คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : memory-2-
นี่ก็เย็นมากแล้วนะทำไมจินอูยังไม่กลับมาสักที ซึงฮุนที่นั่งอยู่ตรงล้อบบี้ของคอนโด มองที่โทรศัพท์ของตนเองสลับไปมากับประตูทางเข้า ตั้งแต่กลับมาเขาโทรหาจินอูไม่ติดเลย ท้งเป็นห่วงทั้งร้อนใจ จินอูไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เคยหายไปแบบนี้ มือของซึงฮุนยังกดโทรออกไปที่เบอร์เดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ไม่มีวี่แววที่ปลายสายจะรับมันเลย
“นายไหนนะ จินอู”ซึงฮุนนั่งก้มหน้ามองเท้าตัวเอง ในใจได้แต่หวังให้จินอูกลับมาอย่างปลอดภัย
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเพื่อนตัวเล็กกำลังเปิดประตูเดินเข้ามาด้านใบหน้าที่เหนื่อยๆดวงตาที่บ่งบอกว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก เขาเดินอย่างไร้เรี่ยวแรง
“จินู ไปไหนมา เราเปะ..”ซึงฮุนหยุดพูดกลางคันเพราะเพื่อนตัวเล็กที่อยู่ๆก็เดินมากอดเขา แล้วร้องไห้สะอื้น เขาเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เขาไม่ชอบเวลาที่จินอูเป็นแบบนี้ เพราะเขามักจะทำอะไรไม่ถูก ซึงฮุนยกมือขึ้นมาลูบหัวจินอูช้าๆ เขาจะไม่ถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ถ้าจินอูอยากเล่าเขาคงเล่าเอง การร้องไห้ครั้งนี้ของจินอูมันหนักพอๆกับเมื่อหนึ่งปีที่แล้วที่ซึงยูนไม่ยอมติดต่อเขามาเกือบเดือน ทั้งๆที่วันนี้จินอูควรจะมีความสุขที่กลับไปเจอกับซึงยูนแต่ทำไมถึงกลายเป็นร้องไห้หล่ะ
“ขึ้นห้องกันเถอะ”ซึงฮุนเดินไปข้างหน้าจินอูแล้วนั่งลงยองๆเพื่อเป็นฐาน จินอูทิ้งน้ำหนักตัวลงบนแผ่นหลังของซึงฮุน แม้แต่แรงก้าวเดินในตอนนี้ จินอูก็ไม่มีหรอกเพราะเขาใช้แรงหมดไปกับการร้องไห้และเดินมาจากบริษัทของซึงยูนซึ่งระยะทางมันไกลมาก เขาหวังแค่ว่าความเหนื่อยล้าจะทำให้ลืมความเจ็บปวดลงได้บ้าง
“น่าสมเพช”จริงอย่างที่ซึงยูนพูดสภาพเขาตอนนี้มันน่าสมเพช ถึงแม้เขาเองจะไม่รู้ว่าทำไมซึงยูนถึงพูดแบบนี้ แต่จินอูเชื่อว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับซึงยูนแน่ๆ เพียงแต่เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร อะไรทำให้ซึงยูนเปลี่ยนไปขนาดนี้
“สัมภาษณ์ผ่านไปด้วยดีไหม”จริงๆแล้วซึงฮุนเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะถามคำถามนี้หรอก แต่
“วันนี้เราเจอซึงยูน เราเลยวิ่งเข้าไปหา”ร่างเล็กทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาด้วยแววตาเศร้าๆ
“แต่เขา…จำเราไม่ได้”สิ้นสุดคำพูดจินอูก็ปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง ร่างกายที่สั่นเทาเพราะแรงสะอื้นยิ่งเห็นยิ่งอยากเข้าไปกอดปลอบ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงเพียงแค่หนึ่งปีจะทำให้คนจำกันไม่ได้เลยหรอ ซึงฮุนได้แต่ลูบหัวจินอูที่ยังคงฟุบหน้าร้องไห้
