stonehenge สโตนเฮ็นจ์
ก้อนหินที่มีปริศนา และกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกแท้ที่จริงแล้วมันคืออะไรกัน ใครสร้างมันขึ้นมา และทำขึ้นมาได้อย่าวไรกัน.........
ผู้เข้าชมรวม
2,282
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เที่ยวสโตนเฮ็นจ์แวะแอ่วเมืองบาท(Bath)
Stonehenge (สโตนเฮนจ์) ปริศนาที่รอคอยการค้นหาความจริง นอกจากนี้ยังเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้จากเมืองลอนดอน 120 กิโลเมตร | ก้อนหินมหึมาที่ตั้งเรียงรายเป็นวงกลมบนพื้นโล่ง ที่นี่เป็นเรื่องเล่าและตำนานมากมาย ว่าเป็นฝีมือของมนุษย์ต่างดาวมาสร้างไว้ หรือเป็นที่พ่อมดหรือแม่มดจับเหยื่อมาบูชายัน หรือเป็นที่ของนักบวช หรืออื่นๆอีกมากมาย | หนึ่งในความฉงนนั้นคือ ใครเป็นผู้สร้าง สโตนเฮนจ์ และทำได้อย่างไร เนื่องจากพื้นที่บริเวณโดยรอบรัศมีกว้างเป็นเพียงทุ่งหญ้าโล่งกับธารน้ำเล็กๆล้อมรอบเท่านั้น | เมื่อมาถึงสถานที่จริงในเมืองซาลล์เบอรี่ ถึงพอจะนึกภาพเขียนจากกำแพงว่า การสร้าง สโตนเฮนจ์ แห่งนี้มีความน่าจะเป็นอย่างไรในยุคกลาง อาจสร้างจากแรงงานคนที่ลากหินแต่ละก้อน ก้อนละหลายสิบตัน มาไกลหลายร้อยกิโลเมตร | หลายคนมาเยือนที่นี่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ว่าใครเป็นผู้สร้าง และ สร้างไว้ทำไม ส่วนมากจะได้เห็นสโตนเฮนจ์จากรูปถ่าย ต้องมาสัมผัสสถานที่จริงสักครั้ง | เมื่อมาถึงสถานที่จริงแล้ว จะพบว่า สโตนเฮนจ์ คือ กองก้อนหินขนาดใหญ่ บนลานโล่ง ก้อนหินวางเรียงกันเป็นวงกลม 2 ชั้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 30 เมตร และไกลออกไปไม่ไกลจะพบคูน้ำล้อมรอบ | นักท่องเที่ยวทุกคน จะได้รับเครื่องช่วยแนะนำ ที่มีหน้าตาคล้ายโทรศัพท์มือถือ ที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใจถึงลักษณะหิน และความเป็นมา ที่บรรยายให้ฟังเมื่อถึงจุดต่างๆ ที่มีตัวเลขบอกไว้ เพียงกดตัวเลขที่เดินผ่านไปตามจุดต่างๆรอบสโตนเฮนจ์ | หลายคน เชื่อว่า สโตนเฮนจ์ คือ สถานที่ดูดาว ที่สามารถใช้บอกวันเดือนปีแทนปฎิทินได้ หินแต่ละก้อนถูกจัดจังหวะให้มีช่องว่างไว้ใช้คำนวณวิถีการโคจรของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว ถึงวันนี้พวกเราอาจรู้ถึงโครงสร้าง แต่ไม่มีใครรู้ถึงจุดประสงค์ในการสร้างอย่างแท้จริง | เมื่อเดินใกล้ชิด สโตนเฮนจ์ มากขึ้นมากขึ้น จะพบว่า ก้อนหินแต่ละก้อนไม่ได้ใหญ่โตอย่างที่คิด หรือ ใหญ่เหมือนในภาพถ่ายสักเท่าไร ขนาดของมันพอๆกับรถยนต์ 4 ประตู 1 คันเท่านั้น แต่นักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าไปสัมผัสก้อนหินได้อีกต่อไป | เพราะปัจจุบันเจ้าหน้าที่ดูแลสถานที่ได้จัดเชือกเส้นเล็กๆกั้นเขตไว้ พวกเราจึงได้แต่ดูอยู่ห่างๆ ไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดก้อนหิน สโตนเฮนจ์ อย่างที่คิดไว้ | พวกเรานั่งรถบัสมาจากลอนดอนประมาณ 2 ชั่วโมง มาสัมผัสสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ก็ขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกพร้อมๆกันที่นี่ครับ | เมื่อเดินรอบ สโตนเฮนจ์ ก็จะเห็นมุมมองต่างๆกันไป และสามารถสรุปได้ว่า สโตนเฮนจ์น่าจะถูกสร้างด้วยฝีมือมนุษย์ ไม่น่าจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และไม่น่าจะเป็นผลงานของมนุษย์ต่างดาวแต่อย่างใด และอาจเป็นไปได้ว่ามนุษย์ในสมัยโบราณสร้างมาเพื่อในการดูดาว | เดินสำรวจสโตนเฮนจ์กันครบรอบแล้ว ใครหิวก็แวะหาของว่าง น้ำดื่ม ทานแก้หิวได้ที่ทางออก | หรือจะแวะร้านจำหน่ายของที่ระลึก จากการแวะชมสโตนเฮนจ์ได้ | ของที่ระลึกมีมากมาย ไม่ว่า Magnet แม่เหล็กติดตู้เย็น , ถ้วยกาแฟ , ของใช้ต่างๆที่มีรูปสโตนเฮนจ์ในมุม แสง สวยๆ มากมาย | จาก สโตนเฮนจ์ พวกเราก็ยังมีโปรแกรมต่อเนื่องคือ เมืองบาธท์ (Bath) ที่เลื่องชื่อในความงามแบบโรมัน ในประเทศอังกฤษ | ใช้เวลาไม่นานจากการเดินทางโดยรถบัส ก็จะถึงเมือง บาธท์ (Bath) บรรยากาศในเมืองเล็กแห่งนี้ดูน่าอยู่ ผู้คนไม่พลุกพล่าน มีแต่นักท่องเที่ยวที่ค่อนข้างหนาตา | มาถึงเมือง บาธท์ (Bath) ต้องมาเยือน ที่อาบน้ำของชาวโรมัน หรือเรียกกันว่า The Roman Baths นักท่องเที่ยวต่อคิวเพื่อเข้าชม แต่ใช้เวลารอเข้าไม่นานครับ | ป้ายหน้าประตูทางเข้าที่อาบน้ำ ที่ตั้งอยู่หน้าโบสถ์ของเมืองบาธท์ | ป้ายบอกทางของเมืองบาธท์ ที่มีป้ายลูกศรบอกทิศทาง ป้องกันผู้คนและนักท่องเที่ยวเดินหลงทาง | เมื่อเข้าสู่ The Roman Baths ก็จะพบพนักงานต้อนรับ ขายบัตรเข้าและแจกเครื่องรับฟังสำหรับนักท่องเที่ยว มีให้เลือกหลายภาษา การใช้ก็ใช้การกดตัวเลขเมื่อถึงจุดตำแหน่งต่างๆ ก็จะได้รับข้อมูล ณ ตำแหน่งนั้นๆ | รูปถ่ายสถานที่อาบน้ำโรมัน ในสมัยเก่า แต่คงอยู่ในช่วงการล้างบ่อ เพราะไม่มีน้ำในบ่อแต่อย่างใด | จากทางเข้าด้านหน้า ก็จะพบหน้าต่างข้างทางเดิน มองออกไปก็จะพบสระน้ำอุ่นขนาดใหญ่ สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ดังชื่อ The Roman Baths อยู่ข้างล่าง | ตามขอบระเบียงกันตกชั้นสองก็จะมีรูปปั้นนักรบชาวโรมันตั้งสง่าอยู่รอบๆ | จากชั้นสองหรือชั้นแรกที่เข้ามา ก็จะพาไปยังบ่อต่างๆที่แห้งแล้วด้านในอาคารแห่งนี้ เดินสำรวจเส้นทางวกไปวนมาอยู่หลาย แต่ก็ตื่นตากับบ่อ และขนาดหินที่สร้างขึ้นมาในแต่เก่าก่อน | ภายใน