหน้าต่อตาทั้งคู่ ซูจองช็อคมาก เธอกลายเป็นเด็กที่เก็บตัวไม่สุงสิงกับใคร จนกระทั่งพ่อของทั้งสองบินมารับพวกเธอกลับมาอยู่ที่เกาหลีด้วยกัน ซูจองมาอยู่ที่เกาหลีช่วงหนึ่งและนั่นก็ทำให้ทุกสิ่งเลวร้ายลง เธอกลายเป็นเด็กซึมเศร้า เอาแต่ร้องไห้คิดถึงแม่ เวลาไปโรงเรียนก็ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับเพื่อนๆได้ เธอมักจะกรีดร้องออกมาทุกคืนเพราะฝันร้ายและก็มักจะเพ้อถึงแม่ เพ้อถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่อเมริกา
            ผู้เป็นพ่อทนดูลูกสาวคนเล็กเป็นแบบนี้ไม่ได้จึงส่งเธอกลับไปอเมริกาพร้อมกับแม่นมของเธอ และนั่นก็ทำให้เธอดีขึ้นมากทีเดียวจากเด็กที่เคยเก็บตัวก็สดใสขึ้น แต่ได้อย่างก็ต้องเสียอย่างเพราะการที่เธออยู่ที่อเมริกาโดยที่ไม่มีใครคอยดูแลอบรม ก็ทำให้เธอเติบโตมาอย่างที่เห็น ทั้งเอาแต่ใจ กล้าแสดงออกตามแบบฉบับของเด็กอเมริกัน และที่สำคัญเธอไม่แคร์ใคร


    เอาเถอะ เรื่องนี้ไว่ค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้ลงไปทานอาหารเถอะพี่มีเซอรไพรส์เธอด้วยนะ

    ซูยอนพูดและดึงมือน้องสาวของเธอให้ลุกตามขึ้นมาก่อนจะพาเธอมายังห้องทานอาหาร...


           ยุนอาลงจากรถแท็กซี่ที่เพิ่งเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์ตระกูลจอง นานเท่าไหร่แล้วนะที่เธอไม่ได้มาที่นี่ เพราะตั้งแต่เธอซื้อคอนโดใกล้ๆบริษัท เธอก็แทบจะไม่ค่อยได้มาที่นี่เลย บ้านหลังนี้ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เธอเปิดประตูรั้วเล็กก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน เธอยังคงจำชิงช้าที่เธอมักจะเล่นกับซูจองได้เป็นอย่างดี เธอเกิดและโตในบ้านหลังนี้ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้มีเชื้อสายเกี่ยวดองกับคนในบ้านเลยแม้แต่นิดเดียว ย่าของเธอเป็นแม่เลี้ยงของพ่อซูยอนที่มีพ่อของเธอเป็นลูกติดมา นั่นเท่ากับว่าทั้งสองเป็นพี่น้องกันทางกฎหมาย และทั้งสองก็รักกันมากเหมือนที่เธอรักซูยอนถึงแม้ว่าทั้งคู่จะไม่ได้โตมาด้วยกันก็ตาม จนกระทั่งพ่อแม่ของเธอมาเสียชีวิตลง ก็ได้พ่อของซูยอนซึ่งเอ็นดูเธอเหมือนกับลูกแท้ๆที่ส่งเสียเธอให้เรียนจนจบนั่นเอง


    คุณหนูยุนอา โอ ฉันคิดถึงคุณหนูมากๆเลยค่ะ ไม่เจอกันตั้งนาน

    แม่นมปาร์ค ซึ่งเลี้ยงดูเธอและซูยอนมาตั้งแต่เด็กเดินเข้ามาหาเธอ ยุนอารีบวิ่งเข้าไปกอดแม่นมทันที

    ฉันก็คิดถึงแม่นมมากๆค่ะ ไม่เจอกันตั้งนาน ยังสวยไม่เปลี่ยนเลยนะคะ

    เธอว่าก่อนจะหอมแก้มแม่นมของเธอ

    แหม คุณหนูของนม ยังปากหวานเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ป่ะ รีบเข้าไปข้างในเถอะค่ะ ทุกคนรออยู่

