ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    KIG Theater : Movie war นิยายแห่งมหากาฬ"การเชื่อมต่อ"

    ลำดับตอนที่ #7 : ADSO Special Episode: Yami, Turtle, and Likit

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 54
      0
      23 มิ.ย. 59

    "หวืดดดดด"
     
    เสียงประตูเลื่อนเปิดออก ก่อนจะเผยโฉมห้องสีขาวสะอาด ที่มีคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องตั้งอยู่
     
    อาหนังสือจัดปกเสื้อให้เข้าที่ก่อนเดินไปยังตู้หนังสือข้างๆ คอมพิวเตอร์ ก่อนเขาจะไปหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากชั้นก่อนอ่านออกเสียง
     
    "เมื่อเรื่องราวผิดพลาด มันต้องมีการแก้ไข"
    หลังอาหนังสืออ่านข้อความ
    อย่างเงียบๆ ห้องทั้งห้องถูกห้อง ก่อนประตูด้านหลังตู้หนังสือจะเปิดออกอย่างช้าๆ
     
    อาหนังสือเดินเข้าประตูลับ ก่อนเครื่องจะรายงาน
     
    "ขนมปังฝรั่งเศส"
     
    "ขอหอยทากแทนแล้วกัน" อาหนังสือพูดติดตลก แต่ที่จริงแล้ว มันคือรหัสลับสำหรับรายงานตัว...
     
    ก็ไม่น่าแปลก
     
    ตอนนี้เขาอยู่ในฐานของ Yami Insurane ทีม Special Strike ระดับการเข้าถึงดาต้า Zeta! (แปลว่าลับสุดยอดมาก)
     
    ประตูเปิดออก ก่อนจะเผยคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่อง...
     
    กับชายในชุดสีดำสนิทดังรัตติกาล เอวติดเข็มขัด อกติดตราค้างคาว...
     
    แบทแมน แห่งจักรวาล DCAU!
     
    "มาแล้วงั้นรึ" แบทแมนถามอาหนังสือโดยไม่หันหลังกลับไปมอง
     
    "ใช่ ผมเพิ่งไปล็อกตัวสมาชิกทีม Yami Insurance มา" อาหนังสือนั่งลงบนพื้น ขณะที่อีกฝ่ายนั่งบนเก้าอี้ "มีข่าวอะไรไหม"
     
    "มี ข้อมูลของการ์เดี้ยน 7 รายที่เกิดการอาละวาดเนื่องจากพวกดาร์กไซน์ออฟวอยซ์ถูกเจ้าหน้าที่คนนั้นที่นายเพิ่งล็อกตัวได้ขโมยออกไปในรูปฮาร์ดไดรฟ์และหลุดหายไปในมิติระหว่าง Verse"
    อาหนังสือเอามือก่ายหน้าผาก "ให้ได้ยังงี้สิ... มีอะไรอีกไหม"
     
    "นายไม่มีรึไง"
     
    "มี..." อาหนังสือลุกขึ้น "ฉันกำลังจะเดินทางไปมิติที่ฮาร์ดไดรฟ์พวกนั้นหลุดไปแล้วล่ะ"
     
    "ว่าไงน่ะ?"
    แบทแมนถามเสียงเรียบๆ 
     
    "ตามนั้น แถมหลุดไกลด้วย ไปคนละโลกเลย..." อาหนังสือดันตัวขึ้น "ให้ตายสิ นายกับเคลฟไม่น่าห้ามเรื่องทำแบ๊กอัพเลย"
     
    "แค่นี้ก็เสี่ยงจะเกิด DOOM Incident อยู่หลายครั้งแล้วไม่ใช่รึไง" แบทแมนถามอย่างน่าเกรงขาม
     
    อาหนังสือพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะดีดนิ้วจนเกิดวงแหวนเวทที่เท้าเขา "ผมไปก่อนนะ อ้อ เจ้าหมอนั้นตอนนี้ที่ถูกล็อกตัวสแกนเอามายด์ไวรัสออกอยู่นะ ฝากไปรับตัวกลับมาด้วย"
     
    แบทแมนพิมพ์ข้อมูลเช็คอยู่สักพัก ก่อนจะหันไปด้านหลัง...
     
    ไร้ร่างของอาหนังสือ
     
    "...จริงๆแล้ว" แบทแมนล้วงเข้าไปในปีกของเสื้อคลุม "ฉันมีแบ๊กอัพ"
    เขาหยิบซีดีออกมาก่อนจะใส่เข้าคอมพิวเตอร์...
     
    "เข้าห้องของ The Sun, The Butterfly, The Crossroad, SEGA, Earless, Businessman, และ Null"
     
    หน้าต่างเจ็ดหน้าต่างปรากฎขึ้นจอ...
     
    แต่มีแค่หนึ่งหน้าต่างเขียนว่า "Target Found" หน้าต่างของ Codename: Null, Touma.
     
    ใต้สีหน้านิ่งเรียบ เขาเริ่มกังวล...
     
    อีกหกคนหายไปไหน 
     
    ...................................................................................................................................................................................
     
