คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 10 : [ 100% ]
10
DAEHYUN
ตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าห้องนอนของจงออบพร้อมกับมือที่ถือช่อดอกไม้ไว้หนึ่งดอก ใช่แล้วครับ...วันนี้ผมจะมาง้อจงออบ ผมไม่รู้ว่าเขาจะให้อภัยผมไหมกับสิ่งที่ผมทำลงไป แต่อย่างน้อยก็ขอให้ผมได้มีโอกาสขอโทษเขาบ้าง ไม่งั้นมีหวังผมนอนตายตาไม่หลับอย่างแน่นอน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ผมตัดสินใจเคาะประตูห้องนอนของจงออบเป็นเชิงขออนุญาต แต่แล้วก็ไม่มีเสียงตอบรับมาจากร่างบางที่อยู่ในห้องเลยแม้แต่น้อย นั้นเลยทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมาทันที นี่จงออบเขาเป็นอะไรมากหรือป่าวเนี่ย หรือว่าจะหลับอยู่น่ะ
ผมตีโพยตีพายคิดในแง่ดีไว้ก่อนเพราะถ้าผมขืนคิดไปในแง่ลบนอกจากจะง้อไม่สำเร็จแล้วเผลอๆ จงออบอาจจะโกรธผมมากกว่าเก่าก็ได้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“จงออบ...นี่ฉันเองนะแดฮยอน” แต่ไม่ว่าผมจะเคาะประตูกี่ครั้งก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากจงออบ แถมในห้องนี่ก็เงียบกริบไม่ได้ยินแม้แต่เสียงคนหายใจเลยด้วยซ้ำไป ส่วนเสียงที่ผมได้ยินก็คงจะเป็นแค่เสียงเดียวนั้นแหละ...เสียงน้ำไหลกระทบพื้นนั้นเอง
แต่...เดี๋ยวนะ
เสียงน้ำ...งั้นหรอ?
คิดได้แบบนั้นผมก็รีบปาดอกไม้ทิ้งลงพื้นก่อนที่จะพยายามพังประตูเข้าไปในห้อง ขออย่าให้สิ่งที่ผมคิดเป็นจริงด้วยเถอะ เพราะว่าตอนนี้ผมยังไม่พร้อมที่จะเสียจงออบไปจริงๆ ขออย่าให้คนตัวเล็กทำอะไรแบบนั้นจริงๆ ด้วยเถอะ!!!
ผมเสียเวลากับการพังประตูอยู่นานกว่าสิบนาทีจึงจะสามารถเข้ามาในห้องนอนของจงออบได้ บนเตียงของจงออบมีหมอนและผ้าห่มกระจายอยู่เต็มไปหมด เศษกระดาษที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นห้อง ตุ๊กตาหลากหลายตัวที่ถูกวางไว้ต่างที่คนละทิศคนละทาง และเสียงน้ำไหลที่ยังคงดังอยู่อย่างไม่หยุดหย่อน
ผมรีบวิ่งไปที่ประตูห้องน้ำด้วยความร้อนรนใจทันที แต่แล้วดูเหมือนว่าโชคจะเข้าข้างผมเพราะว่าจงออบไม่ได้ล๊อกประตูห้องน้ำจากข้างใจ แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนอกเสียจากเสียงน้ำไหลกระทบพื้นอย่างเดียว ผมดันประตูเข้าไปในห้องน้ำก่อนที่จะเจอร่างเล็กของจงออบยืนสั่นเทาอยู่ท่ามกลางสายน้ำที่ไหลชะโลมตัวของเขาจนเสื้อผ้าที่ส่วมใส่อยู่นั้นเปียกชุ่มแนบเนื้อไปทั้งตัว ผมได้แต่ยืนนิ่งงันกับภาพที่เห็น
นี่ผม...ทำอะไรลงไปเนี่ย!!!!