    วันนี้มีอะไรเหรอคะ ดูออนนี่ตื่นเต้นมากเลยตอนโทรไปหาฉัน

    ยุนอาถามและเปลี่ยนรองเท้าหน้าบ้านก่อนจะเดินตามแม่นมเข้าไป

    เอาไว้เข้าไปก็จะรู้ค่ะ ทุกคนอยู่ในห้องรับประทานอาหารแล้ว

    ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีอะไรพิเศษจริงๆ เธอคิดก่อนจะเดินเข้าไปในห้องอาหาร เธอทำความเคารพคุณลุงและอารองของเธอก่อนจะเหลือบมองผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามกับซูยอน

    ซูจอง!!!”

    ซูจองหันมาตามเสียงเรียกของยุนอาก่อนจะรีบลุกออกจากโต๊ะและวิ่งมากอดยุนอา

    ออนนี่ ออนนี่ ออนนี่ อ๊ายย ฉันคิดถึงออนนี่จังเลยค่ะ

    ทั้งสองสวมกอดกันอย่างมีความสุข จนซูยอนกระแอมไอเบาๆถึงได้ผละออกจากกัน

    ทีเจอพี่ไม่เห็นกอดแบบยุนอาเลย

    ทั้งสองมองหน้าและยิ้มให้กันก่อนจะเดินไปกอดซูยอน

    โธ่ ทำเป็นน้อยใจไปได้ออนนี่

    นั่นสิคะ งั้นกอดกันสามคนเลยก็ได้

    ภาพสามสาวกอดกันอย่างมีความสุขช่างเป็นภาพที่สวยงามนัก นานๆทีที่พวกเธอจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ ที่ซูจองคิดถึงยุนอามากเป็นพิเศษนั่นก็เพราะว่าทั้งสองเจอกันน้อยมาก ในช่วงที่ซูจองกลับมาอยู่เกาหลีก็ได้ยุนอาที่คอยช่วยเหลือและดูแลเธอ คอยปกป้องเธอจากการโดนเพื่อนๆที่โรงเรียนแกล้ง จนกระทั่งซูจองกลับอเมริกาไปก็แทบจะไม่ได้เจอกันเลย

    เอาล่ะ กอดกันพอแล้ว รีบทานกันดีกว่า อาหารเย็นหมดแล้ว

    ประธานจองกล่าวขึ้น ยุนอารีบลงมานั่งข้างๆซูจอง ก่อนที่ทั้งหมดจะสวดมนต์ขอบคุณพระเจ้าและเริ่มลงมือรับประทานอาหารกัน

    คุณลุงกับคุณอาสบายดีมั๊ยคะ

    สบายดีแล้วเราล่ะเป็นยังไงบ้าง

    หนูสบายดีค่ะ ยังไงต้องขอโทษคุณลุงกับคุณอาด้วยที่ไม่ได้เข้ามาหาเลย

    อืม ไม่เป็นไรหรอก งานเราคงจะเยอะมากสินะ

    ใช่ค่ะ คุณอา ตอนนี้มีโปรเจคต์ให้ทำ ค่อนข้างท้าทายพอสมควร

    ยุนอาตอบคุณอาของเธอ คุณอาคนนี้เป็นน้องสาวของพ่อซูยอนก็มีศักดิ์เป็นอาของเธอเหมือนกัน ถึงแม้จะต่างสายเลือดก็ตาม คุณอาคนนี้คืออดีตผู้บริหาร SM Production ที่ผันตัวเองไปเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยและซูยอนก็ได้ขึ้นมาบริหารแทน

    แล้วคุณอาเป็นยังไงบ้างคะ งานที่มหาลัย

    ก็ดีจ้ะ ได้เปิดหูเปิดตาเยอะเลย จากที่เคยนั่งในห้องทำงานสี่เหลี่ยมๆตอนนี้ได้มาเจอกับเด็กนักศึกษาแล้วก็สอนพวกเค้าเกี่ยวกับสายที่อาเรียนจบมา ดีทีเดียวไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับเอกสารต่างๆทุกวันด้วย