    อาหนังสือลืมตาตื่นขึ้น ในห้องลึกลับของใครบางคน
     
    มันเป็นห้องเล็กๆ มีตู้ที่เต็มไปด้วยเหล่าหนังสือการ์ตูน นิยายโนเวท วรรณกรรม เหล่าหนังสือประวัติศาสตร์ เครื่องเกม ของสะสมจากอะนิเมะ สมุดขีดเขียนและอุปกรณ์วาดภาพร่างกองเรียงรายบนโตีะข้างชั้นหนังสือ
    และมีหนังสือต่างๆสำหรับอ้างอิง และโน้ตบุ๊ควางบนโต๊ะอีกตัวหนึ่ง
     
    "หืม... คุณคือคนที่ส่งสาส์นมาสินะ" หญิงสาวสวมแว่นในชุดสีขาว กางเกงยาวน้ำเงิน ใบหน้ารี
     
    "ครับ แสดงว่าบีมาบอกท่านแล้วสินะครับ เมดเกอร์ที" อาหนังสือไหว์สวัสดี "สวัสดีครับท่านที งั้นผมขอตัวก่อนนะ"
     
    พออาหนังสือโค้งตัวขึ้นก็เห็นป่าไม้เต็มไปหมด...
     
    "คุณที!! ไอ้บี!!!"
     
    ที่ชายป่า...
     
    มีผู้หญิงสาวคนกำลังเดินเล่นกันอย่างสบายใจ....
    คนหนึ่ง มีผมม่วงยาวสลวย แต่วันนี้รวบผม สวมฮู้ดสีขาว...
    ชุดเธอในร่างคน... แม้ว่าตอนนี้ร่างเธอจะติดล็อกอยู่ในร่าง"เทพธิดา"หรือที่ Western เรียก "CPU"
     
    กับอีกคนเป็นเด็กสาวตัวน้อยประมาณเก้าขวบ(แม้จริงๆจะยังไม่ถึงขวบ) ผมสีเขียวนุ่มยิ่งกว่าใช้ some certain shampoo ที่ยาวถึงต้นคอ หน้าผากมีอัญมณรูปขนมเปียกปูนสีเขียวมรกต
    เธออยู่ในชุดระบายผ้าเรียบไร้แขนสีขาวสลับเขียว เป็นเสื้อลูกไม้ที่ชายเสื้อติดริบบิ้นสีเหลือง กระโปรงผ้าลูกไม้สีเขียวอ่อนคลุมเข่า ชายมีลายใบไม้อ่อนๆ สวมรองเท้าบู้ทขนสัตว์...
    ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอเคยเป็นเต่ามาก่อน

    เชื่อหรือไหม ทั้งสองเป็นแม่ลูกกัน

    และแล้ว...

    "เอ๋" สาวผมสีม่วงมองเห็นแสงแวววาบออกมาจากถังขยะ...

    "...โอย ป่าทึบจริง... เ เฮ้ยๆๆๆ"
     
    อาหนังสือเห็นสองเนปหยิบฮาร์ดไดรฟ์อันแสนเจิดจรัสออกมาจากถังขยะ
    เขาไม่รอช้า ปัดใบไม้จากชุด ตั้งท่า โหลดความจำการทำตัวให้สุภาพก่อนเดินอย่างใจเย็น อ่อนน้อมไปหาทั้งสอง
     
    แม้เขาจะรู้จักเธอใน "Connective world: Facebook's Messager" ก็เถอะ แต่นั้นไม่ใช่แคนอน ทำให้เขาต้องทำตัวให้ปกติ...
     
    "ขอโทษครับ คุณผู้หญิง" อาหนังสือยิ้มถาม "คือ อันนั้นมันฮาร์ดไดรฟ์ผมครับ"
     
    เนปจูนทีซึ่งร่างติดแหงกใน Purple Heart จ้องหน้ามาที่อาหนังสือ ก่อนจะจ้องพิจารณามองฮาร์ดไดรฟ์
     
    โดยหารู้ไหมว่าอาหนังสือกำลังทำการโหลดดาต้าเข้าหัว...
     
    ("ได้มาแล้ว ต่อไปก็ลบทิ้ง... ไม่ดีกว่า ปล่อยไว้ๆ เผื่อพวกเธอเปิดจะได้มีอะไรมันๆไว้เล่าบน Facebook พวกเมดเกอร์") อาคิดในใจ
     
    "นายคือใคร" เนปจูนทีถามด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย
     
    "อ้อ ผมชื่ออาหนังสือ สคูลเลอร์ครับผม" อาหนังสือไหว้สวัสดี "ผมมาจากอีกมิติหนึ่ง ชื่อ ADSO Hyperverse ครับ"
     
    "อาหนังสือ..." เนปจูนทวนชื่อ
    "อีกมิติ..." เนปเลนทวนคำ
    "ADSO Hyperverse" ทั้งสองทวนมิติ
     
    ("ผมน่าให้ท่านบีกับท่านทีป้อนดาต้าให้พวกเธอก่อนผมมานะเนี่ย... เอาเถอะ เขารณรงค์โตไปไม่โกงใน Verse Number Prime") หุ่นนักวิทย์คิดในใจก่อนอธิบายเพิ่มเติม "คือ ตอนนี้เพื่อนๆผมถูกปีศาจตนหนึ่งล้างสมอง ผมเลยจะใช้แผนสำรองหยุดพวกเขา ซึ่ง มัน อยู่ ในฮาร์ดไดรฟ์ครับ"
    เนปจูนอ้าปากค้าง
    "จริงหรอคะ คุณอาหนังสือ ที่ของสิ่งนี้.. จะสามารถช่วยเพื่อนของคุณได้น่ะ"เนปเลนที่ตกใจมองฮาร์ดไดรฟ์ซึ่งอาหนังสือกล่าวถึง เธอล่วงรู้ความสำคัญของเจ้าสิ่งนั่น มันเปลี่ยนแปลงได้ทุกสรรพสิ่งอย่างกับเป็นของวิเศษจากพระเจ้า...
    "ถ้าอย่างนั้นก็... เอาคืนให้คุณอาหนังสือเถอะคะ มาม้า" เนปเลนบอกคุณแม่เธอพล่างยิ้ม
    เนปจูนทีไม่รอช้า พยักหน้าพล่างคืนให้อาหนังสืออย่างไว
     
    "ขอบคุณ คุณ..."
    แม้จะรู้ชื่ออยู่แล้ว แต่อาหนังสือก็ตัดสินใจไม่เปิดเผยความจริงข้อนี้...
     
