ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC B.A.P] Sweet love my husband

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 8 : [ 100% ]

    • อัปเดตล่าสุด 12 ธ.ค. 56










     

    8

     

     

                    Jongup

                    อึดอัด...

     

                    ผมมีความรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก ก็เพราะว่าสองสามวันมานี้ผมต้องอยู่กับแดฮยอนฮยองแถมฮยองเขาก็เอาแต่ทำตัวน่าเบื่อน่ารำคาญ ทำมาเป็นอ้อนผมเวลาอยากให้ทำนู้นทำนี่ให้แต่พอผมปฏิเสธและขึ้นเสียงใส่แม่งก็เอาแต่ด่าๆๆๆ แล้วก็ทำร้ายร่างกายผมทุกทีจนตัวผมตอนนี้เต็มไปด้วยรอยช้ำเขียวจ้ำเต็มไปหมด

     

                    มึงเป็นอะไรอีกล่ะไอ้จงออบ...ทำหน้าเหมือนหมาอมขี้ไปได้

     

                    และตั้งแต่มีปากเสียงกันวันแรกยันวันนี้มันก็เคยไม่พูดจาดีๆ กับผมอีกเลย...

     

                    ป่าว...แค่รู้สึกเบื่อ อยากออกไปข้างนอกบ้างน่ะ ผมไม่ได้ออกไปไหนเลยตั้งแต่ฮยองย้ายเข้ามาอยู่ด้วยผมพูดออกไปด้วยความประชดประชันปะปนไปกับความเสียใจและน้อยใจเล็กน้อย มันก็จริงอย่างที่ผมพูดนั้นแหละ ก็เพราะว่าตั้งแต่แดฮยอนฮยองเขาย้ายเข้    ามาผมก็แทบจะไม่ได้ออกไปไหนอีกเลยนอกซะจากอยู่แต่กับในบ้านไม่เล่นเกมก็ออกกำลังกาย วนเวียนอยู่แบบนี้มานานหลายวันแล้ว

     

                    กูก็อยู่บ้านเหมือนมึงยังไม่เห็นรู้สึกเบื่อเลย...แกล้งมึงสนุกจะตายไป หึหึ

     

                    “ก็ผมไม่ใช่ฮยองนี่ที่จะทำอะไรแล้วนึกสนุกไปหมดน่ะ!!!”

     

                    “มึงขึ้นเสียงใส่กูหรอจงออบ กูพูดกับมึงดีๆนะ!!!”

     

                    “ก็ดูคำพูดของฮยองสิ...เคยคิดที่จะรักษาน้ำใจบ้างป่ะว่ะ วันๆ ก็เอาแต่ด่าและก็จิกหัวใช้จนกูเบื่อและรู้สึกอึดอัด มึงมาลองเป็นกูบ้างไหมล่ะไอ้สัสดำแล้วมึงจะรู้สึก และอีกอย่างนะ...กูไม่ใช่คนรับใช้ของมึงกรุณาอย่ามาใช้กูให้มากนัก มีมือมีตีนเหมือนกับก็ทำเองบ้างสิว่ะ!!!” ผมเปลี่ยนสรรพนามการเรียกอีกฝ่ายทันทีด้วยความโกรธก่อนที่จะเอาแต่ตะโกนใส่ร่างสูงด้วยความโมโหทำเอาแดฮยอนฮยองเอาแต่นั่งเงียบและฟังอย่างนิ่งๆ ก่อนที่จะยกยิ้มขึ้นที่มุมปากเหมือนกับว่าพึ่งคิดอะไรออก ทำเอาผมนั้นเผลอก้าวถอยหลังทันทีด้วยความกลัว

     

                    มึง...กำลังน้อยใจกูหรอแดฮยอนฮยองพูดพลางค่อยๆ ลุกขึ้นยืนและเดินเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆ จนผมต้องก้าวถอยหลังตามจนหลังชนเข้ากับผนังจนแดฮยอนฮยองต้องเอามือทั้งสองข้างมายันกับผนังไว้เพื่อกันไม่ให้ผมหนี

     

                    เออ...คือ...ป่าวซะหน่อย ก็แค่รู้สึกว่าไม่ชอบ และก็ไม่อยากเป็นทาสของคนแบบฮยองด้วย..

