ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    It's Mine ของใคร ของมัน!! [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #7 : UNIT5

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ค. 55





     
     
     

     







     

     

    UNIT5






    
    In Tro Part..
      “ หรอ..งั้นกูขอนะ ครั้งนี้กูจริงจัง กูจะเอาพี่เฟลอร์มาเป็นของกูให้ได้ ”

     






     

    Espresso Talk >>>

     

     

     




    “ ทำไม อยากเป็นเมียมันมากเลยใช่มั๊ย ” ผมถามคนที่นั่งข้างๆผม ที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดตั้งแต่ขึ้นรถมากับผม

     





    “ ... ” ไม่ตอบผมอีก นี้เป็นบ้าอะไรของเค้าอีก

     






    “ ไม่ตอบแสดงว่าอยาก... ”

     






    “ ใช่อยากมากกกกก ” น้ำเสียงนี่แบบเน้นมาก ได้ยินแล้วมันจิ๊ดด..ครับ

     

     

     







    เอี้ยดดด...

     

     

     

     

     

     

     

     

     






                    ผมหยุดรถทันที รู้สึกโมโหคนข้างๆสุดๆเลย กล้าพูดมาได้ ทำอะไรไม่ดูสถานะตัวเอง


    บ้างเลย มีคู่หมั้นอยู่แล้วแท้ๆ

     

     

     

     


     

     





    “ อยากตายรึไง อยู่ๆก็หยุดรถ ” ซัมหันมาดุใส่ผมโดยไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง





    “ ใครกันแน่ อยากมากใช่มั๊ยกูจะจัดให้!! ” ผมดึงร่างบางๆเข้ามาแล้วประกบจูบอย่างรุนแรง

    ริมฝีปากบางเม้นเข้าหากันทันที หึ นี่ถ้าเป็นไอ้หน้าปลวก มึงคงยอมใช่มั๊ยซัม แค่คิดผมก็ยิ่ง

    โมโห ผมเอื้อมมือไปกดที่ท้ายทอยของฝ่ายตรงข้าม แล้วบดเบียดริมฝีปากไปมาจนอีกฝ่ายต้อง

    เผยริมฝีปากออก ลิ้นหนาของผมทำหน้าที่อย่างชำนาญ มันลุกล้ำเข้าไปหาความหวานที่ละมุม

    ไปด้วยเหล้าชั้นดี ลิ้นของผมไล้เลียไปตามฟันแต่ละซีก และไม่ลืมที่จะปลุกเล้าลิ้นบางที่ถอย

    หนีอย่างหวาดกลัวอย่างจนมุม มือเล็กๆเริ่มทุบเข้าที่อกแกร่งเข้าผมเป็นการประท้วง ผมผละจูบ

    อันเร่าร้อนอย่างเสียดาย






    “ อยากไม่ใช่หรอ ” ผมถามซัมหน้าตาย ตอนนี้ซัมหอบน้อยๆ แล้วหน้าก็แดงไปหมด

    ที่หางตาเหมือนจะมีหยาดน้ำใสๆติดอยู่







    เพี้ย!!







    ฝ่ามือนุ่มๆกระทบที่ใบหน้าผมอย่างแรง







    “ เลว!! ” คำด่าที่ถูกส่งมาหลังการกระทำเมื่อครู่





    “ หึ ที่พูดน่ะ คู่หมั้นมึงนะ ” ผมจับเข้าที่ข้อมือบาง ความอดทนของผมก็เริ่มจะหมดเหมือนกัน

    ทุกครั้งที่เราเจอกัน เป็นอันต้องทะเลาะ แต่ครั้งนี้รู้สึกจะแรงกว่าครั้งอื่น





    “ ก็เป็นได้แค่นั้นแหละ ” ซัมตอบกลับมา มันทำให้ผมรู้สึกพ่ายแพ้ แต่ไม่มีทางผมไม่มีวันแพ้!!




    “ อย่างน้อยกูก็ไม่ไปมั่วกับใครอย่างมึง ” ผมโต้กลับไป แล้วเพิ่มแรงบีบที่ข้อมือ เหมือนกลัวว่าคนตรงหน้า




    จะชิ่งหนีไปเสียก่อน






    “ ใช่สิ กูไม่เหมือนมึงที่มีแต่ อีลูกพีช คนเดียวนิ่ อย่านึกว่ากูไม่รู้นะ ” ลูกพีช! นี่ซัมรู้เรื่องพีชได้ยังไง






