[Fic EXO] Christmas with you [lumin] - [Fic EXO] Christmas with you [lumin] นิยาย [Fic EXO] Christmas with you [lumin] : Dek-D.com - Writer

    [Fic EXO] Christmas with you [lumin]

    ผู้เข้าชมรวม

    1,578

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    1.57K

    ความคิดเห็น


    13

    คนติดตาม


    29
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 ธ.ค. 56 / 21:20 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น








     

    ในบรรดาวันทั้งหมดใน 365 วัน วันที่ผมชอบที่สุดก็คือวันคริสต์มาส

     ทั่วทั้งเมืองที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสิขาว

     ร้านรวงที่ประดับประดาไปด้วยสีเขียวและสีแดง ของต้นคริสต์มาส

     รอยยิ้มสดใสของผู้คน

     มันทำให้วันคริสต์มาสเป็นวันที่เต็มไปด้วยความสุข

     บรรยากาศของความรักความอบอุ่นที่สามารถพบเจอได้ทั่วไปตามท้องถนน

     ผมชอบวันนี้มากกว่าวันไหนๆ

     พอๆกับที่ชอบเขาเลยล่ะ


    amanita.theme
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



      Christmas with you


       

      คนตัวเล็กที่นั่งเท้าคางอยู่ที่โต๊ะในมุมหนึ่งของร้านคอฟฟี่ช้อปคลี่ยิ้มบางๆ เมื่อเห็น ร่างโปร่งที่คุ้นตากำลังเดินย่ำอยู่บนถนน

      หิมะที่เริ่มเกาะตัวเป็นน้ำแข็ง ทำให้เจ้าของร่างนั้นลื่นอยู่หลายครั้ง


       รอยยิ้มระบายบนใบหน้าเมื่อคนที่ถูกมองหันมาสบตากันผ่านกระจกบานใหญ่ของร้าน

       ก่อนจะหัวเราะคิกคักเมื่อคิ้วได้รูปของอีกฝ่ายขมวดเป็นปมอย่างหัวเสีย

       เสียงกรุ๊งกริ๊งจากโมบายที่แขวนไว้ที่ประตูส่งเสียงไม่น่าฟังนักเมื่อเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนผลักประตูร้านเข้ามาอย่างแรง ร่างสูงเดินผ่านเค้าเตอร์ที่พนักงานส่งยิ้มต้อนรับมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับคนที่นั่งยิ้มอย่างมีความสุข
       

       แก้วกาแฟอุ่นๆถูกผลักมาตรงหน้า ลู่หานมองมันก่อนจะถอนหายใจอย่างหนักหน่วง ช้อนตามองคนที่ยังนั่งเท้าคางยิ้มอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร ก่อนจะเอื้อมมือไปจับแก้วนั้นไว้

       ความร้อนจากแก้วทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาบ้าง มือที่รู้สึกเหมือนจะชา ขยับยุกยิกอยู่ข้างแก้ว

      "ไม่กินเหรอ" เอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มกว้าง ยิ่งเห็นคนตรงหน้าทำหน้าบึ้งเท่าไหร่ก็ยิ่งอารมณ์ดีมากขึ้นเท่านั้น

      "ยุ่ง"

      หัวเราะออกมาเมื่ออีกคนหันมาทำตาขวางใส่เขา แต่ก็ยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม ขณะที่สายตาเส มองออกไปนอกหน้าต่าง

       มินซอกระบายยิ้มก่อนจะยกแก้วกาแฟของตัวเองมาดื่มบ้าง สูดกลิ่นหอมของกาแฟที่เขาโปรดปราน

      กลิ่นของมันช่วยให้เขาผ่อนคลายได้อย่างน่าประหลาด

       และก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าเมื่อไหร่ที่กลิ่นกาแฟนี้กลายเป็นกลิ่นประจำตัวของเขา

       มารู้ก็ตอนที่คนตรงหน้าทำจมูกฟุดฟิดๆ แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้

