คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : UNIT5
UNIT5
In Tro Part.. “ หรอ..งั้นกูขอนะ ครั้งนี้กูจริงจัง กูจะเอาพี่เฟลอร์มาเป็นของกูให้ได้ ”
Espresso Talk >>>
“ ทำไม อยากเป็นเมียมันมากเลยใช่มั๊ย ” ผมถามคนที่นั่งข้างๆผม ที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดตั้งแต่ขึ้นรถมากับผม
“ ... ” ไม่ตอบผมอีก นี้เป็นบ้าอะไรของเค้าอีก
“ ไม่ตอบแสดงว่าอยาก... ”
“ ใช่อยากมากกกกก ” น้ำเสียงนี่แบบเน้นมาก ได้ยินแล้วมันจิ๊ดด..ครับ
เอี้ยดดด...
ผมหยุดรถทันที รู้สึกโมโหคนข้างๆสุดๆเลย กล้าพูดมาได้ ทำอะไรไม่ดูสถานะตัวเอง
บ้างเลย มีคู่หมั้นอยู่แล้วแท้ๆ
“ อยากตายรึไง อยู่ๆก็หยุดรถ ” ซัมหันมาดุใส่ผมโดยไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง
“ ใครกันแน่ อยากมากใช่มั๊ยกูจะจัดให้!! ” ผมดึงร่างบางๆเข้ามาแล้วประกบจูบอย่างรุนแรง
ริมฝีปากบางเม้นเข้าหากันทันที หึ นี่ถ้าเป็นไอ้หน้าปลวก มึงคงยอมใช่มั๊ยซัม แค่คิดผมก็ยิ่ง
โมโห ผมเอื้อมมือไปกดที่ท้ายทอยของฝ่ายตรงข้าม แล้วบดเบียดริมฝีปากไปมาจนอีกฝ่ายต้อง
เผยริมฝีปากออก ลิ้นหนาของผมทำหน้าที่อย่างชำนาญ มันลุกล้ำเข้าไปหาความหวานที่ละมุม
ไปด้วยเหล้าชั้นดี ลิ้นของผมไล้เลียไปตามฟันแต่ละซีก และไม่ลืมที่จะปลุกเล้าลิ้นบางที่ถอย
หนีอย่างหวาดกลัวอย่างจนมุม มือเล็กๆเริ่มทุบเข้าที่อกแกร่งเข้าผมเป็นการประท้วง ผมผละจูบ
อันเร่าร้อนอย่างเสียดาย
“ อยากไม่ใช่หรอ ” ผมถามซัมหน้าตาย ตอนนี้ซัมหอบน้อยๆ แล้วหน้าก็แดงไปหมด
ที่หางตาเหมือนจะมีหยาดน้ำใสๆติดอยู่
เพี้ย!!
ฝ่ามือนุ่มๆกระทบที่ใบหน้าผมอย่างแรง
“ เลว!! ” คำด่าที่ถูกส่งมาหลังการกระทำเมื่อครู่
“ หึ ที่พูดน่ะ คู่หมั้นมึงนะ ” ผมจับเข้าที่ข้อมือบาง ความอดทนของผมก็เริ่มจะหมดเหมือนกัน
ทุกครั้งที่เราเจอกัน เป็นอันต้องทะเลาะ แต่ครั้งนี้รู้สึกจะแรงกว่าครั้งอื่น
“ ก็เป็นได้แค่นั้นแหละ ” ซัมตอบกลับมา มันทำให้ผมรู้สึกพ่ายแพ้ แต่ไม่มีทางผมไม่มีวันแพ้!!
