ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    K&J Friends(?) Forever... ไม่อยากเป็นแค่เพื่อน (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #25 : K&J J&K [17] : Finally...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 344
      1
      19 ก.ค. 54






    “กูโทรหามึงแทบสายไหม้ คิดมากว่ามึงจะเป็นอะไรหรือเปล่า รีบมาหามึงถึงห้อง เคาะอยู่ตั้งนานมึงก็ไม่ออกมาเปิด กูลงมาถามป้าอร ป้าก็บอกกูว่า

     




    “ปอนมารับมึงไปกินข้าว” เคมองมาที่ผมด้วยสายตาตัดพ้อ ผมยืนเม้มปากแน่น






     

    มึงต้องการอะไรจากกูกันแน่วะ?






     

    “เจจะเอาอย่างไงกันแน่” เคถามผมเสียงเบา ทำไมถึงเป็นผมล่ะ คนที่ต้องตัดสินใจมันคือเคไม่ใช่ไง






     

    “มึงต่างหากจะเอาไง เคลียกับคนของมึงได้แล้วหรอไง” เป็นปอนที่เอ่ยถามแทนผม ปอนยื่นมือมาจับมือผมไว้แน่น ราวกับกลัวว่าผมจะหลุดมือไป






     

    “กู






     

    ผมเผลอบีบมือปอนแน่น รู้สึกกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ริมฝีปากแห้งผาก ผมตัดสินใจเอ่ยสิ่งที่ติดอยู่ในใจออกไปก่อนที่เคจะได้ตอบ ผมยอมรับว่ากลัวคำตอบของเค ผมยังไม่พร้อมที่จะฟัง






     

    “เคกูไม่อยากให้เชอรี่เสียใจ กูทำร้ายเพื่อนไม่ได้ว่ะ” หวังว่าเคมันคงเข้าใจในสิ่งที่ผมพูด ผมดึงปอนให้มาด้วยกัน เดินผ่านเคไปโดยที่ไม่มองหน้ามันแม้แต่น้อย






     

    กูขอโทษ






     

    เสียงกระซิบแผ่วเบาจากคนที่เดินผ่าน ทำให้ผมเม้มปากแน่น มึงขอโทษกูทำไม ขอโทษกูเรื่องอะไร






     

    “เจ” เราเดินมาหยุดค้างอยู่หน้าห้องแต่ผมกลับไม่มีแรงที่จะหยิบกุญแจออกมาเลยแม้แต่น้อย ปอนล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อที่จะหยิบกุญแจมาไขเข้าห้อง ทันทีที่เข้ามาในห้อง ผมก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงทันที






     

    รู้สึกถึงน้ำหนักที่ทิ้งตัวลงบนเตียงข้างๆ มือใหญ่ลูบหัวผมเบาๆราวกับปลอบใจ






     

    “เจเป็นปอนไม่ได้หรอ” คำถามที่ทำเอาผมชะงัก ผมลุกขึ้นมานั่งมองมัน ปอนยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้ผมเบาๆ ผมจับมือปอนให้แนบแก้มไว้ หลับตาลงรับสัมผัสอบอุ่นที่ได้มา แต่มันไม่เหมือนกับอีกคน






     

    “เจขอโทษ” ผมพูดก่อนจะลืมตามองคนที่ส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ผม ปอนดึงผมเข้าไปกอด ก่อนจะโยกตัวเบาๆเหมือนกับเวลาปลอบเด็กๆ






     

    “อืม ปอนรู้อยู่แล้วล่ะ ถึงได้ยอมถอย แต่พอปอนถอย เจกลับไล่ตามปอนมา ปอนเลยถอยไม่ได้” ผมปล่อยให้น้ำตาไหลไปเรื่อยๆ เสียใจที่ทำให้เพื่อนเจ็บ และตัวผมเองก็เจ็บเหมือนกัน






     

    “เจความจริงแล้ว เคมันเลือกเจนะ มันไปเคลียกับรี่แล้ว มันบอกปอนเอง ที่ผ่านมามันเลยไม่ได้อยู่กับรี่เลย มันอยู่กับเจตลอด ปอนรู้ว่าปอนไม่มีสิทธิ์แต่แรกแล้ว สิ่งที่ปอนทำได้ก็แค่ดูแลเจอยู่ข้างๆแค่นั้น ไม่ใช่คนที่จะยืนอยู่ข้างๆเจ”






