Final Fantasy VI (Android) - Final Fantasy VI (Android) นิยาย Final Fantasy VI (Android) : Dek-D.com - Writer

    Final Fantasy VI (Android)

    ผู้เข้าชมรวม

    542

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    542

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    4
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  26 มี.ค. 58 / 10:07 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Final Fantasy VI (Android)

       

      Walkthrough by JiraJira

       

      The Attack on Narshe

       

      หลังจากดูฉากเปิดเรื่องแล้ว เราจะขับหุ่นยนต์เข้าไปในหมู่บ้าน เดินขึ้นไปด้านบน เดินผ่านโรงแรมแล้วเราจะพบกับการต่อสู้ครั้งแรก ก่อนเดินหน้าให้เดินไปทางขวาของโรงแรมจะมีการต่อสู้อีก เอาชนะได้แล้วให้เดินย้อนกลับมาแล้วค่อยเดินหน้าไป เราจะพบกับการต่อสู้เป็นระยะๆ เดินหน้าต่อไปจนกระทั่งเข้าไปในเหมือง

       

      The Newly Dug Mineshaft

       

      เดินหน้าต่อไปเราจะพบกับแสงสว่างทางซ้ายมือ นั่นก็คือจุดบันทึกเกมนั่นเอง ถ้าเพิ่งเคยเล่นเป็นครั้งแรกแนะนำให้เรียนรู้ก่อน จากนั้นให้เราเดินขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆ เมื่อทำลายประตูเราจะพบกับ Ymir

       

      The Battle with Ymir

       

      Ymir หอยทากยักษ์ ตัวของมันจะมีอยู่ 2 ส่วน นั่นก็คือ เปลือกและส่วนหัว ถ้าเผลอไปทำลายเปลือกจะถูกท่า Megavolt ใส่ เพราะฉะนั้นให้เล็งโจมตีหัวก็พอ โดยใช้ท่า Megitek Missile เป็นหลัก ถ้ามันหลบหัวเข้าไปข้างในก็ให้เติมเลือดไปพลางๆก่อนก็ได้ เอาชนะได้แล้วให้เราเดินหน้าต่อ เดินขึ้นไปด้านบนเราจะพบกับสัตว์อสูรถูกแช่แข็งอยู่ พอทั้ง 3 คนเข้าไปสำรวจจะถูกทำร้ายไปทีละคน สุดท้ายผู้หญิงปริศนาก็จะมาตื่นอยู่บนเตียงนอนของใครคนหนึ่ง

       

      Old Man's House

       

      เดินมาคุยกับผู้ชายทางขวา หลังจากคุยกันเสร็จแล้วเราจะทราบชื่อของเธอ Terra (ตั้งใหม่ได้) และโชคไม่ดีเลยที่พวกยามจะตามมาถึงบ้านหลังนี้แล้ว ให้เราเดินไปทางขวา สำรวจที่นาฬิกาจะได้ Elixir เก็บแล้วให้เราเดินย้อนกลับไปออกทางประตูหลัง เดินไปทางซ้ายจนกระทั่งเข้าไปในถ้ำอีก

       

      Escape through the Mines

       

      เดินไปตามทางเราจะพบกับจุดบันทึกข้อมูล จากนั้นให้เดินหน้าต่อ เมื่อพบกับทางแยกให้เดินไปทางขวาเพื่อเก็บ Phoenix Down ข้ามสะพานไปทางซ้ายแล้วเก็บ Sleeping Bag ทางซ้ายล่าง เก็บแล้วให้เราเดินขึ้นไปข้างบน ถึงด้านบนสุดเราจะถูกศัตรูล้อม และตกลงไปข้างล่าง โชคยังดีที่นักล่าสมบัติ Locke และพวก Moogle มาช่วยไว้ทัน

       

      Defending Terra from the Guard Leader

       

      เราจะต้องแบ่งกำลังกันคอยปกป้อง Terra โดยต้องไม่ให้ศัตรูเข้าถึง Terra ได้ เมื่อจัดการกับศัตรูได้หมดแล้วให้เราไปสู้กับ Guard Leader ด้านล่าง (สามารถขโมย Myttril Knife จากมันได้) เอาชนะได้แล้วเราจะได้ Terra มาร่วมทีมด้วย

       

      Adventuring School

       

      ออกมาจากถ้ำแล้วจะเข้า Beginners House ด้านบนก็ได้ ข้างในมีของให้เก็บด้วย เรียบร้อยแล้วให้เราออกจากหมู่บ้าน Narshe นี้

       

      Traveling to Figaro Castle

       

      ออกจาก Narshe แล้วให้เราเดินวนเวียนเพื่อสู้กับมอนสเตอร์ พยายามเก็บมอนสเตอร์ให้หมด โดยต่อสู้กับมอนสเตอร์ในทุกๆสถานที่ ทุ่งหญ้า ป่า ทะเลทราย เดินลงไปข้างล่างจะพบกับทะเลทราย เปิดแผนที่ดูจะพบ Figaro Castle อยู่ตรงกลางเลย

       

      Figaro Castle

       

      เดินทางมาทางทิศใต้จะพบกับปราสาท Figaro เข้าไปด้านในแล้วไปคุยกับราชาของที่นี่ เขาจะแนะนำตัวเองว่าชื่อ Edgar คุยกันเสร็จจะเหลือเพียง Terra เพียงลำพัง ให้เราไปสำรวจปราสาทแห่งนี้ได้เลย ขึ้นบันไดทางซ้ายบนจะพบกับ Phoenixe Down เก็บแล้วให้เดินย้อนกลับมา เข้าห้องทางซ้ายจะเป็นร้านขายของ ด้านในจะมี Gold Needle ให้เก็บ ห้องทางขวาจะเป็นร้านขายอาวุธเสริมของ Edgar และจะมี Potion และ Antidote ให้เก็บด้วย เก็บแล้วให้ออกจากห้องแล้วเข้าประตูด้านล่างเพื่อออกมาด้านนอก เดินลงมาด้านล่างแล้วเข้าประตูทางซ้าย ประตูด้านบนจะเป็นโรงแรม ให้เราลงบันไดทางขวาแล้วออกจากห้องไป เข้าประตูทางซ้ายบนแล้วคุยกับหญิงชรา เราจะทราบว่า Edgar มีน้องชายฝาแฝดอีกคนหนึ่งชื่อว่า Sabin กลับมาที่ห้องบัลลังก์ คุยกับ Edgar แล้ว Kefka จะมาที่ปราสาท

       

      Fighting off Magitek Power

       

      เดินลงมาคุยกับ Kefka แล้วเดินขึ้นไปคุยกับ Locke แล้วจะเปลี่ยนการควบคุมมาเป็น Terra จากนั้นให้ตาม Locke ไปพักผ่อน ตื่นเช้ามาให้คุยกับ Kefka แล้วเดินขึ้นมาคุยกับทหารด้านบน ทุกคนจะกระโดดขี่ Chocobo หนี Kefka ปราสาท Figaro จะมุดทรายลงไปเบื้องล่าง Kefka จะส่ง Magitek Armor มาสู้กับพวกเรา ลองให้ Terra ใช้คาถาดูจะทำให้อีก 2 คนตกใจ จัดการหุ่นทั้ง 2 แล้ว ให้เราขี่ Chocobo ลงมาทางทิศใต้จะพบกับ South Figaro Cave

       

      Traveling through Figaro Cave

       

      เข้าไปด้านในแล้วคุยกับทหารที่เฝ้าปากทางอยู่ เมื่อไปในถ้ำแล้วให้รับรู้ไว้เลยว่า FFIV จะเป็นภาคเดียวที่ของในกล่องมันจะเปลี่ยนในภายหลัง และส่วนมากจะเป็นของที่ดีกว่าเดิม ถ้าอดใจไหวก็อย่าเพิ่งเปิด แต่ถ้าไม่ก็ให้เปิดๆมันไปเถอะ เดินขึ้นไปด้านบนจะพบกับบ่อน้ำฟื้นพลัง ฟื้นพลังแล้วให้ออกจากห้องนี้ทางด้านขวา เดินลงมาด้านล่างจนพบกับทางแยก เดินไปทางซ้ายแล้วเข้าประตูด้านบนไป เก็บ Ether แล้วเดินย้อนกลับมาที่ทางแยก (จะไม่เก็บก็ได้) เดินไปทางขวาแล้วเดินไปตามทาง ทางขวาสุดจะมี Ether ให้เก็บ เก็บแล้วให้เดินไปทางซ้าย ผ่านบันไดแรกไปขึ้นบันไดที่ 2 เดินไปจนสุดทางจะพบ Phoenix Down เก็บแล้วให้เดินย้อนกลับมาที่บันไดแรก เดินไปตามทางเรื่อยๆเราจะพบทางออก

       

      South Figaro

       

      เดินไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะพบกับหมู่บ้าน South Figaro (ถ้าเราตาไวๆเราจะเห็น Shadow เดินอยู่ด้านล่าง ลองตามไปจะพบว่าเขาเข้าไปในร้านเหล้า) เมื่อเข้ามาแล้วให้เราสำรวจถังทางซ้ายของโรงเลี้ยง Chocobo จะได้ Potion เดินไปด้านหลังของโรงเลี้ยง แล้วสำรวจลังทางขวาจะได้ Green Cherry เดินมาสำรวจลังทางซ้ายล่างของหมู่บ้านจะได้ Gold Needle เดินไปสำรวจลังทางขวาล่างจะได้ Eye Drops ส่วนถังด้านบนจะเป็น Antidote ถังที่อยู่ระหว่างร้านอาวุธและร้านเกราะจะมี Potion เดินลงมาด้านล่างของร้านเกราะ เข้าไปในบ้าน (ประตูหลัง) เดินไปทางขวาล่างของบ้าน สำรวจที่ถังจะได้ Potion ออกจากบ้านหลังนี้แล้วมาขึ้นบันไดทางขวาบน เดินไปทางซ้ายจะพบกับถัง 3 ใบ หนึ่งในนั้นจะมี Teleport Stone อยู่ หมู่บ้านนี้จะมีอาวุธและชุดเกราะที่ดีขาย รวมทั้งร้านขายเครื่องประดับแรกก็อยู่ที่หมู่บ้านนี้ด้วย ภายในร้านขายเครื่องประดับจะติดกับโรงแรม และจากโรงแรมก็สามารถเดินไปที่ร้านเหล้าได้ ที่นี่เราจะพบกับ Shadow ลองคุยกับเขาดูจะรู้ชื่อของเขา เตรียมตัวให้พร้อมแล้วออกจากหมู่บ้านได้

       

      Sabin's Hut

       

      เดินขึ้นไปทางทิศเหนือจะพบกับที่พักของ Duncan เข้าไปในบ้านแล้ว Edgar จะได้กลิ่นของคน แต่ลองสำรวจในบ้านจะไม่มีใครอยู่ สำรวจที่ถังน้ำจะได้ Potion ออกจากบ้านเราจะพบกับชายชรา คุยกับเขาแล้วออกจากที่นี่ได้ เดินทางไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เราจะพบกับ Mt. Kolts ให้เราเข้าไปด้านใน

       

      Mt. Koltz

       

      เดินไปทางขวาแล้วเข้าประตูไป เมื่อออกมาด้านนอกให้เราเดินไปเข้าถ้ำทางขวา เดินลงมาด้านล่างจะพบกับประตู ออกมาด้านนอกจะพบมีดสั้น Main Gauche กลับเข้าไปในถ้ำแล้วเดินขึ้นไปด้านบน พบสะพานให้เราเดินไปทางขวาจะพบกับทางลับ เดินไปจนสุดทางจะได้ Gigas Glove เดินย้อนกลับมาที่สะพาน เดินไปตามสะพานแล้วเราจะออกมาด้านนอกอีก เราจะพบกับเงาคนดำๆ ให้เดินตามเขาไปเรื่อยๆ ประตูแรกจะเป็นทางไปเก็บ Tent เก็บแล้วให้เดินย้อนกลับมาเข้าประตูที่ 2 เดินไปตามทางเรื่อยๆเราจะพบกับ Vargas

       

      The battle with Vargas

       

      คุย Vargas แล้วเขาจะทำร้ายพวกเรา ต่อสู้กับเขา (Vargas มี Mythirl Claws ให้เราขโมยอยู่ แต่ถ้าโชคร้ายจะได้ Potion มาแทน) ต่อสู้กับเขาสักพัก Sabin จะออกมาช่วย ให้ Sabin ใช้ Blitz กดท่า ซ้าย ขวา ซ้าย ต่อย จะทำให้ Vargas พ่ายแพ้ไปเลย เราจะได้ Sabin ร่วมเดินทาง เข้าถ้ำทางขวาแล้วเก็บ Tent เดินไปตามทางจะสามารถออกจากถ้ำนี้ได้

       

      The Returners' Hideout

       

      เดินขึ้นไปทางทิศเหนือจะพบกับถ้ำ ภายในถ้ำจะเป็นที่ซ่อนของพวก Returners เดินเข้าไปแล้วคุยกับคนที่ปิดทางอยู่ เขาจะนำเราเข้าไปที่ห้องหนึ่ง เดินเข้าไปในห้องแล้วคุยกับ Banon เมื่อพักผ่อนเรียบร้อยแล้วให้เราเดินไปสำรวจกล่องทางขวาจะได้ Phoenix Down ออกจากห้องแล้วเดินขึ้นไปด้านบน ภายในห้องด้านบนเราจะพบกับของมากมาย จากนั้นให้เดินไปทางขวาบนของห้อง ลองหาทางลับดูจะพบกับ White Cape เก็บแล้วให้เดินย้อนกลับมา ทางขวาของที่นี่จะมีไหอยู่กับชุดเกราะ สำรวจไหจะได้ Green Cherry เข้าไปในห้องของ Banon สำรวจกล่องจะได้ Hi Potion ออกจากห้องของ Banon แล้วไปทางซ้ายล่างของที่นี่ คุยกับคนที่ปิดทางอยู่ เขาจะเปิดทางให้เราไปพบกับ Banon คุยกับ Banon แล้วตอบ No 3 ครั้ง เราจะได้ Genji Glove มาใช้ เตรียมตัวพร้อมแล้วให้เดินลงมาด้านล่าง

       

      Escaping over the Lethe River

       

      กระโดดลงแพแล้วล่องไปตามแม่น้ำ เมื่อพบแยกให้เราเลือกด้านบน พบกับ Save Point ให้เราพักผ่อนก่อนจึงเดินทางต่อ พบกับแยกอีกให้เราไปทางซ้าย เราจะพบกับ Save Point นี่จะเป็นที่สุดท้ายแล้ว (แนะนำให้เอาคนที่มีพลังป้องน้อยๆไปไว้แนวหลัง และให้ใช้คาถาหรือไอเทมก็พอ) ล่องแพต่อเราจะพบกับ Ultros

       

      The first fight with Ultros

       

      Ultros จะมีจุดอ่อนอยู่ที่แพ้ไฟ ต่อสู้ไปได้สักพักมันจะหนี Sabin จะดำน้ำลงไปดูทำให้พลัดหลงกับทุกคน

       

      Terra Scenario: Traveling to Narshe

       

      กลุ่มของ Terra จะล่องแพไปต่อ ล่องแพไปอีกนิดหน่อยก็จะถึงจุดหมายแล้ว เดินไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะพบกับหมู่บ้าน Narshe

       

      Terra Scenario: Narshe

       

      เมื่อเข้ามาแล้วให้เราเดินไปทางซ้าย ถึงประตูลับที่ Locke เคยพา Terra หนี Edgar จะเปิดประตูเข้าไปได้ เดินไปตามทางจนออกมาที่หมู่บ้าน ขึ้นสะพานทางซ้ายแล้วเข้าไปในถ้ำทางซ้าย เดินไปถึงห้องที่มีลำแสงวิ่งเป็นทาง ให้เราเดินตามลำแสงจะสามารถมาเข้าประตูด้านบนได้ เดินขึ้นไปด้านบนแล้วเข้าประตูแรกที่พบ เดินไปตามทางเราจะพบกับพวก Moogle เดินมาทางซ้ายล่างจะเก็บ Rune Blade ได้ ขึ้นบันไดทางขวาแล้วเดินมาด้านล่าง ออกจากถ้ำแล้วให้เราเดินไปทางขวา เข้าไปในบ้านของ Arvis เดินลงมาด้านล่างแล้วจะจบเรื่องราวนี้แล้ว

       

      Scenario Locke: South Figaro

       

      เมื่อเลือกเรื่องราวของ Locke เขาจะแอบมาอยู่ที่หมู่บ้าน South Figaro อย่างแรกที่ต้องทำก็คือ สวมใส่เครื่องประดับก่อน จากนั้นก็สวมใส่อาวุธและชุดป้องกัน เตรียมตัวพร้อมแล้วให้เราเดินไปทางซ้าย ขึ้นบันไดแล้วเข้าไปในร้านขายไอเทม คุยกับพ่อค้าแล้วให้เรา Steal เขา ได้ชุดมาแล้วให้ออกจากร้านขายไอเทม เดินลงมาด้านล่างแล้วลงบันไดไป ชั้นกลางจะมีประตูอยู่ให้เราเข้าไป เดินขึ้นไปด้านบนแล้วลงบันไดไป คุยกับเด็กแล้วเขาจะเปิดทางให้ ออกจากบ้านแล้วให้เราเดินขึ้นมาด้านบน ขึ้นบันไดทางขวาบนแล้วเดินไปทางซ้าย เจอกับทหารใส่ชุดสีเขียวให้คุยกับเขา Steal แล้วเราจะได้ชุดของเขามาอีก ลงบันไดแล้วเดินไปทางขวา คุยกับทหารที่ขวางทางเขาจะเดินไปพักผ่อน

