ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC B.A.P] Sweet love my husband

    ลำดับตอนที่ #16 : Chapter 12 : [ 100% ]

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 57










     

    12

     

     

                    Himchan

                    ตอนนี้ผมกับยงกุกเราสองคนออกมาเดทกันครับหลังจากที่ผมหายเจ็บ...เออตรงนั้น และสามารถเดินได้อย่างปกติโดยที่ไม่ต้องถ่างขาเดิน เราสองคนตกลงกันว่าวันนี้จะออกมาเดทกันที่สวนสนุก และวันรุ่งขึ้นค่อยเข้าไปบอกคุณแม่และคุณลุงมาเราสองคนตกลงจะหมั้นหมายและแต่งงานกันครับ

     

                    และนอกจากผมที่จะมีข่าวดีกับยงกุกแล้ว เมื่อวานตอนที่ผมกำลังนอนเชียร์บอลกับไอ้ยงกุกอยู่เพราะทีมลิเวอร์พูล (อันนี้ผมชอบ) กับแมนยู (ยงกุกชอบ) เตะกันยองแจก็โทรมาบอกผมว่า...มันและเซลโล่ตกลงจะแต่งงานกันแล้ว และที่มันโทรมาบอกผมเพราะว่ามันคิดว่าผมกับยงกุกคงจะลงรอยกันเป็นที่เรียบร้อยเลยกะว่าจะหมั้นและแต่งวันเดียวกันเลย ส่วนผมที่ไม่ได้อะไรมากความอยู่แล้วเลยตอบเออออไป ก็คงจะมีแต่ไอ้เหงือกนี่เนี่ยล่ะที่มันหงุดหงิดไม่เลิกกับคำตอบที่ผมตอบยองแจโดยที่ไม่ได้ปรึกษามันก่อน -0-

     

                    “เมื่อไหร่มึงจะเลิกทำหน้าทำตาเมื่อคนอมขี้แบบนั้นว่ะยงกุก -_-“ และก็เป็นอย่างที่ผมถามมันนั้นแหละครับ...ตั้งแต่เราสองคนออกจากบ้านมาไอ้ห่านี่มันก็ไม่ยอมเลิกทำหน้าเหมือนหมาแดกขี้เข้าไป จนผมถามมันขึ้นด้วยสีหน้าเอื่อมระอาใจถึงขีดสุด ช่างแม่ง...ถ้าคิดว่าทำแล้วหล่อมึงก็ทำไปเถอะ -0-

     

                    “ก็มึงนั้นแหละเหยิน ทำอะไรไม่เคยจะปรึกษากูสักคำอ่ะและมันก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าบูดบึ้งก่อนที่จะทำอมลมเข้าไปจนแก้มป่อง แม่ง...งอนเหมือนเด็กไปได้

     

                    มึงว่าไม่ดีหรอว่ะ...อย่างน้อยกูก็ได้แต่งงานวันเดียวกับเพื่อน ได้มีความสุขวันเดียวกันกับเพื่อน มันเป็นความสุขของกูนะเว้ยยย!!!”

     

                    “มึงกำลังจะบอกกูว่ามึงเป็นเมียกู กูก็ต้องทำตามความสุขมึงอย่างเดียว แล้วความสุขกูล่ะฮิมชานและมันก็ยังคงไม่เลิกพูดจาประชดประชันใส่ผม นี่สรุปมันชวนผมออกมาเดทหรือพาออกมาทะเลาะกันนอกสถานที่กันแน่ว่ะครับ -*-

     

                    “เฮ้อออ....งั้นกูขอเหตุผลมึงหน่อยว่าทำไมมึงถึงไม่อยากให้กูกับยองแจแต่งงานพร้อมกัน วันเดียวกัน และสถานที่เดียวกันผมหยุดเดินและเลิกคิ้วถามมันขึ้นด้วยความสงสัย จริงๆ ผมจะถามมันตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะว่าทำไม แต่เห็นมันมัวแต่เชียร์บอลอย่างสนุกสนานก็เลยไม่อยากจะขัดฟีลมันสักเท่าไหร่ เพราะเหตุนี้เนี่ยล่ะ....มันก็เลยมาวีนใส่ผมเอาวันนี้ -0-

     

                    “อย่างแรกเลยคือกูอยากให้วันนั้นมันเป็นวันของเราแค่สองคน กูอยากมีความสุขกับมึงแค่สองคน และอีกประเด็นหนึ่งคือ...ไอ้เซลโล่แม่งจะชวนเพื่อนมาเยอะชิบหายวายวอดและแน่นอนว่างบทั้งหมดที่เราจะเบิกแม่งจะเยอะมหาศาลกับค่าเหล้าที่มีแม่งจะซื้อมาแดกรวมไปถึงค่าอาหารยงกุกหันมาพูดกับผมด้วยสีหน้าจริงจังแบบสัสๆ ประเด็นแรกของมันดูจากน้ำเสียงและท่าทางของมันดูก็รู้เลยว่ามันพูดเล่น เพราะมันก็ดีใจเหมือนกันตอนผมบอกมันเมื่อวาน (แต่ไม่รู้ทำไมแม่งมาวีนแตกวันนี้ -*-) แต่ดูจากประเด็นที่สองแล้วนั้นก็คงจะเป็นสิ่งที่ทำให้มันหงุดหงิดจริงๆ นั้นแหละ ดูทำหน้าสิ...ถ้าแดกหัวผมได้แม่งทำไปนานล่ะ

