รอยจุมพิต
จูนิตา....เขียน
ออมส่งยิ้มขณะเดินเข้าไปหาเพื่อนกลุ่มใหญ่ที่รวมตัวกันที่โต๊ะกลางสนามฟุตบอล ซึ่งเวลานี้ถูกจัดแต่งให้เป็นลานจัดงาน ‘สานฝันปั้นแต่ง’ ซึ่งเป็นงานปิดภาคเรียนของโรงเรียนที่ออมกับเพื่อนๆ เคยร่ำเรียนมาตั้งแต่ชั้นประถม กระทั่งจบมัธยมปลาย
ภายในงานจะมีเด็กนักเรียนตั้งแต่อนุบาลจนถึงชั้นมัธยมพา
ผู้ปกครองมาร่วมงาน ซึ่งมีการแสดงบนเวทีหลากหลาย ทั้งรำไทย ทั้งร้องเล่นดนตรี เต้นรำประกอบเพลงฮิต
ทุกๆ ปีออมกับเพื่อนๆ จะถือวันนี้เป็นวันนัดพบ ถึงแม้ตอนนี้ออมกับเพื่อนจะเรียนจบมหาวิทยาลัยกันแล้ว แต่พวกเธอก็ไม่เคยลืมโรงเรียนแห่งนี้เลย ปีนี้เป็นปีที่่สี่แล้วที่ออมได้มาระลึกถึงความหลังที่ครั้งหนึ่งเธอเคยใช้ชีวิตในวัยเรียนที่นี่ ซึ่งมีทั้งสนุก เศร้าและมีความรัก
“ออมมาคนเดียวเหรอ” แมว เพื่อนสนิทถามขึ้น
ออมยิ้มบางๆ แล้วพยักหน้ารับ
“พี่ตรีไปไหนเสียล่ะ” แนน เพื่อนสนิทอีกคนถามขึ้นบ้าง
“พี่ตรีจะยุ่งเรื่องงานน่ะ” ออมบอกเสียงแผ่ว ดวงตากลมโตนั้นหม่นแสง
“เออ…นี่ออมรู้ไหมว่าวันนี้ พี่ครามกับเพื่อนร่วมวงเขา มาเล่นดนตรีด้วยนะ ตอนนี้คงกำลังเตรียมตัวอยู่หลังเวที” ปาย เพื่อนในกลุ่มอีกคนบอก ดวงตาค่อนข้างเล็กนั้นดูสดใส
พี่คราม…ชื่อนี้ทำให้ออมถึงกับนิ่งงัน เธอไม่เคยเจอเขาเลยตั้งแต่ที่เขาเรียนจบ ก็ห้าปีเข้าไปแล้ว แต่ออมก็ยังเห็นเขาในโทรทัศน์ แมกกาซีน หนังสือพิมพ์ เพราะพี่ครามเวลานี้เป็นร็อกเกอร์ชื่อดังของวงการเพลง
...ไม่ใช่พี่คราม คนที่เคยตามตื๊อเธออีกต่อไป
“พี่ครามหล่อมากเลยนะออม” แนนย้ำเสียงสดใส และเพื่อนสาวหลายคนในโต๊ะก็พยักหน้าเออออ ยกเว้นปิ๊บ…เพื่อนหนุ่มคนเดียวในกลุ่ม ที่ทำหน้าเบ้
“หน้าตาพี่ครามก็เหมือนเดิม!” ปิ๊บว่าเสียงแข็ง เลยทำให้เพื่อนสาวๆ ในกลุ่มหันไปค้อนเขาอย่างพร้อมเพรียง
“ยังโกรธพี่ครามน่ะสิแก” แนนว่า
“แล้วออมล่ะหายโกรธพี่ครามยัง” ปายหันมาถาม
ออมยิ้มฝืดๆ ก่อนจะอ้อมแอ้มตอบว่า “ฉันลืมเรื่องเก่าๆ ไปหมดแล้วล่ะ”
“ก็ดีแล้วแหละ เพราะเรื่องมันก็นานแสนนาน มีแต่คนนิสัยเสียเท่านั้น ที่ยังไม่ลืม” ปายว่าแล้วทิ้งสายตาดุๆ ไปยังปิ๊บ
“โอ๊ยเซ็ง เบื่อพวกบ้าคนหล่อ!” ปิ๊บกระแทกเสียงก่อนจะเดินออกจากโต๊ะไป
ออมมองตามหลังเพื่อนไปอย่างเข้าใจ และคงไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วออมเองก็ไม่เคยลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับพี่คราม
