คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 11 : [ 100% ]
11
DAEHYUN
“ไม่เอา...ถ้าฮยองไม่พาผมไปผมก็จะไม่คุยกับฮยองแล้ว” เจ้าเด็กดื้อจงออบพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงติดจะงอนเล็กน้อยใส่ผม ก็เพราะตั้งแต่เจ้าเด็กดื้อนี่หายไข้และเราสองคนก็กลับมาคืนดีกันแล้วโดยที่ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้เจ้าตัวเล็กเสียใจอีก พอเห็ยว่าผมตามใจก็เท่านั้นล่ะ...ออกลวดลายเชียวเลยล่ะ -0-
“จงออบอย่าดื้อได้ไหม...พี่ก็แค่อยากพักผ่อนอยู่บ้านน่ะ รู้สึกปวดหัวนิดหน่อย” ผมโกหกออกไปคำโตเพื่อปฏิเสธคำเชิญชวนไปเที่ยวสวนสนุกของจงออบ จงออบที่ได้ยินแบบนั้นก็ตีหน้าเศร้าทำสีหน้ารู้สึกผิดใส่ผมอย่างแรงทันที ผมที่เห็นภาพนั้นก็ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ก่อนที่จะลุกขึ้นไปกอดร่างบางและลูบหัวเป็นเชิงปลอบ
ผมไม่อยากทำให้เขามานั่งคิดมากกับคำโกหกของผมน่ะ
“ผมขอโทดนะ...ผมงี่เง่าเองล่ะ ผมเห็นว่าฮยองตามใจผม ผมก็เลย...ก็เลย...ฮึก !”
“ไม่เป็นไรครับคนดี พี่ไม่เป็นไรแล้วล่ะครับ แต่วันนี้พี่อยากพักผ่อนจริงๆ เอาเป็นว่าถ้าพี่หายแล้ว...พี่จะพาจงออบไปแน่นอนครับ หยุดร้องได้แล้วนะ”
“จริงหรอครับ ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ รักแดฮยอนฮยองที่สุดเลยยย ^____^”
จู่ๆ ผมก็รู้สึกใจเต้นแรงขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำว่า ‘รัก’ ออกมาจากปากของคนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังส่วมกอดเอวของผมอยู่พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มหวานให้ผมจนตาหยี ผมจึงมองจงออบตอบก่อนที่จะคลียิ้มบางๆ ที่ผมคิดว่ามันน่าจะหล่อที่สุดไปให้ก่อนที่จะโน้มใบหน้าลงมาจูบหน้าผากร่างบาง
จงออบหน้าขึ้นสีทันทีที่ผมจู่โจมคนตัวเล็กที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวก่อนที่จะก้มหน้างุดหลบสายตาเจ้าเล่ห์ของผม ผมหัวเราะเบาๆ ในลำคอเล็กน้อยก่อนที่จะผละออกจากร่างบางเดินเข้าไปในครัว ผมกลัว...กลัวว่าจะอดใจไม่ไหวและเผลอ ‘ทำอะไร’ ร่างบางลงไป ผมไม่อยากทำให้เขาเจ็บปวดกับอารมณ์ของผม ผมไม่อยากให้ร่างกายของจงออบมาแปดเปื้อนสิ่งไม่ดีที่มาจากตัวผม ถ้าเป็นไปได้...ผมก็อยากให้เจ้าตัวพร้อมและเป็นคนเอ่ยปากบอกผมเอง
ผมจะรอ...
