[Short Fic] “Online Friend ver.” Khun x dong - [Short Fic] “Online Friend ver.” Khun x dong นิยาย [Short Fic] “Online Friend ver.” Khun x dong : Dek-D.com - Writer

    [Short Fic] “Online Friend ver.” Khun x dong

    โดย Lee_Jinki

    ผู้เข้าชมรวม

    287

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    287

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  14 ต.ค. 53 / 01:16 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      Title :: Online Friend
      Author :: Lee_Jinki

      ปี๊บ ปี๊บๆ~

      มือเรียวล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อจะหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อเปิด อ่านข้อความดู

      From :: สายลม
      เจอกันวันเสาร์นะอูด้ง ^__^;

      - - - -

      จาง อูยอง เป็นคนที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ไม่ค่อยสนใจคนรอบข้างซักเท่าไร เป็นคนที่ชอบหาเพื่อคุยทางเมล์ตามอินเตอร์เน็ต

      “เจอกันวันจันทร์นะอูยอง”
      “อื้ม แล้วเจอกัน ชานซอง จุนโฮ”
      “นัด เจอเพื่อนในอินเตอร์เน็ต วันเสาร์ ระวังตัวด้วยนะอูยอง” จุนโฮพยายามตะโกนไล่หลังด้วยความเป็นห่วงเพื่อน มันส่งถึงอูยองก็จริง แต่เจ้าตัวกลับไม่ได้สนใจอะไรกับมันเลยแม้แต่น้อย เพื่อนทั้งสองคนที่คอยยืนมองอยู่ก็ได้แต่ถอนหายใจกับความเป็นตัวของตัวเอง ของจาง อูยอง

      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      เช้า ที่แสนสดใสของวันเสาร์ อูยองกำลังยืนรอเพื่อนทางอินเตอร์อยู่หน้าสถานีรถไฟ

      “ขอ โทษนะครับ อูด้งรึเปล่า” ผู้ชายรูปร่างสูงสีผิวก็ไม่จัดว่าจะขาวนัก ก็อยู่ในขั้นที่ว่าดูดีเลยทีเดียว กำลังเอียงคอถามอูยอง เพื่อขอความแน่ใจ

      “อ๊ะ!!! อูด้ง? ฮะ ใช่ครับๆ” ด้วยความที่ตกใจว่าทำไมอีกคนถึงได้มาถึงเร็วกว่าที่คิดไว้เยอะ แต่อูยองก็ยังตั้งตัวทันได้ ยังโค้งให้อีกคนน้อยๆ

      ....โอ้โห หน้าตาดีกว่าที่คิดไว้อีกแฮะ....
      …..ว่าแต่ ใช่รึเปล่า ใช่สายลมจริงๆเหรอ.....


      “จะเป็นใครก็ได้ที่คุยกันถูกคอก็พอ” อูยองพูดลอยๆพึมพำขึ้นมาคนเดียว แต่ก็ต้องตกใจที่อีกคนคว้าข้อมือจูงเขาไปอย่างรวดเร็ว

      “จะไปดูหนัง กันไม่ใช่เหรอ งั้นรีบไปกันเถอะ” ชายคนนั้นรีบคว้ามือของอูยองรีบสาวเท้าก้าวยาวๆ จนเจ้าตัวเกือบจะสะดุดหกล้มไปซะเอง
      “เป็นไรมากมั๊ยครับ ไม่เห็นต้องรีบเลยนี่น่า” อูยองคว้าแขนของอีกคนแล้วถามอย่างเป็นห่วงกลัวว่าจะเป็นอะไรไปเพราะตัวเอง

      “พอ ดีว่าตอนลงจากรถไฟรีบไปหน่อยผมเลยล้มที่สถานีน่ะ คอนแท็กเลน มันเลยหลุดหายไปไหนก็ไม่รู้”


      “แล้วทำไมนายไม่บอกตั้งแต่แรกห๊ะ ถ้างั้นไม่ไปดูหนังก็ได้” อูยองเห็นอีกฝ่ายเป็นแบบนั้นเลยรีบบออกอย่างงั้นไป
      “ถ้านายอยากดูหนังก็ ไปก็ได้นินะ เรื่องนั้นน่ะ” ร่างสูงส่งรอยยิ้มให้อีกคน

      อูด้ง : ฉันไม่ค่อยชอบให้ใครมาคอยดูแลเอาใจใส่หรอก กลัวเขาจะรำคาญ
      สายลม : ฉันก็เหมือนกัน เป็นคนไม่ค่อยเอาใจใส่ใครเลยน่ะ

