คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : R A P U N Z E L : Chapter1
R a p u n z e l
Chapter1: รบแรกพัก
กริ๊งงงงงงงงงงงงงง เสียงนาฬิกาปลุกดังไปทั่วห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆที่แสนจะธรรมดา
ร่างที่นอนมุดอยู่ในผ้าห่มค่อยๆลุกขึ้นมานั่งก่อนจะเอื้อมมือไปปิดเสียงนาฬิกาที่กำลังแผดเสียงดังลั่นห้องอยู่
ก่อนจะเดินโซซัดโซเซไปที่ห้องน้ำ ตาเล็กเรียวยังคงหลับตาอยู่มือเรียวสวยควานหาแปรงสีฟันยาสีฟันก่อนจะปรือตามองบีบยาสีฟันลงบนแปรงก่อนจะเริ่มแปรงฟัน
Rrrrrrrrr Rrrrrrrrr
ใครมันโทรมาเช้าๆกันเนี่ย
เสียงสั่นของโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้ผมที่กำลังแปรงฟันอยู่เดินออกมารับโทรศัพท์ทั้งที่แปรงสีฟันยังคาปากอยู่
“ งืมมม แบคฮายอนครับ” มือเรียวสไลด์รับโทรศัพท์ก่อนจะเอ่ยเสียงงัวเงีย
“จ้า แบคฮยอนนนอย่าลืมน้าวันนี้ส่งงานมาด้วยนะจ้ะขอด่วนอย่าเกินเที่ยงนะจ้ะ” เมื่อผมฟังจบก็ต้องทำหน้าช็อกสุดขีด
ให้ตายเถอะ เจ้ฮยอนอาโทรมาตามงานยังปั่นไม่เสร็จเลยแง
“เอ่อ...ได้....ได้เลยครับผม จะส่งให้นะครับ” ไม่ให้พูดติดๆขัดๆได้ไงผมยังเหลืออีกตั้งสิบหน้าที่ยังไม่แก้คำผิดเลยหนิ ตายยยยแน่ๆๆๆๆ
“ แหม่ พูดติดๆขัดๆเลยนะยังไม่เสร็จหละสิท่า”
“ เอ่ออ ก็ใช่นะครับ”
“ งั้น เจ้เลื่อนให้นะเป็นตอนสามทุ่มหล้ะกันเคปร้า” โห่ มันก็ยังกระชั้นชิดอยู่ดีนะนั่น
“โอเคครับ เดี๋ยวจะส่งให้ก่อนสามทุ่มครับ”
“ ดีมากจ้ะถ้าช้าแม้แต่วิเดียวโบนัสก็อดนะจ้ะ แค่นี้หล้ะจุ๊บๆ”
ปิ๊บบ
สายตัดไปเรียบร้อยมาจงมาจุ๊บอะไรครับ ให้ตายเถอะจะทำเสร็จมั้ยเนี่ยยยยทำไมผมถึงขี้ลืมขนาดนี้นะลืมไปได้ว่าวันนั้นเดดไลน์ส่งงาน ผมแหงนหน้าขึ้นไปดูนาฬิกาที่ติดอยู่ตรงฝาผนัง
08.35 นาที เอออผมลืมอะไรไปนะ........อ่ออ ไปบ้วนปาก
“ โอ๊ะ!”
