มือกีต้าร์ที่รัก - นิยาย มือกีต้าร์ที่รัก : Dek-D.com - Writer
×

    มือกีต้าร์ที่รัก

    ฉันและเขา เราต่างกันสุดขอบฟ้า แต่ความโชคชะตาก็นำพาให้เรามารู้จักกัน.....แม้ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย...แต่สุดท้ายเราก็หนีกันไม่พ้น........

    ผู้เข้าชมรวม

    173

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    173

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  17 พ.ค. 57 / 20:07 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    รับน้องใหม่

     

                    “นี่พวกเราเสาร์หน้าเรามีงานใหญ่กันนะ” ผู้หญิงใส่มินิสเกิร์ตสีดำท่าทางมั่นใจในตัวเองสูง เดินเข้ามาแจ้งข่าวในห้องทำงาน ทำให้ทุกคนหันมาสนใจทันที

              “งานอะไรเหรอเหรอคะ คุณกั้ง” สาวแว่นที่นั่งอยู่ใกล้ประตูห้องทำงานที่สุดถามคุณกั้งเจ้าของมินิสเกิร์ตสีดำ ด้วยความสนใจ

              “จัดงานคอนเสิร์ตที่พัทยานะซิยายภัทร ปีนี้บริษัทเราประมูลได้นะ”  คุณกั้งหันไปตอบคำถามของสาวแว่นที่ชื่อภัทร

              “ไงละเรา เด็กใหม่มาวันแรกก็ได้งานใหญ่เลย” คุณกั้งหันมาหยอกเย้าน้องใหม่ล่าสุดในออฟฟิศที่เพิ่งเข้ามาทำงานเมื่อเช้า

              “ก็ดีคะ จะได้ไปเที่ยวพัทยาด้วย ไม่ได้ไปมาตั้งนานแล้ว แหะๆ” น้องใหม่ของออฟฟิศตอบแบบงงๆ

              “โอ้ย คงได้เที่ยวหรอก งานใหญ่ขนาดนี้ไม่รู้จะได้นอนกันรึเปล่า เพราะถ้าครั้งแรกเราจัดได้ดี ครั้งต่อๆ ไปบริษัทเราก็ต้องคว้ามาทำได้อีกละน่า แต่ไม่รู้ละเย็นนี้เธอต้องไปเป็นเพื่อชั้นหาซื้อชุดว่ายน้ำหน่อยนะ ยัยมิ้ว” สาวแว่นนามว่าภัทรบ่นออกมา แต่ก็ยังมิวายห่วงว่าจะไม่มีชุดว่ายน้ำใส่ที่พัทยา จึงเอ่ยปากชวนแกมบังคับ มิ้ว หรือ มัณฑญา น้องใหม่ประจำออฟฟิศไปด้วย เพราะเพื่อนๆ ร่วมออฟฟิศรู้ดีว่าเวลาเธอเดินชอปปิ้ง มักใช้เวลานานมาก จึงไม่ค่อยมีใครอยากไปกับเธอเท่าไร มีแต่น้องใหม่ที่เพิ่งมาวันนี้เท่านั้นที่ยังไม่รู้จักตัวตนของเธอ

              “แหม พี่ไหนว่าไม่รู้จะได้นอนรึป่าว แล้วจะซื้อชุดว่ายน้ำไปทำไมอ่ะ หรือว่าจะใส่ไปทำงานด้วย” คำแซวเล่นๆ ของมิ้ว ทำให้คนในห้องทำงานหัวเราะขึ้นมาพร้อมๆ กัน แต่คนโดนแซวถึงกับส่งค้อนวงใหญ่มาให้

              “พวกหล่อนตะหากที่จะไม่ได้นอน อย่าลืมนะว่าชั้นเป็นหัวหน้าฝ่ายอาร์ต เพราะฉะนั้นหัวหน้าก็มีสิทธิ์ที่จะออกคำสั่งใช่ป่ะ” คราวนี้ภัทร หรือ ภัทรากรณ์หันมาถากถาง เหล่าบรรดาลูกน้องที่หัวเราะเธอ

              “นี่ พวกเธอจะครื้นเครงกันไปถึงไหน มิน่าละฝ่ายอาร์ตไม่เคยมีประวัติว่ามีคนลาออก” คุณกั้งรีบตัดบทก่อนที่จะมีน้ำลายฝอยๆ ของใครพ่นออกมาอีก “แล้วที่ฉันอุตส่าห์เดินเข้ามาแจ้งข่าวในห้องนี้ ก็เพราะว่า ฉันจะบอกว่าพรุ่งนี้ฝ่ายอาร์ตทุกคนต้องเข้าประชุมเรื่องการจัดสถานที่เวลาเก้าโมงตรงที่ห้องประชุมใหญ่นะ ถ้าใครสายโดนตัดเงินเดือนนะจะบอกให้” คุณกั้งแจ้งข่าวแล้วเดินออกจากห้องไปทันที

