Catherine (PS3) - Catherine (PS3) นิยาย Catherine (PS3) : Dek-D.com - Writer

    Catherine (PS3)

    ผู้เข้าชมรวม

    1,401

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    1.4K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  10 ส.ค. 54 / 04:36 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      Catherine
       
      Walkthrough
       
      Stage 1 Underground Cemetery
       
      ฉากนี้เป็นคล้ายๆ Tutorial ของเกม ให้เราปีนหอคอยขึ้นไปเรื่อยๆ พอถึงจุดหนึ่งเกมจะแนะนำให้เราผลักหรือถึงบล็อกเพื่อช่วยในการปีนขึ้นข้างบน (จริงๆแล้วเราสามารถดึงบล็อกได้ทั้ง 4 ทิศเลย ซ้าย ขวา ผลักเข้าด้านในและดึงออกมาด้านนอก) เก็บหมอนแล้วให้เราดึงบล็อกออกมาด้านนอก ปีนขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆ แนะนำให้เก็บของที่อยู่ในฉากด้วย พอถึงชั้นบนสุดแล้วให้เราเข้าประตูไป
       
      ดู Cut Scene แล้วให้เราอ่าน Mail ทั้ง 3 ฉบับ ถ้าสามารถส่ง Mail ได้ก็ให้เราส่งไปตามปกติ เราสามารถบันทึกเกมได้ที่ Diary นั่งรอสักพักจะมี Mail ส่งมาหา อ่านแล้วให้เราตอบปฏิเสธเพื่อรอ Mail ฉบับที่ 5 ส่ง Mail ตอบกลับ Mail ฉบับนี้แล้วเข่าสู่ Stage 2 ได้เลย
       
      Stage 2 Prison of Despair
       
      Area 1
       
      ยากกว่าฉากที่แล้วเยอะ เพราะเราต้องดึงบล็อกออกมาทั้ง 4 ทิศถึงจะผ่านได้ ถ้าเจอทางตันไม่ต้องตกใจ คิดเสียว่าก็แค่เริ่มใหม่ อย่าลืมว่าเราสามารถเกาะแล้วไต่ตรงขอบได้ ขึ้นไปจนถึงระดับหนึ่งเกมจะแนะนำให้เราดันที่เดียว 2 บล็อก พอขึ้นไปจนถึงสวิทซ์ให้เรากระโดดดึง แล้วขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุด
       
      คุยกับพวกแกะแล้วจะได้เทคนิคการดึงบล็อกมาด้วย (เราสามารถบันทึกเกมได้ที่สมุดบนแท่น) เข้าไปในห้องสารภาพบาป ดึงเชือกทางซ้ายแล้วเราจะถูกส่งไปส่วนต่อไป
       
      Area 2
       
      ที่นี่จะมีแกะคู่แข่งอยู่ด้วย แต่เราสามารถทำให้มันตายได้ (มันก็ทำให้เราตายได้เช่นกัน) หรือจะไม่สนใจมันพยายามปีนขึ้นไปข้างบน เทคนิคที่ได้จากที่พักนั้นสำคัญพอดู ส่วนการไต่ก็สำคัญไม่แพ้กัน พอถึงด้านบนให้เราดึงสวิทซ์ได้เลย
       
      ให้เราคุยกับพวกแกะตามปกติ (เรื่องการคุยให้เราคุยจนกระทั่งคำว่า Talk กลายเป็นสีดำๆ แต่จริงๆแล้วก็ไม่จำเป็นนักหรอก) เรียนรู้เทคนิคการดคงบล็อกจากพวกเขาไว้ คุยกับแกะทางขวาบนแล้วตอบตัวเลือกล่าง คุยกับแกะทางขวาล่างแล้วเลือกตัวเลือกบน บันทึกเกมแล้วเข้าไปในห้องสารภาพบาป ดึงเชือกทางขวาแล้วเราจะถูกส่งไปส่วนต่อไป
       