       จากนั้นก็บ่นเรื่องกลิ่นกาแฟจากตัวเขา

       ก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมลู่หานชอบบ่นเรื่องกลิ่นกาแฟ

      เพราะถึงจะบ่น ลู่หานก็ยังชอบเข้ามาใกล้ แล้วดมกลิ่นมันบ่อยๆ
       

      "มันหนาวนะรู้บ้างไหม" เจ้าของริมฝีปากบางได้รูปเอ่ยพูดทั้งที่ยังไม่ยอมหันมาสบตากัน

      "ก็รู้ไง หิมะตกมันจะร้อนไหมล่ะลู่หาน" เอ่ยพูดขณะที่เอื้อมมือไปขีดเขียนบนกระจกที่ขึ้นฝ้า


       ลู่หานคนโง่

      "ก็แล้วจะเรียกออกมาทำไมล่ะ รู้ไหมว่ามันหนาว แล้วมันก็เป็นวันหยุดด้วย คิดบ้างสิว่าฉันอยากจะนอนอยู่ในที่นอนอุ่นๆ แทนที่จะออกมาลุยหิมะแบบนี้"

       "ก็ถ้าไม่อยากมาก็ไม่ต้องมาก็ได้นี่นา" เอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มที่ยังคงไม่จางไปจากใบหน้า

      "จะบ้าเหรอ ปล่อยนายมาเดินคนเดียว ถูกใครเค้าฉุดไปจะทำยังไง ยิ่งขาวๆกลมๆแบบนี้ ใครเค้านึกว่าเป็นหมูจับไปเชือด ฉันจะไปหาแบบนายได้ที่ไหนอีก"

      มินซอกเผยยิ้มกว้าง ไม่ได้ใส่ใจกับคำค่อนขอดของอีกฝ่าย


       ลู่หานก็เป็นแบบนี้

       ขี้โวยวายเหมือนกับผู้หญิง

       บางครั้งเขาก็สงสัยจริงๆว่าลู่หาน นี่เป็นผู้หญิงปลอมตัวมารึเปล่า

       หน้าก็ค่อนไปทางน่ารักซะมากกว่าจะหล่อ

       ถึงจะเซตผมให้ดูแมนแค่ไหน เวลาหน้าบึ้งก็ยังดูน่ารักอยู่ดี

       ไหนจะปากเล็กๆเวลาขยับปากบ่นนั่นอีก

       ลู่หานคงเป็นผู้หญิงจริงๆนั่นแหละ


       ยิ่งคิดรอยยิ้มก็ยิ่งกว้างขึ้น ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงแก้มของอีกคน

      "โอ๊ย!! มินซอก!!!! มันเจ็บนะ!!!"

      ลู่หานปัดมือเย็นๆที่ดึงแก้มเขาออกไป ก่อนจะลูบๆคลำๆที่ข้างแก้ม มองอีกคนตาขวางเมื่อ รู้สึกชาไปทั้งแก้ม

       เรียกเสียงหัวเราะจากคนที่ดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ

      "นายเหมือนเด็กผู้หญิงจังเลย ถามจริงๆเถอะ ไม่ได้เป็นผู้หญิงปลอมตัวมาหรอกใช่ไหม"

      คนพูดเปลี่ยนมานั่งเท้าคาง พลางโน้มตัวเข้าไปใกล้อีกฝั่งของโต๊ะ

      "อยากจะให้แก้ผ้าให้ดูตรงนี้เลยไหมล่ะ"

       "จะดีเหรอ ลู่หาน" กระพริบตาปริบๆพลางส่งยิ้มล้อเลียนไปให้อีกคนที่จ้องตอบกลับมาตาเขม็ง นี่ถ้าไม่ใช่ว่าพวกเขานั่งอยู่ในร้านแบบนี้ ลู่หานคงขย้ำเขาไปแล้วแน่ๆ