      “นี่ นายน่ะ เอาใจใส่ฉันมากเกินไปรึเปล่า” อูยองที่ทำหน้ายู่หันหน้าหนีไปอีกทาง ร่างสูงก็ได้แต่ยิ้มกับท่าทางนั้น
      “ถ้าอย่างงั้นไม่ไปดูหนังละกันเนอะ” สุดท้ายก็เป็นอูยองซะเองที่สรุปว่าไม่ไปดูหนัง

      ทั้งสองคนเดินไป เรื่อยบนทางเท้า ไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ
      ซื้อไอศกรีมชื่อดังแถวย่านนั้น เดินกินแล้วคุยสัพเพเหระกันไปเรื่อยๆ จนกระทั้ง
      หยุดพักหาอะไรที่อยู่ ท้องกินที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

      อูด้ง : ฉันเป็นคนไม่ค่อยเล่าเรื่องตัวเองให้ใครฟังน่ะ กลัวจะโดนคนอื่นจะล้อ!
      สาย ลม : จริงด้วย ฉันเองก็ประมาณนั้น

      “ฉัน น่ะนะ ไม่ค่อยจำคนรอบข้างเท่าไรหรอก แม้แต่เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างหน้ายังจำไม่ได้เลยนะ” อูยองได้แต่พูดแจ้วๆ ให้อีกคนฟัง ร่างสูงที่นั่งอยู่อีกฝังก็คีบโน้น คีบนี้เข้าปากพยักหน้าฟังอูยองพูดเรื่อยๆ พร้อมทั้งคอยที่จะส่งรอยยิ้มให้อูยองเสมอๆ

      อูด้ง : ฉันไม่ชอบพึ่งใครน่ะ กลัวเขาจะลำบาก ฉันเลยพยายามพึ่งตัวเองเสมอๆเลย
      สาย ลม : นี่ นายมีหลายๆอย่างเหมือนฉันนะ เราเข้ากันได้เลยแหละ

      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      “บาง ทีก็คิดว่าพอสนิทกับใครๆแล้ว ถ้ามีอะไรที่ผิดใจกันนิดหน่อย มันก็รู้สึกลำบากใจนะ” อูยองยังคงเล่าต่อไปเรื่อยๆพลางยกโก้โก้ปั่นขึ้นดูดไปอึกหนึ่ง
      “เพราะ อย่างงั้นฉันเลยชอบคุยกับเพื่อนทางเมล์มากกว่า เพราะถ้าเราไม่อยากติดต่อใครก็ลบเมล์ออกไปได้เลย”
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      “ฮึ!.... นายเนี่ยนะ ช่างอ่อนโยนจังเลย” สุดท้ายร่างสูงก็เป็นฝ่ายพูดบ้าง
      “เป็น ห่วงความรู้สึกคนอื่นจนตัวเองลำบากขนาดนี้”

      ....เอ๊ะ!....

      ประโยค นั้นทำให้อูยองถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก มือที่เคยถือตะเกียบอยู่เมื่อกี้กับเหมือนอยู่ๆก็ไม่มีแรงขึ้นมา

      “นาย น่ะเป็นห่วงคนอื่นจนถึงขนาดไม่ยอมดูหนังเรื่องที่อยากดู เพราะอีกคนทำคอนแท็กเลนหาย”
      ร่างสูงพูดด้วยท่าทางอ่อนโยนพร้อมกับส่ง ยิ้มให้อีกคน พลางยกกาแฟในแก้วขึ้นจิบ
      “นึกถึงคนอื่นมากไปจนทำให้ตัวเอง ลำบาก”
      “เพราะงั้นฉันถึงบอกนายว่านายน่ะ เป็นคนอ่อนโยนจังนะ”

      .....ไม่ เห็น เหมือนที่เคยคุยกันเลย.....

      “บางทีการตัดขาดกับใครมันก็ไม่ง่าย เหมือนในเมล์หรอกนะ อยู่ใกล้ๆกับใครบ่อยๆ
      ก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันเป็น ธรรมดา ถ้าอย่างงั้น นายน่ะ อย่าพยายามคิดว่าตัวเองเป็นแบบนั้นเลย”

      “นะ” รอยยิ้มที่อ่อนโยนนั้นส่งมาถึงอูยองได้อย่างรวดเร็ว เล่นเอา อูยองที่ใครหลายๆคนว่าช่างเป็นคนที่มั่นใจตัวเองสูงอย่างนั้น อึ้งไปเลย เหมือนกับว่าตอนนี้ สติ หลุดลอยไปที่ไหนแล้ว

      ปี๊บ ปี๊บๆ~

      …..เอ๋!?!! เมล์มา....