    เธอว่าก่อนจะปรายตามองพี่ชายตัวเอง

    ไม่ต้องมามองค้อนพี่แบบนี้เลยนะ ตอนนี้พี่ไม่ง้อเธอแล้ว ในเมื่อพี่มีลูกสาวที่ทั้งเก่งและได้ดั่งใจอย่างซูยอนขึ้นมาบริหารแล้วทั้งคน

    ดูเหมือนคำพูดของประธานจองจะทำให้ซูจองสะดุดเล็กน้อย พ่อตั้งใจจะพูดคำว่าลูกสาวที่ได้ดีดั่งใจให้เธอได้ยินใช่มั๊ย เชอะ ใช่สิ มีแต่เธอเท่านั้นแหล่ะที่ไม่เคยได้ดั่งใจพ่อเลย

    ยุนอาขำกับสิ่งที่ลุงของเธอพูดกับอารองก่อนจะหันไปคุยกับซูยอน


    ฉันก็ว่าว่าทำไมตอนที่ออนนี่โทรมาหาฉัน ถึงได้ดูตื่นเต้นนัก เป็นเพราะว่าองค์หญิงน้อยของเรากลับมาบ้านนี่เอง

    ยุนอาพูดเสร็จก็หันไปยิ้มกับซูจอง ทุกคนหัวเราะให้กันอย่างมีความสุข เพราะฉายาของซูจองที่ซูยอนและยุนอาช่วยกันตั้งคือองค์หญิงน้อย

    แล้วกลับมาอยู่กี่วันเหรอ ซูจอง

    ดูเหมือนคำพูดนี่จะทำให้บรรยากาศที่ครึกครื้นเงียบลงอย่างเห็นได้ชัด ยุนอาแปลกใจมาก สีหน้าของซูจองที่ยิ้มอยู่ๆก็เปลี่ยนเป็นบูดบึ้ง ส่วนสีหน้าของคุณลุงก็เจื่อนลงเล็กน้อย ส่วนอารองกับซูยอนก็หันมามองหน้ากันและค่อยๆหันมามองหน้าเธอ

    เอ่อ เอาไว้ทานอาหารเสร็จแล้วเราค่อยมาคุยกันเรื่องนี้ดีกว่าเนาะ ทานเยอะๆนะซูจองวันนี้มีแต่ของโปรดเธอทั้งนั้นเลย

    ซูยอนรีบเปลี่ยนเรื่อง ทำให้ยุนอารู้ทันทีว่ามีเรื่องอะไรแน่ๆ หลังจากนั้นบรรยากาศในโต๊ะอาหารก็เงียบ...เงียบ....และเงียบ ช่างน่าอึดอัดจริงๆ พอซูจองทานอาหารเสร็จก็ขอตัวทันที เธอลุกออกไปจากโต๊ะในขณะที่ผู้เป็นพ่อและอายังทานอาหารไม่เสร็จด้วยซ้ำ ยุนอาตกใจอย่างมากเพราะการกระทำของซูจองถือว่าไม่ให้เกียรติผู้ใหญ่ จะให้ทำไงได้ก็เธอโตที่อเมริกานี่นา(ตามมารยาทแล้วต้องรอให้ผู้ที่อาวุโสที่สุดบนโต๊ะอาหารวางช้อนส้อมลงก่อน คนอื่นถึงจะวางช้อนส้อมได้)

    ให้มันได้อย่างนี้สิ เจ้าลูกคนนี้นี่

    ดูเหมือนประธานจองจะอารมณ์เสียไม่น้อย เขาวางช้อนส้อมก่อนจะลุกออกจากโต๊ะทำให้อารองรีบตามออกไปเหมือนกัน ปล่อยให้ยุนอานั่งงงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