      Boss – Fist of Grudge
       
      ถึงจะเป็นฉากหัวหน้า แต่เราก็ต้องมาปีนหอคอยอยู่ดี พยายามใช้ทักษะทั้งหมดที่มี (อย่างเช่นผลักทีละ 2 บล็อก) เพื่อขึ้นไปให้ถึงประตูที่อยู่ด้านบนสุด โดยหัวหน้าจะคอยทำลายบล็อกและเปลี่ยนมันทุกบ่อยอยู่แล้ว พอเราปีนถึงประตูก็จะผ่านฉากนี้แล้ว
       
      ดู Cut Scene แล้วให้เราคุยกับคนที่นั่งข้างเรา เลือกตัวเลือกบนแล้วคุยกับเพื่อนที่เหลือ ลุกจากโต๊ะแล้วคุยกับคนในร้าน (พอได้ Mail ก็ให้เราอ่านตามปกติ) คุยกับคนชงเหล้าแล้วเลือกตัวเลือกบนทั้ง 2 ข้อ พอได้ Mail ให้เราอ่านแล้วตอบกลับทันที คุยกับทุกคนที่อยู่ตรงเคาน์เตอร์ (รวมทั้งคนชงเหล้าด้วย) อ่าน Mail ทุกฉบับแล้วตอบกลับถ้าต้องตอบกลับ พอมีโทรศัพท์มาให้เราเลือกข้อบน กลับมานั่งคุยกับเพื่อนๆทุกคนแล้วเข้าไปในห้องน้ำ ล่างหน้าและเข้าห้องส้วม บันทึกเกมแล้วให้เราออกจากร้าน (โดยเลือกตัวเลือกแรก)
       
      Stage 3 Torture Chamber
       
      Area 1
       
      ยากขึ้นกว่าฉากที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่แกะคู่แข่ง ยังมีกับดักสังหารอีกต่างหาก ความยากของหอคอยจริงๆแล้วไม่ได้มากมายอะไร ค่อยๆปีนค่อยๆคิดก็ผ่านได้สบายๆ แต่แนะนำให้หาทางเก็บของในฉากด้วยก็จะดีเน้อ ปีนขึ้นถึงชั้นบนสุดแล้วดึงสวิทซ์ก็จะเข้าสู่ส่วนต่อไป
       
      คุยกับพวกแกะที่ตามืดบอกเพื่อเรียนรู้เทคนิคในการดึงบล็อก พร้อมแล้วให้เราเข้าไปในห้องสารภาพบาปได้ ดึงเชือกทางขวาแล้วเราจะถูกส่งเข้าสู่ส่วนต่อไป
       
      Area 2
       
      เทคนิคที่ได้จากที่พักช่วยได้มากเลยทีเดียว แต่อย่าได้หลงลืมเทคนิคอย่างอื่นละ ส่วนกับดักนั่นมักจะทำให้เราไขว้เขว เพราะฉะนั้นจงทำเป็นมองไม่เห็น (แต่กะจังหวะในการผ่านให้ดีๆเน้อ) พอขึ้นถึงชั้นบนให้เราดึงสวิทซ์ได้เลย
       
      คุยกับพวกแกะเพื่อหาข้อมูลและเรียนรู้เทคนิคการดึงบล็อก เข้าไปในห้องสารภาพบาป ดึงเชือกทางซ้ายแล้วเราจะถูกส่งไปส่วนต่อไป
       
      Boss – Immoral Beast
       
      เจ้านี่มีรูปลักษณ์ที่อุบาทว์มาก (สมชื่อของมัน) ความสามารถของมันก็คือพ่นพิษของจากปาก ให้เราหาที่กำบังศีรษะไว้ เพราฝนพิษจะตกตามลงมา พยายามขึ้นไปให้ถึงประตูที่อยู่ด้านบน เทคนิคที่ใช้มากก็ไม่พ้นการดึงกับการไต่ เพราะฉะนั้นค่อยๆเป็นค่อยๆไปก็ได้ไม่มีปัญหาอะไร
       
