[SF-YOOSU] ทำไมต้องเป็นคุณ - [SF-YOOSU] ทำไมต้องเป็นคุณ นิยาย [SF-YOOSU] ทำไมต้องเป็นคุณ : Dek-D.com - Writer

    [SF-YOOSU] ทำไมต้องเป็นคุณ

    เมื่อคนที่เราคิดว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดเลือกเดินในเส้นทางที่ไม่มีเรา ความลับที่เก็บซ่อนไว้จะบอกดีหรือเปล่า

    ผู้เข้าชมรวม

    1,265

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    1.26K

    ความคิดเห็น


    8

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  8 ก.ค. 53 / 15:24 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    เมื่อคนที่เราคิดว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดเลือกเดินในเส้นทางที่ไม่มีเรา ความลับที่เก็บซ่อนไว้จะบอกดีหรือเปล่า
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เคร้ง ! เสียงช้อนหล่นจากมือเล็กกระทบจานกระเบื้องใบสวย แม้จะมีอาการตื่นตระหนกแค่ไหน แต่จุนซูก็พยายามเหยียบมันไว้ให้มิด ภายใต้หน้ากากแห่งรอยยิ้มละมุน
       
                      นายจะแต่งงานเดือนหน้า ล้อกันเล่นเหรอยูชอน ฮะฮะ   จุนซูแกล้งพูดให้เป็นเรื่องขำทั้งๆที่ในใจกำลังเต้นเร่า  เขาอยากหายไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด อยากลบความรู้สึกอิจฉาเจ้าสาวของเพื่อนรักให้สิ้นไป ทำไงได้ก็เพื่อนรัก
                      ทำไม ไม่ขำ ฉันคิดว่าฉันถึงเวลาต้องมีครอบครัวสักทีแล้ว ร่างโปร่งยังคงไม่ยิ้ม แต่จ้องกลับมายังคู่สนทนาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
                      ก็ฉันไม่เคยเห็นนายหยุดที่ใครนี่หว่า แล้วเจ้าสาวผู้โชดดีเป็นใครเอ่ย พูดอะไรอยู่ ถามไปทำไม ก็รู้อยู่ว่าไม่ใช่เขาแน่นอนอยู่แล้ว ตอนแรกเขาก็สบายใจได้เพราะยูชอนไม่เคยรักใครนาน คบไม่เท่าไหร่ก็เลิก ที่คบกันนานก็เพื่อนนี่แหละ ความสัมพันธ์ที่เขาคิดว่ายืนยาวที่สุด และมั่นคงที่สุด มั่นคงจนไม่กล้าที่จะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น ได้แต่หลอกตัวเองไปวันๆ และภาวนาให้ยูชอนยังคงไม่พบคนที่ใช่ต่อไปเรื่อยๆ
                      ทิฟฟานี่ ฉันไปเจอเขาตามคำสั่งแม่ ฉันคิดว่าคนนี้แหละใช่ ยูชอนผินมองออกไปนอกหน้าต่างร้านค้า เหมือนกำลังนึกถึงใบหน้าแสนสวยของเจ้าสาวที่ตัวเองเลือกแล้ว โดยไม่ทันได้สังเกตอาการของเพื่อนรัก ที่แว๊บ
      หนึ่งของรอยยิ้มหายไป เหลือเพียงแววตาเศร้าๆเท่านั้น แล้วสายตาก็ถูกปรับให้แสดงออกแต่ความยินดีเมื่อยูชอนหันหน้ากลับมาอีกครั้ง
                      ฉันขอร้องนายอย่างหนึ่งได้เปล่าจุนซู
                      อืม อะไรหล่ะ อะไรฉันก็ทำให้นายทั้งนั้นแหละเพื่อนรัก
                      เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้ที   คำขอร้องที่ไม่อาจปฏิเสธ คำขอร้องที่เขาต้องทนมองคนที่ตัวเองแอบรักสุดหัวใจเดินเคียงข้างคนอื่นตามทางเดินสู่พระเจ้า คำขอร้องที่เหมือนกรีดหัวใจเป็นริ้วเล็กๆ มันทรมานเกินไปหรือเปล่า
                      หลังจากจุนซูออกไปจากร้าน ร่างโปร่งยังคงนั่งอยู่ตำแหน่งเดิม เขามองตามแผ่นหลังเล็กที่เดินลับไปอย่างใจหาย
                      ไปแล้ว ขนาดนี้แล้วนายก็ยังคงยิ้มยินดีกับฉัน นายไม่ได้คิดอะไรกับฉันเกินกว่าเพื่อนที่รักเลยใช่ไหม รู้รึเปล่าที่ผ่านมาฉันต้องอดกลั้นตัวเองขนาดไหนเพื่อกดความรู้สึกลงไม่ให้ล้ำเส้นบางๆของคำว่าเพื่อนกับคนรัก แต่ฉันเหนื่อยแล้วล่ะจุนซู เหนื่อยเกินไปที่จะเก็บอาการไว้    งั้นฉันก็คิดถูก นี้จะเป็นวิธีเดียวที่ฉันจะรักษาความสัมพันธ์แบบเพื่อนระหว่างเราไปได้ตลอด จุนซู
       