     

    ผมกอดมันแน่นขึ้น เอาหน้าไปซุกกับอกมัน ยอมรับว่าดีใจนิดๆ แต่รี่ล่ะเป็นยังไง เหมือนปอนจะรู้ความคิดผม มันเอาคางวางไว้บนหัวผมก่อนจะพูดต่อ






     

    “รี่ก็สบายดี เจไม่เห็นหรอ ยังยิ้ม ยังหัวเราะ ยังทักมายเจกับเคเหมือนเดิม จริงๆแล้วรี่น่ะ เชียร์เจกับเคอยู่นะ”






     

    ผมเงยหน้ามามองมันอย่างงงๆ รี่เชียร์ผมกับเค??? ปอนมันหัวเราะกับสีหน้าของผมก่อน จะ
    ปล่อยผมเป็นอิสระ






     

    “จริงๆ รี่น่ะ ชอบแซวบ่อยๆ รู้ตั้งนานแล้วด้วยว่าปอนน่ะชอบเจ เห็นบอกว่าตัวเองเป็นสาววายอะไรของเขาไม่รู้ ฟังแล้วงงๆ พรุ่งนี้ไปคุยกับเคซะนะ วันนี้ดึกแล้วไปอาบน้ำนอนเถอะ”






     

    ปอนทำท่าจะลุกออกไป ผมจับชายเสื้อมันไว้แน่น ผมยังไม่อยากอยู่คนเดียว






     

    “ปอนมึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับกูนะ” ปอนมันส่งยิ้มบางๆมาให้






     

    “เออกูรู้ ไม่ต้องย้ำมาก ไปอาบน้ำได้ไปแล้วไป” มันพูดด้วยน้ำเสียงเล่น ก่อนจะดุผมในตอนท้าย ผมจึงรีบคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว






     

    หวังว่าพรุ่งนี้ เคมันจะยอมคุยกับผม ไม่ใช่พยายามหลบหน้านะ






     

    ผมออกมาจากห้องน้ำก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น บางทีอาจไม่ต้องรอถึงพรุ่งนี้ก็ได้






     

    ผมมองหาใครอีกคนที่คิดว่าควรอยู่ในห้องแต่กลับไม่มี จะไม่ว่ายังไงก็เจอแค่คนคนนี้ที่นั่งมองผมอยู่บนเตียง






     

    “ปอนมันกลับไปแล้วน่ะ” อ๋อ แล้วก็เลยให้มึงมาอยู่แทน แล้วกูจะทำตัวยังไงล่ะสาด!






     

    “อืม” ผมเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า ยังไม่ทันจะเปิดตู้ ก็รู้สึกถึงแรงกอดจากด้านหลัง






     

    “ขอโทษ” อีกแล้ว ขอโทษผมอีกแล้ว ขอโทษทำไม






     

    “เรื่องอะไร” เสียงผมถามแผ่วเบาราวกับกระซิบ แต่เพราะเราอยู่ใกล้กัน เคเลยได้ยินสิ่งที่ผมถาม






     

    “ขอโทษที่ทำให้เจเจ็บ”






     

    “อืม” เคกอดผมนแน่นขึ้น






     

    “เคคุยกับรี่แล้วรี่บอกว่า รู้ว่าเคชอบรี่ แต่ไม่ได้รักรี่เขาเข้าใจ ไอ้ปอนก็คุยแล้ว มันบอกเคว่า มันรู้แต่แรกแล้วว่ามันไม่ใช่ก็เหลือแต่เจเนี่ยแหละที่ไม่ได้คุยให้รู้เองซะที” ใจผมเต้นแรงขึ้นเพราะสัมผัสได้ถึงจังหวะหัวใจของคนข้างหลังที่เต้นแรงขึ้นเหมือนกัน






     

    “ที่ผ่านมามันอาจจะสับสนอยู่บ้าง ขอโทษนะที่รู้สึกตัวช้าไป ตอนแรกเคนึกว่าเจชอบไอ้ปอน ก็เลยว่าจะตัดใจแต่ปอนมันก็ด่าเคว่าโง่ นานอยู่ที่เดียวกว่าจะฉลาด นานจนเกือบจะสูญเสียคนสำคัญไป”






     

    “เจเครักเจนะ เคไม่อยากเป็นแค่เพื่อน อยากเป็นมากกว่านั้น อยากเป็นคนแรกที่เจคิดถึง อยากเป็นคนที่คอยดูแลเจ อยู่ข้างๆเวลาเจฝันร้ายได้มั้ย?”