“ไม่หรอก ไม่มีทางที่หมอนั่นจำจินูไม่ได้หรอก มันรักนายมากเลยนะ”
“แต่เขาบอกเราเอง ซึงยูนบอกว่า เราน่าสมเพช เขาผลักเรา เขาเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ”น้ำตาของเพื่อนตัวเล็กยังคงไหลออกมาอย่างไมหยุดหย่อน
“มันต้องมีเหตุผลสิ ทุกอย่างต้องมีเหตุผล”
ซึงฮุนนั่งมองเพื่อนตัวเล็กที่ผล็อยหลับไปเพราะความเหนื่อยล้าจากการร้องไห้ เขาเองก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ร่างสูงลุกขึ้นยืนมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา ก้มลงดึงผ้าห่มที่อยู่ตรงเอวของจินอูขึ้นมาตรงหน้าอก แล้วโน้มใบหน้าลงกดจูบเบาๆที่ขมับของคนตัวเล็ก แล้วค่อยๆเดินกลับมาที่ห้องของตน
“ซึงยูนจำจินอูไม่ได้หรอ เป็นไปได้ไง”เมื่อนึกอะไรบางอย่างได้ร่างสูงก็ตรงไปที่โต๊ะทำงาน มือเรียวหยิบแฟ้มประวัติคนไข้ที่เขาเคยเมินขึ้นมาดูอีกครั้ง
ประวัติคนไข้
ชื่อ นัมแทฮยอน อายุ 22ปี
เหตุผลในการรักษา เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขาทั้งสองใช้การไม่ได้อย่างปกติ
อุบัติเหตุทางรถยนต์งั้นหรอ แสดงว่าที่ซึงยูนเป็นแบบนี้ก็เพราะอุบัติเหตุนั่นด้วยสินะ ซึงฮุนตัดสินใจโทรกลับไปหาประธานชเวเพื่อนัดคุยอีกครั้ง เพื่อคุยรายละเอียดขออาการและการรักษา และพบว่าจริงๆแล้วแทฮยอนเคยได้รับการรักษาจากแพทย์ที่อเมริกาแล้วเพียงแต่มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ไม่ยอมเดิน อาจเพราะความกลัว หรืออะไร แต่นี่ไม่ใช่เพียงโรคที่เกิดทางกายภาพเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกิดกับสภาพจิตใจด้วย นอกจากนั้นซึงฮุนยังได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับซึงยูนด้วยเช่นกัน แล้วเขาควรจะบอกจินอูอย่างไรดี ความทรงจำที่หายไปของซึงยูนบางครั้งเขาเองก็อยากให้มันหายไปเลย แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น จินอูจะต้องทุกข์ใจ เขาทนเห็นจินอูต้องทุกข์ไม่ได้หรอก
ตืดดดดด ตืดดดดด
โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต้ะสั่นสะเทือน ซึงฮุนยิ้มออกทันทีที่เห็นชื่อของคนที่โทรมา เป็นไปใครไปไม่ได้หรอก นอกจาก…
“ว่าไง จินู”
(ไปทำงานเมื่อไหร่ ทำไมไม่เห็นปลุก)
“เราไม่อยากให้จินูพักผ่อนเยอะๆ แล้วนี่ตื่นมากินข้าวหรือยัง”
(เรียบร้อย ฉันโตแล้วนะ ถามเหมือนตอนเป็นเด็กเลย)
“แล้วโทรมามีอะไรพิเศษหรือเปล่านะ”
(อยู่ห้องแล้วเบื่อ ไปหาที่โรงพยาบาลได้ไหม)
“ก็ได้นะ ใส่ผ้าปิดปากมาด้วยละกัน ที่นี่เชื้อโรคเยอะ”
(โอเค ไว้เจอกันนะ)
จริงๆแล้วซึงฮุนไม่อยากให้จินอูมานักหรอก เพียงแต่ตอนนี้เขาเองไม่อยากปล่อยจินอูไว้อยู่คนเดียว เขากลัวคนตัวเล็กจะคิดมาก มาอยู่ใกล้ๆหน่ะดีแล้ว จะได้ดูแลได้ง่ายขึ้น