     

                    ที่แท้แม่งก็ขี้งกนี่เอง -0-

     

                    “เหตุผลมึงฟังไม่เข้าหูกูมากๆ เลยนะยงกุก

     

                    “มึงยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของไอ้เด็กเวรนั้น แม่งแดกเหล้ายังกับแดกน้ำผมยกมือกุ้มขมับทันทีเพราะความงกและความต่อล้อต่อเถียงของมัน ช่างแม่งเหอะ...กูไม่สนหรอกว่าจะเป็นเพราะอะไรแต่ที่แน่ๆ คือกูจะแต่งวันเดียวกันกับเพื่อนกู

     

                    ไหนๆ ไอ้เหงือกจอมงกนี่ก็พาผมมาเดทที่สวนสนุกล่ะ วันนี้ล่ะ...ผมจะปลดปล่อยออกมาแม่งทุกอย่าง จะเล่นให้อ้วกแตกขี้กระจายเลยคอยดูสิ ><

     

                    ผมลากไอ้ยงกุกไปที่รถไฟเหาะทันทีเมื่อนึกได้ว่ามาเที่ยวสวนสนุกทั้งทีสิ่งที่เราไม่ควรพลาดคืออะไร และมันก็เป็นเครื่องเล่นที่ผมชอบเอาซะมากๆ เลยล่ะ ถึงมันจะสูงถึงมันจะหวาดเสียวมากแค่ไหน แต่คุณรู้ไหมว่ามันเป็นเครื่องเล่นที่ทำให้ผมได้แนบชิดกับคนที่คุณรักมากที่สุดเลยล่ะ >////////<

     

                    “โอ๊ะ!!!!” แต่แล้วมันเป็นเพราะผมรีบหรือผู้หญิงคนนี้ที่รีบมันก็เลยทำให้เราสองคนเดินชนกันอย่างแรงทันทีจนทั้งผมและเธอคนนั้นล้มก้มกระแทกพื้นทันทีทั้งคู่ด้วยความแรกจากการชนเมื่อกี้

     

                    เป็นอะไรหรือป่าวค่ะผู้หญิงคนนั้นที่ดูเหมือนว่าจะลุกขึ้นมาได้ก่อนผมถามขึ้นด้วยน้ำเสียงขอโทดปะปนไปกับความเป็นห่วงเป็นใย เธอยิ้มให้ผมอย่างเบาบางก่อนที่จะยืนมือนั้นมาตรงหน้าผม แต่ทำไม...ผมกับมีความรู้สึกว่าเธอคนนี้เธอตั้งใจที่จะเดินชนผมกันนะ...

     

                    เออ...คือ...ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ ผมต่างหากที่ต้องเป้นฝ่ายขอโทดคุณ คุณ...

     

                    “จีอึนค่ะ...ซองจีอึน เธอพูดขัดขึ้นทันทีที่เห็นผมพูดจาอั้มๆ อึ๋งๆ เพราะว่าไม่รู้จักชื่อของเธอ ผมพยักหน้าตอบรับเหมือนกับว่าเข้าใจและก่อนที่จะเอื้อมมือไปจับมือที่เธอยื่นมาในตอนแรกและลุกขึ้นยืนก่อนที่จะก้มหัวขอบคุณและขอโทดที่ผมเดินชนเธอ

     

                    ฮิมชานกูได้ตะ...จีอึน!!! O_O” ยงกุกที่ดูเหมือนว่าจะซื้อตั๋วเครื่องเล่นเสร็จเรียบร้อยแล้วและกำลังจะเดินมาหาผมอุทานขึ้นทันทีด้วยน้ำเสียงที่ดูสั่นๆ และตกใจแบบสุดๆ ทำไม..สองคนนี้รู้จักกันหรอ?