พอบ้วนปากล้างหน้าเสร็จผมอุทานก่อนจะรีบวิ่งไปหยิบกล้องส่องทางไกลที่วางอยู่บนชั้นแล้วรีบไปเปิดผ้าม่านออกแล้วยกกล้องส่องผ่านกระจกทะลุไปยังตึกตรงข้าม มีผู้ชายผมสีทองกำลังนั่งดูหนังสือพิมพ์พร้อมกับจิบชาไปด้วย
ตึก ตัก ตึก ตัก
แค่ได้เห็นคนที่แอบชอบหัวใจก็เต้นแรงแล้วหรอเนี่ย ผมคิดในใจพลางส่องกล้องไปเรื่อยๆดูผู้ชายฝั่งตรงข้ามที่กำลังให้อาหารสุนัขแล้วขยี้หัวสุนัขตัวนั้นอย่างเอ็นดู
อ่า อยากเกิดเป็นหมาจังงงครับ
ผู้ชายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามค่อยๆลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอน ผมพยายามส่องให้เห็นอย่างเต็มที่เพราะห้องนอนมันทึบหล่ะสิต่างจากห้องนั่งเล่นที่เป็นกระจกใสไงเขาถึงไม่เห็นอะไรเลย
“หว่า เสียดายจัง” ผมบ่นกระปอดกระแปดพลางยกกล้องส่องต่อจนกระทั่งผู้ชายคนนั้นก็ได้ออกมาจากห้องนอนพร้อมกับชุดฟอร์มของนักธุรกิจมือเล็กๆค่อยๆหมุนเลนส์ซูมเข้าไปยังป้ายชื่อที่ติดอยู่บนหน้าอก
คริส อู๋อี้ฟาน
ชื่อ เท่จังเลยยย ในที่สุดผมก็ได้รู้ชื่อเค้าแล้วดีใจจ เมื่อซูมจนเห็นชื่อแล้วมือเรียวก็ปรับเลนส์กล้องให้ซูมออก จากนั้นก็มองผู้ชายที่เรียกว่าเป็นรักแรกของเค้าค่อยๆเดินถือกระเป๋าออกจากห้องไป
คงออกไปทำงานแล้วตาผมทำงานแล้วหล่ะสิ
“ฮึ้บบ” ผมบิดขี้เกียจก่อนจะเดินไปเปิดคอมแล้วทำงานที่ค้างไว้เป็นสิบหน้าต้องรีบปั่นให้เสร็จก่อนห้าโมงให้ได้เพราะเดี๋ยวเขาคนนั้นจะกลับมาจากที่ทำงาน.........เดี๋ยวอดส่อง เอ่อ คือ ผมไม่ได้บ้าผู้ชายนะก็แค่...
เขารูปร่างโครงหน้าแล้วน่าจะใช่คนที่ช่วยผมตอนเหตุการณ์ครั้งนั้นก็เลย นั่นแหละ
แกร็กๆๆ
เสียงพิมพ์ดังเป็นระยะๆและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ใช่ผมนั่งปั่นงานมาโดยไม่หยุดพักเลยข้าวเช้าก็ยังไม่ได้กินคิดอย่างเดียวแค่จะต้องทำงานให้เสร็จให้ได้
ติ๊งต่องงงง
เสียงออดดังขึ้นที่หน้าประตูทำให้นิ้วเรียวที่กดลงไปบนคีย์บอร์ดหยุดชะงักลงก่อนที่ผมจะลุกไปเปิดประตู เมื่อเปิดออกกับไม่พบคนที่มากดออดเหตุการ์ณแบบนี้เกิดขึ้นทุกวันจนผมชินแล้วหล่ะ
แต่เมื่อพอมองก้มลงไปก็เห็นกล่องนมจืดวางอยู่1กล่อง อันนี้ก็เป็นเรื่องปกติมีคนมาวางให้ทุกวันแต่เหมือนวันนี้จะแปลกไปอยู่อย่างหนึ่ง ผมก้มลงไปหยิบกล่องนมขึ้นมามันมีโพสอิสแปะอยู่ที่ข้างๆกล่องบนโพสอิสเขียนว่า
“ ผมเอานมมาให้ คุณตัวเล็กมากเลยอย่าลืมกินนะครับ”
ใคร?? กันเนี่ย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันก่อนจะหยิบนมแล้วปิดประตูเข้าไปในห้องผมแกะโพสอิสแล้วแปะไว้ที่กำแพงก่อนจะนึกขึ้นได้
