ประวัติของ  “เจริญ  สิริวัฒนภักดี”
          เกิดเมื่อวันที่  ๒  พฤษภาคม  ๒๔๘๗                                                           
          นามสกุลเดิมคือ  ศรีสมบูรณานนท์                                                                                   
          ชื่อจีนคือ  โซวเคียกเม้ง  หรือ  ชื่อเล่นว่า  เม้ง
          เป็นคนจีนแต้จิ๋ว
          เป็นบุตรชายของนายติ่งเลี้ยง  แซ่โซว  มารดาชื่อนางเซียงเต็ง  แซ่แต้
          เจริญ  สิริวัฒนภักดี  มีพี่น้องรวมกัน  ๑๑  คน  เป็นชาย  ๖  คน  เป็นหญิง  ๕  คน 
เจริญเป็นบุตรชายคนที่  ๒  ของครอบครัว
          ครอบครัวของเจริญ  สิริวัฒนภักดี  มีอาชีพขายหอยทอดอยู่ในซอยติดกับโรงเรียนเผยอิง
          ครอบครัวอบรมแบบคนจีนสมัยก่อน  แต่ไม่บังคับว่าจะต้องไปเรียนทางไหน  มีหลายแนว  เป็นครูก็มี  ทำธุรกิจก็เยอะ  แต่ตอนนี้คนที่เป็นครูก็มาทำธุรกิจหมดแล้ว
          เจริญ  สิริวัฒนภักดี  เรียนจบเพียงชั้น ป. ๔  ที่โรงเรียนเผยอิง  และเรียนสอบตกซ้ำชั้นทุกปี  น้องๆหลายคนเรียนที่โรงเรียนโกศลวิทยา
          มีหัวการค้าเอาของมาขายในโรงเรียนเป็นประจำ
          ได้ไปเป็นลูกจ้างในบริษัทย่งฮะเส็ง  ในช่วงปี  ๒๕๐๔
          ต่อมาได้ไปขายของต่างๆในโรงเหล้าบางยี่ขัน
          นายโซวคุงเคียม  อดีตนายกสมาคมชาวจีนแต้จิ๋ว  เป็นญาติที่สนิทกับบิดาของเขาเอง  และรู้จักกับนายสหัท  มหาคุณ  ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ  บริษัท  สุรามหาคุณ  จำกัด  เจ้าของสัมปทานเหล้าแม่โขงนั่นเอง
          เจริญ  สิริวัฒนภักดี  ได้เข้าทำงานในบริษัท  สุรามหาคุณ  จำกัด  จากการฝากของนายโซวคุงเคียม
          เมื่อเวลาผ่านไป  เจริญ  สิริวัฒนภักดี  ได้รู้จักกับนายเถลิง  เหล่าจินดา  ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อีกคนหนึ่งของแม่โขง  ภายในบริษัทของแม่โขง  แบ่งแยกออกเป็นสองฝ่ายคือ
          ๑.ฝ่ายนายเถลิง  เหล่าจินดา
          ๒.ฝ่ายนายสุเมธ  เตชะไพบูลย์
          เจริญ  สิริวัฒนภักดี  สะสมเงินทุนมาตลอด  จนได้เข้าไปมีส่วนในการสร้างงาน  สร้างฐานให้กับเหล้าแม่โขงเป็นช่วงๆ
          ตลอดเวลาที่ทำงานอยู่กับนายเถลิง  เหล่าจินดา  ตั้งแต่เริ่มจนช่วงหลังมีสงครามเหล้าซัดกันระหว่างกลุ่มต่างๆมากมาย
          เจริญ  สิริวัฒนภักดี  ได้แต่งงานกับสาวคนหนึ่งชื่อ  วรรณา  แซ่จิว
          เป็นบุตรสาวของนายกึ้งจู  แซ่จิว  และนางคาไน้  แซ่จิว  มีพี่น้อง ๑๐  คน  เป็นชาย  ๓  คน  และหญิง  ๗  คน  คุณหญิงวรรณา  เป็นคนที่  ๕  ของครอบครัว
          ครอบครัวของคุณหญิงวรรณา  มีฐานะค่อนข้างดี  และที่สำคัญมากคือ  คุณพ่อของคุณหญิงวรรณา  คือนายกึ้งจู  แซ่จิว  นั้นเป็นเพื่อนรักของ  นายชิน  โสภณพนิช  อดีตมหาเศรษฐีของเมืองไทย  เจ้าของธนาคารกรุงเทพยุคก่อตั้ง 