    "เนปจูนคะ ส่วนนี้เนปเลน ลูกสาวแสนน่ารักฉันเอง" เนปจูนแนะนำตัวอย่างร่าเริง
    "อ้อ ท่านเนี่ยเหมือนเนปจูนฝั่งผมเลยครับ" อาหนังสือกล่าว
     
    "ฝั่งคุณ?" เนปจูนสงสัยขึ้นมาทันที
     
    มิทันไร อาหนังสือจับสัมผัสบางอย่างได้... Mind Virus!
    "ไว้ว่างๆ จะอธิบายละเอียดครับผม" อาหนังสือหันหน้าไปมองด้านหลัง ก่อนเสกดาบแบบโรมันออกมาในมือ "พวกเขามาแล้ว"
     
    พายุพัดกระนั๊ม ก่อนจะเปิดรอยแยกกลางอากาศ ก่อยเผยโฉมสองการ์เดี้ยนที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกของ ADSO
     
    "..." เขาสลดใจเล็กน้อยที่ผู้เป็นเยาวชนต้องมาทำงานปกป้องโลกและลงเอยโดนควบคุมไม่ต่างจากมดโดน...
     
    หนึ่งคืออัศวินนักดาบเพลิงหญิงพลังไพ่ Elemental Tarot แห่งดวงอาทิตย์ ผู้สูญเสียเพื่อนไปด้วยปีศาจ ผู้หวังจะทำลายโชคชะตา
    อีกหนึ่งคือ Reaper สาวพลังผีเสื้อ ผู้ท่องไปในอวกาศอย่างผิดกฎหมาย เพื่อต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายข้ามอวกาศ ไล่ล่าหาความจริงและหยุดยั้งสิ่งลึกลับที่กลืนกินดวงดาว


     
    "อาคิระ" จาก Verse (Day Break Illusion หรือ il sole penetra le illusioni )

    (เนื่องจากเป็นผลงานคนไทยที่อ่านได้ฟรี ผมจะให้ลิงค์แทน: ที่นี้เลย)

    และ "ริเอสเทล" จาก Pathership Verse (Path A Way, Comic ไซไฟดราม่าโรแมนซ์สายเลือดไทยสุดเจ๋ง)
     
    พวกเธอทั้งสองถูกจับคู่กัน มาเพื่อฆ่าและทำลาย Hyperverse แห่งนี้!!!?
     
    "เนปจูนที เนปเลน... ฝากอาคาริทีนะ" อาหนังสือบอกก่อนหันไปมองสาวติดกิ๊ปผีเสื้อจาก Pathership Verse "ฉันจะช่วยริเอสเทลเอง"
     
    สายพอร์ท USB พุ่งออกมาจากหลังคอหุ่นนักวิทย์ก่อนจะประสานเข้ากับสาย USB ของฮาร์ดไดรฟ์ ก่อนเขาจะเริ่มโหลดข้อมูลมาอ่าน...
    ริเอสเทลพุ่งเข้ามา หมายบั่นหัวอาหนังสือ
     
    เขาไม่รอช้าเอี้ยวตัวหลบ พล่างบ่น "ไวชะมัด"
     
    ส่วนเนปทีกับเนปเลนกำลังจ้องตากับสาวผมสีส้ม ที่ดวงตาสีแสดไร้ซึ่งชีวิต
     
    "งั่น.. ถ้าเป็นเพลิงล่ะก็.. มาประชันเพลิงกันเลยดีกว่า"เธอตัดสินใจเฉียบขาด โดยถอดถุงมือรุ่นสองของคนที่เธอเรียก "เจ้าหน้าตายด้าน" โยนให้กับเนปเลนฝากให้วิ่งไปเก็บวางไว้ที่โล่งห่างจากบริเวณที่นี่ 
    ก่อนที่สวมข้อมือประจำการ แล้วตั้งสมาธิ หมุนควงบีมคาตานะร่ายวงแหวนเวทใต้ฝ่าเท้าเธอ จนลูกไฟทั้งสี่ มาบรรจบเพลิงอันกล้าแกร่งลงไปในบีมคาตานะ 
    และตอนนี้ คาตานะแห่งอัคคี เริ่มเผาผลาญควานกระหายการต่อสู้ ด้วยจิตวิญญาณแห่งกล้าแกร่งเยี่ยงนักรบ
     
    อาหนังสือถีบริเอสเทลกระเด็น หันไปเห็นเนปทีชักดาบเพลิงออกมาก็รีบเตือน "อย่าฆ่าเธอนะ!"
     