      "วันนี้นายดูแปลกๆนะมินซอก" พูดพลางโน้มตัวเข้ามาใกล้ ก่อนจะใช้หลังมืออังหน้าผากคนที่นั่งยิ้มอยู่ มืออีกข้างก็ยกขึ้นมาเทียบอุณหภูมิกับหน้าผากตัวเอง

      "ปกติดีหรอกน่า" คนถูกมองว่าผิดปกติพองลมในปากจนเห็นเส้นเลือดที่แก้มใสทั้งสองข้าง

      ลู่หานมองสบตาอีกคนที่เงยหน้าจ้องเขาอยู่ก่อนแล้ว ก่อนจะโฉบจมูกลงไปบนแก้มนิ่ม จนได้กลิ่นหอมจากแป้งเด็กที่อีกคนชอบใช้ ก่อนจะผละออกมา

       มินซอกย่นจมูกใส่คนฉวยโอกาส ขณะที่สองแก้มเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อ

      "ฉันน่ารักขนาดอดใจไม่ไหวเลยเหรอ"

      ทั้งๆที่เขิน แต่ปากก็เอ่ยคำพูดกวนประสาทอีกคนออกไป เลยได้เห็นใบหน้าน่ารักของอีกคนที่เหมือนกับกวางแดงไปทั้งหน้า แถมยังไม่ยอมหันมาสบตาเขาอีกต่างหาก


       ลู่หานขี้อายชะมัด

       

       

      ******* *******




       "อยากไปไหนอีกรึเปล่า"

      คนตัวสูงกว่าก้มหน้าลงมาถามคนตัวเล็กที่ยืนรออยู่ที่หน้าประตูร้าน หลังจากที่เดินไปจ่ายเงินที่เค้าท์เตอร์ 
       

       มินซอกดึงข้อมือของลู่หานเข้ามาใกล้ ก่อนจะขยับตัวไปดูเวลาที่ข้อมือของอีกคน

      "เพิ่งจะหกโมงเอง ไปเดินเล่นกันก่อนเถอะนะ" รอยยิ้มเล็กๆจุดขึ้นที่มุมปาก ขณะกึ่งลากกึ่งจูงอีกคนออกมานอกร้าน ลมเย็นๆพัดมาปะทะทันทีที่พ้นออกจากร้าน ทำให้เขาอยากจะวิ่งกลับเข้าไปในร้านอีกครั้ง

       สุดท้ายคนตัวเล็กเลยปล่อยมือจากข้อมืออีกคนแล้วเปลี่ยนมากอดอกเอาไว้แทน ปากแดงๆ ก็เป่าลมออกไปในอากาศจนเกิดเป็นไอสีขาว

       ได้ยินเสียงจิ๊จ๊ะมาจากข้างหลัง ก่อนที่แขนขาวๆของอีกคนจะเอื้อมจับไหล่ของเขา พร้อมกับผ้าพันคอผืนหนาที่ถูกพันทบลงมา

       มินซอกเผยรอยยิ้มกว้าง

       ก่อนจะหันไปยิ้มให้อีกคนที่กลับมาทำหน้าบึ้งอีกครั้ง

      "คราวหลังหัดเตรียมมาเองซะบ้างนะเดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก"

      อีกครั้งที่คนพูดไม่ยอมหันมาสบตากัน เอาแต่มองไปทางอื่น ก่อนจะคว้ามือของเขาไปกุมไว้แล้ว เริ่มออกเดินอีกครั้ง

       มันช่วยไม่ได้จริงๆนะ


       วันนี้ตั้งแต่เขาเห็นลู่หาน เขาก็ยังหุบยิ้มไม่ได้สักที

       

       





      "จะเที่ยงคืนแล้วเหรอเนี่ย" คว้าข้อมือของอีกคนมาดูเวลา ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนม้านั่งในสวนสาธารณะ กลางลานน้ำพุ ที่ต้นไม้รอบๆประดับประดาไปด้วยหลอดไฟหลอดเล็ก