รอวันที่จงออบพร้อมที่จะเป็นของผมและสามารถพูดคำว่า ‘รัก’ ออกมาได้เต็มปากเต็มคำ ไม่ใช่ก่ำกึ่งความสัมผัสของเราสองคนแบบนี้ แม้กระทั่งตัวผมเอง...ก็ยังไม่รู้เลยว่าคิดกับจงออบใน ‘ฐานะ’ อะไรกันแน่
น้องชายหรือ....คนรัก
HIMCHAN
“มึงจะนอนมองกูอีกนานไหมฮ่ะไอ้เหงือก =_=” ผมถามมันออกไปด้วยความไม่สบอารมณ์แบบสุดๆ ที่มันเอาแต่นอนหันมาทางผมและจ้องหน้าผมพร้อมกับคลียิ้มออกมาไม่ยอมหยุด ตั้งแต่เราสองคนตกลงเป็นของกันและกันและนัดแนะกันไว้ว่าจะไปคุยเรื่องงานแต่งกับแม่แลพ่อของไอ้ยงกุกมันก็เอาแต่มองผมไม่ยอมหยุด และแน่นอนว่าผลที่เนื่องมาจากกิจกรรมอย่างว่าทำให้ผมลุกจากเตียงไม่ได้เลย ก็วันนั้นมันดันเล่นผมล่อกันจนเช้าเลยไงล่ะ -0-
“ทำไม กูมองเมียตัวเองไม่ได้ไงว่ะ ก็เมียกูออกจะน่ารักน่าฟัดซะขนาดนี้” พูดจบมันก็โน้มหน้าเข้ามาหอมแก้มผมฟอดใหญ่สองสามทีจนแก้มผมนั้นแทบช้ำ ผมทุบลงไปที่แผงอกแกร่งของมันเบาๆ ก่อนที่จะก้มหน้าซุกลงกับแผงอกของไอ้เหงือกเพื่อปกปิดแก้มที่ขึ้นสีระเรื่อแดงมากขึ้นเรื่อยๆ แม่ง...ทำไมชอบมาทำให้กู้เขินจังเลยว่ะ >//////<
“แล้ว...มึงจะไปเยี่ยมจงออบวันไหน กูว่าน้องมึงคงได้เฉาตายก่อนแน่นอนเลยว่ะ พี่ชายหายออกมาเป็นเดือนแบบนี้” เออ!!! ใช่!!! ผมเกือบลืมน้องชายสุดที่รักของผมไปซะสนิทเลยนะเนี่ย ถึงแม้ว่าจงออบเขาจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าผมสักเท่าไหร่แต่เราสองคนก็รักกันมากเลยล่ะ จงออบเขาเป็นประเภทไม่ค่อยแสดงออกมาน่ะครับ แต่การกระทำของเขาทุกอย่างนั้นบ่งบอกได้ชัดเจนเลยล่ะ
“กูว่าจะเข้าไปเยี่ยมตอนเข้าไปคุยกับแม่เลยน่ะ อีกอย่าง...เพราะมึงทำให้กูลุกจากเตียงไม่ได้อยู่นี่ไง ไม่งั้นกูไปตั้งนานแล้วล่ะ”
“ก็กูดีใจนี่หว่า กูขอโทดนะ...ที่ทำกับมึงรุนแรงแบบนั้นน่ะ”
“ดีนะที่กูเป็นผู้ชาย ถ้ากูเป็นผู้หญิงปานนี้ลูกยกโหลแล้วมั้งสัส -0-“ ผมบ่นอุบอิบใส่ไอ้ยงกุกที่หัวเราะรวนไม่ยอมหยุดแบบคนที่ไม่ได้รู้สึกผิดห่าอะไรเลย แต่จะว่าไป...ผมก็มีความสุขเหมือนกันนะที่ได้อยู่ข้างๆ มันแบบนี้ มันรู้สึกอุ่นใจดี เหมือนมีคนที่คอยปกป้องตลอดเวลา ถึงแม้บางครั้งมันอาจจะชอบฉวยโอกาสผมไปบ้างก็เถอะ -_-
“ยงกุก...”
“ว่าไง...กูนึกว่ามึงหลับแล้วซะอีกเห้นเงียบไปนาน”
“มึงรักกูมากไหม” ผมถามมันออกไป จริงๆนะ...ถึงแม้ผมจะมั่นใจในตัวมันมากแค่ไหน แต่ผมกลัว...กลัวว่าสักวันมันจะเบื่อผม และทิ้งผมไปหาคนอื่น กลัว...กลัวว่าที่มันเข้าหาผมเพื่อจะหลอกฟันฟรี และก็กลัว...กลัวว่าความรักระหว่างเราสองคน...มันเป็นแค่ความฝัน...
“รักสิ...”
และกลัวว่าคำบอกรักที่ออกมาจากปากมัน...เป็นเรื่องโกหกทั้งหมด...