    จนเนปทีได้ยินแบบนี้ ก็ตอบกลับตะโกนดังเกือบให้นักวิทยหูจะแตก
    "ไม่ขนาดนั่นหรอกน่า!!! นี่เป็นศึกของเพลิงประชันเพลิง ถ้าสู้ไม่สุด จะไปรู้ของอีกฝ่ายได้ยังไงกัน อาหนังสือ"
     
    อาหนังสือหัวเราะ "เธอเหมือนเพื่อนฉันมากเลยน่าาา"
     
    ว่าแล้วเขาก็หลับตาเปิดอ่านไฟล์ในหัว
     
    [
    ชื่อ - ริเอสเทล (รหัส The Butterfly)
    จาก - Pathership Verse "Main" (Verse # SubVerse # )
    Crisis Level - L1
    ความเสี่ยง -
    ริเอสเทลเสียโลกของตนเองไปจากการทดลองข้าม Path โดยฝีมือ Void ตั้งแต่เด็กๆ และยังพบดาต้าที่ไม่ชวนไว้วางใจในตัวเธอด้วย
     
    การจัดการ -
    Operation Time Out: ด้วยการกะเวลา เราสามารถทำให้เธอสลบไปได้เมื่อเธอกำลังรอจังหวะใช้พลังใหม่
    Operation Gas: เธอไม่สามารถหลีกหนีจากแก๊สพิษหรือแก๊สยาสลบได้ มันจึงเป็นไอเดียที่ดีหากขังเธอในกล่องเพื่อปล่อยแก๊ส
    ]
     
    อาหนังสือลืมตาพร้อมความคิดที่เฉียบขาด ก่อนเอ่ยคำสั่ง "ปลดลิมิตเตอร์ถึงลิมิตเตอร์หมายเลข 4"
    เขาเรียกปืนยาสลบออกมาจากวงแหวนเวทก่อนยิงกระสุนใส่ริเอสเทล เธอไม่รอช้า แปลงตนเองเป็นผีเสื้อก่อนจะบินไปรวมตัวที่ด้านหลังอาหนังสือ ดาบความร้อนสูงเหวี่ยงมาจะตัดคอเขา...
     
    "เวทมนตร์วิทยาศาสตร์ Glass เวทมนตร์การ์เดี้ยนเลียนแบบ โทโฮ ซาคุยะ"
     
    สิ้นเสียง ทรายในดินและซิลิกอนทั้งหมด แปลงเปลี่ยนเป็นกล่องแก้วสีใส ขังร่างสาวผีเสื้อไว้ด้านใน
    และก่อนเธอจะใช้ดาบทำลายกล่อง
     
    "เวทมนตร์วิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ ยาสลบ"
     
    แก๊สยาสลบถูกพ่นเข้าไปในห้องกระจก...
    ร่างหญิงสาวสลบลงไป...
     
    อาหนังสือมองมายังร่างน้อยอย่างเห็นใจ...
     
    ตัดมาทางเนปที
    เกร๊ง! ตูม!
     
    สองผู้ใช้ดาบกระเด็นไปคนละทิศหลังใช้ดาบปะทะกันจนเกิดการระเบิดขึ้นระหว่างพลังของ Elemental Tarot และ Share Energy
     
    "เหมือนว่าอีกฝ่ายจะมีพลังน้อยกว่าฉันพอสมควรเลยนะ..." เนปทีคิดในใจออกมา ก่อนจะชูมือขึ้น ใช้พลังแห่งสายฟ้า "Thunder Break!"
    สายฟ้าฟากลงใส่ร่างของอาคาริที่ไม่รู้ตัว จนร่างเธอด้านชา ขยับตัวไม่ได้
     
    เนปเลนไม่รอช้าเรียกเถาวัลใต้พื้นดินตรงเป้าขาของอาคาริ แล้วจากนั่น ยื่นแขนซ้ายยิงกระสุนหว่านเมล็ดพลางถือดาบวิ่งมุ่งหน้าตรง จากนั่น...
    เธอตัดสินใจ ลองใช้ท่าไม้ตายของแม่เธอ แม้จะไม่เหมือนนัก แต่ก็ใกล้เคียงกันมาก ฟาดใส่อาคาริไม่ยั่ง
     
    และ...
    สองแม่ลูกพร้อมใจกัน ประสานพลังอันกล้าแกร่งด้วยสายสัมพันธ์
    จนที่สุด เนปทีชูแขนซ้ายสูงอ้างฟ้า อันเต็มไปด้วยรากเถาวัลเขียวบริสุทธุ์อ้อมรัดทั่วแขนซ้ายตรงแผ่นหลังหัสต์ประดับเม็ดขนมเปียกปูนสีเอเมรัส 
    และเรียกดาบพอประมือสลักสวยงามปลายสะท้อนหยกแก้ว จนเนปทีเก็บบีมคาตานะลงไป
     
    อาคาริหลุดจากอาการชา ก่อนเตรียมจะจู่โจมซ้ำ...
     