     

                    อ่าวยงกุก...นายก็มาเที่ยวด้วยหรอ ^^” จีอึนถามขึ้นก่อนที่จะเดินผ่านหน้าผมและเดินไปควงแขนยงกุก ผมเลิกคิ้วขึ้นทันทีด้วยความไม่พอใจที่จู่ๆ ยัยนี่ก็เดินผ่านผมที่ได้ชื่อว่ากำลังจะเป็นภรรยา (?) ของไอ้เหงือกไปควงแขนต่อหน้าต่อตาผม

     

                    ยงกุกหน้าถอดสีทันทีที่เห็นสายตาของผมจับจ้องไปที่การกระทำของยัยจีอึนโดยที่ไม่ละสายตาไปไหนเลยแม้แต่วินาทีเดียว ก่อนที่จะมันแกะมือเรียวของเธอออกและเดินมาหาผมก่อนที่จะโอบไหล่บางของผมให้แนบชิดกับลำตัวแกร่งของมัน

     

                    อื้ม...พอดีว่าพา เมียมาเดตน่ะยงกุกตอบออกไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่นกว่าปกติและสายตาที่โกรธเกรี้ยวที่มองไปยังจีอึน ผมมองตามสายตาของยงกุกก่อนที่จะเห็นสีหน้าของจีอึน...ที่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาและสายตาที่เต็มไปด้วยโทสะ

     

                    สองคนนี้...รู้จักกัน?

     

                    “ไม่เข็ดอีกหรอยงกุก...หลังจากที่จีอึนเงียบไปได้สักพักใหญ่และเอาแต่จ้องหน้ายงกุกเหมือนกับว่าทั้งสองคนกำลังเล่นสงครามทางสายตาอยู่พูดขึ้นทำลายความเงียบก่อนที่จะยกยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างมีเลศนัยและค่อยๆ เดินเข้ามาหาผมมากขึ้นเรื่อยๆ และสายตาที่เคยจับจ้องไปทางยงกุกกับเปลี่ยนเป้าหมายมาที่ผมแทน

     

                    ไม่จำเป็น...เราต่างคนต่างอยู่ ห่างกันมาสักพักทำไมจู่ๆ ถึงโผล่มาล่ะ...ยัยบ้า!!!”

     

                    “ชู่ว...นายไม่ควรพูดกับฉันแบบนี้นะยงกุกจีอึนตอบยงกุกด้วยน้ำเสียงแข็งเหมือนกับว่าเธอกำลังโกรธ แต่เธอก็ยังคงเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ซึ่งเป้าหมายก็คือ...ผม

     

                    คราวนี้มันจะไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ฉันจะไม่ตาม ทำร้ายคนของนาย ไม่ตามราวีอะไรทั้งสิ้น เพราะฉันเหนื่อย...ตามไปก็ไร้ประโยชน์ สู้แย่งคนที่นายรักมาไว้ในครอบครองมันไม่ดีกว่าหรอ ^^”

     

                    “เธอหมายความว่าไง...?

     

                    หมายความว่า ฉันจะไม่แย่งนายมาจากฮิมชานแต่ฉัน จะแย่งฮิมชานมาจากนายยังไงล่ะ

     

                    ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจทันทีที่ได้ยินคำตอบของจีอึน เธอเดินเข้ามาใกล้ผมจนตอนนี้เธอมายืนอยู่ตรงหน้าผมเรียบร้อยแล้วโดยที่ทั้งผมและยงกุกยังไม่ทันได้ตั้งตัว จีอึนยกมือเรียวสวยของเธอขึ้นมาเกลี่ยๆ บริเวณแก้มของผมโดยที่ผมได้แต่หลับตาปี๋ทันทีเพราะความกลัว ถ้าเอาตามความรู้สึกตอนนี้ผมกลับรู้สึกกลัวยัยนี้อย่างบอกไม่ถูก มันเหมือนกับว่าเรื่องไม่ดีในชีวิตคู่ของผมมันกำลังจะมาเยือนในเร็วๆ นี้

     

                    เอามือสกปรกของเธอออกไปจากแก้มฮิมชานเดี๋ยวนี้ยงกุกพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยวแต่จีอึนก็ไม่ยอมหยุดใกล้เกลี่ยแก้มนุ่มนิ่มของผม ผมจึงได้แต่หลับตาอย่างเดียว แต่ผมก็ต้องลืมตาขึ้นทันทีที่ถูกสัมผัสที่แปลกใหม่มาแตะบริเวณแก้ม

     

                    แก้มนายนิ่มเหมือนเยลลี่เลยนะ...ชานนี่อ่า

     

                    “จีอึน!!!”

     

                    “ฉันไปก่อนนะ เดทกันให้สนุกนะจ๊ะก่อนที่หลังจากวันนี้พวกนายจะ ไม่มีโอกาสเดทกันอีก

     

                    พูดจบยัยจีอึนก็เดินจากไปทันทีก่อนที่จะหันมาขยิบตาให้ผมทีหนึ่ง ผมยกมือขึ้นสัมผัสบริเวณแก้มข้างที่เธอจูบเบาๆ ก่อนที่จะถูมันแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความรังเกียจจากสัมผัสที่ยัยนั้นมอบให้

     

                    นี่เรื่องดีๆ ของผมกับยงกุกพึ่งจะผ่านไป...เรื่องเลวร้ายกลับเข้ามาแทรกอีกแล้วหรอ

     

