ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก (มี E-Book)

    ลำดับตอนที่ #16 : บทที่15 แผนของพิมพ์พิชชา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 903
      28
      15 ส.ค. 63

    บทที่15 แผนของพิมพ์พิชชา

     

    เสียงเครื่องยนต์ของรถที่คุ้นหูทำให้ปัญจวัตรรีบเดินออกมาหน้าบ้านด้วยความแปลกใจทันที เขาจำได้เสียงนี้เป็นเสียงรถพงศ์พยัคฆ์อย่างแน่นอน และก็เป็นไปตามคาดรถหรูของพงศ์พยัคฆ์จอดอยู่ตรงหน้าจริง ๆหลังจากนั้นไม่นานรถของปรียาภัทรก็ขับมาจอดใกล้ๆกัน ปัญจวัตรมองผู้มาเยือนที่ไม่ได้มีแต่พงศ์พยัคฆ์แต่ยังมีลูกพี่ลูกน้องสุดที่รักอย่างแพรวารินทร์ด้วยความประหลาดใจ

    “มาได้ไงวะไอ้เสือ น้องแพร” ปัญจวัตรเอ่ยถามอย่างสงสัยทันทีที่เพื่อนรักและลูกพี่ลูกน้องสาวลงจากรถ

    “ปิ่นชวนเองแหละ เห็นว่าวันนี้ม้าทำแต่ของอร่อยเลยชวนมาแจมด้วย” 

    “ชวนมาแจมเนี่ยนะ” ปัญจวัตรเอ่ยพึมพำหมอหนุ่มสังหรณ์ใจไม่ดีเท่าไรแล้วน้องสาวเขาคิดจะทำอะไรนั้นคือสิ่งที่ปัญจวัตรกำลังหาคำตอบให้ตัวเอง ส่วนพงศ์พยัคฆ์และแพรวารินทร์นั้นไม่ได้สนใจปัญจวัตรทั้งคู่เดินเข้าบ้านไปพร้อมกับปรียาภัทรโดยไม่ต้องมีใครชวน คนนอกเห็นอาจคิดว่าเสียมารยาทแต่ไม่ใช่เลยเพราะทั้งสองเข้าออกบ้านหลังนี้จนเหมือนบ้านตัวเองไปแล้วทั้งคุณหญิงปริศนากับคุณศรันย์ผู้เป็นสามีเองก็เอ็นดูพงศ์พยัคฆ์เหมือนลูกแพรวารินทร์เองก็เป็นหลานสาวเจ้าของบ้าน

    “สวัสดีครับม้า” พงศ์พยัคฆ์ยกมือขึ้นไหว้คุณหญิงปริศนาทันทีทีเดินมาถึงห้องรับแขกที่คุณหญิงปริศนานั่งคุยกับเหล่าหมออยู่ก่อนจะเดินมากอดคุณหญิงปริศนากอดตอบก่อนจะหันไปกอดแพรวารินทร์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ

    “ป้าปริมเป็นไงบ้างคะสบายดีมั้ยพี่ปัญจ์ดูแลดีมั้ยเนี่ย” แพรวารินทร์แกล้งถามเพื่อหยอกเย้าญาติผู้พี่ก่อนจะขบขันเมื่อป้าสะใภ้รับมุก

    “ก็ดูแลตามอัตภาพแหละลูกบางวันก็ละเลย”

    “ไง๊งั้นอ่ะผมไม่เคยละเลยม้าสักหน่อย  ไม่เหมือนหลานรักกับลูกชายคนโปรดของม้าหรอก” ปัญจวัตรร้องอ้าวแย้งขึ้นทันทีอย่างแง่งอน

    “นายกำลังว่าฉันอยู่เหรอเพื่อน เดี๋ยวฉันก็ขโมยม้าไปไว้ที่เรือนแสนรักซะเลย” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกพร้อมยิ้มยั่วการกระทำของชายหนุ่มทำให้บรรดาหมอทั้งหลายตกใจเป็นอย่างมากแม้แต่นายแพทย์รามินหรือหมอรามที่อยู่แผนกเดียวกันและเป็นหมอในทีมผ่าตัดของพงศ์พยัคฆ์ยังตกใจกับเหตุการณเมื่อครู่เกือบ5ปีที่ทำงานด้วยกันมานี่เป็นครั้งแรกที่พงศ์พยัคฆ์ยิ้มและหยอกล้อแบบนี้