      เข้าไปในร้านเหล้าแล้วลงบันไดทางขวา เราจะพบกับพ่อค้าอยู่ในห้อง คุยกับเขาแล้ว Steal ชุดของเขามาอีก เราจะได้ Cider มาด้วย กลับไปหาเด็กน้อยแล้วเขาจะบอกว่าตารออยู่ ขึ้นบันไดไปหาตาแล้วคุยกับเขา คุยแล้วให้เราลงบันไดกลับมาหาเด็กอีกครั้ง เขาจะขอรหัสจากเรา ให้ตอบว่า Courage เขาจะเปิดทางลับให้กับเรา สำรวจที่นาฬิกาจะได้ Elixir เก็บแล้วให้ออกจากที่นี่ไป เดินลงมาด้านล่างสำรวจที่ลังจะได้ Phoenix Down เข้าไปในบ้านแล้วขึ้นบันไดไป เดินไปทางขวาแล้วเข้าประตูแรกที่พบ คุยกับผู้ชายแล้วให้เราลงบันไดที่อยู่หลังตู้หนังสือทางซ้าย

       

      Scenario Locke: Secret Underground Passge of South Figaro

       

      เดินไปตามทางจะมีคำสั่งให้เราถอดชุด ให้เลือกถอดชุดดีกว่านะ เดินลงมาด้านล่างจะพบกับทางลับอยู่ตรงผนังด้านล่าง เดินไปตามทางลับจะพบกับบันไดลง เก็บ Hyper Wrist และ Hermes Sandals แล้วกลับขึ้นมา สำรวจประตูแรกจะพบกับ Celes ที่ถูกคุมขังอยู่ ให้เลือกช่วยเธอแล้วจะได้ Celes มาเป็นพวก สำรวจที่ทหารเราจะได้กุญแจนาฬิกามา ออกจากห้องแล้วจะพบกับประตูอีก 2 บาน บานตรงกลางจะเป็น Save Room ให้เราเข้าบานทางขวาสุด สำรวจห้องนี้ให้ทั่วๆ ไปสำรวจนาฬิกาด้านบนสุดประตูลับจะเปิด

      เดินไปทางขวาแล้วเดินลงจะได้ Iron Armor เก็บแล้วเดินย้อนกลับไปด้านบนสุด เดินไปทางขวาแล้วเดินผ่านผนังไปจะเก็บ Great Sword และ Heavy Shield ได้ เดินย้อนกลับมาแล้วเดินลง พอเราจะหายเข้าไปในกำแพง พยายามคลำทางไปทางซ้าย แล้วหาทางลงบันไดด้านล่างให้ได้ ลงบันไดมาแล้วให้เราเดินขึ้นด้านบนจะพบกับ X Potion ด้านล่างของ X Potion จะมี Ribbon ซ่อนอยู่ กลับมาที่บันได ด้านล่างจะมีทางลับไปเก็บ Hi Ether เก็บแล้วให้กลับมาขึ้นบันได เดินย้อนกลับมาแล้วเดินลงมาด้านล่างสุดเราจะพบกับบันไดอยู่ทางขวาล่าง ขึ้นบันไดมาแล้วให้เข้าประตูไป

       

      Scenario Locke: Figaro Cave

       

      ออกมาด้านนอกแล้วให้เราเดินไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เข้าไปใน South Figaro Cave เข้าไปในถ้ำแล้วเดินย้อนทางเดิม ปากทางเราจะพบกับ Tunnel Armor

       

      Scenario Locke: The battle with Tunnel Armor

       

      Tunnel Armor จะง่ายมากถ้าให้ Celes ใช้ Runic แล้ว Locke โจมตีไปเรื่อยๆ จัดการมันได้แล้วให้เราออกจากถ้ำไป

       

      Scenario Sabin: Meeting Shadow

       

      Sabin Scenario

       

      เข้าไปในบ้านทางทิศตะวันออก เราสามารถซื้อของจากคนที่ขี่ Chocobo ได้ ให้คุยกับ Shadow เราจะสามารถเลือกนำเขาร่วมเดินทางไปด้วยได้ แต่แนะนำว่าอย่าเพิ่งจะดีกว่า (แต่มีวิธีไม่ให้เขาจากเราไป นั่นก็คืออย่าต่อสู้ตอนอยู่ในแคมป์ และเมื่อถึงรถไฟผีสิงเขาจะไม่จากไปไหนเลย) แต่ถ้ามั่นใจก็ให้เราเอาเขาเข้าพวกได้เลย เดินทางไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จะพบกับ Imperial Camp

       

      Scenario Sabin: The Imperial Camp and Doma

       

      เข้ามาในแคมป์ของ Kefka แล้ว Sabin และ Shadow จะแอบ และจะตัดฉากไปที่ Cyan ให้ Cyan ไปสู้กับหัวหน้าด้านล่าง เอาชนะได้จะตัดฉากกลับไปที่พวก Sabin เตรียมตัวพร้อมแล้วให้เราเดินไปทางขวา เข้าไปในเต้นท์แล้วสำรวจกล่องทางขวาบน เลือก Hit It แล้วสำรวจอีกครั้งจะได้ Star Pendant เก็บแล้วให้เดินลงมาด้านล่าง ข้ามสะพานมาเราจะพบกับ General Leo และเมื่อเราเผชิญหน้ากับ Kefka ให้เราต่อสู้กับเขาจนเขาหนีไปหาลูกน้อง อย่าเพิ่งเดินไปหาเขา ให้เราเข้าไปในเต้นท์ด้านบนก่อน ภายในจะมี Green Beret และ Mythril Glove ให้เก็บ (มีปิศาจเฝ้าอยู่ 1 กล่อง) กลับไปคุยกับ Kefka มันจะเอาลูกน้องมาขวาง ถึงเราจะจัดการลูกน้องของมันหมด แต่ก็สามารถหยุด Kefka ไม่ให้วางยาพิษลงในน้ำได้

       

      Scenario Sabin: Traveling to the Phantom Forest

       

      ตัดกลับไปที่ Cyan ทหารและชาวบ้านที่ดื่มน้ำล้มตายเป็นใบไม้ร่วง เดินขึ้นไปด้านบนแล้วเข้าประตู ลงบันไดแล้วเดินลงไปด้านล่าง Cyan จะเข้าไปในห้องบัลลังก์ แล้วเข้าไปในห้องทางขวา Cyan จะบ้าเลือดบุกแคมป์ของ Kefka ถ้าเราไปคุยกับ Cyan ด้านหน้าจะถูกเขาต่อยกระเด็น ถูกต่อยแล้วให้ไปคุยกับเขาด้านหลัง เราจะได้ Cyan ร่วมต่อสู้ด้วย ร่วมต่อสู้จนเขายอมให้พวกเราเข้ากลุ่ม เมื่อทุกคนขี่หุ่นแล้ว ให้เดินย้อนกลับมาออกจากแคมป์นี้ทางด้านบน ออกมาด้านนอกแล้วให้เดินไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เราจะเข้าไปใน Phantom Forest

       

      Scenario Sabin: The Phantom Forest

       

      จากทางเข้าให้เราเดินไปทางขวา ออกจากฉากด้านบน เราจะพบกับบ่อน้ำฟื้นพลัง เดินไปทางขวาแล้วออกจากฉากทางด้านล่าง ออกจากฉากทางขวาบน เดินไปตามทางแล้วเราจะพบกับป้ายบอกทาง ให้ออกจากฉากไป เราจะพบกับรถไฟปิศาจ

       

      Scenario Sabin: The Phantom Train

       

      เข้าไปในรถไฟแล้วให้ลองออกจากรถดู เมื่อออกไม่ได้ให้เดินไปทางขวา เข้าไปในตู้แล้วเข้าไปในห้อง เราจะพบกับ Save Point บันทึกเกมเรียบร้อยแล้วให้เราเดินไปทางซ้าย เดินไปจนกระทั่งพบกับทางตัน จัดการพวกผีจนมาถึงทางออกอีกทาง จัดการกับผีที่ปิดทางอยู่แล้วเราจะถูกไล่ออกมาด้านนอก ขึ้นไปบนหลังคาแล้วทุกคนจะตัดสินใจกระโดดไปอีกฝั่ง เดินหน้าไปทางซ้ายแล้วสับสวิทซ์ทางซ้าย ตู้รถไฟจะถูกตัด กลับเข้าไปในตู้รถไฟ สับสวิทซ์แล้วทางจะเปิด เดินไปตามทางเรื่อยๆ (ตรงนี้ไม่ยากแล้ว) สุดทางให้เราเข้าไปในหัวรถจักร สับสวิทซ์อันที่ 1 และ 3 แล้วออกมาด้านนอก เดินไปสำรวจที่หัวรถจักร

       

      Scenario Sabin: The Battle with the Phantom Train

       

      สำรวจหัวรถจักรแล้วเราจะต้องสู้กับ Phantom Train คิดมากหรือเปล่า ถ้าไม่คิดมากให้เราใช้ Phoenix Down จะส่งมันกลับบ้านเก่าไปเลย ลงจากรถไฟ Cyan จะพบกับวิญญาณของลูกและเมีย ร่ำลาเสร็จให้เราออกจากสถานีรถไฟได้เลย

       

      Scenario Sabin: Baren Falls

       

      เดินไปทางทิศตะวันออกแล้วเข้าไปในถ้ำ ก่อนกระโดดให้เราถอดอาวุธและชุดป้องกันของ Shadow ก่อน แต่ถ้าไม่คิดมากก็ให้เราเดินไปที่หน้าผา Shadow จะขอถอนตัวและจากไป เมื่อกระโดดหน้าผาแล้วเราจะถูกฝูงปลาจู่โจม ตัวสุดท้ายจะเป็น Rhizopas เอาชนะมันได้เราจะตกถึงน้ำพอดี Sabin และ Cyan จะสลบ โชคดีที่เด็กน้อย Gau มาช่วยไว้ทัน พอทั้ง 2 คนตื่น Gau จะหนีไป

       

      Scenario Sabin: Mobliz

       

      เดินไปทางทิศตะวันออกจะพบกับหมู่บ้าน Moblitz (ในการต่อสู้อาจพบกับ Gau ให้โจมตีสัก 1 ครั้ง เขาจะหนีไป) เข้าไปในร้านขายไอเทมแล้วซื้อ Dried Meat มา เข้าไปในบ้านทางซ้ายบน คุยกับผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงแล้วไปเก็บจดหมายบนโต๊ะ กลับมาคุยกับเขาแล้วให้เราเข้าไปในบ้านที่มีนกพิราบอยู่ด้านหน้า สำรวจตรงนาฬิกาจะได้ Elixir คุยกับผู้ชายด้านบนเราจะเสียค่าส่งจดหมาย 500 เหรียญ นอน 1 คืน แล้วให้เราไปส่งจดหมายให้เขาอีก 5 ครั้ง (รวม 6 ครั้ง) เราจะได้ Tintinnabulum มา

       

      Scenario Sabin: Recruiting Gau

       

      ออกจากหมู่บ้านแล้วเดินวนเวียนค้นหา Gau พบแล้วอย่าโจมตีเขา ให้เราโยน Dried Meat แล้วเราจะได้เขามาเป็นพวก

       

      Scenario Sabin: Crescent Mountain

       

      จากนั้นให้เราเดินทางไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ พบกับถ้ำให้เราเข้าไปด้านใน เมื่อเข้ามาในถ้ำ Gau จะได้กลิ่นที่คุ้นเคย ให้เราสำรวจถ้ำให้ทั่วๆ ทางด้านขวาล่างของถ้ำ Gau จะพบกับหมวกดำน้ำ ออกจากถ้ำทางขวาล่างแล้วทุกคนจะกระโดดลงไปในน้ำ

       

      Scenario Sabin: The Serpent Trench

       

      เจอทางแยกให้เราไปทางขวา ภายในถ้ำให้เดินไปทางขวาเก็บ X Potion แล้วออกจากถ้ำด้านบน เจอทางแยกให้เราไปทางขวาอีก ภายในถ้ำให้เราออกจากถ้ำด้านบน เดินลงมาด้านล่างเหยียบสวิทซ์ที่พื้นแล้วน้ำจะลด กระโดดลงหลุมไปเราจะสามารถเก็บ Green Beret ได้ เดินไปด้านล่างจะสามารถออกจากถ้ำ และเราจะมาอยู่ที่ Nikeah

       

      Scenario Sabin: Nikeah

       

      เข้าไปในโรงแรมที่อยู่ด้านบน สำรวจนาฬิกาแล้วจะได้ Elixir กลับมาที่ท่าเรือ คุยกับคนบนเรือแล้วเลือกออกเรือ และจะจบ Sabin Scenario เพียงเท่านี้

       

      Defending the Esper from Kefka

       

      เมื่อทุกคนรวมตัวกันพร้อมแล้ว ก็ให้จัดการทัพของการต่อสู้ให้ดีๆ ข้อแนะนำก็คือควรแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่มอย่างนี้ กลุ่มที่ 1 ให้มี 4 คน กลุ่มที่ 2 ให้มี 3 คน และกลุ่มที่ 3 ให้มี 1 คน จัดทัพเสร็จเรียบร้อยแล้วให้เราเดินลงมาจะพบว่ามีทางขึ้นมาถึงด้านบนได้แค่ 2 ทาง ให้เราไปปิดทั้ง 2 ทางไว้ การต่อสู้จะยาวนาน ยืดเยื้อ และต่อเนื่อง ให้เราเพิ่มพลังระหว่างต่อสู้เอาจะดีกว่า จัดการพวกลูกจ๊อกหมดแล้ว ให้เราเดินลงไปด้านล่างแล้วคุยกับทหารที่เฝ้า Kefka อยู่

       

      The Battle with Kefka

       

      เราจะสู้กับ Hell's Rider ก่อน จัดการกับเขาได้แล้วให้เราไปคุยกับ Kefka ถ้าเราเอากลุ่มที่มี Celes อยู่ในกลุ่มไปสู้ การต่อสู้กับ Kefka จะง่ายมาก แค่ให้ Celes ใช้ท่า Tunic แล้วให้คนอื่นโจมตีไปเรื่อยๆ เพียงเท่านี้ก็สามารถเอาชนะ Kefka ได้แล้ว เมื่อ Kefka หนีไป Terra จะมีปฏิกิริยากับ Esper ที่ถูกแช่แข็ง เธอกลายร่างเป็น Esper แล้วบินหนีเตลิดเปิดเปิงไป ยังความเป็นห่วงให้กับเพื่อนๆเป็นอย่างมาก ให้เราจัดทีม 4 คนออกตามหา Terra

       

      Narshe

       

      ออกจากบ้านของ Arvis แล้วให้เราเดินลงมาด้านล่าง เข้าบ้านด้านล่างสุดเราจะพบกับกล่องมากมาย (ไม่ต้องลงบันไดนะ และบางกล่องเปิดไม่ได้ก็ช่างมัน) จากนั้นให้ไปเข้าบ้านของ Elder ที่อยู่ทางซ้ายบน สำรวจนาฬิกาจะได้ Elixir เตรียมตัวเรียบร้อยแล้วให้เราออกจากหมู่บ้านนี้ได้

       

      Traveling to Kohlingen

       

      เดินทางไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้ เข้าไปในปราสาท Figaro ถ้าเรามี Sabin และ Edgar อยู่ในกลุ่ม เขาจะออกไประลึกถึงความหลัง จากนั้นให้เราไปซื้ออุปกรณ์เสริมของ Edgar ซื้อ Holy Water ที่ร้านขายไอเทมเตรียมไว้ด้วยก็ดี จากนั้นให้มาเริ่มต้นที่หน้าทางเข้า เมื่อเข้ามาในปราสาทแล้ว ให้เราลงบันไดทางซ้าย คุยกับชายชราด้านล่างแล้วเลือก Kohlingen ปราสาท Figaro จะมุดทรายลงไปและมาโผล่ยังสถานที่ที่เราต้องการ

       

      Kohlingen

       

      ออกมานอกปราสาทแล้วลองเดินในทะเลทราย เมื่อเจ้าโครงกระดูกโผล่มาให้เราปา Holy Water ใส่มัน มันจะตายในทันที จากนั้นให้เราเดินขึ้นไปทางทิศเหนือ เข้าไปใน Kohlingen ภายในร้านเหล้าเราจะพบกับ Shadow ถ้าเรามีพวก 3 คน เขาจะเข้ามาร่วมเดินทางไปกับเรา แต่แนะนำว่าไม่ต้องไปสนใจก็ได้ ถ้าเรามี Locke อยู่ในกลุ่ม ให้เราไปเข้าบ้านทางซ้ายบน สำรวจที่นาฬิกาจะได้ Elixir ให้เราหาทางไปเข้าประตูหลังของบ้านทางขวาบน สำรวจด้านหลังชุดเกราะจะได้ Green Beret เก็บแล้วให้เรากลับมาเข้าบ้านทางขวาบน ลงบันไดไปคุยกับชายชราแล้วมาคุยกับผู้หญิงที่นอนอยู่ ออกจากหมู่บ้านนี้แล้วเดินขึ้นไปทางทิศเหนือ

       

      Jidoor

       