ผมรีบวิ่งเข้าไปกอดร่างของจงออบทั้งๆ ที่น้ำยังคงไหลอยู่อย่างปกติจนเนื้อตัวของผมรวมไปถึงเสื้อผ้านั้นเริ่มเปียก ร่างของจงออบสั่นเทาไม่ยอมหยุดพร้อมกับร่างกายที่เย็นเฉียบ ร่างบางไม่ได้ปฏิเสธอ้อมกอดของผมก่อนที่จะค่อยๆ หมดสติล้มลงไป นี่ถ้าผมไม่ได้ยืนกอดเขาจากทางข้างหลังมีหวังได้ลงไปนอนกองกับพื้นแน่ๆ
ผมอุ้มจงออบออกมาจากห้องน้ำด้วยท่าเจ้าสาวก่อนที่จะถอดเสื้อผ้าของเขาออก และอุ้มไปวางไว้บนเตียง จงออบต้องไม่สบายแน่ๆ ที่ไปยืนแช่น้ำแบบนั้นทั้งๆ ที่อากาศตอนนี้ก็ไม่ได้จะร้อนอะไรถึงขนาดนั้น
ผมรีบกลับไปที่ห้องเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่จะวิ่งลงไปเอากะละมังและผ้าขนหนูขึ้นมาเพื่อที่จะเช็ดตัวให้จงออบ แต่พอผมขึ้นมาถึงห้องผมก็แทบจะปล่อยกะละมังน้ำทันที จงออบที่นอนกอดตัวเองและขดอยู่บนเตียงพร้อมกับ...ระบายความในใจออกมาทั้งหมด
“ฮยองจะรู้บ้างไหมว่าผมเสียใจมากไหน...ทำไมไม่พูดกับผมดีๆ บ้าง ทำไม...ทำไมต้องใจร้ายกับผม รู้ไหมว่าผมรู้สึกอึดอัดมากแค่ไหน ผมพยายามทำให้ฮยองรู้สึกดีในทุกๆ อย่าง แต่นั้นกลับทำให้ฮยองอารมณ์เสียมากกว่าเก่า ขอร้องล่ะ...ช่วยบอกผมที...ว่าผมต้องทำยังไงฮยองถึงจะยิ้มให้ผมสักครั้ง...”
ความเงียบเข้ามาแทนที่พร้อมกับผมที่ค่อยๆ เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกะละมังน้ำและผ้าขนหนู ผมเดินไปนั่งบนเตียงใกล้ๆ กับที่จงออบนอนอยู่ก่อนที่จะค่อยๆ เช็ดตัวให้ร่างบางที่กำลังหลับและหายใจถี่รวนเพราะอุณหภูมิที่เริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย
ผมเช็ดตัวให้จงออบพร้อมกับใส่เสื้อผ้าให้เจ้าเด็กน้อยนั้นเรียบร้อยแล้วก็ลงมาหาอะไรกินเนี่ยล่ะครับ ก็เพราะว่าตอนเช้าผมกะไว้ว่าพอง้อจงออบเสร็จจะชวนเจ้าเด็กนั้นออกมาหาอะไรกินข้างนอกซะหน่อย แต่มันก็ดันเกิดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน ผมก็เลยต้องทนหิวเช็ดเนื้อเช็ดตัวใส่เสื้อป้าให้เขาให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยลงมาหาอะไรกิน กะว่าจะทำข้าวต้มขึ้นไปให้จงออบด้วย เผื่อมันจะช่วยให้ไข้ลดลงบ้าง
“แดฮยอนฮยอง...”
ผมรีบหันขวับทันทีเมื่อได้ยินเสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นจากข้างหลัง จงออบที่อยู่ในชุดนอนกำลังยืนขยี้ตาอยู่ตรงประตูห้องครัว แต่ใบหน้าที่แดงและเสียงหายใจที่ถี่รวนยังคงบ่งบอกได้ว่าไข้ของเขาไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย
“นายจะลงมาข้างล่างทำไม ทำไมไม่นอนพักผ่อนอยู่ที่ห้อง ถ้าเกิดเป็นหนักมากกว่านี้จะทำยังไง” ผมบ่นจงออบทันทีเมื่อยกข้าวต้มของผมและจงออบมาวางไว้บนโต๊ะเสร็จ จงออบเบะปากอย่างคนไม่พอใจก่อนที่จะนั่งลงและเริ่มลงมือกินข้าวต้มกุ้งฝีมือผม
“นี่ยา...นายควรกินและนอนน่ะ จะได้หายไวๆ” ผมยื่นยาให้ร่างบางตรงหน้าสักประมาณสองสามเม็ด จงออบเงยหน้าขึ้นมามองผมก่อนที่จะหยุดกินข้าวต้มและถามผมออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
“ฮยองทำแบบนี้กับผมทำไม...ผมยังเสียใจไม่พออีกหรอ?”