      "จะกลับรึยัง" อีกครั้งที่ลู่หานถามประโยคนี้ซ้ำๆ คนถูกถามเลยพยักหน้าส่งๆไป เมื่อเห็นหิมะเริ่มโปรยปรายลงมาอีกครั้ง

       เขาไม่อยากเป็นหวัด

       และที่สำคัญไม่อยากให้ลู่หานเป็นหวัดด้วย

      มินซอกก้าวเท้าตามรอยเท้าของลู่หานที่จมลงบนหิมะสีขาวอย่างระมัดระวัง คนที่เดินนำหน้าทำเพียงแค่หันมามองเพียงครู่ ก่อนจะหันกลับไป

      "วันนี้นายแปลกมากนะ"

      ได้แต่ยิ้มกับคำว่าแปลกของลู่หาน ดวงตากลมโตจ้องมองแผ่นหลังกว้างของอีกคนไม่วางตา

       

       

       

       

      Luhan’s part
       

      ผมสะดุ้งตื่นเอาตอนบ่ายโมงกว่า เพราะโทรศัพท์ที่แผดเสียงลั่น อยู่ที่หัวเตียง พอผมจะเอื้อมมือไปคว้ามันมา เสียงนั้นก็หยุดไป แต่พอตั้งใจจะนอนต่อ มันก็ดังขึ้นมาอีก คราวนี้ผมเลยรีบกดรับสาย
       

      “ไง” ผมกดรับทั้งที่ไม่ได้มองชื่อที่โชว์อยู่ที่หน้าจอด้วยซ้ำ ไม่มีใครกล้าโทรมาปลุกผมในวันหยุดแบบนี้หรอก
       

      นอกจาก    คิมมินซอก
       

      “ยังไม่ตื่นอีกเหรอ” เสียงใสที่ทักทายกลับมาไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีเลย คนอะไรโทรมาปลุกผมแบบนี้แล้วยังมีหน้ามาถามอีกว่ายังไม่ตื่นอีกเหรอ
       

      “มีอะไรรึเปล่า ถ้าไม่มีฉันจะนอนต่อ” ผมตอบกลับไป ใช้มือขยี้ผมตัวเองอย่างขัดใจ
       

      ต่อให้เป็นมินซอกก็เถอะ โทรมาปลุกกันแบบนี้ผมก็ไม่ให้อภัยง่ายๆหรอก
       

      “อยากกินกาแฟอ่ะ”
       

      ย๊า!!!!!!
       

      คิมมินซอก โทรมาปลุกผมเพราะบ่นอยากกินกาแฟ ผมอยากจะกรี๊ดใส่โทรศัพท์ให้ลั่น ถ้าไม่ติดว่าอีกฝ่ายเป็นมินซอกนี่ได้เห็นดีกันแน่
       

      ผมกลั้นใจ สงบสติอารมณ์ก่อนจะตอบเขากลับไป “อยากกินแล้วมาบอกฉันทำไม”
       

      “ฉันว่าจะไปคอฟฟี่ช้อปอ่ะ อยากให้นายไปด้วยกัน”
       

      “ไม่ไป” ผมตอบออกไปอย่างไม่ต้องคิด กระโดดลงจากเตียง แล้วกระชากผ้าม่านเปิดออก ข้างนอกมีแต่หิมะเต็มไปหมด ผมไม่อยากออกไป
       

      ใครๆก็รู้ว่าผมเกลียดหน้าหนาวอย่างกับอะไรดี
       

      “นายไม่มีสิทธิ์เลือก ลู่หาน” ผมมองเลยกิ่ง ไม้ที่มีแต่หิมะขาวโพลนเกาะเต็มไปหมด ไปที่หน้าต่างห้องฝั่งตรงกันข้ามที่เหมือนกับห้องของผม  ปู่ของมินซอกสร้างบ้านหลังนี้ให้เป็นบ้านแฝดกับบ้านที่ครอบครัวมินซอกอยู่ และยกให้เป็นของขวัญรับขวัญหลานชายคนแรกของตระกูลคิม พอครอบครัวผมย้ายมาอยู่ที่เกาหลี พ่อเกิดติดใจบ้านหลังนี้เลยขอซื้อไว้ พวกเราตกลงกันว่าจะไม่สร้างรั้วขึ้นมากั้นระหว่างบ้านสองหลังนี้ และตอนนี้พวกเราก็เหมือนครอบครัวเดียวกันไปซะแล้ว
      นั่นคือเหตุผลที่ห้องของเขาและผมเหมือนกัน


      ไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิตภายในห้องนั้น มีเพียงเตียงที่ถูกจัด เก็บเรียบร้อยกับห้องที่ดูสะอาดสะอ้าน ผิดกับห้องของผม 
       ผมกระชากผ้าม่านปิดแล้วเดินกลับไปที่เตียงอีกครั้ง
       

       “บอกว่าไม่ไป” ผมเรื่มเสียงดัง แล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียง
       

       “แต่วันนี้วันคริสต์มาสนะลู่หาน” เสียงอีกคนที่ดูหงอยๆไปทำให้ผมอยากจะปาโทรศัพท์ทิ้ง


      อย่าใช้ไม้นี้ได้ไหมมินซอก

       

      “แล้วไง คริสต์มาสไม่ได้มีปีนี้ปีเดียวนะมินซอก”
       

      “งั้นก็ไม่ต้องไปแล้วล่ะลู่หาน ฉันไปคนเดียวก็ได้” ถึงเขาจะพูดประโยคนั้นออกมา แต่ให้เดาเลย ปากกับใจไม่เคยตรงกัน


      “ก็ได้ๆ นายไปรอที่ร้านก่อนเลย เดี๋ยวฉันตามไป” ผมตอบไป เหลือบมองกรอบรูปข้างเตียง ที่มีรูปผู้ชายแก้มป่องฉีกยิ้มกว้าง อยู่ข้างๆผม
       

      เมื่อไหร่ผมก็แพ้เค้าเสมอล่ะ

       

      “เย้ ขอบใจนะ หานหาน”

       

       

       

       

      ****** ****** ******

       
       

      ผมย่ำไปบนหิมะ ตอนนี้มันเริ่มจะกลายเป็นน้ำแข็งแล้ว ขนาดเดินระวังแค่ไหน ผมก็เกือบจะลื่นหัวทิ่มอยู่หลายครั้ง        นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ผมเกลียดหน้าหนาว
       

      ไม่รู้ทำไมมินซอกถึงได้ชอบมันนัก
       

      ผมเห็นมินซอกนั่งอมยิ้มอยู่ที่โต๊ะประจำของเรา พอเห็นหน้าละลื่นนั้นแล้ว มันพาลจะทำให้ผมหงุดหงิดขึ้นมาอีก


      หนาวแบบนี้ยังนั่งยิ้มอยู่ได้


      บ้าจริง

      ผมเดินมานั่งลงตรงข้ามกับเขา ที่ส่งยิ้มมาให้ พร้อมกับแก้วกาแฟที่ส่งกลิ่นหอมฉุย เพราะอากาศที่เย็นแบบนี้สุดท้ายผมเลยคว้าแก้วนั้นไว้ 

      ผมว่าวันนี้มินซอกดูแปลกๆไปจากปกติ ไหนจะกวนประสาท ไหนจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แบบนี้

      แล้วอยู่ๆเค้าก็เอื้อมมือมาดึงแก้มของผม
       

      "โอ๊ย!! มินซอก!!!! มันเจ็บนะ!!!"