    นี่มันเรื่องอะไรกันคะ ฉันงงไปหมดแล้ว

    ซูยอนเล่าเรื่องทุกอย่างให้กับยุนอาฟัง ตั้งแต่ตอนที่ซูจองถูกลากกลับมาบ้านเพราะว่าพยายามหนีออกจากสนามบิน อีกทั้งยังโดนตัดเงินทุกอย่าง ยุนอาเองรู้สึกแย่เล็กน้อยที่คำถามของเธอทำให้ทุกอย่างเสีย เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะถามออกไปแบบนั้น นั่นเพราะเธอไม่รู้จริงๆ ปกติที่ซูจองกลับมาเกาหลีก็จะกลับมาแค่ไม่กี่วันแล้วก็กลับอเมริกา แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้เธอจะได้กลับมาอยู่ยาวซะแล้วล่ะ

    พี่ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วล่ะยุนอา พอพูดให้คุณพ่อเข้าใจซูจองก็โดนหาว่าให้ท้ายน้อง พอพูดกับซูจองก็ไม่ฟังกันเลย ดึงดันจะกลับอเมริกาอย่างเดียว

    คงทำอะไรไม่ได้นอกจากทำใจแหล่ะค่ะออนนี่ เราก็รู้ว่าองค์หญิงของเราเป็นยังไง พอมาเจอแบบนี้ก็เลยยิ่งไปกันใหญ่ ส่วนคุณลุงก็คงเป็นห่วงซูจองมากๆไม่งั้นท่านคงไม่ไปรับเธอถึงอเมริกาด้วยตัวเองหรอกค่ะ

    ทั้งสองถอนหายใจออกมาพร้อมกัน

    เรื่องให้กลับมาบ้านน่ะไม่เท่าไหร่ แต่เรื่องที่ว่าจะให้ซูจองเข้าไปทำงานที่บริษัทน่ะสิ ยุ่งยากเข้าไปใหญ่

    ทั้งสองถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ทำไมเรื่องวุ่นวายถึงเกิดขึ้นได้ไม่เว้นแต่ละวันนะ.......

     


    อะไรนะคะ ออนนี่ ให้ฉันเข้าไปทำงานที่บริษัท เหอะ No way, I won’t do that!!!”

    ซูจองส่ายหัวทันทีที่ยุนอาและซูยอนเข้ามาคุยกับเธอเรื่องที่ประธานจองจะให้เธอเข้าไปทำงานที่บริษัท นี่พ่อคิดอะไรอยู่กันแน่ เธอยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ จู่ๆจะให้เข้าไปทำงาน ถึงแม้ว่าอยู่ที่อเมริกาเธอจะเคยทำงานในร้านอาหาร(ทำตามเพื่อนๆ เพราะเด็กที่อเมริกามักจะหาอะไรทำในขณะเรียน) แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะสามารถทำงานในบริษัทได้นี่นา

    เถอะนะซูจอง เห็นแก่พี่เถอะ

    ไม่ค่ะ ถ้าให้ฉันไปทำงาน ฉันจะหนีกลับอเมริกาจริงๆด้วย

    เธอจะหนีกลับยังไงจ้ะน้องรัก อย่าลืมนะว่าตอนนี้เธอไม่มีเงินแล้ว

    ซูยอนถามเธอเป็นเชิงล้อเลียน

    ออนนี่!! ฉันโกรธออนนี่แล้วจริงๆด้วย ออกไปเลยนะ ฉันไม่คุยด้วยแล้ว

    ซูจองว่าก่อนที่จะมุดตัวลงไปในผ้าห่ม ทำให้ยุนอาและซูยอนต่างมองหน้ากันด้วยความเหนื่อยใจ องค์หญิงน้อยของพวกเธอช่างเอาแต่ใจตามฉบับองค์หญิงซะเหลือเกิน ยุนอาบอกให้ซูยอนออกไปก่อนไว้เธอจะหาวิธีคุยกับซูจองเอง เพราะขืนให้ซูยอนอยู่ต่อยังไงซะ ซูจองก็คงไม่ยอมคุยกับเธอเป็นแน่ ซูยอนเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ ส่วนยุนอาก็ลงมานั่งข้างๆเตียง