คำถามของจงออบทำซะผมแดกจุดไปต่อไม่ถูกกันเลยทีเดียว ผมวางยาไว้ไว้ใกล้ๆ กับชามข้าวต้มของจงออบก่อนที่จะใช้มือทั้งสองข้างเท้าไว้ที่โต๊ะและเก้าอี้ที่จงออบกำลังนั่งอยู่ ผมมองเข้าไปในดวงตาคู่สวยของจงออบก่อนที่จะถอนหายใจและพูดออกมาอย่างเชื่องช้าแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกต่างๆ มากมาย
“ฉันขอโทด...ขอโทดสำหรับทุกๆ อย่างที่เคยทำกับนายไว้ เพราะฉันอยากเอาชนะ...ฉันเลยเผลอตัวทำไปแบบนั้น แต่...ถ้าฉันจะขอให้นายให้อภัยฉัน นายจะให้ฉันได้ไหม...จงออบ”
จงออบนั่งนิ่งก่อนที่จะจ้องตาของผม ร่างบางไม่พูดอะไรออกมาทั้งสิ้นก่อนที่จะค่อยๆ เลื่อนใบหน้าของเขาเข้าหาใบหน้าของผม เช่นเดียวกันกับใบหน้าของผมที่เลื่อนเข้าหาใบหน้าเล็กของจงออบ จงออบหยุดนิ่งเพราะระยะห่างระหว่างใบหน้าของเรานั้นยังไม่ถึงหนึ่งนิ้วก่อนที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้มแต่นั้นก็ทำให้ผมดีใจไม่ใช่น้อย
“ฮยองรู้ไหม...ว่าผมอยากจะหนีไปให้ไกลๆ อยากหนีไปจากฮยอง เพราะไม่อยากฟังคำพูดแบบนั้น แต่ผมก็ทำไม่ได้ ผมโกรธฮยองมากแค่ไหน...แต่ผมก็ไม่เคยทำได้ลง ไม่เคยเลยแม้แต่น้อย”
“ทำไมล่ะ...ทำไมถึงทำไม่ได้”
“เพราะผม...ผม...”
จุ๊บ!!!!
จงออบยังพูดไม่ทันจบประโยคผมก็ก้มหน้าลงและจูบเข้าไปที่ริมฝีปากบางนั้นเบาๆ ก่อนที่จะดึงหน้าออกมาอย่างรวดเร็วและยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน หน้าของจงออบขึ้นสีระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่จะทำเป็นเสมองไปทางอื่นและก้มลงกินข้าวต้มของตัวเองต่อ ส่วนผมก็รีบเดินไปนั่งข้างๆ คนตัวเล็กและลงมือกินข้าวต้มในชามของตัวเอง เห้อ...มันรู้สึกดีแบบนี้นี่เองเวลาที่เราง้อคนที่เรา ‘รัก’ สำเร็จ อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมรู้ว่าจงออบเขาคิดยังไงกับผมเหมือนกัน
HIMCHAN
ผมเดินอยู่ที่ข้างริมแม่น้ำฮันด้วยสายตาที่เลื่อนลอย ภาพที่ยงกุกร้องไห้และทำสีหน้ารู้สึกผิดยังคงตามมาปรากฏให้ผมเห็นอยู่ตลอดทุกทีตั้งแต่ผมออกมาจากคอนโด ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมผมถึงรู้สึกไม่ดีแบบนี้ที่หนีไอ้เหงือกออกมา แต่ในใจของผมอีกส่วนหนึ่งก็ยังคงเสียใจอยู่ไม่ใช่น้อยกับคำพูดที่มันพูดกับผม ผมแค่อยากให้มันรู้ว่าผมเสียใจมากแค่ไหนที่มันพูดแบบนั้นกับผม แต่...แค่ผมนึกย้อนกลับไปเห็นน้ำตาและสีหน้าของมันตอนนั้น...ผมกลับไม่รู้สึกโกรธมันเลยแม้แต่น้อย
เพราะอะไรกันนะ...
ผมเดินมาจนสุดทางก่อนที่จะค่อยๆ เดินย้อนกลับไปทางเดินเผื่อคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปตามทางระหว่างเดินกลับคอนโด อันที่จริงผมก็ไม่รู้หรอกว่าผมจะกลับไปที่นั้นอีกทำไมทั้งๆ ที่ผมมีโอกาสหนีแล้วแท้ๆ แต่พอนึกย้อนกลับไปถึงไอ้เหงือกมันก็อดไม่ได้ที่ผมจะต้องกลับไปที่คอนโดนั้นอีกครั้ง มันเหมือนกับว่า...ผมเป็นห่วงมัน
ติ๊ด...ติ๊ด...