    “ มึง..รู้ได้ไง ” ผมถามกลับอย่างอึ้งๆ






    “ กูรู้หมดแหละ ไม่ว่ามึงจะทำอะไร อยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ และที่สำคัญมีเมียชื่ออะไร ” ผมนิ่ง ไม่เคยรู้มาก่อนว่าซัมจะรู้





    เรื่องส่วนตัวที่ไม่ใครรู้นอกจากไอ้เฟอร์แล้วก็ไอ้ปริง





    “ ไอ้ปริงบอกมึงใช่มั๊ย ” ผมออกแรงบีบข้อมือเล็กอีกครั้ง





    “ ป่าว? กูไม่จำเป็นต้องพึ่งใคร ไม่เหมือนมึง ที่พยายามให้คนรอบข้างช่วยกันปกปิดเรื่องของเรา ”

    ทำไมผมถึงได้รู้สึกชาไปหมดก็ไม่รู้ ทั้งที่ไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษกับซัม แต่ทำไมพอซัมรู้เรื่องของพีชแล้ว

    มันทำให้ผมรู้สึกผิด ใช่ครับ
    ผมไม่ได้บอกลูกพีชเรื่องที่ผมเป็นคู่หมั้นกับซัม เพราะว่าพีชรักผมมาก

    ผมเลยไม่อยากทำให้เขาเสียใจ





    “ กู..กูไม่ได้ตั้งใจ ” ผมพยายามจะอธิบาย แต่ลึกๆแล้วผมหาคำอธิบายไม่ได้เลย มันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด





    “ พอเถอะ กูชินแล้ว ” ซัมพูดพร้อมกับน้ำใสๆที่ไหลออกมาอย่างพรั่งพรู นี่ผมทำซัมร้องไห้หรอ



    ผมเพิ่งจะเคยเห็นน้ำตาของคนๆนี้ คนที่ผมไม่เคยแม้แต่จะแคร์ ที่ทำไปทั้งหมดเพราะหน้าที่ของคำว่าคู่หมั้น





    “ ซัม.. ”





    “ กูจะไปบอกพ่อให้ยกเลิกสัญญาบ้าๆนี้ทิ้งซะ ” ซัมพูดออกมาพร้อมกับสะบัดแขนออก

    จากมือผม แล้วเดินลงจากรถไป





    “ ซัม เดี๋ยวซิ รอกูก่อน ” ผมวิ่งตามไปในทันที ทำไมผมรู้สึกผิดเหลือเกิน ทำไมกันนะ

     




    “ ... ”

     

     

     

     

     



                        ซัมยังตั้งหน้าตั้งตาวิ่งต่อไปอย่างไร้จุดหมาย ผมรู้...เค้าแค่ต้องการจะไปจากผม

    แต่ผมไม่มีวันที่จะให้ซัมหนีผมไปง่ายๆหรอก ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม รู้แต่ว่า
    ซัมเป็นของผม

     





    “ รอกูด้วย นี่มึงจะไปไหนเนี่ย ” ผมวิ่งตามไปจนทัน แล้วฉุดข้อมือบางเอาไว้ได้





    “ ปล่อยกู เลิกยุ่งกับกูซักทีเถอะ ” ซัมพยายามจะแกะมือผมออก




    “ ไม่ปล่อย กูไม่มีวันปล่อยมึง กู.. ” ผมจะพูด แต่เสียงมันไม่ยอมออกมา เหมือนมันติดอยู่ที่อก ใจผมกำลังระเบิด





    “ มึงจะรั้งกูไว้ทำไม ในเมื่อมึงก็มีมันอยู่แล้ว ” นั่นสิ ในเมื่อผมก็มีลูกพีช ค น รั ก ข อ ง ผ ม อยู่แล้ว





    “ แต่ว่ามึง..เป็นคู่หมั้นกูนะ ” ผมอ้างสถานะนี้ออกไปอีกครั้ง ตอนแรกผมเกลียดคำนี้มาก แต่พอนานๆไปมันก็ชิน




    แล้วก็เริ่มรู้สึกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ส่วนหนึ่งในชีวิตหรอ?





    “ ก็กูจะไปยกเลิกสัญญาอยู่นี่ไง กูทรมานมากเวลาอยู่กับมึง มึงรู้มั๊ยว่ากูจะต้องเหนื่อยกับการหนีมึงมากแค่ไหน



    กูจะต้องคอยตีสองหน้าว่ารักมึงเวลาอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ยังไง กูเกลียดมึง ” สิ้นสุดประโยคเรี่ยวแรงของผมก็หายไปหมด



    ร่างบางที่ผมพยายามรั้งเอาไว้ บัดนี้เดินหายไปจากสายตาของผมแล้ว..





