จุดจบที่แตกต่าง - จุดจบที่แตกต่าง นิยาย จุดจบที่แตกต่าง : Dek-D.com - Writer

    จุดจบที่แตกต่าง

    เหมือนชีวิตได้ถูกตั้งไว้แล้วว่ามีกฏตายตัวความสำเร็จอย่างไง แล้วถ้าออกนอกกรอบจะเป็นอย่างไง แล้วชีวิตคนที่เดินทางผิดไปแล้วล่ะจะสามารถกลับมาทางเดิมได้ไหม

    ผู้เข้าชมรวม

    567

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    567

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 ก.ย. 57 / 17:11 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น


    อ่านแล้วดีไม่ดีอย่างไรชี้แนะด้วยจ้า^^

    หวังว่าจะให้ข้อคิดเล็กๆน้อยๆแก่ท่านผู้อ่านได้นะขอรับ



    เรฟราชีล เจ้าชายพ่อมดจอมขี้เกียจ    
    อันนี้ฮาๆไม่ค่อยมีสาระจะขำหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับอามรณ์ขันของแต่ล่ะคนเพราะส่วนใหญ่มุขป่าช้า

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

       

       

       

      นิยายเรื่องสั่น

      จุดจบที่ต่างกัน

       

      โดย ไร้ (ด้านมืดจากคุโรกิโจรันนอฟ)

       

       

       

       

       

            ผมหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว ทั้งการเรียน ทั้งเงินทอง หรือแม้แต่คนที่รัก ผมมองไม่เห็นอนาคตของตัวเองเลย  ผมรู้สึกเหมือนกำลังเกาะกิ่งไม้ด้วยมือข้างเดียวโดยที่ด้านล่างเป็นเหวลึก

           ผมน่าจะเชื่อคำคุณพ่อตั้งแต่แรก ถ้าเป็นแบบนั้นผมคงไม่ต้องมายืนเหม่อลอยอยู่บนสะพานพุธที่ข้างหลังเต็มไปด้วยรถติด ส่วนเบื้องล่างเป็นแม่น้ำเจ้าพะยาที่ผมกะมาทิ้งร่างชั่วๆไว้ที่นี้

          ผมข้ามรัวเหล็กไปยืนบนพื้นที่เล็กๆที่ไร้สิ่งกีดขวาง สายลมหนาวยามราตรีพัดผ่านแผ่นหลังของผมเหมือนพระพรายต้องการดันให้คนเลวอย่างผมรีบโดดๆลงไปตายซะ

          ผมหลับตาแล้วแสยะยิ้มสมเพชตัวเอง ทางมีให้เดินเยอะแยะดันเลือกไปเดินทางผิดทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจมันก็ต้องมีจุบจบที่น่าสมเพชแบบนี้แหละ  แต่ถ้าเลือกได้จริงผมก็อยากจะย้อนกลับไปแก้ไขมันตั้งแต่ตอนนั้น..

       

       

           มันเริ่มขึ้นตอนผมขึ้นเรียนชั้นม.1ที่โรงเรียนเดิมแต่อะไรหลายเปลี่ยนไปเยอะ พวกเพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกันต่างแยกย้ายกันไปเรียนที่อื่นหรือไม่ก็อยู่ห้อง2โดยที่มีผมคนเดียวหล่นมาห้อง1 จะว่าไปแล้วตอนนั้นนอกจากเรื่องเพื่อนอะไรๆก็เข้าข้างผมเกือบทุกอย่าง จนคนไม่เคยทำกิจกรรมอะไรในโรงเรียนก็มีอันได้เป็นประธานชมรม ได้เป็นพิธีกรงานโรงเรียน และเล่นละครวันแม่

          ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตอนนั้นเด็กไม่มีจุดเด่นอะไรอย่างผมเป็นคนดังในโรงเรียนได้อย่างไงทั้งๆที่ก็แทบไม่ได้ทำอะไรแต่เวลาผ่านตึกประถมกับตึกอนุบาลก็จะมีน้องตามมาคอยจ้อแจถามโน้นถามนี้ตลอด ผมชอบนะแล้วยังจำเรื่องราวพวกนี้ไว้เสมอ เทอม1จบไปได้ด้วยดี