     

                    “ปากดีจังนักนะเรา...อยากรู้จังว่าปากดีแบบนี้แล้ว ลีลา จะดีด้วยหรือป่าวพูดจบเขาก็จู่โจมผมทันทีด้วยการประกบจูบลงมาอย่างรวดเร็วและร้อนแรงทำเอาผมที่ไม่ได้ตั้งตัวไว้ตั้งแต่แรกเผลอร้องออกมาด้วยความเจ็บกับสัมผัสที่รุนแรงก่อนที่จะเปลี่ยนจากร้องออกมาอย่างเจ็บปวดเป็นเสียงครางแทน

     

                    ยะ...หยุดนะผมพูดออกไปด้วยความลำบากก่อนที่จะใช้มือทั้งสองข้างทุบเข้าไปที่อกกว้างของร่างสูงซึ่งเท่าที่ดูแล้วกำปั้นที่ผมทุบใส่เขาแทบจะไม่สร้างความเจ็บปวดให้เขาเลยแม้แต่น้อย

     

                    ทำไมล่ะ...ที่อย่างงี้ทำเป็นพูดดีทำไมถึงไม่พูดจาปากหมาแบบเมื่อกี้อีกล่ะ...กลัวหรอ?

     

                    “พอเถอะฮ่ะ...ผมไม่ชอบการกระทำของฮยองแบบนี้...ปล่อย..

     

                    “ถ้าปล่อยแล้วมึงจะพูดกับกูดีๆ ไหมล่ะ...มึงควรจะให้ความเคารพกูบ้างนะแดฮยอนฮยองพูดขึ้นก่อนที่จะค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกจากปากของผมอย่างเชื่องช้าก่อนที่จะใช้สายตาอันทรงพลังของเขามองมาที่ผมด้วยความจริงจังจนผมนั้นต้องเป็นฝ่ายละสายตามองไปทางอื่นแทนก่อน

     

                    เวลาผมเห็นสายตาของเขาทีไร...ทำไมหัวใจผมต้องเต้นแรงทุกที

     

                    อืม...ผมจะพยายาม

     

                    “มึงไม่ควรใช้คำว่าพยายามนะ...จงออบ

     

                    ฮยองก็หัดพูดกับผมดีๆ มั้งสิ!!! นี่อะไร...ไม่พอใจอะไรก็เอาแต่ด่าเคยคิดถึงความรู้สึกของผมตอนที่ได้ยินบ้างไหมล่ะ!!!”

     

                    “จงออบ!!!”

     

                    “แล้วฮยองก็จะเอาแต่ตะคอกผมและก็บอกให้ผมหุบปาก ฮยองคิดว่าผมจะรุ้สึกดีหรือไงที่โดนด่าทุกๆ วันน่ะ!!!”

     

                    “หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะจงออบ!!!”

     

                    “ก็ได้!!! ผมจะไม่พูด ไม่เถียง ไม่ด่า และจะไม่ต่อปากต่อคำกับฮยองอีก พอใจหรือยังล่ะ!!!” พูดจบคำนั้นผมก็รีบผลักแดฮยอนฮยองออกห่างจากตัวผมทันทีก่อนที่จะออกตัววิ่งขึ้นบันไดไปมุ่งสู่ห้องนอนของผม ในเมื่อสิ่งที่ผมพูดไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรมันไม่เข้าหูเขาสักอย่างนับแต่วันนี้ต่อไปก็อย่าหวังว่าผมจะคุยกับเขาอีกเลย!!!