อืมมมม เค้าเอามาให้งั้นเราก็ควรขอบคุณเค้างั้น..... ผมวิ่งไปหยิบโพสอิสของตัวเองพร้อมกับปากกาก่อนจะลงมือเขียน
“ อืมม ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณคือใครแต่ขอบคุณสำหรับนมนี้นะครับ”
พอเขียนเสร็จก็เดินออกไปเปิดประตูแล้วแปะไว้ที่หน้าประตู หวังว่าคุณคนที่ให้จะเห็นนะแล้วปิดประตูลง
แต่.......พอแบคฮยอนปิดประตูลงแล้วประตูห้องข้างๆค่อยๆเปิดออก
พร้อมกับร่างสูงที่ค่อยๆชะเง้อมองมาว่าคนตัวเล็กเมื่อกี้มาแปะอะไรไว้แล้วค่อยๆย่องไปเก็บโพสอิสมาแล้วรีบวิ่งเข้าห้อง ถามว่าทำไมต้องรีบหรอ? ก็เขานี้แหละที่เป็นคนเอานมไปให้คนตัวเล็กนั่นเดี๋ยวใครมาเห็นเขารู้หมดว่า คิมจงอินคนนี้แอบชอบแบคฮยอนห้องข้างๆ พอก้มอ่านข้อความบนโพสอิสจงอินเอาโพสอิสขึ้นปิดปากแล้วยิ้มจนตาหยี
“ไอฮุนเว้ยยยย มึงงเด็กห้องข้างๆเค้าตอบกูเว้ยยยย” ร่างสูงกระโดดไปบนเตียงที่มีร่างๆหนึ่งกำลังขดตัวหลับอยู่
“ งืมมม” คนที่นอนหลับอยู่ส่งเสียงบ่งบอกว่ากำลังรำคาญก่อนจะพลิกตัวหันไปอีกทาง
“ไอฮุนนสนใจกูหน่อยดิ มึงเข้าตอบกูเลยนะเว้ยย” จงอินพูดพลางเขย่าร่างไอคนที่นอนหันหนีเค้าอย่างไม่ลดละ
“…….” ผลคือได้ความเงียบตอบมา
ด้ายยยยยไม่สนใจใช่ไหม กระโดดทับมานนน
“ โอเซฮุนนนน” จงอินพูดพลางลงไปนอนทับจนทำให้คนที่นอนอยู่ต้องพลิกตัวหันมานอนหงายก่อนจะค่อยๆปรือตามอง
“มึงมาทับกูทำไม ดำลงไปเลยนะมึงกูจะนอน”
“ไอฮุน เด็กห้องข้างๆเค้าตอบกูง้ะ”
“แล้ว?” เซฮุนค่อยๆดันตัวเองขึ้นมานั่งก่อนจะผลักหัวเพื่อนสนิทที่มาอิงอยู่กับตัวเองออก
“ ไมมึงเย็นชางี้อะไม่ตื่นเต้นกับกูหน่อยหรอ?”
“ ไม่”
“ฮุน กูงอนมึง”
“เรื่องของมึง ไม่ง้อด้วย” เซฮุนพูดก่อนเดินไปเข้าห้องน้ำ
เชอะ ไม่ง้อก็อย่าง้อแต่อ้ากกกกฟินตัวเล็กตอบผมด้วยต้องเก็บไอกระดาษนี้ไว้ดีๆหล้ะเอาไว้ที่อืมมมหัวเตียงหล้ะกัน อ่าเขินจัง ร่างสูงคิดในใจพลางดิ้นไปมาบนเตียง
“ ขอบคุณที่ตอบนะครับ แบคฮยอน”
[chanyeol part]
สนามบินxxx 19.00 น.
“ฮัลโหลครับ ชานยอลพูดครับใครเอ่ย” ร่างสูงยกหูขึ้นรับโทรศัพท์พลางจัดกีตาร์ที่สะพายอยู่บนบ่าให้เข้าที่
“ชานยอล นี่พี่เองคริสไง” ปลายสายเอ่ยเสียงเบื่อๆที่น้องชายตัวเองขี้ลืมมันซะทุกอย่างไม่เว้นแต่เสียงพี่ชายตัวเอง
“ อ๋อ ลุงนี่เองขายหวยเป็นไงบ้างแหม่ ทำเป็นแอ๊บเรียกตัวเองพี่อายุลุงนี่รุ่นพ่อแล้วนา” ชานยอลพูดแล้วยิ้มกริ่มก่อนจะยื่นพาสสปอร์ตให้กับพนักงาน
“ลุงบ้านเตี่ยแกสิขายหวยนั่นมันลุงติสสุดซอย นี่พี่ชายแกไงคริส อู๋อี้ฟาน”
“อ้าว พี่เองหรอโถ่นึกว่าลุงติสกะจะแทงหวยซะหน่อย”
“หูแกก็ออกจะใหญ่และกางนะ..........”