“รักมึงมาก รักจนกูโงหัวไม่ขึ้น กูไม่รู้ว่ากูรักมึงตอนไหน แต่พอกูมีความรู้สึกว่ากำลังเสียมึงไป...มึงรู้ไหมว่าตอนนั้นกูเจ็บที่ใจมากแค่ไหน กูเป็นห่วงมึงทุกเวลาที่มึงออกไปข้างนอก อยากจะโทรถามตลอดเวลาว่ามึงเป็นยังไงใครทำอะไรไหม อยากจะอยู่ใกล้มึงตลอดเวลา อยากจะดูแลมึงไปทั้งชีวิต”
“มึงคิดดีแล้วหรอ...ที่จะมาแต่งงานกับกูน่ะ ยงกุก”
“อือ...กูคิดดีแล้วล่ะ ไม่งั้นกูจะตามง้อมึงหาพ่องมึงหรอครับ คุณเมีย -0-“
“ทะลึ่งล่ะมึง ด่าซะล่อพ่อกูเลย -_-“ ไอ้ยงกุกหัวเราะคิกคักกับคำพูดด่าทอบันทอนใจของผมก่อนที่มันจะกระชับอ้อมกอดผมมากขึ้นและจูบที่ผมสีบลอนด์นุ่มนิ่มของผม มันบอกว่ามันชอบผมทรงนี้และสีนี้ มันดูเข้ากับผมดีและทำให้หน้าตาผมดูน่าแดกและปลุกเร้าอารมณ์มันมากขึ้น ถามจริง...นี่ผมควรดีใจใช่ป่ะ?
“กูก็รักมึงเหมือนกัน...ยงกุก”
YONGJAE
ไม่ชอบ...นี่คือความรู้สึกแรกของผมตั้งแต่ไอ้เด็กเวรเซโล่มันพาผมมากินไอติมที่ร้านไอติมชื่อดังแถวย่านคอนโดมัน
เพราะอะไรผมถึงไม่ชอบน่ะหรอ....คุณก็ดูเอาเองเถอะครับ ตั้งแต่เราสองคนเข้ามาในร้านและสั่งพวกออเดอร์ไอติมเสร็จ ไอ้เซโล่มันก็เอาแต่เม้ามอยส์หอยกาบกับอีพนักงานต้อนรับหน้าสวยที่มันพยายามจะมาอ่อยไอ้เซโล่ ซึ่งแน่นอน...ว่ามันก็ไม่คิดจะปฏิเสธแม่สาวไอติมยั่วสวาทนี่เลยแม้แต่น้อย
เห็นแล้วมันน่าโมโหไหมล่ะครับ -_-*
“วันนี้เธอว่างหรือป่าวล่ะ จะไปช้อปปิ้งกับพวกเราไหม พอดีผมก็จะพาพี่ยองแจไปเดินซื้อของอยู่พอดีน่ะ”
ขวับ!!!!
ผมหันไปมองไอ้เด็กบ้านี้ทันทีที่มันเอ่ยชวนแม่นี่ให้ไปเที่ยวกับพวกผม หล่อนทำหน้าทำตาเป็นประกายใสปิ๊งทันทีที่ได้ยินไอ้เด็กไม่รู้จักพออย่างไอ้เซโล่ แต่ก็ไม่วายหันมาส่งสายตาเยาะเยยผม ผมที่เห็นแบบนั้นก็จิกตาใส่แม่นี่ทันทีด้วยความไม่ชอบใจ อย่าให้ผมรู้นะว่าไอ้เซโล่มันแอบคิดอะไรกับแม่สาวพนักงานนี่นะ ไม่งั้นผมเอามันตายแน่!!!