                   

                    ผมเดินเข้ามาในห้องด้วยความเหม่อลอยก่อนที่จะทิ้งตัวของผมเองลงสู่ที่นอนและคว้านหาตุ๊กตาโปเกมอนตัวโปรดที่คุณแม่เคยซื้อให้เอาไปกอดไว้อย่างแน่นส่วนในหัวก็คิดย้อนไปถึงเรื่องเมื่อสักครู่ก่อนที่น้ำตาของผมจะค่อยๆ ไหลออกมาจากดวงตาอย่างเชื่องช้าและหยดลงสู่ผ้าปูที่นอน ผมทนไม่ไหวแล้วที่จะต้องอยู่กับคนใจดำคนนั้น เขาแทบจะไม่แคร์อะไรผมเลยแม้แต่ความรู้สึกของผม เขาเอาแต่ด่า เอาแต่ว่า เอาแต่จิกหัวใช้ และนี่น่ะเหรอคือการกระทำของคนที่ฮิมชานฮยองฝากมาดูแลน่ะ อันที่จริงแล้วเขาคงจะไม่ได้ต้องการอะไรไปมากซะกว่าเขามาสนิทสนมกับผมแล้วหลอกฟันแล้วทิ้งนใครๆ ก็รู้ฉายาของฮยองเขาดี ไม่ว่าคนๆ นั้นจะยอมหรือไม่ถ้าเขาชอบก็จงอย่าหวังว่าจะรอดจากเงื้อมือของเขาไป

     

                    ตอนนี้ผมเข้าใจความรู้สึกของพวกผู้หญิงทั้งหลายที่โดนยงกุกฮยองหลอกฟันและทิ้งได้เป็นอย่างดีแล้วล่ะว่าอันที่จริงแล้วมันเจ็บปวดมากขนาดไหน ผมล่ะไม่อยากจะนึกไปถึงฉากที่ผมเสียเวอร์จิ้นให้เขาเลย

     

                    เกลียดจริงๆ ไอ้พวกที่ไม่รู้จักพอเนี่ย...

     

                    DaeHyun

                    ตอนนี้ผมมีความรู้สึกว่าอยากวิ่งเข้าไปเอามีดในห้องครัวมาแทงตัวเองซะให้ตายเดี๋ยวนี้ที่ปากหมาไปด่าน้องเขาแบบนั้นทั้งๆ ที่ในใจแอบรักเขาซะมากมายขนาดนี้ T^T นี่ผมต้องทนเก๊กทำเป็นโหดต่อหน้าน้องเขาไปอีกนานแค่ไหนกันน่ะ อันที่จริงไอ้การที่ผมต้องทำการกระทำโครตชั่วสารเลวแบบนี้มันทำให้ผมรู้สึกอึดอัดมากๆ เลยล่ะ บวกกับฉายาของผมที่เป็นที่โด่งดังในมหาลัยมันก็อาจจะทำให้น้องเขามองว่าผมเป็นคนเลวมากกว่านี้ก็เป็นได้

     

                    ผมจึงได้แต่เดินวนไปวนมาอยู่ในห้องนั่งเล่นแบบนี้มาร่วมชั่วโมงแล้วพลางคิดไปด้วยว่าจะใช้วิธีไหนดีในการที่จะง้อน้องเขาให้ยอมคุยกับผม เพราะเท่าที่ฟังจากที่พูดแล้วดูเหมือนว่าน้องเขาจะโครตโกรธและโครตเกลียดผมเข้ากระดูกดำซะแล้วล่ะ

     

                    คิดแล้วเศร้าชิบหายเลยว่ะเชี่ยย!!! TOT

     

                    หรือว่า...ผมจะลองโทรไปปรึกษาไอ้ยองแจดีเผื่อมันจะช่วยผมได้

     

                    คิดได้ดังนั้นผมก็รีบวิ่งไปที่โทรศัพท์บ้านทันทีก่อนที่จะต่อสายโทรไปหาเบอร์ที่ผมมักจะจำได้ขึ้นใจเวลาที่ผมจะขอให้ไอ้ยองแจไปขอเบอร์สาวให้ ที่นี้ล่ะ...ผมจะได้รู้วิธีการง้อน้องจงออบแล้วล่ะ

     

                    [ฮัลโหล...สวัสดีครับ ยู ยองแจพูดครับ]

     

                    มาเสียงหวานน่าจับกดเชียวเพื่อนกรู -.,-

     

                    กูแดฮยอนเองไอ้ยองแจ

     

                    “อ่าวมึงเองหรอไอ้ห่าดำ

     

                    แม่งก็หวานได้ไม่นานเมื่อรู้ว่าคนที่โทรไปหามันคือใคร - -*

     

