คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [Start Event] : ประกาศศักดา! หัวหน้าหน่วยคนใหม่ (100%)
ดูแล้วน่าจะเป็นสถานที่ทำงานของนักวิทยาศาสตร์โรคจิตที่เจอตามนิยาย sci fi แต่สิ่งมีชีวิตเดียวที่อยู่ในห้องนั้น ดันเป็นเด็กหนุ่มตัวกระจ้อยนั่งทำงานอยู่คนเดียวซะนี่ อายุราวๆ 10-12 ปีเมื่อเทียบกับเด็กบนโลกมนุษย์ แต่อายุที่แท้จริงนั้นไม่รู้ว่าเกินมากี่สิบรอบ แต่งกายด้วยเครื่องแบบของยมทูตซึ่งเป็นฮากามะสีดำ มีเสื้อกราวน์สีขาวทับข้างนอกอีกชั้นดูราวกับเป็นนักวิจัยรุ่นเยาว์ก็ไม่ปาน ตึง! โครม! เสียงเคาะแล้วตามมาด้วยเสียงประตูเปิด พร้อมกับการปรากฎกายชองผู้มาใหม่ซึ่งเป็นหญิงสาวท่าทางสะดีดสะดิ้ง สวมเครื่องแบบเช่นเดียวกับเด็กนุ่ม แต่ต่างกันที่ตรงคอเสื้อนั้นอัดแน่นด้วยหน้าอกสุดจะโนตมจนแทบจะล้นออกมา “อากอน~ ทำอะไรอยู่เอ่ย~” เอ่ยเสียงหวานพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาในห้องหมายจะเข้าไป เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสารแล้วตอบกลับไปดังๆ “ก็ทำงานน่ะสิ เจ้าไม่ต้องเดินเข้ามาเชียวนะ โทรุเอะ ไม่งั้นแฟ้มงานที่ข้าอุตส่าห์จัดเป็นหมวดๆ มีหวังปนกันอีกพอดี” พูดไม่ทันขาดคำ ด้วยแรงสั่นสะเทือนจากการเปิดประตูเมื่อครู่ ก็ทำให้แฟ้มงานที่กองอยู่หน้าห้องถล่มลงมา จนเกิดฝุ่นคลุ้งทั่วห้อง
.. =*=<<<หน้าอากอน
..^^”หน้าโทรุเอะ หลังจากที่ปัดฝุ่นออกจากตัวเสร็จ ใบหน้าของอากอนที่เพิ่งแสดงอาการฉุนใส่โทรุเอะไปก็ปรับเป็นใบหน้าที่เฉยชาตามเดิม “มีธุระอะไร
” เด็กหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ไม่สมกับวัยนัก “ก็แค่จะมาบอก ว่าประชุมหน่วยประจำเดือนจะเลื่อนมาเป็นวันนี้ตอนบ่ายน่ะซิ” “เลื่อนเข้ามา..แล้วไง” “เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ
” “แล้วไงล่ะ”
..=*= “ถ้าไม่มีอะไร ก็กลับไปซะ เกะกะคนเค้าจะทำงาน” ด้วยเพราะอีกฝ่ายโต้ตอบกลับมาอย่างห้วนๆ ทั้งที่อายุน้อยกว่าตนแท้ๆ หญิงสาวจึงเกิดบรรดาโทสะ ล้วงมือเข้าไปในคอเสื้อแล้วนำบางอย่างออกมา “
ทำอะไรของเจ้าน่ะ