ก้อกๆๆ
“ขออนุญาตค่ะ หมอฮุนคะ มีคนมาขอพบค่ะ”แต่นี่มันเวลางานนะ ทำไมไม่รอให้เขาพักก่อน ซึงฮุนมองไปที่ประตูนิ่งก่อนจะปรากฎให้เห็นถึงผู้มาใหม่
“พี่หมอฮุน”รถเข็นพาเจ้าของใบหน้าหวานเข้ามาในห้อง
“แทฮยอน”ซึงฮุนมองใบหน้านั้นด้วยสายตาที่ไม่อาจเดาคำพูดได้
“ทำไมเรียกผม แบบนั้นหล่ะดูห่างเหินจัง เรียกผมน้องนัมเหมือนเดิมดีกว่า”
อะแฮ่ม บุคคลที่เข็นแทฮยอนกระแอมขึ้นเบาๆ
“พี่มิโน ตอนนี้พี่มีธุระอะไรก็ไปทำเถอะนะ ผมอยู่กับหมอคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก” มิโนหันมามองหน้าซึงฮุนด้วยสายตาขวางก่อนจะเดินออกไปพร้อมปิดประตูเสียงดัง
“มีอะไรหรือเปล่า พี่ต้องทำงานนะ มีคนไข้รอพี่อยู่”
“ผมก็เป็นคนไข้ของพี่นะ”แทฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ แต่เพราะรู้ว่าซึงฮุนไม่คิดจะตามใจเขาเหมือนมิโนและซึงยูน จึงไม่กล้าที่จะเหวี่ยงใส่
“แล้วนี่มากับมิโนแค่นั้นหรอ”
“เปล่าหรอกฮะ พี่ซึงยูนขึ้นไปคุยอยู่กับคุณอาหมอชเว”ก็คงไม่พ้นคุยเรื่องเขาสินะ
“อีกอย่าง นัมอยากมาหาพี่ ไม่ได้เจอกันนานเลย”
“ใช่ นานมากๆ แล้วพี่นายกับนายสบายดีใช่ไหม”ซึงฮุนถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย เขามักจะทำตัวเย็นชากับทุกคน ยกเว้นจินอู ซึ่งแทฮยอนเองก็ชินกับบุคลิกของคนตรงหน้าแล้วล่ะ
“ไม่ฮะ ถ้าสบายดีคงไม่มาโรงพยาบาล แล้วก็คงไม่ได้เจอพี่ ไม่รู้ว่าผมควรจะต้องดีใจดีไหมที่เกิดอุบัติเหตุ”คำพูดคำจาที่แสนร้ายกาจทำซึงฮุนถอนหายใจออกมาเบาๆ
“นั่นสิเนอะพี่ก็ถามแปลก หึ”
เมื่อวางสายจากซึงฮุนลง คนตัวเล็กก็รีบลุกขึ้นจากโซฟาแล้วไปแต่งตัว โดยที่ไม่ลืมหยิบมาร์คปิดปากไปด้วย มีเพื่อนเป็นหมอ ต้องปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด วันนี้เขาไม่อยากอยู่ห้องมันทำให้เขารู้สึกฟุ้งซ่าน ยิ่งทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เขายังคงจำได้แม่นยำ
ร่างเล็กเลือกที่จะนั่งแท็กซี่มาโรงพยาบาลที่อยู่ห่างไปไม่มากนัก เมื่อถึงสถานที่หมาย มือเล็กล้วงไปในกระเป๋าเพื่อหยิบเครื่องมือสื่อสารกดไปยังเบอร์เพื่อนรัก
แต่ก็ไม่มีคนรับสาย สงสัยติดคนไข้อยู่ล่ะมั้ง แต่ไม่เป็นไรหรอกจินอูเคยมาที่นี่บ่อยจำทางได้ไม่มีทางหลงแน่นอน เดินรอแถวๆนั้นก่อนก็ได้
จินอูนั่งรอแถวๆประชาสัมพันธ์ ไม่อยากรอข้างหน้าห้องประจำ เพราะไม่อยากกดดันคนที่ทำงานอยู่ กวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดเข้ากับคนๆหนึ่งที่เพิ่งเดินลงมาจากลิฟท์ จินอูเดินเดินตามไปอย่างไม่คิดอะไรมาก เขามาทำอะไรที่นี่นะ และเหมือนคนที่ถูกตามจะรู้ตัว เขาหยุดเดินแล้วหันมามองข้างหลัง ยังโชคดีที่จินอูไหวตัวทัน รีบหลบเข้าไปหลังเสา ในใจเกิดความหวาดกลัวขึ้นอีกครั้ง