      ดู Cut Scene จนถึงช่วงที่อยู่ในบาร์ ให้เราเลือกตัวเลือกล่าง คุยกับคนข้างๆแล้วให้เราเลือกตัวเลือกบน คุยกับเพื่อนที่เหลือแล้วให้เราอ่าน Mail และส่ง Mail ลุกจากโต๊ะแล้วคุยกับป้าที่นั่งใกล้ๆ ตอบตัวเลือกบนแล้วให้เราอ่าน Mail คุยกับทุกคนแล้วให้เรานั่งตรงเคาน์เตอร์ คุยกับผู้ชายทางซ้ายแล้วเลือกตัวเลือกล่าง อ่าน Mail แล้วตอบ Mail เสีย คุยกับคนชงเหล้าแล้วให้เราคุยกับคนทางขวา เลือกตัวเลือกกลางแล้วให้เราคุยกับทุกคนในร้าน กลับมานั่งที่โต๊ะ คุยกับคนที่นั่งข้างๆแล้วให้เราเลือกตัวเลือกบน
       
      Stage 4 Inquisition
       
      Area 1
       
      ฉากนี้ยังไม่มีบล็อกใหม่ๆ แต่มีแกะผู้โง่เขลาตัวใหม่โผล่มาแทน ฉากแรกนี้ให้เรารีบขึ้นไปเก็บหนังสือเวทย์มนต์ด้านบน ปล่อยสายฟ้าฟาดใส่พวกแกะผู้โง่เขลาทั้งหมดเลย จากนั้นให้เราปีนขึ้นไปข้างบนเรื่อยๆ เทคนิคที่ใช้ก็พื้นๆ ดึงสวิทซ์ที่อยู่ด้านบนสุดเพื่อผ่านฉากได้เลย
       
      คุยกับเหล่าแกะเพื่อหาข้อมูล คุยกับแกะทางขวาบนแล้วเลือกตัวเลือกบน คุยกับแกะเพื่อเรียนรู้เทคนิคการดึงบล็อกใหม่ๆ จากนั้นให้เราเข้าไปในห้องสารภาพบาป ดึงเชือกทางขวาแล้วเราจะถูกส่งไปยังส่วนต่อไป
       
      Boss – The Child
       
      เจ้านี่จะยิงลำแสงวิถีตรงใส่เรา ไม่ถึงตายแต่เราจะตกลงมา 1 ชั้น เทคนิคที่ใช้บ่อยก็คือ ผลักบล็อกทางฝั่งซ้ายมาเชื่อมบล็อกทางฝั่งขวา บางทีก็ไม่ต้องดึงบล็อกอะไรเลย ปีนขึ้นไปง่ายๆสบายๆ
       
      ดู Cut Scene แล้วให้เราอ่าน Mail จากนั้นให้เราคุยกับทุกคน อ่าน Mail ทุกฉบับและส่ง Mail ที่สามารถส่งได้ เรียบร้อยแล้วให้เราออกจากร้าน
       
      Stage 5 Quadrangle
       
      Area 1
       
      ในช่วงแรกการต่อสู้ของเหล่าแกะขาวที่ตามืดบอดช่างหนักหน่วง พอผ่านมาได้ให้เราพยายามไต่ขึ้นข้างบน เทคนิคที่ใช้บ่อยก็คือการดึงบล็อกแบบขั้นบันได รวมทั้งการไต่ไปมาด้วย
       
      หาข่าวสารกับแกะ รวมทั้งแพะที่ถือกระบองด้วย เรียบร้อยแล้วให้เราเข้าไปในห้องสารภาพบาป ดึงเชือกทางขวาแล้วเราจะถูกส่งไปยังส่วนต่อไป
       
      Area 2
       
      ปีนขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆ พยายามหลีกเลี่ยงเจ้าแกะอ้วนให้ดีๆ ถ้าเก็บเวทย์มนต์ได้ก็สบายไป เทคนิคที่ใช้อย่างน้อย 2 ครั้งแน่ๆก็คือ การดึงบล็อกเป็นขึ้นบันได แบบที่ดึงแล้วเราจะต้องลงมาด้านล่างเรื่อยๆ แต่พอทำขั้นบันไดเสร็จเราจะสามารถขึ้นไปข้างบนได้ ดึงสวิทซ์ที่อยู่ด้านบนสุดก็จะผ่านแล้ว
       