                      .
                      .
       
       
      จุนซูเมื่อพยายามกลั้นน้ำตามาตลอดตั้งแต่ตอนอยู่ในร้านหลังจากเขารีบเดินออกมาได้ไกลสักพักก็ทิ้งตัวลงนั่งใต้ต้นดอกซากุระที่เริ่มผลิบาน พลอยนึกถึงคืนวันเก่าๆที่เขาและยูชอนเคยทำร่วมกันมา ร่างเล็กเริ่มตัวสั่นเทาแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลลงมา เขาทำได้เพียงกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้มันดังเกินไป มือเล็กทั้งสองบีบเข้าหากันจนแน่น ริมฝีปากล่างโดนกดจากฟันที่เรียงตัวสวยขบจนเริ่มมีเลือดซึม แต่นั่นไม่ได้เจ็บเท่ากับตำแหน่งที่เรียกว่าหัวใจสักนิด
                      อึก ยูชอน ฉันไม่เหลือโอกาสอีกแล้วใช่ไหม นายเป็นของคนอื่นแล้ว ฉันก็เข้าใจดีแต่ก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้สักที ขอเถอะนะฉันขอร้องไห้วันนี้วันสุดท้ายแล้วพรุ่งนี้ฉันจะกลับมายิ้มและเพื่อนที่รักของนายต่อไปเหมือนเดิม
       
      Donna ni toki ga nagarete mo kimi wa zutto
      โดนนะ นิ โทคิกะ นากาเรเตโมคิมิ วะ ซึตโต
      ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด
       
      Koko ni iru to omotteta noni
      โคโคนิ อิรุ โท โอโมทเตตะโนนิ
      ผมก็ยังเอาแต่คิดว่าคุณยังอยู่ตรงนี้
       
      Demo kimi ga eranda no wa chigau michi
      เดโม คิมิกะ เอรันดะโนะ วะชิเกา มิจิ
      แต่ในความเป็นจริงคุณได้เลือกทางเดินที่แตกต่างไปแล้ว
       
      Doushite kimi ni nani mo tsutaerarenakattan darou
      โดชิเตะ คิมิ นิ นานิ โมะซึตาเอราเรนาคัตตัน ดะโร
      ทำไมผมถึงตะโกนร้องเรียกหาคุณไม่ได้อีก
       
      Mainichi maiban tsunotteku omoi
      ไมอินิจิ ไมอิบัง ทซึโนตเตคุโอโมอิ
      ในทุกวันทุกคืนความรู้สึกก็มีแต่เพิ่มมากขึ้น
       