“ไอติมมาเสริฟ์แล้วค่ะ” ระหว่างที่ผมกำลังใช้ความอดทนเข้าสู่กับภาพบาดตาบาดใจตรงหน้า พี่สาวสุดสวยที่เป็นคนมารับออเดอร์ไอติมของเราสองคนก็เอาไอติมมาเสริฟ์ เธอฉีกยิ้มหวานให้ผมหนึ่งทีก่อนที่จะก้มหัวให้แล้วเดินจากไปให้บริการกับลูกค้าโต๊ะอื่น
“เซโล่อ่า...เดี๋ยวลิซซี่ป้อนให้นร้า ^____^” นังลิซซี่เสนอหน้าขึ้นมาทันทีที่หล่อนเห้นว่าไอติมมาเสริฟ์ที่โต๊ะผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมปลายตามองหล่อนแปปหนึ่งก่อนที่จะจิกตาใส่เธอเพื่อให้หล่อนรู้ว่าผมไม่ชอบที่เธอมาทำกับเซโล่แบบนี้ แต่ดูเหมือนว่ายิ่มผมยุยัยนี้ก็ทำมากขึ้นเรื่อยๆ
ผมลุกขึ้นจากโต๊ะทันทีเมื่อคิดแผนอะไรดีๆ ออกก่อนที่จะหยิบถ้วยไอติมผมตามมาด้วย ลิซซี่และเซโล่มองผมตาไม่กะพริบทันทีที่เห็นผมลุกพรวดพราดขึ้นมาแบบนั้น
ผมเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเซโล่ เซโล่มองผมตาปริบๆ ก่อนที่จะเบิกตากว้างด้วยความตกใจทันทีที่เห็นผมตักไอติมหลากหลายรสเข้าปากก่อนที่จะโน้มใบหน้าลงไปประกบปากจูบกับไอ้เซโล่ทันทีและส่งไอติมรสต่างๆ เข้าไปในปากของอีกฝ่าย ผมปรายตาไปมองยัยลิซซี่ที่ตอนนี้ทำหน้าเหว่อเพราะความตกใจสุดๆ จนผมนั้นยกยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างพึ่งพอใจ
“ไม่เป็นไรหรอกลิซซี่...เดี๋ยวฉันป้อนเอง เธอจะไป ‘อ่อย’ ใครที่ไหนก็ไป ^^” ลิซซี่หน้าซีดทันทีที่เจอผมแผงฤทธิ์เดชใส่ไปแบบนั้นก่อนที่จะรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งติดกับเซโล่และไปทำหน้าที่ของตนทันที
ผมปรายตาไปมองไอ้เซลโล่ด้วยความไม่พอใจสุดๆ ที่มันยังไม่ยอมเลิกนิสัยเจ้าชู้เก่าๆ ของมัน ก่อนที่จะเดินถือถ้วยไอติมของตัวเองไปนั่งกินที่โต๊ะอื่นแทนที่จะไปนั่งตรงข้ามกับมัน จนเซลโล่ที่มองมาที่ผมและหวังว่าผมจะไปนั่งกับมันถึงกับหน้าเจื้อนทันที
เซลโล่รีบลุกจากที่นั่งตัวเองแล้วลุกมานั่งข้างผมด้วยท่าทีออดอ้อนแบบสุดๆ ส่วนผมที่นั่งกินไอติมอยู่อย่างสบายใจเฉิบในตอนแรกก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาตงิดๆ เมื่อไอ้เด็กเวรนี่มันมาเกาะแกะแขนข้างขวาของผมไม่ยอมหยุด -0-
“ฮยองอ่า...อย่างอนผมนะ ที่จริงแล้วผมไม่ได้สนใจยัยลิซซี่อะไรนั้นเลยนะ จริงๆ นะ (‘ ‘)” เซลโล่ทำหน้าแอ๊บแบ๊วที่มันคิดว่าแบ๊วมากที่สุดของมันใส่ผม แล้วเมื่อกี้หมาตัวไหนมันยอมให้นังพนักงานสาวเสริฟ์นั้นมาป้อนไอติมให้ถึงทีว่ะครับ -_-*
“ปล่อยนะ...กูจะแดกไอติม” ผมพูดพลางพยายามแกะมือตุ๊กแกของเซลโล่ออกจากแขนของผม ส่วนเซลโล่ที่ผมผมทำแบบนั้นแทนที่มันจะรู้ว่าผมโกรธมันมากแค่ไหนแต่มันก็เปลี่ยนจากจับแขนผมมาเป็นกอดผมแทน และนั้นมันก็เลยทำให้กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนในร้านมากยิ่งขึ้นกว่าการที่ผมไปป้อนไอติมมันด้วย...ปากซะอีก -//////-
“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ...ไม่งั้นคืนนี้กลับบ้านไป...”