    “ กูขอโทษ ที่กูเป็นได้แค่คู่หมั้นมึง ซัมเมอร์ ” แค่คำพูดที่ได้ยินเพียงคนเดียว ทำไมผมรู้สึกผิดกับซัมแบบนี้





    ทั้งๆที่ควรจะเป็นพีชคนที่ผมแคร์มากกว่า

     

     

     

     

     




    Forsythia Talk >>>

     

     




     

     

     

                     ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากผับ ตอนนี้ผมไร้จุดหมายมาก ผู้คนจากที่เดินสวนทางกันไปมากมาย






    ตอนนี้เริ่มน้อยลง ตอนนี้ดึกมากแล้ว อากาศก็เริ่มเย็นลง

     



     





    ตุบ!!





    มีบางอย่างชนเข้ากับผมอย่างเต็มแรง







    “ โอ๊ย! / เจ็บ! ” ผมและคนที่วิ่งมาชน ล้มลงไปกระแทกพื้น ทั้งคู่





    “ ... ” เราสองคนเงยหน้า สบตากัน






    “ ซัม../ ฟอร์!! ” ไม่ใช่ใครที่ไหน เพื่อนรักของผมเอง ซัมเมอร์ แต่ที่ต่างไป คือใบหน้าของมันนองไปด้วยน้ำตา





    “ มึง.. ร้องไห้ไมวะ ใคร? ” ผมถามมันสั้นๆ ผมไม่เคยเห็นมันร้องไห้มานานแล้ว มันเป็นคนที่เข้มแข็งที่สุดในกลุ่ม



    เป็นคนที่กล้าเผชิญหน้ากับทุกสิ่ง แต่ในวันนี้ผู้นำของผม กลับร้องไห้





    “ ไม่มีอะไร ” ซัมตอบผมกลับอย่างปิดบัง มีเรื่องอะไรที่ผมยังไม่รู้รึป่าว





    “ ไม่มี แล้วมึงร้องไห้ทำไม ” ผมพยายามคาดกคั้นมัน





    “ มึงนั่นแหละ ตาบวมขนาดนี้ นึกว่ากูดูไม่ออกหรอ ” มันกลับมาหาเรื่องผมแทน

    ซึ่งผมไม่เคยปิดอาการของตัวเองกับซัมได้เลย






    “ ไม่รู้สิ กูแค่เหนื่อย.. ” ผมตอบไปอย่างที่รู้สึกในตอนนี้






    “ อืม กูก็เหนื่อย.. ” มันพูดแล้วดึงผมเข้าไปกอด..






    “ อึก..ฮือ..กูเกลียด..กูเกลียดมัน.. ” คำพูดปนเสียงสะอื้น กำลังพร่ำพรู ออกมาจากคนใน

    อ้อมกอดผม 






    “ ... ” ผมเลือกที่จะเงียบฟังมัน ผมคิดว่าปัญหาของมันน่าจะใหญ่กว่าที่ผมเพิ่งเผชิญอีก





    “ มัน..อึก..มันไม่เคย..รักกูเลย.. ” นี่มึงกำลังพูดถึงใคร..อย่าบอกนะว่า มึงก็เห็นตอนนี้ไอ้แตม

    กับไอ้เชี่ยเฟลอร์






    บอกรักกันน่ะ






    “ คือ..กู.. ” ผมพยายามจะปลอบใจมัน






    “ มัน..รักอีนั่น..แต่ทำไม..อึก..ยังรั้งกูไว้ ” ซัมยังพร่ำและร้องไห้ไม่หยุด นี่มึงถึงกับเรียกไอ้แตมว่าอีกนั่นเลยหรอวะ






    “ ซัม..มึงใจเย็น.. ” ผมพูดเสียงสั่น ผมเข้าใจถึงความรู้สึกของซัม ถึงแม่มันจะไม่ชัดเจนแต่ผมก็

    เสียใจ ผมกอดซัมแน่นขึ้น น้ำใสๆเริ่มไหลออกจากดวงตาของผมอีกครั้ง






    “ ฟอร์..กูรักมึงนะ มึงคือเพื่อนที่ดีของกูเสมอ ” มันปาดน้ำตา แล้วพูดประโยคที่ทำให้ผมสะอึก

    ทำไมนะผมรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เหมือนผมกำลังทำอะไรผิดไป






    “ กูก็รักมึง ” ผมตอบมันกลับด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น กูรักมึง แล้วก็รักไอ้แตมด้วย

    กูไม่รู้จะเลือกอยู่ข้างใครดี หรือบางครั้งกูควรจะรักตัวเองด้วย..