      From : สายลม
      นี่อูด้ง

      อูยองที่รีบคว้ามือ ถือขึ้นมาเปิดอ่านเมล์ก็ต้องตกใจกับข้อความที่ตัวเอง เงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าตัวเองอย่างตกใจ

      From : สายลม
      นี่ อูด้งทำไมนายไม่มาตามนัดล่ะ!!!??!!

      “นายโกหกฉัน!!!” อูยองลุกขึ้นจากเก้าอี้ ตะคอกใส่ร่างสูงที่นั่งอยู่อีกฝัง
      “นายพูดเองนะ ว่าจะเป็นใครก็ได้น่ะ”


      เมื่อร่างสูงพูดจบอูยองก็รีบวิ่งไปที่ ที่สถานีรถไฟ ที่ที่นัดกับ ‘สายลม’ เอาไว้ แต่ภาพที่เห็นกลับกลายเป็นอย่างที่ไม่เคยคาดคิด

      กลุ่มผู้ชายสี่ห้าคน กำลังตามหาคนที่ชื่ออูด้ง....
      “นี่นายน่ะ ใช่อูด้งรึเปล่า” น้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร ส่อแนวลวนลาม
      “ไม่ใช่ครับ” เด็กผู้ชายที่รีบวิ่งหนีผู้ชายกลุ่มนั้น
      “ไหนว่าจะใส่ผ้าพันคอสีน้ำเงิน ไงว่ะ”

      .....ใช่ลืมสนิทเลย เค้าบอกว่าจะใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว.....
      …..นั้น ไงคนนั้น.....

      อูยองที่ค่อยๆเดินเลี่ยงออกมากำลังค่อยถอดผ้าพันคอของ ตัวเองออก แต่ก็ยังคอยฟังว่าพวกนั้นจะพูดว่าอะไร

      “นี่อูด้งของแก อยู่ไหนว่ะ เห็นแกว่านัดเพื่อนทางเมลมาได้ นึกว่าจะได้ทำอะไรสนุกๆซะแล้ว”
      ชาย รูปร่างสูงไว้นวดตรงนั้นยกบุหรี่ขึ้นมาจุด
      “ตั้งชื่อ ‘อูด้ง’ เชยก็เชย นึกว่าจะมาแล้วนะ ชักหงุดหงิดแล้วนะเนี่ย”
      “แต่คงไม่เชยเท่าคนที่ล้มที่ สถานีหรอกว่ะ ฮ่าๆๆๆ ไปกินเหล้ากันเหอะ”

      …..หกล้มที่สถานี......

      “พอ ดีว่ารีบไปหน่อยเลยล้มที่สถานีน่ะ”

      .....หมอนั่นรู้ว่าจะเกิดอะไร ขึ้นกับเรา เลยรีบวิ่งมางั้นเหรอ......

      เมื่อนึกได้อย่างงั้นจินกิ เลยรีบวิ่งไปที่ร้านอาหารร้านเดิม.....

      แต่ก็เหลือเพียงเก้าอี้ตัว เดิม ไม่ทันซะแล้ว ผู้ชายคนนั้นกลับไปแล้ว......

      .....ผู้ชายคนนั้น ช่วยเราไว้ ไม่รู้แม้แต่ชื่อจริงๆของเค้าเลย แล้วจะทำยังไงดี.....

      “ลอง กลับไปหาที่สถานีรถไฟดีกว่า”

      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .

      เมื่อ ถึงสถานี อูยองกำลังจะเดินไปถามยามที่อยู่แถวนั้น แต่ยามดันหันมาเจออูยองก่อนพอดี
      “ขอโทษนะ มีคนมาขอให้ตามหาผู้ชายที่ใส่ผ้าพันคอสีน้ำเงิน เห็นว่าเขาตกอยู๋ในอัตรายน่ะ”
      “แล้วผู้ชายคนนั้นไปหาไหนเหรอครับ” อูยองเมื่อได้ยินอย่างนั้นจึงรีบหันไปถามลุงยามทันที
      “เห็นบอกว่าจะไป ตามหาทางนั้นน่ะ” ลุงยามชี้ไปทางชานชาลา

      สิ้นเสียงของลุงยามอูยองก็ รีบวิ่งไปที่ทางนั้นหวังไว้ว่าจะไปรอที่ชานชาลาคงจะเจอ

      .....คนคน นั้น.....

      .
      .
      .
      .
      .
      .

