คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : SF - Gwiyomi
SF : Gwiyomi (ควีโยมี♥)
Pairing : KRISxCHANYEOL
Rate : PG / INCEST
Author : jnwkk-
“พี่คริสส มาเต้นเพลงนี้กะผมหน่อยเหอะน้า นะๆๆ”
ผมดึงแขนพี่คริส พี่ชายของตัวเองพลางอ้อนวอนอย่างบ้าคลั่งให้มันมาร่วมทำคลิปเต้นกับผมเป็นรอบที่ร้อยกว่าๆของวันนี้ คิดดูแล้วกันว่ามันใจแข็งขนาดไหน ผมชวนมันตั้งแต่เมื่อคืน ตอนเช้า ที่โรงเรียน จนกลับบ้าน และขึ้นห้องนอนกันแล้วผมก็ยังชวนอยู่(เรานอนห้องเดียวกันครับ) แต่พี่คริสแม่งก็ยังไม่ตกลงซักที นี่น้องนะ !
“ฉันไม่เต้นโว้ย ไร้สาระ”
“ไร้สาระอะไร เค้าทำกันทั้งบ้านทั้งเมือง”
“นายก็ทำไปดิ”
“ก็ผมจะให้พี่ทำด้วยอะ”
พี่คริสที่นั่งอยู่บนเตียงเหลือบตามาสบตาผมแวบหนึ่งด้วยสีหน้ารำคาญก่อนจะบอก “ก็บอกว่าไม่ไง”
“โห่ พี่คริสแม่ง ไม่รักน้อง”
“ปีเดียวเนี่ยนะ”
“ก็น้องป่ะล่ะ”
ผมเถียง เดินเข้าไปนั่งบนเตียงข้างๆพี่ชายแล้วกระตุกแขนเสื้อมันเบาๆ “น่า นะ ไม่เห็นมีอะไรยากเลย แค่มีนิ้วก็ทำได้แล้ว”
“ไม่เอา ไม่ต้องมาอ้อน”
“พี่คริสอะ ทำหน่อยดิ นะๆ”
“บอกว่าไม่ต้องอ้อน ไม่ใจอ่อนหรอกเว่ย” พี่คริสบ่น แต่ก็หัวเราะเบาๆ
มือใหญ่ดันหัวผมออกจากไหล่ตัวเองแต่ผมก็ทำเป็นเกร็งตัวเอาไว้ไม่ให้มันดันออกได้ ผมเอื้อมมือไปโอบรอบไหล่พี่คริสแล้วพูด
“นะ เต้นเป็นเพื่อนผมหน่อย ยืนอยู่ข้างหลังก็ได้ นะๆ”
“ชานยอล ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายว่าไม่ โอเคนะ ลงไปจากเตียงได้ละ จะนอน”
“จำไว้เลยนะ พี่คริสแม่ง”
ผมชี้หน้าพี่ชายอย่างโกรธๆแต่ก็ยอมลุกออกจาเตียงของพี่คริสแต่โดยดีแล้วก็มาปีนบันไดขึ้นเตียงตัวเองบ้าง เตียงของพวกผมเป็นเตียงสองชั้นครับ นอนมาตั้งแต่เด็กๆละ แม่บอกว่าสั่งทำพิเศษเผื่อพวกผมโตเลยจะได้ไม่ต้องซื้อใหม่ ห้องก็ไม่ต้องแยก ซึ่งพวกผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะเราเป็นพี่น้องที่ค่อนข้างสนิทกันมาก
ผมกับพี่คริสเกิดห่างกันหนึ่งปีตามที่บอก และคงเพราะผมเป็นน้องมั้งเลยมีนิสัยเด็กๆกว่าพี่คริสมาก ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเราจะไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก(โดยเฉพาะเรื่องส่วนสูง ที่พี่คริสสูงกว่าผมเล็กน้อยเท่านั้น)