            แต่จุดเปลี่ยนของชีวิตที่กำลังไปได้สวยของผมมันเกิดขึ้นเทมอ2

           พ่อผมดวงตกขับรถหลับในชนพวกเด็กซึ่งมอไซร์แล้วรถตกคลองข้างทาง

       

          โชคดีที่คลองไม่ลึกมากจึงมีคนช่วยท่านออกจากรถได้ แต่โชคร้ายที่ท่านปวดขามาถึงทุกวันนี้ รถค้นนั้นก็พังไปเลย แล้วยังเด็กมอไซร์ที่ท่านไม่ตั้งใจชนอีกไม่มีใครตายแต่ก็เจ็บกันไม่น้อยพ่อต้องคอยไปเยียมและหาเงินจ่ายค่ารักษาให้พวกเขาตลอดจนหาย

           ตั้งแต่นั้นมา จากที่เคยมีคุณพ่อขับรถไปส่งโรงเรียนก่อนท่านไปทำงาน กลายเป็นผมต้องหัดไปโรงเรียนด้วยตัวเอง บ้านผมตอนนั้นอยู่ไกลกับโรงเรียนมาก ตั้งบางขุนเทียนชายทะเลกับบางบอน ทุกเช้าท่านจะให้เงินผม200เป็นค่ารถแท็กชี่กับค่าขนม ตอนนั่งแท็กชี้ไปโรงเรียนคนเดียวเองครั้งแรกในชีวิตตื่นเต้นมากเพราะตอนเด็กๆผมมักจะไปไหนมาไหนกับพ่อแม่เสมอไม่เคยห่างเลยจะเรียกว่าลูกแหงก็ไม่ผิด ช่วงแรกๆก็ผ่านไปเหมือนปกติก็คือนั่งยาวไปที่โรงเรียนเลย เลิกเรียนก็โบกแท็กชี่กลับบ้านเป็นแบบนี้มาได้เดือนนึ่ง ช่วงหลังๆก็มีเพื่อนตอนประถมและเพื่อนใหม่เพื่อนผมขอติดรถไปลงบ้านที่เป็นทางผ่านด้วย มีเพื่อนคนหนึ่งลงตรงป้ายรถเมล์หน้าห้างเซ็นทันพระราม2ที่เปิดใหม่ไม่นานปกติผมไม่ผ่านมาทางนี้แต่แวะมาส่งเพื่อนตอนแรกก็ไม่คิดอะไรแต่หลังๆก็คิดว่าเราโตแล้วมีอิสระแล้วจะไปไหนก็ได้แถมแม่ก็ให้แวะห้างก่อนเข้าบ้านได้ ก็เลยเข้าไปเดินเล่นหลังเลิกเรียน แวะไปดูพวกชีดีการ์ตูนที่ร้านแมงป่องบ้าง ไปดูแผ่นเกมบ้าง ร้านหนังสือการ์ตูนบ้าง แล้วก็มักจะซื้อของที่อยากได้แล้วมีตังค์เหลือพอกลับไปด้วย จากกะแค่ไปลองเล่นๆกลายเป็นแวะห้างทุกวัน ก็ของที่ตอนนั้นเด็กผู้ชายอย่างผมอยากได้มีขายเยอะเลยทั้งลูกข่าง รถแข่ง คลาซ์เกียน การ์ดยูกิ พวกของเล่นที่ทำออกมาจากการตูนดังทั้งหลาย และแผ่นเกม ถ้าเป็นไปได้ก็จะซื้อทุกอย่างเลย แล้วอีกอย่างคือร้านเกม ตอนนั้นคอมบ้านผมแสนเก่าเครื่องไม่แรงเล่นเกมก็ไม่ได้มีแต่play1รอplay2ที่พ่อบอกจะซื้อให้นานสองนานก็ไม่ซื้อมาสักที ผมก็เลยนั่งเล่นแร็คนาร็อกที่ร้านเกมในห้างเริ่มจาก1ชมโมงเป็น2 เป็น3 จนห้างปิดตอนนั้นผมยังไม่มีโทรศัทพ์ทางบ้านเลยติดต่อไม่ได้ค่ารถแท็กชี้ขากลับก็ไม่มี เลยกะจะไปขอที่บ้าน พ่อแม่เป็นห่วงแทบแย่นึกว่าผมเป็นอะไรไป ผมก็บอกไปตามความจริงว่าไปเล่นเกมที่ห้างมา โดนพ่อด่าเละ แล้วก็ต่อว่าผมว่าเกมที่บ้านก็มีทำไมต้องไปเล่นข้างนอกแต่ผมก็เถียงด้วยความคิดว่าท่านผิดที่ไม่ยอมซื้อPlay2ให้ผมสักที แม่ไม่ชอบให้ใครดุผมเลยว่าพ่อจนพ่อกับแม่ทะเลาะกัน