      ผมปัดมือเค้าออกแล้วมองเขาตาขวาง แต่เขาก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย แถมยังหัวเราะออกมาอีก

       

       มินซอกมือหนัก
       

      ผมจะจำไว้เลยว่าจะไม่ยอมให้มือเล็กๆคู่นั้นมาเข้าใกล้หน้าผมอีก

      "นายเหมือนเด็กผู้หญิงจังเลย ถามจริงๆเถอะ ไม่ได้เป็นผู้หญิงปลอมตัวมาหรอกใช่ไหม"

      นี่ถ้าเป็นคนอื่นพูด ผมรับรองได้เลยว่าผมคงซัดมันจนหน้าหงายไปแล้ว เพราะผมไม่ชอบใครให้พูดว่าผมเหมือนผู้หญิง


      แต่นี่เป็นมินซอกไง

      ผมจะทำอะไรได้ล่ะ

      "อยากจะให้แก้ผ้าให้ดูตรงนี้เลยไหมล่ะ"

      "จะดีเหรอ ลู่หาน"


      มินซอกกระพริบตาปริบๆใส่ผม

      "วันนี้นายดูแปลกๆนะมินซอก" ผมยกมือไปแตะหน้าผากเขา อาจะเพราะวันนี้มันหนาวจัด หรือเมื่อคืนเขาลืมปิดหน้าต่างล่ะมั้ง เลยทำให้มินซอกดูแปลกๆ

      บางที... เขาอาจจะไข้ขึ้นรึเปล่า

      "ปกติดีหรอกน่า" แก้มป่องๆของเขาพองออกจนผมกลัวว่ามันจะแตกออกมา

      มันก็น่ารักอยู่หรอก

      เพราะเป็นมินซอก ทำอะไรมันก็น่ารักไปหมดแหละสำหรับผม

      แต่ผมว่าวันนี้เค้าผิดปกติจริงๆนะ ผมมองสบตาเขาที่จ้องผมอยู่ก่อน ดูตาแป๋วๆแบบนั้นสิ

      ไม่รู้ว่าเขาตั้งใจรึเปล่า แต่สำหรับผม

      เขากำลังยั่วผมอยู่นะ สุดท้ายผมเลยกดจมูกลงไปกับแก้มนิ่มๆนั้น

      "ฉันน่ารักขนาดอดใจไม่ไหวเลยเหรอ"

      เวลาแบบนี้เขาควรจะเขินไม่ใช่เหรอ

      แล้วทำไมเป็นผมที่รู้สึกเขินแบบนี้เนี่ย

       

      อ๊ากกกก

      คิมมินซอก นายนี่มัน!




      ******* *******


      ไม่รู้ว่าเรานั่งทำอะไรกันในร้านคอฟฟี่ช้อปเป็นนานสองนาน พอมารู้ตัวอีกทีก็เกือบจะหกโมงแล้ว ผมคิดถึงเตียงอุ่นๆของผมจังเลย
      ยิ่งออกมาสัมผัสอากาศเย็นเฉียบแบบนี้ยิ่งรู้สึกอยากจะกลับไปนอน  แต่มินซอกยังอยากไปเดินเล่นต่อ

      ผมเห็นเขาเดินกอดอกตัวสั่นเป็นลูกนกตกน้ำ สุดท้ายผมเลยเอาผ้าพันคอของผมไปพันให้เขา จมูกของเขาแดงเพราะอากาศเย็นจัด อยากจะเอื้อมมือไปบีบจมูกนั้นซะจริง แต่เอาไว้ก่อนละกัน ตอนนี้รีบๆพาเขาไปเดินเล่นแล้วรีบกลับน่าจะดี

      พวกเราเดินเล่นกันจนเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว

      ผมว่าวันนี้เขาแปลกไปจริงๆแหละ ถ้าเป็นเวลาปกติป่านนี้เขาต้องงอแงอยากจะกลับบ้านแล้วไม่ใช่เหรอ

      เขาแทบจะไม่อยู่นอกบ้านหลังสามทุ่มด้วยซ้ำ

      ขนาดผมชวนกลับ เขายังทำเหมือนไม่อยากจะกลับอย่างนั้นแหละ

      วันนี้มินซอกแปลกไปจริงๆ

      ผมเดินนำเขาที่เดินตามหลังผมเตาะแตะๆเหมือนเด็กๆ

      ก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าซอยถี่ๆดังอยู่ข้างหลัง

      ยังไม่ทันจะได้หันกลับไปมอง

      ....