      ทางทิศเหนือจะมีบ้านหลังเล็กๆอยู่ ที่นี่คือ Dragon Neck Cabin สำรวจไหด้านในจะมี Hero Ring อยู่ เก็บแล้วให้เรากลับมาที่ Kohlingen (ป่าทางทิศตะวันตกของ Dragon Neck Cabin จะเป็น Chocobo Stable) แล้วเดินลงมาทางทิศใต้ต่อ เราจะพบกับหมู่บ้าน Jidoor ลองเข้าไปหาซื้อข้าวของที่นี่ดู เรียบร้อยแล้วให้เราเดินขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะพบกับหมู่บ้าน Zozo

       

      Zozo

       

      เมื่อเข้ามาแล้วให้เดินไปทางขวา เข้าไปในร้านเหล้า ขึ้นบันไดไปด้านบน เข้าประตูทางขวาแล้วเราจะออกมาด้านนอก ขึ้นบันไดไปด้านบนแล้วเข้าประตูทางขวา ด้านในจะมี Ether ให้เก็บ ประตูทางซ้ายจะปิดให้เราเดินย้อนกลับมา ออกมาจากร้านเหล้าแล้วเดินขึ้นไปด้านบน เข้าไปในโรงแรมแล้วสำรวจนาฬิกา ตั้งเวลา 6 โมง 10 นาที 50 วินาที ทางลับจะเปิด เราจะสามารถเก็บ Chainsaw ซึ่งเป็นอุปกรณ์ของ Edgar ได้ ออกจากโรงแรมแล้วเดินไปทางซ้ายล่าง เข้าไปในร้านขายเครื่องประดับ ขึ้นไปด้านบนสุดเราจะได้ Brigand Glove ออกจากห้องนี้แล้วลองดูผู้ชายทางซ้าย เขาจะกระโดดข้ามไปมา ให้เราเดินลงแล้วมองหาหน้าต่างที่เปิด กระโดดไปทางซ้ายเรื่อยๆแล้วเข้าประตูไป เดินขึ้นไปด้านบนแล้วเดินไปทางซ้าย สำรวจไหด้านบนสุดจะได้ Ether และ Hi Potion เดินลงมาด้านล่างแล้วเข้าประตูไป ขึ้นไปด้านบนสุดแล้วกระโดดไปทางขวา ขึ้นไปด้านบน เก็บ Burning Fist แล้วขึ้นไปด้านบน

       

      The Battle with Dadaluma and the meeting with Ramuh

       

      พบกับ Dadaluma แล้วรวมพลังกันเอาชนะให้ได้ จัดการ Dadaluma แล้วให้เราขึ้นไปด้านบนสุด ภายในห้องทางซ้ายและขวาจะมี Hermes Sandals และ X Potion ให้เก็บ ด้านบนสุดเราจะพบกับ Terra นอนซมอยู่ อย่าคิดมากให้เราคุยกับเธอ พอเกิดผลึก Esper ขึ้นมาให้เราไปสำรวจจะได้ Esper มาใช้ คุยกับเพื่อนของเราด้านล่าง ทุกคนจะออกมาอยู่ตรงปากทางเข้าทันที

       

      Magicite and Owzer's Mansion in Jidoor

       

      เดินกลับไปที่ Jidoor แล้วเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ด้านบนสุด คุยกับผู้ชายที่เดินไปเดินมา เขาจะคิดว่า Celes คือผู้หญิงที่ชื่อ Maria เมื่อเขาจากไปให้เราเดินลงมาด้านล่างจะพบกับจดหมาย อ่านจดหมายเสร็จแล้วให้เราออกจากหมู่บ้าน เดินลงมาทางทิศใต้เราจะพบกับ Opera House

       

      The Opera House

       

      เข้าไปด้านในแล้วให้เราคุยกับ Impresario เขาจะขอให้ Celes แสดงละครเรื่องนี้ และเมื่อทุกคนมาถึงที่นั่งแล้ว Locke จะขอตัวไปหา Celes ให้เราออกจากอัฒจันทร์ทางขวาล่าง ไปที่ห้องเตรียมตัวแล้วคุยกับ Celes แล้วให้เธออ่านหนังสือ 1 รอบ จากนั้นให้เราออกจากห้องทางซ้ายบน

       

      The Dream Oath

       

      พอ Celes ขึ้นแสดงให้เราเลือก 1, 2 และ 1 เมื่อ Draco ปรากฏตัวให้เรากดสำรวจตรงหน้าเขา เก็บดอกไม้แล้วให้เรารีบไปยืนตรงระเบียงทางซ้ายบน (เดินขึ้น เดินขวา ขึ้นบันไดแล้วไปตรงระเบียงทางซ้ายบนสุด) พอมีดาวตกจะตัดกลับมาที่ Locke

       

      Stopping Ultros

       

      เดินลงมาด้านล่างจะพบกับจดหมาย อ่านแล้วให้เรากลับไปหา Impresario และเราจะมีเวลา 5 นาทีในการหยุด Ultros ไม่ให้ล้มการแสดงนี้ ออกจากฉากนี้ทางขวาบน ด้านบนสุดเราจะพบกับสวิทซ์ 4 อัน คุยกับผู้ชายแล้วสับสวิทซ์ทางขวาสุด ออกจากห้องนี้แล้วกลับมาที่อัฒจันทร์ ออกจากฉากนี้ทางซ้ายบน มาอยู่ใต้หลังคาแล้วให้เราพยายามเดินไปหา Ultros เดินถึงตัวมันแล้วทุกคนจะตกลงมาข้างล่าง จัดการกับ Ultros แล้วมันจะหนีไป อย่านึกว่าเรื่องจบลงแล้ว เพราะว่า Celes ถูก Setzer จับไปที่ Balckjack

       

      The Blackjack

       

      เมื่อทุกคนมาอยู่ที่เรือเหาะแล้วให้คุยกับ Setzer เขาจะยอมช่วยเหลือเรา เรือเหาะลงจอดแล้วให้เราเข้าหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ๆ

       

      Albrook

       

      หมู่บ้าน Albrook นี้ถูกจักรวรรดิ์ยึดครองแล้ว ให้เราเข้าไปในร้านเหล้า นาฬิกาทางขวาบนของร้านเหล้าจะมี Elixir อยู่ ภายในร้านขายอาวุธจะมี Ether ร้านขายเกราะจะมี 2 กล่องแต่เป็นกล่องเปล่า อย่าไปสนใจ ถังทางขวาของโรงแรมจะมี Hi Potion อยู่ เตรียมตัวพร้อมแล้วออกจากหมู่บ้าน

       

      Traveling on the Southern Continent

       

      เดินทางไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ Albrook ที่สุดของทวีปเราจะพบกับหมู่บ้าน Maranda เข้าไปแล้วให้เดินไปทางซ้าย สำรวจลังจะได้ Holy Water มาสำรวจลังทางขวาล่างจะได้ Remedy เตรียมตัวเรียบร้อยแล้วให้เรากลับไปที่ Albrook เดินขึ้นไปทางทิศเหนือจะพบกับที่ตั้งของจักรวรรดิ์

       

      Vector

       

      เมื่อเข้าไปใน Vector แล้วให้เดินไปทางซ้ายล่าง เข้าไปในตึกเล็กๆแล้วตอบ No จะเกิดการต่อสู้ขึ้น คุยอีกครั้งเขาจะฟื้นฟูพลังให้กับเรา ใช้ที่นี่แทนโรงแรมได้ เตรียมตัวพร้อมแล้วให้เราเดินไปทางขวา คุยกับชายชราที่หลบหลังลัง ตอบเขาว่าพร้อมเขาจะไปเบี่ยงเบนความสนใจให้ ให้เราปีนลังตรงจุดที่ชายชรายืน ผ่านมาได้แล้วให้เราเดินหน้าต่อ จะเข้าสู่ส่วนวิจัยของที่นี่

       

      Imperial Magitek Research Facility

       

      เดินไปทางซ้ายแล้วเข้าไปในท่อ เดินไปทางซ้ายสุดเราจะตกลงมา สำรวจกล่องจะได้ Flametongue เก็บแล้วให้กระโดดเกาะเครนทางขวา เดินไปทางขวาแล้วเข้าไปในท่อทางขวาสุดจะสามารถเก็บ Ether ได้ กลับเข้าไปในท่อเดิมแล้วเข้าท่อทางซ้ายล่าง เก็บ X Potion แล้วเดินไปทางขวา เก็บ Thunder Blade แล้วเดินไปเก็บ Remedy ด้านล่าง เก็บแล้วให้กระโดดลงรางทางซ้ายไป ไม่ต้องเข้าไปในรางทางขวา ให้เราเดินลงมาด้านล่าง เดินไปทางซ้ายล่างจะพบกับบันได ด้านล่างของบันไดจะมี Dragoon Boots ขึ้นบันไดแล้วเดินไปตามทาง เข้าประตูด้านบนแล้วเก็บ Golden Shield ลงลิฟต์ทางซ้ายแล้วขึ้นบันไดด้านบน ไหลไปทางขวาแล้วเดินลงมาด้านลาง เมื่อเราไหลไปทางซ้ายเราจะตกลงมาด้านล่าง ไหลไปทางขวาแล้วเราจะพบกับ Kefka เขานำ Esper ที่หมดประโยชน์มาทิ้ง อย่าเพิ่งตาม Esper ไป ให้เรามาขึ้นลิฟต์ทางขวาก่อน จากนั้นให้เราเดินลงมาด้านล่าง เก็บ Tent แล้วลงบันไดไป เดินไปทางซ้ายสุด สังเกตด้านล่างจะมีประตูอยู่ และทางซ้ายของประตูจะมี Golden Helm เดินขึ้นมาด้านบน ขึ้นบันไดแล้วไหลไปทางขวาเราจะไปถึงจุดที่ Kefka ทิ้ง Esper ได้ ให้เราไหลตามลงไปจะพบกับ Esper ที่นอนหมดสภาพอยู่

       

      The Battle with Ifrit and Shiva

       

      คุยกับทั้ง 2 แล้วจะเกิดการต่อสู้ ให้เราพยายามเอาชีวิตรอดให้ได้ จัดการพวกเขาได้ในระดับหนึ่ง Ramuh จะออกมาห้ามทัพ และเราจะได้ Ifrit และ Shiva มาใช้

       

      Imperial Magitek Research Facility

       

      เข้าประตูทางซ้ายจะเป็น Save Point เตรียมตัวพร้อมแล้วให้เราเข้าประตูทางขวา ขึ้นบันไดไปด้านบนสุดแล้วเข้าประตูด้านล่าง เดินไปตามทางเราจะพบกับ Number 024 ขวางทางไว้ ในการต่อสู้ ถ้าโชคดีเราอาจขโมย Blood Sword จากมันได้ เอาชนะได้ให้เราเข้าประตูไป ถ้าเรามอบอาวุธ ชุดป้องกัน เครื่องประดับดีๆให้กับ Celes แนะนำให้ถอดออกให้หมดก่อน เดินขึ้นไปสำรวจเครื่องด้านบน Esper ทั้ง 6 จะกลายเป็นผลึก เมื่อได้ Esper มาแล้ว Cid และ Kefka จะออกมา แต่ดีที่ Celes ใช้คาถาพา Kefka ออกไปจากที่นี่ ตั้งตัวได้ให้เราตาม Cid ไปลงบันไดทางขวา

       

      Mine Cart Ride

       

      เดินลงมาด้านล่างจะมีจุด Save Point บันทึกเกมแล้วให้เราไปคุยกับ Cid แล้วเราจะใช้รถรางในการหนี ปลายทางเราจะพบกับ Number 128 ขวางทาง จัดการกับมันแล้วเราจะหนีออกมาได้อย่างหวุดหวิด

       

      Escaping Vector

       

      เดินลงมาด้านล่างเราจะพบกับ Setzer เมื่อทุกคนกลับไปถึง Blackjack แล้ว เรือเหาะจะถูกเครนยึดไว้ทั้งซ้ายและขวา จัดการเครนให้หมดแล้วเราจะสามารถกลับมา Zozo เพื่อรักษา Terra ได้

       

      Terra's Flashback

       

      เราจะกลับมาที่ Zozo และ Terra จะเห็นภาพนิมิตตอนที่พ่อกับแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ พ่อของ Terra เป็น Esper และเธอถูกจักรวรรดิ์จับตัวมาตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อ Terra ฟื้นขึ้นมา เธอจะเข้าร่วมกลุ่มด้วย

       

      Seraph, Zona และ Golem

       

      จากนั้นให้เราเดินทางไปที่ Tzen ที่อยู่ทางทิศเหนือของ Vector ทางขวาบนสุดของหมู่บ้านจะมีคนซ่อนอยู่ในดงต้นไม้ เมื่อคุยเขาจะขาย Esper Seraph แก่เราในราคา 3000 เหรียญ เดินทางไปที่ Jidoor ลองไปที่ Auction House ดู จะพบว่าเปิดแล้ว ของที่น่าสนใจก็คือ Esper Zona และ Golem

       

      Recruiting Mog

       

      เดินทางไปที่ Narshe ไปที่ห้องเก็บของทางขวาล่างของหมู่บ้าน เข้าไปเราจะพบกับหมาป่า Lone Wolf พอมันหนีให้เราออกมาจากห้องเก็บของ เดินขึ้นข้างบนแล้วลงบันไดไป ตามมันไปจนกระทั่งเข้าไปในเหมือง เข้ามาแล้วให้เราเดินไปทางขวา เดินไปตามทางเรื่อยๆเราจะมาถึงยอดเขา ที่นี่เราจะพบกับ Moogle ตัวหนึ่งนอนบาดเจ็บอยู่ ยืนรอจนกระทั่ง Moogle ขยับ แล้วเราจะต้องเลือกว่าจะช่วยใครระหว่าง Lone Wolf กับ Moogle ให้เลือกช่วย Moogle จะดีกว่า (ช่วย Lone Wolf เราจะได้ Gold Hairpin มา) แล้วเราจะได้ Mog เข้าร่วมกลุ่มแล้วกลับไปที่ Blackjack

       

      เตรียมตัวเรียบร้อยแล้วให้เราเดินทางไปยัง Imperial Observation Post ซึ่งจะอยู่ทางทิศตะวันออกของ Albrook (เป็นสะพานนะ) เข้ามาแล้วจะพบว่าไม่มีใครอยู่เลย ให้เราขึ้นบันไดด้านบน เดินไปทางขวา ลงบันไดแล้วออกจากฉากทางขวา ออกมาด้านนอกให้เดินไปทางทิศตะวันออกจะเข้าสู่ Cave of the Sealed Gate

       

      Cave to the Sealed Gate

       

      จากทางเข้าให้เดินไปทางขวา เก็บ Assassin’s Dagger แล้วลงบันไดไป เดินลงมาด้านล่างแล้วลงบันไดทางซ้าย เก็บ Kazekiri แล้วไปลงบันไดทางขวา ที่ชั้น 3 นี้แผ่นไม้มันจะพลิกไปพลิกมา ให้เราเดินไปทางขวาแล้วลงมาด้านล่าง เมื่อมันพลิกให้ไปพักยังพื้นดิน เดินลงมาด้านล่างแล้วไปทางซ้ายเลยจะสามารถเก็บ Heiji’s Jitte เก็บแล้วให้กลับไปยังพื้นดิน กล่องทางขวาบนจะเป็น X Potion เก็บแล้วให้ลงมาด้านล่างแล้วเดินไปลงบันไดทางขวาล่าง เดินไปทางขวาแล้วเก็บ Hi Ether เดินย้อนกลับมาแล้วลงบันไดไปด้านล่าง

      เดินไปตามทางแล้วสำรวจสวิทซ์ที่อยู่กลางสะพาน กดแล้วเราจะตกลงไปข้างล่าง แต่จะทำให้ย้อนกลับไปเก็บ Genji Glove ได้ เดินย้อนกลับมาแล้วให้เดินขึ้นไปด้านบน สำรวจสวิทซ์ทางซ้ายจะพบกับทางลับ ด้านในจะมี Save Point และมี Tent ให้เก็บ ออกจากห้องนี้แล้วเดินไปทางขวา สำรวจสวิทซ์แล้วเดินหน้าต่อไป ให้เราสำรวจหาทางลับทางด้านขวา ผ่านมาแล้วให้เรามาเหยียบสวิทซ์ทางซ้ายล่าง ถ้ำที่มี Ultima Weapon อยู่จะเปิดออก (ดาบนี้จะแรงตาม HP ของคนใช้) เก็บแล้วให้พยายามเดินมาลงบันไดทางขวาล่างให้ได้ เดินไปตามทางเราจะพบกับ Sealed Gate

      Terra จะเดินไปเปิดประตู และในขณะเดียวกัน Kefka ก็ปรากฏตัวขึ้น ให้เราถ่วงเวลาไว้จนกระทั่ง Terra เปิดประตูสำเร็จ เมื่อ Esper ออกมาแล้วให้เราย้อนกลับไปที่ Blackjack ขณะที่ออกบิน เรือเหาะนี้จะถูกพวก Esper จู่โจมจนกระทั่งตก ให้เราออกจาก Blackjack แล้วเดินไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะพบกับหมู่บ้าน Maranda จากหมู่บ้านนี้ให้เราเดินทางไปยัง Vector (ป่าทางทิศตะวันออกจะมีร้านเช่า Chocobo ซ่อนอยู่)

       

      Imperial Palace

       