เขาทำบางอย่างที่ออมบอกกับตัวเองในวันนั้นว่าไม่มีวันอภัยและจะไม่มีวันคบหาเขาต่อไป ไม่ว่าจะในฐานะพี่หรือเพื่อน แต่เวลาผ่านไปถึงห้าปี
ออมก็ไม่เคยลืม ถึงแม้เธอจะมีพี่ตรี ที่เธอคบหาอย่างเปิดเผย เพราะสิ่งที่
พี่ครามทำกับเธอนั้นมันสร้างรอยอุ่นหวานในใจ ทั้งๆ ที่เธอพยายามปฏิเสธมันมาตลอด
มันเกิดขึ้นโดยที่เธอเองก็ไม่คาดฝัน ในงานเลี้ยงฉลองวันเกิด
ของแนนครบสิบเจ็ดปี เย็นวันนั้นออมนั่งเล่นอยู่สวนหลังบ้าน พี่ครามตามตื๊อบอกรักและอยากคบหากับเธอ ทั้งที่ออมก็ปฏิเสธมาหลายครั้ง และเย็นวันนั้นออมก็ยังยืนยันคำพูดเดิม คือไม่ และบอกย้ำกับพี่ครามว่าเธอไม่เคยคิดที่จะรักเขาเลย
พี่ครามเสียใจและบวกกับอาการเมามายนั้นทำให้เขาดึงตัวเธอไปกอดและระดมจูบเธออย่างคนบ้าคลั่ง ปิ๊บมาเห็นเข้าเลยเกิดการชกต่อยกันขึ้น นับจากนั้นออมกับพี่ครามก็ไม่เคยพูดคุยกันอีกเลยกระทั่งเขาเรียนจบ
เพื่อนๆ สงสัยว่าทำไมออมถึงไม่รักไม่ชอบพี่คราม ทั้งที่เขาทั้งหล่อ รวยและแสนป๊อปปูล่า เป็นทั้งนักกีฬา นักดนตรี แถมการเรียนเขาก็อยู่ในระดับที่ดี เป็นขวัญใจของสาวๆ ทั้งโรงเรียน ทุกอย่างในตัวเขาล้วน
เพอร์เฟ็กต์ แต่ออมเป็นเพียงเด็กสาวหน้าตาเรียบๆ คนหนึ่ง ไม่เด่น ไม่ดัง
เพียงแต่เธอเรียนเก่ง เป็นที่หนึ่งของระดับชั้นเท่านั้นเอง
ความแตกต่างนี้ทำให้ออมคิดว่าเธอและเขาไม่สามารถที่จะคบหากันได้ เธอคิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับพี่คราม และคิดว่าเขาเองไม่เหมาะกับเธอเช่นกัน ออมคิดว่าพี่ตรี ผู้ชายหน้าตาเรียบๆ ไม่เด่นไม่ดังและไม่ร่ำรวย เหมาะกับเธอมากกว่าพี่คราม
เสียงเพลงในจังหวัดคึกคักบรรเลงกระหึ่มทั่วบริเวณโรงเรียน เสียงเป่าปากโห่ร้องอย่างถูกใจของเพื่อนๆ และรุ่นน้องที่อยู่ภายในลานกว้างนั้น
ทำให้ออมหลุดจากภวังค์ ดวงตาทอดมองไปยังร่างสูงของพี่คราม ซึ่งกำลังร้องเต้นไปตามจังหวะเพลงอันแสนสนุกนั้น เขาสวมเสื้อกล้ามสีขาว ใส่กางเกงยีนสีซีด และรองเท้าผ้าใบเก่าๆ ผมยาวระต้นคอนั้นช่างเหมาะกับใบหน้าเรียวคมของเขา
ออมไม่รู้ว่าตัวเองตาฝาดไปหรือเปล่า เธอเห็นดวงตาคมลึกคู่นั้น พุ่งตรงมายังเธอ กระแสอบอุ่นสาดไล้มายังเนื้อตัวและหัวใจจนเธอต้องเสมองไปยังที่อื่น