      คุยกับพวกแกะเพื่อหาข่าวสารและวิธีการดึงบล็อก คุยกับแกะทางขวาบนแล้วเลือกตัวเลือกบน เข้าไปในห้องสารภาพบาปแล้วดึงเชือกทางขวาได้เลย
       
      Boss – Doom’s Bride
       
      ถ้าอยู่ในเขตอันตรายก็โดนเสียบตายสถานเดียว แถมเธอยังปล่อยพายุน้ำแข็ง ที่ทำให้เกิดหิมะถล่มลงมาทับเราได้ด้วย แถมหอคอยนี้ทั้งยาวและยากกว่าที่ผ่านมา แต่ถ้าใช้เครื่องดื่มชูกำลังก็อาจจะง่ายขึ้นมาบ้าง พยามเอาตัวรอดให้ได้เน้อ
       
      ดู Cut Scene แล้วให้เราคุยกับเพื่อนเราตามปกติ คุยกับเพื่อนที่นั่งตรงข้ามด้านในแล้วตอบตัวเลือกบนและบน ลุกจากโต๊ะแล้วให้เรามาคุยกับผู้ชายที่นั่งคนเดียว (โต๊ะใกล้ๆเรา) คุยกับเขาแล้วให้เราอ่าน Mail และตอบ Mail ไปตามประสา จากนั้นให้เราออกจากร้านได้
       
      Stage 6 Clock Tower
       
      Area 1
       
      ความยากของฉากนี้ก็คือความยาว แถมยังมีบล็อกแบบใหม่มาให้เราขบคิดเพิ่มเติมด้วย นั่นก็คือบล็อกระเบิด ข้อแนะนำเกี่ยวกับฉากก็คือ ถ้ามียาชูกำลังก็กินโลด จะได้กระโดดขึ้นไปทีละ 2 บล็อกเลย อย่าคิดแต่จะดึงหรือผลักบล็อกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ให้เราลองไต่หาทางไปดู พอขึ้นถึงขั้นบนสุดให้เรากระโดดดึงสวิทซ์ได้เลย
       
      ตรงที่พักให้เราคุยกับแกะด้านล่างสุด ตอบตัวเลือกล่าง คุยกับแกะตัวอื่นๆเพื่อเรียนรู้เรื่องการดึงบล็อก จากนั้นให้เราเข้าไปในห้องสารภาพบาป ดึงเชือกทางขวาแล้วเราจะถูกส่งไปยังส่วนต่อไป
       
      Area 2
       
      ฉากนี้ก็ค่อนข้างยาวจนอ่อนใจ แต่บล็อกกระโดดที่หาได้ในฉากก็ทำให้เกมการเล่นสนุกขึ้น การดึงบล็อกแบบขั้นบันไดก็ยังใช้ได้ดีในฉากนี้ แต่อย่างไรก็ระวังบล็อกระเบิดไว้หน่อย เพราะอาจทำให้เราปีนขึ้นไปไม่ทัน
       
      เมื่อถึงที่พักแล้วให้เราคุยกับเหล่าแกะขาวที่ตามืดบอด คุยกับแกะที่ใส่เสื้อ (ทางซ้าย) แล้วตอบตัวเลือกบน คุยกับแกะเพื่อเรียนรู้เทคนิคการดึงบล็อกแล้วให้เราเข้าไปในห้องสารภาพบาป ดึงเชือกทางซ้ายแล้วเราจะถูกส่งมายังส่วนต่อไป
       