“จะทำไมหรอครับ...? (‘^’)”
“กูจะ...จะไม่ให้มึงนอนในห้อง” ผมพูดออกไปเมื่อคิดไม่ออกว่าคืนนี้ผมจะทำอะไรมัน บอกตามตรงเลยนะว่าตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาเราสองคนก็กัดกันแทบจะทุกวัน และฝ่ายที่ง้อผมนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นเจ้าเด็กเวรนี่หรอกครับ แต่ไม่รู้ทำไม...อยู่ไปอยู่มาไอ้แผนที่ผมคิดจะแก้แค้นมันและไม่ให้อภัยมันที่มันขืนใจผมกับลดลงไปเรื่อยจนตอนนี้มีคำว่า ‘รัก’ เขามาแทนที่ เพราะอย่างงี้เนี่ยล่ะที่ผมไม่ชอบที่มันสนใจผู้หญิงคนอื่นมากกว่าผม
“ผมรู้ว่าฮยองไม่กล้าหรอก ฮยองหวงผมยังกับอะไร แค่ผมคุยงานกับเพื่อนฮยองยังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเลยนะ เมื่อวันก่อนน่ะ” และมันก็เริ่มขุดเรื่องในอดีตขึ้นมาพูดให้ผมเจ็บใจเล่นอีกเช่นเคย ใช่แล้วครับ...เมื่อวันก่อนตอนที่ผมกำลังอาบน้ำอยู่และเห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาคุยกับมันในห้องรับแขกโดยที่ตอนแรกผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเธอเป็นเพื่อนของไอ้เด็กนี่ นั้นก็เลยทำให้ผมโกรธมันหัวฟัดหัวเหวี่ยงถึงกับด่าพ่อล่อแม่ จนในที่สุด...ความจริงก็เฉลยเมื่อผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นมาเองว่าไม่ใช่กิ๊กเป็นแค่เพื่อนพร้อมกับโชว์รูปแฟนให้ผมดู เท่านั้นล่ะครับ...ผมถึงกับหน้าแตกและรีบวิ่งหนีเข้าห้องนอนทันที
“ก็ตอนนั้นใครมันจะไปรู้เล่า อย่ามาขุดขึ้นมาพูดนะ ไม่งั้นกูจะงอนมึงจริงๆ ด้วย”
“โอเคคร้าบบบบบบ ไม่ขุดก็ไม่ขุด แต่...ฮยองรีบกินเถอะไอติมละลายหมดแล้วนะ”
“แล้วจะกินยังไงถ้ามึงเอาแต่กอดกูแบบนี้ -*-“
“เอ้า ไม่เกี่ยวกันอ่ะ จะกินกินไปดิ ผมแค่กอดไม่ได้ไปจูบปิดปากฮยองซะหน่อย”
ผมหน้าขึ้นสีทันทีที่เซลโล่พูดจบ จริงๆ แล้วมันก็รู้นะว่าผมเป็นคนขี้อายมากขนาดไหนเวลาที่ได้ยินมันพูดจามรเลศนัยส์แบบนี้ใส่ แต่มันก็ไม่ยอมหยุดพูดแถมมันยิ่งจะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ด้วยซะอีก >///////<
ตอนนี้เราสองคนกินไอติมเสร็จเรียบร้อยแล้วและกำลังเดินเล่นอยู่ในสวนสาธารณะแถวๆ คอนโดของเซลโล่ ใช่แล้วล่ะ...ผมย้ายมาอยู่กับมันได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว เพราะมันกลัวว่าผมจะเป็นอันตรายถ้าอยู่ที่ห้องแค่คนเดียว ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะอันตรายยังไง เพราะว่าที่คอนโดนั้นผมก็อยู่มานานแล้วตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ที่มหา’ลัย เพราะมันสะดวกต่อการเดินทางมาเข้าคาบเรียน แต่ไม่ว่าผมจะเถียงจนหัวชนฝาปากแทบฉีกขนาดไหนไอ้เด็กนี่มันก็ไม่ยอมให้ผมอยู่ที่ห้องคนเดียว แถมยังบังคับขู่เข็นผมให้มาอยู่กับมันให้ได้