    "เวทมนตร์วิทยาศาสตร์ ระบบประสาท!!" อาหนังสือกางฝ่ามือเล็งไปที่สาวผมเพลิงเพื่อเข้ายึดระบบประสาทคืน
     
    [
    ชื่อ - อาคาริ (รหัส The Sun)
    จาก - Gentai Verse "Main" (Verse # SubVerse # )
    Crisis Level - I4 (ในการต่อสู้) L2 (ในผลกระทบของพลัง)
    ความเสี่ยง -
    อาคาริมีปมในอดีตและเป็นลูกครึ่ง Daemonia จึงเป็นไปได้ที่จะมีคนใช้สองจุดนี้ล่อลวงหรือกระทั่งควบคุมจิตใจ
     
    การจัดการ -
    Operation Triangle Of Fire - หากเราดูดกลืนความร้อนและพลังงานมากพอ เราจะสามารถหยุดไฟอันมาจากพลังของอาคาริได้
    Operation Buffer - อีกวิธีซึ่งอันตรายคือการโอเวอร์โหลดสติและจิตใจด้วยความทรงจำในอดีต
    ]
     
    นั้นคือสิ่งที่เขาอ่านมา
     
    แต่ตอนนี้ เขาเชื่อมั่นมากว่าพลังของสองแม่ลูกจากมิติแห่งเกมของเมดเกอร์ทีจะสามารถบิดเบือน Personal Reality ที่ติดไวรัสให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้งได้!
    เขาแค่ต้องช่วย
     
    "จำในสิ่งที่เธอสูญเสีบให้ได้สิ The Sun!" อาหนังสือตะโกน "...และได้โปรด จำได้ซ่ะทีว่าเธอเป็นใคร และเกิดมาเพื่ออะไร อาคาริ เวทมนตร์จิทวิทยา... จิตวิเคราะห์ของฟรานด์!!"
    เขาใช้เวทจากทฤษฎีที่ล้าสมัย เพื่อกอบกู้จิตวิญญาณของอาคาริ...
     
    "ฉันจะให้เธอ... นึกถึงมันเอง... สิ่งที่เธอ... ยังมีอยู่น่ะ.. "เธอตั้งท่าดาบชีทางอาคาริแห่งสิ้นหวัง อาคาริผู้สูญเสียจนให้จิตใจบอบบาง อาคาริผู้เป็นเพียงแค่ตุ๊กตาชักใยเพื่อความต้องการของขุนนางมืดนั่งสนุกมองเบี้ยไร้ค่า...
    เนปทีสุดหายใจผ่อนกายยืดมั่นจ้องตาแห่งเพลิงอัคคีผลาญ เธอตัดสินใจแล้ว เธอไม่ใช่แค่อยากสู้เพื่อทำลาย แต่เธอ.. ต่อสู้เพื่อ... ช่วยผู้ติดในกรงขังตรงหน้า..
    "ครอส คอมโบเนชั่น!!!!!!"จนที่สุด.. แววตาไร้ดวงจิตของเด็กสาวนั่น.. ค่อยๆหลั่งน้ำตาแอบแก้มไหลย้อย เด็กสาวเห็นภาพตรงหน้านั่น... 
    เป็นภาพลิมิตที่.. เธอไม่อาจลืม.. สิ่งสำคัญ ในความทรงจำนั่นไปได้.. จนมืออาคารินั่น.. ค่อยลดดาบปล้อยตัวหล่น รับท่าเพลงดาบสู่ความหวัง ที่เรียกว่า... หัวใจ..
     
    "...คุณอา" อาคาริเอ่ยชื่อคนที่เธอเคยสังหารไปในวันที่พลังเธอได้ตื่นขึ้น ก่อนนึกถึงเพื่อนๆ ที่ช่วยกันออกปราบปีศาจ
    ลูน่าจัง... เซย์รา... กินกะ...
     
    และคมดาบก็มาถึง
    ตูม!!!!
     
    แรงระเบิดมหาศาลเกิดขึ้น...
     
    ร่างของอาคาริกระเด็นออกมาจากหมอกควัน
     
    "เวทมนตร์ฟิสิกส์ โมเมนตัม!"
    อาหนังสือแทรกแซงกฎของนิวตันเพื่อควบคุมการกระแทกมิให้ทำอันตรายอาคาริได้...
     
    เขาดูความเรียบร้อยของทั้งสาม โดยเขาตรวดดูอาการของเด็กสาวที่นอนหมดสภาพ...
    อาหนังสือเริ่มสแกนร่างกายของเธอ เตรียมใช้พลังตนเองลบล้าง Mind Virus ที่ได้กัดกินระบบของเธอ
     
    แต่ไม่พบ
     
    เขาไม่พบอะไรเลย...
     
    ไม่มีซึ่งการบาดเจ็บจาก Cross Combination ไม่มีร่องรอยไวรัสในโค้ดดาต้า...
     
    ไม่มีอะไรผิดปกตินอกจากแค่เธอหลับและตอนนี้อยู่นอก Verse ตนเอง..
     
    หัวหน้ายานพาราไดซ์ได้แต่อึ้ง.. อึ้งสุดๆที่.. ข้อมูลในหัวของตนซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์และพลังแห่งตน ผู้ก่อตั้ง ADSO นั้น...
    ถูกแซงหน้าด้วย... 
    พลังความรักและความหวังของสองแม่ลูก
    เขาควรจะดีใจ.. หรือจะ.. มากกว่าแค่ดีใจแน่ๆ.. เขาถึงกับ... ประมวลผลในตัวสองแม่ลูกที่.. ทำในสิ่งที่.. ไม่น่าจะเป็นได้..
     