    “นี่พี่เสือที่ผมรู้จักจริงป่ะเนี่ย”

    “นั่นสิ นานแล้วนะที่ไม่เห็นหมอเสือยิ้มจำได้ว่าครั้งล่าสุดตอนยังเรียนนิติเวชอยู่ล่ะมั้ง” แพทย์หญิงพลอยลดาหรือหมอพลอยสูตินารีแพทย์สาวที่เรียนที่เดียวกับปัญจวัตรและพงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกบ้าง

    “พวกผมยังไม่เคยเห็นหมอเสือเป็นแบบนี้มาก่อนเลย ดูเป็นผู้ชายอบอุ่นแต่ขี้แกล้งนิด ๆ หวาน ๆ หน่อย ๆโรแมนติกนิด ๆ ตอนไม่ยิ้มว่าหล่อแล้วยิ่งยิ้มแบบนี้พวกผมชิดซ้ายเลย” นายแพทย์พลพิพัฒน์หรือหมอพลอายุรแพทย์หนุ่มเอ่ยแสดงความคิดเห็นบ้าง

    “ไอ้เสือมันมีปัญหาครอบครัวนะครับเลยกลายเป็นเสือยิ้มยากเมื่อก่อนแจกรอยยิ้มให้กับทุกคนสาว ๆ เนี่ยหลงกันตรึม” ปัญจวัตรเอ่ยบอกก่อนจะโดนพงศ์พยัคฆ์กระแทกศอกใส่เต็มรัก

    “มันกำลังจะไปได้ดีในระดับหนึ่งพอบอกว่าแจกยิ้มไปทั่วสาว ๆ หลงตรึมเนี่ยมีจุดประสงค์อะไรวะคะแนนนิยมอยู่ต่ำกว่าศูนย์  อย่าทำให้แย่ดิ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกแค่ที่ผ่านมา9ปีความนิยมของเขาในความรู้สึกแพรวารินทร์ก็ต่ำกว่าศูนย์อยู่แล้วปัญจวัตรยังพูดเหมือนเขาโปรยเสน่ห์ไปทั่วแบบนี้ไอ้ลำพังแค่บอกว่าจีบเธอยังไม่เชื่อเจอคำพูดของปัญจวัตรเข้าไปคงทำให้เขาดูไม่จริงใจเข้าไปอีก

    “แค่หยอกเล่นเอง น้องแพรยังไม่คิดอะไรใช่มั้ยถ้าคิดแล้วลืมมันซะพี่พูดเล่นแต่ตอนมัธยมน้องแพรก็คงเห็นใช่มั้ยว่าสาวตรึม” ปัญจวัตรวางระเบิดอีกลูกพร้อมยิ้มอย่างสะใจพงศ์พยัคฆ์มาทำอะไรเขาไม่รู้แต่มาไม่บอกแบบนี้ต้องเอาคืนถ้าจีบน้องเขาติดง่ายๆก็ง่ายเกินทำกับน้องเขาไว้เยอะอย่าหวังจะได้ง่ายๆ

    “ไอ้ปัญจ์นายพูดอะไรเนี่ย ม้าครับปัญจ์แกล้งผมอีกแล้วแบบนี้ผมก็แย่นะสิไม่น่าคบเอาซะเลย” พงศ์พยัคฆ์ก็ใช่ว่าจะยอมง่ายๆคิดจะทำให้เขาดูแย่ในสายตา“หนูแพร” งั้นเหรอได้เจอเขาแน่คุณหญิงปริศนานี่แหละที่จะช่วยเขาคุณหญิงปริศนาต้องอยู่ข้างเขาแน่และก็เป็นอย่างที่คิดเมื่อคุณหญิงปริศนาตีแขนปัญจวัตร