จริงๆ แล้วผมว่ามาอยู่กับไอ้เซลโล่มันก็ดีเหมือนกันนะ เพราะว่ามันดูแลผมดีทุกอย่าง ตั้งแต่ทำอาหารยันซักเสื้อผ้าโดยที่มันไม่ให้ผมแตะงานบ้านงานเรือนเลยสักนิดเดียว โดยมีข้ออ้างควายๆ ของมันนั้นก็คือ ‘กลัวมือผมจะด้านเวลาประสานตอนร่วมกินกันมันจะไม่มันส์’ -0-
“นี่ฮยอง กำลังคิดอะไรอยู่น่ะ ทำไมดูเหม่อๆ” ผมหลุดออกจากภวังค์ทันทีเมื่อได้ยินเสียงดูเป็นกังวลของเซลโล่ดังขึ้นข้างหู ผมหันไปมองมันก่อนที่จะฉีกยิ้มกว้างและส่ายหน้าไปมาเพื่อให้มันสบายใจ และมันก็จริง...การกระทำของผมทำให้ร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ ยิ้มขึ้นมาได้ทันที
“แล้วนี่...เราจะกลับกันกี่โมง นี่มันเริ่มมืดแล้วนะ อากาศก็เย็นด้วย เดี๋ยวมึงก็เป็นหวัดเอาหรอก” ผมพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าติดจะวิตกกังวลนิดๆ เมื่อเห็นว่าเราสองคนเดินกันมาได้สักพักแล้ว และก็ดูเหมือนว่าอากาศมันเริ่มจะเย็นขึ้นเรื่อยๆ และท้องฟ้าที่เริ่มมืดมัวและไร้ซึ่งผู้คน
“เดี๋ยวก็กลับแล้วล่ะ นานๆ ทีผมจะพาฮยองออกมาเดินเล่นบ้าง”
“อืม...ให้อีกแค่แปปเดียวนะ กูเริ่มเหนียวตัวแล้วด้วย อยากกลับไปอาบน้ำนอน”
“ฮยอง...” จู่ๆ ไอ้เซลโล่ก็หยุดเดินและฉุดมือของผมที่จับกับมือของมันไว้ ผมหันไปมองมันด้วยสีหน้าที่งงเป็นไก่ตาแตกสุดๆ คราวนี้...เป็นอะไรไปอีกเนี่ย
“มึงเป็นอะไร ไม่สบายหรอ หรือว่า...”
“ไม่ใช่แบบนั้น...ผมแค่อยากจะถามฮยอง...อีกครั้งหนึ่งน่ะ ถ้าฮยองยังตอบเหมือนเดิม...ผมก็จะรอเหมือนกัน รอจนกว่าฮยองจะเป็นฝ่ายพูดมันขึ้นมาเอง”
ไอ้เด็กนี่แม่งเป็นอะไรของมันอีกเนี่ย จู่ๆ ก็มาพูดจาดราม่าแปลกๆ ใส่ผม พร้อมกับจ้องหน้าผมด้วยสีหน้าและแววตาที่โครตจะจริงจังสุดๆ บอกตรงๆ ว่าตอนนี้มันทำให้ผมแอบกลัวมันขึ้นมาตงิดๆ แล้วนะเนี่ย T^T
“ฮยอง...” และจู่ๆ ไอ้เซลโล่มันก็คุกเข่าลงไปกับพื้นทันทีและใช้มืออีกข้างจับมือผมไว้ในท่า...ขอสาวแต่งงาน -0-
“เราสองคนก็อยู่กันมาได้สักพักแล้วนะ...ถึงแม้จะมีทะเลาะกันบ้าง โกรธกันบ้าง งอนใส่กันบ้าง แต่เราสองคนก็ยังคงรักกัน ถึงแม้ตอนแรกผมจะเข้าหาฮยองเพราะว่าเป็นคำสั่งของยงกุกฮยอง แต่ฮยองรู้ไหม...ว่าจุดประสงค์อีกอย่างที่ผมยอมตกลงทำง่ายๆ คือออะไร”
“(‘ ‘ )( ‘ ‘)(‘ ‘ )”<<<<<ผมส่ายหัว
“เพราะรักไงล่ะ...ถึงแม้มันจะเร็วเกินไปที่ผมทำแบบนี้ แต่ผมอบยากเริ่มต้นชีวิตใหม่กับฮยอง อยากดูแลฮยองไปตลอดชีวิต อยากลบล้างรอยแผลเก่าที่ผมสร้างมันขึ้นมาไว้ และอยากจะ...เป็นคนที่รักฮยองตลอดไป”
“....”