         ผมผิดแต่ก็ไม่ยอมหยุดทำผิดก็ยังแวะไปเล่นเกมในห้างทุกวันแล้วก็โดนพ่อด่าอีก ผมเลยกะจะหลอกพ่อแม่ว่าไปเรียนแต่จริงๆแล้วไปเล่นเกมตั้งแต่ห้างเปิดแล้วรีบกลับบ้านตอนโรงเรียนเลิกแรกๆแผนนี้ก็ใช้ได้ผลทำแบบนี้เป็นเดือนจนครูโทรมาหาพ่อเท่านั้นแหละความแตก

         พ่อให้เงินไปโรงเรียนแค่สี่สิบโดยมีแท็กชี้ที่รู้จักกับพ่อเป็นคนไปรับไปส่ง ผมก็ต้องยอมไปเรียนตามเดิมเพราะหากขาดอีกโดนไล่ออกแน่

           บรรยากาศในโรงเรียนเปลี่ยนไปหมดทั้งเพื่อนล้อทั้งครูเพ่งเล็งทั้งเรียนตามเพื่อนไม่ทันแถมครั้งสุดท้ายที่ผมไม่เรียนนานมากแล้วมีการตรวจปัสสวะเด็กนักเรียนทุกห้องแล้วผลก็ออกมาเป็นม่วงผมไม่ได้เสพยานะแค่กินพาราเท่านั้นแต่ยิ่งผมทำตัวเหลวไหลแบบนั้นใครจะเชื่อว่าผมไม่ติดยา สุดท้ายผมก็เอาข้ออ้างพวกนี้ไปบอกแม่ที่เข้าข้างผมเสมอ แม่บอกไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปเงินแม่มีไม่ต้องเรียนก็ได้ แต่พ่อก็บอกว่าแม่น่ะตามใจผมเกินไปจนเสียคนไม่รู้จักให้ผมเข้มแข็งแล้วถ้าวันใดไม่มีพ่อกับแม่ผมจะอยู่อย่างไง ตอนนั้นผมไม่เชื่อพ่อเลือกที่จะเชื่อแม่แล้วก็โดนไล่ออกจริงๆ  แต่ผมก็ไม่สำนึกยังทำตัวเหลวไหลแบบเดิมแถมแย่ขึ้นพ่อไม่ให้ไม่เป็นไรขอแม่ก็ได้ แต่พอแม่ไม่มีให้ก็ขโมย เป็นอย่างนี้เรื่อยไปการเรียนก็ไม่สน เอาแต่ผลาญเงินพ่อแม่ไปวันๆ

              จนกระทั้งหลายปีผ่านไปเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น พ่อขับรถกลับบ้านกลางดึกที่ฝนตกหนักก่อนจะประสางากับรถอีกครั้งกลางสะพาน  ใครจะคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น ใครจะรู้ว่าท่านจะจากเราไปเร็วขนาดนี้ ผมคิดว่าคงเป็นผมที่ไปก่อนท่าน แต่มันไม่ใช่