                    ทำไมความรักของผมมันมักจะมีอุปสรรคตลอดเลยนะ T^T

     

                    หลังจากที่เกิดเรื่องที่ยัยจีอึนมาป่วนเราสองคนทั้งผมและยงกุกตอนแรกที่กะว่าจะกลับบ้านเลยเพราะว่าหมดอารมณ์จะเล่นเครื่องเล่นแล้วเลยตัดสินใจมาเดินเล่นด้วยกันบริเวณแถวๆ ชายหาดใกล้ๆ กับคอนโด โดยที่ระหว่างทางไปนั้นทั้งผมและยงกุกก็เอาแต่ปิดปากเงียบไม่มีใครพูดอะไรทั้งสิ้น เราสองคนต่างตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง บอกตามตรงเลยว่าผมรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมากเมื่อรู้อดีตของยงกุก

     

                    ผมรู้ได้ยังไงน่ะหรอ...?

     

                    ผมลองสังเกตเอาจากคำพูดของจีอึนรวมไปถึงคำสารภาพจากปากเจ้าตัวนั้นก็เลยทำให้ผมรู้ความจริงทุกอย่าง ตอนแรกผมก็รับไม่ได้หรอกว่ายงกุกเคยไปทำยัยนั้นท้องแต่พอลองๆ คิดดูอีกทีเรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วด้วย อีกอย่างช่วงหลังๆ มานี่จีอึนก็แทบจะไม่ตามมาละลานยงกุกเลยด้วยซ้ำ ก็คงจะมีแต่ครั้งนี้เนี่ยล่ะที่จู่ๆ ยัยบ้านั้นก็โผล่มา

     

                    ฮิมชาน...ระหว่างที่เราสองคนเดินรับลมชมวิวแล้วต่างคนต่างเงียบอยู่นานแสนนาน ไอ้เหงือกที่หยุดเดินตอนไหนไม่รู้และกำลังใช้เท้าของตนเขี่ยพื้นทรายเล่นเรียกชื่อผมเบาๆ ผมหันไปมองหน้ามันด้วยใบหน้าสงสัยก่อนที่จะหลุบตาลงต่ำเพราะความเขินเมื่อเห็นข้อความบนพื้นทรายที่ยงกุกเขียน

     

                    รักมึงนะ คิมฮิมชาน <3’

     

                    จริงๆ นะ...ในใจผมก็แอบกลัวกับคำพูดของจีอึนเหมือนกัน เพราะผมไม่รู้ว่ายัยนั้นจะมาไม้ไหน แถมอีกอย่างเป้าหมายของเธอไม่ใช่ยงกุกแต่ดันเป็นผม เพราะฉะนั้นผมเลยแอบกังวลเล็กน้อยกับคำขู่ของเธอน่ะ

     

                    กูสัญญานะ...ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไร กูก็จะไม่ยกมึงให้ใครยงกุกพูดขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาหาผมเรื่อยๆ ใบหน้าเปื้อนยิ้มเบาบางที่ทำให้ใบหน้าคมเข้มดูดีมากขึ้นกว่าเก่า สายตาคมดุจเหยี่ยวจ้องมองมาที่ผมด้วยความหมายที่สุดแสนจะลึกซึ้ง นั้นทำให้ผมหน้าแดงกว่าเก่าจนต้องหันหลังให้มัน ไม่งั้นมีหวังตอนกลับบ้านไปโดนมันล้อตายห่ากันพอดี >/////<

     

                    “อืม...รู้แล้วล่ะหน่า ไม่ต้องพูดซ้ำก็ได้

     

                    “เดี๋ยวมึงก็คิดมากอีก กูไม่ชอบเวลาที่มึงเงียบนะ กูเป็นห่วงมึง ยงกุกพูดขึ้นก่อนที่จะส่วมกอดจากทางด้านหลังและเอาปลายค้างมนมาวางไว้บนไหล่ผม ผมหน้าขึ้นสีมากกว่าเก่าแต่ก็ยอมให้ร่างสูงกอดเอาไว้แบบนั้น เพราะว่าผมชอบที่ยงกุกเขากอดผมแบบนี้ มันทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจอยู่เสมอ ไม่ว่าผมจะเครียดมากขนาดไหนแต่ถ้ามีเขาให้กำลังใจอยู่ข้างๆ แค่นี้ก็ชื่นใจมากพอแล้ว ^^

     

                    “อืมๆๆๆ ไม่คิดมากแล้ว กลับบ้านกันเถอะ อยากนอนแล้วอ่ะผมผละออกจากยงกุกก่อนที่จะหันไปพูดกับมันและเขย่งปลายเท้าขึ้นไปจุ๊บปากคนตัวสูงทีหนึ่งก่อนที่จะเดินออกมาด้วยพวงแก้มที่แดงยังกับลูกมะเขือเทศ

