ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก (มี E-Book)

    ลำดับตอนที่ #15 : บทที่14 การมาของสองแม่ลูกเกดทิวรากุล

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 754
      22
      14 ส.ค. 63

    บทที่14 การมาของสองแม่ลูกเกดทิวรากุล

     

     

    วันต่อมา

    โรงพยาบาลรักษ์บดินทร์

    การที่พงศ์พยัคฆ์ไปไหนมาในกับแพรวารินทร์ถือเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงไม่หยุดตั้งแต่ที่หญิงสาวเดินออกมาจากห้องทำงานของหมอหนุ่ม บ้างก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับหมอหนุ่มผู้แสนเย็นชาและเงียบขรึมที่ทำให้หมอหนุ่มเปลี่ยนเป็นคนที่มีรอยยิ้ม บ้างก็ใคร่รู้เหลือเกินว่าหญิงสาวเป็นใครทำไมถึงได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับเสือยิ้มยากของโรงพบายาลได้แบบนี้

    และข่าวล่ามาแรงวันนี้ก็คือข่าวสารที่ว่าคืนวานนี้คุณหมอหนุ่มและหญิงสาวคนนั้นไม่ได้กลับออกไปจากโรงพยาบาลจนกระทั่งช่วงสาย ๆ จึงได้จูงมือกันออกไปข้างนอก 

    คุณหญิงปริศนาเงี่ยหูฟังพยาบาลสาวที่เม้าท์กันอย่างเมามันก่อนจะหันมามองหน้าลูกสาวที่กำลังตั้งใจฟังอยู่ไม่แพ้กันแล้วก็ได้แต่พ้นลมหายใจอย่างเบื่อหน่าย

    “เรื่องชาวบ้านนี่ขยันจริง ๆ คนเรานี่” 

    “นั่นสิคะ โอ๊ะ นั่นพี่เสือกับพี่แพรนี่คะ” ปรียาภัทรเอ่ยอย่างเห็นด้วยกับคำพูดของผู้เป็นแม่ก่อนจะหันไปเห็นคนที่ถูกพูดถึงกำลังเดินไปยังลิฟต์จึงส่งเสียงเรียกทันที

    “พี่แพร พี่เสือ” เสียงร้องเรียกทำให้แพรวารินทร์และพงศ์พยัคฆ์ต้องหันไปมองก่อนจะยกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่า

    “ป้าปริม ปิ่น มาหาพี่ปัญจ์กันเหรอคะ?” 

    “มาเยี่ยมพี่ทรายต่างหากล่ะค่ะ” ปรียาภัทรชี้แจงก่อนจะอมยิ้มน่ารักเมื่อเห็นพงศ์พยัคฆ์กุมมือลูกพี่ลูกน้องสาวของเธอไม่ยอมปล่อย

    “ใช่จ้ะ วันนี้ปิ่นว่างพอดีป้าเลยให้พามาเยี่ยมหนูทรายน่ะ มีขนมมาฝากด้วยนะ” คุณหญิงปริศนาเอ่ยเสริมพร้อมกับชูถุงผ้าให้หลานสาวและหลานเขยสามีได้ดู “มีของลูกเสือกับหนูแพรด้วยนะ”

    “งั้นก็เข้าไปพร้อมกันเลยครับม้า น้องปิ่น เสือกับหนูแพรกำลังจะไปหาน้องพอดี” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะจูงมือแพรวารินทร์เดินนำไปยังห้องพักของพิมพ์พิชชา โดยที่แพรวารินทร์ขัดขืนไม่ได้ คุณหญิงปริศนาลอบยิ้มกับปรียาภัทรก่อนจะเดินตามไปโดยไม่เอ่ยแซวอะไรให้ใครต้องเขิน...เวลาแซวน่ะมีอีกเยอะแยะ ค่อยแซวก็ได้

    “หนูทราย ดูสิใครมา” 