“ เคยคุยโทรศัพท์อยู่ดีๆแล้ววืดมั้ยครับพี่” ว่าเรื่องอื่นได้แต่อย่าแหยมเรื่องหูครับปาร์คไม่ยอมม
“5555โอเคๆพี่ขอโทษแค่จะโทษมาบอกว่าเตรียมห้องไว้ให้แล้วนะกอลัมบายครับ” พูดจบปลายสายก็ตัดสายไปทิ้งให้อีกคนยืนโมโหเดือดปุดๆจะด่าก็ด่าไม่ทันโดนตัดสายไปซะงั้น ร่างสูงเดินกระแทกเท้าไปเรียกแท็กซี่ก่อนจะขึ้นแท็กซี่บึ่งไปหาพี่ชายของตนเอง
ตื้อดึงง
เสียงเมลล์ตอบรับดังขึ้นผมเดินไปดูที่คอมก่อนจะคลิ๊กไฟล์เปิดดู อ่อออ มันเป็นของเจ้ฮยอนอานี่เองแกแค่ส่งมาบอกว่าได้รับงานแล้วและผมก็ได้โบนัสด้วยเพราะส่งทันเย้ผมปิดคอมก่อนจะดูดนมที่เหลืออยู่นิดหน่อยจนหมดแล้วเดินไปทิ้งแต่คือ................ถังขยะเต็ม
หวา นี่ผมต้องออกข้างนอกไปทิ้งขยะหรอไม่อยากออกเลยแฮะ- -
แต่สุดท้ายก็ต้องออกมาจนได้ผมเดินหิ้วถุงดำออกมาจากด้านหลังของตึกก่อนจะเดินไปที่ทิ้งขยะที่อยู่ด้านข้างตึก
ฟุบบ
ผมจัดการโยนขยะลงถังไปเรียบร้อยกำลังจะหันหลังเดินกลับเข้าตึกแต่เหมือนได้ยินเสียงอะไรแว่วๆเหมือนเสียงแมวร้อง?
เมี้ยววว เมี้ยววว
ผมหันกลับมาทางเดิมที่เพิ่งไปทิ้งขยะมาก่อนจะเดินตามเสียงที่ได้ยินจนไปเจอกับกล่องสีน้ำตาลใบหนึ่งที่วางอยู่ข้างๆถังขยะที่ผมโยนมันลงไปเมื่อกี้ผมนั่งยองๆก่อนแกะกล่องเปิดดูด้านใน
“เย้ยยยยยย” ผมอุทานเพราะจู่ๆมีแมวตัวเล็กมันพุ่งออกมาจากกล่องแล้วกระโจนใส่ผมจนผมก้นกระแทกพื้นเลย แมวตัวที่กระโจนมันเดินอยู่บนตักผมก่อนจะถูตัวไปมากับเสื้อผม
“น่ารักจังเลยย” ผมอุ้มมันขึ้นมาก่อนจะลูบหัวมันเล่น
แมวน่ารักขนาดนี้ทิ้งมันได้ยังไงผมกระเถิบไปข้างๆกล่องพอชะเง้อไปดูพบแมวอีกสองตัวกำลังเกาะขอบกล่องส่งเสียงร้องเจี้ยวจ้าวแต่มันมีอยู่ตัวนึงมันนอนหอบหายใจอย่างหนักเหมือนขาดอากาศ?