      Afuredasu kotoba
      อาฟุเรดาสึ โคโตบะ
      ถ้อยคำที่มากมายที่เอ่อล้น
       
      Wakatteta noni
      วาคัทเตตะ โนนิ
      แต่ผมก็สำนึกแล้ว
       
      Mou todokanai
      โม โทโดคานาอิ
      ว่าผมจะไม่มีเอื้อมคว้าคุณกลับมาได้อีก
       
                   เหลืออีกอาทิตย์หนึ่งก็จะถึงวันแต่งงานของยูชอนชายหนุ่มรวยเสน่ห์ทายาทนักธุรกิจดังกับสาวสวยไฮโซลูกสาวทูต ที่พึ่งกลับมาจากอเมริกา คู่รักที่เหมือนภาพในฝันของใครหลายๆคน แต่มันเหมือนฝันร้ายของคนๆหนึ่งที่หลังจากบอกกับตัวเองวันนั้นว่าจะร้องเป็นวันสุดท้ายแต่จนแล้วจนรอด เขาก็ไม่เคยห้ามน้ำตาของตัวเองได้สักที ทุกครั้งที่เดินผ่านสถานที่ที่เคยไปด้วยกัน ภาพวันเก่าๆมันก็ย้อนกลับมาให้เจ็บทุกครั้ง  วันนี้ก็เหมือนกันเขาเดินผ่านร้านเค๊กที่ชอบไปกินด้วยกันหลังเลิกงานน้ำตาเจ้ากรรมก็พลอยจะหยดแหมะมาร่ำไป จนจุนซูต้องเงยหน้ามองฟ้าตลอดทางเดินด้วยหวังจะให้น้ำตามันไหลย้อนกลับไป
                      ทำไมนายต้องมาอยู่กับฉันทุกที่ด้วย ยูชอน 
       
      Doko ni iku nori mo isshou de kimi ga iru koto ga touzen de
      โดโค นิอิคุ โนริ โม อิชโชวเด คิมิ กะ อิรุ โคโท กา โทเซนเด
      ผมยังคงอยู่ในที่ที่เคยมีคุณ
       
      Bokura wa futari de otonaninatte kita
      โบคุระ วา ฟุทาริ เดโอโทนานินัตเตะ คิตะ
      เราทั้งคู่ต่างเติบโตมาด้วยกัน
       
      Demo kimi ga eranda no wa chigau michi
      เดโม คิมิ กะ เอรันดะ โนะวาชิเกา มิจิ
      แต่คุณได้เลือกทางเดินที่แตกต่างไปแล้ว
       
      Doushite kimi wo suki ni natte shimattan darou
      โดชิเตะ คิมิ โว สึคิ นินัตเตะ ชิมัตตันดะโร
      เพราะเหตุใดสุดท้ายผมก็ต้องตกหลุมรักคุณ?
       
      ครืด ครืด เจ้าโทรศัพท์สั่นครืนอยู่ในกระเป๋าของร่างเล็ก จุนซูหยิบมันออกมาดูหมายเลขที่เรียกเข้ามาก่อนปรับอารมณ์ตัวเองอีกครั้ง
      อืม ไงยูชอน มีอะไรหรือเปล่า
      ยังมาทำเสียงใสอีก ช่วงนี้ไม่มาให้เห็นหน้าเลยนะ งานยุ่งเหรอ เห็นหน้าเหรอ ขืนฉันเห็นหน้านายตอนนี้ รอยยิ้มที่บรรจงสร้างมันจะอยู่ไม่นานนะสิ แล้วสิ่งที่นายเห็นก็อาจจะมีเพียงน้ำตา ฉันไม่อยากให้นายเห็นมันนี่หน่า
      อืม อิฮ่ะยะ ก็เงี่ยแหละคนมันเก่ง เจ้านายเลยให้เยอะหน่อย 
      ยังไงก็อย่าลืมมาลองชุดล่ะ เย็นนี้เดี๋ยวฉันไปรับ
      มะ ไม่ต้อง นายบอกร้านมาเดี๋ยวฉันไปลองเอง อย่ามาเลย อย่าทำเหมือนเดิมกับฉัน เดี๋ยวที่คิดว่าจะตัดใจมันจะไม่ขาดกันพอดี
       
       
       
