คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่1
ผมสีบลอนด์ทองปลิวไสวไปตามลมก่อนที่ร่างบางผิวขาวอมชมพู จะรวบเก็บมันอย่างไม่รีบร้อนนักมือเล็กๆดึงหนังยางสีดำที่พกติดตัวเสมอมามัดผมเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย ใบหน้าหวานยกยิ้มนิดๆอย่างพอใจก่อนจะสาวเท้าเข้ามาในโรงเรียนนานาชาติชื่อดังอย่างไม่รีบร้อน
"มิลร์"
เสียงเรียกจากทางด้านหลังเรียกความสนใจจากใบหน้าสวยได้เป็นอย่างดี ก่อนที่เจ้าตัวจะหันไปฉีกยิ้มกว้างให้กับผู้มาใหม่ก่อนจะเอ่ยทักทายด้วยความสนิทสนม
"Good Morning เฮเลน"
เฮเลนวิ่งมาคล้องแขนเพื่อนรักด้วยความสนิทสนมก่อนทั้งสองจะเดินเข้ามาในอาคารเรียนของเกรด 12 มุ่งหน้าไปที่ห้อง 12A ก่อนจะทักทายเพื่อนๆทุกคน
"เป็นยังไงบ้างมิลร์"
อัลฟาเอ่ยถามเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าตอนปิดเทอมเพื่อนรักต้องทนเจอกับอะไรมาบ้างเพราะเจ้าตัวก็เล่าให้เพื่อนๆในกลุ่มฟังเสมอๆ พวกเค้าไม่ว่าเพราะนอกจากพวกเค้าที่เป็นที่พึ่งให้กับร่างบางก็คงไม่มีใครอีกแล้ว
"เออจริงด้วยไอ้สวยสบายดีป่ะวะลูกเมียน้อยกับแม่มันทำอะไรมึงบ้างรึเปล่า"
ลูกเมียน้อยที่ทุกคนกล่าวถึงนี่คือไอ เด็กชายหน้าหวานไม่ต่างกับเขาลูกติดของเมียน้อยของพ่อ ไออยู่ห้องEซึ่งก็คือห้องของเด็กเส้นเรียนก็ไม่เก่งแต่อยากมาทำตัวเทียบชั้นกับมิลร์
"สบายดีมันทำอะไรฉันฉันก็ทำคืนนั่นและพวกมึงไม่ต้องห่วงคุณตากับคุณยายมารับไปอยู่ที่อเมริกาด้วย"
เจ้าตัวเอ่ยด้วยน้ำเสียงมีความสุขเขาดีใจที่ได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในที่ของแม่เขาเติบโต แม่ของมิลร์เป็นคนสวยออกจะดุๆแต่อ่อนโยนแม่เขาเป็นคนอิตาเลี่ยนแท้ ครอบครัวฝ่ายแม่นั้นทำธุรกิจส่งออกไวน์ไปทั่วโลกของเครือ'อัมเบอโต' ส่วนพ่อของเจ้าตัวนั้นนำเข้ารถยนต์รายใหญ่ของประเทศไทยคงไม่มีใครไม่รู้จักเครือ'สิงห์มณี'
"นี่ๆว่างๆเอาไวน์ของครอบครัวนายมาให้หน่อยสิคุณพ่อท่านอยากจิบนะแต่ไม่ว่างพอที่จะไปซื้อ"
เอริคเพื่อนสนิทอีกคนหันมาร่วมวงสนทนาก่อนที่เจ้าตัวจะละมือจากหนังสือการ์ตูนเล่มโปรด มิลร์พยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนที่เจ้าตัวจะหยิบไอโฟนเครื่องสวยมาส่งข้อความไปหาคุณยายกับคุณตาให้ส่งของมาให้ คุณยายกับคุณตาเป็นคนอิตาเลี่ยนแท้ที่ชอบความเป็นไทยเลยชอบมาเที่ยวที่ไทยบ่อยๆ บางครั้งตอนกลับก็มารับเขาไปเที่ยวด้วยท่านทั้งสองอาศัยอยู่ที่อเมริกา
"ไอ้สวยยยยยยยยยยยยย"
กวางวิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าแดงก่ำ เจ้าตัวหอบแฮกๆเพราะด้วยความเป็นห่วเพื่อนหน้าสวยของตัวเองช่วงปิดเทอมทำให้ทันทีที่ลงจากรถยนต์ของทางบ้านก็รีบใส่สปีดมาหาทันที
"มีอะไรว่ะทำหน้าอย่างกับคนจะร้องไห้"
มิลร์เก็บไอโฟนเครื่องสวยเข้ากระเป๋าก่อนจะเอ่ยถามเพื่อนสนิท กวางสำรวจใบหน้าของเพื่อนสนิทตนก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก
'อย่างน้อยๆหน้าสวยๆของมันก็ไม่มีแผล'
"เขาทำอะไรมึงบ้างว่ะ ปิดเทอมมึงโดนตบมั๊ย"
"ไม่หรอกบอกแล้วไงว่าคุณตากับคุณยายมารับไปอยู่ที่อเมริกานะ"
"อิดอกกกกกมิลร์"
น้ำเสียงติดจะหอบเอ่ยเรียกเพื่อนรักด้วยความดีใจ โจ้ เอม และลิ เอ่ยเรียกเพื่อนด้วยน้ำเสียงดีใจสามคนนี้เป็นเกย์ของห้อง แต่ก็อยู่ในแก็งเดียวกันไม่แปลกใจที่จะห่วงกันมากมายขนาดนี้
"ว่าไงครับสุดสวย"
"หยุดนะหยุดหน้ามึงไม่เหมาะจะพูดครับเลยนะจ๊ะ"
ลิชี้หน้าเพื่อนรักก่อนจะเอ่ย มิลร์ยู่หน้าลงอย่างขัดใจถึงเขาจะหน้าสวยแต่ก็ไม่ได้เบี่ยงเบนนะเว้ยยยย เจ้าตัวบ่นขมุบขมิบก่อนที่สายตาจะไปเห็นร่างๆหนึ่งเดินผ่าน เนื่องจากห้องของมิลร์เป็นห้องแรก เวลาที่จะไปห้องอื่นๆจึงต้องเดินผ่านห้องเขาก่อนทำให้เขาได้เจอกับศัตรูหมายเลข 1
"กูว่าเปิดเทอมเรามีเรื่องสนุกๆทำแล้วว่ะ"
มิลร์พูดจบเพื่อนๆทุกคนต่างละออกจากสิ่งที่ทำอยู่หันหน้ามาสุมหัวกันอย่างมีความสุข ก็เพื่อนๆเขานะหมั่นไส้ลูกเมียน้อยนั่นขนาดไหน
พักเที่ยง
มิลร์กับเพื่อนๆเดินออกมาจากห้องเรียนเนื่องจากเป็นโรงเรียนนานาชาติ ทำให้ไม่มีเครื่องแบบทำให้นักเรียนจะแต่งตัวยังไงก็ได้ มิลร์อยู่ในชุดเสื้อไหมพรหมสีส้มกับกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ เจ้าตัวเร่งจังหวะการเดินก่อนที่ทั้งหมดจะไปปรากฏตัวอยู่ที่โรงอาหารของโรงเรียน
"จัดการเลยมั๊ยมึง"
อัลฟากระซิบถามเพื่อนรักด้วยความหมั่นไส้ มิลร์หันมามองหน้าทุกคนก่อนจะยิ้มละมุนให้แล้วค่อยๆพยักหน้า เพื่อนๆแต่ละคนรีบเดินเข้าไปประจำที่ คนในโรงอาหารเริ่มหันมามองอย่างหวาดๆ พวกนั้นรู้ตัวดีว่าแก็งเขาร้ายขนาดไหนและไม่มีใครที่จะเข้ามายุ่ง
ร่างบอบบางของไอกำลังเดินมา ไอมองทางตรงหน้าด้วยความหวาดกลัวเขารู้ตัวดีว่าตัวเองจะถูกทำอะไรและมันก็เข้าทางเขาเพราะยิ่งมิลร์ทำร้ายไอเท่าไหร่คุณพ่อก็จะรักไอมากเท่านั้นรวมทั้งพวกเพื่อนๆด้วย ไอยิ้มขำในใจก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นหวาดกลัวแล้วเดินตรงมา
พลั่ก
ร่างของไอล้มหน้าทิ้มพื้นอัลฟายกยิ้มพอใจในผลงาน เขาขัดขาของไอส่วนไอก็ได้แต่กัดฟันกรอดเขาท่องในใจไว้ว่าต้องแสดงละคร ก่อนจะทำหน้าตาให้น่าสงสารน้ำสีใสค่อยๆไหลอาบลงมาที่แก้มสีชมพู
ซ่า
มิลร์เทน้ำซุปลงมาราดบนตัวของไอ ผิวขาวๆเริ่มขึ้นสีแดงน้ำซุปไม่ได้ร้อนมากเพราะมิลร์ไม่ใช่คนใจร้ายเท่าไหร่ยกเว้นพวกมันนะ
ซ่า
ก๋วยเตี๋ยวเผ็ดๆของเอริคสาดเข้ามาเต็มตัวของร่างบาง ไอจิกเล็บแน่นพลางมองไปที่มิลร์อย่างเคียดแค้นมิลร์ยักคิ้วให้นิดๆก่อนจะเดินไปกินข้าวต่อกับเพื่อนๆ ไอสะบัดเสื้อเชิ๊ตสีขาวของตัวเองกับกางเกงยีนส์ขาสั้นประมานเข่า เจ้าตัวลุกขึ้นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เพื่อนๆของไอเดินเข้ามาพอดิบพอดี
"ว้ายตายแล้วไอใครทำอะไรเธอ"
ลิลลี่เพื่อนกระเทยของไอพูดด้วยสีหน้าร้อนใจไอหันไปฉีกยิ้มให้อย่างเสแสร้ง ก่อนจะเริ่มแสดงละคร