แต่นิสัยเราต่างกันราวฟ้ากับเหว พี่คริสค่อนข้างขรึมๆนิดหน่อยตามประสาพี่ชายคนโต ชอบใช้สายตาสื่อสารแทนปาก ดวงตาของเขาสื่อได้ทุกอย่าง ต่างจากผมที่คิดว่ามีปากก็ต้องเอาไว้พูด และผมก็ติดจะขี้อ้อนกว่าเขาด้วยเพราะคิดว่าตัวเองเป็นน้อง จริงๆพี่คริสมันก็ชินกับอาการอ้อนของผมแล้วล่ะครับ(แน่ล่ะ .. ก็โดนมาสิบกว่าปีแล้วนี่ ผมยังอ้อนแม่ไม่บ่อยเท่าอ้อนมันเลยนะ) ถ้าไม่เดือดร้อนอะไรก็ทำให้ผมได้อยู่แล้ว
แต่ !! แต่ครั้งนี้ที่ผมลงทุนอ้อนมันข้ามวันข้ามคืนมันกลับไม่ยอมทำให้ผม ! แค่ผมขอให้พี่คริสทำท่าควีโยมีประกอบเพลงเท่านั้นเองนะ !! ทุกคนรู้จักควีโยมีกันใช่ไหมครับ?? ถ้าไม่รู้จัก ผมจะบอกให้ว่ามันคือเพลงเกาหลีเพลงนึงที่ท่าเต้นโคตรจะแอ๊บแบ๊วมาก และหากไม่มั่นใจในหน้าตาตัวเองจริงๆเพลงนี้ก็น่าจะติดอยู่ในลิสต์เพลงต้องห้ามได้เลย ซึ่งผมก็ค่อนข้างมั่นใจในหน้าตาตัวเองนะครับ (..เอ่อ อนุญาตให้แหวะได้ แต่อย่าเลิกอ่านนะ -_-) นั่นแหละครับ ผมก็เลยชวนให้พี่คริสมาทำด้วยกัน แล้วก็อัพคลิปลง youtube ที่ผมก็ทำเป็นปกติอยู่แล้วเวลาเต้นcoverเพลงต่างๆ (มีคนกดไลค์เป็นพันๆเลยนะ!) แต่ไม่เคยถ่ายวิดิโอพร้อมกันกับพี่คริสเลยสักที ครั้งนี้เลยอยากทำสเปเชียลคลิปให้คนดูบ้าง แต่ขานั้นดันไม่ยอมนี่สิ ..
ถ้าพี่คริสทำควีโยมีด้วยกัน .. รับรองยอดไลค์เป็นหมื่น
“ชานยอล หลับแล้วหรอ” เสียงพี่คริสดังเบาๆมาจากด้านล่าง
“ยัง ทำไม”
เคืองอยู่นะ -_-
“เห็นเงียบไป”
“ก็จะนอนแล้วไม่ใช่ไง?”
ผมตอบเสียงห้วน ดึงไอ้ตุ๊กตาหมีแฝดที่มีป้ายห้อยคอว่า‘KRIS’ขึ้นมาจิกหัวมันเล่นระบายอารมณ์ เรามีตุ๊กตาหมีแบบนี้คนละตัวครับ แต่ไอ้ตัวที่อยู่บนเตียงของพี่คริสนั้นเขียนว่า‘CHANYEOL’ ซึ่งเป็นชื่อของผมเอง แม่ซื้อให้เราเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อไม่กี่ปีก่อน ตอนแรกผมก็จะเอาตุ๊กตาหมีชานยอลมานอนกอดเอง แต่พี่คริสก็ค้านว่าจะนอนกอดตัวเองทำไม สลับกันดีกว่า จะได้เจอหน้ากันแม้แต่ตอนนอน ผมที่ตอนนั้นงงๆก็ตอบรับไปด้วยความเบลอซะอย่างนั้น
“โกรธอ่อ?”
“เปล่า”
กูงอนเว้ย! .. ว่าแล้วก็บิดหูหมีที แก้แค้น-_-
“งั้นก็งอน?”
“อยากนอนก็นอนไปเลยไป พูดมาก”
“งอนจริงป่ะเนี่ย?”