ระหว่างที่ผมเดิน...เจ้าโทรศัพท์เครื่องหรูที่ผมพึ่งไปแอบถอยมาใหม่เพราะว่าเครื่องเก่าผมปาทิ้งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วดังขึ้นและสั่นอย่างกับเจ้าเข้าอยู่ในกนระเป๋ากางเกงของผมไม่ยอมหยุด ผมล้วงมือเผื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แต่แล้ว...ข้อความที่โชว์อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์นั้นทำเอาผมถึงกับจุกเลยทีเดียว
‘รีบกลับบ้านนะเหยิน...ทำกับข้าวรอไว้แล้ง เป็นห่วง...อย่าเฉไฉไปไหนนะ’
ผมยืนนิ่งค้างอยู่กับทีด้วยความตื่นตะลึงกับข้อความที่ปรากฏโชว์อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนที่ผมจะคลี่ยิ้มออกมาน้อยๆ กับข้อความที่ชวนหวานซึ้งจนไม่น่าเชื่อว่าคนที่ส่งมาให้นั้นคือ ‘บัง ยงกุก’ ผู้ชายที่ทำให้ผมเจ็บปวดใจอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่เราสองคนพบกัน
แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน...ผมไม่สามารถโกรธมันได้ลงเลยไม่ว่ามันจะพูดจาไม่นึกถึงจิตใจผมกี่ครั้งต่อกี่ครั้งแต่ผมก็เลือกที่จะทำเป็นไม่สนใจและยืนยัดเข้มแข็งและทำเป็นต่อต้าน แต่พอผมอยู่กับมันไปนานๆ
หัวใจของผมกลับเริ่มหวั่นไหวและคล้อยตามไปกับท่าทีและการกระทำของมัน...
ผมเก็บโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋ากางเกงตามเดิมก่อนที่จะทอดน่องเดินไปตามทางเรื่อยๆ ด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส มันอาจจะดีก็ได้นะที่ผมจะลองเปิดใจรับอะไรใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต...เพราะอย่างน้อยมันก็อาจจะทำให้ผมรู้ว่า
คนที่รักผมมากที่สุด...มันอาจจะไม่พ้นคนที่เกลียดผมมากที่สุดก็ได้
YONGJAE
ตอนนี้ผมยังมาได้คุยกับไอ้เด็กเวรเซโล่เลยครับ -..-
ก็เพราะเมื่อวันวานดันเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นเมื่อจู่ๆ ตอนที่เราสองคน เออ...ทำกันอย่างว่าเสร็จเจ้าเด็กเวรนี่มันก็เล่นขอผมแต่งงานโดยที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว นั้นก็เลยทำให้ผมเขินเป็นอย่างมากจนทำเป็นตวาดออกไปด้วยความ(ที่แกล้ง)ไม่พอใจจนถึงขีดสุด เพราะเหตุนี้มันก็เลยทำให้ผมยังไม่ได้คุยกับมันเลยครับ T^T
ถ้าถามว่าผมดีใจไหมที่มันมาขอผม บอกได้คำเดียวชัดๆ เลยว่า ‘ดีใจมากกก’ เพราะผมไม่คิดล่ะสิครับว่าเพลย์บอยตัวพ่ออย่างมันจะมาหยุดอยู่ที่ผมคนเดียว แต่ในใจอีกซีกของผมก็ยังคงคิดแผนที่จะแก้แค้นมันอยู่เหมือนกัน แต่ทุกคนรู้ไหม...เวลาที่ผมจะแก้แค้นมันทีไหร่แต่พอมันมาทำดีด้วยหน่อยใจผมก็อ่อนระทวยคล้อยตามไปกับมันแล้วล่ะครับ แผนของผมตอนนี้ก็เลยยังมาได้เริ่มดำเนินทำอะไรเลยแม้แต่น้อย ฮืออออออ T^T
“ฮยองอ่า...ทำไมฮยองไม่คุยกับผมเลยล่ะ ผมขอโทดก็ได้นะเรื่องที่พูดไปเมื่อวาน” และเซโล่ก็ยังไม่หยุดความพยายามของมันที่มาตามตื้อผม -*-
ใช่แล้วล่ะ...เพราะมันคิดว่าผมงอนมันจริงๆ ตั้งแต่เมื่อวานตอนที่ผมอาบน้ำเสร็จมันก็คอยตามตื้อผมตลอด จนผมเริ่มรำคาญขึ้นมา แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งคนตัวสูงเพื่อเป้นการแก้แค้นที่มันมาทำเจ็บแสบกับผม และอีกเหตุผลหนึ่งคือ...