       
      สวยจริงๆด้วย เจ้าสาวของเพื่อนเขาคนนี้ ยิ่งอยู่ในชุดขาวยิ่งเหมือนนางฟ้า แล้วเขาจะไปเทียบอะไรติด ระหว่างที่จุนซูมองว่าที่เจ้าสาวเพลินๆ เพื่อนเจ้าสาวตัวน้อย ที่หน้าตาน่ารักไม่แพ้กัน ก็เข้ามาชวนคุย
      พี่จุนซูค่ะ มองพี่ทิฟฟี่เพลินเลยนะ ยูริน้องสาวคนสวยกระซิบถามด้วยความร่าเริง หน้ายิ้มๆอย่างจริงใจเรียกรอยยิ้มจากจุนซูได้ไม่ยาก เขาคิดว่าโชดดีที่เพื่อนเจ้าสาวมาด้วยแถมเป็นคนอัธยาศัยดี ทำให้เขาไม่อึดอัดใจ นี่ถ้าเขารู้ว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวมาลองพร้อมกันละก็ แม้ต้องชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดเขาก็จะหาเรื่องเบี้ยวให้ได้
      อืม สวยเนอะ ไง อยากใส่แบบเขารึเปล่าล่ะ ไม่รู้เพราะความอารมณ์ดีของคนข้างหน้าหรือเปล่าทำให้จุนซูกล้าที่จะหยอกเย้าเล่นกับหญิงสาว โดนไม่รู้เลยว่ามีอีกสายตาที่จ้องมองมาตลอด สายตาที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย
       
      ทำไมล่ะจุนซู นายเจอยูริแค่แป๊บเดียวเอง ทำไมถึงยิ้มแบบนั้น ทั้งๆที่ตลอดมานายไม่เคยมีวี่แววว่าจะชอบใครเลยนี่หน่า รึว่านายจะชอบเขา อึก เจ็บจัง เหมือนมีอะไรมาบีบรัดตรงหัวใจฉันเลย ฉันเลือกที่ให้เราเป็นเพื่อนกันต่อไปก็ต้องเลิกคิดแต่ฉันก็ห้ามหัวใจตัวเองไม่ได้ จุนซูทำไมนายไม่เคยรู้อะไรเลย
       
      อ่ะพี่ยูชอนออกมาแล้ว หล่อมากเลย สายตาของจุนซูมองไปยังเจ้าบ่าว เพื่อนที่เขาต้องตัดใจ ร่างโปร่งในสูทสีขาวสะอาดตา ใบหน้าที่คุ้นเคย รอยยิ้มอ่อนโยนเหมือนเดิมที่ส่งมาให้ สายตาที่มองตรงมาที่ตัวเองเกือบทำให้รอยยิ้มของจุนซูหายไป แต่เขาก็พยายามฝืนมันเอาไว้ให้มันประดับไว้บนใบหน้า รอยยิ้มที่นายบอกว่าชอบมันที่สุดไง ยูชอน
       
       
      Soredemo kimi ga boku no soba hanareteite mo
      โซเรเดโม คิมิ กะ โบคุ โซบะฮานะเรเตอิเต โม
      แต่กระนั้นแม้ว่าจะไม่มีที่ให้ผมได้อยู่ใกล้ๆคุณได้อีก
       
      Eien ni kimi ga shiawase de iru koto
      เออิเอน นิ คิมิ กะชิอะวาเสะ เด อิรุ โคโทะ
      แต่ผมก็ยังภาวนาว่าคุณ
       
      Tada negatteru
      ทาดะ เนกัตเตรุ
      จะมีความสุขตลอดไป
       
      Tatoe sore ga donna ni sabishikute mo (sabishikute mo)
      ทาโทเอ โซเร กะ โดนนะ นิซาบิชิคุเต โม ซาบิชิคุเตโม
      ไม่ว่ามันจะทำให้ผมต้องโดดเดี่ยวมากเพียงใดก็ตาม (ไม่ว่าจะโดดเดี่ยวอย่างไรก็ตาม)
       