รักษาสภาพเพิงอาคารให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ เสียดายที่หลายชิ้นขาดหายไปแล้ว | นักท่องเที่ยวสามารถเห็นภาพจากสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันกับภาพกราฟฟิค 3 มิติ ที่แสดงถึงภาพในสมัยอดีตตอนอยู่ในสภาพสมบูรณ์ | ก้อนหินที่ใช้นำมาสร้างสระน้ำ หรือ บ่อน้ำ ให้ชาวโรมันได้อาบกัน | และแล้วก็ได้ออกมานอกอาคาร ได้เห็นสระน้ำโรมันกันใกล้ๆ น้ำสีเขียวที่อุณหภูมิค่อนข้างร้อน เมื่อสัมผัสกับอากาศหนาวๆ ก็จะกลายเป็นไอน้ำลอยอยู่เหนือสระน้ำ | สมัยก่อน ชาวโรมัน ได้เคยมาตั้งรกรากเป็นชุมชนกันอยู่ ณ ที่แห่งนี้ และได้สร้างสถาปัตยกรรม และรักษาวัฒนธรรมการอาบน้ำของชาวโรมันไว้ที่แห่งนี้ด้วย | The Roman Baths นับเป็นสถานที่พบปะ สังสรรค์ ของผู้คนชาวโรมันในยุคนั้น | นับเป็นสิ่งแปลกที่สถานที่สวยๆแบบโรมัน มาตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ เป็นที่อยู่อาศัย ของชาวอังกฤษไปเรียบร้อยแล้ว | สระน้ำเล็กที่อยู่ภายในอาคารแห่งนี้ แม้ปัจจุบันจะดูไม่หรูหรา โอ่โถงนัก แต่หากได้ดูจากภาพ 3 มิติทางจอทีวีแล้ว ก็จะพบว่า สวยงาม โอ่โถงมาก | ก่อนทางออก ก็เป็นร้านขายของที่ระลึกขนาดใหญ่ ที่นักท่องเที่ยวเลือกซื้อติดไม้ติดมือก่อนกลับบ้าน | สินค้ายอดนิยม ของเมืองนี้คือ สบู่ แชมพู อาบน้ำ ที่มีกลิ่นหอม อาบแล้วชวนผ่อนคลาย | เนื่องจากเป็นสถานที่แบบโรมัน ดังนั้น หนังสือที่เกี่ยวกับเทพ ตำนานกรีกโบราณ ต่างๆจึงมีจำหน่ายกันที่นี่ด้วย | ศิลปินในเมืองบาธท์ แต่งตัวเป็นพ่อมดเมอร์ลิน ในแบบรูปปั้นสีทองทั้งชุด ขยับตัวไปมาในเวลาผู้คนเผลอคิดว่าเขาเป็นรูปปั้นจริงๆ | บนท้องถนนเล็กๆของเมืองบาธท์ ที่มีร้านค้าเล็กๆตลอดทุกซอกมุม เปิดให้นักท่องเที่ยวได้สำรวจ ซื้อของกัน | บรรยากาศสงบ ร่มรื่น สวยงาม ของเมืองบาธท์ (Bath) นับเป็นเมืองชนบทของอังกฤษที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนเมืองใด |
Note : สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) แปลว่า หินที่แขวนอยู่ หรือ Hanging Stone แต่บันทึกในสมัยกลาง สโตนเฮนจ์ ถูกเรียกว่า กลุ่มยักษ์เต้นระบำ หรือ The Giant Dance สโตนเฮนจ์ เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง ร่วมกันกับ กำแพงเมืองจีน, หอเอนเมืองปิซา, สนามกีฬาโคลอสเซียม, เจดีย์กระเบื้องเคลือบหนานกิง, คาตาคอมบ์ สุสานใต้ดินเมืองอเล็กซานเดรีย และสุเหร่าฮาเกียโซเฟีย
|
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ Haruka Ghrost ผีฮารูกะ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Haruka Ghrost ผีฮารูกะ
ความคิดเห็น