             แม่เสียสติไปทันทีที่รู้ว่าพ่อจากไปแล้วผมเองก็แทบบ้า ผมไม่อาจเข้าไปเคารพร่างพ่อได้เพราะเป็นลูกนอกสมรสได้แต่แอบยืนร้องไห้นอกศาลา

            ผมไม่เคยทำอะไรดีๆให้ท่านชื่นชมเลยสักอย่างมีแต่ทำให้ท่านลำบากใจทุกคำสอนของท่านทุกคำพูดดีดีผมไม่เคยจำไม่เคยสนใจแต่มาวันนี้ผมจึงรู้ว่ามันจริง ไม่มีพ่อแล้วผมกับแม่จะอยู่อย่างไง  ผมกลับมาบ้านในสภาพย่ำแย่ ก่อนจะแทบขาดใจเมื่อเห็นแม่กินยาฆ่าตัวตาย

           มันเร็วมากจนตั้งตัวไม่ไหวทั้งพ่อทั้งแม่ที่ปกป้องดูแลผมมาตลอดต่างจากไปก่อนผม บ้านก็ไม่ใช่ของผมทันทีที่เลยวันจ่ายค่าเช่าวันสุดท้ายผมก็โดนไล่ ไม่มีที่ซุกหัวนอน เงินจะกินก็ไม่มี สมบัติที่ติดตัวมาก็มีแต่ของไร้สาระที่ผมใช้แทบทั้งชีวิตอยู่กับมัน แต่กลับเอาความเก่ง เอาเงินในเกมมาใช้ไม่ได้ จะไปทำงานก็ไม่มีใครรับคนยังเรียนไม่จบม.1อย่างผม

            แล้วผมก็ไปใช้วิธีหาเงินแบบในเกมที่รู้ว่าผลมันจะเป็นอย่างไง ผมเอามีดทำครัวจี้คนที่เดินผ่านซอยเปลี่ยวแล้วพออีกฝ่ายยอมส่งเงินส่งสร้อยทองหรือมือถือให้ผมก็ทุบท้ายทอยเขาด้วยส้นมือจนสลบแล้วรีบวิ่งหนี รู้ว่าชั่วมากแต่ตอนนั้นผมหิวจนไม่รู้จักคำว่าผิดชอบชั่วดีแล้ว

           ได้เงินมาก็ไปซื้อข้าวหาที่พักแล้วก็ไปทำตัวเหลวไหลอีกพอเงินหมดก็เห็นไม่โดนตำรวจไล่จับทันทีเหมือนในเกมผมก็เริ่มได้ใจไปจี้คนอื่นอีกทำเขาสลบแล้วก็วิ่งหนี

           เชื่อไหมผมทำชั่วแบบนั้นจนเริ่มตั้งหลักได้ เด็กในร้านเกมบ้างคนแอบเอายามาเสพกันในร้านผมก็เลยลองบ้างแล้วก็ติดกลายเป็นต้องจี้เงินไปซื้อยา

           จนกระทั้งวันหนึ่งผมกำลังจะจี้เสร็จแล้วแท้ๆตำรวจดันเห็น วิ่งหนีแทบไม่ทัน ดีที่เด็กในร้านผ่านมาเห็นช่วยหาที่ซ่อนให้ แรกผมก็กลัวมันบอกตำรวจ แต่มันบอกว่าก็ทำแบบเดียวกับผมแถมยังชวนไปปล้นบ้านคนตอนกลางคืนแทน ผมไม่เหลือจิตสำนึกแล้วจึงตกลงตามมันแบบนั้น