ผมรีบปล่อยตัวที่ผมอุ้มอยู่ลงบนพื้นก่อนจะอุ้มไอตัวที่นอนเหมือนไม่สบายขึ้นมาเอ่อ คือ ตัวมันอ่อนปวกเปียกเหมือนมันไม่มีแรงเลยแย่หล้ะมันจะตายแน่ๆทำไงดีครับว้ากก
ผมลุกขึ้นยืนพร้อมกับอุ้มแมวตัวที่นอนอยู่หันไปหันมาทำอะไรไม่ถูก ทำไงดีๆๆๆถ้าวางมันไว้มีคนไม่รู้แล้วเอามันไปทิ้งหล่ะ?เวลานี้รถเก็บขยะก็จะมาแล้วด้วย แล้วถ้าอุ้มไอตัวนี้ขึ้นไปหยิบเงินที่ห้องพามันไปหาหมอแล้วไอสามตัวนี้มันจะหายมั้ย?แล้วถ้าๆโอ้ยย ทำไงดีครับแม่ ระหว่างที่ผมกำลังยืนกระสับกระส่ายอยู่ ก็มีรถแท็กซี่คันนึงขับเข้ามาจอดพร้อมกับผู้ชายตัวสูงผมสีน้ำตาลเข้มที่เพิ่งลงมาจากรถ
เอ่ออ ไม่ค่อยอยากคุยแฮะแต่เพื่อแมวเอาว่ะ
“คุณครับๆคุณที่สะพายกีตาร์แบกกระเป๋าด้วยอะครับ” คือผมกลัวเขาไม่รู้ว่าผมหมายถึงเขาอะเลยสาธายายมันให้หมด อ้ะ เขาหันมาแล้วเขาหันมายักคิ้วก่อนจะชี้หน้าตัวเอง ผมพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปหาเขา
“คือ ช่วยอะไรหน่อยได้มั้ยครับ?” ผมพูดพร้อมก้มหน้าลงพื้น
“ได้สิ มีอะไรหรอครับ” เขาตอบผมแล้วแต่เสียงคุ้นๆแฮะผมรีบเงยหน้าก่อนจะบอกให้เขาเฝ้าแมวสามตัวนี้ใหน่อยผมจะขึ้นไปหยิบเงินแล้วพาไอตัวนี้ไปหาหมอเดี๋ยวมันหาย
ผลที่ได้คือ....................เขาทำหน้าเหมือนตะลึงอะไรสักอย่าง อะไรอะผมแค่ขอให้เฝ้าแมวเองนะมันแปลกหรอ ผมโบกมือไปมาที่หน้าเขาจนเขาเหมือนจะได้สติกลับมา
“เอ่อ งั้นไปกับผมมั้ยเดี๋ยวถ้าคุณขึ้นไปหยิบเงินอีกมันจะไม่ทันนะ” เขาพูดพร้อมก้มลงมองแมวในมือของผมคือมันหายใจช้าลงแล้ว
“แล้วอีกสามตัว?” ผมทิ้งมันไว้ไม่ได้หรอกนะ
“ เดี๋ยวผมอุ้มไปทั้งกล่องนี่แหละครับไปเร็ว” เขาไปหยิบกล่องที่มีลูกแมวสามตัวนั้นก่อนเขาจะฉุดมือผมวิ่งไปที่หน้าปากซอยแล้วโบกมือเรียกแท็กซี่
ตอนนี้ผมอยู่บนรถแท็กซี่ในรถไม่มีใครพูดอะไรแม้แต่คนเดียวมีแต่เสียงแมวที่กำลังร้องเมี้ยวๆจะคลานออกจากกล่องให้ได้
“ขอบคุณนะครับ” ผมพูดก่อนจะชะเง้อหน้าไปดูแมวอีกสามตัวที่อยู่ในกล่องบนตักของคนที่นั่งอยู่ข้างๆก่อนจะก้มลงมองแมวอีกตัวที่กำลังนอนหายใจอย่างช้าๆอยู่บนตักของผม
“หืมม ไม่เป็นหรอกหน่ากระชับมิตรไงเราอยู่คอนโดข้างๆกันหนิ” เขาพูดแล้วยิ้มให้ผม
“ครับ” ผมตอบเขาไปแค่นั้นเป็นไปได้ผมก็อยากตอบเขาว่าไม่ต้องกระชับมิตรหรอกผมไม่อยาก แต่พูดได้ที่ไหน