      Area 3
       
      ที่ฉากนี้เราจะพบกับศัตรูใหม่ นั่นก็คือมด ถ้าไม่อยากยุ่งยากแนะนำให้ใช้เวทย์มนต์ที่เก็บได้ตอนต้นฉากเลย แต่ฉากนี้ค่อนข้างยาก เทคนิคที่ใช้ได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อก็คือ การผลักให้หอคอยลดต่ำลงมา ถ้าพบว่าหอคอยอยู่ได้ด้วยบล็อกแค่ 1 หรือ 2 บล็อก ให้เราดึงมาหาหรือผลักทิ้ง หอคอยก็จะลดต่ำลงทันที ลองดูเน้อ เผื่อจะทำให้ผ่านได้ง่ายขึ้น
       
      ให้เราคุยกับเหล่าแกะที่โง่เขลา พอเรียนรู้เรื่องการดึงบล็อกแล้ว (จำไว้เน้อ เพราะต่อไปได้ใช้แน่ๆและบ่อยด้วย) เข้าไปในห้องสารภาพบาปแล้วดึงเชือกทางซ้าย
       
      Boss – Child with a Chainsaw
       
      ฉากนี้ไม่ยากอย่างที่คิด คงเพราะว่ามีบล็อกให้เราดึงมาต่อมาก แต่พอเล่นไปบล็อกจะน้อยลง เพราะความสามารถของหัวหน้าก็คือ การทำลายบล็อกแนวตั้ง แถมยังทำลายทั้งแถวอีกด้วย อีกเหตุผลที่ทำให้ฉากนี้ยาก เพราะถ้าเราขึ้นไปเร็วมากเกินไปจะทำให้บล็อกเกิดไม่ทัน และการรอนั่นแหละที่ทำให้เกมยากขึ้น แต่ทั้งหมดก็ไม่ใช่ปัญหาที่จะทำให้เราไปไม่ถึงชั้นบนสุด พยายามปีนขึ้นไปชั้นบนสุดแล้วเข้าประตูไป
       
      ดู Cut Scene แล้วให้เราคุยกับเพื่อน ลุกจากโต๊ะแล้วมานั่งที่เคาน์เตอร์ คุยกับคนชงเหล้าแล้วให้เราดูข่าว คุยกับคนทางซ้ายแล้วตอบตัวเลือกล่าง อ่าน Mail แล้วตอบ Mail ที่ได้รับ คุยกับคนที่นั่งทางขวาแล้วอ่าน Mail และตอบ Mail กลับมานั่งที่โต๊ะแล้วคุยกับเพื่อนที่นั่งข้างๆ จากนั้นให้เราออกจากร้านได้
       
      Stage 7 Spiral Corridor
       
      Area 1
       
      ฉากนี้พื้นๆ ไม่มีอะไรมากเพราะว่ามีบล็อกให้ดึงมาต่อเยอะ พยามสร้างบันไดขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุด ส่วนศัตรูก็ให้ใช้เวทย์มนต์จัดการจะง่ายที่สุด
       
      หาข่าวสารตรงที่พักนี้ตามปกติ เมื่อพร้อมแล้วให้เราเข้าไปในห้องสารภาพบาป ดึงเชือกทางขวาแล้วเข้าสู่ส่วนต่อไปได้เลย
       
      Area 2
       
      ฉากนี้สั้นมากแถมไม่ยากไม่ง่ายมากนัก ถ้าอยากจะเก็บของ แนะนำให้ไต่ไปเก็บ พยายามไต่เพื่อหาบล็อกที่สามารถพาเราขึ้นไปข้างบนให้ได้ พอถึงชั้นบนสุดก็จะผ่านแล้ว
       
      หาข่าวสารตรงที่พักนี้หรือไม่ก็แล้วแต่ใจ จากนั้นให้เราเข้าไปในห้องสารภาพบาป ดึงเชือกทางซ้ายแล้วเราจะถูกส่งไปส่วนต่อไป
       