เมื่อแน่ใจว่าคนที่กำลังตามหันกลับไปแล้วจึงพาตัวเองเดินออกมาจากหลังเสา แต่เมื่อออกมากลับไม่เห็นใคร ร่างเล็กรีบวิ่งไปยังทีที่คนๆนั้นยืนอยู่เมื่อสักครู่ ใบหน้าสวยหันมองซ้ายขวาสลับไปมา
แต่ก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่ออยู่ๆก็มีมือยื่นมาจับเข้าที่หัวไหล่ ร่างเล็กรีบหันกลับมาทำให้ตอนนี้จินอูกำลังเผชิญหน้าเข้ากับคนที่ตัวเองกำลังตามอยู่
“นายตามฉันมาทำไม”โชคยังดีที่เขใส่มาร์คปิดปากเอาไว้ อย่างน้อยซึงยูนก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร และไม่ทำร้ายจิตใจเขาเหมือนครั้งนั้น
“นายเป็นใคร”จินอูรีบสะบัดมือของซึงยูนที่เกาะหัวไล่เขาให้หลุดแล้วรีบวิ่งหนีย่างไม่คิดชีวิต ซึงยูนเองก็วิ่งตามจินอูไปติดๆเขาไม่รู้ว่าเขาเองจะวิ่งตามไปทำไม แต่ท่าทางของบุคคลนั้นมันน่าสงสัยเกินไป บางครั้งอาจจะเป็นผู้ไม่หวังดีที่พยายามจะทำร้ายเขาอยู่ก็ได้
“หยุดนะ”ซึงยูนออกคำสั่งพร้อมรีบวิ่งไปดักหน้าคนตัวเล็ก และด้วยท่อนขาที่ยาวกว่าทำให้ซึงยูนสามารถรวบตัวคนตัวเล็กเอาไว้ได้ จินอูยังคงดิ้นอยู่ภายในอ้อมกอดจากทางด้านหลังของซึงยูน ซึงยูนพลิกคนร่างเล็กกลับมาให้ประจันหน้ากับตนเองก่อนจะดันให้หลังของคนตัวเล็กชิดเข้ากับกำแพง
“แรงเยอะชะมัด นายเป็นใครกันแน่”
“…”
“ถามแล้วไม่ตอบ มีคนส่งนายมาทำร้ายฉันใช่ไหม”
“…”จินอูไม่ตอบได้แต่ส่ายหน้าไปมา
“เหอะ เป็นใบ้หรือไง ไหนของดูหน้าหน่อยเหอะ”จินอูพยายามบิดหน้าหนีไปมา ซึงยูนเลยเลื่อนมือข้างนึงมาบีบไว้ที่คางของจินอู แล้วดึงผ้าปิดปากนั้นออก
“นาย”ซึงยูนถึงกับอุทานด้วยความตกใจ นี่มันคนที่เขาเพิ่งเจอเมื่อวานนี่ ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ ตามเขามางั้ยหรอ นี่มันจะเข้าข่ายโรคจิตไปหน่อยมั้ง จินอูได้แต่ยืนก้มหน้าด้วยความหวาดกลัว
“คิมจินอู”ร่างเล็กที่กำลังก้มหน้าอยู่รีบเงยหน้าอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินซึงยูนเรียกชื่อของตัวเอง พลันคิดไปว่าซึงยูนคงจำเขาได้แล้ว
“นายจำฉันได้แล้วหรอซึงยูน นายจำได้แล้วใช่ไหมว่าเราเคยรักกัน”จินอูรีบคว้าข้อมือหนาของซึงยูนมาจับไว้ แต่ซึงยูนสะบัดมันออกไปอย่างไร้เยื่อใย
“จำได้สิ ผู้ชายแพศยา น่าสมเพชคนนั้นไง”
“…”จินอูได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาโดยไม่พูดอะไร
“แต่ฉันก็ไม่คิดว่านาย จะวิกลจริตถึงขนาดตามฉันไปทุกที่ นายนี่มันน่าขยะแขยงจริงๆ”คำพูดแต่ละคำที่ออกมาจากปากซึงยูนมันเหมือนเป็นของแหลมคมที่กำลังกรีดลงมาที่หัวใจดวงน้อยของจินอู คนตัวเล็กได้แต่ยืนร้องไห้
“หยุดร้องไห้ น้ำตาสกปรกของเธอไม่ทำให้ฉันใจอ่อนหรอกนะ ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกรังเกียจมากขึ้น แทฮยอนบอกไว้ไม่มีผิด”