เวลาที่มันทำหน้าเหมือนลูกแมวน่ารักมากเลยล่ะ ><
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้โกรธ ไม่ได้งอนอะไรทั้งนั้น”
“แต่ฮยองก็ไม่ยอมคุยกับผมอ่า ยองแจฮยองอ่า เลิกงอนผมเถอะนะครับ...ที่รัก”
“อะ....อะไร!!! ใครที่รักนาย อย่ามามั่วนะ” ผมโวยวายขึ้นทันทีเมื่อเซโล่พูดจาหวานชื่นใกล้ๆ ใบหูผม ร่างสูงหัวเราะด้วยความชอบอกชอบใจก่อนที่จะกอดผมจากทางด้านหลังและซุกหน้าไว้ที่ไหล่บางของผม
“ผมขอโทดนะที่ผมอะไรแบบนั้นออกไป...รอให้เราสองคนคบกันนานกว่านี้ก็ได้นะ ถ้าฮยองพร้อมเมื่อไหร่ผมจะรีบมาขอเลยล่ะ”
“พูดบ้าอะไรของนายน่ะไอ้เด็กบ้า!!!! ฉันไม่ได้โกรธสักหน่อย ก็แค่...เขิน -//////-“ ผมพูดออกไปเมื่อเจอไม้ตายสุดท้ายของเซโล่ที่ส่งมันมาให้กับผม จริงๆ นะ เวลาที่ผมโกรธเขาไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม แต่พอมาเจอเขาทำแบบนี้เข้าให้หน่อยผมก็ใจอ่อนยอมยกโทษให้นี่แหละ และนี่ก็คือเหตุผลหนึ่งที่ผมไม่สามารถแก้แค้นมันคืนได้สักที
“แสดงว่า...ถ้าผมขอฮยองอีกรอบ...ฮยองก็จะตอบตกลงใช่ไหม (‘ ‘)”
ดูมันทำหน้าเข้า ยูยองแจคนนี้จะไม่ทนนนนนน
“ไม่รู้ ไม่สน แล้วก็ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้นใส่เลยนะ”
“ทำไม...เขินหรอ? (‘ ‘)”
เออใช่...กูเขิน -_-
ผมทำเป้นไม่สนใจสิ่งที่เซโล่พูดก่อนที่จะหลับตาลงเพราะความเหนื่อยล้าที่ได้มาจากกิจกรรมเมื่อวานและเอนหลังซบอกแกร่งของเซโล่ เซโล่กอดผมแน่นขึ้นเหมือนกับว่าเขาต้องการจะให้ความอบอุ่นแก่ผม ผมเงยหน้าขึ้นไปมองร่างสูงอีกครั้งและจูบเข้าไปที่ริมฝากบางสวยสีเชอร์รี่นั้นด้วยความหลงไหล ก่อนที่จะพูดอะไรที่น่าอายออกไปและหลับตาลงทันทีเพื่อพักผ่อนสายตา
“รักนะ...ชเว จุนฮง”
“รักเหมือนกับครับ...ยู ยองแจ”
แม่งยังจะมาพูดให้กูเขินอีกสัส!!! >//////<
YONGGUK
ผมนั่งดูทีวีที่เปิดไว้ที่ห้องนั่งเล่นด้วยสายตาเลื่อนลอยไร้ความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้นตั้งปต่ที่ไอ้เหยินนั้นออกไปจากคอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผมไม่รู้เหมือนกันว่าผมเป็นอะไรไปทั้งๆ ที่เมื่อก่อนผมนั้นเกลียดมันเข้าไส้จะตายไป แต่พอมาเจอแบบนี้จริงๆ
กลับรู้สึกเจ็บอย่างบอกไม่ถูก...