เมื่อร่างสูงนั้นเดินตรงมายังโต๊ะออมก็ก้มหน้างุด ในขณะที่เพื่อนๆ ของเธอส่งเสียงทักทายพี่ครามเจี๊ยวจ๊าวไปหมด
“ดีใจจังครับที่เจอน้องๆ” เสียงทุ้มนุ่มนั้นเจือด้วยเสียงหัวเราะแผ่ว
ออมบีบมือเย็นเฉียบของตัวเองไว้แน่น
“แต่ก็คงมีบางคนที่คงไม่ดีใจนักที่เจอพี่” เสียงเนิบนุ่มนั้นทำให้ออมเงยหน้าขึ้นมองเขาเต็มตา
ใบหน้าเรียวหล่อมีไรหนวดจางๆ เหนือริมฝีปากและปลายคาง ดวงตาคมลึกนั้นส่งกระแสบางอย่างที่ทำให้ออมรู้สึกร้อนและหนาวในคราวเดียว
“เอ่อ…ออมขอตัวก่อนนะ” ออมพูดได้แค่นั้นจริงๆ ก่อนจะก้าวขาสั่นๆ ตรงไปยังป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียน ออมนั่งนิ่งราวกับหุ่น ปล่อยให้รถเมล์คันแล้วคันเล่าผ่านไปอย่างไม่ไยดี
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับเธอ ...มันคืออะไร ที่ทำให้หวาดหวั่น ไม่ว่าวันนี้
หรือวันวาน ความรู้สึกไม่ต่างกันเลย หรือจริงๆ เธอกลัวใจตัวเอง ใจที่ไม่อยากจะรักผู้ชายแสนหล่อ เท่และเป็นที่หมายปองของสาวๆ ยิ่งเวลานี้
พี่ครามเป็นถึงร็อกเกอร์ชื่อดัง เธอยิ่งหวาดกลัว เพราะยิ่งตอกย้ำความแตกต่างระหว่างเธอกับเขา
“ให้พี่ไปส่งนะ” เสียงที่ดังมาจากข้างตัวนั้นทำให้ออมสะดุ้ง
“พี่คราม….” ออมอุทานเสียงแผ่ว มองหน้าหล่อเหลานั้นอย่างตระหนก
“คือ…ไม่รบกวนค่ะ ออม...เอ่อ...กลับเองได้ค่ะ” เธอบอกเขาเสียงตะกุกตะกัก
“ออม ให้พี่ไปส่งเถอะนะ ขอร้องล่ะ ทำไมจะต้องมาวิ่งหนีพี่แบบนี้ด้วยล่ะ พี่น่ารังเกียจขนาดนั้นเชียวเหรอ!” พี่ครามทำเสียงเข้ม มองออมอย่างตัดพ้อ
“คือ...” ออมอึกอัก เพราะเธอก็อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่าความรู้สึกของตัวเองเป็นเช่นไรกันแน่ แต่มันไม่ใช่เพราะรังเกียจอย่างแน่นอน
“ได้ พี่ขอโทษแล้วกัน” เขาพูดจบก็เดินหมุนตัวจากป้ายรถเมล์ เดินกลับเข้าไปยังโรงเรียน
ออมนิ่งงันอยู่ชั่วขณะ รู้สึกเหมือนมีใครฉุดดึงเธอให้ผุดจากเก้าอี้ วิ่งตามหลังเขาไปยังลานจอดรถของโรงเรียน
“พี่ครามคะ” ออมเรียกเขาเสียงสั่น เขาหันกลับมามองเธอนิ่งๆ จ้องลึกในแววตาหวาดหวั่นของออม ก่อนจะเดินเข้ามาหาแล้วจูงมือเธอไปยังรถของเขา
รถจอดนิ่งสนิทหน้าบ้านของออม แต่เขาไม่ยอมให้เธอลงจากรถง่ายๆ จับมือเธอไว้แน่น แม้เธอจะพยายามขัดขืนแล้วก็ตาม
“ออม…ถามจริงๆ เถอะ ทำไมออมไม่รักพี่ ทำไมถึงทำท่ารังเกียจพี่ตลอดที่เจอหน้า”