          ซึ่งตรงจุดนี้นี่เอง  คือจุดที่สร้างฐานการงาน  การเงิน  ให้กับเจริญ  สิริวัฒนภักดี  เป็นอย่างมากด้วย
          นายกึ้งจู  แซ่จิว  พ่อตาของเขาได้ขอวความช่วยเหลือทางการเงินจากนายชิน  โสภณพนิช  เพื่อเอาเงินมาลงทุนในธุรกิจค้าเหล้าของเจริญ  สิริวัฒนภักดี  จึงทำให้เจริญ  สิริวัฒนภักดีมีฐานะทางการเงินดีเยี่ยม 
          เมื่อเจริญ  สิริวัฒนภักดี  มีฐานะดีจากการค้าเหล้าแล้ว  เขาก็บุกธุรกิจต่างๆอย่างมากมาย  เช่น  การเข้าเป็นเจ้าของธนาคาร  การมีหุ้นในธนาคารต่างๆ  การค้าที่ดิน  การค้าเงินจากเมืองนอก  การสร้างฐานในธุรกิจใหม่  เช่น  การเป็นเจ้าของโรงแรมทั้งในเมืองไทยและเมืองนอก  การทำธุรกิจด้านการสื่อสาร  การทำอุตสาหกรรม  การทำเกษตรกรรม  และธุรกิจบริการต่างๆอีกมากมาย
          เจริญได้แต่งงานกับคุณหญิงวรรณา  มีบุตรชายและหญิง  ๕  คน 
          คนโตชื่อ  อาทินันท์  จบปริญญาโทด้านการเงิน
          คนที่สองชื่อ  วัลลภา  จบปริญญาตรีด้านสถาปัตย์
          คนที่สามชื่อ  ฐาปน  ได้เคยศึกษาที่บอสตัน
          คนที่สี่ชื่อ  ฐาปนี  ได้เคยศึกษาที่ฮาวาร์ด
          คนที่ห้าชื่อ  ปณต  ก็จบจากบอสตันเช่นกัน
          คุณหญิงวรรณา  ถือว่าเป็นภรรยามากทั้งด้านครอบครัวและธุรกิจ  ได้เป็นแม่ตัวอย่างในปี  ๒๕๔๕  ด้วย
          ได้เข้าเป็นหุ้นส่วนในบริษัทต่างๆในเครือจำนวนมากแทนเจริญ  สิริวัฒนภักดี  ทั้งสิ้น
          ทั้ง  ๒  มักไม่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนใดๆในเรื่องการให้สัมภาษณ์เลย  โดยจะมีทีมงานทำหน้าที่แทน
          เบื้องหน้าเบื้องหลังของบุคคลคนนี้จะเป็นเช่นไรในอนาคต  เรายังไม่สามารถทำนายได้ถูกต้องนัก  แต่วันนี้เขาเป็นผู้ที่มีเงินมากที่สุดในประเทศไทย
          แต่สำหรับเจริญ  สิริวัฒนภักดี  ไม่มีปัญหา
          เขาสามารถที่จะลงทุนในธุรกิจต่างๆได้มากมายแลอย่างต่อเนื่องหากเขาต้องการ  เนื่องจากเขามีฐานการเงินจากเหล้าและเบียร์เป็นหลัก
          ๑๒    ธุรกิจที่สำคัญ  ของ  “เจริญ สิริวัฒนภักดี”
          ธุรกิจที่ ๑
          ได้แก่ทำโรงเหล้าแม่โขง  เชียงชุน  เหล้าขาว  เหล้านอก  วงเงินการค้าเหล้าทั้งหมดประมาณ  ๕๐,๐๐๐  ล้านบาท  ธุรกิจของเจริญอยู่ในตลาดประมาณ  ๙๐ %
วงเงินประมาณ  ๔๕,๐๐๐  ล้านบาทต่อปี
          ธุรกิจที่  ๒
          ได้แก่  ธุรกิจทำโรงเบียร์ช้าง  เบียร์คาร์ลสเบอร์ก  เบียร์คลอสเตอร์  ที่มีวงเงินการค้าประมาณ  ๔๕,๐๐๐  ล้านบาท  ธุรกิจของเจริญอยู่ในตลาดประมาณ  ๖๗ %
วงเงินประมาณ  ๓๐,๐๐๐  ล้านบาทต่อปี
          ธุรกิจที่  ๓
          ได้แก่  ธุรกิจการค้าหุ้น  โดยมุ่งซื้อหุ้นในกลุ่มของสถาบันการเงิน  และบริษัทใหญ่ๆ  วงเงินที่อยู่แต่ละธนาคารจะมีหุ้น  ๕ - ๑๐  %  ในกลุ่มธนาคาร  ๔ - ๕ ธนาคาร  เมื่อเห็นว่ามีกำไรก็จะปล่อยขายไป  ทำให้ได้กำไรอย่างมาก  วงเงินประมาณ  ๒๐,๐๐๐  ล้านบาท