มันอาจจะเป็นเพราะว่าผมไม่เคยถูกใครปฏิเสธมาแบบนี้เลยก็ได้ มันก็เลยทำให้ผมรู้สึกเฟลเล็กน้อยที่โนเจ้าหน้าหวานนั้นมาหักหน้ากันขายๆ แต่มันก็มีบางสิ่งที่ทำให้ผมเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองคิดกับไอ้เหยินนั้นมากกว่า ‘คนที่เกลียด’
เพราะผมทั้งแคร์มัน ห่วงมัน หวงมัน และหวั่นไหวตลอดเวลาที่มันทำอะไรยั่วยวนผมถึงแม้ว่ามันจะยืนอยู่แค่นิ่งๆ ก็ตาม ตอนที่มันร้องไห้ผมอยากจะดึงมันเข้ามากอด แต่ผมก็ไม่สามารถทำมันได้เพราะกลัว...กลัวว่ามันจะปฏิเสธผม ผมก็เลยได้แต่ต่อต้านสิ่งที่ใจตัวเองสั่ง และทำตามสิ่งที่สมองคิด จนไม่คิดเลยว่าฝ่ายที่เจ็บนั้นก็คือผม...
บางที...ผมควรจะปล่อยวางมันได้แล้ว...
แกร๊ก!!!
“กลับมาแล้วเหงือก”
ผมรีบหันไปมองตามต้นทางเสียงที่ได้ยินก่อนที่จะคลี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจแบบสุดๆ ผมรีบลุกขึ้นเดินไปหามันทันทีและคว้าตัวมันมากอดไว้แน่นเหมือนกับว่ากลัวฮิมชานจะหนีผมไปไหน
“มึงเป็นอะไรไป...ยงกุก”
“ขอโทดนะ...”
“ห่ะ?.
“ขอโทดสำหรับทุกอย่างที่กูทำให้มึงเสียใจ ขอโทด ขอโทด...ขอโทดนะครับ คิม ฮิมชาน...”
ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบทันทีเมื่อผมพูดประโยคนั้นออกไป ก่อนที่จะรู้สึกได้ถึงน้ำที่เปียกแฉะเต็มไหล่ของผม ผมดันตัวไอ้เหยินออกก่อนที่จะเห็นมันกำลังร้องไห้และกำลัง...ยิ้ม
“ไอ้เหงือกบ้า”
“….”
“ทำไมมึงมาพูดแบบนี้...ทั้งๆ ที่กูอุตส่าห์อารมณ์ดีกลับมาแท้ๆ”
“กูขอ...”
“ชู่ว...ไม่ต้องพูดมันออกมาแล้ว กูรู้แล้วว่ามึงกำลังเสียใจจริงๆ แต่...กูก็ยกโทษให้มึงแล้วนะ” ฮิมชานใช้นิ้วมือของมันปิดปากผมเพื่อให้หยุดพูด แต่สิ่งที่ทำให้ผมดีใจจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีกนั้นก็คือ...มันยกโทษให้ผมแล้ว
“เป็นของกูได้ไหม”
“อะไรนะ?”
“เป็นแค่ของกูคนเดียว...แบบเต็มใจ...จะได้ไหม”
*******************************************
.................................................................................
มาลงครบร้อยเปอร์แล้วนะจ๊ะตัวเองง อุ๊ยยยย!!!! ทุกคู่เริ่มลงรอยกันแล้วเนอะ ใกล้จะจบแล้วด้วยสิ ไม่คิดเลยว่าจะแต่งมาจนจบได้ถึงขนาดนี้ แต่เรื่องนี้คงจะไม่ได้รวมเล่มนะคะรีดเดอร์ทุกคน เนื่องจากมันมีเนื้อหาบางตอนที่หายไป แต่เรื่องหน้ารับรองว่าจะหาทางรวมเล่มให้ได้เลยจร้า ยังไงก็...เม้นให้เขาหน่อยนะตะเองงงง จะได้มาอัพให้เร็วๆไง เออ...ไรท์กำลังจได้โน๊ตบุ๊คเป็นของตัวเองแล้ว คาดว่าคงจะแต่งได้มากกว่านี้แน่นอน แต่เขาขอเม้นหน่อยนร้า และก็ขอขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนที่ยังไม่ทิ้งฟิคเรื่องนี้ด้วยนะคะ ขอบคุรจริงๆแม้ว่าไรเตอร์คนนี้จะดองไว้นานแค่ไหนก็ตาม รักนะจุ๊บ <3
:) Shalunla
ความคิดเห็น