เห้ย!” เด็กหนุ่มเผลอร้องเสียงหลง เพราะอีกฝ่ายดันล้วง หน้าอก>>>น่มน้มข้างหนึ่งของตนแล้วขยายขนาดทำให้มันยาวขึ้น =[]= แล้วระดมฟาดใส่อากอน “ข้า อุตส่าห์ ถ่อสังขาร มา บอก เจ้า เชียว นะ
” โทรุเอะพูดเน้นทีล่ะพยางค์ด้วยความโมโห “
เป็นเด็กเป็นเล็กหัดทำตัวให้มันน่ารักกว่านี้หน่อยสิยะ! ดันมาว่าคนสวยอย่างข้าเกะกะงั้นเรอะ! เดี๋ยวแม่ฟาดเกรียนแตกซะนี่!” แต่เด็ก(เกรียน)ที่ว่าดันเยื้องตัว+กระโดดหลบได้ทุกช็อตอย่างคล่องแคล่ว “ข้า..ที่ไล่เจ้าก็แค่ไม่อยากให้ อยู่ดมฝุ่นในห้องนี้นานๆ เท่านั้นเอง แต่ยังไงก็ขอบใจที่มาบอกแล้วกัน” เหมือนโทรุเอะจะพอหายโมโหไปบ้าง แต่ก็ยังฟาด(?) รับขวัญอากอนไปอีกดอก “ขอบใจอะไรยะ กับผู้ใหญ่ต้องพูดขอบคุณสิ! งั้นเจอกันที่ประขุม” แม้จะหลบพ้นแล้ว แต่โชคร้ายที่ดอกสุดท้ายเมื่อครู่ฟาดโดนหน้าอากอนไปเต็มๆ เจ้าตัวจึงตอบกลับไปเสียงอ่อยๆ “
.อือ..ยัยนมยานเอ้ย
” +++++++ สองเท้าน้อยๆ ของเด็กหนุ่มก็พาตัวเองไปที่ประชุมของหน่วย 12 แม้จะเลยเวลาที่โทรุเอะบอกไปสามสิบนาทีแล้วก็ตาม ถ้าเป็นคนธรรมดามาสายปานนี้คงตกเป็นเป้าสนใจแน่ แต่เด็กอย่างเค้ามาช้ามาเร็วก็ไม่เป็นที่น่าสังเกตนัก ร่างเล็กๆ เช่นนี้ แทรกเข้าไปแปบเดียวก็กลมกลืนกับกลุ่มคนที่อยู่ก่อนแล้ว “อากอน ทางนี้ๆ” ผู้ที่เรียกเด็กหนุ่มนั้นเป็นชายร่างท้วม แต่หัวของเขาค่อนข้างกลม เหมือนจะไม่มีส่วนที่เป็นคอ เพราะส่วนที่เป็นหัวกับส่วนที่เป็นอกแทบจะอยู่ติดกันเป็นแถบ และดูเหมือนลูกตาของเขาสามารถถอดเข้าออก(?)ได้ตามใจชอบเสียด้วย “ฮิโยสุ” อากอนพูดชื่ออีกฝ่ายเบาๆ “มาสายเลยนะเจ้าเนี่ย” “งานพึ่งเสร็จ ว่าแต่ข้าพลาดอะไรรึเปล่า” ฮิโยสุพยักเพยิดให้มองไปหน้าห้องแทนคำตอบ ท่ามกลางผู้คนที่เบียดเสียดอยู่ในห้อง แต่ตรงที่นั้นถูกเว้นว่างเอาไว้ มีเพียงชายคนหนึ่งยืนพูดปาวๆ อยู่ “
ก็อย่างที่ว่าไปนั่นแหล่ะ จากนี้ไปนายคนใหม่ของพวกเจ้าก็คือข้าคนนี้
” เสียงอันคุ้นหูแล่นเข้ามาในโสตประสาทแทบจะทันทีที่อยู่ในรัศมีของการได้ยิน เจ้าของเสียงนั้น เป็นชายวัยไหนมิอาจทราบ เพราะยากที่จะกะอายุได้ถ้ามองจากภายนอก รูปพรรณสัณฐานของเจ้าตัวนั้นดูแหวกแนว ต่างจากยมทูตตนเองเล็กน้อย อวัยวะที่โผล่นอกชุดฮากามะล้วนขาวซีดไม่มีน้ำมีนวล เหลือแต่หนังหุ้มกระดูกก็ไม่ปาน ส่วนที่ควรจะเป็นใบหูทั้งสองข้าง กลับเป็นแท่งโลหะเล็กๆ ผมสีน้ำเงินสดดูผิดธรรมชาติถูกหวีจนเรียบแป้นอยู่บนหัว ซีกหน้าบนถูกปิดบังด้วยหน้ากากแนบเนื้อสีดำ มีช่องพอให้เห็นนัยน์ตาสีเหลืองเหลือบมองออกมาดูภายนอก “