      Area 3
       
      การปีนขึ้นของหอคอยนี้ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เหล่าคู่แข่งก็ไม่มีให้เราต้องปวดหัว บล็อกกับดักก็ไม่มี จะมีก็แต่ทางแยกซ้ายและขวาที่เราต้องเจอ ไม่ต้องคิดมากเลือกเอาสักทางก็พอ ก่อนถึงสวิทซ์เราจะต้องแก้ปริศนานิดหน่อย เพราะว่าสวิทซ์จะอยู่ไกลมาก เราจะต้องสร้างทางไปให้ถึง ซึ่งก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย
       
      หาข่าวสารแล้วให้เราเข้าไปในห้องสารภาพบาปได้
       
      Area 4
       
      ที่หอคอยนี้จะค่อนข้างสั้นกุด แต่ยิ่งสั้นก็ยิ่งต้องใช้ความคิด พยายามอย่าผลักบล็อกทิ้ง เพราะจะทำให้เราปีนขึ้นไปไม่ถึงสวิทซ์ ถ้าคิดจะผลักทิ้ง จะต้องมีบล็อกคอยลองรับก่อน พยายามปีนให้ถึงสวิทซ์ให้ได้ก็พอ
       
      ยิ่งขึ้นมาสูงเหล่าลูกแกะที่ตามืดบอดก็ยิ่งน้อย ให้เราเข้าไปในห้องสารภาพบาปแล้วดึงเชือกทางขวา
       
      Boss – Shadow of Vincent
       
      ระวังบล็อกที่มีพื้นสีม่วงให้ดีๆ เพราะขืนเหยียบมีหวังได้กลับบ้านเก่าแน่ๆ ตัวหัวหน้าเองไม่ค่อยมีน้ำยาอะไร ในช่วงแรกจะทำลายบล็อกเพื่อกวนเรา แต่ช่วงกลางถึงช่วงหลังจะดับไฟทั้งฉาก ทำให้การเล่นลำบากขึ้นนิดหน่อย พยายามปีนขึ้นไปเรื่อยๆ แบบค่อยๆคิดค่อยๆทำ เทคนิคที่ใช้บ่อยก็คือการสร้างขั้นบันไดนั่นเอง พอถึงประตูแล้วให้เราดู Cut Scene จบฉากได้
       
      ดู Cut Scene แล้วให้เราอ่าน Mail ที่ได้ รุกออกจากโต๊ะแล้วคุยกับคนอื่นๆในร้าน อ่าน Mail และส่ง Mail เรียบร้อยแล้วให้เราออกจากร้านได้
       
      Last Stage The Cathedral
       
      Boss - Catherine
       
      เราจะต้องคอยช่วยเหลือ Katherine ไปด้วย ถ้าเธอตายก็จบเกมเช่นเดียวกัน ค่อยปีนหอคอยขึ้นไป โดยเน้นให้ Katherine ปีนตามเรามาด้วย ระวังสายฟ้าของหัวหน้าให้ดีๆ เพราะจะทำให้บล็อกร้าว (เหยียบได้อีก 1 ครั้งเท่านั้น) พอขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุดก็จะผ่านฉากนี้แล้ว
       
      ดู Cut Scene แล้วให้เราคุยกับเพื่อนๆของเรา นั่งที่เคาน์เตอร์แล้วคุยกับสาวเสิร์ฟ จากนั้นให้เราออกจากร้านได้เลย
       
      Final Stage The Empireo
       
      Area 1-3
       
      ที่นี่จะยากมาก ต้องใช้ความคิดอย่างหนักเลยทีเดียว บางทีหาทางไปไม่เจอแนะนำให้หาบล็อกกระโดดให้พบ เพราะสามารถช่วยได้เราได้มาก การใช้ไอเทมนั้นแนะนำให้ใช้ไปเลย ไม่ว่าจะเป็นยาชูกำลังหรือการสร้างบล็อก อย่าลืมว่านี่คือฉากสุดท้ายแล้ว แถมพวกศัตรูก็จองล้างของผลาญกว่าที่คิดนะ เพราะฉะนั้นใช้สายฟ้าจัดการเลย หรือถ้าพบคาถาก็ให้เราหาทางเก็บให้ได้ พยายามใช้ทุกหนทางในการผ่านให้ได้เป็นพอ
       