“...ผมไม่ขอให้ฮยองตกลงตอนนี้ แต่ผมสัญญา...ว่าผมจะรอ...รอวันที่ฮยองพร้อมที่จะเป็นของผมคนเดียวจริงๆ”
“O_O”
“...แต่งงานกับผมนะ...ยองแจฮยอง”
สิ้นคำพูดของเซลโล่มันก็ลุกขึ้นรวบตัวผมไปกอดไว้แบบแนบแน่นทันที ส่วนผมน่ะหรอ...ก็ตกใจน่ะสิครับ เพราะจู่ๆ มันก็มาขอผมแบบนี้โดยที่ผมไม่รู้ตัวเลนล่วงหน้านั้นก็เลยทำให้ผมตกใจเป็นอย่างมากกกกกกก และไม่คิดด้วยว่าเด็กอย่างมันจะมีความคิดแบบนี้กับคนอื่น บอกตามตรงเลยนะว่าทั้งคำพูดและสายตาที่จริงจังของมันที่จ้องมองมาที่ผมในตอนแรกมันทำให้ผมทำตัวไม่ถูก แต่...ถ้าสมมติผมลองล่ะ
ลองที่จะ...ใช้ชีวิตร่วมกับมันโดยที่ไม่คิดถึงอดีตที่มันเคยทำไว้
ใช่ครับ แต่ก่อนในหัวผมมีแต่เรื่องแก้แค้นอย่างเดียว ผมคิดแค่ว่าจะทำทุกวิถีทางให้มันเจ็บปวดมากกว่าผมร้อยเท่าพันเท่าและจะเกลียดชังมันไปตลอดชีวิต แต่พอผมอยู่กับมัน...อยู่ด้วยกันมานาน จากคำว่า ‘เกลียด’ ก็กลายเป้น ‘รัก’ แบบที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว มารู้ตัวอีกทีก็สายเกินไปซะแล้ว ผมรักมันจนถอนตัวไม่ขึ้น ผมรักมันจนทนที่จะเห็นมันคุยกับคนอื่นไม่ได้ ผมรักมันจนทนที่จะเห็นสายตาของมันมองคนอื่นไม่ได้ บางที
ผมควรจะปล่อยวาง...และทำตามหัวใจตัวเอง...
“ฮยองคงยังไม่พร้อม..งั้นผม...”
“ตกลง...”
“หืม...ฮยองทำอะไรตกหรอ? -0-“
“กูบอกว่าตกลง”
“...ตกลงอะไรเล่า -_-“
“เมื่อกี้มึงขออะไรกู”
“ก็...แต่งงานไง เห้ยยย!!!! นี่ฮยองตกลงจะแต่งกับผมแล้วจริงดิ O_O”
“แล้วมึงเห็นกูปฏิเสธไงไอ้เด็กนี่”
“เห้ยยยยย!!!! รักฮยองที่สุดเลยยยยย คืนนี้กลับไปขอจัดหนักเลยนะ”
“พ่อมรึงงงงงงงงงงง”
แบบนี้สินะ...ที่เขาเรียกว่า ‘เกลียดอะไรมักจะได้แบบนั้น’ ^^
..............................................................................................................
แฮปปี้กันไปแล้วคู่หนึ่งเน้อ แต่...อย่าพึ่งดีใจไป ถึงคู่นี้จะจบกันแบบสวยงามแต่คู่บังชาน แด้ออบยังไม่สวยงามนะจ๊ะ อิอิ
ยังไงก็เม้นให้ไรท์ด้วยนะ อุตส่าห์มาส่งให้ขนาดนี้แล้ว ใครไม่เม้นไรท์จะงอนจริงๆนะ เค้าน้อยใจจริงๆนะ (ใครสนใจ) ยังไงก็ขอบคุณรีดเดอร์ที่ติดตามกันด้วยนร้า รักนะจุบุ
ปล.สำหรับใครที่สนใจฟิคเรื่องนี้มีรวมเล่มนะเออ สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ตอนที่ 15
:) Shalunla
ความคิดเห็น