    "ก็... เห็นมาหลาย Verse แล้วที่พลังแห่งความรักมันชนะทุกสิ่งได้ แต่นี่... เล่นลบไวรัสที่มาจากโลกความจริงได้เนี่ย แถม แถมยัง... ช่างเหอะ" อาหนังสือยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเดินไปหาริเอสเทลเพื่อดูการกำจัดไวรัส
    เขาดูวงแหวนเวทที่ลอยเหนือร่าง ก่อนได้คำตอบว่า การกำจัดเสร็จสิ้น
     
    "เอาล่ะ..." อาหนังสือลุกขึ้นก่อนจะมีวงแหวนเวทขนาดใหญ่ปรากฎใต้สองสาวที่เคยถูกควบคุม ก่อนร่างพวกเธอจะถูกส่งกลับ สู่โลกของตนอย่างสวัสดิภาพ
     
    แล้วเขาก็หันมาหาเทพธิดาสีม่วง... ที่พลังน่าจะแซง NEXT Form ของเนปจูนของเขาไปไกลโข
    "เนปที" อาหนังสือถาม "พลังเธอ... รู้ไหมว่าเธอเพิ่งทำในสิ่งที่มีแค่การ์เดี้ยนที่ถูกเลือกโดย Maker Saver และเหล่าเมดเกอร์ด้วยกัน สามารถทำได้นะ"
     
    "แน่นอน ก็ฉันน่ะ.. ทำในสิ่งที่ควรจะทำน่ะ ตอนที่ฉันสู้กับเธอคนนั่นนี่.. ฉันรู้สึก.. เสียงหัวใจของเธอนั่น.. กำลังร้องให้อยู่น่ะ"
     
    อาหนังสือได้คำตอบของเธอนั่น ถึงกับต้องขอยอมรับตรงๆเลยล่ะ 
     
    ไม่มีสิ่งใดที่.. กัดกิดหัวใจได้สมบูรณ์หรอกนัก 
     
    ขอมีแค่หัวใจ.. ก็พอที่จะ.. ก้าวข้ามทุกสิ่งไปได้
     
    ("แน่ใจรึ อาหนังสือ นายเป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่มาเชื่ออะไรงี่เง่าแบบนี้เนี่ยนะ")
     
    เสียงแบบนี้!?
    อาหนังสือหันควับไปมองฟ้า "ลั่นทม..."
    เขาแสยะยิ้มที่มุมปาก "ใช่... บางทีหัวใจก็ไม่พอ แต่ถ้าไม่มีหัวใจ จะเป็นรัสปูตินหรือไอนสไตล์ก็ทำไม่ได้ทั้งนั้นแหละ"
    เขาอ้างชื่อสองคนดัง คนหนึ่งชื่อเสีย คนหนึ่งชื่อดี...
    เหมือนจะบอกว่า จะเป็นคนดีหรือคนไม่ดี ต้องมีทั้งสติปัญญา พลังกายและพลังแห่งหัวใจ...
     
    แต่บางครั้ง มันก็ไม่พอ...
     
    "ก็มาม้าน่ะ เท่ที่สุดไปเลยค่าาา" เสียงตัวน้อยในแขนซ้ายเนปทีกำลังชมแม่ตนเอง โดยมิได้ยินเสียงของการ์เดี้ยนแห่งความรู้ โต้เทพธิดาแห่งความชั่วร้าย
     
    อาหนังสือมองดูสองแม่ลูกให้ความรักกันอย่างอ่อนโยน พล่างเซ็งน้อยๆที่เมดเกอร์ตนไม่เน้นจุดนี้ให้มาก "เมดเกอร์น่า เมดเกอร์"
    ก่อนจะสังเกตว่าทั้งสองแอบเดินมาใกล้ๆ เพื่อจะให้ฟังเสียงงึมงำตนได้ชัดขึ้น
     
    "อะไรกันครับ"
    "ก็แค่อยากรู้ว่านายพูดอะไรนะเนปปุ" เนปจูนทีตอบ
    "..."
     
    แต่แล้ว...
     
    เปรี้ยง!
    เพล้ง!!
     
    จู่ๆก็มีรอยแยกเกิดขึ้นใต้เท้าอาหนังสือกับเนปเลน ก่อนร่างทั้งสองจะร่วงลงไป
    "เนนนนนนนนนน!!!"
    "เวรเหอะ"
     
    "เนปเลน!!" เนปจูนกำลังจะคว้ามือไปจับอีกฝ่าย แต่รอยแยกมิติก็ปิดลงเสียแล้ว...
    ...........................................................................................
     
    "ครอกๆ" โทวมะนอนสลับอยู่บนถนน
     
    แบทแมนซึ่งยืนข้างๆ แบทโมบายเก็บปืนยาสลบตน ก่อนจะนำร่างโทวมะขึ้นรถ
     
    โดยไม่รู้ถึงชะตากรรมพรรคพวกตนอีกคนเลย
     
    ...............................................................................
     
    อาหนังสือกับเนปเลนโผล่มาที่ถนนมืดๆแห่งหนึ่ง...
     
    "เราอยู่ที่ไหนค่ะ?!" เนปเลนตกใจก่อนหันไปมองรอบๆอย่างตื่นตระหนก
     
    "...โลกของเพื่อนอย่างไม่เป็นทางการของผมครับ"
     
    อาหนังสือหลับตา...
    ก่อนนึกถึงเมมโมรี่ของเซฟเวอร์...
     
    การเจอกันโดยบังเอิญของสองเมดเกอร์ในค่ำคืนที่เหล่าบิวเดอร์ในองค์กรที่่ Golden Lever II ทำงานมารวมตัวกัน...
    จุดที่ทำให้ทุกอย่างมาถึงจุดนี้...
     