ทันทีที่ซึงยูนหันจะเดินจากไป จินอูก็รีบวิ่งเข้าไปกอดจากด้านหลัง
“ซึงยูน ฉันคือคนรักของนายจำไม่ได้หรอ นายรักฉันแล้วฉันก็รักนายเรารักกันมานาน นายลืมฉันแล้วหรอซึงยูน”ร่างเล็กยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่บนแผ่นหลังกว้างของซึงยูน
“ฉันคิดถึงนาย นายหายไปไหน ฮึกๆ ทำไมถึงเป็นแบบนี้”พูดไปร้องไห้ไปร่างกายของซึงยูนสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากการสะอื้นของคนตัวเล็ก อยู่ๆเขาเองก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา ซึงยูนขมวดคิ้วเข้าหากัน แล้วยกมือขึ้นมากุมที่หัวของตัวเอง ตอนนี้ซึงยูนรู้สึกเหมือนสมองจะระเบิดยังไงยังงั้น จินอูเองก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และยิ่งรู้สึกทำตัวไม่ถูกเมื่อซึงยูนลงไปนอนคุดคู้อยู่บนพื้น
“หมอฮุนคะ เกิดขึ้นแล้วค่ะ”พยาบาลที่อยู่ๆพรวดพราดเข้ามาโดยไม่เคาะประตูทำเอาแทฮยอนถึงกับหัวเสีย
“เกิดอะไรขึ้น”ไม่รอฟังคำตอบจากพยาบาลคนนั้น ซึงฮุนรีบวิ่งออกมาจากนอกห้องทันที แล้วเดินตรงไปยังที่ที่มีคนมุงอยู่
“นี่ แก”แทฮยอนเรียกจิกพยาบาลคนนั้นสายตาของเขาก็จิกไม่แพ้กัน
“เข็นฉันออกไปเดี๋ยวนี้!!!”
ซึงฮุนเดินฝ่ากลุ่มคนที่กำลังมุง ก็เห็นเพื่อนตัวเล็กของเขากำลังนั่งร้องไห้อยู่ข้างๆซึงยูนที่กำลังนอนบิดไปมาด้วยความเจ็บปวด
“คุณพยาบาล รีบเตรียมห้องด่วน แล้วรีบโทรบอก หมอดงให้รีบกลับมาด้วย “เพราะจริงๆแล้วซึงฮุนไม่ได้จบมาทางด้านประสาทโดยตรงเขาคงทำอะไรไม่ได้มากเท่าที่ควร เมื่อออกคำสั่งกับพยาบาลเสร็จ เขาก็รีบเดินเข้าไปหาจินอูที่นั่งร้องไห้อยู่ กอดปลอบเบาๆ
“ซึงยูนไม่เป็นอะไรหรอก อย่าร้องนะ”
ร่างของซึงยูนถูกหามเข้าห้องไปแล้ว หมอที่ซึงฮุนให้ตามก็เดินเข้าไปแล้ว แต่จินอูยังคงร้องไห้อยู่อย่างนั้น เพราะความกลัว กลัวซึงยูนจะเป็นอะไร ทั้งรู้สึกผิกที่ทำให้ซึงยูนเป็นแบบนี้ ถ้าเขาไม่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ซึงยูนก็ไม่ต้องทรมานขนาดนี้ ร่างเล็กยังคงซุกใบหน้าลงไปบนบริเวณหน้าอกของเพื่อนรัก ทำให้เสื้อกราวของซึงฮุนเปียกชื้อไปด้วยหยดน้ำตา
แล้วภาพที่เกิดขึ้นตอนนี้มันยิ่งทำให้ไปแห่งแรงริษยาลุกโชนขึ้นอีกครั้ง เกลียด แทฮยอนเกลียดจินอู เพราะจินอูคือคนที่แย่งความรักจากทุกคนไป เกลียดที่ซึงฮุนไม่เคยเปลี่ยนใจไปจากจินอูเลย
ฉันจะทำให้นายเจ็บปวดที่สุด คิมจินอู
*น้ำตาจะไล่ กว่าจะแต่งได้ ต้องรอตัวเองอินก่อน
เขียนแล้วลบอยู่ตั้งนาน จริงๆกะจะให้เรื่องอีกเรื่องจบก่อนแล้วค่อยต่อ
แต่ไหนๆก็แต่งได้แล้วก็ลงเลยละกัน ถึงแม้คนอ่านน้อยแต่แค่มีคนอ่านก็ชื่นใจแล้ว
#ความทรงจำของซึงยูน ตอนแรกคิดว่าไม่ต้องมีหรอกแต่พอจะโปรโมทให้ตัวเองไม่รู้จะเขียนยังไง
ฝากโปรโมทด้วยเด้อ อย่าลืมเม้นให้กำลังใจกันนะคะ
ความคิดเห็น