“คุณห่วงเรื่องแมวอยู่หรอครับ หน้าตาคุณดูเศร้ามากเลยคุณได้ยิ้มบ้างรึเปล่าเนี่ย” จู่เขาก็หันมาถามผม ผมก็ทำหน้าแบบนี้มาตลอดแหละตั้งแต่ตอนนั้น เรื่องยิ้มนี่ยากครับ
“ไม่ค่อยครับ”
“เห คุณไม่ห่วงแมวหรอครับหวาแมวน้อยน่าสงสารจังเขาไม่ห่วงแกเลยเจ้าเหมียว” เขาอุ้มแมวขึ้นมาก่อนจะพูดกับมัน ผมอ้ำๆอึ้งๆจะอธิบายแต่ก็เรียบเรียงๆไม่ถูก
“หมายถึงแมวห่วง แต่ยิ้มไม่ค่อย”
“พูดก็ไม่ค่อยด้วยใช่มั้ยครับ” เขายกแมวขึ้นมาตรงหน้าผมก่อนจะดัดเสียงให้มันเป็นเสียงเล็กๆแล้วจับมือแมวโบกไปมา
“……”
“ยิ้มหน่อยสิครับพูดก็ได้นะเมี้ยววว” เขายังไม่เลิกดัดเสียงครับเสียงเขาเหมือนกระเทยมือใหม่จนผมเผลอหลุดยิ้มออกมา
“เวลายิ้ม คุณน่ารักมากๆเลยนะครับ” เขายกแมวลงแล้วจับมันใส่กล่องก่อนจะหันมายักคิ้วให้ผม
ผมทำเป็นไม่ได้สนใจคำพูดของเขาก้มหน้าก้มตาลูบหัวแมวที่อยู่บนตักแต่ในใจนี่เขินจะแย่แล้วครับ
“แหม่ จะยิ้มก็ยิ้มครับไม่มีใครว่า” เพราะคำพูดของเขาทำให้ผมหน้าแดงเพราะถูกแซวจนเสียเซลฟ์
“เงียบไปเลยหน่าคุณ” ผมเงยหน้าแล้วหันไปหาเขาก่อนจะดันหน้าเขาให้หันไปอีกทาง
“เอๆๆ ผมเห็นใครหน้าแดงน้า”
ผมยกมือจับหน้าตัวเองแล้วมันรู้สึกมันร้อนๆผมหน้าแดงหรอเนี่ยไม่นะไม่ๆผมไม่ได้เขินซะหน่อยบ้าหน่าเขาตาฝาดแล้วๆๆแน่ๆเลย
“5555ผมไม่แกล้งคุณแล้วครับ ผมปาร์คชานยอลนะ”
“บยอนแบคฮยอน” ผมตอบเข้าไปสั้นๆก่อนจะลูบหัวแมวที่อยู่บนตัก
“อะไรนะครับ” เขา เอ่อ ชานยอลยกมือป้องหูทำท่าเหมือนไม่ได้ยิน
“แบคฮยอน บยอนแบคฮยอน” ผมพูดเสียงให้ดังขึ้นแต่เขาก็ยังทำท่าไม่ได้ยินแล้วบอกให้ผมกระซิบบอกเขา
ผมยื่นหน้าเข้าไปจะกระซิบบอกเขาแต่จู่ๆเขาก็หันมาทำให้หน้าของผมอยู่ใกล้กับเขามากผมตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก
“ อ๋อ ชื่อบยอนแบคฮยอน” เขาค่อยพูดชื่อผมแล้วฉีกยิ้มกว้างเขาทำผมใจเต้นแรงมากและผมก็รู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังหน้าแดงพอมีสติผมก็รีบผละออกมาก่อนจะเอ่อ เริ่มทำตัวไม่ถูก
“ถึงแล้วครับ ไปเร็วพาน้องแมวหาหมอกัน”
ผมพยักหน้าก่อนจะลงจากรถแล้วเดินตามเขาไปที่โรงพยาบาล
ตัดจบแชปแรกไว้เพียงเท่านี้
5555555555555555555555555555
ความคิดเห็น