       
      ทิฟฟานี่เคลื่อนตัวเข้าไปสอดแขนเรียวเข้ากับร่างของเจ้าบ่าว สองคนหันมายิ้มให้กันอย่างมีความสุข ภาพที่ทำให้จุนซูไม่อาจมองต่อไปได้ เขาหันไปอีกทางเพื่อกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมา แต่คงไม่พ้นสายตาสาวน้อยที่จับจ้องอยู่ เหมือนเธอจะเดาอะไรบางอย่างออก จึงจับมือของจุนซูไว้บีบเบาๆเป็นการปลอบใจ   ก่อนจะหันมาบอกคู่บ่าวสาว
      ยูริว่าจะกลับไปพร้อมพี่จุนซูเลยนะค่ะ สองคนจูงมือกันเตรียมจะเดินออกจากร้าน แต่แล้วก็เหมือนมีแรงดึงจากปลายแขนอีกข้างของจุนซูทำให้เขาต้องหยุดเดิน และเมื่อหันไปก็พบกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามและตัดพ้อออกมาจากเพื่อนรัก
      นายยังกลับไม่ได้จุนซู ลืมแล้วเหรอเรามีนัดเลี้ยงสละโสดกันคืนนี้ ยูชอนเลื่อนมาจับที่ฝ่ามือเล็ก แล้วออกแรงบีบเพิ่มขึ้น และมองไปยังยูริ
      ยูริช่วยพาทิฟฟี่กลับด้วยนะ 
      .
      .
      .
      .
      ยูชอนเดินตรงๆ ฉันหนัก อึ๋ยทำไมต้องกินมากมายขนาดนี้ด้วยนะ จุนซูพยายามประคองร่างโปร่งมาส่งที่ห้อง หลังจากที่เจ้าตัวกินเหล้าแทนน้ำ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมยูชอนถึงทำตัวแปลกๆ  เมื่อกี้ก็ดูมีความสุขดีไม่ใช่เหรอ คนที่อยากกินให้เมามันควรเป็นเขาไม่ใช่ร่างโปร่ง
      จุนซู ยูชอนหันกลับมามองเพื่อนรักด้วยสายตาที่ถ่ายทอดทุกอย่างในหัวใจออกมา พร้อมเรียกด้วยน้ำเสียงที่จุนซูเกือบเผลอคิดเข้าข้างตัวเอง อีกครั้ง
      เรียกทำไม อ่ะถึงแล้ว จุนซูวางร่างที่เมามายลงบนเตียงนุ่ม และจะกลับ แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อวงแขนแกร่งดึงเขาอย่างแรงจนล้มลงไปนอนบนเตียงด้วยกัน
      ทำไม นายชอบยูริเหรอ รักเขาเหรอ น้ำเสียงตัดพ้อหลุดออกมาจากยูชอนซ้ำๆ แต่มันกลับตอกย้ำร่างเล็กว่าเขารักใคร ทำไมนายถึงคิดอย่างนั้นได้นะยูชอนฉันพบเขาแค่เดี๋ยวเดียวเอง นายสิที่ฉันอยู่มาด้วยเกือบทั้งชีวิต
      แต่ไม่รู้อะไรมาดลใจ ทำให้เขาตอบกลับไปตรงข้ามกลับสิ่งที่อยู่ในใจ
                      อืม น้องเขาน่ารักดี เอางี้ฉันแต่งพร้อมนายเลยแล้วกันเป็นไง ไม่ทันคาดคิดคนที่เขาคิดว่าเมาจนไร้สติไปแล้วกลับพลิกตัวขึ้นมาคร่อมเขาพร้อมสายตาที่อ่านไม่ออกจริงๆ มันเต็มไปด้วยความต้องการ หึงหวง และเศร้าใจ ก่อนที่จุนซูจะตั้งสติได้ ยูชอนก็ประกบริมฝีปากอิ่มลงบนริมฝีปากของจุนซูอย่างรุกราน ลิ้นร้อนถูกส่งเข้าไปควานหาความหวานอย่างหิวกระหาย  ก่อนจะจับมือที่ดิ้นรนของจุนซูขึ้นเหนือหัว แล้วไล่ลิ้นหยุ่นไปตามผิวละเอียดของร่างเล็ก เขาขบเบาๆที่ซอกคอขาวเพื่อทิ้งรอยประทับที่จะบ่งบอกผู้คนว่าคนนี้คือคนของเขา
                      อืม ปะ ปล่อย ยูชอน นายเมาแล้ว จุนซูเอ่ยปากประท้วงได้ไม่เท่าไหร่ ก็ต้องเงียบลงอีกเพราะริมฝีปากหนากลับมาประกบอีกครั้ง รอยจูบที่จุนซูเฝ้ารอมาเนิ่นนานแต่ไม่กล้าร้องขอ คราวนี้ร่างเล็กทำได้แค่เพียงปล่อยตัวตามอารมณ์จะพาไป
                      .
                      .
                      .
                      .
                ร่างโปร่งควาญหาคนที่อยู่ในอ้อมกอดเมื่อคืนที่ควรจะนอนอยู่ด้านข้างแต่เขาก็ต้องพบกับความผิวหวังเพราะมันว่างเปล่า และเย็นชืดแม้จะยังคงเหลือกลิ่นหอมกลุ่นของเจ้าตัวไว้ก็ตาม ยูชอนลุกขึ้นมามองไปทั่วห้อง พร้อมกับภาวนาให้เรื่องเมื่อคืนเป็นเพียงความฝันของเขาเท่านั้น บทรักอันเร่าร้อนเมื่อคืนไม่ได้เกิดขึ้นจริงไม่อย่างนั้นเขาคงเสียเพื่อนรักไปแน่ๆ  ทั้งๆที่พยายามกลั้นความรู้สึกของตัวเองไว้มากเพียงใด แต่เมื่อเห็นจุนซูสนิทกับคนอื่นเขาก็แทบทนไม่ได้   จนอาจทำเรื่องเลวร้ายลงไปโดยไม่รู้ตัว แต่แล้วคำภาวนาของเขาก็ไม่เป็นผลเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นแผ่นกระดาษที่เขียนด้วยลายมือน่ารักอันคุ้นเคย และร่องรอยของน้ำตาที่หยดลงบนแผ่นกระดาษนี้
                     