                    คือ...กูอยากรู้วิธีง้อ..เออ...คนที่เราชอบว่ะเวลาที่เราทำเขาเสียใจ ร้องไห้ น้อยใจ หรือโกรธอ่ะ

     

                    [แล้วทำไมกูต้องช่วยมึงด้วยล่ะแดฮยอน ในเมื่อมึงเป็นคนทำให้เขาโกรธเอง]

     

                    “ก็กูไม่เคยง้อใครนี่หว่า อีกอย่างนะถ้ากูไม่ง้อเขามีหวังกูจีบเขาไม่ติดแหงๆ เลยว่ะมึง

     

                    [แล้วคนทีมึงจะง้อเขาเป็นใครล่ะแดฮยอน] คำถามของยองแจทำเอาผมถึงกับจุกทันที ผมจะตอบมันไปว่าอะไรดีล่ะ จะตอบไปว่าเป็นน้องของไอ้ฮิมชานเลยมันก็อาจจะดูไม่ดีเผลอๆ มันอาจจะไม่ช่วยผมง้อจงออบเลยก็ได้ แล้วถ่ามันโทรไปบอกฮิมชานว่าผมทำน้องมันโกรธล่ะ...มันคงไม่ยอมให้ผมมาอยู่กับจงออบอีกแน่

     

                    [ว่าไงล่ะแดฮยอน นี่มึงจะให้กูรอมึงไปจนถึงชาติหน้าเลยรึไงว่ะ]

     

                    เอาไงเอากันว่ะ!!!

     

                    “ถ้ากูบอกมึงแล้วมึงอย่าตกใจนะเว้ยยองแจ

     

                    [อืม...กูจะพยายามล่ะกัน]

     

                    ดูมันพูด -*-

     

                    น้องจงออบ...

     

                    [เกี่ยวไรกับออบบี้ว่ะไอ้แดฮยอน น้องเขาไปแย่งสาวมึงหรอ]

     

                    ป่าว...คนที่กูจะง้อคือน้องจงออบต่างหาก คือ..กูแอบชอบน้องเขามานานแล้วว่ะ แต่กูดันทำน้องเขาโกรธจนเกลียดแล้วไม่รู้ว่าจะง้อน้องเขายังไงดีน่ะ มึงต้องช่วยกูนะไอ้ยองแจ กูขอร้องล่ะ

     

                    [มันก็สมควรแล้วล่ะไอ้แดฮยอนที่น้องเขาจะโกรธมึงอ่ะ อีกอย่างนะ...พอกูรู้ว่าคนที่มึงจะง้อและจะตามจีบคือออบบี้กูยิ่งไม่อยากช่วยใหญ่เลยล่ะ]

     

                    ไม่ได้นะเว้ยไอ้ยองแจ มึงต้องช่วยกูนะเว้ย คนนี้กูรักจริงแล้วก็หวังแต่งด้วย ถ้ากูไม่ได้น้องเขาในชาตินี้กูสาบานเลยว่าจะไม่รักใครอีกนอกจากจงออบในชาติหน้า ฮืออออ TOT”

     

                    [บ้างทีมึงก็เว่อร์ไปนะไอ้ดำ -*-]

     

                    “นะยองแจ...แค่ครั้งเดียวนะ แล้วกูจะไม่ขออะไรมึงอีกเลย

     

                    [แน่ใจนะ...ว่าจะไม่ขออะไรอีก]

     

                    “อ่ะ...อืม

     

                    แต่กูขอไม่สัญญานะ ก้ากๆๆๆๆ

     

                    [งั้น...ฟังดีๆ แล้วกันอย่าพลาดแม้แต่ประโยคเดียวเชียวล่ะมึง หึหึ]

     

                    Himchan

                    “มึงจะงอนกูไปถึงไหนว่ะไอ้เหยิน ในเมื่อคืนนั้นมึงก็มีอารมณ์ร่วมไปกับกูเองนะเว้ยยย!!!” ผมเดินหนีไอ้ยงกุกที่ตอนนี้กำลังเดินตามผมและพยายามเอาชีสเค้กของโปรดของผมมาเป็นตัวขอคืนดี แต่ผม...ไม่มีทางให้อภัยให้กับคนที่มันพลัดพรากเวอร์จิ้นลูกรักของผมไปอย่างแน่นอน!!!