"มะไม่เป็นไรหรอกมิลร์คงไม่ได้ตั้งใจนะ"
"แบบนี้เธอยังจะยอมอีกหรอเราไม่ยอมนะ"
แพทพูดเสร็จก็เดินเชิดหน้ามาที่โต๊ะกลุ่มของมิลร์นั่งอยู่ ทุกคนในโต๊ะชายตามองเล็กน้อยก่อนที่จะลงมือทานข้าวกันโดยหาจะสนใจเด็กหนุ่มที่ยืนกระฟัดกระเฟียดอยู่
"นี่พวแกกล้าทำอย่างนี้กับเพื่อนฉันได้ยังไง"
แพทพูดอย่างเหลืออดไอเดินเข้ามาจับแขนเพื่อนไว้ก่อนจะบีบน้ำตาเสแสร้ง แต่คนในโต๊ะก็หาได้สนใจคุยกันต่อไปเรื่อยๆ
"นี่ไอ้พวกนิสัยไม่ดี เลว"
ลิลลี่ที่ทนไม่ไหวร้องขึ้นพวกของมิลร์ปรายสายตามองอย่างเหยียดๆก่อนที่โจ้จะลุกขึ้นและเดินไปหาลิลลี่ก่อนจะหยิบน้ำเยนมาสาดใส่ลิลลี่แต่มันก็ไปโดนไอที่ยืนเกาะแขนลิลลี่อยู่ด้วย
"สะใจจริงที่หลังอย่ามาริอาจยุ่งกับฉันพวกนังลูกเมียน้อย"
มิลร์เดินเข้ามาในบ้านด้วยใบหน้าเรียบเฉยแต่ว่าภายในใจกลับสั่นระรัวเขารู้ว่าตัวเองต้องเจอกลับอะไร แต่ก็หาได้สนใจเพราะยังไงเขาก็โดนจนชินแล้วละไม่ว่าจะถ้อยคำด่าทอ สายตาแข็งกร้าว หรือว่าการตบตี นั่นคือสิ่งที่เขาได้รับมาจากผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น'พ่อ'แต่เขาก็หาได้ใส่ใจเพียงแค่คิดถึงใบหน้าหวานสวยของใครอีกคนก็ทำให้เขามีกำลังใจเพียงแค่นึกถึงอ้อมกอดที่อบอุ่น สัมผัสที่คอยปลอบ เสียงหวานๆที่คอยกล่อมมือเรียวสวยที่คอยสอนทุกอย่าง ก็ทำให้เขาไม่อยากไปจากไปไหนแต่เธอคนนั้นกลับไม่อยู่กลับมีอีกคนมาแทนที่ผู้ที่ได้ศักดิ์ว่าแม่เลี้ยง แค่คิดถึงตรงนี้มือเรียวบางกำแน่นขึ้นมาดวงตาที่เคยมีความเศร้าเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว เขาโกรธเขาเกลียดคนพวกนั้น
"แกทำอะไรไว้"
มิลร์ที่กำลังเดินผ่านห้องโถงหันไปตามเสียงก่อนจะพบผู้ที่ได้ศักดิ์ว่าพ่อนั่งมองเขาอย่างโกรธเคือง มิลร์ยิ้มขำให้กับโชคชะตาของตัวเองในใจก่อนจะมองไปที่ไอที่นั่งให้ยัยแม่เลี้ยงทำปผลให้อยู่
"ทำอะไรหรอครับ"
ถามกลับอย่างไม่ใส่ใจนายใหญ่ของบ้านเดินเข้ามาพร้อมกับฟาดฝ่ามือลงไปที่ใบหน้าหวานอย่างโมโห
เพี๊ยะ
เสียงตบดังไปทั่วห้องโถงกว้างมิลร์ลูบแก้มตัวเองเบาๆ เขากัดปากแน่นระงับอารมณ์ทุกสิ่งทุกอย่างไว้ก่อนจะเงยหน้าสบตาผู้เป็นพ่อ
"แกมันอย่างนี่ไงนิสัยร้ายกาจไม่แพ้แม่แก แม่แกมันเลว แกก็ไม่ต่างจากแม่แกสักเท่าไหร่หรอก"
นิ้วเรียวสวยกำแน่นด่าเขาได้ด่าไปเลยแต่อย่ามายุ่งกับแม่ของเขา คุณมันน่าขยะแขยงปากเรียวสวยบางเม้มเข้าหากันก่อนจะเชิดหน้าอย่างหยิ่งทนงตน
"แค่นี้ใช่มั๊ยครับผมไปก่อนนะครับ"
พูดจบก็รีบเดินขึ้นไปบนห้องนอนรีบล็อคประตูก่อนจะก้มหน้าลงกับเข่าแล้วปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างออกมา ไม่เคยมีเลยคำพูดคำจาดีๆ มีแต่คำด่าว่าสารพัด วันนี้คุณยายกับคุณตาคงส่งเงินมาให้แล้วมิลร์คิดได้ดังนั้งจึงหยิบไอโฟนเครื่องสวยมาเช็คดูเงินจำนวนมากมายที่เขาได้จากตาและยาย แต่กับผู้เป็นพ่อเขาไม่เคยได้ตั้งแต่คนพวกนั้นก้าวขาเข้ามาในครอบครัวของเขา เธอคนนั้นสวยสู้แม่เขาไม่ได้สักนิดมีแต่มารยาแถมยังคอยแกล้งเขาสารพัดของทุกสิ่งทุกอย่างที่มาจากคนเป็นพ่อเขาเอาไปเผาทิ้งแล้วตอนนี้เหลือแต่ของแม่เขาเท่านั้น กับของที่เงินตายายซื้อตายายรู้ดีว่าผมโดนอะไรบ้างแต่ถ้าผมยังอายุไม่ถึง20ก็ทำอะไรไม่ได้เลยต้องทนไว้