เสียงทุ้มห้าวดังขึ้นมาก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงสวบสาบจากเตียงข้างล่าง และไม่นานร่างสูงก็ปีนบันไดเตียงขึ้นมาหาผมที่นอนอยู่ถึงที่
ผมดึงผ้าปิดตามาปิดแล้วแกล้งตายทันที
“ไม่ต้องมาปัญญาอ่อนเลยชานยอล งอนพี่หรอ”
ว่าผมปัญญาอ่อน ที่พี่คริสพูดอยู่นี่ไม่ปัญญาอ่อนเลยใช่มั้ย-_-
นี่เป็นวิธีการง้อแบบของพี่คริสครับ หมอนี่รู้ว่าถ้าพูดดีๆกับผมแล้วผมจะหายงอนง่ายมาก ปกติพี่คริสไม่ค่อยแทนตัวเองว่าพี่เท่าไหร่ จะใช้คำว่าฉันมากกว่า แต่ถ้าผมงอน พี่คริสก็จะง้อด้วยการพูดเพราะๆด้วย
“เออ งอน”
“ทำไงถึงจะหาย”
“ทำควีโยมีกับผม” ผมพูดอู้อี้ เพราะดันดึงผ้าห่มมาปิดหน้าตัวเองซะมิด
“นายนี่น้า ..” พี่คริสพูดอย่างเหนื่อยใจ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพูดอีกครั้ง “อะๆ ยอมแล้ว ทำก็ทำ”
“จริงนะ?”
“อืม”
“ไม่หลอกนะ?”
“ถ้าไม่รีบลุกขึ้นมาจะเปลี่ยนใจแล้วนะ”
ได้ยินแบบนั้นผมก็ลุกพรวดขึ้นมานั่งทันทีโดยไม่รู้ว่าพี่คริสมันนั่งใกล้ผมมากขนาดไหน และเพราะแบบนั้น .. ตอนผมลุกขึ้นมานั่งเลยทำให้เราอยู่ชิดกันมาก .. ชิดซะจนปลายจมูกเราสัมผัสกัน
ผมปิดตาด้วยผ้าปิดตาอยู่เลยไม่รู้ว่าพี่คริสกำลังทำหน้าแบบไหน แต่พอจะดึงผ้าออกก็ถูกพี่คริสจับมือเอาไว้ก่อนที่เขาจะเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้กว่าเดิมจนริมฝีปากเราแตะกันเบาๆ
พี่คริสงับปากผมเล่นอยู่พักหนึ่งถึงจะปล่อยมือผมให้เป็นอิสระแล้วดึงที่ปิดตาออกให้ก่อนจะยิ้มเผล่ให้อย่างอารมณ์ดี
“กวนตีน” ผมบ่นแล้วไล่มันลงจากเตียง ก่อนจะปีนบันไดตามมันลงไปที่คอมพ์ที่ตั้งอยู่ด้านล่าง
ไม่ต้องสงสัยเรื่องที่เราจูบกันหรอกนะครับ เพราะเราก็ทำแบบนี้กันเป็นปกติอยู่แล้ว .. คือ .. ก็ไม่รู้ว่าพี่น้องคู่อื่นเค้าแสดงความรักกันแบบไหนนะ แต่พวกผมกอดหรือนัวเนียกันเป็นเรื่องปกติมาตั้งแต่เด็กแล้ว เพื่อนๆก็ชินกัน(แรกๆอาจจะมีช็อคบ้าง หลังๆมันเริ่มมาร่วมวงด้วย แต่ก็โดนพี่คริสถีบคว่ำทุกที) ผมเองก็ชิน เลยเฉยๆไป เพราะผมรักพี่คริสมาก และผมก็รู้ว่าพี่คริสเองก็รักผมมากเหมือนกัน
.. นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่เราไม่มีแฟนก็ได้มั้ง ?