    “ไฮ” ปรียาภัทรส่งเสียงคนแรกก่อนที่สองแม่ลูกจะเข้ามาภายในห้องและทักทายคนที่อยู่ภายใน แพรวารินทร์อาสานำขนมและมื้อเที่ยงที่คุณหญิงปริศนาเอามาเยี่ยมคนป่วยไปจัดใส่จานขณะที่พิมพ์พิชชานั้นมองสองแม่ลูกผู้มาใหม่อย่างจับผิด

    “นอกจากมาเยี่ยมแล้วมีอะไรมาปรึกษาด้วยใช่มั้ย ทรายมองออกนะคะป้าปริม”

    “ปิดใครก็ปิดได้ แตปิดเด็กคนนี้ไม่ได้จริง ๆ พราวดูลูกพราวสิ”

    “โธ่พี่ปริมคะ ก็ลูกพราวนี่คะพราวยังดูพี่ปริมออกเลย ลูกพราวจะดูไม่ออกได้ยังไง”

    “พี่ก็ลืมไป เอาล่ะ เข้าเรื่องเลยล่ะกันนะ”

    “ประเด็นก็คือเมื่อวานนี้เฮียหมอพาผู้หญิงคนนึงไปทานข้าวที่บ้านค่ะ” ปรียาภัทรแย่งคนเป็นแม่เอ่ยก่อนจะโดนค้อนเข้าให้

    “แล้วยังไงต่อ ผู้หญิงที่ไหน  อะไรยังไงคะป้าปริม”

    “หมอผู้หญิงที่โรงพยาบาลนี่แหละทราย ประเด็นก็คือตาปัญจ์บอกป้าว่าบอกว่าเธอคนนี้คือว่าที่สะใภ้ป้าแต่...” คุณหญิงผู้มากับเรื่องอยากจะปรึกษาคนรุ่นลูกหยุดคำพูดอย่างนึกลังเลว่าควรจะพูดดีหรือไม่

    “แต่?...แต่เธอคนนั้นไม่รู้แถมชอบคนอื่นใช่มั้ยคะ” พิมพ์พิชชาคาดเดาก่อนจะได้รับการพยักหน้าเป็นการตอบกลับ “แล้วยังไงต่อคะ?

    “คือ...เธอคนนั้นนอกจากไม่รู้ว่าตาปัญจ์ชอบแล้วเธอยังชอบ...” ดวงตาของคุณหญิงปริศนาหันไปยังเพื่อนสนิทของลูกชาย

    “พี่ผู้หญิงคนนั้นชอบพี่เสือค่ะพี่ทราย”

    “เธอคนนั้นเป็นใคร” พิมพ์พิชชาเอ่ยถามอย่างโมโหนิดๆ ก่อนหันไปมองพี่ชายที่ทำหน้าไม่ใส่ใจอะไรนอกจากแพรวารินทร์อยู่ข้างเตียง

    “หมอฟ้า เธอเป็นกุมารแพทย์” คุณหญิงปริศนาให้คำตอบก่อนที่คนป่วยจะเบนสายตาไปจ้องพี่ชาย

    “พี่รู้จักหมอฟ้ารดาอะไรนั่นรึเปล่า”

    “หมอฟ้าเธอเป็นเพื่อนคนนึงของพี่  ในโรงพยาบาลมีข่าวลืออยู่บ่อย ๆว่าพี่กับเธอมีอะไรลึกซึ่งกว่าเพื่อนธรรมดา แต่ทุกครั้งที่เธอชวนพี่ไปไหนนายปัญจ์ก็จะไปด้วยตลอด พี่ยืนยันได้พี่กับเธอเป็นเพื่อนกันแค่นั้นจริง ๆ” พงศ์พยัคฆ์ตอบน้องสาวทว่าสายตานั้นเมียงมองแพรวารินทร์ที่ดูจะแปลกไปจากตอนแรกไม่น้อย

    “ป้าปริมอยากให้หมอฟ้าอะไรนั่นหันไปมองพี่ปัญจ์ใช่มั้ยคะ”