Trrr Trrr
-เฮเลน-
"ว่าไง"
(แกกลับมาโดนอะไรบ้างรึเปล่า)
น้ำเสียงของปลายสายฟังก็รู้ว่าเป็นห่วงอย่างมากมันทำให้คนตัวเล็กยิ้มได้ ถึงพ่อไม่ต้องการแต่อย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนๆคอยช่วยเหลือและคุณตาคุณยาย
"โดนตบกับโดนด่า"
(เห้ยจริงหรอว่ะฉันจะไปหาแกฉันจะไปปรึกษาพ่อ)
พ่อของเฮเลนเป็นทนายชื่อดัง แต่มิลร์ไม่อยากจะให้เรื่องราวมันยุ่งยากรออีกแค่ 2 ปีเท่านั้นเขาจะรีบหายออกไปจากบ้านหลังนี้บ้านที่มีแต่ความเหน็บหนาว บ้านที่ไม่เคยได่รับความอบอุ่น น้ำตาที่เริ่มจะแห้งเหือดกลับมาไหลอีกครั้ง
"ฮึก ไม่ต้องมาหรอก กูชินแล้วว่ะ ฮึกไม่ต้องห่วง"
(กูเป็นห่วงมึงนะพวกไอ้เอริคก็ด้วย)
"มะไม่เป็นไรฮึก ฮืออออออ"
(ร้องไห้หมดร้องออกมาเลยนะมึง)
ไม่รู้ว่าร้องไห้ไปนานขนาดไหนรู้แต่ว่าพอตื่นขึ้นมาก็ต้องเจอกับสภาพตาที่บวมเป่ง ช่างเหอะตาเขาจะเป็นอะไร คนเป็นพ่อก็ไม่เคยจะรับรู้หรอกคิดได้ดังนั้นก็อาบน้ำไปโรงเรียน มิลร์เป็นคนตื่นเช้าเพราะไม่อยากจะเจอภาพบาดตาบาดใจครอบครัวสุขสันต์ ภาพที่ทำให้แม่ของเขาหายไป มิลร์หยิบกระเป๋าและสัมภาระก่อนจะเดินไปข้างล่าง ด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนจะเดินไปที่ห้องอาหารที่มีเพียงเขาคนเดียวนั่งอยู่ คนใช้หลายคนมองเขาอย่างห่วงใย
"เจ็บมากรึเปล่าค่ะคุณหนู"
บัวเอ่ยถามเจ้านายพร้อมกับลูบไปที่รอยแดงบนใบหน้า มิลร์ฉีกยิ้มหวานก่อนจะส่ายหัวนิดหน่อยคุณหนูของพวกเธอไม่ใช่คนถือตัว คุณหนูเป็นที่รักของเด็กรับใช้ในบ้านทำให้ทุกคนต่างสงสารแตก็ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะทำอะไรได้
"ผมชินแล้วละ"
มิลร์ตอบก่อนจะรับถ้วยข้าวต้มมาจากน้ำฝน น้ำฝนหยิบยางรัดผมสีดำมาก่อนจะรวบผมสีบลอนด์ทองที่ได้มาจากผู้เป็นแม่ของมิลร์มารัดไว้ เจ้าตัวส่งยิ้มบางๆให้ก่อนจะรีบกินข้าวและออกไปก่อนที่ครอบครัวสุขสันต์เขาจะลงมา
ตุ่บ
ด้วยความที่ก้มหน้าก้มตาเดินทำให้ชนเข้ากับคนอื่นอย่างจัง ร่างบางของมิลร์ล้มลงไปกระแทกพื้นก่อนเจ้าตัวจะรีบลุกขึ้นปัดเนื้อปัดตัว
"ขอโทษนะครับผมไม่ได้ตั้งใจ"
มิลร์โค้งหัวให้อย่างนอบน้อม เขาไม่ใช่คนขี้เหวี่ยงและมีเหตุผลพอแต่เรื่องของลูกเมียน้อยมันเป็นเรื่องเหนือเหตุผลทั้งปวง ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกไปโดยไม่เงยหน้ามองสักนิดว่าคนที่ตนชนนั้นเป็นใคร
ร่างสูงของพายดูจะแปลกใจไม่ใช่น้อยเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นผู้ชายเขาดูเหมือนผู้หญิงมากกว่านะ ดูเหมือนคนขี้เกรงใจนะพายคิดได้ดังนั้นก่อนจะสาวเท้าเข้าไปในห้องโถงของบ้านสิงห์มณี