      เมื่อเข้าไปด้านในเราจะพบกับพวก Rerurner อยู่กันเต็มไปหมด ให้เราขึ้นบันไดไปด้านบน จะมีคนเดินมาหา คุยกับเขาแล้วเราจะสามารถเข้าไปในปราสาทได้ เข้ามาแล้วให้เราคุยกับ Gestahl แล้วเราจะมีเวลา 4 นาทีในการไปคุยกับทหารของที่นี่ (ให้ใช้ Sprint Shoes และปรับเป็น Auto Dash ทุกอย่างจะง่ายขึ้น) จากบัลลังก์ให้เราเดินลงมาด้านล่าง คุยกับทหารเดินเท้า 2 คน และคุยกับพวกขี่หุ่นอีก 2 คน ออกมาด้านนอก คุยกับคนขี่หุ่นทางขวา และไปคุยกับคนขี่หุ่นทางซ้ายจะเกิดการต่อสู้ เอาชนะได้แล้วให้ไปคุยกับทหารเดินเท้าด้านล่าง

      จากนั้นให้เรากลับเข้าไปด้านในแล้วเดินไปทางซ้าย เข้าประตูแล้วขึ้นบันไดไป เข้าประตูที่ชั้น 2 นี้แล้วคุยกับทหารให้หมด ประตูด้านบนจะเป็นห้องน้ำ และมีทหารอยู่อีก 1 คน ออกจากห้องนี้แล้วขึ้นบันไดไป เข้าประตูด้านบนสุด ภายนอกจะมีทหารอยู่ 5 คน ประตูด้านบนสุดจะมีอยู่อีก 1 คน คุยครบแล้วให้มาเข้าประตูทางขวาบ้าง ลงบันไดแล้วเข้าประตูไป ภายในห้องนี้จะมีคนอยู่ 2 คน ห้องทางซ้ายล่างจะมีคนอยู่อีก 1 คน รวมเป็น 24 คนพอดี และถ้ามีเวลาให้เราออกจากห้องและลงบันไดไป เข้าประตูเราจะพบว่า Kefka ถูกจับขังคุกอยู่

       

      The Banquet

       

      หมดเวลาเราจะมาอยู่ที่ห้องอาหาร เราจะต้องตอบคำถามของ Gestahl หลายข้อ ตอบคำถามเสร็จแล้วให้เราออกมาด้านนอก สำรวจปราสาทเพื่อเก็บของต่างๆ สำรวจจนเป็นที่พอใจแล้วให้เรากลับไปที่ Blackjack

       

      Imperial Observation Post

       

      ด้านในเราจะพบกับ Setzer อยู่ในห้องทางซ้าย คุยกับเขาเสร็จแล้วให้เราไปที่ Imperial Observation Post เข้าไปข้างในแล้วให้เราเดินลงมาด้านล่าง เข้าไปในตึกแล้วลงบันไดไปชั้นใต้ดิน เราจะพบกับกล่องมากมาย เก็บหมดแล้วให้เรากลับไปที่ Albrook

      Departing from Albrook

       

      ไปที่ท่าเรือเราจะพบกับแม่ทัพ Leo เมื่อคุยกับเขาแล้ว Celes กับ Shadow จะเดินมา พอ Celes ไปแล้วให้เราไปที่โรงแรม พักผ่อน 1 คืน ตกดึก Locke จะตื่นขึ้นมา ออกไปด้านนอกจะพบกับ Celes แต่ว่าเธอไม่ยอมคุยกับเขา รุ่งเช้าให้เราไปหาแม่ทัพ Leo ที่เรือ ระหว่างเดินทาง Terra จะนอนไม่หลับ บนดาดฟ้าเรือให้เราคุยกับ Leo และพอรุ่งเช้ามาเยือนให้คุยกับ Leo และ Locke เราจะเดินทางถึงที่หมายพอดี

       

      Thamasa

       

      เดินไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะพบกับหมู่บ้าน Thamasa ซื้อข้าวของต่างๆแล้วให้เราไปที่บ้านด้านบน เราจะพบกับ Strago กับ Relm ออกมาด้านนอกแล้วให้เราถอดอาวุธ ชุดป้องกันและเครื่องประดับของ Shadow ออก จากนั้นให้ไปพักผ่อนที่โรงแรม กลางดึก Strago จะมาหา เพราะว่าที่บ้านของเขาถูกไฟไหม้ คาถาไม่สามารถดับไฟได้ พวกเราจึงอาสาเข้าไปพาตัว Relm ออกมาเอง

       

      The Burning Mansion

       

      เข้าไปด้านในสุดเราจะพบกับตัวการ Flame Eater แม้จัดการกับมันได้แต่ก็ไม่สามารถออกมาได้ แต่โชคดีที่ Shadow ช่วยทุกคนออกมาทัน พอเช้า Shadow จะออกจากกลุ่มไป ไม่เป็นไร ให้เราเดินทางไปยังทิศตะวันตก พบกับ Esper Cave แล้วให้เราเข้าไปด้านใน

       

      Crescent Island's Eastern Mountains

       

      จากปากทางให้เราเดินไปทางซ้าย เก็บ Healing Rod แล้วเดินขึ้นไปข้างบน ห้องนี้จะมีประตูอยู่ 4 บาน ให้เราเข้าประตูทางขวา ออกมาด้านนอกให้เราเดินไปตามทางแล้วเข้าประตูไป เดินไปทางขวาใกล้ๆกับประตูเราจะพบกับ Relm แอบตามมา เดินหน้าต่อจนพบกับรูปปั้นทั้ง 3 สำรวจแล้วเดินลงมาเราจะพบกับ Ultros ในขณะที่สู้อยู่ Relm จะเข้าร่วมกลุ่ม จัดการกับ Ultros แล้วให้เราเดินหน้าต่อ ภายในห้องนี้จะมี Save Point และหลุม 3 หลุม บันทึกเกมเรียบร้อยแล้วให้เราลงหลุมทางขวา ตกลงไปข้างล่างแล้วให้เราออกจากที่นี่ทางขวา เก็บ X Potion แล้วย้อนกลับมา

      กระโดดลงทางขวาแล้วเดินหน้าจนถึง Save Point ทีนี้ให้เรากระโดดลงหลุมด้านบนสุดบ้าง ออกจากห้องทางด้านบนจะได้ Chocobo Suit เดินย้อนกลับมาแล้วออกจากห้องทางด้านล่างจะได้ Tabby Suit เดินย้อนกลับมาแล้วกระโดดลงด้านล่าง กลับไปที่ Save Point แล้วกระโดดลงหลุมที่เหลือ เดินไปตามทางเรื่อยๆเราจะพบกับพวก Esper

       

      Epilogue

       

      ดู Cut Scene แล้วกลับมาที่ Thamasa ขณะกำลังคุยกับพวก Esper ปรากฏว่า Kefka ยกกำลังพลมาจับ Esper ไป แม่ทัพ Leo เข้าขัดขวางซึ่งยังผลให้เขาเสียชีวิต ประตูที่ปิด Esper World จะเปิดออก ทำให้ Esper ชั่วร้ายมากมายหลั่งไหลเข้ามาสู่โลกมนุษย์

       

      Imperial Air Force

       

      เมื่อพร้อมแล้วให้เราเลือกไปที่เกาะลอยฟ้า (เลือกจัดทีม 3 คน) ระหว่างทางเราจะพบกับศัตรูมากมาย (เราจะเดินไปเดินมาได้) เราจะพบกับศัตรูแปลกๆลอยไปลอยมา จัดการพวกศัตรูไปจนพบกับ Ultros คราวนี้มันจะพา Typhon มาด้วย ถ้าเราเอาชนะ Typhon ได้ มันจะเป่าเราทั้ง 3 คนกระเด็นไป ขณะล่องลอยอยู่บนฟากฟ้าเราจะพบกับ Air Force จัดการกับมันแล้วเราจะมาอยู่ที่เกาะลอยฟ้า

       

      The Floating Continent

       

      เดินลงมาด้านล่าง คุยกับ Shadow แล้วจะได้เข้าร่วมทีม จาก Save Point ให้เราเดินไปทางขวา เดินไปตามทางเรื่อยๆแล้วสำรวจที่ลูกแก้วจะได้ Murasame ไปทางขวาต่อแล้วสำรวจลูกแก้วที่อยู่สุดทาง เราจะพบกับปิศาจเฝ้าอยู่ เอาชนะแล้วเราจะได้ Sasuke เดินย้อนกลับมาแล้วจะมีช่องให้เดินขึ้นไปบนแท่น (เมื่อเดินถูกทางจะเปิด) ลงหลุมไปแล้วให้เดินลงมาด้านล่าง ลงบันไดแล้วเดินไปทางขวา เหยียบสวิทซ์ที่พื้นเพื่อเปิดทาง เดินไปตามทางแล้วลงบันไดไป เดินไปตามทางเรื่อยๆ (ผ่านบันไดไป) เราจะสามารถลงหลุมแล้วมาโผล่อีกที่ได้

      เดินลงมาด้านล่างแล้วเดินไปที่แท่นทางซ้าย เมื่อมาอยู่ด้านล่างแล้วให้เดินลงมา เหยียบสวิทซ์แล้วให้เดินขึ้นไปด้านบน เหยียบสวิทซ์อีกอันหนึ่งแล้ว ให้เดินไปตามทางที่เปิด เดินลงบันไดแรกที่เจอแล้วลงบันไดอีก เดินไปทางขวาแล้วเราจะพบกับสวิทซ์อยู่ทางขวาบน เหยียบแล้วอย่าเพิ่งไปลงหลุม ให้เราเดินไปทางขวาเพื่อเก็บ Beret ก่อน เดินลงด้านล่างแล้วลงหลุมไปจะพบกับ Save Point บันทึกเกมเรียบร้อยแล้วให้เรากลับขึ้นมา ลงหลุมแล้วให้เดินลงมา ถ้ายังไม่พร้อมให้กลับไปที่เรือเหาะ แต่ถ้าพร้อมแล้วให้เราเดินหน้าต่อ เราจะพบกับ Ultima Weapon ขวางทาง เอาชนะได้แล้ว Shadow จะแยกตัวออกไป

       

      Kefka's Betrayal

       

      เดินหน้าต่อจะพบว่า Kefka กำลังทำพิธีขอพลังจากรูปปั้น Gestahl ที่หมดประโยชน์จะถูกกำจัดทิ้งอย่างไม่ไยดี ขณะที่ทุกคนกำลังตกที่นั่งลำบาก Shadow ก็มาช่วยเหลือทุกคนไว้ได้ทัน Shadow จะปล่อยให้เราหนีไปก่อน

       

      Escape from the Floating Continent

       

      ให้เดินไปทางขวาเรื่อยๆ ปลายทางจะมี Nelapa ดักรออยู่ เอาชนะมันได้แล้วให้เราเดินหน้าต่อ ถึงปลายทางแล้วให้เราเลือกรอ Shadow และเมื่อเวลาเหลือ 5 วินาที Shadow จะมาตามสัญญา ทุกคนจะกระโดดไปที่ Blackjack ด้วยกัน แต่ด้วยแรงระเบิดที่รุนแรง ทำให้พื้นโลกได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล แล้วเหล่าผู้กล้าละ

       

      The Solitary Island

       

      Celes ที่ได้รับการดูแลจาก Cid ได้ตื่นขึ้นมา เมื่อ Cid พักผ่อนแล้วให้เราออกจากบ้าน เดินไปทางซ้ายจะเป็นการออกไปที่ World Map บันทึกข้อมูลแล้วกลับเข้าไปใหม่

       

      Saving Cid

       

      เดินลงมาด้านล่างจะพบกับชายหาด เราจะต้องจับปลาไปให้ Cid ปลามีทั้งหมด 4 ชนิด ให้เราจับตัวที่ว่ายน้ำเร็วที่สุดหรือว่ายได้เร็วรองลงมา ถ้าเราจับตัวที่ว่ายช้า Cid จะอาการทรุด จับปลาไปให้กับ Cid จนกระทั่งเขาดีขึ้น Cid จะเปิดทางลับให้กับเรา เดินลงไปด้านล่างจะพบกับแพ ร่ำลา Cid แล้ว Celes จะล่องแพไปตามยถากรรม (ถ้าเรารักษา Cid ไม่ได้ ให้เราออกจากบ้านแล้วเดินขึ้นไปข้างบน Celes จะกระโดดหน้าผาลาโลกไป แต่น้ำก็พัดกลับมาที่ชายหาดเดิม นกพิราบที่มาปลุกจะมีผ้าโพกศีรษะของ Locke นั่นทำให้ Celes มีกำลังใจ กลับไปหา Cid แล้วสำรวจผนังทางซ้ายจะพบทางลับ ลงบันไดไปข้างล่างแล้ว Celes จะใช้แพออกจากเกาะเล็กๆนี้)

       

      Albrook

       

      เมื่อแพถึงฝั่งให้เราเดินไปยังหมู่บ้านใกล้ๆ นั่นคือหมู่บ้าน Albrook เข้าไปหาข้อมูลข่าวสาร

       

      The Collapsing House

       

      ออกจาก Albrook แล้วให้เดินทางไปยังทิศเหนือ เข้ามาด้านในแล้วเราจะพบว่า Sabin กำลังยกบ้านที่กำลังถล่มอยู่ เราจะต้องเข้าไปช่วยเด็กที่ติดอยู่ด้านในก่อนเวลาหมด ช่วยได้แล้วเราจะได้ Sabin ร่วมเดินทาง

       

      Nikeah

       

      เดินทางไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะพบกับหมู่บ้าน Nikeah เข้าไปในร้านเหล้า คุยกับพวกผู้ชายด้านใน พอคนหนึ่งออกมาด้านนอกแล้วให้เราตามออกมา เดินขึ้นไปด้านบนเราจะพบกับ Edgar แต่ว่าดันไม่ใช่แฮะ เขาชื่อ Gerad ให้เราเดินตามเขาไปที่ท่าเรือ (ต้องคุยเป็นระยะๆ) เดินถึงท่าเรือเราจะแอบขึ้นไปบนเรือ

       

      Gerad and the Crimson Robbers

       

      เรือจะมาจอดที่หมู่บ้าน South Figaro เข้าไปในโรงแรมแล้วเราจะพบกับ Gerad คุยกับเขาแล้วลูกน้องจะมาตามเขา ให้เราออกจากหมู่บ้านไป (ซื้อข้าวของก่อน) ออกไปข้างนอกแล้วให้เราเดินไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เราจะพบกับ South Figaro Cave คุยกับคนที่ปิดทางแล้วเดินเข้าไปด้านใน

       

      Cave of Figaro

       

      ทางเดินภายในจะไม่เปลี่ยนมากนัก ถ้าเราไม่ได้เก็บของเมื่อกาลก่อน ให้เราตามเก็บให้หมด ตรงปากทางอีกฟากหนึ่งเราจะพบกับ Gerad และพรรคพวกกระโดดข้ามเต่าเข้าไป ให้เรากระโดดตามพวกเขาเข้าไป เดินไปทางซ้ายแล้วเข้าประตูไป เดินไปทางซ้ายอีกแล้วออกจากห้องนี้ทางซ้ายล่าง

       

      Figaro Castle

       

      เราจะมาอยู่ในคุกของปราสาท South Figaro ขึ้นบันไดตาม Edgar มา (มันจะเป็น Gerad ไปได้ยังไง) ลงบันไดทางซ้ายล่างลงบันไดต่อ เดินขึ้นไปด้านบนแล้วลงบันไดสู่ชั้นที่ 3 เดินลงมาด้านล่างแล้วเก็บของให้หมด จากนั้นไปเข้าประตูทางซ้ายสุด ขึ้นบันไดแล้วเดินขึ้นไปด้านบน เข้าประตูแล้วเก็บ Royal Crown เดินย้อนกลับมาที่ชั้น 3 แล้วเข้าประตูกลาง เดินไปตามทางเราจะเข้าสู่ห้องเครื่องยนต์ ที่นี่เราจะพบว่ามีเถาวัลย์พันเครื่องยนต์อยู่ และเราจะต้องสู้กับ Tentacle ที่มีจุดอ่อนและจุดด้อยแตกต่างกัน เอาชนะได้แล้วเราจะได้ Edgar ร่วมทีม ก่อนออกจากที่นี่ให้เข้าประตูด้านบนก่อน สำรวจรูปปั้นจะได้ Soul Sabre เก็บแล้วให้เราเดินย้อนกลับมาด้านบน จัดการกับ Tentacle แล้วปราสาทจะสามารถขึ้นมาเบื่องบนได้อีกครั้งหนึ่ง

       

      Kohlingen

       

      ให้เราย้ายไปตั้งที่ Kohlingen แล้วออกจากปราสาท เดินทางไปที่ Kohlingen ที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เข้าไปในร้านเหล้าเราจะพบกับ Setzer คุยกับเขาแล้วเขาจะเข้าเป็นพวก ออกจากหมู่บ้านแล้วเดินทางไปที่สุสานทางทิศตะวันตก

       

      Darill's Tomb

       

      เมื่อมี Setzer อยู่ในกลุ่มเราจะสามารถเข้าไปด้านในได้ เดินถึงชั้นที่ 2 แล้วให้เราเข้าประตูทางขวาบน สำรวจป้ายหลุมศพแล้วทางลับจะเปิด เดินเข้าไปด้านในแล้วสำรวจสวิทซ์ที่ผนัง กลับมาที่ชั้น 2 แล้วเข้าประตูขวาล่าง เก็บ Genji Helm แล้วกลับมา เข้าประตูซ้ายล่างเราจะได้ Crystal Mail เดินหน้าต่อไปเราจะสามารถเก็บ Regal Gown สำรวจผนังทางขวาล่างจะพบกับทางลับ สามารถเดินไปเก็บ Growth Egg ได้