      เมื่อเห็นว่าเริ่มรอ นานแล้ว ตัวอูยองเองก็เริ่มถอดใจ นั่งแหม่ะ ลงกับเก้าอี้แถวนั้น
      แต่ ยัง ไม่ทันที่ก้นจะสำผัสกับเก้าอี้ ก็เจอผู้ชายหน้าคุ้นตาที่ตัวเองกำลังตามหาอยู่พอดี อูยองรีบกระโดดโผเข้ากอดผู้ชายร่างสูงคนนั้นทันที

      “ขอบคุณนะ ฮึก!” ร่างสูงสัมผัสได้ถึงหยดน้ำที่ซึมผ่านเสื้อของเขา อูยองกำลังร้องไห้ ด้วยความตื้นตัน
      “ฉันขอโทษนะที่หลอกนายน่ะ แหม พอจะแก้ตัวก็ไม่ทันซะละ” ร่างสูงได้แต่ยกมือเกาท้ายทอยแก้เก้อ

      - - รถไฟสายที่ 4 กำลังจะเทียบชานชาลา กรุณายืนหลังเส้นสีเหลืองด้วยค่ะ - -

      “ฉันไป ก่อนล่ะ ไว้เจอกันนะ ‘จาง อูยอง’ “ร่างสูงที่กำลังบอกลากำลังก้าวเท้าเข้าประตูรถไฟพอดี
      “ดูแลตัวเองด้วย นะ” จบประโยคร่างสูงก็เอียงคอยิ้มอย่างอ่อนโยนให้อูยอง
      “เดี๋ยว!! นายชื่ออะไรเหรอ ฉันยังไม่รู้เลย” อูยองเอื้อมมือคว้าชายเสื้อร่างสูงเอาไว้
      “เอา ไว้ไปคิดเป็นการบ้านส่งพรุ้งนี้ล่ะกันนะ”
      แล้วสัญญาณ ปิดประตูก็ดังขึ้น อูยองเลยถอยออกห่างจากตัวรถไฟ มองรถไฟที่ค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากชานชาลา


      .....ไป คิดเป็นการบ้านงั้นเหรอ.....
      .....แสดงว่าคงจะได้เจอกันอีกสินะ.....

      .
      .
      .
      .
      .

      “ไง อูยอง นัดเพื่อนทางเมล์เป็นไงบ้าง” เช้าของอีกวันที่ทั้งจุนโฮแลละชานซองต่างรอคอยจะถามเรื่องของเมื่อวัน เสาร์ด้วยความเป็นห่วง
      “ก็โอเคนะ” อูยองได้แต่ส่งยิ้มไปเพราะกลัวเพื่อนจะเป็นห่วง
      “พวกฉันเป็นห่วงนายจะแย่ รู้มั๊ย”
      “คร๊าบบบบบบบบ วันหลังไม่ทำแบบนี้แล้ว”
      “เฮ้ย จุนโฮโน้นๆ คนนั้นเดินมาโน้นแล้ว” ชานซองที่มองออกไปที่หน้าประตูโรงเรียนเห็นผู้ชายรูปร่างสูงที่จงฮยอนปลื้ม นักปลื้มหนา ว่าทั้งหน้าตาดี ทั้งเรียนเก่ง อาจจะค่อนไปทางอิจฉานิดๆซะด้วยซ้ำนะ
      “ไหนๆๆ อ้อ~~ นิชคุณ หรเวชกุล” จุนโฮก็หันไปเออออด้วย
      “วันนั้นฉันเห็นไม่ได้ใส่แว่นด้วย หล่อมากเลยอ่ะ อิจฉาคนแบบนี้จริงๆเลย” จุนโฮจะก็ วิจารณ์ไปเรื่อย จนอูยองนึกสงสัย
      “ใคร เหรอ? ชานซอง จุนโฮ”
      “ก็คนที่นั่งข้างหน้านายไง นิชคุณ หรเวชกุล”
      “เอ๋? =_=” คนที่ใส่แว่นหนาๆอ่านะ” แล้วก็พยายามนึกหน้าสุดชีวิต

      “ฉันน่ะนะ ไม่ค่อยจำคนรอบข้างเท่าไรหรอก แม้แต่เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างหน้ายังจำไม่ได้เลยนะ”

      แต่แล้วผู้ชายที่ กำลังพูดถึงก็เดินริ้วๆๆๆ มาทางอูยอง
      “ไงอูยอง ทำการบ้านได้รึเปล่า?”
      “นี่ นาย!!!”

      แล้ว อูยองก็ต้องตกใจเมื่อผู้ชายที่ถามเมื่อกี้หันมา หน้าตาคล้ายคนเมื่อวานเหลือเกิน.......ไม่ใช่คล้ายหรอก แต่เป็นคนเดียวกันเลย เพียงแต่ว่านี้ใส่แว่นกรอบสีดำ หนาๆมาด้วยเท่านั้น...

      END..!!

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×