"ผมมาหาคุณอารุจครับ"
"คุณท่านยังไม่ลงมารอสักครู่นะค่ะ"
หญิงรับใช่พูดด้วยความสุภาพนอบน้อมก่อนที่เธอจะภายมือให้ร่างสูงตรงหน้าไปนั่งรอที่ห้องรับแขก พายเดินเข้ามาสำรวจภายในบ้านก่อนที่จะไปสดุดตากับร่างบางผมบลอนด์ทอง ที่ยืนถ่ายคู่กับหญิงสาวผมบลอนด์ทองอีกคนรอยยิ้มกว้างประดับบนใบหน้าสวย
"คุณๆทั้งสองคือคุณหนูกับนายหญิงของบ้านหลังนี้ค่ะ"
ดวงตาคมไล่ไปตามรูปแต่ละรูปดูเหมือนรูปของคุณหนูของบ้านจะมีนิดเดียวเอง เท่านั้นคิ้วคมขมวดด้วยความไม่เข้าใจก่อนจะไปเจออีกรูปเป็นรูปตอนที่คุณหนูของบ้านแข่งเปียโนได้ที่1 ไม่มีแววตาดีใจไม่มีรอยยิ้มในรูปเป็นรูปเดี่ยวๆ ผมสีทองถูกมัดรวบหน้าตาดูเรียบเฉย ดูรวมๆแล้วดูเหงาเหลือเกิน
"เค้าชื่ออะไรหรอครับ"
"คุณหนูชื่อมิลร์ สิงห์มณี อัมเบอโต ส่วนคุณผู้หญิงคือโรน่า สิงห์มณี อัมเบอโต"
ชายหนุ่มไล่สายตาไปทั่วใบหน้าสวยที่ยังคงความเศร้าไว้ เค้าคือคนที่ชนเรา ชายหนุ่มคิดในใจถึงจะบอกว่าเป็นคุณหนูของบ้านแต่รูปที่ห้องโถงมีเพียง2รูปเท่านั้นเอง ต่างกันกับเด็กหนุ่มอีกคนกับผู้หญิงอีกคน
"เอ้าพายมาแล้วหรอ"
"ครับคุณอาผมจะย้ายมาอยู่บ้านข้างๆคุณพ่อกับคุณแม่ก็อยู่อังกฤษต่อไปนะครับ"
พายตอบด้วยรอยยิ้ม คนตรงหน้าของเขาเป็นเพื่อนรักของคุณพ่อพายเคารพรุจไม่ต่างจากพ่อของตัวเอง
"แหมมันใจกล้าทิ้งลูกตัวเองไว้นะอานะใจไม่กล้าพอที่จะทิ้งน้องไอไว้หรอก"
คิ้วของพายขมวดมุ่นด้วยความไม่เข้าใจจากที่สาวใช้บอกคือมิลร์ไม่ใช่หรอ สงสัยได้ไม่นานร่างบางของไอก็เดินเข้ามานั่งกับคุณพ่อของตนตามด้วยลันดาที่เดินมานั่งข้างๆสามี
"คุณพ่ออรุณสวัสดิ์ครับ"
"อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณ"
พายมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกไม่เข้าใจ แล้วมิลร์หรือคุณโรน่าละไอส่งยิ้มทักทายให้กับพาย พายได้แต่ยิ้มแห้งๆส่งไปให้แววตาเศร้าของมิลร์ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเขา
"นี่ไอกับคุณลันดาลูกกับภรรยาอาเอง"
"ผมพายครับ"
"ลันดาค่ะ"
"ไอครับ"
ไอส่งรอยยิ้มหวานพร้อมกับแสดงสีหน้าให้น่ารักที่สุด ผู้ชายตรงหน้ายอมรับว่าถูกใจไอตั้งแต่แรกๆทำให้ไออยากจะสานต่อด้วย อย่างนี้ก็ต้องอ่อยและยั่วสินะ
"เอ่อแล้วคุณโรน่ากับมิลร์ละครับ"
พายเอ่ยถามด้วยอาการไม่แน่ใจเท่าไหร่ รุจแสดงสีหน้าเป็นเรียกเฉยส่วนไอก็ได้แต่เก็บความริษยาไว้ในใจ
"ถามถึงมันทำไมไม่รู้ป่านนี้ตื่นรึยังก็ไม่รู้"
"ผมเห็นเดินออกไปตั้งนานแล้วครับ"
"อาว่าอย่าพูดถึงมันเลยนิสัยไม่ดีไปกินข้าวดีกว่าทานข้าวเช้ามารึยังละหลานชาย"
"ยังครับ"
"งั้นมาทานด้วยกันเลยนะ"
พายเดินตามคุณอาของตนเข้าไปในห้องอาหาร ห้องอาหารอันแสนกว้างสามคนพ่อแม่ลูกนั่งทานไปด้วยกันด้วยบรรยากาศอันอบอุ่นพายมองภาพตรงหน้าด้วยความยินดี แต่เมื่อคิดไปถึงอีกคนที่พึ่งชนกันเมื่อเช้ากลับรู้สึกหดหู่แปลกๆ ไม่เข้าใจเลยความรู้สึกนี้