      เดินย้อนกลับมาแล้วเข้าประตูด้านบน สำรวจสวิทซ์ที่ผนังแล้วให้เราย้อนกลับไปที่ชั้น 2 เข้าประตูตรงกลางล่างเราจะสามารถกระโดดขี่เต่า สำรวจสวิทซ์ที่ผนังแล้วน้ำจะขึ้นมา กระโดดขี่เต่าไปทางขวาบน เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆเราจะพบกับรูปปั้นสีสันสดสวย สำรวจแล้วเราจะต้องสู้กับ Dullahan เอาชนะได้แล้วประตูด้านบนจะเปิด เข้าไปด้านในแล้ว Setzer จะนึกถึงความหลัง และเราจะได้เรือเหาะ Falcon มาใช้งาน

       

      Visiting Maranda

       

      ขณะที่กำลังบินอยู่นั้น Celes จะมองเห็นนกพิราบจึงบอกให้ Setzer บินตามนกพิราบไป ถึงที่หมายแล้วให้เราเข้าไปในหมู่บ้าน ที่นี่คือ Miranda เข้าไปในบ้านทางขวาเราจะพบกับ Lola คุยกับเธอแล้วให้ลองอ่านจดหมายดู เราจะพบว่าลายมือคล้ายๆกับของ Cyan จากนั้นให้อาสาส่งจดหมายแทนเธอดู ไปสำรวจนกพิราบด้านนอก แล้วมันจะนำจดหมายไปส่งยังหมู่บ้านหนึ่ง จะตามไปเลยก็ได้ แต่ว่าเรามีเรือเหาะแล้ว ให้เราออกตามหาเพื่อนที่หาง่ายกว่านี้ไม่ดีกว่าหรือ

       

      Mount Zozo

       

      เดินทางไปที่ Zozo หมู่บ้านนี้จะอยู่ที่ทวีปทางซ้ายสุดของแผนที่ จุดสีขาวด้านบนสุดของทวีปนั่นก็คือ Zozo นั่นเอง เมื่อเข้ามาแล้วให้สำรวจที่นกพิราบ เดินมาที่โรงแรม คุยกับผู้ชายที่เดินไปเดินมาเขาจะขาย Rust Rid ให้เราในราคา 1000 เหรียญ มาที่ผับแล้วขึ้นไปชั้นบนสุด ถ้ายังจำได้จะมีประตูบานหนึ่งเปิดไม่ได้ เปิดประตูเข้าไปแล้วเราจะมาอยู่ที่ Mt. Zozo เดินไปทางซ้ายบน เก็บ Ice Shield เดินลงมาด้านล่าง เดินไปทางขวาแล้วเก็บ Red Cap เก็บแล้วให้ลงบันไดใกล้ๆมาด้านล่าง

      เดินไปตามทางเราจะพบกับ Thunder Shield ตรงกล่องที่มีแสงส่อง เดินขึ้นไปด้านบนต่อจะพบกับ Aegis Shield เก็บแล้วให้เข้าประตูทางซ้ายบน เก็บ Gold Hairpin แล้วย้อนกลับมาเข้าประตูทางขวาบน เดินไปทางซ้ายแล้วจะพบกับ Save Point ทางขวาบนของ Save Point จะมีสวิทซ์อยู่ เหยียบแล้วจะมีมังกรบินออกมาจากกล่องด้านบน มันจะบินวนเวียนไปมา ถ้ามันบินมาชนเราก็จะเกิดการต่อสู้ (Strom Dragon แพ้คาถาสายฟ้า)

      ชนะได้แล้วให้ออกจากห้องนี้ทางด้านล่างสุด เดินไปทางขวาเรื่อยๆเราจะพบกับถ้ำที่ประดับประดาสวยงาม อ่านจดหมายแล้วออกจากห้องทางขวาเราจะพบกับ Cyan ได้เขาเป็นพวกแล้วให้เราออกจากห้องทางขวา ด้านบนเราจะพบกับประกายแสงส่องสว่าง สำรวจแล้วให้กลับมาเปิดกล่องภายในห้อง เรียบร้อยแล้วก็ให้ออกจากที่นี่ได้

       

      Master Duncan

       

      ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ Nikeah (เกาะเดียวกัน) จะมีจุดที่มีต้นไม้ขึ้นอยู่ 5 ต้น ถ้าเอา Sabin เข้ากลุ่มจะพบกับ Duncan อาจารย์ของเขา และเขาจะสอน Phantom Rush ท่าไม้ตายสูงสุดแก่ Sabin

       

      Quetzalli

       

      เคยกลับไปหา Cid หรือเปล่า ถ้าไม่แนะนำให้กลับไปหาเขา เขาอาศัยอยู่เกาะเล็กๆทางมุมซ้ายล่างของแผนที่ ที่ชายหาดจะมี Esper Quetzalli อยู่

       

      Humbala Fight

       

      เดินทางไปทิศตะวันออกสุดของทวีปรูปงู เราจะพบกับหมู่บ้าน Mobliz เมื่อเข้าไปจะทำให้สุนัขเห่าและเด็กออกมาจากบ้านด้วยความตกใจ ตามเด็กเข้าไปในบ้านแล้วลงบันไดไป เด็กเข้ามาขวางทางเราจะพบกับ Terra เข้าไปคุยกับเธอแล้วเธอจะไม่ยอมไปกับเรา ออกจากที่นี่จะพบ Humbala เพราะว่า Terra ไม่ได้ใช้พลังที่แท้จริงจึงพ่ายแพ้ต่อ Humbala ให้เราไล่มันไปให้ได้ ขณะเดินออกมาเด็กคนหนึ่งจะมอบ Esper Fenrir แก่เรา

      ออกจากหมู่บ้านแล้วกลับเข้าไปใหม่ ลองเข้าไปหา Terra ดูจะพบว่าไม่อยู่แล้ว ให้เราไปเข้าบ้านทางซ้ายล่าง เมื่อเข้ามาจะพบกับ Duane และสุนัขตัวหนึ่งวิ่งหายไปทางซ้าย ลองเดินตามไปดูจะพบกับทางลับ ด้านล่างเราจะพบกับ Terra และ Katarin อยู่ด้วยกัน คุยกับสักพัก Humbaba จะมาอาละวาดอีก ให้เราออกไปจัดการกับมัน แต่คราวนี้จะสู้ไม่ได้ Terra จึงแปลงร่างเป็น Esper เข้ามาช่วยพวกเรา รวมพลังกันเอาชนะให้ได้ แล้ว Terra จะยอมกลับเข้ากลุ่มตามเดิม

       

      Deathgaze Fight

       

      กลับไปที่ Falcon แล้วบินวนเวียนไปมา ขณะที่บินด้วย Falcon ถ้าเราโชคดี (หรือโชคร้าย) เราจะพบกับ Deathgaze เมื่อเอาชนะได้เราจะได้ Esper Bahamut มาใช้

       

      Cave no the Veldt

       

      บินไปทวีปทางขวาบนของแผนที่ ทางทิศตะวันตกจะมีถ้ำ Cave no the Veldt อยู่ เดินขึ้นไปด้านบนเราจะพบกับสุนัขของ Shadow ตามมันขึ้นไปด้านบนแล้วออกจากห้องทางขวา เดินไปทางขวาเราจะพบกับคนก่อกองไฟอยู่ ทางซ้ายบนจะมี Berserker Ring ให้เก็บ เข้าประตูแล้วเดินไปตามทาง ทางซ้ายบนจะมีทางลับ เดินไปทางซ้ายสุดแล้วเดินย้อนกลับมา 2 ช่อง เดินลงเราจะสามารถไปสำรวจกล่องได้ กล่องนี้จะมีปิศาจเฝ้าอยู่ ของด้านในคือ Tigerfang เดินย้อนกลับมาและหาทางเดินลงมาลงบันไดด้านล่าง เดินไปตามทางเรื่อยๆจะพบกับสวิทซ์ที่ผนัง สำรวจจะเปิดทางไปต่อ แต่ก่อนไปให้ไปเก็บ Ichigeki ด้านล่างก่อน เดินย้อนกลับแล้วเดินไปตามทาง เราจะพบกับ Shadow นอนสลบอยู่ เดินเข้าหา Shadow จะถูก Behemoth King เล่นงาน (ตัวนี้มี Murasame ให้ขโมย) จัดการได้แล้วเราจะถูก Behemoth King แบบ Zombie เล่นงานจากข้างหลัง ถ้าไม่คิดมากก็ใช้ Phoenix Down จัดการกับมัน เราจะพา Shadow ไปรักษาที่ Thamasa ออกจากหมู่บ้านแล้วไปที่ Dragon’s Neck Coliseum ที่อยู่ทางซ้ายบนสุดของแผนที่ คุยกับคนที่ขวางประตูแล้วเลือกมีดสั้น Ichigeki เป็นของเดิมพัน Shadow จะมาท้าสู้ เอาชนะ Shadow แล้วจะได้เขาเข้าร่วมทีม

       

      Phoenix Cave

       

      เดินทางไปยังทวีปด้านล่างของแผนที่ ภูเขาทางทิศเหนือจะมีหลุมสีเขียวอยู่ พอกดลงจอดจะต้องแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม

      1 เมื่อกระโดดลงไปแล้วให้ทีมแรกเข้าไปในถ้ำ ที่นี่คือ Phoenix Cave เข้ามาแล้วให้เราเหยียบสวิทซ์

      2 กดปุ่มเปลี่ยนกลุ่มแล้วให้ทีมที่ 2 เข้ามาด้านใน เดินขึ้นไปด้านบน ขึ้นบันไดแล้วเดินมาทางขวาล่าง เข้ามาในห้องแล้วเหยียบสวิทซ์

      1 เปลี่ยนเป็นกลุ่มแรกแล้วเข้าประตูที่เปิด เดินขึ้นไปด้านบนแล้วเหยียบสวิทซ์

      2 เดินขึ้นมาด้านบน ผ่านหนามไปแล้วเดินไปทางขวาล่าง เหยียบสวิทซ์แล้วเปลี่ยนทีม

      1 เดินไปทางขวาแล้วลงบันไดไป เมื่อพบกับลาวาให้เราเดินไปทางซ้ายบนเหยียบสวิทซ์แล้วจะมีหินโผล่ขึ้นมา จากนั้นให้เรากลับมาที่บันได เดินไปทางขวาแล้วให้มาหยุดตรงสุดทาง (ด้านบนสุดเลย) เสร็จแล้วให้เปลี่ยนทีม

      2 เดินย้อนไปทางซ้ายแล้วลงบันไดไป เดินลงมาด้านล่างจะพบกับบันไดขึ้น ขึ้นมาแล้วให้เดินไปเหยียบสวิทซ์ จากนั้นให้เดินขึ้นไปด้านบนแล้วเก็บ Wing Edge เก็บแล้วให้เดินย้อนกลับมาที่ห้องที่มีลาวา เดินไปทางขวาแล้วเหยียบสวิทซ์ตรงสุดทาง

      1 เปลี่ยนทีมแล้วให้เราเดินขึ้นไปด้านบน ขึ้นบันไดแล้วเดินไปลงบันไดทางซ้าย เดินลงมาเหยียบสวิทซ์แล้วเปลี่ยนทีม

      2 เดินขึ้นไปด้านบนแล้วเหยียบสวิทซ์ เมื่อหนามหุบลงมาแล้วให้เปลี่ยนทีมได้

      1 เดินขึ้นมาด้านบน เดินผ่านหนามแล้วลงบันไดไป กระโดดไปทางซ้ายแล้วกระโดดไปตามทางเรื่อยๆจนสามารถมาเข้าประตูทางขวาบนได้ สำรวจสวิทซ์ที่ผนังแล้วน้ำจะลดลงมา เดินลงมาด้านล่างแล้วเปลี่ยนทีม

      2 เดินลงมาด้านล่างจะพบกับ Save Point บันทึกเกมแล้วให้เราเดินไปทางซ้าย เหยียบสวิทซ์แล้วเปลี่ยนทีม

      1 เดินลงมาด้านล่างเราจะพบกับ Red Dragon เตรียมตัวเรียบร้อยแล้วให้เราสู้กับมัน มันจะแพ้คาถาน้ำแข็ง เอาชนะได้แล้วจะมีข้อความบอกว่าเหลือมังกรอีกกี่ตัว เดินไปทางขวาแล้วเก็บ Dragon Horn เดินย้อนกลับมาแล้วขึ้นบันไดไป เหยียบสวิทซ์ด้านบนแล้วเปลี่ยนกลุ่ม

      2 ลงบันไดมาแล้วเดินไปทางซ้าย เมื่อมาอยู่ที่ห้องที่ลาวาดับ ให้เราเดินลงมาด้านล่าง เก็บ Ribbon แล้วให้เรามาขึ้นบันไดทางซ้ายบน เดินลงมาทางซ้ายล่างแล้วกระโดดข้ามหินไปทางขวาแล้วเดินลงมาเหยียบสวิทซ์ด้านล่าง เปลี่ยนกลุ่ม

      เหยียบสวิทซ์ด้านล่างทั้งคู่แล้วทางจะเปิด ให้เราเดินลงมาด้านล่าง เดินไปตามทางเราจะพบกับ Locke เขาเสี่ยงตายมาหา Esper Phoenix เพื่อไปรักษา Rachel ด้วยพลังของ Phoenix ทำให้ Rachel ตื่นขึ้นมาปลดปล่อย Locke จากความเศร้าได้

       

      Ragnarok and Curseed Shield

       

      จากนั้นให้ไปที่ Narshe โดยต้องมี Locke อยู่ในกลุ่มด้วย เปิดประตูร้านอาวุธแล้วเข้าไปในห้องทางขวาล่าง คุยกับชายชราเขาจะให้เราเลือกระหว่าง Esper กับดาบ ให้เราเลือก Esper Ragnarok แล้วออกมาจากบ้าน เข้าบ้านด้านบนของร้านอาวุธ คุยกับชายชราที่นอนอยู่เขาจะมอบ Curseed Shield แก่เรา โล่ห์นี้เราจะต้องใส่ต่อสู้ 255 ครั้ง จะเปลี่ยนเป็น Paladin Shield ซึ่งเป็นโล่ห์เทพ แต่ลองดูเดี๋ยวก็จะรู้ว่ามันลำบากขนาดไหน

       

      Mog

       

      เดินทางไปที่ Narshe ที่อยู่ทวีปด้านบนสุดของแผนที่ ให้เราจัดกลุ่ม 3 คนเพื่อที่จะได้ไปชวน Mog เข้ากลุ่มอีกครั้ง เดินขึ้นไปด้านบนเราจะพบกับ Lone Wolf ซึ่งคราวนี้เราจะทราบแล้วว่าเขาชื่อ Picpocket จากนั้นให้เราไปที่บ้านของ Arvis ออกจากบ้านทางด้านบนแล้วเดินเข้าไปในเหมือง เข้ามาแล้วให้เราเดินไปตามทาง จากนั้นให้เราเข้าประตูด้านบนสุด เดินไปตามทางที่คุ้นเคย เข้าประตูมาเราจะพบกับ Mog ยืนหันหลังอยู่ คุยกับมันแล้วจะได้มันมาเป็นพวก ถ้าลองสำรวจตรงจุดที่ Mog เคยยืนเราจะได้ Mululus Charm ซึ่งเป็นเครื่องประดับเทพ เพราะจะทำให้เราไม่พบกับศัตรูอีกเลย (นอกจากพวกหัวหน้า)

       

      Ice Dragon and Valigarmanda

       

      ออกมาด้านนอกอีกครั้งแล้วกลับเข้าไปในหมู่บ้าน เดินขึ้นไปด้านบนจนสุดแล้วเข้าไปในเหมือง จากตรงนี้ให้เราหาทางไปยอดเขาให้ได้ แต่ระวังให้ดีเพราะก่อนถึงยอดเขาเราจะพบกับ Ice Dragon แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าแพ้ไฟ เพราะฉะนั้นจัดให้มันชุดใหญ่ เอาชนะได้แล้วจะมีข้อความบอกว่าเหลืออีกกี่ตัว เดินถึงยอดเขาก็ให้เตรียมตัวอีกรอบ เพราะเราจะต้องสู้กับ Esper Valigarmanda ซึ่งก็แพ้คาถาไฟอีกเหมือนกัน เอาชนะได้แล้ว เราจะได้ Esper นี้มาใช้ ให้เรากระโดดหน้าผาเพื่อออกจากที่นี่

       

      Umaro's Cave

       

      เดินไปเข้าประตูทางซ้ายบน โดยระวังพื้นที่มันต่างสีให้ดีๆ เข้ามาแล้วอย่าเพิ่งสำรวจกล่อง เพราะเราจะพบกับ Tonberries 3 ตน ถ้าให้ทุกคนมีคาถา Firaga ก็อาจจะผ่านได้ง่ายๆ เอาชนะได้แล้วให้เราออกจากห้องนี้ทางเดิม ไปเข้าประตูทางขวาบนบ้าง เก็บ X Potion แล้วเดินขึ้นไปข้างบน แล้วลงบันไดไป เดินไปทางซ้ายแล้วขึ้นมาด้านบน เดินไปเก็บ Gauntlet ทางซ้ายล่าง เก็บแล้วเดินไปเข้าประตูทางขวาบน เมื่อเข้ามาแล้วให้เดินไปทางขวา สำรวจสวิทซ์แล้วเราจะตกลงไปข้างล่าง เดินขึ้นมาด้านบนแล้วสำรวจไม้เท้าเราจะได้ Esper Midgardsormr มาใช้ และเราจะถูกมนุษย์น้ำแข็งโจมตี ถ้าชนะ Umaro แล้วเราจะได้มาร่วมทีม แต่ต้องมี Mog อยู่ในกลุ่มด้วยนะ

       

      Auction House and Owzer's Mansion

       