    “ กูมีอะไรจะถามมึง ” มันผละออกจากผม  





    “ มีอะไร ” ผมรู้สึกกลัวที่จะตอบคำถามมันเหลือเกิน






    “ มึงได้คิดอะไรมากกว่าพี่น้องกับเฟลอร์ป่าววะ ” มาแล้วสินะ ผมคงต้องตัดสินใจแล้ว

    เหมือนอากาศบริเวณนั้นหมดไป ผมรู้สึกหายใจไม่ออกกับคำถามที่ได้ยิน







    “ ป่าว..กู..ไม่ได้คิด! เป็น(ได้)แค่พี่น้องกัน ” ผมตอบกลับไป ตอนนี้ผมสับสนเหลือเกิน






    “ หรอ..งั้นกูขอนะ ครั้งนี้กูจริงจัง กูจะเอาพี่เฟลอร์มาเป็นของกูให้ได้ ” ซัมจริงจัง จริงๆครับ

     สายตาของมันแข็งกร้าวและมั่นคง แต่ไร้ความอ่อนโยนเหมือนทุกครั้ง ผมรู้ได้ทันทีว่า

    ซัมเมอร์เพื่อนรักของผมเปลี่ยนไป แต่ผมว่าอาจจะไม่ใช่แค่ซัม เพราะไม่แน่ผม และไอ้แตม

    ก็อาจเปลี่ยนไป..




    “ กูไม่ได้คิด แต่ไอ้แตมอ่ะ มันชอบพี่กูเหมือนกันนะ ” ผมเอ่ยถึงบุคคลที่สาม ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ฉายขึ้นอีกครั้ง




    มันเจ็บปวดแบบไร้สาเหตุ






    “ เรื่องนั้นเดี๋ยวกูจะคุยกับมันเอง เรากลับกันเถอะ ” ซัมตอบปัดผม แล้วหันไปเรียกแท็กซี่แทน

    ความรู้สึกผมบอกว่า มันคงคุยกันแค่สองคนไม่ได้แน่ๆ ผมต้องโดนดึงเข้าไปเกี่ยวพันในเรื่อง

    ของมันสองคนแน่นอน





    “ กูว่า..เราไปนอนบ้านมึงกันดีกว่า ไม่ได้ไปนานแระ ” ผมไม่อยากจะกลับไปเจอไอ้แตมตอนนี้





    “ เออ..กูก็ไม่ได้กลับบ้านมานานแล้วเหมือนกัน ” สิ้นการสนทนาของเรา ผมรู้สึกโล่งใจที่มันจบ

    ลงซักที ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่การเริ่มต้นก็ตาม..

     

     







    Bonus Round >>>






    (ฮัลโหล)




    “ เสียงดูเศร้าๆจัง ใครทำไรน้องชายของพี่เนี่ย ”





    (ก็เพื่อนคนโปรดของพี่ไงฮะ)





    “ ใครอ่ะ พี่มีเพื่อนตั้งเยอะ ว่าแต่ตอนนี้เราอยู่ไหน เหมือนอยู่ในรถ ”




    (อ่อ..พอดีมีปัญหานิดหน่อย กำลังจะกลับบ้าน)




     “ บังเอิญจัง ตอนนี้พี่อยู่ที่บ้านแล้วนะ ”




    (จริงหรอครับ ซักพักซัมก็จะถึงแล้ว)




     “ อ่าครับ งั้นเราค่อยคุยกันที่บ้านแล้วกัน ดูแลตัวเองด้วย พี่เป็นห่วง ”




    (ครับ ซัมจะดูแลตัวเอง..)

     

     

     

     

     

     



     

     

     

     






    Writer Talk  >>>

     

     


    จบไปอีกหนึ่งตอน ตอนนี้ พี่เอสกับซัมเมอร์ครองไป

     

     

     

     


    ตอนหน้าอาจเปิดตัว ตัวละครสำคัญอีกคน

     

     


    ยังไงก็ติดตามกันด้วยนะคะ เพราะเหตุการณ์เหล่านี้


    เป็นแค่จุดเริ่มต้นของเรื่องราวเท่านั้นนะคะ


    โปรดติดตามตอนต่อไป >>>


    ปล.อย่าลืมเม้นให้กำลังใจไรเตอร์นะคะ ขอบคุณค่ะ

    (ช่วงนี้ไรเตอร์สอบ อาจจะอัพส์ช้านิดนึงนะคะ ขอโทษไว้นะที่นี้ด้วย)

     

     

     

     
     
     
     
     
    --------------------------------- ---------------------------
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×