     

    ผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าวขึ้นมา ผมก้มหน้าจนชิดอก ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น เคจับให้ผมหันไปหามัน ก่อนจะก้มลงกระซิบถามผมว่า






     

    “แล้วเจล่ะ รู้สึกยังไง” โอยยยยยยยยยยยย ถามกูหรอ!? แล้วกูจะไปยังไงละเว้ยยยยยยยย






     

    “หือ? ว่าไง เร็วๆดิ รอฟังอยู่” เรื่องแบบนี้เขาเร่งรัดกันด้วย?? รอต่อไปเลยแสด






     

    แม่งแกล้งกู!!!







               

                “เอ่อก็มึงเหมือนกันนั่นแหละ” ผมพูดงึมงำในคอ ไม่กล้าพูดเว้ย เข้าใจมั้ยว่ะเขินน่ะ!!






     

                “ก่อนจะพูดเงยหน้าขึ้นมาก่อนดีมั้ย ไม่เมื่อคอรึไง” พูดจบก็จับหน้าผมเงยให้สบตามัน แต่ผมก็หลบสายตาที่มันจ้องมา






     

                โอยยยยยยยย ผมจะตายกับสายตามันจริงๆครับ! หยุดมองกูแบบนั้นนนนนนนนนน!!






     

                “เร็วๆดิ” โว๊ะ!! ไอ้นี่ก็เร่งจังวุ้ย






     

                เอาวะ! สักครั้งเป็นไร!






     

                ผมกอดคนตรงหน้าแน่น ซุกหน้าที่อกมันและตะโกนใส่แก้เขิน (รู้สึกตัวเองฮาร์ดคอร์มากเลยครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ)






     

                “เออ! กูรักมึงได้ยินยัง เลิกถามได้แล้วสัด!” พอตะโกนจบก็ยิ่งซุกหน้าเลยครับ รู้สึกได้เลยว่าหน้าผมต้องแดงมากแน่ๆ ผมไม่รู้ว่าเคทำหน้ายังไง แต่เสียงหัวใจที่ได้ยินมันทำให้รู้ว่าเขาดีใจและมีความสุขมากแค่ไหน เช่นกันกับตัวผมที่รู้สึกสุขใจมากเช่นกัน






     

                แต่ไม่วายได้ยินเสียงบ่นเล็กๆจากคนตัวสูงว่า






     

                “น่าจะพูดให้มันหวานกว่านี้หน่อย”






     

                แรงกอดรัดเพิ่มมากขึ้น ผมรู้สึกอบอุ่นจนร้อนแต่ก็ยังไม่อยากปล่อย จนกระทั่งรู้สึกว่ามันร้อนจนทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ถึงได้ขืนตัวออกมา ไอ้นี่ก็อิดออดไม่ยอมจะปล่อย






     

                “ให้กูแต่งตัวก่อนได้มั้ย!? ไปอาบน้ำเลยมึงอะ!






     

                “เจจะแต่งทำไมอะ เดี๋ยวก็ต้องถอด”







               
    “ไอ้เชี่ย
    !!!!!!!!!






     

                ผมไม่ได้ถูกถอดเสื้ออย่างที่เคบอก ก็ลองดูสิครับ ผมได้สติแตกแน่ ถึงอาการจะดีขึ้นยังไง แต่สุดท้ายก็ยังกลัวอยู่ดี






     

                พวกเรานอนคุยกันบนเตียงไปเรื่อยเปื่อย สักพักเคก็หยิบมือถือโทรหาคนคนนึง






     

                “สวัสดีครับรี่ เคเองนะ” ผมชะงักไปวูบนึง เผลอกำมือแน่นอย่างไม่รู้ตัว ผมนอนฟังเงียบๆว่าเคมันจะบอกอะไรรี่






     

                “อืม ได้กันเรียบร้อยแล้ว”






     