    "Xsteam Saver Connection Night"
     
    และการเจอกันครั้งแรกของอาหนังสือกับการ์เดี้ยนผู้แสนธรรมดา ผู้มองโลกในแง่ร้ายอย่างเป็นจริงตามพลังอำนาจแห่งเมดเกอร์ไอน้ำ...
     
    "คุณอาหนังสือคะ! มีคนหยิบฮาร์ดไดรฟ์!"
    เสียงเนปเลนดึงอาหนังสือจากห้วงความคิด ก่อนจะเห็นร่างในฮู้ดสีดำหยิบฮาร์ดไดรฟ์ขึ้นมา
     
    "ไอศิรา" อาหนังสือรู้จักเธอดี... แม้ไม่เท่ากับที่"พระเจ้า"ของเธอรู้...
     
    สาวตรงหน้าหยิบฮาร์ดไดรฟ์ขึ้นมาก่อนจะชำเลืองมองดู...
     
    "คือ ขอโทษนะครับ..." อาหนังสือเดินมาหยุดข้างๆ ก่อนไหว้สวัสดีขอร้อง "...ถ้าไม่ว่าอะไร ช่วยคืนฮาร์ดไดรฟ์ให้ผมหน่อยได้ไหมครับ"
     
    "ทำไม มันมีชื่อนายติดอยู่เหรอ?" เธอตอบกลับอย่างไม่ถนอมน้ำใจนักวิทย์แต่อย่างไร
     
    อาหนังสือยื่นบัตรประจำตัวสมาชิก ADSO ให้ดู "มันมีโลโก้ขององค์กรที่ผมทำงานครับ"
    เธอมองโลโก้รูปโลกที่มีเสี้ยวพระจันทร์อยู่สองข้าง ก่อนจะมองไปที่ฮาร์ดไดรฟ์ "หึ แล้วทำไมฉันต้องให้นาย"
     
    "ข้อมูลความมั่นคงระดับพหุภพครับ" อาหนังสือกล่าว แม้จะรู้ล่วงหน้าจากการ"แอบ"ไปอ่านดาต้าจากเฟสของเมดเกอร์ ว่า...
     
    "อ้อ... งั้นไม่ให้ ของน่าสนุกแบบนี้จะให้คนอื่นไปได้ไง ขาดทุนกันพอดี"
     
    กะแล้วเชียว เขาคิดในใจ
     
    "แล้วนายเป็นใคร ถึงกล้ามาบอกว่าข้อมูลในนั้นเป็นข้อมูลความมั่นคงระดับพหุภพ" ไอถามกลับ
     
    "อ้อ" อาหนังสือยิ้ม "ผมชื่ออาหนังสือ สคูลเลอร์ จากองค์กร ADSO ที่ตั้งอยู่ในอีกพหุภพห่างไกลจากของคุณมาก ท่านละครับ"
     
    "ไอ ไอศิยา จาณุประดิษฐ์" ไอตอบหน้านิ่ง เย็นชา ไม่มีปฎิกิริยาแม้แต่นิด!
    ไอแอบคิดในใจ...
     
    อีกฝ่ายคงไม่รู้หรอก ว่าเธอเคยเจออะไรมาบ้าง...
    และไม่น่าจะรู้ถึงพลังตนเอง...
     
    "เหมือนว่าพลังรูปแบบ I4-Meta Sense-Caution ของเธอจะทำให้เธอเจออะไรแปลกกว่านี้มาแล้วสินะ ไอจัง" อาหนังสือกล่าว "พลังในการมองลิขิตหรือที่ภาษาบ้านๆเรียก โชคชะตาน่ะ"
    ไอตะงิดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายรู้ถึงพลังตน...
     
    "...ไม่ต้องห่วง ผมไม่มารบกวนหรือถามหรอกว่าเธอรวบรวมลิขิตไปทำไม" นักวิทยาศาสตร์บอก
     
    "นายรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง" เธอถามด้วยสายตาอันระแวดระวังต่อคนแปลกหน้า
     
    "อืม... ผมส่งโดรนข้ามมิติมาตรวจสอบครับ เห็นพหุภพเธอน่าสนใจเลยส่งมาตรวจนะ"
    เขาพูดไม่ผิด มิติของไอเป็นมิติที่เมดเกอร์ไอน้ำ หนึ่งในพันธมิตรของเมดเกอร์เซฟเวอร์ ได้ควบคุมและบงการอยู่...
    แถมไอก็มีอะไรคล้ายกับเขาไม่น้อย
     
    Author Avatar...
    Philosopher...
     
    "อ้อ เหรอ" หญิงสาวแห่งลิขิตพยักหน้าเข้าใจ "แต่ยังไงก็ขอยึดฮาร์ดไดรฟ์นี้ก่อน ดูท่า... จะมีมูลค่ามากเลยสินะเนี่ย..."
     
    "เอ๋!!!!" เนปเลนและอาร้องอุทานพร้อมกัน ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะหน้าด้านขนาดนี้
     
    "ไม่ได้นะคะ!" เนปเลนเถียง "เพื่อนคุณอาหนังสือถูกพวกตัวร้ายควบคุมอยู่ และไฟล์ในนั้นเป็นสิ่งเดียวที่..."
     