          ธุรกิจที่  ๔
          ได้แก่  ธุรกิจค้าเงิน  คือการกู้เงินจากเมืองนอกที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ  แล้วนำมาให้กู้ในเมืองไทย  ได้ดอกเบี้ยมากขึ้น  หรือนำเงินไปซื้อกิจการต่างๆในเหตุผลที่ต่างกัน  จึงทำให้มีกิจการในเครือมาก  วงเงินประมาณ  ๕๐,๐๐๐  ล้านบาท
            ธุรกิจที่  ๕
            ได้แก่  ธุรกิจค้าที่ดิน  ในการสร้างโรงเหล้าก็ต้องมีที่ดินรอบๆโรงงานจำนวนมากอยู่แล้วนับหมื่นๆไร่  และที่รับซื้อ  เลือกซื้อ  เอาไว้ทำกิจการอย่างอื่นอีก  มีทั่วประเทศ  บางแห่งกำลังพัฒนาอยู่ขณะนี้  วงเงินประมาณ  ๕๐,๐๐๐  ล้านบาท
            ธุรกิจที่  ๖
            ได้แก่  ธุรกิจโรงแรม  คือ  โรงแรมพลาซ่า  แอทธินี่  ทั้งในนิวยอร์ก  อเมริกา  และที่ถนนวิทยุ  และในเครืออีกสิบกว่าโรง  ธุรกิจนี้มุ่งหวังสร้างชื่อในการบริหารโรงแรมด้วยฝีมือคนไทยจริงๆ  และทำให้ได้ที่ดินแปลงสวยที่เป็นที่ตั้งของโรงแรมและบริเวณรอบๆด้วย  วงเงินประมาณ  ๑๐,๐๐๐  ล้านบาท
           
            ธุรกิจที่  ๗
            ได้แก่  ธุรกิจประกันภัย  โดยเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทไทยเจริญประกันภัย  จำกัด  และบริษัทอินทรประกันภัย  จำกัด  บริษัท  อินเตอร์ไลฟ์  จอห์น  แฮนด์  คอค  ประกันชีวิต  จำกัด  บริษัท  อาคเนย์  ประกันภัย  จำกัด  บริษัท  มิลเลียไลฟ์ประกันชีวิต  จำกัด  วงเงินประมาณ  ๒,๐๐๐  ล้านบาท
            ธุรกิจที่  ๘
            ได้แก่  ธุรกิจโรงงานอุตสาหกรรม  มีโรงงานกระดาษที่บางปะอิน  โรงงานน้ำตาลแม่วัง  ที่อุตรดิตถ์  ที่สุพรรณบุรี  ที่ชลบุรี  โรงงานแอลกอฮอล์  โรงงานน้ำมันเอธานอล  โรงงานทำขวด  วงเงินประมาณ  ๑๐,๐๐๐  ล้านบาท
            ธุรกิจที่  ๙
            ได้แก่  ธุรกิจเกษตรกรรม  และอุตสาหกรรมการเกษตร  ได้โดยเริ่มลงทุนที่จังหวัดเพชรบุรีจำนวน  ๕,๐๐๐  ไร่  ที่จังหวัดกาญจนบุรี  ๑๐,๐๐๐  ไร่  วงเงินประมาณ  ๑๐,๐๐๐  ล้านบาท
            ธุรกิจที่  ๑๐
            ได้แก่  ธุรกิจการคมนาคมประเภทการสื่อสารและเส้นทางคมนาคมและพลังงาน  ซึ่งอยู่ในช่วงเจรจาต่อรองและดำเนินการในเบื้องต้นเท่านั้น  วงเงินประมาณ  ๓๐,๐๐๐  ล้านบาท
            ธุรกิจที่  ๑๑
            ได้แก่  ธุรกิจโฮลดิ้ง  คือ  เข้าถือหุ้นกับบริษัทที่มีแนวทางธุรกิจที่ดี  วงเงินประมาณ  ๒๐,๐๐๐  ล้านบาท
            ธุรกิจที่  ๑๒
            ได้แก่  ธุรกิจบริการ  เช่น  ธุรกิจกับการโฆษณา  การแสดงสินค้า  ประชุม  ประชาสัมพันธ์  การกีฬา  และร้านค้าสะดวกซื้อ  วงเงินประมาณ  ๕,๐๐๐  ล้านบาท
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น