    “ป้าอยากให้ปัญจ์สมหวังเพราะที่ผ่านมาปัญจ์ไม่เคยบอกป้าแบบนี้สักครั้ง ทรายพอจะมีวิธีให้ปัญจ์สมหวังสักนิดมั้ย” คุณหญิงปริศนาเอ่ยบอก เธอไม่ปิดบังเลยแม้แต่น้อยด้วยว่าทุกคนก็สนิทคุ้นเคยกัน

    “ถึงจะยังไม่เคยเจอหมอฟ้าแต่ถ้าพี่ปัญจ์มั่นใจว่าคนนี้แหละที่เขาจะเอามาเป็นสะใภ้ป้าปริม ทรายจะช่วยเอง...ขอเวลาทรายคิดสักแป๊บค่ะ” พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกก่อนจะมองไปที่แพรวารินทร์และพงศ์พยัคฆ์ เพียงไม่นานพิมพ์พิชชาดีดนิ้วด้วยใบหน้ายินดี

    “คิดออกแล้วมันต้องใช้แผนนี้”

    “แผนอะไรของแกทราย อย่าเล่นพิเรนทร์นะ” แพรวารินทร์เอ่ยถามอย่างไม่ไว้ใจ

    “แผนนี้มีชื่อว่า แผนปลอบใจให้รู้ว่ารัก” พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกก่อนจะอธิบายเมื่อทุกคนมองเธอเป็นตาเดียว

    “มีคนบอกว่าความรักเริ่มจากความเห็นใจกันถ้ามีผู้หญิงคนนึงรักผู้ชายคนนึงมากแต่ต้องอกหักเพราะเขา พอมีผู้ชายอีกคนมาปลอบเธอคนนั้นก็จะรู้สึกดีกับเขาคนนั้นไงล่ะ ทีนี่จะจีบจะอะไรก็ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก” 

    “มันไม่เห็นเกี่ยวกับคุณหมอคนนั้นกับพี่ปัญจ์เลยนะเพราะคุณหมอคนนั้นไม่ได้อกหัก  พี่ปัญจ์ก็ไม่ได้จะหาทางปลอบเธอได้ง่ายๆ” แพรวารินทร์เอ่ยแย้ง พิมพ์พิชชายิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยบอก 

    “ไม่มีก็สร้างขึ้นสิค่ะคุณเพื่อน ในเมื่อมีแกกับพี่เสืออยู่นี่ทั้งคน ป้าปริมคะโทรบอกพี่ปัญจ์ให้ชวนหมอคนนั้นไปทานข้าวที่บ้านเย็นนี้หรือไม่ก็เย็นพรุ่งนี้ พี่เสือกับแพรก็ต้องไปอยู่ตรงนั้นด้วย”

    “มันไม่ใจร้ายไปเหรอทราย” แพรวารินทร์เอ่ยถามเมื่อเข้าใจความหมายของเพื่อนก่อนจะหันไปมองพงศ์พยัคฆ์ที่ไม่พูดอะไรแต่เธอรู้ว่าชายหนุ่มเข้าใจแผนการของพิมพ์พิชชาเช่นกัน

    “เอาน๊าแกให้คุณหมอเจ็บแค่วันนี้ดีกว่างมงายรักพี่เสือแล้วเจ็บปวดตลอดไป” พิมพ์พิชชาเอ่ยบอก ใช่ว่าเธอใจดำแต่ถ้าปล่อยต่อไปคนที่เจ็บอาจเป็นเธอคนนั้นหรือถ้าไม่คนที่ต้องเสียใจอาจเป็นแพรวารินทร์และพงศ์พยัคฆ์ก็เป็นได้

    “ปิ่นว่าที่พี่ทรายพูดก็ถูกนะคะ” ปรียาภัทรเอ่ยบอกเพราะเธอมั่นใจว่า “เฮียปัญจ์” ของเธอจะทำให้เธอชอบได้ไม่ยากถ้าเธอคนนั้นตัดใจจากพงศ์พยัคฆ์ได้