     

                    ฮืออออ!!! กูไม่น่ามีอารมณ์ร่วมไปกับมึงเลย เวอร์จิ้นจ๋า T^T

     

                    มึงจะงอนกูอีกนานไหมว่ะ กูขอโทด...ตอนนั้นกูแค่โมโหมึงที่มึงเอาแต่พูดแบบนั้นแถมมึงยังหนีกูไปอีก มึงคิดว่ากูจะทนให้มึงด่าได้ทุกวันทุกวินาทีเลยไงว่ะไอ้ยงกุกพูดออกมาด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อยที่ผมไม่ยอมหันไปคุยกับมันดีๆ และเอาแต่เดินหนีมันมาไม่ยอมหยุด แต่พอผมได้ฟังคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของมันแล้ว โทสะของผมที่ทนกักเก็บไว้มานานก็ระเบิดขึ้นเมื่อนึกย้อนกับไปถึงเหตุการณ์วันนั้น...

     

                    วันที่ไอ้ยงกุกกับซองจินมีอะไรกัน...

     

                    แล้วมันเป็นเพราะใครล่ะที่ทำให้กูต้องหนีไปแบบนั้น ถ้ามันไม่ใช่เพราะมึงมีอะไรกับซองจิน!!!” ผมหันไปตวาดใส่ไอ้ยงกุกเสียงดังลั่นห้องจนมันที่กำลังเดินตามผมอยู่ถึงกับสะดุ้งกับท่าทีและอารมณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของผมก่อนที่จะยกยิ้มขึ้นที่มุมปากเหมือนกับว่ากำลังพอใจอะไรสักอย่าง

     

                    หึ...มึงกำลังหึงอยู่สินะ..ฮิมชานผมจุกทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของไอ้ยงกุกก่อนที่จะทำเป็นเสมองไปทางอื่นและยู่หน้าด้วยความไม่พอใจกับคำพูดที่มันพูดกับผม

     

                    หึงงั้นหรอ?

     

                    คนอย่างผมเนี่ยนะที่จะไปหึงมัน มันเอาสมองส่วนนไหนของมันคิดว่าผมจะไปหึงมันที่มันกับซองจินมีอะไรกัน ทั้งๆ ที่ผมออกจะเกลียดขี้หน้ามันจะตายห่าอยู่แล้วแทบอยากจะออกไปจากชีวิตมันเร็วๆ ด้วย

     

                    ทำไมกูต้องหึงมึงด้วย มึงสำคัญตัวเองมากไปป่ะ

     

                    “ถ้ามึงไม่ได้หึง...

     

                    “…”

     

                    “แล้ววันนั้นมึงจะร้องไห้ทำเชี่ยอะไร มึงอย่านึกว่ากูไม่รู้นะ J ผมถึงกับไปไม่เป้นกับสิ่งที่ไอ้ยงกุกได้รับรู้ แต่...มันรู้ได้ยังไงว่าวันนั้นผมเสียใจมากขนาดไหนที่มันกับซองจินมีอะไรกัน ทั้งๆ ที่จริงแล้วผมแทบจะไม่ได้รักมันเลยด้วยซ้ำ ออกจะเกลียดขี้หน้ามันอีกต่างหาก แต่อีกความรู้สึกในใจลึกๆ อีกส่วนมันก็กลับรู้สึกดีที่ได้อยู่ใกล้มันและมันคอยตามง้อแบบนี้..

     

                    ไม่ได้ๆๆ คิมฮิมชานแกห้ามหลงเสน่ห์ไอ้เหงือกนี่เด็ดขาด มันอาจจะหลอกมันแกแล้วทิ้งก็ได้ใครจะไปรู้จริงไหมล่ะ หรือไม่มันก็แค่ต้องการทำเป็นเหมือนรักแกมากๆ เพื่อทำให้คุณอาและคุณแม่ไว้ใจและเชื่อใจมัน เพราะฉะนั้นแกก็ห้ามหลงมันเด็ดขาด

     

                    ห้ามเด็ดขาด!!!