เสียงเศร้าๆ นั้นทำให้ออมจ้องมองลงไปในดวงตาคมลึกซึ้งนั้น เหมือนค้นหาอะไรบางอย่าง แต่เธอก็พบเพียงแววตัดพ้อ
“พี่คราม…ออมไม่ได้รังเกียจพี่นะ แต่ออมคิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับพี่หรอก อีกอย่างตอนนี้ออมคบกับพี่ตรีอยู่นะคะ”
“ออมรักไอ้ตรีเหรอ” เขาย้อนถาม ออมนิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า โดยหลบสายตาคมวาวของเขา
“ไม่จริงหรอก พี่ไม่เชื่อ ออมคบกับไอ้ตรีเพราะคิดว่ามันเหมาะกับออมเท่านั้นเอง ออมรู้แก่ใจดีว่าจริงๆ แล้วออมรักใคร”
ถ้อยคำนั้นของพี่ครามทำให้ออมเงยหน้าขึ้นมองเขาอีกครั้ง เหมือนมีแรงดึงดูดจากดวงตาคมซึ้งนั้นที่ทำให้ออมไร้เรี่ยวแรงที่จะผลักไส เมื่อพี่คราม
ดึงเธอไปกอดไว้แน่น และจูบเบาๆ ที่ริมขมับ
“พี่ยังรักออมนะ และไม่คิดจะลืมเลยชั่วชีวิต”
“พี่คราม…” ออมครางออกมาอย่างนึกไม่ถึง เพราะไม่คิดว่าผู้ชายแบบเขาจะมาจริงจังอะไรกับเธอขนาดนี้
“จริงๆ นะออม พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงรักออม รักทั้งที่ก็เจ็บมาตลอด เพราะออมไม่เคยจะยอมรับพี่เลย แถมยังไปคบกับคนอื่น แต่ที่ผ่านมาพี่ไม่เคยลืมออมได้เลย ทั้งที่ก็พยายาม วันนี้พี่คิดว่าจะใจแข็งกับความรักดู แต่พอพี่เห็นออม พี่รู้แล้วว่าตัวเองเลิกรักออมไม่ได้หรอก”
ออมไม่รู้ตัวเลยว่าได้กอดร่างเขาไว้แน่น และปล่อยให้น้ำตารินไหล
“รักออมทำไมพี่คราม...ออมไม่มีอะไรคู่ควรกับพี่ครามเลยสักอย่าง ผู้หญิงสวยๆ ดีๆ เด่นดังมีรายรอบตัวพี่ครามนะ”
“พี่อยากรักคนอื่นจะตาย เผื่อจะไม่เจ็บปวดอย่างที่รักออม แต่ใจพี่มันรั้นจะรักออมเอง และพี่ก็ยอมเจ็บ เพื่อจะรักออมแบบนี้ไง”
ออมไม่อาจเอ่ยถ้อยคำใดๆ ออกมา เพราะก้อนแข็งจากแรงสะอื้นเสียดแน่นในลำคอเธอ
“ออมอย่ากลัวความรักของพี่สิ”
ใช่จริงๆ ด้วยออมกลัวพี่คราม เพราะความรักที่เธอมีต่อเขา มันมากมายจนตัวเองก็หวาดหวั่น หากแม้วันหนึ่งเขาทิ้งเธอไปเธอคงไม่ต่างจากแม่ของเธอที่ฆ่าตัวตายเพียงเพราะพ่อทิ้งไป
เธอไม่อยากเป็นเหมือนแม่ที่ปล่อยให้ความรักครอบงำ แต่ออมรู้ว่าวันหนึ่งถ้าพี่ตรีจะเดินไปจากชีวิต ออมจะไม่มีวันทุกข์ทรมานขนาดจะลาโลกได้
อย่างมากก็เพียงรู้สึกว่าคนที่คุ้นเคยได้เดินหายไปจากชีวิตเท่านั้นเอง
เมื่อนึกถึงแม่ทำให้ออมผละจากอ้อมแขนของเขา