      Boss – Thomas Mutton
       
      ที่นี่มีบล็อกเยอะมาก เพราะฉะนั้นอย่าพยายามคิดวิธีดึงบล็อกที่ยากเกิน ให้คิดว่าดึงบล็อกอย่างไรให้เราปีนขึ้นไปให้ได้เร็วที่สุด Thomas นั้นจะคอยเปลี่ยนบล็อกและยิงทำลายบล็อก ที่เด็ดสุดก็คือพยายามหาทางถีบเราเสมอๆ (โดนทีเดียวตาย)
       
      Boss – The Demuzid
       
      หอคอยนี้ยากมาก หัวหน้าฉากก็ยากมาก แรกๆก็คอยจ้องมองเราเพียงอย่างเดียว แต่อย่าเผลอละ ถ้ามีแสงสีแดงปรากฏออกมาให้เรารีบขึ้นไปข้างบน เพราะว่าพื้นจะหายไปทั้งหมด แถมหมอนี่ยังสามารถเปลี่ยนบล็อกได้คราวละมากๆอีกด้วย แต่ถ้าปีนหอคอยจนถึงด้านบนสุดได้ เราก็จะจบเกมนี้แล้วละ
       
      Review
       
      จะเริ่มอย่างไรดีละ ผมสามารถบอกได้อย่างง่ายๆเลยว่า ประสบการณ์ที่ได้จาก Catherine นั้นคุณไม่เคยได้จากเกมไหนในโลกนี้แน่ๆ มันมีเอกลักษณ์ รวดเร็ว มีจินตนาการและตลกขบขันหน่อยๆ มีการริเริ่มที่เต็มเป็นไปด้วยความสดใสและพร้อมที่จะทำให้เราเดือดดาลได้อยู่เสมอ
       
      ผมเล่นฉบับภาษาญี่ปุ่นเลยไม่ได้ซึมซับเนื้อเรื่องมากมายอะไร แต่ผมคิดว่าผมสามารถคาดเดาเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ นั่นก็คือเราสามารถเล่นเกมนี้ได้ทั้งๆที่ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น (ก็ทำมาตั้งแต่เด็กแล้วนี่เนอะ) เพราะส่วนใหญ่คำถามที่ได้พบในเกมก็คือ ใช่ หรือ ไม่ เท่านั้น โชคดีที่เราสามารถบันทึกเกมก่อนค่อยตอบก็ได้ แน่นอนที่ปัญหาย่อมเกิดขึ้นระหว่างบทสนทนา จนบางทีอยากจะข้ามบทสนทนาทิ้งไปเลย (ก็ไหนๆก็ไม่เข้าใจอยู่แล้ว) ส่วน Puzzle ที่เป็นส่วนใหญ่ของเกมเช่นกันนั้น ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดี อย่างน้อยก็สร้างความตื่นเต้นได้ไม่มากก็น้อย
       
      เกมนี้เราได้รับบทเป็น Vincent ผู้ซึ่งพบกับผู้หญิงชื่อ Catherine อย่างไรก็ตามเขาดันมีคนรักที่ชื่อ Katherine อยู่ทั้งคน ทั้งๆที่คบกันมา 5 ปีและมีแผนจะแต่งงานกันอยู่มะลอมมะล่อแล้ว พอมีผู้หญิงเข้ามาพัวพันทีเดียว 2 คน ชีวิตของ Vincent ก็เริ่มยุ่งเหยิง ระหว่างที่คบกับ Catherine ถึงจะดูสดใสใหม่กิ๊ก แต่ Vincent ก็เริ่มฝันร้าย เขาที่อยู่ในสภาพนุ่งกางเกงในตัวเดียว ส่วนมือก็ถือหมอนใบน้อยไม่ห่างกาย ได้อยู่ในสถานที่อันแสนแปลกแยก ผู้คนนั้นดูเหมือนจะใกล้กับความตายเสียเหลือเกิน (แถมยังกลายเป็นแกะกันหมด) เพราะฉะนั้นเกมนี้จึงเกิดเกิดขึ้น เมื่อ Vincent จำเป็นต้องเลือกระหว่าง Catherine ทั้ง 2 คน ซึ่งเกมก็ดันแบ่งฝ่ายออกเป็น Good และ Evil ซะงั้น ทั้ง 2 ด้านนี้จะพาเราไปสู่ฉากจบที่แตกต่างกัน
       