“ อย่างน้อยกูก็ไม่ไปมั่วกับใครอย่างมึง ” ผมโต้กลับไป แล้วเพิ่มแรงบีบที่ข้อมือ เหมือนกลัวว่าคนตรงหน้า
จะชิ่งหนีไปเสียก่อน
“ ใช่สิ กูไม่เหมือนมึงที่มีแต่ อีลูกพีช คนเดียวนิ่ อย่านึกว่ากูไม่รู้นะ ” ลูกพีช! นี่ซัมรู้เรื่องพีชได้ยังไง
“ มึง..รู้ได้ไง ” ผมถามกลับอย่างอึ้งๆ
“ กูรู้หมดแหละ ไม่ว่ามึงจะทำอะไร อยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ และที่สำคัญมีเมียชื่ออะไร ” ผมนิ่ง ไม่เคยรู้มาก่อนว่าซัมจะรู้
เรื่องส่วนตัวที่ไม่ใครรู้นอกจากไอ้เฟอร์แล้วก็ไอ้ปริง
“ ไอ้ปริงบอกมึงใช่มั๊ย ” ผมออกแรงบีบข้อมือเล็กอีกครั้ง
“ ป่าว? กูไม่จำเป็นต้องพึ่งใคร ไม่เหมือนมึง ที่พยายามให้คนรอบข้างช่วยกันปกปิดเรื่องของเรา ”
ทำไมผมถึงได้รู้สึกชาไปหมดก็ไม่รู้ ทั้งที่ไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษกับซัม แต่ทำไมพอซัมรู้เรื่องของพีชแล้ว
มันทำให้ผมรู้สึกผิด ใช่ครับ! ผมไม่ได้บอกลูกพีชเรื่องที่ผมเป็นคู่หมั้นกับซัม เพราะว่าพีชรักผมมาก
ผมเลยไม่อยากทำให้เขาเสียใจ
“ กู..กูไม่ได้ตั้งใจ ” ผมพยายามจะอธิบาย แต่ลึกๆแล้วผมหาคำอธิบายไม่ได้เลย มันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด
“ พอเถอะ กูชินแล้ว ” ซัมพูดพร้อมกับน้ำใสๆที่ไหลออกมาอย่างพรั่งพรู นี่ผมทำซัมร้องไห้หรอ
ผมเพิ่งจะเคยเห็นน้ำตาของคนๆนี้ คนที่ผมไม่เคยแม้แต่จะแคร์ ที่ทำไปทั้งหมดเพราะหน้าที่ของคำว่าคู่หมั้น
“ ซัม.. ”
“ กูจะไปบอกพ่อให้ยกเลิกสัญญาบ้าๆนี้ทิ้งซะ ” ซัมพูดออกมาพร้อมกับสะบัดแขนออก
จากมือผม แล้วเดินลงจากรถไป
“ ซัม เดี๋ยวซิ รอกูก่อน ” ผมวิ่งตามไปในทันที ทำไมผมรู้สึกผิดเหลือเกิน ทำไมกันนะ
“ ... ”
ซัมยังตั้งหน้าตั้งตาวิ่งต่อไปอย่างไร้จุดหมาย ผมรู้...เค้าแค่ต้องการจะไปจากผม
แต่ผมไม่มีวันที่จะให้ซัมหนีผมไปง่ายๆหรอก ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม รู้แต่ว่าซัมเป็นของผม
“ รอกูด้วย นี่มึงจะไปไหนเนี่ย ” ผมวิ่งตามไปจนทัน แล้วฉุดข้อมือบางเอาไว้ได้
“ ปล่อยกู เลิกยุ่งกับกูซักทีเถอะ ” ซัมพยายามจะแกะมือผมออก
“ ไม่ปล่อย กูไม่มีวันปล่อยมึง กู.. ” ผมจะพูด แต่เสียงมันไม่ยอมออกมา เหมือนมันติดอยู่ที่อก ใจผมกำลังระเบิด
“ มึงจะรั้งกูไว้ทำไม ในเมื่อมึงก็มีมันอยู่แล้ว ” นั่นสิ ในเมื่อผมก็มีลูกพีช ค น รั ก ข อ ง ผ ม อยู่แล้ว
“ แต่ว่ามึง..เป็นคู่หมั้นกูนะ ” ผมอ้างสถานะนี้ออกไปอีกครั้ง ตอนแรกผมเกลียดคำนี้มาก แต่พอนานๆไปมันก็ชิน
แล้วก็เริ่มรู้สึกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ส่วนหนึ่งในชีวิตหรอ?
“ ก็กูจะไปยกเลิกสัญญาอยู่นี่ไง กูทรมานมากเวลาอยู่กับมึง มึงรู้มั๊ยว่ากูจะต้องเหนื่อยกับการหนีมึงมากแค่ไหน
กูจะต้องคอยตีสองหน้าว่ารักมึงเวลาอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ยังไง กูเกลียดมึง ” สิ้นสุดประโยคเรี่ยวแรงของผมก็หายไปหมด
ร่างบางที่ผมพยายามรั้งเอาไว้ บัดนี้เดินหายไปจากสายตาของผมแล้ว..