     

                    ยิ่งมึงทำแบบนี้กูยิ่งปล่อยมึงไปให้ใครไม่ได้เลยล่ะ ฮิมชาน...^___^”

     

                    Daehyun

                    ตอนนี้ผมกับน้องจงออบเราสองคนออกมากินไอติมด้วยกันครับ เพราะว่าแถวๆ บ้านมีร้านไอติมมาเปิดใหม่และจงออบเข้าก็อยากจะมาลองกินดู ผมก็เลยถือโอกาสนี่เป็นช่วงเวลาเดทของเราสองคนไปซะเลย และก็ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กจะไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่านี่ก็คือหนึ่งในแผนตามจีบน้องเขาน่ะ ><

     

                    “แดฮยอนฮยอง ทำไมอันนี้มันแพงจังเลยอ่ะ จงออบเอาตังออกมาน้อยด้วยจงออบยื่นสมุดภาพรายการต่างๆ มาให้ผมดูก่อนที่จะชี้ไปที่ไอติมถ้วยหนึ่งก่อนที่จะเห็นราคาที่อยู่ในระดับค่อนข้างแพง แน่นอนว่าการที่จงออบพูดขึ้นมาแบบนี้คนตัวเล็กต้องการให้ผมเลี้ยงอย่างแน่นอน

     

                    งั้นเดี๋ยวพี่เลี้ยงจงออบก็ได้ จงออบอยากกินอะไรสั่งเถอะครับผมพูดพร้อมกับยิ้มหวานให้ร่างบางตรงหน้า จงออบมองผมด้วยสายตาที่สุดแสนจะเป็นประกายก่อนที่จะก้มหัวขอบคุณผมและหันไปสั่งเมนูกับพนักงานที่รอจดออเดอร์ของเราสองคนอยู่

     

                    ผมมองคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามผมที่ตอนนี้กำลังนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์อยู่ก่อนที่จะคลียิ้มออกมาโดยที่จงออบไม่รู้เรื่องเลยว่าถูกผมลอบมองอยู่ ตั้งแต่เราสองคนดีกันตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ผมมีความสุขมากๆ เลยล่ะครับ ทำอะไรก็มีความรู้สึกว่าโลกมันเป็นสีชมพูไปหมด เพราะนอกจากจงออบจะทำตัวกับผมดีขึ้นแล้วเขายังชอบอ้อนผมอีกตั้งหาก เหมือนแมวเมี๊ยวเลยล่ะ ><

     

                    “อุ๊ยย!!! ว้ายยย!!!” จู่ๆ ระหว่างที่ผมกำลังยกแก้วน้ำขึ้นดื่มก็ไม่รู้ว่ามีผู้หญิงจากไหนเดินมาล้มทับตัวผม นั้นจึงทำให้น้ำที่ผมกำลังดื่มหกเลอะเทอะเต็มเสื้อของผมและเสื้อกล้ามสีขาวที่เธอกำลังใส่อยู่จนเผยให้เห็นบราเซียร์สุดแสนจะเซ็กซี่ตัวน้อยของเธอ

     

                    นี่มันอะไรกันเนี่ย -0-

     

                    ผมเงยหน้าขึ้นไปมองเธอด้วยสีหน้าไม่ชอบใจนิดหน่อยที่เธอไม่ยอมลุกออกไปจากตัวผมสักทีแถมยังเอาแต่บ่นและโวยวายไม่ยอมหยุด จงออบที่ตอนแรกนั่งเล่นเกมโทรศัพท์อยู่ก็เงยหน้าขึ้นมามองด้วยสายตาหงุดหงิดก่อนที่จะจิกปากอย่างไม่ชอบใจ

     

                    อ่า...เขางอนผมอีกแล้ว

     

                    เออ...คุณช่วยลุกออกจากตัวผมสักทีจะได้ไหมครับผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงติดจะหงุดหงิดและวิตกกังวลใส่ร่างบางของผู้หญิงตรงหน้าที่ดูๆ แล้วเธอคงไม่ยอมลุกออกไปจากตัวผมง่ายๆ

     

                    เธอที่ได้ยินผมพูดแบบนั้นก็หันหน้ามามองผมทันที ใบหน้าของเธอนั้นทำผมแทบหยุดหายใจเพราะความสวยที่เกินคาดของเธอ หน้าเรียวรูปไข่รับกับผิวขาวๆ และแก้มเนียนที่ตอนนี้อมชมพูนิดๆ ริมฝีปากบางรูปกระจับสีเชอร์รี่ที่ถูกตกแต่งด้วยลิปกลอสสีพีชที่สุดแสนจะลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ สันจมูกโด่งสวยรับกับดวงตาเรียวที่ดูดุและหวานภายในเวลาเดียวกัน

     

                    เธอสวยจนผมแทบหลงตั้งแต่ที่ได้สบตา...