    ซูจองจ้ะ ไหนเล่าให้พี่ฟังหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

    ซูยอนออนนี่คงเล่าให้ออนนี่ฟังหมดแล้ว แล้วออนนี่จะมาถามฉันทำไมอีกละคะ

    ยุนอาสะดุดเล็กน้อย คำพูดนี่มันช่างเหมือนที่จงอินพูดกับเธอซะเหลือเกิน

    แต่ออนนี่ยังไม่ได้ฟังในมุมของเธอนี่นา ปกติเธอไม่ได้เอาแต่ใจแบบนี้ กลับมาบ้านแต่ละครั้งเธอจะต้องมีรอยยิ้มกลับมาแต่ทำไมครั้งนี้ถึงดูไม่มีความสุขล่ะจ้ะ เล่าให้พี่ฟังหน่อยนะว่าทำไมถึงไม่อยากกลับมาอยู่เกาหลี ถ้มีเหตุผล พี่อาจจะหาทางช่วยให้เธอได้กลับอเมริกาได้ก็ได้นะ

    ดูเหมือนคำพูดของยุนอาจะทำให้ซูจองยอมโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม

    ออนนี่พูดจริงๆนะ

    ยุนอายิ้มให้ซูจอง

    พี่สาวคนนี้เคยโกหกองค์หญิงน้อยด้วยเหรอ

    ซูจองเด้งตัวออกมาจากผ้าห่มก่อนจะโผกอดยุนอาด้วยความดีใจ เธอเล่าเรื่องทุกอย่สางให้ยุนอาฟัง ตั้งแต่ที่พ่อไปรับตัวเธอกลับมาจากอเมริกาโดยที่ไม่ให้เวลาเธอได้ร่ำลาเพื่อนๆ จนถึงเรื่องที่เธอต้องกลายเป็นตัวตลกต่อหน้าชายหนุ่มนักศึกษาที่สนามบิน อีกทั้งกระเป๋าตังและพาสปอร์ตเธอก็มาหายแถมคุณพ่อยังจะให้เธอเข้าไปทำงานที่บริษัทอีก ที่สำคัญเธอไม่อยากกลับมาอยู่ที่เกาหลีเพราะเธอไม่รู้จักใคร เธอไม่เคยชินกับวัฒนธรรม ไม่ชินกับภาษาที่เป็นทางการ ยุนอาตั้งใจฟังเธอมากๆ ซูจองเล่าทุกอย่างให้ยุนอาฟังอย่างเต็มใจเป็นเพราะยุนอาเป็นผู้ฟังที่ดีแถมยังคอยช่วยหาทางออกที่ดีให้เธอในทุกปัญหา ทำให้ซูจองจะไว้ใจยุนอาและบอกความลับต่างๆกับเธอมากเป็นพิเศษ ต่างกับซูยอนที่จะชอบล้อเล่นกับเธอบ่อยๆแต่ข้อดีของซูยอนก็คือเธอรักน้องสาวมากๆและเป็นคนที่คอยเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและซูจองได้อย่างดี เรียกง่ายๆว่าเธอมักจะรู้ว่าเวลาไหนควรจะทำอะไรเพื่อไม่ให้เกิดสงครามขนาดย่อมๆระหว่างพ่อและซูจองนั่นเอง

    ถ้าเป็นออนนี่ ออนนี่จะทำยังไงคะ

    ซูจองถามยุนอาหลังจากที่เล่าเรื่องทุกอย่างจบ

    พี่ว่านะ เราต้องดูทีละเรื่อง ถ้าเธออยากกลับอเมริกา เธอก็ต้องมีเงินจริงมั๊ยแต่ตอนนี้บัญชีของเธอถูกยึดไปแล้ว แล้วจะทำยังไงให้มีเงินดีล่ะ

    ยุนอามักตอบคำถามด้วยคำถามเพื่อให้อีกฝ่ายตอบเพราะถ้าเธอตอบเองก็จะทำให้ซูจองรู้สึกเหมือนไม่มีชอยส์ให้เธอเลือก ดังนั้นคำตอบที่ได้ออกมาจากปากของซูจองมันก็คือคำตอบที่ซูจองต้องทำและเธอก็จะปฏิเสธมันไม่ได้