                “พ่อมึงสิ!!!” มันบอกอะไรของมันเนี่ย!!! ผมหยิกเข้าที่แขนมันอย่างแรง จนเคร้องลั่น ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากปลายสาย






     

                “รี่เขาอยากคุยด้วย” ผมลังเลที่จะคุยยอมรับว่ากลัวและรู้สึกผิดต่อรี่อยู่ ทั้งๆที่ผมเป็นคนที่มาทีหลังแท้ๆ






     

                “ว่าไงครับรี่”







               
    (เป็นไงบ้างเจ ไม่ค่อยได้คุยกันเลยเนอะ เจสบายดีมั้ย)






     

                “อืมก็สบายดี แล้วรี่ล่ะ”






     

                (สบายแบบสุดๆ เจบอกสบายดี แต่น้ำเสียงเจไม่ดีเลยนะ)






     

                ผมกลั้นหายใจพักนึง ตัดสินใจจะเอ่ยขอโทษเพื่อนที่แสนดีคนนี้






     

                “รี่เจขอ






     

                (หยุดเลย!! เจไม่ได้ทำไรผิด ห้ามขอโทษนะ อย่ามาแย่งซีนนางเอกรี่สิ ถ้เจพูดขอโทษรี่โกรธจริงๆด้วย)






     

                ผมยิ้มบางๆให้กับความน่ารักของแม่นางเอกของผม






     

                “อืมงั้นก็ขอบคุณนะ”






     

                (สุดท้ายเจก็แย่งซีนนางเอกรี่จนได้! โหยยยยย เซ็งว่ะ หยุดไปเลยนะ หมั่นไส้อะ) ปลายสายทำเสียงไม่พอใจ แต่ผมก็รู้แหละครับว่าเธอแหย่เล่น







               
    “นางเอกบ้าไรอะรี่ เจเป็นผู้ชายนะ”






     

                (พอเลยเปลี่ยนประเด็น บอกเคว่า คืนนี้อย่าหนักนะ พรุ่งนี้ต้องไปเรียน)






     

                “รี่!!!” หน้าผมแดงขึ้นมาทันทีเลยครับ เคที่เอาหูแนบฟังก็ได้ยิน ไอ้นี่ก็ยิ้มกริ่มเลยครับ ท่า
    ทางมันคงแอบคิดอยู่แน่ๆ
    ! โอยยยยย ทำไมพวกนี้ชอบแกล้งผมจัง!






     

                (เสียดายจังพลาดช็อตเด็ดอะ ฝากเคถ่ายรูปมาให้ดูหน่อยสิ) ไอ้ตัวโตข้างๆตอบกลับไปว่า ไม่ให้ดูหรอก ของแบบนี้เก็บไว้ดูคนเดียว






     

                “ช่วยเปลี่ยนประเด็นได้ปะละ!!






     

                (ฮ่าๆๆๆๆ โอ๋ๆ ไม่แกล้งล่ะ ไปนอนเหอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า เจอกันที่โรงเรียน ฝันดีนะสองหนุ่ม)






     

                “อืม รี่ก็ฝันดีเช่นกันครับ” ผมยิ้มออกมาอย่างสบายใจ รู้สึกโล่งขึ้นมากเลยครับหลังจากที่ได้คุยกับรี่อีกครั้ง ถึงแม้เธอจะไม่รับคำขอโทษของผม แต่ผมก็ขอบอกเธอไว้ในใจล่ะกันว่า






     

     ขอโทษนะ







                 ผมหันไปมองเคที่ส่งยิ้มบางๆมาให้ก่อนจะลูบหัวผมเบาๆ ดึงมือถือออกจากมือผม ก่อนจะกดหัวให้นอนซุกอกมัน

     




    ผมเบียดตัวเข้าหาเคมากขึ้น ไม่มีคำบอกราตรีสวัสดิ์ใดๆ มีเพียงสัมผัสอบอุ่นของเราที่มอบให้แก่กัน คืนนี้ผมไม่จำเป็นต้องกลัวแล้วเพราะผมไม่ได้อยู่คนเดียว ผมมีเคอยู่ข้างๆ มีคนคนนี้คอยดูแล






     

    ท่ามกลางความเงียบงันผมได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบาจากสายลม






     

    ไม่เป็นไรแล้ว

     




                 :)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×