    “เจ็บวันนี้ดีกว่าเจ็บในวันที่สายไปสินะ” คุณหญิงปริศนาพึมพำก่อนจะถอนใจ “อะ ลองแผนทรายดูสักครั้ง  เผื่อจะทำให้หนูฟ้าตัดใจจากเสือได้จริง ๆ สักท”

    “งั้นก็ตามนั้น อย่าเพิ่งบอกพี่ปัญจ์นะตะว่าพี่เสือกับยัยแพรไปด้วย” พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกก่อนที่คุณหญิงปริศนาจะโทรศัพท์หาปัญจวัตร แพรวารินทร์มองหน้าพ่อแม่สามีแต่ทั้งสองก็ไม่พูดอะไรได้แต่ยกไหล่อย่างช่วยไม่ได้ พอหันมามองพงศ์พยัคฆ์ที่พิมพ์พิชชากำลังกระซิบกระซ่ากอะไรบางอย่างอยู่ก็ได้แต่ถอนหายใจเมื่อหมอหนุ่มก็ดูจะให้ความร่วมมือกับแผนการของน้องสาวเป็นอย่างดีทั้งที่จริง ๆแล้วพงศ์พยัคฆ์จะไม่ยุ่งเรื่องของเพื่อนถ้าปัญจวัตรไม่ต้องการ         

    แผนกกุมารเวช

    “หมอรดา หมออ้าย  หมอธันวา  หมอฟ้าครับเย็นนี้ไปทานข้าวบ้านผมกันมั้ยครับวันนี้ม้าทำอาหารทะเลแบบครบเซต” ปัญจวัตรเอ่ยถามกุมารแพทย์ที่สนิทและเคยชวนไปทานอาหารที่บ้านบ่อย ๆ แต่จริง ๆแล้วหมอหนุ่มต้องการจะชวนฟ้ารดาตามคำสั่งของผู้เป็นแม่นั่นล่ะแต่ถ้าชวนเธอไปเธอคงไม่ไปแน่

    “จริงเหรอค่ะไปสิ ฟ้าไปด้วยกันสิถ้าเธอไม่มีนัดที่ไหน” หมอรดาหรืออารดาเพื่อนสนิทของฟ้ารดาเอ่ยรับคำชวนก่อนจะหันมาชวนฟ้ารดาพร้อมทำหน้าราวกับบังคับเพื่อนสนิทว่าปฏิเสธไม่ได้เด็ดขาด ฟ้ารดาได้แต่พยักหน้าก่อนจะทำงานต่อราวกับไม่ได้สนใจ ทั้งที่จริง ๆ แล้วก็ติดใจรสมือคุณหญิงปริศนาเข้าให้แล้ว

    “แล้วนี่ชวนแค่เราสี่คนหรือมีอีกครับ” หมอธันวาเอ่ยถามเพราะปกติปัญจวัตรจะชวนไปทานอาหารที่บ้านจะชวนหมอที่สนิททุกแผนกก็ว่าได้

    “มีอีกสามคนครับมีหมอรามแผนกศัลยกรรม หมอพลแผนกอายุรกรรม หมอพลอยแผนกสูติ-นารีเวช ครับ” 

    “ก็รวมเป็นเจ็ดสินะ จริงสิผมเห็นหมอปัญจ์สนิทกับหมอเสือมากแต่ไม่เคยเห็นหมอเสือไปทานข้าวบ้านหมอเลย” หมออ้ายหรืออติวิทย์เอ่ยถามเพราะตนไม่เคยได้ร่วมโต๊ะกับพงศ์พยัคฆ์ทั้งที่ปัญจวัตรสนิทกับพงศ์พยัคฆ์ที่สุด