      จากนั้นให้เราไปที่ Jidoor ที่นี่จะมี Auction House หรือโรงประมูลอยู่ สิ่งที่ต้องเอามาให้ได้ก็คือ Excalipoor ราคา 500000 เหรียญ (ถ้าไม่เจอให้เราเล่นไปตามเนื้อเรื่องในระดับหนึ่งก่อน จึงค่อยกลับมาประมูล) เตรียมตัวเรียบร้อยแล้วให้เราเดินไปเข้าบ้านด้านบนสุด Owzer's Mansion ภายในจะมืด ให้เราเดินไปขึ้นบันไดด้านซ้ายบน เราจะถูกพลังผลักลงมา ให้เรามาอ่านไดอะรีตรงโต๊ะก่อน อ่านเสร็จแล้วให้เราไปเปิดไฟที่อยู่ทางขวาของบันได (กดสำรวจ 3 ครั้ง) สำรวจรูปดอกไม้สีม่วงแล้วเราจะต้องสู้กับ Rafflesia เดินลงมาด้านล่างแล้วสำรวจรูปผู้หญิงจะต้องสู้กับ Misty เอาชนะได้แล้วให้เราเข้าประตูไป เดินลงบันไดมาแล้วเดินไปเข้าประตูซ้ายบนสุด (สำรวจรูปเก้าอี้จะพบกับปิศาจอีก) เก็บ Moogle Suit แล้วมาเข้าประตูด้านข้างบ้าง

      เดินขึ้นมาด้านบนจะพบกับประตู 3 บาน เดินไปช่องว่างด้านหลังแล้วสำรวจจะได้ Lich Ring กลับมาที่ประตูแล้วเข้าประตูทางซ้าย เดินไปทางซ้ายแล้วเข้าประตูทางซ้าย เดินขึ้นไปด้านบนแล้วเราจะพบกับห้องที่มีกล่องลอยได้ ถ้าเราเดินไปโดนเงากล่องจะตกลงมา และจะต้องสู้กับปิศาจด้วย เก็บหมดแล้วให้เราสำรวจรูปชุดเกราะ เอาชนะปิศาจได้แล้วให้เราเข้าประตูไป เดินหน้าไปเราจะพบกับ Save Point บันทึกข้อมูลแล้วให้เราเข้าประตูด้านบน เดินไปตามทางเราจะพบกับ Owzer เขาจะบังคับให้ Relm วาดรูปให้กับเขา เอาชนะ Chadarnook แล้ว Relm จะวาดรูปเสร็จพอดี ให้เราไปสำรวจตู้หนังสือจะได้ Esper Lakshmi และจะได้ Relm กลับเข้ากลุ่มตามเดิม

       

      Cultist's Tower

       

      จากนั้นให้เราไป Cultists’s Tower ที่อยู่ทางทิศใต้ของ Nikeah ก่อนเข้าไปให้เอา Relm เข้ากลุ่มด้วย ด้านในเราจะพบกับ Strago เดินขึ้นไปด้านบนจะได้ Strago กลับเข้ากลุ่มตาม Relm

       

      Gau

       

      เดินทางไปทางทิศตะวันออกของ Nikeah (ไม่ใช่เกาะเล็กๆนะ) ลองจอดแล้วจัดกลุ่ม 3 คน เดินไปเดินมาจะพบกับ Gau (ในฉากต่อสู้) อย่าทำร้ายเขา เราจะได้ Gau มาเป็นพวกง่ายๆเลย

       

      Triangle Island

       

      บินไปเกาะเล็กๆทางขวาบนสุดของแผนที่ จอด Falcon ไว้แล้วให้เราเดินวนเวียนไปมา พบกับ Zone Eater อย่าทำอะไรมัน ปล่อยให้มันดูดพวกเราทั้ง 4 คนเข้าไป เราจะมาอยู่ที่ Zone Eater’s Belly เดินลงมาด้านล่าง (ด้านบนสุดเป็นทางออก) เดินไปทางขวาแล้วเราจะพบกับสะพาน เราจะต้องกะจังหวะหลบคนที่เดินไปมา ถ้ากะจังหวะไม่ดีจะถูกผลักตกลงไป เก็บ Genji Armor แล้วไปเก็บ Magical Brush ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เก็บ Fake Mustache เก็บแล้วให้กระโดดขึ้นไปด้านบนแล้วมาลงบันไดทางซ้ายล่าง

      เมื่อพบกับ Save Point แล้วให้เราออกจากห้องทางด้านซ้าย ต้องระวังหน่อยเพราะว่าจะมีเพดานตกลงมาจากด้านบน เราจะต้องจำให้ได้ว่าจุดปลอดภัยอยู่ตรงไหน เดินไปทางซ้ายเรื่อยๆ ด้านล่างของกล่องจะปลอดภัย แต่ให้ระวังกล่องที่ 3 ให้ดีๆ สำรวจแล้วให้เราเดินลงมาด้านล่างเลยจะปลอดภัย จากนั้นให้เราออกจากห้องทางด้านล่างสุด เดินไปตามทางจะพบกับห้องที่ต้องกระโดดเด้งกล่อง เข้าประตูด้านบนสุดเราจะพบกับ Gogo คุยกับเขาแล้วเราจะได้ Gogo ร่วมเดินทางด้วย (นี่เป็นเพื่อนคนสุดท้ายแล้วละนะ)

       

      Ebot’s Rock

       

      จากนั้นให้นำ Strago และ Relm เข้ากลุ่ม เดินทางไปที่ Thamasa ที่อยู่ทางขวาล่างสุดของแผนที่ เมื่อเข้าไปแล้วจะมี Scene ของทั้ง 2 คนอยู่ ออกจากหมู่บ้านแล้วนั่งเรือเหาะไปที่ Ebots Rock ที่อยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้าน Thamasa ภายในถ้ำจะมีจุดวาร์ปที่จะพาเราไปเก็บ Coral และการเอาชนะถ้ำนี้เราจะต้องเก็บ Coral ให้ได้ 22 ชิ้นหรือมากกว่า แล้วกล่องที่มันขอ Coral จะเปิดทางให้กับเรา เมื่อเปิดทางได้แล้วให้เดินขึ้นไปด้านบนเราจะพบกับ Hidon เมื่อเอาชนะได้แล้ว Strago จะกลับไปหา Gunho พอเขารู้เรื่องที่ Strago สามารถเอาชนะ Hidon ได้ก็ดีใจ

       

      Leviathan

       

      ไปที่ Nikeah หรือ South Figaro ก็ได้ ไปที่ท่าเรือแล้วเลือกนั่งเรือ ระหว่างทางเราจะพบกับ Leviathan เอาชนะเขาได้แล้วเราจะได้ Esper Leviathan มาใช้

       

      Gigantuar

       

      ไปที่หมู่บ้าน Maranda ทะเลทรายทางทิศตะวันตกจะมีศัตรูชื่อ Cactuar อยู่ เราจะต้องจัดการกับมันให้ได้ 10 ตัว แล้วตัวที่ 11 จะเป็น Gigantuar มันจะมีพลังป้องกันและการหลบหลีกมากถึง 200 (รวมทั้งการหลบคาถาด้วย) ใช้ Sniper Eyes กับ Masters Scroll บวกด้วยดาบ Ultima Weapon ก็ไม่น่าจะมีปัญหา เอาชนะมันแล้วเราจะได้ Esper Cactuar มาใช้

       

      Gilgamesh

       

      ไปที่ Jidoor แล้วประมูลดาบ Excalipoor มาให้ได้ (ราคา 500000 เหรียญ) จากนั้นให้เราไปที่ Coliseum ที่อยู่ทางซ้ายบนสุดของแผนที่ นำดาบ Excalipoor มาประมูลแล้วเอาชนะให้ได้ 1 รอบ แล้ว Gilgamesh จะออกมา ภายในตัวมันมีของ Genji อยู่ 4 ชิ้น ใช้การขโมย 2 ชิ้น และได้หลังจากชนะอีก 2 ชิ้น พยายามเอาชนะมันให้ได้ (ยากนา) เมื่อเอาชนะได้เราจะได้ Esper Gilgamesh มาใช้

       

      Cyan's Dream

       

      เดินทางไปที่ Doma Castle ที่อยู่ทางทิศตะวันออกของ Nikeah นำ Cyan เข้ากลุ่ม เข้าไปในปราสาทแล้วให้เราเข้าประตูทางซ้าย เข้าประตูทางขวาแล้วพักผ่อน พอตอนเช้า Cyan จะติดอยู่ในโลกของความฝัน เข้าไปในความฝันแล้วเราจะพบกับ Save Point ใกล้ๆ จากนั้นให้เราเดินขึ้นไปด้านบน เข้าประตูซ้ายสุดเราจะพบกับเพื่อนคนแรก จากนั้นให้เข้าประตูด้านบน เข้าประตูทางขวาแล้วเราจะพบกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ให้ไปเข้าประตูที่อยู่ทางซ้ายบน เดินไปทางซ้ายสุดแล้วเข้าประตูไป เดินลงมาเข้าประตูด้านล่างเราจะถูกเด็กทั้ง 3 คนโจมตี เอาชนะได้แล้วให้เราเข้าประตูไป

      เดินไปเข้าตู้ขบวนทางซ้ายจะพบกับ Save Point เดินไปทางซ้ายต่อ เราพบกล่องและสวิทซ์อยู่ทางขวาบน ให้เราสับสวิทซ์ 2 ครั้งจะเก็บ Genji Glove ได้ เดินไปทางซ้ายต่อ สำรวจกล่องทางซ้ายสุดจะได้ Lump of Metal จากนั้นมาสำรวจกล่องที่เปิดอยู่ด้านล่างกล่องที่ปิด เราจะสามารถเก็บ Flame Shield ได้ ด้านบนของกล่องทั้ง 6 จะมีสวิทซ์อยู่ สับสวิทซ์แล้วจดจำการเปิดและปิดของกล่องไว้ จากนั้นให้เดินไปทางซ้ายอีก

      เมื่อเข้ามาในห้องแล้วให้เดินไปเก็บ X Potion ที่อยู่ทางด้านล่างของสวิทซ์อันแรกที่พบ เดินไปทางซ้ายอีกจะได้ Ice Shield สับสวิทซ์อันแรกแล้วให้เราไปสับสวิทซ์อันที่ 3 เดินย้อนกลับไปสับสวิทซ์อันแรก ตามด้วยสับสวิทซ์อันที่ 2 ย้อนกลับมาสับสวิทซ์อันแรก ตามด้วยสับสวิทซ์อันที่ 3 เดินอ้อมลงมาด้านล่างเราจะสามารถผ่านได้แล้ว เปิดกล่องทั้ง 6 ให้เหมือนกับห้องที่แล้ว และพอเราสับสวิทซ์ประตูก็จะเปิด ตู้ต่อไปจะพบกับ Save Point เข้าไปในหัวรถจักรแล้วสับสวิทซ์ที่ 1 และ 3 ขึ้นเราจะมาอยู่อีกที่หนึ่ง

      เดินตาม Cyan ออกมา เดินไปตามทางเรื่อยๆจนกระทั่งมันย้อนกลับมาที่เดิม จากนั้นให้เดินย้อนกลับทางเดิมเราจะพบกับ Cyan อีกครั้ง ข้ามสะพานตามเขาไปเราจะตกลงไปข้างล่าง ตื่นขึ้นมาจะกลับมาที่ Doma Castle ได้รับข้อความจากลูกและเมียของ Cyan แล้วให้บันทึกข้อมูลให้เรียบร้อย ไปที่ห้องบัลลังก์เราจะเห็น Cyan นอนฟุบอยู่ จัดการปิศาจด้วยคาถา Banish จะจบเรื่องราวได้เร็วที่สุด เอาชนะได้แล้ว Cyan จะได้ท่าสุดท้ายมาใช้ ร่วมทั้งดาบ Masamune ด้วย พอกลับออกมาจากความฝันให้เราไปที่ห้องบัลลังก์จะได้ Esper Alexander มาใช้

       

      The Ancient Castle

       

      ไปที่ปราสาท Figaro ที่อยู่ในทะเลทรายใกล้ๆกับ Kohlingen จากนั้นให้ปราสาทมุดทรายไปที่ Figaro แต่ว่าปราสาทจะมาได้ครึ่งทางก็ติด สั่งให้หยุดแล้วไปที่ห้องขัง ห้องขังทางขวาสุดจะมีทางไปที่ Cave to The Ancient Castle เมื่อเข้ามาแล้วให้เราเดินไปทางขวาแล้วเดินลงไปด้านล่าง เก็บ Hi Ether แล้วเข้าประตูทางขวาล่าง เดินลงไปด้านล่างจะพบกับกล่อง เตรียมตัวให้พร้อมก่อนสำรวจ เพราะเราจะต้องสู้กับ Master Tonberry

      เดินย้อนกลับมาแล้วให้เดินไปทางซ้ายสุด เก็บ Wing Edge แล้วเข้าประตูไป เดินไปตามทางจะสามารถเก็บ Death Tarot ได้ เดินลงมาแล้วเราจะสามารถเดินไปทางซ้าย เดินขึ้นไปด้านบนแล้วออกจากฉากทางซ้ายบน เดินลงมาด้านล่างจะพบกับบันได อย่าเพิ่งลงให้เราเดินไปเก็บของทางซ้ายและด้านล่างก่อนจึงค่อยกลับมา ลงบันไดแล้วเดินลงมาจะพบกับ Save Point บันทึกเกมเรียบร้อยแล้วให้เราเดินไปขึ้นบันไดทางซ้าย

      เดินขึ้นไปด้านบนเราจะเห็นอดีตของปราสาทนี้ ก่อนเข้าประตูกลางให้เราไปเข้าประตูทางซ้ายก่อน (สีดำๆ) ด้านในจะมีกล่องอยู่ สำรวจแล้วเราจะต้องสู้กับ Samurai Soul เอาชนะได้เราจะได้ไอเทมเทพมา นั่นก็คือ Master’s Scroll ซึ่งจะทำให้เราฟันได้ 4 ที ออกจากห้องนี้แล้วไปเข้าห้องทางขวาบ้างจะได้ Punisher เดินเข้าไปด้านในจนพบกับ Odin อย่าเพิ่งสำรวจเขา ให้เราไปเข้าประตูทางขวา (ทางซ้าย) ด้านในจะมี Blizzard Orb และ Gold Hairpin เก็บแล้วให้เราไปสำรวจ Odin แล้วจะได้เขามาเป็น Esper ซึ่งมีคาถา Meteo อยู่

      สำรวจด้านล่างของบัลลังก์ขวา (ของราชินี) ห่าง 5 ก้าว เราจะได้ยินเสียงดังแปลกๆ ให้เราเข้าประตูทางขวาแล้วเราจะพบกับบันไดลง ลงบันไดมาแล้วให้เราเตรียมตัวให้ดีๆ เพราะว่าเราจะพบกับ Blue Dragon มันจะแพ้คาถาประเภทแสง เอาชนะแล้วให้เราเดินขึ้นไป เราจะพบกับราชินีที่กลายเป็นหิน สำรวจแล้ว Odin จะกลายเป็น Raidin (เท่ากับเสีย Odin ไป) เราไม่มีอะไรติดค้างที่นี่อีกแล้ว ให้เราออกจากปราสาทนี้ได้เลย

       

      The Cultist's Tower

       

      เดินทางไปที่ Cultis’s Tower สถานที่ที่เราพบกับ Strago ด้านในเกมจะบังคับให้เราใช้คาถาหรือไอเทมได้เท่านั้น เพราะฉะนั้นไอเทมอย่าง Ether จึงจำเป็นมาก ให้เราขึ้นไปชั้นบนและต้องไม่พลาดในการเข้าประตู ด้านในจะมีของ และประตูที่ 3 เราจะพบกับ Holy Dragon ซึ่งจะใช้คาถา Ultima กับมันไม่ได้ ก่อนจัดการกับมันให้ขโมย Holy Lance จากมันก่อน เอาชนะได้แล้วให้เราเดินขึ้นไปชั้นบนสุดของที่นี่ เราจะพบเครื่องประดับ Soul of Thamasa รออยู่ ออกมาด้านนอกเราจะต้องสู้กับ Magic Master ขั้นแรกให้เราใช้ Reraise กับตนเองก่อน จากนั้นก็ให้โจมตีมันด้วย Ultima ไปเรื่อยๆ มันจะเป็นหัวหน้าที่กระจอกมาก แต่ไม้เด็ดของมันอยู่ที่คาถา Ultima ก่อนตายของมัน ที่จะลากพวกเราลงหลุมไปด้วย ถ้าไม่ได้ร่าย Reraise กันไว้ ก็กลับบ้านเก่าแน่ๆ เอาชนะได้แล้วให้เราเดินลงมาด้านล่างได้เลย

       

      Earth Dragon

       

      จากนั้นให้เราไปตามล่ามังกรที่เหลืออีก 1 ตัวกัน (จริงๆแล้วเหลือ 3 แต่ว่าอีก 2 ตัวอยู่กับ Kefka) ไปที่ Opera House ห้องทางขวาบนที่มีสวิทซ์อยู่ ให้เราสับทางขวามือ (สวิทซ์ที่รวมกลุ่มกัน) เราจะตกลงไปที่เวที เอาชนะ Earth Dragon ได้แล้วจะมีข้อความบอกว่าเหลืออีก 2 ตัว เตรียมตัวให้พร้อม เพราะว่าเรากำลังจะไปหา Kefka กันแล้ว

       

      Kefka's Tower

       