          เงินได้ดีกว่าแถมยังไม่ต้องทำร้ายใคร พอเห็นว่าปล้นบ้านคนอื่นมันสบายแบบนี้ผมก็ช่วยมันไม่หยุด จนมาถึงบ้านหลังหนึ่ง บ้านนี้เป็นหลังใหญ่ที่สุดเท่าที่ปล้นตอนแรกก็นึกว่าไม่มีใครอยู่บ้าน ผมกับมันก็รีบขโมยของมีค่า มันควรจะผ่านไปด้วยดีโดยที่พวกเราออกไปโดยไม่มีใครเห็นแต่ลุงเจ้าของบ้านก็ลงมาเห็นพวกเราแถมแกถือปืนลูกซองลงมาด้วย ตอนที่ผมกำลังโดนแกจับได้ ไอ้เพื่อนโจรก็ยิงแกตาย ผมตกใจมากทำอะไรไม่ถูกนอกจากต่อว่ามันว่าฆ่าลุงทำไม แล้วมันก็บอกว่าถ้ามันไม่ทำผมกับมันก็ต้องติดคุก ผมพูดอะไรไม่ออกเมื่อลูกสาวแกที่อายุพอๆกับผมลงมาเห็นพ่อตัวเองนอนจมกองเลือด มันสั่งให้ผมจับเธอไปด้วยเพราะเธอเห็นหน้าผมแล้ว ผมไม่อยากทำแต่มันก็บอกว่าถ้าผมไม่ทำจะฆ่าเธอปิดปาก ผมเลยทำให้เธอสลบแล้วอุ้มกลับที่ซ่อน

            พอกลับมาบ้านเช่าที่อยู่ไกลบ้านคนอื่นผมก็เสพยาแก้เครียด แต่มันยิ่งทำให้ผมขาดสติแล้วทำสิ่งเลวร้ายที่ทำลายเธอทั้งกายและใจ กว่าจะรู้สึกตัวว่าผมทำเลวร้ายไปขนาดไหนมันก็สายเกินจะหยุดทัน ผมทั้งเสียใจ ทั้งละอายที่ทำกับเธอแบบนั้น นอกจากจะเสียพ่อแล้วเธอยังโดนเดนนรกฉุดมาข่มขืนอีก ขณะที่ผมกำลังรู้สึกผิดแล้วไม่รู้จะปลอบเธออย่างไงดี มันก็วิ่งเข้ามาบอกว่า

            ทีวีออกข่าวการตายของลุงเจ้าของบ้านและการหายตัวไปของลูกสาวตอนนี้ตำรวจกำลังตามล่าพวกผมอยู่ มันสั่งให้ผมฆ่าเธอพร้อมส่งปืนเดียวกับที่ยินพ่อเธอมาให้ผม ผมลังเลสับสนก่อนจิตสำนึกที่หายไปนานจะบอกไม่ ผมฆ่าเธอไม่ได้เธอไม่มีความผิดอะไร คนที่ควรถูกฆ่าคือผมต่างหาก  มันด่าผมก่อนจะแย่งปืนจากมือผมเพื่อยิงเธอ แต่ผมคว้าไว้แล้วแย่งปืนกับมันก่อนปืนจะลั่นใส่มันแล้วล้มลง  แม้ไม่ได้ตั้งใจแต่ผมก็ฆ่าคน มือของผมเปื้อนเลือด แล้วเธอก็เห็นด้วยว่าผมฆ่าคนตาย  ผมวิ่งหนีไป หนีไปหลบซ่อน หนีไปให้ไกล หนีความจริงที่ผมฆ่าคนตาย

       

            

       

              ผมเงยหน้ามองท้องฟ้าสีดำสนิท แม้มันจะผ่านมา3เดือนแล้วแต่เวลาที่ผ่านมาผมต้องคอยอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ ทุกวันที่ผ่านมาตามมาหลอกหลอนผมตลอด

              ถึงเวลาที่ผมต้องชดใช้เวรกรรมที่ทำไว้เสียที   ผมอ้าแขนรับสายลมแล้วกำลังจะโดดลงไป

       

            “อย่านะ”

       

            เสียงห้ามที่ดังมาจากข้างหลังทำให้ผมหยุดก้าวขาแล้วหันไปมอง ก่อนจะเห็นว่าข้างหลังมีตำรวจสองคนกับผู้หญิงคนนั้น

       

           “มอบตัวซะเถอะนะ”เธอบอกด้วยสายตาอ้อนวอน  ผมส่ายหน้า

       

          “ฉันมาไกลจนยากจะกลับไปแล้ว”

       

          “น้องชนวีร์ น้องไม่ได้ทำผิดอะไรมากน้องยังมีสิทธิ์กลับตัวกลับใจนะ”ตำรวจคนนึ่งบอก

       