    ถ้าอยากมีเงินก็ต้องทำงาน

    นั่นล่ะ ถูกเผงเลย


    สรุปก็คือยังไงฉันก็ต้องทำงานใช่มั๊ยคะ ฉันไม่เอาด้วยหรอกค่ะ เฮ้ออ

    ซูจองถอนหายใจก่อนที่จะล้มตัวลงบนเตียงอีกรอบแต่ยุนอาก็ดึงแขนเธอให้ลุกมานั่งซะก่อน

    อย่าเพิ่งล้มเลิกความตั้งใจสิจ๊ะ เธออยากกลับอเมริกาและนี่ก็เป็นวิธีที่จะทำให้เธอกลับอเมริกาได้ แล้วพี่จะลองคุยให้คุณลุงให้เงินเดือนเธอ พอเก็บได้มากๆ พี่จะพาเธอไปทำพาสปอร์ตและถึงตอนนั้นเธอก็มีเงินที่จะซื้อตั๋วเครื่องบินแล้วทีนี้ก็ เสร็จโจ๋!!”

    ยุนอาแนะนำวิธีการให้ซูจอง ถึงแม้ว่ายุนอาเองจะรู้ว่าวิธีการนี่มันไม่ได้ผลเพราะถึงซูจองจะหนีกลับอเมริกาไป เธอก็จะไม่มีเงินใช้อยู่ดีเพราะคุณลุงคงไม่ให้เงินเธอและก็ต้องลากตัวเธอกลับมาจากอเมริกาอีกครั้งอยู่ดี แต่จะทำไงได้ล่ะ ในเมื่อวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่าย เธอได้ปรึกษากับซูยอนถึงเรื่องนี้แล้วและคิดว่าวิธีนี้คงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ซูจองยอมไปทำงาน ซูจองยิ้มขึ้นมาอีกครั้งและก็ต้องหุบยิ้มลง

    ฉันยังไม่รู้เลยว่าคุณพ่อจะให้ฉันทำอะไร งานที่บริษัทมันไม่ใช่ง่ายๆนะคะ

    ทำไม่เป็นก็ฝึกกันได้ พี่จะไปคุยกับคุณลุงเรื่องเงินเดือนแล้วก็เรื่องงานที่เธอต้องทำ แบบนี้ดีมั๊ย

    แต่...

    ไม่มีแต่จ้ะน้องรัก ลองคิดดูสิแค่ทำงานแลกกับการได้กลับอเมริกา อันไหนคุ้มกว่ากัน

    ยุนอาพูดขี้น ซูจองนั่งคิดทบทวนในสิ่งที่ยุนอาพูด ก็จริงแค่ทำงานแลกกับการได้กลับอเมริกา คุ้มจนไม่มีอะไรจะคุ้มอีกแล้ว แต่คิดเหรอว่าเธอจะยอมทำงานแต่โดยดี เธอยิ้มออกมาเล็กๆแต่มันช่างเป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความชั่วร้ายซะเหลือเกิน

    ก็ได้ค่ะ ออนนี่ ฉันจะยอมทำงาน

    ยุนอายิ้มอย่างดีใจก่อนจะกอดซูจอง ถึงแม้ลึกๆในใจเธอก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าจะมีความวุ่นวายอะไรตามมาเพราะเธอรู้นิสัยของซูจองดี ดูเหมือนว่าจะต้องมีเรื่องให้เธอปวดหัวเพิ่มมาอีกเรื่อง แต่เธอก็เตรียมพร้อมรับมือแล้วล่ะ ต่อให้จะวุ่นวายหรือปวดหัวมากแค่ไหน มันก็เป็นเรื่องวุ่นวายที่ทำให้เธอมีความสุขได้อยู่ดี........




    ขอโทษที่เมื่อคืนไม่ได้อัพนะคะ วันนี้ก็เลยอัพให้ 2 ตอนเป็นการไถ่โทษ อ่านให้สนุกนะคะ^^ อย่าลืมเม้นท์ซักนิดเป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ด้วยนะคะ

    :)�Shalunla

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×