       
      ฉันจะถือว่าเรื่องเมื่อคืนไม่เคยเกิดขึ้น แต่ฉันคงไม่มีหน้าไปพบนาย  ขอโทษจริงๆ ที่ไม่อาจอยู่ร่วมงานแต่งของนายได้ ขอโทษที่ไม่อาจทำตามคำขอร้องของนายได้  ฉันเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวไม่ได้แล้วขอเวลาให้ฉันสักพักเถอะนะแล้วเราจะกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
       
      ยูชอนกำกระดาษแน่น ทุกตัวอักษรเขาจำมันจนขึ้นใจแล้ว กลับมาเป็นเพื่อนกันงั้นเหรอ ฉันทำไม่ได้อีกแล้วจุนซู น้ำตาเริ่มที่จะรินไหลออกมาจากตาโศกเท่าที่พยายามเก็บมาตลอด เพราะวันนี้มันไม่ต้องฝืนอะไรอีกแล้ว
      ขอโทษ จุนซู ฉันก็แค่รักนายไม่ได้เหรอ
      .
      .
      .
      .
      ซ่า ซ่า ซ่า เสียงคลื่นกระทบฝั่ง ระเลียดบนผืนทรายขาวละเอียด ร่างบางในชุดสีขาวเดินเรียบชายหาดไปเรื่อยๆ หลังจากคืนนั้น จุนซูเลือกที่จะหลบหน้าเจ้าบ่าวที่ตอนนี้น่าจะกำลังมีความสุขกับเจ้าสาวแสนสวย ในงานวิวาห์สุดหรู มาถึงเกาะเชจู เป็นสัปดาห์แล้วที่เขาไม่กล้าแม้จะเปิดโทรทัศน์ เพราะกลัวจะเห็นหน้าบุคคลอันเป็นที่รักที่สุดแย้มยิ้มกับคนอื่น อีกทั้งยังกลัวที่ตัวเองไม่หักห้ามใจเผลอไผลไปกับบทรักที่โหยหา
                      ฉันขอโทษยูชอน แต่ฉันขอเก็บความทรงจำคืนนั้นไว้นะ  ร่างเล็กแหงนมองไปบนท้องฟ้าใสกระจ่างตา เพื่อห้ามหยดน้ำที่เอ่อมาล้นสองตาเรียวสวยอีกครั้ง
                      โอ๊ย เมื่อไหร่มันจะหมดไปสักทีนะน้ำตาเนี่ย มันเหนื่อยนะ จุนซูยกมือเล็กมาปาดน้ำตาที่ห้ามไม่อยู่อีกแล้ว พร้อมๆกับก่นด่าความอ่อนแอของตัวเอง พลางนึกถึงคำพูดของแจจุงเพื่อนสมัยเด็กผู้เป็นเจ้าของรีสอร์ทที่เขามาพัก
       