“ฉันทำท่าควีโยมีอะไรนี่ไม่เป็นนะชานยอล”
“ดูนี่ๆ” ผมบอก ดึงข้อมือให้มันมาดูคลิปที่ผมเปิดไว้ในคอมพ์
เสียงใสของผู้หญิงดังขึ้นมาในเพลง พร้อมกับหญิงสาวในคลิปก็ทำท่าไปด้วย ผมยกมือขึ้นทำตามเธอและบังคับให้พี่คริสทำตามด้วยเช่นกัน
“ทำสิ นี่ๆ” ผมชูนิ้วสองนิ้วตามเพลง “ควีโยมี”
“ปัญญาอ่อนชิบหาย นี่ฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้ให้ชาวบ้านดูหรอวะเนี่ย”
“พี่สัญญาแล้วว่าจะทำ ห้ามเบี้ยว” ผมชี้หน้าพี่คริส แล้วทำท่าต่อตามเพลง “สามบวกสามเท่ากับควีโยมี”
พี่คริสทำหน้าหมดอาลัยตายอยากแต่ก็ต้องยอมทำท่าตามเพลงนั่นไปอย่างเสียไม่ได้ หลังจากนั้นเราก็นั่งซ้อมกันอย่างเอาจริงเอาจังกับท่าควีโยมีและโค้ชเกาหลีในคลิปแสนน่ารัก จนกระทั่งเริ่มคล่องแล้วผมก็เปิดกล้องขึ้นมาเพื่อจะอัดวิดิโอ
“จะอัดล่ะนะ” ผมหันไปบอกพี่คริสที่ยืนหลบกล้องอยู่ข้างๆ หลังจากตกลงกันได้แล้วว่าพี่คริสจะไปยืนทำข้างหลังกลบเกลื่อนความอาย
ทุกอย่างเป็นไปตามที่เราคุยกันไว้ก่อนกดอัดวิดิโอ ผมนั่งทำหน้าคอมพ์ส่วนพี่คริสก็ยืนอยู่ข้างหลัง เสียงเพลงน่ารักๆกับท่าเต้นที่ดูไม่น่าเข้ากับผู้ชายอย่างเราแต่พอทำไปมันก็ดูเข้ากันและสนุกดี ผมเต้นไปขำตัวเองในจอไป ไอ้พี่คริสก็ยืนทำท่าด้วยสีหน้าเขินๆ(แอบเห็นว่ามันชูนิ้วกลางใส่กล้องด้วย เลวมาก!)
และระหว่างที่ผมกำลังทำท่า 6+6 เท่ากับควีโยมีอยู่นั้น ท่าที่มันต้องทำเสียงจุ๊บๆๆๆพี่คริสก็ก้าวเข้ามาหอมแก้มผมทันเสียงจุ๊บในเพลงพอดี ทำเอาผมอ้าปากค้าง แต่ก็ทำท่าต่อจนจบเพราะขี้เกียจอัดใหม่หลายรอบ
“วันนี้เป็นอะไรนักหนาเนี่ย เดี๋ยวจูบเดี๋ยวหอม”
ผมบ่นขณะนั่งตัดต่อคลิปให้เข้ากับเพลงอยู่หน้าคอมพ์ พี่คริสที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังผมก็โน้มตัวลงมาโอบรอบคอผมไว้ ใบหน้าคมซุกอยู่ตรงซอกคอก่อนจะใช้ฟันเขี้ยวงับเบาๆจนผมต้องย่นคอหนี
“โอ๊ย เป็นแวมไพร์หรือไง”
“ฉันหอมแก้มนายขนาดนั้นแล้วยังจะเอาคลิปลงยูทูปอีกหรอ”
“อือ” ผมพยักหน้าพลางเอียงหัวหลบหน้าพี่คริสที่เริ่มมายุกยิกแถวๆแก้มผมอีกครั้ง “ไปนอนเลยไป เลิกยุ่งกับผมได้ละ”
“พอใจแล้วก็ไล่เลย”
“ใช่” ผมยิ้มตาหยี รั้งหน้าพี่คริสเข้ามาจุ๊บที่ปากเบาๆ “ไปนอนได้แล้ววว”
“เออ ไปก็ได้ ฝันดีนะชานยอล”
“ครับ ฝันดีนะ”
ฮี่ฮี่ฮี่ มาแล้ววววววววว
SF ตอนพิเศษมาลงแก้ตัวที่มาต่อเรื่องหลักช้า
ตอนพิเศษนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับเรื่องหลักทั้งสิ้นนะคะ อ่านก็ได้ ไม่อ่านก็ได้ (แต่อ่านเถอะนะ5555555555)
แต่งไว้นานแล้วแหละ (ใครเล่นบ้าน 11 น่าจะเคยเห็นกัน)
แรงบันดาลใจมาจากคลิปนี้ค่ะ
ปล. วันนี้ในทวิตมีแท็ก #WeLoveParkChanYeol ไม่รู้ว่าทำไม
แต่อยากบอกว่าไม่ว่าชานยอลจะเป็นยังไง เราก็รักเสมอ รักที่สุดเลย และเชื่อว่ามีคนอีกหลายคนจะไม่ปล่อยมือจากชานยอล
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จับมือน้องไว้แบบนี้นะเฮีย อย่าปล่อยมือน้องนะ <3
ความคิดเห็น