     

                    “เงียบไปเลยสิมึง กูก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะถ้ามึงจะหึงจะหวงกูนะ พวกยังไงตอนนี้เราสองคนก็เป็น ผัวเมีย กันแบบเต็มหลักสูตรแล้ว

     

                    “ใครเมียมึงไม่ทราบไอ้สัสเหงือก!!!”

     

                    “เอ๋...หรือว่าจะลองทำอีกสักครั้งดีนะเผื่อคนแถวนี้จะจำได้ว่าตัวเองเป็นเมียใคร

     

                    “อย่ามายุ่งกับกูนะเว้ยยยยยย!!!” ผมรีบวิ่งหนีไอ้เหงือกทันทีเมื่อดูจากท่าทางแล้วเหมือนว่ามันจะทำจริงอย่างที่มันพูดแต่สุดท้ายผมก็ต้องโดนมันรวบกอดจากทางด้านหลังอยู่ดีจึงได้แต่ดิ้นและพยายามขัดขืนมันอยู่ในอ้อมกอดแบบนั้น

     

                    ตัวมึงยังหอมเหมือนเดิมเลยนะ...ฮิมชาน

     

                    “กูใช้สบู่ยี่ห้อเดิมมึงจะให้กลิ่นมันเปลี่ยนไงล่ะสัส

     

                    “ซอกคอมึงนี่ก็ขาวน่าขบเหมือนเดิม

     

                    “มึงจะทำเชี่ยอะไรไอ้ยงกุก...ปล่อยกูนะผมโวยวายขึ้นทันทีเมื่อไอ้ยงกุกมันยื่นจมูกของมันมาซุกบริเวณซอกคอขาวของผมก่อนที่จะดิ้นไปมาเพราะความจักจี้จนเรียกเสียงหัวเราะได้เป้นอย่างดีจากร่างสูง

     

                    มึงกลัวกูขนาดนั้นเลยหรอฮิมชาน...กูไม่ทำอะไรมึงหรอก เพราะตอนนี้สิ่งที่กูอยากได้มากที่สุดในตัวมึงกูก็ได้มาแล้วผมถึงกับจุกจนพูดไม่ออกทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของไอ้ยงกุก นี่สินะ...คือสิ่งที่มันต้องการจริงๆ ทั้งๆ ที่ผมเคยคิดมาตลอดเลยว่าระยะเวลาที่เราสองคนอยู่ด้วยกันมันอาจจะทำให้ไอ้เหงือกมันรักผมบ้าง แต่นี่อะไร...มันก็แค่ต้องการร่างกายของผม ความบริสุทธิ์ของผม แต่มันไม่เคยคิดที่จะอยากได้ความรักและหัวใจของผมเลย

     

                    ตอนนี้ผมรู้สึกเจ็บจนบอกไม่ถูกเลยล่ะ

     

                    อืม...งั้นมึงก็ปล่อยกูได้ล่ะ กูรู้สึกไม่สบาย ปวดหัวจะไปอาบน้ำนอน

     

                    “มึงเป็นอะไรมากหรือป่าว ไปหาหมอไหม?

     

                    “ไม่เป็นอะไรมากหรอก เดี๋ยวกูกินยานอนเดี๋ยวก็หายเองล่ะ ปล่อยกูได้แล้วพูดจบผมก็ผละออกจากอ้อมกอดของไอ้ยงกุกทันที ก่อนที่จะเดินตรงไปที่ห้องนอนและล๊อกประตูห้องทันทีก่อนที่จะปล่อยน้ำตาของผมค่อยๆ ไหลรินลงมาเปอะเปื้อนใบหน้าหวานของผม ทำไมกันนะ...ทั้งๆ ที่สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่มีทางหลงรักมันเด็ดขาด อย่ามอบใจของผมให้กับมัน แต่ผมกับไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองได้เลย ทั้งๆ ที่รู้ว่าสักวันหนึ่งจะต้องเจ็บ ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่เคยรักผม ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันก็แค่อยากได้ร่างกายของผม แต่ผม...กลับยอมยกให้มันทั้งหมด

     