         แต่ผมรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองทำผิดจนไม่มีวันให้อภัยตัวเองได้

       

         “ไม่ ปล่อยให้ผมตายเถอะ”

       

         “แล้วเด็กในท้องฉันล่ะ”เธอบอก ทำเอาผมอึ่งพูดไม่ออก นี้ คนชั่วๆอย่างผมยังมีลูกได้อีกหรอ

          

         “โทษของน้องคือลักขโมย ปล้นทรัพย์ของผู้อื่น ทำร้ายร่างกาย ล้วงละเมิดทางเพศ แต่ไม่ได้ฆ่าใครตาย หากประพฤติตัวดีไม่เกินห้าสิบปีก็ได้ออกมาแล้ว”ตำรวจอีกคนกล่อม

       

         “อย่าให้เด็กคนนี้ต้องเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่ยังไม่เกิดเลยนะ”เธอขอร้อง ผมลังเลสับสนอยู่พัก

       

          ก่อนจะเห็นว่าข้างหลังเธอมีร่างของคนที่ผมนึกว่ามันตาย แล้วกำลังเดินถือปืนมา

       

         ทุกอย่างมันดูผ่านไปช้ามากเหมือนใครมาทำให้มันช้าลง ผมรีบปีนข้ามรัวไปหาเธอ ลูกกระสุนพุ่งออกจากปากกระบอกปืนมาที่ผู้หญิงที่เป็นแม่ของลูกผม ผมรีบผลักเธอหลบวีถีความตาย

          กระสุนนั้นพุ่งใส่ผมแทน ความเจ็บปวดเกินต้านทานทำให้ผมตาค้าง ร่างของผมกำลังล้มลงไป ลูกที่สองที่สามที่สี่ที่ห้ายิงตามมาให้ร่างผมกระตุกและทรมารไม่สามารถส่งเสียงกรีดร้องออกมาได้ แต่ก่อนลูกที่ห้าจะมาถึง ลูกกระสุนสองลูกจากตำรวจก็พุ่งใส่มันจนปืนหล่นจากมือ

          

            ร่างของผมล้มลงก่อนมันจะล้มตายตาม ตำรวจรีบเข้าไปดูมัน ความวุ่นวายเกิดขึ้น   ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นก่อนจะมีใครบางคนมาปิดตาคือเด็กสาวคนนั้นมานั่งร้องไห้ให้ผม แปลกควรกลัวความตายไม่ใช่หรอ แต่ผมกลับรู้สึกดี ไม่ใช่รู้สึกดีที่ตาย แต่รู้สึกดีที่การตายของผมปกป้องใครบ้างคนได้ หากตอนแรกผมด่วนโดดลงไปตายอย่างเปล่าประโยชน์ก่อนผมคงไม่ได้ตายเพื่อชดเชยให้เธอ

       

            ผมตายไปแล้วก็ใช้ว่าจะได้ไปสบายก็ยังต้องไปชดใช้เวรกรรมที่ไม่รู้จะได้เกิดเป็นคนอีกไหม

            แต่จะให้ดีที่สุดผมอยากตายไปโดยที่อย่างน้อยๆก็ได้ทิ้งความดีงามหรือความสำเร็จให้คนข้างหลังได้ชื่นชมยามนึกถึงผมบ้าง

            ไม่มีใครรู้หรอกว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งผมจะตั้งใจเรียนให้จบโตขึ้นจะได้มีงานทำอย่างสุจริต จะเชื้อฟังคำสอนของพ่อแม่เพื่อใช้ดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง จะรู้จักใช้จ่ายเก็บออมเผื่อยามขัดสน ที่สำคัญผมจะทำแต่ความดีไม่ทำความชั่วให้ชีวิตตกต่ำเด็ดขาด   โอกาสของผมได้หมดลงตั้งแต่ลมหายใจของผมหมดไป

       

           แต่ตราบที่ลมหายใจคุณยังไม่หมด ก็ไม่สายเกินแก้หรอกครับ

                               

       

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×