“พี่คราม….ออมคบกับพี่ไม่ได้จริงๆ” ออมพูดจบก็ลงจากรถของเขาทันที
พอเดินเข้ามาในบ้าน ออมก็เห็นพี่สาวคนเดียวของเธอนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่น
“กลับเร็วจังล่ะ กินข้าวยัง”
“ออมไม่หิวน่ะพี่”
“เอ่อ เมื่อกี้ตรีโทร. มาน่ะ ปิ๊บด้วย ทำไมไม่เปิดมือถือล่ะ”
“แบตหมดค่ะ”
“โทร. ไปบอกตรีกับปิ๊บสิว่าถึงบ้านแล้ว เขาจะได้ไม่เป็นห่วง พี่สงสัยจังน่ะออมว่าตรีหรือปิ๊บที่เป็นแฟนออมน่ะ เพราะน้ำเสียงปิ๊บห่วงใยออม
มากๆ เลยนะ ส่วนตรีก็นั่นแหละเอื่อยๆ เหมือนเดิม เหมือนโทร. มาตามหน้าที่น่ะออม”
“ค่ะ พี่นา พี่ตรีเขาก็เป็นแบบนั้นมาตั้งนานแล้ว” ออมว่าไปตามความรู้สึก
“ถามจริง ออมอยู่ด้วยแล้วไม่เบื่อเหรอ ผู้ชายอะไรเอื่อยเฉื่อยจังน่ะ”
“ออมก็เอื่อยเฉื่อยนะพี่นา พี่ตรีก็เหมาะกับออมนี่คะ” ออมว่า พลางยิ้มบางๆ ให้พี่สาว
“เหมาะกันยังกะแกงจืดกับผัดเต้าหู้เลยออม มันจะมีรสชาติได้ไงชีวิต”
“แต่ออมชอบชีวิตที่เรียบๆ นี่คะพี่นา”
“เออ…มีความสุขก็อยู่ไป พี่ไม่ว่าไรหรอก แค่สงสัยน่ะ” พี่สาวของ
ออมว่าอย่างปลงๆ
“งั้นออมไปนอนนะคะ”
“อือ…”
เมื่อล้มตัวลงบนเตียงนอน ออมก็ไม่มีสามารถข่มตาให้หลับลงได้
ภาพของชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลา กับแววตาคมลึกซึ้งที่ทอดมองเธออย่างตัดพ้อรบกวนจิตใจ ออมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพี่ครามจะรักเธอได้ เวลาห้าปีที่ไม่ได้เจอกัน เขาไม่เคยรักใครหรือย่างไร ข่าวคราวของพี่ครามกับดารานักร้อง นางแบบชื่อดังตามสื่อต่างๆ ล่ะมันหมายความว่าอย่างไร
บางทีความรักที่เขารู้สึกและบอกเธอ อาจเป็นเพียงความอยากที่ยังไม่สมหวังเท่านั้นกระมัง แต่แววตาท่าทาง กระทั่งน้ำเสียงและอ้อมแขนของเขานั้น เธอสัมผัสได้ถึงความจริงใจ ไม่ต่างจากวันวานเลย
แต่ถึงจะใช่ความรัก แต่ออมก็ยังหวาดกลัว จริงๆ แล้วออมกลัวพี่คราม
เพราะเธอรักเขานั่นเอง ออมรู้ว่าความรักจะทำให้เธออ่อนแอ ออมไม่อยากเป็นเหมือนแม่ หากวันหนึ่งความรักโบยบินจากไป แต่ที่เธอมีชีวิตอยู่กับความรักที่แอบซ่อนเช่นนี้ก็เจ็บปวดไม่น้อยเลย เพราะออมไม่เคยลืมพี่คราม ยังจดจำรอยอุ่นหวานจากจูบแรกในค่ำคืนที่เขาขาดสติ ถึงแม้
พี่ครามจะจูบเธอด้วยความโกรธ แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงความรัก
...จะทำอย่างไรเธอถึงจะลืมเขาได้นะ!
ออมรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากเมื่ออยู่ๆ แนนก็มาหาเธอถึงที่ทำงาน ซึ่งออมทำงานเป็นพนักงานของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง หน้าตาแนนดูแปลกๆ คล้ายครุ่นคิดอะไรอยู่เกือบตลอดเวลา
“เป็นอะไรล่ะแนน ทำหน้าเข้า” ออมเอ่ยถามเพื่อนสาวอย่างห่วงใย
“ออม ถามจริงเถอะออมกับพี่ตรีเป็นไงมั้ง”
“เป็นไงมั้ง” ออมทวนคำ
“ยังรักกันดีใช่ไหม”
“อือ…ก็ยังเหมือนเดิมนี่แนน มีอะไรเหรอ”
แนนกลับเป็นฝ่ายอึกอักเสียเอง
“เออ...ออม จำพี่หนิงได้ไหม ที่เป็นเชียร์ลีดเดอร์น่ะ”
“จำได้สิพี่หนิงออกจะดังนี่แนน” ออมว่าพลางยิ้มบางๆ
“คือเมื่อคืนแนนไปเที่ยวต่อกับปายน่ะ เห็นพี่ตรีกับพี่หนิงน่ะ” แนนว่า
“เหรอ ไม่เห็นแปลกนี่ พี่ตรีกับพี่หนิงเคยเป็นเพื่อนกันนี่ เคยเรียนห้องเดียวกันด้วย”
ออมจดจำพี่หนิงได้ดี เพราะพี่หนิงทั้งสวย เด่น ดังเป็นเชียร์ลีดเดอร์และมีฐานะร่ำรวยจนสาวๆ ในโรงเรียนอิจฉา แน่นอนรวมทั้งออมด้วย เพราะถ้าเธอเป็นได้อย่างพี่หนิง เธอก็คงไม่ลังเลที่จะคบหากับพี่คราม อย่างน้อยๆ คุณสมบัติที่เพียบพร้อมอาจทำให้ออมมั่นใจในความรักของเขาที่มีต่อเธอ
หลังจากเรียนจบมัธยมปลายพี่หนิงไปเรียนต่อที่อังกฤษ จากนั้นออมก็ไม่เคยได้ยินข่าวคราวพี่หนิงอีกเลย กระทั่งวันนี้
“แต่แนนว่าพี่ตรีกับพี่หนิงเขาดูเอ่อ…”
“ไม่มีอะไรหรอกแนน พี่ตรีกับพี่หนิงเป็นเพื่อนกันจริงๆ” ออมมั่นใจเช่นนั้น เพราะเธอคิดว่าผู้ชายเรียบง่ายอย่างพี่ตรีคงไม่คิดรักผู้หญิงสวย ปราดเปรียวอย่างพี่หนิงได้ ก็คงเหมือนกับออมที่ไม่คิดคบหากับพี่คราม
ออมมองเหม่อไปยังถนน จากมุมนั่งเล่นหน้าบ้าน ที่มีกระถางต้นไม้วางเรียงราย ทั้งเข็มม่วง พลูด่าง เฟิร์นเขากวาง และบอนสี ซึ่งกระถางต้นไม้ทั้งหมดที่มี ออมกับพี่ตรีไปหาซื้อด้วยกันที่สวนจตุจักร เป็นความชอบของเธอและพี่ตรีคล้ายคลึงกัน
บ้านของออมเป็นทาวน์เฮ้าส์หลังเล็กๆ ที่อยู่กันสองพี่น้อง หลังจาก