                      จุนซู ความรักมันห้ามกันได้ที่ไหนเล่าเด็กโง่ น้ำตาก็ด้วยถ้ามันอยากจะไหลก็ปล่อยมันออกมาเถอะ แจจุงพูดปลอบใจเขาในวันแรกที่เขาซมซานพาร่างกายและหัวใจอันบอบช้ำมาพึ่งพิง
       
      อึก อึก แจจุงฉันห้ามมันไม่ได้ทั้งสองอย่างเลย น้ำตาก็ยังคงไหล หัวใจก็ยังคงเจ็บยิ่งห่าง ฉันก็ยิ่งคิดถึง ยิ่งห่วงหา แต่ฉันก้าวเลยเส้นไปแล้ว ฉันกลับไปหาเขาในฐานะเพื่อนไม่ได้อีกแล้วแจจุง ตอนนี้ท้องฟ้าที่เคยเป็นเป็นสีฟ้าสดกลับหม่นหมองลงเพราะม่านน้ำตาที่เอ่อออกมาบดบัง ร่างเล็กทรุดตัวลงนั่งกับพื้นทรายละเอียดเบื้องหน้า แขนเล็กได้แต่โอบกอดตัวเองไว้เหมือนจำลองอ้อมกอดอุ่นของอีกคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้
      แต่แล้วจุนซูก็ต้องตกใจเมื่อมีแขนแกร่งอ้อมมาโอบกอดเขาไว้ประดุจสมบัติล้ำค่าที่สุด เป็นยูชอนนั่นเอง เขาสืบจนพบว่าร่างเล็กมาซ่อนตัวอยู่ที่นี่และก็ได้รู้ว่าเพื่อนที่เขาเผลอก้าวล้ำเส้นมาก็คิดเหมือนกัน เพียงแต่แนบเนียนกว่าจนเขาจับไม่ได้เลยว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้าไม่ได้ยินจากปากของแจจุงเขาคงกำลังตัดใจและเข้าพิธีวิวาห์ไปแล้วจมูกโด่งไล่สูดดมไปทั่วใบหน้าหวานที่คิดถึง
       
      อืม นายมาได้ไงง่ะ งานแต่งล่ะ นายต้องเข้าพิธีไม่ใช่เหรอ แล้วนี่ทำอะไร จุนซูตกใจกับการกระทำของร่างโปร่งไม่น้อยเขาพยายามดันตัวออกจากอ้อมแขนแกร่งแต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผล เพราะอ้อมกอดมันกลายเป็นแน่นขึ้นกว่าเก่า
       
      ไม่มีแล้วพิธี ฉันแค่มาตามหัวใจของตัวเอง สายตาหวานเชื่อมถูกส่งมายังตาเรียวของจุนซูอย่างไม่ปิดบัง ยูชอนดึงมือเล็กของจุนซูมาสัมผัสยังหน้าอกด้านซ้ายของตัวเองก่อนจะเลือกสารภาพทุกอย่างที่คิดไว้
      นี่ไง ตอนนายไม่อยู่ฉันนึกว่ามันจะหยุดไปแล้ว แต่ตอนนี้มันกลับมาเต้นเหมือนปกติแล้วเพราะฉันตามหาอีกครึ่งของมันมาเติมเต็ม นายเป็นเหมือนฉันหรือเปล่า จุนซู ยูชอนยกมืออีกข้างของตัวเองไปทาบยังหน้าอกข้างซ้ายของร่างเล็ก ก่อนจะสบสายตาอีกครั้ง ร่างเล็กได้แต่เพียงพยักหน้างึกหงัก พร้อมน้ำตาที่พร่างพรูแต่คราวนี้มันเป็นน้ำตาแห่งความดีใจ ยูชอนกดริมฝีปากอิ่มไปซับน้ำใสออกจากใบหน้าหวานอย่างอ่อนโยน ก่อนจะจุมพิตไปยังริมฝีปากสีเชอรี่เบาๆ แต่ถ่ายทอดทั้งหัวใจลงไป
       
      ฉันรักนายนะจุนซู
       
      อืม ฉันก็รักนายยูชอน  

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×