.มีใครข้องใจที่ข้า คุโรซึจิ มายูริ มาเป็นทั้งหัวหน้าหน่วยที่12 กับเป็นหัวหน้ากองวิจัยวิทยาการนี้บ้าง ?” สิ้นคำเชิญชวน ทั้งห้องก็เต็มไปด้วยเสียงดังเซงแซ่ด “มีมั้ย หือ?” พอถูกย้ำอีกรอบก็เงียบเสียงลงคนในห้องต่างเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก “หมอนั่นคงโง่น่าดูถ้าคิดจะลองดี” ฮิโยสุพูดพลางกรอกตาไปมา อากอนพยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงเห็นด้วย เรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้าก็ไม่ใช่อะไรที่เกินความคาดหมายเขาเสียเท่าไหร่ หลังจากที่อุราฮาร่า คิทสึเกะหัวหน้าคนเก่าหายตัวไประหว่างคดีวิญญาณดับสูญไปครั้งนั้น ก็คงไม่มีใครเหมาะที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนนอกเหนือจากนี่หรอก
..!............ แต่ทั้งหมดแทบหยุดหายใจเมื่ออีกฟากของห้องปรากฏมือที่ชูสูงขึ้น “
” “
ข้า ขอค้าน!” ไม่พูดเปล่า เจ้าของมือที่ชูอยู่ค่อยๆ เดินใกล้เข้ามา โดยที่คนอื่นๆ พร้อมใจกันหลบให้ผ่าน “แหม
งามหน้าจริงๆ เจ้าโทรุเอะเนี่ย
.” ฮิโยสุแอบบ่นเบาๆ ข้างๆ กัน เด็กหนุ่มยังคงยืนนิ่งคอยจ้องโทรุเอะไม่วางตา ขณะนี้หญิงสาวก้าวออกมาประจันหน้าคุโรซึจิที่ตอนนี้ยืนมองหล่อนด้วยสีหน้าที่อ่านยาก แล้วก็เอ่ยออกมาเรียบๆ “เจ้า มีปัญหาอะไรกับข้ารึ หัวหน้าฝ่ายจัดหาวัตถุดิบเพื่อการวิจัย โทรุเอะ” “ก็มีน่ะซิ๊ ข้าถึงได้มายืนอยู่ตรงนี้” โทรุเอะตอบด้วยน้ำเสียงยียวน แล้วยังคงพูดต่อ “สงสัยนักนะ
ว่าเบื้องบนยังสติดีอยู่รึเปล่าถึงได้เรื่องเช่นท่านมาดำรงตำแหน่ง
.” “ท่านน่ะนอกเหนือจากการวิจัย ก็ไม่เห็นว่าจะมีดีอย่างอื่น ด้านต่อสู้ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยจับดาบให้เห็นซักที แล้วอย่างนี้จะมาปกป้องลูกหน่วยได้ยังไง เผลอๆ ตัวเองจะเอาตัวไม่รอดถ้าสู้ไม่เป็นซะแบบนี้
.” “เป็นแค่ “สวะ” ที่พึ่งใบบุญท่านหัวหน้าอุราฮาร่ามาเข้าหน่วย 12 อย่ามาทำกร่างเป็นหัวหน้าหน่อยเลย!” “
.” แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้คนทั้งห้องตะลึงกันถ้วนหน้า บ้างก็เห็นด้วย บ้างก็ยังหวั่นๆ ด้านหญิงสาวทันทีที่พูดจบก็ยกมือท้าวสะเอวขึ้นเชิงท้าทาย ทว่าอีกฝ่ายกับนิ่งเฉยไปครู่ “เฮอะ นึกว่าเรื่องอะไร” มายูริพูดพลางวาดมือไปทางโทรุเอะ ดูเหมือนจะมีไม่กี่คนที่รู้ตัวว่าหัวหน้าของพวกเขากำลังจะทำอะไร “เอ้าๆ ถ้าไม่อยากตาย ก็รีบหลบเร็วเข้า~” ควับ! สิ้นเสียงของใครสักคนในบริเวณนั้นก็เกิดเสียงเหมือนอะไรสักอย่างตัดผ่านอากาศอย่างรวดเร็ว พร้อมกับร่างของโทรุเอะที่ล้มฟุ๊บลงไปกองกับพื้น “อุ๊กกก!” ยมทูตที่ยืนอยู่ล้วนตื่นตระหนกตกใจกลัวกับภาพที่เห็นตรงหน้า ร่างของหญิงสาวที่นอนแผ่ไปกับพื้น ค่อยๆ งองุ้มเข้า เนื้อตัวสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ สีหน้าที่บิดเบี้ยว และปากที่อ้ากว้างเหมือนกำลังกรีดร้องแต่ไร้ซึ่งเสียงใดๆ หลุดออกมา เพราะความเจ็บปวดที่หลั่งไหลเข้ามามันมากเสียจนจุกทั้งอย่างนั้น คนอื่นๆ รวมถึงเจ้าตัวเองก็เบิกตากว้างขึ้นไปอีก เมื่อมองไปยังบาดแผลต้นเหตุ ตรงที่ควรจะเป็นลำตัว ถูกทำให้หายไปเป็นดวงๆ จนเนื้อช่วงนั้นแหว่งตามวงกลมนั้น เครื่องในที่ไม่มีอะไรหุ้มอยู่ก็ค่อยๆ ทะลักออกมาพร้อมๆ กับเลือดที่พุ่งออกมาเป็นสายน้ำ ไม่นานนักเสื้อกราวน์สีขาวที่หญิงผู้เคราะห์ร้ายใส่ก็ถูกย้อมไปด้วยสีแดงเลือด “อึ่กกก! อั๊กกก!” “อะไรกัน
ท่าทีอวดดีเมื่อครู่ หายไปไหนหมดล่ะ
.” น้ำเสียงของคุโรซึจิเต็มไปด้วยความมุ่งร้าย หญิงสาวได้แต่เหลือกตาไปมาด้วยความหวาดกลัว แล้วก็ต้องเบิกกว้างขึ้นอีกเมื่ออีกฝ่ายวาดมือมาทางเธออีกครั้ง เป้าหมายการโจมตีเมื่อกี้คงเล็งที่ลำตัว แต่คราวนี้เป็นที่หัว “ช้าก่อนครับ” คำเอ่ยสั้นๆ ที่หยุดยั้งการถึงฆาตของโทรุเอะ พร้อมกับร่างๆ หนึ่งมายืนขวางไว้ “จะบอกให้ข้าไว้ชีวิต คนที่หยามหน้าข้างั้นรึ อากอน” เด็กหนุ่มตัวกระจ้อยที่พึ่งเข้ามาขัด เอ่ยตอบด้วยสีหน้าเรียบๆ “เปล่าครับ ข้าเพียงแค่หวังดีกับท่าน ท่านหัวหน้า
” “ตั้งแต่หัวหน้าคนเก่าโดนกล่าวหาว่าเป็นกบฎแล้วหายตัวไปพร้อมกับรองหัวหน้า หน่วย12เรา ก็ถูกเบื้องบนและหน่วยอื่นๆ เพ่งเล็งมาโดยตลอด แม้ว่าตอนนี้จะเรื่องจะเพราๆ ลงบ้าง