แม่เลือกจะจบชีวิตลงตั้งแต่ที่ออมอายุเพียงสิบสี่ปี ออมกับพี่นาก็อยู่ในความดูแลของคุณป้านวล กระทั่งป้านวลของเธอเสียชีวิตเมื่อสองปีที่แล้ว ออมจึงได้อยู่กับพี่นาเพียงลำพัง
พ่อของออมยังส่งเสียเธอกับพี่นามาตลอด แต่ออมรู้ตัวเองดีว่าเธอไม่ได้ต้องการข้าวของเงินทองของพ่อเลย แต่ออมอยากได้ความรักของพ่อ กลับคืนมายังแม่มากกว่า แต่เธอรู้ว่ามันเป็นเพียงความฝัน เพราะเวลานี้แม่ไม่ได้อยู่กับเธอแล้ว และพ่อก็ไม่ได้รักแม่อีกต่อไป
รถเก๋งคันเล็กกลางเก่ากลางใหม่สีขาววิ่งมาจอดหน้าบ้านอย่างเชื่องช้า
ออมขยับตัวจากเก้าอี้ เดินอย่างเฉื่อยชาตรงไปเปิดประตู
“รอนานไหมครับ” พี่ตรีเอ่ยเสียงนุ่ม ก่อนขยับแว่นสายตาอย่างเคยชิน พี่ตรีเป็นผู้ชายร่างบาง ตัวสูงกว่าออมเพียงนิดหน่อยเท่านั้น ผิวขาว
จนดูซีด ใบหน้าระบายยิ้มบางๆ เกือบตลอดเวลา และดวงตาตี๋ภายใต้กรอบแวนนั้นก็ดูเรียบนิ่ง ไม่ต่างจากท่าทีเนิบนุ่มของเขานัก
“ก็ไม่ได้รอนี่คะ นั่งเล่นไปเรื่อยๆ” ออมตอบ เมื่อเขาเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ ในมุมนั่งเล่นหน้าบ้านเรียบร้อยแล้ว
ออมเดินเข้าไปในบ้าน ถือขวดน้ำเย็นมารินใส่แก้วยื่นให้เขา พี่ตรีรับแก้วน้ำเย็นไปดื่มเพียงน้อยนิด ก่อนวางลงแล้วเงยหน้าขึ้นมองออมนิ่งนานนับนาทีจนออมรู้สึกประหลาดใจ
“พี่ตรีมีอะไรหรือเปล่าคะ” ออมถามเสียงเรียบ แม้ใจเธอกำลังระส่ำ
กับบางอย่างที่เธอสัมผัสได้
“ออม…พี่ขอโทษนะ”
พี่ตรีพูดได้เพียงแค่นั้นออมก็ผ่อนลมหายใจอย่างลืมตัว
“พี่ตรีมีอะไรก็บอกออมมาตรงๆ เถอะค่ะ” ออมเอ่ยเสียงเรียบ มองเขานิ่งๆ หากแต่ไม่ปรากฏแววหวั่นไหวใดๆ ให้คนจ้องมองหวาดหวั่น
“ออม พี่คิดว่าระหว่างเรา มันยังไม่ใช่น่ะ”
“ค่ะ ออมเข้าใจ”
พี่ตรีเหมือนจะงุนงงเมื่อออมเอ่ยประโยคนั้นออกมาราวกับคนที่เข้าใจอะไรง่ายดาย
“ออม…พี่ขอโทษนะที่มันเป็นแบบนี้” พี่ตรีบอกเสียงแผ่ว มองออมอย่างลุแก่โทษ
“ออมเข้าใจค่ะพี่ตรี และออมดีใจด้วยนะคะ ที่พี่ตรีเจอคนที่ใช่ แต่รบกวนพี่ตรีบอกออมได้ไหมคะว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร” ออมอยากรู้ว่ามันจะใช่พี่หนิงหรือไม่ พี่ตรีอึกอักอยู่ชั่วครู่ก่อนจะอ้อมแอ้มบอกออมว่า