    “ตาปัญจ์อย่ามาแกล้งลูกชายม้านะสาวตรึมอะไรกันแค่แฟนคลับวงดนตรีเท่านั้น” คุณหญิงปริศนาเอ่ยบอก สมัยมัธยมพงศ์พยัคฆ์และปัญจวัตรรวมกลุ่มกับเพื่อนอีกสามคนตั้งวงดนตรีชื่อวงฟ้าครามและมีแฟนคลับในโรงเรียนอยู่มากซ้ำยังเป็นที่รู้จักจากคนทั่วไปอยู่ไม่น้อยจากการเป็นวงดนตรีตัวแทนของโรงเรียนเข้าแข่งขันและได้เป็นแชมป์สามสมัยซ่อนกวาดรางวัลจากการแข่งขันมาหลายรายการจะมีแฟนคลับสาว ๆ ก็ไม่แปลกนี่นะ

    “ชิ แตะไม่ได้เลยลูกชายม้าเนี่ย” ปัญจวัตรทำทีงอนแต่ก็ไม่จริงจังเท่าไรก่อนที่หนึ่งในบรรดาแขกเอ่ยขัดจังหวะขึ้น

    “ว่าแต่ผู้หญิงคนนี้ใครอ่ะพี่เสือน้องสาวเหรอน่ารักจัง ชอบอ่ะจีบได้ป่ะ” รามินเอ่ยขึ้นเพราะความที่อยู่ทีมเดียวกันทำให้รามินกล้าที่จะเอ่ยถามผิดกับหมอคนอื่นที่สงสัยแต่ก็เงียบเพราะปกติพงศ์พยัคฆ์เป็นคนเงียบๆทำให้ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่

    “ไม่ใช่น้อง ทุกคนครับนี่แพรวารินทร์หรือแพรครับภรรยาของผม หนูแพรนี่หมอพลอยู่แผนกอายุรกรรม นี่หมอพลอยอยู่แผนกสูตินารีแพทย์ นี่หมออ้าย หมอรดา หมอธันวา หมอฟ้าอยู่แผนกกุมารเวช ส่วนคนนี่ชื่อรามไม่ต้องไปสนใจมากแค่หมอคนนึง” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกด้วยความโมโหนิดๆที่รามินคิดจะจีบเมียเขาก่อนจะแนะนำให้แพรวารินทร์รู้จักกับบรรดาหมอที่นั่งอึ้งไปตั้งแต่บอกว่าแพรวารินทร์เป็นภรรยาแล้ว

    “เมียหมอเสือ/เมียพี่เสือ?” เมื่อหายจากอาการตกใจบรรดาหมอก็เอ่ยเป็นเสียงเดียวกันราวกับต้องการจะทวนว่าพงศ์พยัคฆ์ได้พูดอะไรผิดไปหรือไม่ มีเพียงฟ้ารดาเท่านั้นที่แค่มองคู่หนุ่มสาวด้วยความเจ็บปวดก่อนจะเบือนหน้าหนีปกปิดกิริยาอาการที่อาจทำให้ใครต่อใครรับรู้ความคิดไม่ซื่อของเธอ ทว่าแพรวารินทร์ได้เห็นสายตาที่เจ็บปวดนั้นเข้าพอดีในใจนึกสงสารกุมารแพทย์สาวคงรักพงศ์พยัคฆ์มากยิ่งเห็นแพรวารินทร์ยิ่งอยากจะถอยหลังกลับถ้าไม่ติดว่าพงศ์พยัคฆ์ยังกุมมือเธอไว้แน่นเมื่อทำอะไรไม่ได้เธอก็ได้แต่ก่นด่าเพื่อนรักในใจ

    ‘ยัยทรายนะยัยทรายคุณหมอน่าสงสารขนาดนี้แกยังจะให้ฉันแสดงตัวให้เค้าเสียใจอีกใจร้ายเกินไปแล้ว ยัยตัวแสบ’

    “พี่อำผมเล่นป่ะเนี่ยผมทำงานกับพี่มา5ปีทำไมไม่เห็นรู้เลย” รามินเอ่ยขึ้นถึงแม้พงศ์พยัคฆ์จะค่อนข้างเงียบและไม่ค่อยเปิดเผยเรื่องส่วนตัวแต่มันก็ต้องมีบ้างที่เขาจะรู้