      Kefka's Tower นั้นอยู่ที่ทวีปตรงกลางด้านล่าง เมื่อถึงหอคอยสูงแล้วให้เราลงจอดบนยอด และเราจะต้องแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม จัดวางตัวละครแต่ละตัวได้ตามใจ พร้อมแล้วก็ลุยเลย

       

      1 ให้เดินลงมาด้านล่างแล้วเดินไปทางขวาบน เก็บ Coronet แล้วเข้าประตูทางซ้าย (มันดูไม่ค่อยเหมือนประตูนะ) เดินไปตามทางแล้วเข้าประตูทางขวา เดินไปตามทางแล้วเก็บ Fixed Dice จากนั้นให้เดินลงมาด้านล่างแล้วเข้าประตูไป เดินไปตามทางแล้วเข้าประตูที่อยู่ด้านล่าง เมื่อเข้ามาแล้วเราจะไปต่อไม่ได้ ให้เปลี่ยนไปเล่นทีมที่ 2 แทน

       

      2 เดินลงมาด้านล่างแล้วไปเข้าประตูทางซ้าย ขึ้นบันไดแล้วเดินไปทางซ้าย มุมซ้ายบนจะมี Minerva Bustier อยู่ เก็บแล้วให้เดินลงมาด้านล่าง ประตูด้านบนจะเป็นทางไปเก็บ Tack Star เก็บแล้วให้กลับมาเข้าประตูด้านล่าง เราจะมาอยู่ในคุก ห้องทางซ้ายสุดจะมี Atma อยู่ จัดการมันได้แล้วจะมี Save Point ปรากฏขึ้นมา บันทึกเกมเรียบร้อยแล้วให้เราออกจากห้องทางด้านล่าง เดินลงมาด้านล่างแล้วเดินไปทางซ้าย ขึ้นบันไดไปจะพบกับประตู เมื่อเข้ามาแล้วเราจะพบกับท่อ ให้เราเข้าไปในท่อทางซ้ายก่อน เดินไปตามท่อจะออกมาด้านนอกได้

      เดินไปทางซ้ายจะพบกับ Force Shield เก็บแล้วให้ลงบันไดเลื่อนไป เข้าประตูทางซ้ายจะเก็บ Ribbon ได้ ก่อนออกจากห้องนี้ให้เราเหยียบสวิทซ์เพื่อทีมที่ 1 ก่อน ออกจากห้องนี้แล้วเดินไปทางซ้าย เก็บ Force Armor แล้วเดินย้อนกลับมาทางขวา (อย่าขึ้นบันไดเลื่อน) เราจะพบกับประตู เข้าประตูแล้วเดินหน้าไปเรื่อยๆเราจะพบกับห้องที่มีพรม สุดทางจะพบกับ Gold Dragon เอาชนะได้แล้วจะมีข้อความบอกว่าเหลือมังกรอีกแค่ 1 ตัว จากนั้นให้เราเข้าประตูทางซ้าย เดินไปตามทางแล้วเราจะพบกับสวิทซ์สีเขียวตรงสุดทาง เหยียบค้างไว้แล้วเปลี่ยนทีมได้

       

      3 เดินลงมาด้านล่างแล้วเก็บ Red Cap จากนั้นก็เข้าประตูที่อยู่ด้านบนได้ เดินหน้าต่อเราจะมาอยู่ที่โรงงาน เดินขึ้นไปเก็บ Nutkin Suit และ Gauntlet แล้วเดินย้อนกลับมา เดินลงมาด้านล่างจะพบกับประตูให้เราเข้าไป เดินไปตามทางเราจะสามารถเก็บ Hero’s Ring ได้ เก็บแล้วให้เราเดินขึ้นไปด้านบน ใช้ทางเลื่อนขึ้นไปด้านบนได้เลย เดินไปทางซ้ายจะพบกับ Save Point บันทึกเรียบร้อยแล้วให้เราเดินไปที่บันได ยังไม่ทันถึงเราจะถูก Inferno จู่โจม เอาชนะได้แล้วให้เดินหน้าต่อ ออกมาด้านนอกให้เราเดินลงมาด้านล่าง ทางขวาจะมี Megalixer ให้เก็บ เก็บแล้วให้เดินไปทางซ้าย อย่าเพิ่งเข้าประตู ให้เราสำรวจกล่องทางซ้ายก่อน จะเป็นการเปิดทางให้กับกลุ่มอื่น เดินขึ้นบันไดเลื่อนเราจะเก็บ Rainbow Brush ได้ จากนั้นให้เราย้อนกลับมาเข้าประตูด้านล่างได้ เดินไปตามทางเราจะพบกับห้องที่มีพรม ด้านบนสุดจะพบกับ Skull Dragon อยู่ เอาชนะมันแล้วจะมีข้อความบอกว่า มังกรทั้ง 8 ถูกจัดการได้แล้ว และเราจะได้ Esper Crusader มาใช้ ออกจากห้องนี้ทางขวาแล้วให้เดินไปตามทาง ทางด้านบนสุดเราจะพบกับสวิทซ์สีเขียว เมื่อเหยียบแล้วประตูด้านบนจะเปิด เสร็จแล้วให้เราเปลี่ยนไปบังคับทีมที่ 1 ได้

       

      1 เดินลงมาด้านล่างแล้วเข้าประตูไป เดินไปทางขวาเรื่อยๆแล้วเข้าประตูด้านบน เดินไปตามทางเราจะออกมาด้านนอกอีก เดินขึ้นด้านบนแล้วไปเก็บ Pinwheel ทางซ้าย เดินย้อนมาทางขวาแล้วเดินขึ้นด้านบน เดินไปตามทางเราจะพบกับทีมที่ 2 และ 3 ให้เราเข้าประตูด้านบน เราจะพบกับสวิทซ์สีเขียว 3 อัน เดินไปทางซ้ายแล้วเดินลงมาด้านล่าง จากนั้นให้เปลี่ยนเป็นทีมที่ 2

       

      2 ขยับออกจากสวิทซ์แล้วเปลี่ยนไปเป็นทีมที่ 1

       

      1 ผลักแท่งเหล็กลงมาทับสวิทซ์ เสร็จแล้วให้เราเดินขึ้นไปด้านบนเพื่อเหยียบสวิทซ์สีเขียว จากนั้นให้เปลี่ยนเป็นทีมที่ 2

       

      2 เดินลงมาด้านล่างแล้วเดินไปเข้าประตูกลางด้านบน เดินไปทางขวาแล้วเดินลงมาด้านล่าง เมื่อออกมาด้านนอกให้เปลี่ยนเป็นทีมที่ 3

       

      3 ขยับออกจากสวิทซ์แล้วเปลี่ยนเป็นทีมที่ 2

       

      2 ผลักแท่งเหล็กลงมาแล้วเดินขึ้นไปด้านบน เหยียบสวิทซ์แล้วเปลี่ยนเป็นทีมที่ 3

       

      3 เดินลงมาด้านล่างแล้วเดินไปเข้าประตูกลางด้านบน เหยียบสวิทซ์ตรงกลางแล้วจะมีทางเดินไปด้านบน แต่ให้เราเดินลงมาด้านล่างก่อน เหยียบสวิทซ์แล้วจะมีประตูปรากฏทั้งทางซ้ายและขวา เสร็จแล้วให้เราเดินไปเข้าประตูด้านบน เข้าประตูด้านบนแล้วเราจะถูก Guardian จู่โจม เอาชนะได้แล้วจะมี Save Point ปรากฏขึ้นมา บันทึกเกมเรียบร้อยแล้วให้เราเดินขึ้นไปด้านบน เดินไปตามทางเราจะพบกับ Demon หนึ่งในรูปปั้นเทพมาร เดินขึ้นไปด้านบนจะพบกับ Save Point อย่าคิดมากให้เรากระโดดลงหลุมไป เหยียบสวิทซ์แล้วก็ให้เราเปลี่ยนเป็นทีมที่ 1

       

      1 เดินลงมาด้านล่างแล้วเข้าประตูทางซ้าย เดินขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆเราจะพบกับ 1 ใน 3 รูปปั้นเทพมาร Fiend เอาชนะได้แล้วจะปรากฏ Save Point บันทึกเกมเรียบร้อยแล้วให้เราเข้าไปในท่อด้านบน เดินไปตามทางเราจะพบกับสวิทซ์ เมื่อเหยียบสวิทซ์แล้วให้เปลี่ยนไปเป็นทีมที่ 2

       

      2 เดินลงมาด้านล่างแล้วเข้าประตูทางขวา เดินขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆเราจะพบกับ 1 ใน 3 รูปปั้นเทพมาร Goddess เอาชนะได้แล้วจะปรากฏ Save Point ขึ้นมา เดินขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆ และเมื่อเราเหยียบสวิทซ์ทั้ง 3 แล้วทุกคนจะถูกส่งขึ้นไปหา Kefka (เพราะฉะนั้นเตรียมตัวให้ดีก่อนเหยียบสวิทซ์ที่ 3 นี่)

       

      In The End

       

      หลังจากที่ Kefka แสดงพลังระดับเดียวกับพระเจ้าแล้ว ให้เราเลือกผู้กล้าที่เก่งที่สุด (หรือชอบที่สุด) เพื่อต่อสู้กับบริวารของ Kefka ก่อน โดยชุดแรกจะมี Visage, Long Arm และ Short Arm เอาชนะแล้วเราจะพบกับบริวารในชุดที่ 2 ซึ่งประกอบด้วย Tiger, Machine, Magic และ Power เอาชนะได้เราจะพบกับบริวารในชุดสุดท้าย Lady และ Rest ซึ่งขอแนะนำให้ขโมย Ragnarok จาก Lady และ Ultima Weapon จาก Rest มาให้ได้ เอาชนะทั้ง 2 ได้แล้วเราจะพบกับ Kefka ที่มีสารรูปอย่างกับออกมาจากงานของ Michelangelo ก็ไม่ปาน เอาชนะเขาได้ก็ขอให้มีความสุขกับอีกหนึ่งฉากจบที่ดีที่สุดของ Final Fantasy ดูฉากจบหมดแล้วจะมีคำสั่งให้เราบันทึก ลองบันทึกเกมไว้แล้วกลับเข้ามาเล่นใหม่อีกครั้งหนึ่ง

       

      Dragon's Den

       

      ที่นี่เราจะต้องแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่มเหมือนกับ Kefka's Tower เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วก็ให้เราไปที่ Colisium ทางทิศเหนือของ Colisium จะมีเกาะเล็กๆอยู่ เมื่อเราลงจอดจะเริ่มการตั้งกลุ่ม เตรียมตัวเรียบร้อยแล้วก็ลุยได้เลย

       

      1 เข้าประตูทางขวา จากนั้นให้เดินขึ้นไปด้านบน เราจะพบกับแสงมาปิดทาง ให้เดินไปทางขวาแล้วเดินขึ้นไปด้านบน เราจะพบกับลำแสงปิดทางขึ้นอีก ไม่ต้องสนใจให้เราเดินขึ้นไปเรื่อยๆจะพบกับ Ice Dragon อย่าคิดว่าง่าย เพราะคราวนี้มันมา 4 ตัวเลยทีเดียว จัดการมันได้แล้วลำแสงที่ปิดทางบางอันจะหายไป และจะได้ Final Trump อาวุธสุดยอดของ Setzer มาใช้ จากนั้นเปลี่ยนไปทีมที่ 2

       

      2 เข้าประตูทางขวาแล้วเดินผ่านตรงกลางเลย (ทางที่ทีม 1 เปิดให้) เดินไปจนสุดทางเราจะพบกับสวิทซ์ เหยียบแล้วให้เปลี่ยนไปบังคับทีมที่ 3

       

      3 เข้าประตูทางซ้าย แล้วเข้าประตูตรงกลาง เดินนขึ้นไปด้านบน เหยียบสวิทซ์แล้วเปลี่ยนเป็นทีมที่ 1

       

      1 ไปเหยียบสวิทซ์แทนทีมที่ 2

       

      2 ออกจากถ้ำแล้วเข้าประตูทางซ้าย เดินขึ้นไปด้านบนแล้วกระโดดข้ามหินไปเก็บ Rename Card ออกจากถ้ำลาวาแล้วเปลี่ยนเป็นทีมที่ 1 (ตอนที่เปลี่ยนไปเป็นทีมที่ 3 ให้บังคับพวกเขาออกจากถ้ำลาวานี้ก่อน จึงค่อยเปลี่ยนเป็นทีมที่ 1 เน้อ)

       

      1 เดินกลับไปยังจุดที่เราจัดการ Ice Dragon เดินขึ้นไปด้านบนแล้วลงบันไดทางซ้าย เดินลงมาด้านล่างจะพบกับ Hi Ether เก็บแล้วให้เดินย้อนกลับมา เดินไปทางซ้ายจะพบกับสวิทซ์ให้เราเหยียบ จากนั้นเปลี่ยนไปที่กลุ่ม 2

       

      2 เข้าประตูทางขวา (ยังไม่ออกไปด้านนอกนะ) เดินไปตามทางแล้วกระโดดข้ามหินไปด้านบน เหยียบสวิทซ์แล้วเปลี่ยนเป็นทีมที่ 3

       

      3 เข้าประตูทางซ้าย (ยังไม่ได้ออกไปด้านนอกเน้อ) เดินไปตามทางแล้วเราจะสามารถกระโดดข้ามหินที่อยู่ด้านบนสุดมาเหยียบสวิทซ์ได้ ตอนนี้คงเห็นชะตากรรมของทีมที่ 2 แล้ว ให้เราเปลี่ยนเป็นทีมที่ 2

       

      2 แล้วกระโดดข้ามหินไปสู้กับ Strom Dragon เอาชนะได้แล้วเราจะได้ Longinus มาใช้ กระโดดข้ามหินด้านบนแล้วเก็บ Elixir ที่อยู่ด้านบนสุด จากนั้นให้มาขึ้นบันไดทางขวา เดินไปทางขวาเราจะพบกับ Save Point ในห้องด้านบน จากนั้นให้เรามาเหยียบสวิทซ์ทางขวา เสร็จแล้วให้เปลี่ยนไปเป็นทีมที่ 3

       

      3 ออกห้องทางซ้าย เดินขึ้นไปด้านบนเราจะพบกับ Earth Dragon ถ้าลอยตัวไว้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ใช้ Ultima โจมตีไปตามปกติก็สามารถเอาชนะได้ ชนะเราจะได้ Godhand มาใช้ จากนั้นให้เดินลงมาด้านล่าง เดินไปทางขวาจนพบกับทีมที่ 2 เข้าห้อง Save Point แล้วเดินไปชิดไว้ตรงแสงสีแดง แล้วเปลี่ยนเป็นทีมที่ 1

       

      1 เดินย้อนกลับมา พยายามเดินไปหาทีมที่ 2 ให้ได้ เมื่อพบกับทีมที่ 2 แล้วให้เข้าไปใน Save Point จากนั้นก็ยืนชิดลำแสงสีแดงไว้อีกทีมหนึ่ง เรียบร้อยแล้วให้เปลี่ยนไปที่ทีมที่ 2

       

      2 เข้าไปใน Save Point แล้วไปยืนชิดลำแสงสีแดง ลองสำรวจดูจะพบว่าเป็นห้องเปลี่ยนสมาชิกกลุ่ม เมื่อเปลี่ยนหรือพักผ่อนด้วย Tent เรียบร้อยแล้วให้เราเริ่มต้นด้วยทีมที่ 1

       

      1 ออกจากห้องแล้วมาเหยียบสวิทซ์ไว้ จากนั้นเปลี่ยนเป็นทีมที่ 2

       

      2 เดินผ่านสะพานไม้ลงมาด้านล่าง เดินลงมาแล้วให้เราขึ้นบันไดที่มีประตูอยู่ด้านบน เราจะมาอยู่ในสถานที่คล้ายๆกับสุสานของ Setzer เดินขึ้นไปด้านบน กดสำรวจเพื่อเรียกเต่าแล้วใช้เต่าข้ามฟากไป เดินขึ้นไปด้านบนแล้วสำรวจสวิทซ์จะเป็นการปล่อยมังกรตัวหนึ่ง เดินขึ้นไปด้านบนอีกเราจะพบกับ Blue Dragon เอาชนะได้แล้วเราจะได้ Save the Queen มาใช้ และปลดปล่อยลำแสงที่ปิดทางไปอีกหน่อย จากนั้นให้ทีมที่ 2 นี้กลับไปหาทีมที่ 1 ได้เลย เมื่อถึงแล้วให้เราเปลี่ยนไปเป็นทีมที่ 1

       

      1 เดินลงมาทางขวาล่าง ลงบันไดไปแล้วเดินไปทางซ้ายเราจะพบกับมังกรที่เราปลดปล่อย เมื่อพร้อมแล้วให้เราจัดการกับ Red Dragon ได้เลย มันจะแข็งแกร่งมาก เราจะโจมตีมันลด 0 เราอาจจะหนีมันโดยการร่าย Reraise แล้วกระโดดขึ้นไปด้านบนเพื่อหลบ (ย้ายไปอยู่แถวหลังก่อนก็ดี) พอความแข็งแกร่งของมันลดลงมันจะตายเอง เราจะได้ Apocalypse มาใช้ เดินไปทางขวาแล้วเหยียบสวิทซ์ เหยียบแล้วก็เปลี่ยนไปเป็นทีมที่ 2 ได้เลย

       

      2 เหยียบสวิทซ์ที่ทีมที่ 1 เคยเหยียบแล้วเปลี่ยนเป็นทีมที่ 3

       