     

                    แต่แล้วผมก็ต้องสลัดความคิดนั้นทิ้งเมื่อเห็นสายตาที่จ้องมองมาของจงออบ ภายใต้ดวงตานั้นมีความรู้สึกมากมายที่แฝงมาด้วย แต่ความรู้สึกเดียวที่ผมรับรู้ได้คือ...จงออบกำลังเสียใจ

     

                    ผมเลยรีบดันผู้หญิงคนนั้นให้ลุกขึ้นจากตักผม เธอก้มหัวขอโทดผมยกใหญ่แต่ก็ไม่ยอมเดินไปจากโต๊ะเราสองคนสักทีจนผมเริ่มรู้สึกตงิดใจแปลกๆ ทั้งทีเธอก็ขอโทดพวกผมแล้วทำไมถึงยังมายืนอยู่ตรงนี้อีก

     

                    เออ...คือ...ฉันชื่อกาอินค่ะ  ฮันกาอินเธอตรงหน้าแนะนำตัวให้เราสองคนรู้จักแต่ก็ไม่ยอมเดินไปไหนแถมยังลากเก้าอี้ที่อยู่แถวนั้นมานั่งโต๊ะเดียวกับเราสองคนอีกต่างหาก นี่มันชักจะแปลกๆ แล้วนะเนี่ย

     

                    ครับ...แล้วไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรกับเราสองคนหรือป่าวครับ คุณกาอินแน่นอนว่าจงออบเลือกที่จะเงียบและไม่พูดอะไรออกมาทั้งสิ้น นั้นจึงเป็นผมเองที่ถามแบบนั้นออกไป บอกตรงๆ เลยนะว่าผมไม่ไว้ใจผู้หญิงคนนี้สักเท่าไร ก็เพราะท่าทางแปลกๆ ของเธอ และคำพูดอึกๆ อักๆ แถมการแต่งตัวรวมไปถึงการมาชนผมแบบนั้นทั้งที่มันก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เหมือนกับว่าเธอจงใจจะมายั่วผม ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุแน่นอน

     

                    เออ...พอดีฉันทำโทรศัพท์หายน่ะค่ะ เลยจะมา...

     

                    “ขอยืมโทรศัพท์?

     

                    “ประมาณนั้นน่ะค่ะ แหะๆๆคำตอบของเธอยิ่งทำให้ผมสงสัยมากไปกว่าเก่า เพราะว่าการที่เธอจะมายืมโทรศัพท์ผมแค่บอกดีๆ ผมก็ให้เธอยืมแล้ว แต่นี่อะไร...ถึงกับลงทุนมาชนผมให้น้ำหกเลอะเสื้อเธอจนเห็นอะไรต่อมิอะไรไปถึงไหน อีกอย่างก็คือ...ทำไมต้องเป็นผม ทั้งๆ ที่ผู้คนในร้านก็ไม่ได้มีเพียงแค่ผมกับจงออบที่มาใช้บริการร้านไอติมนี่

     

                    แล้วทำไมคุณ...

     

                    “นะคะฉันจำเป็นต้องใช้จริงๆ

     

                    “คือผม...เพราะคำพูดของกาอินและเสียงของเธอที่ดูเหมือนจะดังจนเกินไปนั้นจึงทำให้ผู้คนในร้านต่างพากันมามองเราสองคนเป็นตาเดียวกัน ผมปรายตาไปมองกาอินที่นั่งอยู่ตรงกลางโต๊ะก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากันทันทีเมื่อเห็นริมฝีปากบางสวยของเธอยกยิ้มขึ้น

     

                    ยัยนางมารร้าย...

     

                    โอเคครับ...แต่รีบๆใช้หน่อยนะ พอดีเราสองคนต้องกลับกันแล้ว

     

                    “หื้ม...แต่ไอติมของพวกคุณสองคนยังไม่ได้มาเสิรฟ์เลยนะคะเธอพูดขึ้นก่อนที่จะขยับเข้ามาประชิดตัวผมมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่จะใช้ปลายนิ้วเรียวลูบไล้ไปตามแก้มนวลของผม ผมเห็นใบหน้านิ่งเฉยของจงออบมองมาทางผมด้วยสายตานิ่ง แต่น้ำตาของคนตัวเล็กนั้นเริ่มเอ่อคลอมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งผมเห็นจงออบทำสีหน้าและท่าทางแบบนั้นผมก็รีบปัดมือของกาอินออกจากใบหน้า และจ้องมองเธอด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของผมนั้นบ่งบอกถึงอารมณ์โทสะเป็นอย่างมาก

     

                    กาอินจ้องหน้าผมด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างแรงจากการที่ถูกผมปฏิเสธก่อนที่จะรับโทรศัพท์จากมือผม เธอกดๆ จิ้มๆ อยู่สักพักใหญ่และคืนมันให้ผม ผมจ้องมองการกระทำของเธอทุกอย่างและเริ่มตงิดๆ ใจเล็กน้อยที่เธอเอาโทรศัพท์ผมไปทำอะไรบางอย่าง ไม่ใช่ใช้โทรออกหาโทรศัพท์ตัวเองอย่างที่ผมเข้าใจ