    “นายจะรู้ได้ไงรามพี่ทำงานกับนายมา5ปีแต่พี่แต่งงานมา9ปีแล้ว” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกอย่างกับพูดเรื่องลมฟ้าอากาศทั่วไป

    “9ปี?...เดี๋ยวนะตอนนั้นเราเพิ่งขึ้นปี4กันเองนะหมอเสือแล้วคุณแพรก็ดูเด็กกว่าหมอรามซะอีก ตอนนั้นคงประมาณ16-17เอง” พลอยลดาเอ่ยขึ้น เธอจำได้ว่า9ปีก่อนทั้งเธอ ปัญจวัตร และพงศ์พยัคฆ์ เพิ่งจะเป็นนักศึกษาแพทย์ปี4เองนะ

    “ใช่ครับตอนนั้นหนูแพรอายุ17 แต่เราสองคนไม่ได้ทำเรื่องผิดศีลธรรมอะไรนะครับ การแต่งงานเกิดขึ้นจากความต้องการของผู้ใหญ่ทั้งสองไม่ใช่แต่งเพื่อรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกและดักทางไว้ก่อนที่หลายคนจะคิดเลยเถิดแล้วมองแพรวารินทร์ในแง่ร้าย

    “น่าอิจฉาอ่ะเมียพี่เสือส๊วย สวย น่ารักโคตร พี่รามนะครับน้องแพรถ้าวันไหนเบื่อพี่เสือแวะมาหาพี่ได้นะครับ” รามินเอ่ยบอกแก่แพรวารินทร์ก่อนจะหันไปเห็นสายตาดุของพงศ์พยัคฆ์

    ‘เพิ่งเคยเห็นพี่เสือใช่สายตาแบบนี้ แสดงว่าคนนี้รักจริงอะไรจริงแบบนี้ต้องขยายให้ทั่วจะได้เลิกโยงมั่วอีก’

    “รอชาติหน้าตอนบ่าย ๆ เถอะราม รึถ้าอยากไปรออยู่ที่ชาติหน้าพี่ก็ไม่ว่านะจะสนองให้” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกในใจรู้สึกหงุดหงิดและหึงเอามาก ๆจนไม่เหลือมาดนายแพทย์พงศ์พยัคฆ์ผู้สุขุมเอาซะเลย

    “โอ้ยพี่เสืออ่ะ ผมรอที่ชาตินี้แหละไม่ไปรอที่ชาติหน้าหรอกเมียยังไม่มี” รามินเอ่ยบอกเขาเริ่มจะกลัว “พี่เสือ” คนนี้ซะแล้ว ทุกคนต่างอมยิ้มที่เห็นหมอหนุ่มผู้เงียบขรึมออกอาการหึงออกหน้าออกตา ผิดกับฟ้ารดาที่ยิ่งเจ็บจี๊ดถึงทรวงมันชัดเจนมากแล้วว่าหมอหนุ่มรักหญิงข้างกายมากแค่ไหนเธอคงสู้ไม่ได้เลย ความผิดปกติของฟ้ารดามีเพียงปัญจวัตร คุณหญิงปริศนา และแพรวารินทร์เท่านั้นที่เห็น หมอหนุ่มเริ่มจะเดาทางเพื่อนรักออกแล้วว่ามาด้วยสาเหตุอะไรและน้องกับมารดาของเขาก็รู้ด้วยมันอาจรวมถึงครอบครัวสัตยบดินทร์ด้วยชายหนุ่มได้แต่สงสารไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ ส่วนคุณหญิงปริศนาและแพรวารินทร์มองหน้ากันแผนสำเร็จไปขั้นนึงแต่ฟ้ารดาจะตัดใจหรือไม่นั้นยังไม่แน่ชัด ส่วนปัญจวัตรจะรู้มั้ยว่าควรทำไงต่อ

    “เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนมากันพร้อมแล้วเราไปทานข้าวกันดีกว่าจ้ะ” เพื่อตัดบทก่อนที่ใครจะหันมาเห็นอาการผิดปกติของฟ้ารดาคุณหญิงปริศนาจึงรีบชวนแขกทั้งหลายไปรับประทานอาหารทันที

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×