      3 ข้ามสะพานไม้แล้วเดินลงไปด้านล่างสุด เมื่อออกจากถ้ำแล้วให้เข้าประตูทางซ้าย เข้าประตูทางซ้ายแล้วเดินไปทางซ้าย เมื่อเข้าประตูทางซ้ายมาอีกให้เดินขึ้นไปด้านบน ทางขวาจะเป็นทางไปเก็บ X Potion ทางซ้ายจะเป็นทางไปเก็บ Remedy จากนั้นให้เรากลับไปหาทีมที่ 2 แล้วเปลี่ยนเป็นทีมที่ 2

       

      2 เดินไปหาทีมที่ 1 แล้วเดินขึ้นไปทางซ้ายแล้วเหยียบสวิทซ์ไว้ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นทีมที่ 3 ได้

       

      3 เดินไปหาทีมที่ 1 แล้วเดินขึ้นไปทางขวา เดินขึ้นไปด้านบนสุดเราจะพบกับทาง 3 แพร่ง ประตูด้านบนสุดจะเป็น Save Room และจุดเปลี่ยนสมาชิก เรียบร้อยแล้วให้เราไปเข้าประตูทางซ้าย จากนั้นให้เราเดินไปทางขวา เดินวนขึ้นมาแล้วเดินไปทางซ้าย เดินลงมาด้านล่างแล้วข้ามสะพานไม้ไป เมื่อเดินลงมาสุดทางแล้วให้เราเดินไปทางขวา สำรวจตรงสุดทางจะได้ X Potion เดินย้อนกลับมาข้ามสะพานไม้ เดินไปทางซ้ายแล้วสำรวจตุ้มน้ำหนัก เมื่อผลักมันตกลงไปแล้วให้เราเดินย้อนกลับไปตรงทางสามแพร่ง

       

      เดินลงมาด้านล่างจนกระทั่งพบสะพานไม้ทางขวา กระโดดข้ามกล่องไปเรื่อยๆจนมาถึงด้านบนสุด เดินไปทางซ้ายแล้วเดินลงมาด้านล่าง เราจะพบกับคนที่ผลักเราตกลงไปด้านล่างถ้าไปขวางหน้ามัน ให้เราหาทางกระโดดลงมาด้านล่างก่อน ด้านล่างสุดจะพบกับ Celestriad ย้อนกลับไปแล้วให้เราระวังถูกผลักลงไปให้ดีๆ ถ้าตกจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ต้องห่วงให้เราเดินไปทางซ้าย เดินไปตามทางเราจะพบกับลูกไฟ ลูกไฟนั้นคือ Earth Eater เอาชนะมันได้แล้วเดินหน้าต่อ เมื่อพบกับทางแยกให้เดินลงมาด้านล่าง เราจะต้องสู้กับ Garguntua เอาชนะได้แล้วให้กลับไปที่ทางแยก เดินไปทางขวาจะพบกับ Malboro Menace เป็นตัวที่น่ารังเกียจมาก หวังว่าคุณคงมี Ultima ไว้ครบทุกคนนะ เอาชนะได้แล้วให้เดินหน้าต่อ เราจะพบกับ Dark Behemoth เอาชนะแล้วเดินไปทางขวาจะพบกับลูกไฟลูกสุดท้าย Abyss Worm เอาชนะได้แล้วให้เดินไปทางซ้ายจะพบกับลำแสงที่พาเรากลับไปที่สะพานไม้ (เจ้าหนอนตัวสุดท้ายไม่ต้องสู้ก็ได้เน้อ)

       

      กลับมาที่สะพานไม้ คราวนี้ระวังอย่าให้ตกลงมาอีก เก็บ Elixir ที่อยู่ทางซ้ายแล้วขึ้นบันไดไปด้านบนสุด เก็บ X Ether แล้วเดินไปทางขวา เดินไปตามทางแล้วขึ้นบันไดไปชั้นบน ด้านบนสุดเราจะพบกับ Skull Dragon อย่าเพิ่งสู้กับมัน ให้เราเปลี่ยนเป็นทีมที่ 1 ก่อน

       

      1 ให้เดินตามทีมที่ 3 มายังห้อง Save Point ตรงทาง 3 แพร่ง บันทึกเกมเรียบร้อยแล้ว ให้เราเปลี่ยนเป็นทีมที่ 3

       

      3 สู้กับ Skull Dragon ได้ ถ้าเราจัดการกับมันตอน MP ยังไม่หมด มันจะฟื้นคืนชีพ ให้เราจัดกลุ่มที่มีคาถา Rasp ไว้คลายๆคนหน่อย ใส่ Ribbon ไว้ด้วยก็ดี จากนั้นก็ให้เราใช้ Quick จะทำให้เราร่ายคาถา Rasp ได้มากขึ้น เอาชนะมันได้เราจะได้ Scorpion Tail มาใช้

       

      เดินลงบันไดมาเรื่อยๆแล้วเข้าประตูทางขวา เดินไปทางขวาจะพบว่าเต่าไม่อยู่ในที่ที่สามารถเรียกได้ ให้เราเปลี่ยนไปเป็นทีมที่ 2

       

      2 เดินขึ้นไปด้านบนแล้วเข้าประตูไป เดินมาจนกระทั่งไม่มีทางไปแล้วให้เปลี่ยนไปเป็นทีมที่ 1

       

      1 ให้ทีมที่ 1 ออกจากห้อง Save Point แล้วเข้าประตูทางซ้าย เดินลงมาด้านล่างแล้วเดินไปทางซ้ายเราจะสามารถเดินไปเหยียบสวิทซ์ที่พื้นเพื่อช่วยทีมที่ 2 ได้ เมื่อเหยียบแล้วให้เราเปลี่ยนเป็นทีมที่ 2

       

      2 กระโดดข้ามหินไปแล้วเดินลงมาทางซ้ายล่างจะพบกับ Force Shield จากนั้นให้เดินขึ้นมาด้านบนแล้วมารอใกล้ๆกับแท่งเหล็ก

       

      1 หาทางเดินขึ้นมาด้านบนแล้วกระโดดข้ามหินมาเหยียบสวิทซ์ด้านบน จากนั้นเปลี่ยนเป็นทีมที่ 2

       

      2 ทีนี้เราก็สามารถไปที่ Save Point ได้ทั้ง 2 ทีมแล้ว ให้ทีมที่ 2 ไปที่ Save Point แล้วเปลี่ยนเป็นทีมที่ 1

       

      1 ไปที่ Save Point แล้ววางแผนว่าจะเอาทีมไหนไปต่อสู้ เมื่อเลือกได้แล้วให้เราออกจาก Savpe Point แล้วเข้าประตูทางซ้าย เดินไปทางขวา เดินขึ้นด้านบนแล้วเดินไปทางซ้าย ผ่านแท่งเหล็กที่เราผลักตกลงมาไปทางซ้าย เดินขึ้นมาด้านบนเราจะพบกับประตู เดินผ่านประตูไปด้านบนเราจะพบกับหลุม 2 หลุม เดินมาด้านล่างของหลุมแล้วสำรวจตรงกลางจะได้ยินเสียงอะไรสักอย่างหนึ่ง กลับมาเข้าประตูแล้วเราจะมาอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง ไปทางซ้ายจะมี Magus Robe ให้เก็บ เก็บแล้วให้เดินไปทางขวาจะพบกับ Holy Dragon ให้เราร่ายคาถา Reflect ใส่มัน จากนั้นก็จัดการกับมันตามปกติ เอาชนะได้แล้วเราจะได้ Zanmato มาใช้ จะโกรธหรือเปล่า ถ้าจะบอกให้ออกไปด้านนอกก่อน (ให้เราใช้ Teleport Stone ออกไปด้านนอกเลย)

       

      เมื่อออกมาด้านนอกแล้วให้เราตรวจดูสัมภาระให้เรียบร้อย ถ้ามีอะไรขาดเหลือก็ให้เราไปหาซื้อที่หมู่บ้านไหนก็ได้ บันทึกเกมแล้วให้เรากลับเข้าไปใน Dragon’s Den

       

      1 เดินเข้าประตูทางขวา เดินไปทางขวาสุดแล้วเดินขึ้นด้านบน จากนั้นให้เดินขึ้นบันไดที่มีประตูอยู่ด้านบนไป เมื่อเข้าประตูมาแล้วให้เราเดินขึ้นไปด้านบน เรียกเต่ามาหาแล้วกระโดดขี่เต่าไปด้านบน เดินไปทางขวาแล้วเดินลงมาด้านล่าง จากน้นให้เดินไปทางขวาจนสุดทาง เดินขึ้นด้านบนเราจะพบกับป้ายหิน ทั้งหมดจะสามารถถอดคำได้ว่า ‘THE KING OF DRAGONS’ นั่นเอง และด้านบนสุดจะมี Gold Dragon รออยู่ เอาชนะแล้วเราจะได้ Zwill Crossblade มาใช้

       

      เดินลงมาด้านล่างสุด จากนั้นก็เดินไปทางซ้ายเรื่อยๆ สุดทางให้เราเดินขึ้นด้านบน เรียกเต่าที่อยู่ด้านบนสุดมาขี่แล้วให้เราเดินขึ้นด้านบนสุดจะพบกับ Save Point จากนั้นให้เรานำทีมที่เหลือมายังจุดนี้ให้ได้

       

      1 เดินลงมาด้านล่างแล้วเดินไปทางขวา สุดทางให้เดินขึ้นไปด้านบน เราจะพบกับป้ายหิน สำรวจแล้วให้เลือกใส่คำให้ถูก THEK INGO FDRA GONS ประมาณนั้น เมื่อใส่ได้ถูกต้องจะมีประตูปรากฏขึ้นมา เข้าประตูแล้วเดินลงบันไดทางขวาก่อน ลงไปเก็บ Elixir แล้วย้อนมาทางซ้าย เก็บ Phoenix Down แล้วเดินลงมาด้านล่างสุด เดินไปทางขวาแล้วจะมีได้ยาวไปถึงประตู เข้าประตูแล้วเดินไปทางขวา เราจะพบกับแสงอะไรสักอย่าง เมื่อเข้าไปแล้วจะพบว่าเป็นจุดวาร์ป เดินไปทางขวาจะได้ Ribbon ทางซ้ายบน ทางซ้ายล่างจะได้ Bone Wrist กล่องทางขวาบนจะมี Plague เฝ้าไว้ อย่าคิดมากให้ใช้ Ulitma ใส่มันโดยเร็ว เอาชนะได้แล้วเราจะได้ Angel Brush มาใช้ ทางขวาล่างจะมี Neslug เฝ้าอยู่ คำเตือนก็คือ อย่าโจมตีกระดองของมันเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นหมัดเดียวตายเน้อ เอาชนะได้แล้วเราจะได้ Gungnir มาใช้ เดินลงมาด้านล่างแล้วเดินไปทางซ้ายจะพบกับ Stardust Rod กลับไปที่กล่อง 4 กล่องแล้วไปเข้าจุดวาร์ปทางขวา เดินไปทางซ้ายแล้วเข้าจุดวาร์ปอีกอัน เดินไปทางขวาแล้วเดินขึ้นด้านบน ผ่านจุดวาร์ปไปทางซ้ายแล้วเข้าประตูด้านล่าง เดินไปทางทางขวาแล้วลงไปด้านล่างจะพบกับ Ribbon เก็บแล้วให้เดินขึ้นบันไดอันบนสุด เดินมาตรงจุดสีดำแล้วประตูทางซ้ายจะเปิด จากนั้นให้เราเปลี่ยนเป็นทีมที่ 2

       

      2 ออกจาก Save Point แล้วเดินไปหาทีมที่ 1 เข้าประตูที่ทีมที่ 1 ไว้ให้ เมื่อเข้ามาแล้วให้เดินไปทางขวาแล้วเข้าไปในจุดวาร์ป เดินไปทางซ้ายบนจะพบกับกล่อง 3 กล่อง กล่องซ้ายคือ Genji Glove ด้านบนคือ Crystal Orb ทางขวาจะมี Flan Princess ถ้าไม่ใส่ Ribbon ไว้อาจจะซวยได้ การโจมตีธรรมดาก็ไม่ค่อยเข้า แต่ถ้าระดม Ultima ใส่ก็สามารถเอาชนะได้ง่ายๆเลย เอาชนะได้แล้วเราจะได้ Oborozuki ให้ใช้ กลับไปที่ Save Point แล้วเปลี่ยนไปเป็นทีมที่ 1

       

      1 กลับไปที่ Save Point จากนั้นไปที่ห้องทางขวาบน เหยียบจุดสีดำทางซ้ายบนจะมีประตูปรากฏด้านบนของ Save Point จากนั้นให้เราเปลี่ยนไปที่ทีมที่ 2

       

      2 เข้าประตูด้านบนแล้วเดินไปตามทาง เหยียบสวิทซ์ที่พื้นแล้วเปลี่ยนไปเป็นทีมที่ 3

       

      3 เดินลงมาด้านล่างจนพบกับเต่า ให้เราเดินไปทางขวา เดินอ้อมจนสามารถเรียกเต่าจากด้านล่างได้ เรียกให้เต่าอยู่ตรงกลางแล้วเดินย้อนกลับไป เรียกเต่าจากทางขวาเพื่อข้ามไปทางซ้าย ออกจากที่นี่ทางประตูด้านล่างเราจะกลับมาอยู่ที่ภูเขา หาทางเดินไปยังจุด Save Point ของที่นี่ให้ได้ (หวังว่ายังจำได้นะ) เมื่อถึงแล้วให้เปลี่ยนเป็นทีมที่ 1

       

      1 รีบไปหาทีมที่ 3 เลย เมื่อถึงแล้วให้เราเข้าประตูทางซ้ายล่างของ Save Point เดินไปทางซ้ายบนแล้วผลักแท่งเหล็กลงไป กลับมาที่ประตูแล้วเดินไปทางซ้าย เดินขึ้นมาด้านบน กระโดดข้ามหินที่แท่งเหล็กทำให้เกิดขึ้นมาแล้วไปเหยียบสวิทซ์ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นทีมที่ 3

       

      3 เข้าประตูทางซ้ายล่างแล้วเดินไปที่แท่งเหล็ก เดินลงมาด้านล่าง (ทางขวา) แล้วเดินไปทางซ้าย กระโดดข้ามหินที่ทีมที่ 1 ทำให้แล้วเดินไปทางซ้ายบน เราจะพบกับ Save Point อีกจุดหนึ่ง เดินไปทางซ้ายแล้วเดินไปตามทางจะพบกับสวิทซ์ เหยียบแล้วเปลี่ยนไปเป็นทีมที่ 1

       

      1 กลับไปที่ Save Point อันที่ 2 เดินลงมาด้านล่างแล้วเดินไปทางขวา กระโดดข้ามหีบไปด้านบนแล้วปีนบันไดยาวขึ้นไป เดินไปทางซ้ายข้ามสะพานไปเรื่อยๆแล้วเข้าประตูทางซ้ายสุด เดินไปตามทางเราจะพบกับแสงสีแดง เมื่อเข้ามาแล้วให้เดินไปด้านบน เราจะพบกับ Kaiser Dragon ความพิเศษของมันก็คือ สามารถใช้ท่าของพวกมังกรทั้ง 8 ตัวได้ และเปลี่ยนจุดอ่อนไปเรื่อยๆ ถ้าโจมตีไร้ธาตุแบบ Ultima จุดอ่อนของมันก็ไม่มีความหมาย และมันมีท่าที่โจมตีทีเดียวตายอยู่หลายท่า ให้ระวังให้ดี และเมื่อมันสิ้นชีพมันจะใช้ Ultima ให้ตายตกไปตามกัน ระวังให้ดีด้วย (ร่าย Reraise ไว้ก่อนก็ดี) เอาชนะมันได้แล้วให้เดินไปสำรวจผลึกด้านบน เราจะได้ Esper Diabolos มาครอบครอง ความพิเศษของมันก็คือ เมื่อเรา Level Up จะเพิ่ม HP ให้ 100 เปอเซ็นต์เลยทีเดียว (HP 9999 ก่อน LV 99 เสียอีก) และยินดีด้วยที่คุณผ่าน Dragon’s Den แห่งนี้แล้ว (เมื่อเข้าไปยังแสงสีขาว กับปะจะออกมาบอกว่ายังมีอีก Dungeon หนึ่ง แต่มันจะปรากฏก็ต่อเมื่อเราจบเกมนี้แล้วเน้อ) ถ้ากลับเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง ตรงจุดที่เราเคยสู้กับ Kaiser Dragon จะพบกับ Omega Weapon อีกหนึ่งความโหดที่เกมนี้มอบให้

       

      Soul of Fallen

       

      เมื่อจบเกมและผ่าน Dragon’s Den แล้ว ให้เราไปที่หมู่บ้าน Mobliz ลองจอดเรือเหาะบนเกาะทางทิศตะวันตกของหมู่บ้านนี้ดู (เกาะนี้อยู่ติดหมู่บ้านเลย) เราจะพบว่าเป็น Soul Shirne เมื่อเข้ามาแล้วก็ขอให้รับรู้ไว้เลยว่า การต่อสู้ของที่นี่เป็นแบบต่อเนื่อง และที่น่ากลัวก็คือศัตรูที่มาขอของ พวกนี้จะมีเครื่องประดับดีๆให้เราขโมย พวกมันล้วนมีคาถาสาปแช่งที่ร้ายกาจ ถ้าไม่คิดมากก็โยนของที่มันอยากได้ให้กับมัน มันก็จะจากไป การต่อสู้นั้นเมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะมีการพัก ศัตรูตัวสุดท้ายจะเป็น Kaizer Dragon เอาชนะได้แล้วเราจะได้ Master’s Crown ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการผ่าน Soul of Shrine แห่งนี้

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×