                    เธอยิ้มให้ผมอย่างเบาบางก่อนที่จะลุกขึ้นและก้มให้เป็นเชิงขอบคุณและเดินจากไป แต่สายตาของเธอที่มองมาทางจงออบนั้นบ่งบอกได้ถึงความไม่เป็นมิตรอย่างแรงจนผมนั้นไม่ชอบใจกับสายตาจากดวงตาเรียวสวยนั้น จงออบจ้องเธอตอบเช่นกันแต่ในแวตาของเขาบ่งบอกได้ว่าคนตัวเล็กกำลังกลัว

     

                    ไม่เป็นไรนะ...ผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาก่อนที่จะยื่นมือไปเช็ดคราวน้ำตาจากหางตาให้ร่างบางตรงหน้า บอกตรงๆ ว่าตอนนี้ผมเป็นห่วงสภาพจิตใจของจงออบมาก เพราะเราไม่รู้ว่าจะเจอเธออีกเมื่อไหร่ แล้วยัยนั้นจะมาไม้ไหนอีก แถมสายตาที่มองไปทางจงออบด้วยความอาฆาตแค้นนั้นยิ่งทำให้ผมไม่สบายใจเข้าไปใหญ่

     

                    หลายๆ คนอาจคิดว่าการที่ผมโดนสาวสวยยั่วสวาทขนาดนั้นมานั่งบนตักแถมเสื้อสีขาวๆ นั้นยังเลอะน้ำจนเห็นไปถึงไหนทำไมถึงไม่รู้สึกชอบหรือว่าหลงอะไรทำนองนั้น บอกตามตรงเลยถึงผมจะเป็นเพลย์บอยส์เจ้าชู้ฟันผู้หญิงเป็นว่าเล่น แต่ผู้หญิงที่ผมฟันผมก็เลือก ไม่ใช่จะเป็นใครหน้าไหนก็ได้ที่จะมาช่วยระงับอารมณ์กามของผมได้ตลอดเวลา และผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ได้กับผมล้วนแล้วเป็นผมที่เป็นฝ่ายเข้าหา ไม่ใช่เธอพวกนั้นที่เข้าหาผมถึงแม้ผมจะฮอตจนสาวกรี๊ดทั้งมหาลัยก็ตาม

     

                    ผ..ผมกลัวเขาจงออบพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาก่อนที่จะหลุบตาลงต่ำเพื่อหลบสายตาที่จ้องมองมาของผม ยิ่งผมเห็นเขาเครียดและแลดูกลัวมากขนาดนี้ มันก็ยิ่งทำให้ผมเป็นห่วงเขามากกว่าเก่า

     

                    ไม่ต้องกลัวจะครับ พี่สัญญาว่าจะอยู่ปกป้องจงออบจากยัยนั้น พี่จะไม่ทิ้งจงออบไปไหน ^^”

     

                    “ส..สัญญาแล้วนะ ฮึก!!” จงออบพูดพร้อมกับสะอื้นเพราะพึ่งหยุดร้องไห้ไปมาดๆ พอดีกับที่พี่พนักงานมาเสริฟ์ไอติมให้เราสองคนพอดี จงออบแกล้งปั้นยิ้มให้พี่สาวคนนั้นก่อนที่จะรับไอติมมาให้ผมก่อนที่จะลงมือกินของตัวเอง แต่สีหน้าของเขาบ่งบอกได้เลยว่าเริ่มรู้สึกดีขึ้นถึงแม้จะยังหวาดกลัวอยู่บ้าง นั้นก็พอที่จะทำให้ผมพอสบายใจขึ้นมาหน่อย อย่างน้อย..

     

                    มันก็ทำให้จงออบสบายใจขึ้น...

     

                    Jieun

                    ฉันยืนมองร่างของฮิมชานและยงกุกที่กำลังยืนกอดกันอยู่ที่ชายหาดด้วยความเจ็บปวดใจ แล้วไง...ก็แค่ผู้ชายสองคนที่ยืนกอดกันโดยที่ไม่แคร์สายตาของคนอื่นที่จับจ้องมาทางตน แต่มันอาจจะรู้สึกดีกว่านี้ก็ได้ถ้าทั้งสองคน ไม่ได้รักกัน

     

                    แต่จะว่าไป...การกลับมาครั้งนี้ของฉันมันก็ประสบความสำเร็จไม่น้อย ถึงแม้ว่ามันจะเป็น แผนก็เถอะ แต่มันก็อดไม่ได้ที่ฉันจะหึงยงกุก ก็เราสองคนเคยรักกันมากนี่ แต่ต้องมาเลิกกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง นั้นก็เลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความบ้าคลั่งของฉัน กว่าฉันจะรู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไป...มันก็สายไปซะแล้วล่ะ