"งั้นเดี๋ยวให้ไอไปกับพายเลยนะเรียนที่เดียวกันนี่"
พายพยักหน้าก่อนจะเดินไปที่BMWสีดำเงางามของเจ้าตัว ไอยกยิ้มอย่างพอใจก่อนจะเดินไปเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ
"พายเรียนเกรดอะไรหรอ"
"12"
"งั้นอายุเท่ากันเลยละสิห้องไหนหรอๆ"
"A"
ไอได้ยินคำตอบก็คิ้วขมวดกันจนยุ่งเหยิงก่อนจะเปลี่ยนเป็นหน้าตาไร้เดียงสาและใสซื่อ พายหาได้สนใจแต่กลับขับรถไปเรื่อยๆก่อนจะเห็นร่างบางที่คุ้นตากำลังซื้ออมยิ้มอยู่กับยายแก่ๆคนหนึ่ง
"นั่นใช่มิลร์รึเปล่า"
พายหันไปถามไอที่นั่งข้างๆ ไอชะโงกหน้าไปดูก่อนจะฉีกยิ้มให้อย่างเสแสร้ง
"ใช่แล้วว่าแต่ไปทำอะไรแถวข้างถนนนะ"
"มิลร์กับไอเป็นพี่น้องกันหรอทำไมสีผมไม่เหมือนกันเลย"
"ไอเป็นลูกของแม่ลันดานะส่วนมิลร์เป็นลูกของคุณโรน่า"
ร่างบอบบางของมิลร์เดินไปตามทางเรื่อยๆวันนี้เป็นวันเกิดของเจ้าตัว มิลร์ก็ได้ทำบุญไปแล้วเมื่อกี๊ซื้ออมยิ้มมาเกือบหมดแผง เห็นคุณยายขายอยู่คนเดียวน่าสงสารเลยช่วยซื้อว่าจะเอาไปแจกพวกเพื่อนๆ
"ว่าไงมิลร์ HappyBirthDayนะ"
"GoodMorning เอม"
ริมฝีปากสีชมพูฉีกยิ้มไปให้เพื่อน เอมพยักหน้ารับก่อนจะตาโตเมื่อเห็นโหลอมยิ้มหลายโหล
"ไปเหมามาจากไหนเนี่ย"
"พอดีเห็นคุณยายท่านหนึ่งนะขายอยู่สงสารเลยซื้อมานะ"
สองเพื่อนซี้หน้าสวยเดินเข้ามาในตึกเกรด12ก่อนจะเจอกับไอที่ออกมาจากรถBMWคันงาม มิลร์กระตุกยิ้มร้ายที่ริมฝีปากก่อนจะเดินกระแทกไหล่ของไอไปอย่างไม่ใยดี
"โอ๊ย"
ไอร้องออกมาด้วยความเจ็บก่อนจะยกมือขึ้นมาดู นัยตากลมโตเบิกกว้างเมื่อพบกับรอยถลอกบนฝ่ามือขาว แต่สองเพื่อนซี้ก็หาได้สนใจกลับเชิดหน้าขึ้นแล้วเดินไปแต่ก่อนที่จะได้สาวเท้าออกไปข้อมือสวยก็ถูกกระชากมาจากด้านหลัง มิลร์หันหน้าไปอย่างไม่พอใจก่อนจะเจอกับพายมิลร์เอียงคอนิดหนึ่งหรี่ตานิดหน่อยพลางคิดว่าผู้ชายตรงหน้าคนนี้เป็นใคร
"ปล่อย"
"ไม่จนกว่านายจะขอโทษไอก่อน"
ใบหน้าสวยเชิดขึ้นอย่างทนงค์ตนก่อนจะสบัดข้อมือใหญ่ออกไปแล้วหันหลังเดินกอดคอกับเพื่อนซี้ออกไปโดยไม่สนใจร่างสูงที่อยู่ข้างหลังแม้แต่น้อย พายมองคนข้างหน้าที่เดินจากไปอย่างไม่เข้าใจ
มิลร์เดินเข้ามาในบ้านด้วยความรู้สึกเฉยเมยต่อสิ่งรอบข้างวันนี้เป็นวันเกิดของเขา แต่กับไม่มีใครมาแฮปปี้เบิร์ดเดย์สักคนนอกเหนือจากพวกเพื่อนๆสุดน่ารักของเจ้าตัว บ้านวันนี้คึกคักเป็นพิเศษเพราะนอกเหนือจากวันเกิดของมิลร์แล้วยังมีวันเกิดของไออีก มิลร์เก็บความน้อยใจไว้ในส่วนลึกของจิตใจก่อนที่จะเชิดหน้าขึ้นแล้วีบเดินขึ้นไปบนห้องวันนี้เขาจะป่วนเขาจะทำลายความสุขของทุกคนให้มันมอดไหม้
"มิลร์"
เสียงเรียกมาจากด้านหลังทำให้มิลร์หันไปมองผู้เป็นพ่อเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด จิตใจดวงนี้กำลังหวาดกลัวกลัวคำบางคำกลัวเหลือเกินที่เค้าจะพูดออกมา
"อย่าลงมาถ้าไม่จำเป็นฉันไม่อยากให้แกมาป่วนงานอีก"