“พี่หนิงไงออม”
พี่ตรีกลับไปนานแล้ว แต่ออมยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม พี่นาโผล่หน้า
จากห้องนั่งเล่นมาชะโงกดูเมื่อเห็นเธอนั่งนิ่งอยู่นานแล้ว
“เป็นอะไรหรือเปล่าออม” พี่นาเดินมานั่งเก้าอี้ตรงข้ามเธอ
“พี่ตรีเขาบอกเลิกกับออมน่ะ” ออมบอกพี่สาว
“เหรอ…ก็คิดเหมือนกันว่ามันต้องมีวันนี้”
“ทำไมพี่นาคิดว่าจะต้องมีวันนี้ล่ะคะ”
“คนเราเหมือนกันมากไปมันจืดชืดมั้ง และพี่ก็มองไม่เห็นความรักระหว่างออมกับตรีเลยนะ”
“ออมคิดว่าคนเราเหมือนกันก็จะอยู่กันได้อย่างสงบสุข ไม่มีความขัดแย้ง”
“แบบไหนก็ดีทั้งนั้นแหละ ถ้ารักกันน่ะ”
“แต่ออมไม่อยากอยู่กับคนที่เรารักมากๆ เพราะวันหนึ่งเขาจากเราไป คงแย่นะ เหมือนแม่ไงที่รักพ่อมากเกินไป” ออมว่า
“ออมเอ้ย ถ้ากลัวนักก็อยู่คนเดียวไปเถอะ”
“พี่นาไม่กลัวหรือไง”
“พี่กลัวไม่มีคนมาให้รักมากกว่า และพี่ก็ไม่คิดว่าความรักจะทำร้ายคนได้ถึงตาย นอกจากเราจะทำร้ายตัวเราเองเท่านั้น แต่พี่ว่าชีวิตหนึ่งได้อยู่กับใครสักคนที่เรารักและรักเรา มันวิเศษนะพี่ว่าออมลืมเรื่องรักของพ่อกับแม่ได้แล้วมั้ง เพราะความรักของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะ”
“แต่ออมยังกลัวน่ะพี่นา ออมไม่กล้าจะอยู่กับคนที่ตัวเองรัก”
“งั้นอยู่คนเดียวได้ก็อยู่ไปสิ แน่ใจว่าอยู่แบบนี้จะมีความสุขตลอดไป
แล้วไม่เสียดายเหรอ หากคนที่เรารักไปอยู่กับคนอื่น” คำถามนั้นของพี่สาว
ทำให้ออมเป็นใบ้ในทันที
.................
สามารถอ่านต่อในอีบุคที่เมพ โหลดฟรีค่ะ ตามลิงก์ได้เลยค่ะ และมีเรื่องสั้นอื่นๆ ที่ตัวละครต่อเนื่องกัน)
E-book รวมเรื่องสั้นรอยจุมพิต (โหลดฟรีค่ะ)
น่าจะยืดอีกนิดจบง่ายมากเลยค่ะ
สนุกมากๆเลยค่ะ
ซึ้งด้วยค่ะ
เดี๋ยว...จะยืดค่ะ ขอเวลาคิดอะไรหวานๆ ได้ก่อนนะคะ
*--*
อืม จริง น่าจะจบยืดอีกหน่อย
ชอบความเห็นของพี่สาวออมจังเลย
เจ๋งงงงง..
แต่จบแบบห้วนๆไปหน่อยนะคะ
อ่านแล้วหนุกดีคะ^__^
จบห้วนไปนิดแต่รวมๆแล้วดีเลยล่ะค่ะ