      มินซอกก็กระโดดมาเกาะอยู่บนหลังของผมแล้ว

      "มินซอก มันหนักนะ" ผมร้องบอกเขาเมื่อตั้งสติได้ ดีแค่ไหนแล้วที่หลังผมไม่หัก แล้วก็ไม่พากันล้มไปทั้งคู่

      "ไม่สนแหละ"

      ผมรู้สึกว่าเขาเอาหน้าแนบกับหลังผมสุดท้ายเลยจำใจต้องเดินต่อทั้งที่แบกเขาไว้บนหลัง

      ตัวก็ไม่ใช่เล็กๆหรอกนะ

      "หานหาน หนักไหม" มินซอกปีนขึ้นมาเอาคางเกยกับไหล่ผม จนผมรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดอยู่ข้างลำคอ

      "หนักสิ นายไม่ได้ตัวเล็กๆเหมือนตอบสิบขวบนะ ฉันถึงจะได้แบกนายได้"

      ผมปล่อยให้ความเงียบทำหน้าที่ของมัน ได้ยินเสียงพึมพำของเขาอยู่บนหลัง ทั้งที่จับใจความได้บ้างไม่ได้บ้าง

      ไม่รู้เป็นเพราะมือของมินซอกที่เอื้อมมาคล้องคอผมไว้รึเปล่าแต่ผมรู้สึกว่าตอนนี้มันไม่ได้หนาวอย่างที่ควรจะเป็น

      รึว่าผมคิดไปเอง

      "รู้ไหมลู่หาน ฉันชอบวันนี้ที่สุดเลยนะ เพราะมันเป็นวันคริสต์มาส แล้วฉันก็ได้อยู่กับนายด้วย" จู่ๆมินซอกก็พูดขึ้น
        แถมยังซบหน้าลงกับไหล่ของผมอีก

      ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกดีกับประโยคธรรมดาๆของเขา

      ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เพื่อนข้างบ้าน

      ไม่ได้เป็นแค่เพื่อนข้างบ้านสำหรับผม

      "สำหรับฉัน ทุกวันที่มีนายอยู่ใกล้ๆ ฉันก็ชอบมันหมดแหละ แค่มีนายอยู่ด้วยกันมันก็เป็นวันพิเศษที่สุดสำหรับฉันแล้ว"


      .....


      "นายเป็นคนพิเศษของฉัน เป็นคนที่ฉันอยากดูแลตลอดไป ฉันเองก็ไม่รู้หรอกนะว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ และก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่ตอนนี้ นายเป็นตัวความสุขของฉัน"


      ....


       

      ตัวความสุขที่กินเก่ง พูดมาก แต่ฉันก็ชอบทุกอย่างที่นายเป็น

       

      .....

       

      นี่ หลับเหรอ

       

      ..




      เสียงหายใจสม่ำเสมอของเขาทำให้ผมได้แต่ยิ้มกับตัวเอง

      วันนี้มันอะไรกันเนี่ย

      ผมเพิ่งจะสารภาพความรู้สึกกับเขาไป

      แต่เขากลับหลับอยู่บนหลังผมเนี่ยนะ

      คิมมินซอก

      นายนี่มันจริงๆเลย

       

      ผมอยากให้เวลาเดินช้าลงจริงๆ อยากจะเก็บช่วงเวลานี้ไว้นานๆ

      วลาที่ได้อยู่กับเขาสองคน
       

      ทางกลับบ้านที่เคยเดินด้วยกัน
       

      ทำไมวันนี้ผมรู้สึกว่ามันสั้นกว่าที่เคย
       

      หรือว่ามันจะเป็นมนต์วิเศษของคืนวันคริสต์มาสกันนะ



       

       

       

       