เขากลัวถ้อยคำที่ว่าเขาเป็นส่วนเกินในชีวิตของผู้เป็นพ่อ น้อยใจคำนี้คงใช้ได้สินะหึแม้แต่คำพูดดีๆยังไม่ได้เลยในวันเกิดไม่ใช่สิแม้แต่วันเกิดของเขาพ่อก็ยังไม่เคยคิดจะจำเลยใช่วันนี้มันคงเป็นแค่วันสำคัญของลูกรักของสิงห์มณีสินะ เขามันอัมเบอโตนี่ถึงในชื่อจะมีสิงห์มณีอยู่ด้วยแต่มันคงไม่จำเป็นหรอกในเมื่อทุกอย่างที่เป็นเขาได้มาจากอัมเบอโตทั้งนั้น
Happy Birth Day To You
Happy Birth Day To You
Happy Birth Day
Happy Birth Day
Happy Birth Day To You
"สุขสันต์วันเกิดนะลูกรักของพ่อ"
"มีความสุขมากนะลูกรักของแม่"
"นี่ของขวัญของพวกเราจะ"
มิลร์ยืนดูอยู่ในมุมมืดๆเงียบๆคนเดียวดวงตาสวยแดงก่ำ มิลร์ยกมือเช็ดน้ำตาลวกๆสาวใช้หลายคนมองดูคุณหนูของบ้านด้วยความเป็นห่วง วันนี้วันเกิดพวกเธอรู้ดีพวกเธอไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อของขวัญให้เลยได้แต่เขียนคำอวยพรให้กับคุณหนูอันเป็นที่รักยิ่ง
เพล้ง
แก้วใบสีสวยถูกเขวี้ยงลงพื้นกระเบื้องอย่างไม่ใยดีผู้คนทั้งงานมองมาที่ร่างบางเป็นตาเดียวมิลร์กรีดยิ้มร้ายที่มุมปากกว้างก่อนที่จะเดินออกมา ผู้ชายหลายคนถึงกับหยุดหายใจร่างบางในชุดเสื้อเชิ๊ตสีขาวกับกางเกงยีนส์สีซีดผมบลอนด์ทองที่เคยมัดตอนนี้กับปล่อยไว้เฉยๆ
"แกเจ้ามิลร์"
ผู้เป็นพ่อชี้หน้าด้วยความโกรธมิลร์ยักไหล่ไม่หยีระ ก่อนจะเดินไปใกล้ๆไอเขารู้คนมากขนาดนี้ไอไม่มีทางทำอะไรเขาได้ มิลร์มองไออย่างเหยียดๆมือเรียวบางคว้าไปที่เค้กก้อนโตก่อนจะโผละเข้าที่หัวของอีกคน ทั้งงานกำลังอึ้งและตกตลึง
เพี๊ยะ
เพี๊ยะ
ฝ่ามือของผู้เป็นพ่อฟาดมาที่ใบหน้าสวยก่อนจะใช้หลังมือตบเข้าให้อีก กลิ่นคาวเลือดในปากลอยคละคลุ้ง มิลร์เชิดหน้าขึ้นสู้ก่อนจะยิ้มท้าทายไปให้คนตรงหน้าคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าพ่อคนที่ตบลูกตัวเองได้อย่างไม่สะทกสะท้าน
"ฉันเลี้ยงแกแบบนี้ได้ใจมากไปรึเปล่า"
มือหยาบกร้านตรงเข้ามาบีบกรามลูกชายตัวเองแน่น ไอแอบลอบยิ้มออกมาอย่างสะใจไม่ต่างกับแม่ของตัวเองที่กำลังสะใจกับเหตการณ์ตรงหน้า
เพี๊ยะ
มิลร์ปัดมือนั่นออกอย่างไม่ใส่ใจ หันไปมองผู้เป็นพ่อด้วยแววตาแข็งกร้าวเชิดหน้าอย่างท้าทายอารมณ์ริมฝีปากบางนั่นเหยียดยิ้มไปให้คนเป็นพ่อกว้างตาเรียวที่กำลังสะกดกลั้นอารมณ์ จะไม่ให้เห็น ไม่ให้เห็นเด็ดขาด
"เลี้ยงหรอ หึๆทุกคนในงานนี้ฟังให้ดีนะครับว่าสิ่งที่ผมจะพูดออกไปนี้คืออะไร"
"แกจะทำอะไรห่ะ"
"เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ผมใช้นั้นได้มาจากอัมเบอโตไม่ใช่มาจากสิงห์มณี ถ้าผมอายุครบ20ปีผมจะเปลี่ยนไปใช้อัมเบอโตอย่างเต็มตัว บ้านที่ผมอยู่ใช่เป็นของสิงห์มณีแต่ข้าวของทุกอย่างที่ผมใช้เป็นของอัมเบอโตแม้แต่เงินซื้อของต่างๆ ไม่เคยได้จากสิงห์มณีนอกจากที่ซุกหัวนอนเตียงนอนผ้าปูที่นอนโซฟาเฟอร์นิเจอร์กรอบรูปล้วนแต่เป็นของอัมเบอโตข้าวที่ผมกินก็เป็นเงินของอัมเบอโตที่ผมให้เด็กรับใช้ไปอีกที ไหนคุณบอกหน่อยสิว่าอะไรบ้างที่คุณเลี้ยงผมมา"