“ กูขอโทษ ที่กูเป็นได้แค่คู่หมั้นมึง ซัมเมอร์ ” แค่คำพูดที่ได้ยินเพียงคนเดียว ทำไมผมรู้สึกผิดกับซัมแบบนี้
ทั้งๆที่ควรจะเป็นพีชคนที่ผมแคร์มากกว่า
Forsythia Talk >>>
ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากผับ ตอนนี้ผมไร้จุดหมายมาก ผู้คนจากที่เดินสวนทางกันไปมากมาย
ตอนนี้เริ่มน้อยลง ตอนนี้ดึกมากแล้ว อากาศก็เริ่มเย็นลง
ตุบ!!
มีบางอย่างชนเข้ากับผมอย่างเต็มแรง
“ โอ๊ย! / เจ็บ! ” ผมและคนที่วิ่งมาชน ล้มลงไปกระแทกพื้น ทั้งคู่
“ ... ” เราสองคนเงยหน้า สบตากัน
“ ซัม../ ฟอร์!! ” ไม่ใช่ใครที่ไหน เพื่อนรักของผมเอง ซัมเมอร์ แต่ที่ต่างไป คือใบหน้าของมันนองไปด้วยน้ำตา
“ มึง.. ร้องไห้ไมวะ ใคร? ” ผมถามมันสั้นๆ ผมไม่เคยเห็นมันร้องไห้มานานแล้ว มันเป็นคนที่เข้มแข็งที่สุดในกลุ่ม
เป็นคนที่กล้าเผชิญหน้ากับทุกสิ่ง แต่ในวันนี้ผู้นำของผม กลับร้องไห้
“ ไม่มีอะไร ” ซัมตอบผมกลับอย่างปิดบัง มีเรื่องอะไรที่ผมยังไม่รู้รึป่าว
“ ไม่มี แล้วมึงร้องไห้ทำไม ” ผมพยายามคาดกคั้นมัน
“ มึงนั่นแหละ ตาบวมขนาดนี้ นึกว่ากูดูไม่ออกหรอ ” มันกลับมาหาเรื่องผมแทน
ซึ่งผมไม่เคยปิดอาการของตัวเองกับซัมได้เลย
“ ไม่รู้สิ กูแค่เหนื่อย.. ” ผมตอบไปอย่างที่รู้สึกในตอนนี้
“ อืม กูก็เหนื่อย.. ” มันพูดแล้วดึงผมเข้าไปกอด..
“ อึก..ฮือ..กูเกลียด..กูเกลียดมัน.. ” คำพูดปนเสียงสะอื้น กำลังพร่ำพรู ออกมาจากคนใน
อ้อมกอดผม
“ ... ” ผมเลือกที่จะเงียบฟังมัน ผมคิดว่าปัญหาของมันน่าจะใหญ่กว่าที่ผมเพิ่งเผชิญอีก
“ มัน..อึก..มันไม่เคย..รักกูเลย.. ” นี่มึงกำลังพูดถึงใคร..อย่าบอกนะว่า มึงก็เห็นตอนนี้ไอ้แตม
กับไอ้เชี่ยเฟลอร์
บอกรักกันน่ะ
“ คือ..กู.. ” ผมพยายามจะปลอบใจมัน
“ มัน..รักอีนั่น..แต่ทำไม..อึก..ยังรั้งกูไว้ ” ซัมยังพร่ำและร้องไห้ไม่หยุด นี่มึงถึงกับเรียกไอ้แตมว่าอีกนั่นเลยหรอวะ
“ ซัม..มึงใจเย็น.. ” ผมพูดเสียงสั่น ผมเข้าใจถึงความรู้สึกของซัม ถึงแม่มันจะไม่ชัดเจนแต่ผมก็
เสียใจ ผมกอดซัมแน่นขึ้น น้ำใสๆเริ่มไหลออกจากดวงตาของผมอีกครั้ง
“ ฟอร์..กูรักมึงนะ มึงคือเพื่อนที่ดีของกูเสมอ ” มันปาดน้ำตา แล้วพูดประโยคที่ทำให้ผมสะอึก
ทำไมนะผมรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เหมือนผมกำลังทำอะไรผิดไป
“ กูก็รักมึง ” ผมตอบมันกลับด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น กูรักมึง แล้วก็รักไอ้แตมด้วย
กูไม่รู้จะเลือกอยู่ข้างใครดี หรือบางครั้งกูควรจะรักตัวเองด้วย..