      Minseok part


       

      จะตีหนึ่งแล้ว

      แต่ผมยังคงนั่งมองหิมะตกอยู่ที่ข้างหน้าต่าง

      ผมหลับไปบนหลังของลู่หานตอนไหนกันนะ มารู้ตัวอีกทีตอนที่ลู่หานวางผมลงบนเตียงแล้ว   แต่ผมก็แกล้งหลับต่อ

      น่าอายชะมัดเลย ไปหลับบนหลังของลู่หานได้ยังไงกัน

      แถมเขายังต้องแบกผมขึ้นมาส่งที่ห้องอีก

      ดีนะที่ดึกแล้ว ไม่งั้นแม่ต้องออกมาโวยวายหาว่าผมแกล้งลู่หานอีกแน่ ผมก้มลงมองผ้าพันคอของลู่หานในมือที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆจากน้ำหอมที่ลู่หานใช้เป็นประจำ

      ในที่สุดก็ผ่านวันที่ผมชอบที่สุดไปแล้ว

      คริสต์มาสปีนี้ ดีกว่าปีไหนๆ ตรงที่ผมสามารถลากลู่หานให้ออกไปเที่ยวด้วยกันได้

      ได้ใช้เวลาทั้งวันอยู่ด้วยกัน

      แม้จะได้เห็นหน้าบึ้งของเขาซะมากกว่า

      แต่ยังไงซะวันนี้ก็ยังคงเป็นวันที่พิเศษที่สุด

       

      ที่หน้าต่างห้องตรงข้ามกับผมปิดไฟไปได้สักพักแล้ว แถมยังปิดผ้าม่านเอาไว้อีก

      เหมือนผมจะได้ยินเสียงไอคอกแคกมาจากหลังหน้าต่างบานนั้นด้วย

      อ่า เจ้ากวางน้อยคงป่วยแล้วสินะ

      พรุ่งนี้คงต้องขอให้แม่ทำซุปอุ่นๆไปให้แทนคำขอโทษที่ทำให้ป่วยซะหน่อยแล้ว






       

      ลู่หานไม่ชอบหน้าหนาว

      แต่ก็ยังยอมออกมาเจอผม

      ลู่หานเป็นหวัดง่าย

      แต่ก็ยอมยกผ้าพันคอผืนนี้มาให้ผม


      ลู่หานน่ะอบอุ่นซะยิ่งกว่าผ้าพันคอผืนไหนซะอีก


      ........

       



       

      20/12/13

      #xmaswithyou

      วันนี้มาลงครึ่งแรกของก่อนนะคะ

      เพราะวางพล็อตเกี่ยวกับคริสต์มาสเลยอยากลงใกล้ๆวัน

      เพื่อจะได้ ได้บรรยากาศ รึเปล่า?

      อย่าเพิ่งเบื่อหรือรำคาญกันไปก่อนนะคะ

      และขอขอบคุณทุกคอมเม้นท์และเฟบเลยนะคะ

      โดยเฉพาะ รักยอลลี่, Xxtoaotoxx, bowri04, aaa, >>พารัม, Parnrum, kim xiumin, Boe Boonyada Km

      ขอบคุณค่ะที่ติดตามตั้งแต่ที่มาสปอยไว้

      อ้อ พาร์ทพี่ลู่จะมาวันคริสต์มาสนะคะ 

      Jyploy

      25/12/13

      เมอร์รี่คริสต์มาสนะคะ เห็นมีคนสงสัยว่าใครเมะ ใครเคะ

      คือตอนแต่งอารมณ์มันพาไปเองอ่ะค่ะ

      ปกติพี่ลู่ก็เหมือนจะเมะ แต่บางทีก็ชอบเขินพี่มินซอก

      มันเลยออกมาแบบนี้

      คือส่วนตัวไม่ค่อยถนัดแต่งอะไรหวานๆ

      ชอบแนวดราม่า มันเลยอาจไม่สนุก

      แต่ก็ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×