มิลร์กอดออกอย่างสบายๆ ผู้เป็นพ่อมองเขาตาขวางเขากำลังคิดว่าลูกชายตรงหน้ากำลังทำให้เข้าอับอาย กำลังฉีกหน้าเขาต่องานที่มีแต่แขกคนสำคัญ
"หึตอบไม่ได้ นอกจากคุณจะเอาพวกมันเข้ามาในบ้านทำให้แม่ผมหนีไปแล้วคุณก็ไม่เคยให้อะไรกับผมเลยพอใจมั๊ยครับ"
"ดะเดี๋ยวก่อนสิมิลร์อย่างพะพึ่งไป ฮะฮึกขะขอโทษนะเราขอโทษ"
"หืมไม่ต้องการอ่ะอย่างมาเสแสร้งแกล้งทำถ้ามันไม่ได้ออกมาจากใจแต่ถ้าอยากขอโทษจริงๆเชิญใสหัวออกไปจากที่นี่ซ่ะทำได้มั๊ยละ ถอยไปซ่ะ"
ร่างของไอลงไปกระแทกพื้นเจ้าตัวบีบน้ำตาแกล้งทำเป็นเจ็บ จนคนรอบข้างเริ่มมองมาที่มิลร์อย่างตำหนิและเสียดแทงพร้อมกับคำพูดคำจาด่าทออย่างเจ็บปวดเกินกว่าเด็กอย่างเขาจะรับได้ เจ้าตัวหาได้สนใจไม่กลับเดินขึ้นบ้านไปอย่างเงียบๆพร้อมกับปล่อยให้น้ำตานองหน้า ทำไมเขาจะไม่เจ็บทั้งบีบคางทั้งโดนตบทั้งบิดข้อมือ แต่ที่เจ็บยิ่งกว่าคือใจดวงนี้ที่มันหนาวและเย็นเฉียบ มือเล็กๆเอื้อมมือไปเปิดลูกบิดก่อนจะสอดแทรกตัวเข้ามาในห้องกว้างและกดล็อคสองขาพาร่างกายอันบอบบางไปที่เตียงนอนขนาดใหญ่ก่อนที่จะล้มตัวลงนอนขดตัวกอดเข่าแน่น แขนขาวๆเอื้อมมือไปคว้ากรอบรูปที่ตั้งอยู่หัวเตียงมากอดแน่นรูปของผู้หญิงคนหนึ่งกับเขาถ่ายด้วยกัน รูปของผู้หญิงที่อบอุ่นที่สุด ผู้หญิงที่รักที่สุด ผู้หญิงที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต ผู้หญิงที่กำลังนอนหายใจโรยรินด้วยเครื่องช่วยหายใจอยู่ที่อเมริกา พ่อไม่เคนรู้ว่าแม่ไปไหนไม่สิไม่คิดจะสนใจ เขาสนใจแต่ครอบครัวแสนสุขของตัวเอง เขาเกลียด เกลียดทุกคนที่ทำให้เขาพรากจากรอยยิ้มของผู้ที่เป็นแม่ สัมผัสที่อบอุ่น อ้อมกอด ทุกสิ่งทุกอย่างของแม่มันทำให้ดวงใจของเขาแข่งแกร่ง แค่เห็นหน้าผ่านรูปถ่ายก็อบอุ่น
"ฮึก ฮึก ฮือๆๆ เขาใจร้ายมากเลยครับ"
"แม่เมื่อไหร่จะกลับมาละครับอย่าทิ้งผมไว้คนเดียว ผมเหงาเหลือเกินหัวใจดวงนี้มันเจ็บช้ำเกินไปที่จะทำอะไรได้แล้ว ผมคิดถึงแม่เค้าตบผมบีบกรามผมแน่นเลย ฮึกฮืออ"
ถ้อยคำต่างๆนาๆที่แสดงออกถึงความเหงาและอ้างว้างของร่างบางดังเข้ามาโนโสตประสาทของร่างสูงที่เอนตัวฟังเงียบๆอยู่ที่ประตู คำพูดคำแล้วคำเล่าแสดงอาการน้อยใจและโหยหาความรักของคนข้างในทำให้พายที่แอบยืนฟังอยู่ถึงกับน้ำตาคลอ เจ็บเหลือเกิน เขารับรู้ได้แค่นี้มันเจ็บและทรมาณ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อาจจะแต่งไม่ได้ดีเท่าไหร่นะค่ะ
เพราะว่าเราไม่เคยโดนทิ้งแต่เราอยากลองแต่งแบบนี้ดูสักครั้งหนึ่งเราว่ามันท้าทายชีวิตดี
อาจจะไม่ถูกใจใครหลายๆคนนะค่ะ
ไม่รู้ว่าดีพอรึเปล่าแต่เราตั้งใจมากบิวท์อารมณ์ตัวเองอยู่นานจนตัดสินใจจิ้มนิ้วลงบนแป้นพิมพ์
ถ้าใครมีอะไรเสนอมาก็ได้นะค่ะ เนื้อเรื่องตอนแรกดูขัดๆแต่ต่อไปเธอร้ายแน่ค่ะ
อย่างหวังว่าจะมีความสุข ยิ่งถ้าอายุครบ20ปีบางที่มิลร์อาจจะมาเทคโอเวอร์บริษัทพ่อตัวเองก็เป็นได้
ความคิดเห็น