    “นายเสือไม่ค่อยว่างนะครับอีกอย่างตอนนี้น้องสาวก็ใกล้จะผ่าตัดนายเสือคงไม่มีกะจิตกะใจมานั่งทานข้าวตามคำชวนของผมหรอกครับ” ปัญจวัตรเอ่ยบอกตามความจริงแต่สิ่งที่ชายหนุ่มเอ่ยสร้างความตกใจให้ผู้ฟังและรวมไปถึงฟ้ารดาที่นั่งทำงานอยู่

    “น้องสาวหมอเสือจะผ่าตัด มิน่าล่ะทั้งที่บางวันไม่มีเวรยังเข้ามาที่โรงพยาบาลว่าแต่น้องสาวหมอเสือเนี่ยอยู่ห้องไหนอ่ะ ใช่ห้องวีไอพีที่คุณแดนสรวงสั่งให้เปิดรับคนไข้รึเปล่า” อารดาเอ่ยถามหลังจากมีข่าวลือว่าผู้บริหารหนุ่มของโรงพยาบาลส่งเปิดห้องวีไอพีด้วยตัวเอง

    “ผมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวผมไม่ชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวของเพื่อนรักถ้าเขาไม่ต้องการ  ผมขอไม่ตอบแล้วกันครับ” ปัญจวัตรเอ่ยบอกแม้ตนกับพงศ์พยัคฆ์เป็นเพื่อนรักที่แทบจะตายแทนกันได้แต่ทั้งสองก็เลือกจะไม่ยุ่งเรื่องของอีกฝ่ายถ้าอีกฝ่ายไม่ต้องการเหมือนเรื่องของแพรวารินทร์แม้จะไม่พอใจแต่ปัญจวัตรก็ไม่ยุ่ง โดยหารู้ไม่ว่าตอนนี้พงศ์พยัคฆ์ยุ่งเรื่องของเขาอย่างไม่ลังเล

    “เอ่องั้นก็ได้ค่ะ ไม่เล่าก็ไม่เล่าเจอกันตอนเย็นแล้วกัน” อารดาเอ่ยบอกก่อนจะขอตัวไปทำงาน เมื่ออารดาขอตัวออกไปที่เหลืออยู่ก็สลายตัวกันไปหมดรวมถึงฟ้ารดาด้วย

    บ้านเกตทิวรากุล

    “สวัสดีค่ะ/ครับ คุณน้า” เสียงทักทายของเพื่อนบุตรชายดังขึ้นทันทีที่ลงจากรถ คุณหญิงปริศนารับไหว้หมอที่คุ้นหน้าก่อนจะหันมองฟ้ารดาถือว่าโชคเข้าข้างที่กุมารแพทย์สาวมาทานข้าวที่นี่แม้จะสงสารไม่น้อยกับสิ่งที่ฟ้ารดาต้องเจอ แต่ก็เพื่อตัวหญิงสาวเองคุณหญิงปริศนาจึงได้แต่แอบขอโทษหญิงสาวอยู่ในใจ

    “เข้ามารอข้างในกันก่อนสิจ๊ะ ยัยปิ่นยังไม่มาเลย” 

    “น้องปิ่นไปไหนต่อครับ อย่าบอกนะว่าไปไหนกับไอ้บอสดี้นั่นอีกน่ะ” ปัญจวัตรเอ่ยถาม รู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาทันทีเมื่อคิดว่าน้องสาวกับเจ้านายนั่นไปไหนกันต่อ 

    “น้องอยู่คุยกับหนูแพรกับลูกเสือต่อเลยเพลินจนป่านนี้ยังไม่กลับแต่โทรมาว่าจะกลับแล้วอีก15นาทีนี่ล่ะ”

    “หึใช่สินะ ผมมันมีค่าน้อยกว่าไอ้เสือในสายตาน้องปิ่นนิ เข้าบ้านกันเถอะครับทุกคนยัยน้องปิ่นคงติดลมกับหมอเสืออยู่” ปัญจวัตรทำทีแย่งอนไม่จริงจังเมื่อรู้ว่ายัยน้องสาวจอมจุ้นไม่ได้ไปกับคนที่ตนคิดก่อนจะชวนบรรดาแขกเข้าบ้าน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×