                    หึ...เป็นไงล่ะคิมฮิมชาน เจ็บไหมล่ะ เข็ดไหมล่ะผมพูดพึมพำขึ้นมากับตัวเองก่อนที่จะค่อยๆ ยกมือบางนุ่มนิ่มของตัวเองยกขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้าและเดินไปคว้าพวกผ้าเช็ดตัวและชุดนอนออกมาจากตู้เสื้อผ้าก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไป

     

                    Yonggok

                    ผมเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องนั่งเล่นนับชั่วโมงแล้วตั้งแต่ไอ้เหยินมันขอตัวไปอาบน้ำกินยานอนเพราะว่ามันรู้สึกไม่สบายและปวดหัว แต่ทำไมผมถึงมีความรู้สึกว่าสิ่งที่มันพูดเป็นแค่คำโกหก เพราะว่าก่อนหน้านั้นผมยังเห็นมันดีๆ อยู่เลย จู่ๆ ก็ดันเกิดไม่สบายขึ้นมาซะดื้อๆ มันเลยทำให้ผมรู้สึกสงสัยเป๋นอย่างมาก

     

                    หรือว่ามันจะน้อยใจกับสิ่งที่ผมบอกมันไปว่าผมได้ทุกอย่างที่ผมอยากได้จากมันมาแล้วมันก็เลยโกรธผม เพราะพอผมพูดจบท่าทีของมันก็เปลี่ยนไปทันทีและเสียงของมันก็ดูสั่นๆ เหมือนคนที่จะร้องไห้ เห้อ...ยิ่งผมคิดผมก็ยิ่งรู้สึกเครียด ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก ตั้งแต่ที่ผมกับฮิมชานมีซัมติงอะไรกันผมก็เริ่มมีความรู้สึกว่าผมแคร์มันมากขึ้น อยากอยู่ใกล้มันตลอดเวลา และไม่ชอบเวลาที่มันกรี๊ดกร๊าดให้กับทีวีเวลาที่มีศิลปินเกาหลีวงที่มันชอบโผล่ขึ้นมา เหมือนกับว่าศิลปินคนนั้นจะชื่อว่า ยงกุก แห่งวง B.A.P’ อะไรนี่แหละ อีกอย่างก็คือแม่งเสือกชื่อเหมือนผมอีกนั้นแหละ -*-

     

                    หรือว่าจะโทรปรึกษาไอ้โล่ดีว่ะผมหยุดคิดแปปนึงก่อนที่จะเดินวนต่อเมื่อคิดได้ว่าถ้าผมโทรไปปรึกษามันมันต้องคิดว่าผมไร้น้ำยาไม่มีปัญญาง้อเมียได้ เห้อ...ยิ่งคิดบังยงกุกคนนี้ก็ยิ่งเครียด

     

                    ออกไปดิ้งส์แก้เซงดีกว่ากู คิดได้ดังนั้นผมก็รีบเดินไปคว้ากุญแจรถบนโต๊ะข้างทีวีทันทีก่อนที่จะคว้าเสื้อคลุมและเดินออกจากห้องไป...



     

    ..................................................................

    อันยองจร้ารีดเดอร์ที่น่ารักทุกคนของไรเตอร์ วันนี้ไรท์มาอัพให้ครบ 100 เปอร์แล้วนะจ๊ะ และก็ต้องขอโทดด้วยนะคะที่มาอัพช้ามากกกกกกก พอดีว่าช่วงนี้ไรท์ยุ่งๆน่ะค่ะ แต่ยังไงก็ไม่ทิ้งฟิคเรื่องนี้แน่นอนจะมาต่อให้จบเลยค่ะ และก็อาจจะมีต่อภาคสองด้วยนะคะถ้าเรตติ้งเรียกร้องภาคสองของเรื่องนี้ดี 55555 ยังไงก็ขอเม้นหน่อยนะคะเม้นคือกำลังใจที่สำคัญที่สุดของนักเขียนนะคะ ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยค่ะ >0<

    ปล้ำโล่.เม้นสิๆๆๆ กำลังใจอ่ะไรท์ต้องการ

    ปล้ำโล่ 2.ถ้าอยากให้มีภาคสองก็เม้นด้วยนะคะ

    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×