“ กูมีอะไรจะถามมึง ” มันผละออกจากผม
“ มีอะไร ” ผมรู้สึกกลัวที่จะตอบคำถามมันเหลือเกิน
“ มึงได้คิดอะไรมากกว่าพี่น้องกับเฟลอร์ป่าววะ ” มาแล้วสินะ ผมคงต้องตัดสินใจแล้ว
เหมือนอากาศบริเวณนั้นหมดไป ผมรู้สึกหายใจไม่ออกกับคำถามที่ได้ยิน
“ ป่าว..กู..ไม่ได้คิด! เป็น(ได้)แค่พี่น้องกัน ” ผมตอบกลับไป ตอนนี้ผมสับสนเหลือเกิน
“ หรอ..งั้นกูขอนะ ครั้งนี้กูจริงจัง กูจะเอาพี่เฟลอร์มาเป็นของกูให้ได้ ” ซัมจริงจัง จริงๆครับ
สายตาของมันแข็งกร้าวและมั่นคง แต่ไร้ความอ่อนโยนเหมือนทุกครั้ง ผมรู้ได้ทันทีว่า
ซัมเมอร์เพื่อนรักของผมเปลี่ยนไป แต่ผมว่าอาจจะไม่ใช่แค่ซัม เพราะไม่แน่ผม และไอ้แตม
ก็อาจเปลี่ยนไป..
“ กูไม่ได้คิด แต่ไอ้แตมอ่ะ มันชอบพี่กูเหมือนกันนะ ” ผมเอ่ยถึงบุคคลที่สาม ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ฉายขึ้นอีกครั้ง
มันเจ็บปวดแบบไร้สาเหตุ
“ เรื่องนั้นเดี๋ยวกูจะคุยกับมันเอง เรากลับกันเถอะ ” ซัมตอบปัดผม แล้วหันไปเรียกแท็กซี่แทน
ความรู้สึกผมบอกว่า มันคงคุยกันแค่สองคนไม่ได้แน่ๆ ผมต้องโดนดึงเข้าไปเกี่ยวพันในเรื่อง
ของมันสองคนแน่นอน
“ กูว่า..เราไปนอนบ้านมึงกันดีกว่า ไม่ได้ไปนานแระ ” ผมไม่อยากจะกลับไปเจอไอ้แตมตอนนี้
“ เออ..กูก็ไม่ได้กลับบ้านมานานแล้วเหมือนกัน ” สิ้นการสนทนาของเรา ผมรู้สึกโล่งใจที่มันจบ
ลงซักที ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่การเริ่มต้นก็ตาม..
Bonus Round >>>
(ฮัลโหล)
“ เสียงดูเศร้าๆจัง ใครทำไรน้องชายของพี่เนี่ย ”
(ก็เพื่อนคนโปรดของพี่ไงฮะ)
“ ใครอ่ะ พี่มีเพื่อนตั้งเยอะ ว่าแต่ตอนนี้เราอยู่ไหน เหมือนอยู่ในรถ ”
(อ่อ..พอดีมีปัญหานิดหน่อย กำลังจะกลับบ้าน)
“ บังเอิญจัง ตอนนี้พี่อยู่ที่บ้านแล้วนะ ”
(จริงหรอครับ ซักพักซัมก็จะถึงแล้ว)
“ อ่าครับ งั้นเราค่อยคุยกันที่บ้านแล้วกัน ดูแลตัวเองด้วย พี่เป็นห่วง ”
(ครับ ซัมจะดูแลตัวเอง..)
Writer Talk >>>
จบไปอีกหนึ่งตอน ตอนนี้ พี่เอสกับซัมเมอร์ครองไป
ตอนหน้าอาจเปิดตัว ตัวละครสำคัญอีกคน
ยังไงก็ติดตามกันด้วยนะคะ เพราะเหตุการณ์เหล่านี้
เป็นแค่จุดเริ่มต้นของเรื่องราวเท่านั้นนะคะ
โปรดติดตามตอนต่อไป >>>
ปล.อย่าลืมเม้นให้กำลังใจไรเตอร์นะคะ ขอบคุณค่ะ
(ช่วงนี้ไรเตอร์สอบ อาจจะอัพส์ช้านิดนึงนะคะ ขอโทษไว้นะที่นี้ด้วย)
ความคิดเห็น