     

                    บอกตามตรงเลยก็ได้ว่าที่ฉันค่อยทำลายชีวิตคู่ของ ยังโยซอบตอนที่เขากำลังคบกับยงกุกเพราะฉันรับไม่ได้ที่ยงกุกทิ้งฉันไปและไปคบกับไอ้เด็กนั้น ที่ฉันทำเพราะว่าฉันต้องการเงินของเขา บ้านของยงกุกรวยมากถึงขนาดติดท็อปเทนของประเทศเลยก็ว่าได้ แต่ดูเหมือนว่าฉันยิ่งทำ มันก็ยิ่งทำให้ยงกุกเกลียดฉันมากกว่าเดิม ฉันก็เลยตัดสินใจที่จะเป็นคนถอยออกมาจากชีวิตของเขา และสาบานกับตัวเองว่าจะไปกลับเข้าไปวุ่นวายในชีวิตของผู้ชายคนนี้อีก

     

                    แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้ฉันจะกลับคำพูดซะแล้วล่ะ...

     

                    ฉันเดินทอดน่องไปตามทางเดินบนถนนริมฟุตบาทข้างๆ กันกับชายหาดแสนสวย สายตาจับจ้องไปยังท้องฟ้าสีหม่นที่บ่งบอกได้ว่าตอนนี้คือเวลาพลบค่ำแล้ว อากาศที่เริ่มหนาวเย็นจับใจขึ้นเรื่อยๆเพราะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว เสียงนกน้อยร้องประสานเสียงกันไพเราะเสนาะหู แต่ความรู้สึกของฉันตอนนี้มันกลับป่นปี้ไปซะเสียหมด

     

                    ฉันผิดคำสาบานที่ให้ไว้กับตัวเอง...

     

                    ถึงแม้มันจะเป็น บททดสอบความรักของทั้งสองคนที่มีคนมาไหว้วานไว้ ที่คำสาบานสำหรับฉันนั้นเป็นเรื่องที่สำหรับกับชีวิตมากๆ เลยล่ะ ฉันเลยค่อนข้างที่จะรู้สึกแย่ที่ต้องมาทำให้ความรักของทั้งสองคนต้องมาแตกแยกเพราะเพียงความมั่นใจของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย

     

                    บอกตามตรงเลยว่าตอนที่ฉันเจอยงกุกกับฮิมชานครั้งแรกฉันแทบจะทำอะไรไม่ถูกเลย ไม่รู้ว่าจะเริ่มแผนการยังไงดี ไม่รู้ว่าจะทำสีหน้ายังไงตอนเจอยงกุก ไม่รู้ว่าเขาจะด่าฉันด้วยถ้อยคำรุนแรงอะไรบ้าง และ...ไม่รู้ว่าทำไมฉันต้องรู้สึกหึงเวลาที่เขาทำตัวหวงฮิมชานจนออกนอกหน้า...

     

                    แต่มันก็เป็นเพียงแค่ความรู้สึกของฉันที่ไม่สามารถบอกใครได้ ฉันมันก็แค่หมากตัวหนึ่งในแผนการก็เท่านั้นเอง มีหน้าที่ทำตามคำสั่งไม่สามารถขัดขืนทำนอกเหนือจากนั้นได้ แต่..

     

                    ถ้าสมมติแผนการครั้งนี้ฉันนึกสนุกอยากจะทำมากกว่าแผนการล่ะ

     

                    มันชักจะสนุกแล้วสิ..

     

                    แล้วนายจะต้องกลายเป็นของฉัน...คิมฮิมชาน J

     

     

                    ………………………………………………………………

                    อยากจิกรี๊ดจ้า เป็นอีกสามสิบเปอร์เซ็นที่สั้นโครตๆ ขอโทดนะตัวเอง ฮืออออออ ไรท์อาจจะไม่ได้เข้ามาอัพประมาณสามสี่วันนะ เนื่องจากไปต่างจังหวัดจ้า แต่จะหิ้วโน๊ตบุ๊คไปแต่งด้วยเน้อ กลับมาจะได้อัพโลด

                    ฟิคเรื่องนี้คาดว่าคงจะมากกว่ายี่สิบตอนก็ว่าได้ แต่อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาหลายรสชาตินะแจ๊ะ และก็มีเปิดพรีด้วยยย รีดเดอร์ที่ติดตามอุดหนุนกันเยอะนะ นี่เป็นรวมเล่มครั้งแรกของไรท์พูดเลย 5555 และมันก็จะกลายเป็นความทรงจำที่ดีของเราด้วยนะ (ห๊ะ?) ยังไงก็...อุดหนุนกันเยอะๆนะคะ อิอิ จุ๊บ

     

     


    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×