” “ถ้ายมทูตมีตำแหน่งอย่างโทรุเอะ เกิดหายไปอีกคนหนึ่งอีกล่ะก็ หน่วยหนึ่งคงไม่ปล่อยหน่วยเราไว้แน่ อาจถึงขั้นเข้ามาแทรกแซงหน่วยสิบสองได้ ถ้าถึงตอนนั้นแล้ว เกรงว่าจะเกิดเรื่องยุ่งยากตามมานะครับ” ทั้งที่ผู้ใหญ่คนอื่นๆ ส่วนใหญ่กลัวกันจนจะสิ้นสติอยู่แล้ว แต่สีหน้าของเด็กหนุ่มขณะที่พูดดูไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลย มายูริจ้องไปที่อากอนทีสลับกับทางโทรุเอะที่ตอนนี้หายใจรวยริน “
.ข้า ..สำ
นึก
แล้ว
ได้
โปรด
เถอะ
อึ๊กก!” หญิงสาวพูดอย่างยากเย็นเพื่อให้ไว้ชีวิตตนด้วย และแล้วทั้งห้องก็แทบหยุดหายใจอีกครั้ง เพื่อลุ้นว่าชายตรงหน้าจะยอมรามือหรือไม่ “
ก็ได้ ถ้าเกิดเรื่องอย่างที่เจ้าพูด คงลำบากข้าที่พึ่งเป็นหัวหน้าใหม่ๆ แน่
ฆ่ามันไปคงเสียฤกษ์หมดพอดี..” “..แต่ก็นะ เฉพาะตอนนี้เท่านั้น” ชายหนุ่มแสยะยิ้มอย่างดุร้าย “ถ้ามีแบบแม่นี่อีก เรื่องมันไม่จบแค่นี้หรอกนะ”
..จะบอกว่า ใครหน้าไหนก็อย่าได้ขัดขืนสินะ เผด็จการจริงๆ
หลายคนพยักหน้ารับเบาๆ อย่างหวาดๆ บางส่วนก็ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก “เอาล่ะ ข้ามีประชุมหัวหน้าต่อ พวกเจ้าก็กลับไปทำงานได้” ว่าจบ เจ้าตัวก็เดินจากห้องไป พอตั้งหลักได้ คนที่อยู่ในห้องที่เหลือก็ทยอยเดินออกมา เหลือเพียงคนกลุ่มหนึ่งยืนล้อมกันอยู่ “เฮ้ย! เจ้าคนตรงนั้นน่ะไปหยิบยาปลูกเนื้อมาซิ!” ฮิโยสุที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยก็หันไปสั่งคนข้างๆ ส่วนอากอนกับยมทูตอีกสองสามคนก็กำลังห้ามเลือด+ปฐมพยาบาลโทรุเอะที่หมดสติไปแล้ว “ข้าว่า พรุ่งนี้จะไปยื่นเรื่องย้ายหน่วยล่ะ” “ใช่ๆ มาวันแรกก็เป็นซะแบบนี้
” อากอนกับฮิโยสุที่ฟังยมทูตสองคนนั้นพูดอยู่ก็ถึงกับยิ้มนิดๆ แล้วพูดเชิงปลอบไป “กว่าพวกเจ้าจะยื่นเรื่องย้ายเสร็จ คงเสร็จหัวหน้าไปก่อน ก้มหน้าก้มตารับชะตากรรมเหอะน่า~”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนแรก ดูแข็งๆ ไปบ้าง -w-
ตัวละครต่างๆ ไม่ใช่ OC หรือไรท์เตอร์มั่ว แต่มันมีอยู่จริงนะเออ~
วันไหนที่ฟ้ามีตา ตอนสองมาเมื่อนั้น > <
ความคิดเห็น