      เกมนี้ถูกพัฒนาโดยทีม Persona ภาพของเกมนี้ผสมผสานระหว่าง Cell Shading และ Animation ซึ่งนำมาผสมผสานกันได้อย่างกลมกลืนมาก งานภาพก็เข้าขั้นดี (สมเป็นเกมของเครื่อง Next Gen) แต่อย่าเพิ่งสำคัญตนผิด เพราะสภาพแวดล้อมในเกมนี้มีไม่มากนัก ห้องของ Vincent ร้านต่างๆอีก 2-3 ร้าน ทำให้มีการใช้ฉากซ้ำๆระหว่างมากเหลือเกิน แถม Vincent ในร่างของแกะก็ยังขยับแบบแปลกๆ ต้องเล่นไปสักพักถึงจะชินมือ ในฉาก Puzzle นั้นดูเหมือนเป็น Puzzle บ้านๆก็จริง เราทำแค่ปีน ผลัก ดึง หรือพยายามขึ้นไปให้ถึงยอดเท่านั้น ฟังดูเหมือนง่ายและในฉากแรกๆมันก็ง่ายจริงๆนั่นละ แต่พอเล่นถึงฉากหลังๆ ฉากที่เราตกลงไปข้างล่างแล้วตกลงไปข้างล่างอีก ฉากที่ไม่ว่าจะเล่นกี่ครั้งก็ไม่ได้ Gold Trophy แค่จะหาทางผ่านยังต้องคิดจนศีรษะหมุน คะแนนที่ออกมาจึงลูกผีลูกคน สุดท้ายจากความยากแบบ Normal ต้องเปลี่ยนมาเล่นแบบ Easy จึงจะพอถูไถไปได้จนจบ เพราะอย่างน้อยก็เปิดโอกาสให้เรา Undo การกระทำจนกว่าจะพอใจ ระบบการเรียนรู้ผ่านเหล่าแกะขาวที่ตามืดบอดก็ทำออกมาเข้าใจง่าย ขอสารภาพอย่างไม่อายเลยว่าคิดเองไม่ได้ แต่พอได้เรียนรู้จากแกะขาวที่ใจดีนี้แล้ว ทำให้การเล่นง่ายขึ้นมาก
       
      สิ่งที่สำคัญที่สุดใน Catherine ก็คือความสดใหม่ ในขณะที่อุตสาหกรรมเกมมีแต่เกม FPS ครองตลาดเป็นอันดับ 1 ในทุกงานเทศกาลถ้าคุณจะไปเลือกซื้อเกม คุณจะเห็นเกมแนว FPS อยู่เกลื่อนแผง (นำมาวางซ้อนกันยังไม่มีที่วาง) แถมด้วยเกมแนวกีฬาอีกส่วนหนึ่ง ที่ทำให้เราแพ้ชนะวนเวียนอยู่อย่างนั้น (ทั้งวัน) เกมแนว Platfrom ที่ทำให้เราตายซ้ำแล้วซ้ำอีกกว่าจะผ่านแต่ละฉาก ต้องเดินสำรวจจนขาลาก คุยกับผู้คน (ในเกม) ทุกคนที่พบเจอ เพื่อข้อมูลเล็กๆน้อยที่จะทำให้เราผ่านแต่ละฉากได้ ถ้าคุณเบื่อเกมที่ยกตัวอย่างมาทั้งหมดนี้ Catherine ก็เหมาะที่จะมาปัดเป่าความเบื่อหน่ายในเกมตลาดเหล่านั้นให้หมดไป ผมขอแนะนำ
       
      (แปลมาจาก Web นอกเน้อ)

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×