              “แค่งานจัดคอนเสิร์ตนี่มันสำคัญมากขนาดนั้นเลยเหรอคะ พี่ภัทร” มิ้วเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ เพราะเธอเพิ่งเข้ามาทำงานวันนี้เป็นวันแรก

              “ต๊าย เธอไปอยู่ไหนมายัยมิ้ว ถึงไม่รู้จักงานใหญ่ทุกปีของพัทยา พัทยา มิวสิค เฟสติวัลไงละ เค้าจัดช่วงใกล้สงกรานต์ เพราะจะได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวไงล่ะ และที่สำคัญมีนักร้องชื่อดังทั้งของไทย ญี่ปุ่น เกาหลี ฝั่งยุโรปกับอเมริกาก็มี โอ้ย แค่คิดก็อดจะเพ้อฝันไม่ได้แล้วว่าปีนี้ฉันจะได้สัมผัสมือกับนักร้องคนไหนบ้าง” คนที่ตอบคำถามกลับไม่ใช่พี่ภัทรหัวหน้าฝ่ายอาร์ต แต่เป็นสาวช่างฝันร่างท้วมนามว่า ปันปัน

              “เพ้อให้มันน้อยหน่อยนะปันปัน แล้วคืนนี้กลับไปครีเอทเวทีกับตีมของงานมาดีกว่าว่าปีนี้เราจะจัดยังไงให้ประทับใจคนที่สุด เผื่อปีหน้าส้มหล่นเราจะได้งานนี้อีก” พี่ภัทรรีบสกัดฝันของปันปันด้วยการสั่งงานให้ไปคิดที่บ้าน

              “พี่ภัทรอ่ะ หนูก็แค่เพ้อไปตามประสา อย่าเพิ่งขัดจังหวะได้มั้ย” ปันปันบ่นแบบไม่จริงจังสักเท่าไร พร้อมกับเหลือบมองนาฬิกาที่อยู่บนฝาผนัง “ห้าโมงแล้วพวกเราได้เวลากลับบ้านกันแล้ว รีบเก็บของเร็วๆ เข้า” สิ้นเสียงปันปัน ทุกคนในห้องก็ทยอยกลับบ้านกัน เหลือไว้แค่พี่ภัทรกับมิ้วสองคนในห้อง

              “เป็นไงบ้างละมิ้วทำงานวันแรก” ภัทรหันมาถามมิ้วด้วยความเอ็นดู “ก็สนุกมากคะ ที่นี่ไม่ค่อยเครียดกันเท่าไร พี่ๆ ทุกคนก็เป็นกันเองดีคะ” มิ้วหันมายิ้มให้กับภัทรอย่างขอบคุณ เพราะพี่ภัทรคนนี้แหละที่แนะนำให้เธอมาสมัครงานที่นี่ เนื่องจากทั้งสองคนเป็นญาติห่างๆ กัน แต่ในเวลาทำงานต่างก็ทำเป็นไม่ค่อยสนิทกัน เพราะบริษัทนี้ไม่ชอบให้คนที่เป็นญาติกันทำงานใกล้ชิดกัน เพราะกลัวในเรื่องของการทุจริต

              “อืม ก็ชีวิตเรานะมีเรื่องเครียดพอแล้วนี่นะ แล้วย้ายออกจากบ้านมาอย่างนี้คุณพ่อเราเค้าไม่ว่าอะไรเลยเหรอ” ภัทรถามอีก

              “พวกเขาคงดีใจกันมากกว่าคะ ที่มิ้วไม่กลับบ้านเพราะจะได้ตักตวงทุกอย่างได้เต็มที่” มิ้วพูดด้วยเสียงสั่นสะท้าน

              “ช่างมันเถอะ อย่าไปคิดมากเลย มีเวลาอีกตั้ง 1 ปี กว่าจะเปิดพินัยกรรมไม่ใช่เหรอ” ภัทรรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะเข้าใจความรู้สึกของมิ้วดี

              “หนูกลัวว่ามันจะไม่เหลืออะไรเลยนะซิคะ 1 ปีมันนานเกินไป”  มิ้วพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง “เอาน่าสิ่งที่พวกเขาทำได้ในตอนนี้ก็แค่ทยอยขายสมบัติของสะสมเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นมันไม่สะเทือนสักเท่าไรหรอก” ภัทรพยายามปลอบใจรุ่นน้อง “หนูไม่ได้เสียดายอะไรมากหรอกคะ ถ้ามันไม่ใช่ของรักของหวงของคุณแม่” มิ้วปรับทุกข์กับรุ่นพี่

              “ปล่อยวางเถอะ งั้นเราไปชอบปิ้งกันดีกว่าจะได้สบายใจขึ้น” ภัทรรีบจูงมือมิ้วออกจากห้องไปทันที เพราะไม่อยากให้เธอคิดมากไปกว่านี้

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น