    "ช่วยพวกเขาได้" ไอสวนกลับมาดังรู้บท "ฉันไม่สนว่าเพื่อนนายจะเป็นตายร้ายดียังไง เพราะนั้นไม่ใช่ธุระกงการอะไรของฉัน แต่ว่าตอนนี้ฉันกำลังเบื่อ... และฉันจะไม่ยอมพลาดเรื่องสนุกๆนี้ไปแน่ๆ"
     
    อาหนังสือเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นในทันตาเห็น... แม้ว่าตัวเองจะได้ดาต้าและฟอร์แมตฮาร์ดไดรฟ์ทิ้งเรียบร้อยแล้ว แต่การตอบของไอกลับทำให้เขารู้สึก... มีน้ำโหน้อยๆ
    "ค่ะ ในเมื่อรู้แบบนี้แล้ว คุณจะเอาสิ่งนั่น คืนดีมั่ยคะ"เนปเลนตีหน้าสู้กับเด็กสาวผู้ล่วงรู้ลิขิต
    "บอกแล้วไงว่าไม่"
    แต่เนปเลนก็สู้ไม่ถอย
    "คำพูดแบบนั่น.. ดูเหมือนคุณ.. ไม่สนใจชีวิตของผู้คนเลยใช่คะ ชีวิตคุณน่ะ มันเป็นอะไรกันแน่คะ!!"เธอตะโกนลั่นต่อว่าใส่หน้าไออย่างจังๆ โดยที่เด็กอายุน้อยอย่างเนปเลนแล้วนี่ มันเป็นการไม่ดีเลย ที่ทำเรื่องไม่เหมาะสมกับผู้อาวุโสต่อเธอ แต่พอเนปเลนได้ยินคำกล่าวน่าละอายแบบนี้ ใครจะทนไหว
    ไอศิยาไม่ได้มีสีหน้าโกรธหลังจากที่ฟังคำด่าจบ กลับกัน เธอยิ้มมุมปากออกมา "หมากไง ชีวิตคนมันก็เหมือนหมาก จะเดินไปครึ่งทางสุดทางกระดาน สุดท้ายก็ต้องถูกเขี่ยทิ้งอยู่ดี แต่ฉันน่ะไม่ได้โง่ให้ถูกเขี่ยทิ้งเหมือนพวกนั้น "
     
    อาหนังสือรู้สึกอยากจะใช้ BSoD ใส่ตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดเมื่อสองสาวเริ่มเขม้นหน้ากันอย่างดุเดือด...
     
    หนึ่งคือ Idealist ผู้มองโลกในแง่ดี
    อีกหนึ่งคือ Cynicalist ผู้มองโลกในแง่ร้าย
     
    ถ้าเขาเรียกสวีทนัน ผู้คุมความรักในฟิคนี้ออกมาได้ คงเรียกมาแล้ว...
     
    "และสาวน้อย...เธอควรจะสงบปากสงบคำบ้างนะ มันกำลังจะทำให้ฉันประสาทเสีย" ไอมองไปทางเนปเลนด้วยสายตานิ่ง
     
    อาหนังสือรู้แล้วว่า เขาต้องห้ามศึก ณ บัดเดี๋ยวนี้!
     
    จนมีคนห้ามศึกให้
    เพี้ยะ!!!
    จู่ๆใบหน้าของไอหันหน้าแบบกระทันหันก่อนจะมีรอยฝ่ามือชัดเจน..และมีเลือกไหลจากริมปาก..แถมไม่มีใครทำเธอเลยนอกจากอึ้ง
     
    อาหนังสือตกใจ ก่อนแน่ใจว่ามีการ"แทรกแซง"เรื่องราว... 
    "เฮ้ย! เซฟเวอร์! ให้ผมจัดการเองได้ไหม และนี่มันรุนแรงไปหน่อยเปล่า!"
     
    ผมไม่ได้ทำครับ และ... 
     
    ไอเอาลิ้นเลียเลือดที่แก้มของตน "อืม...ซาบซ่านดี..."
    เนปเลนอึ้ง โดนอะไรไม่รู้ตบแล้วยังเฉย เป็นไปได้ไง!
     
    อาหนังสือไม่สนและไม่ขอคำตอบ เขารีบไปดูอาการก่อนร่ายเวทรักษา แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้ขอ
    แม้เนปเลนจะอึ้งๆ แต่ก็เข้าช่วยเหลือไอ ถึงแม้จะเป็นคู่เปิดศึกก็ตาม
    "แต่หมากน่ะ.. ก็มีหน้าที่เหมือนกันนะคะ แม้จะถูกเขี้ยทิ้งอย่างที่คุณกล่าวหา" เธอกล่าวเบาๆเพราะรู้ถึงจุดประสงค์ของอาหนังสือ 
    "แต่หมากเอง ก็ทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถนะคะ ในเมื่อคุณไม่รู้จักคุณค่าแบบนี้ คุณก็เหมือนคนโง่นั่นแหละค่ะ"
     
    ดวงตาสีดำสนิทจ้องเขม็งไปยังผู้รักษาทั้งสอง แต่ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร
     
    "ผมให้คุณเอาฮาร์ดไดรฟ์เก็บไว้ได้ซักพักก่อนแล้วกัน" อาหนังสือถอดหายใจ ก่อนจะยิ้มอย่างมีเล่ห์นัย "แต่มีข้อแม้... ที่น่าจะสนุกไม่แพ้เกมที่ต้องแลกด้วยชีวิต..."
    "และมันคือ...?"
     
    ไอถามด้วยความสนใจ...
    ก่อนจะพบว่าตัวเองคิดผิดเต็มแรงที่ไปฟังหุ่นยนต์...
     
    ...........................................................................................................
     
    สวนสนุกแห่งหนึ่ง
     
    สวนสนุก...
     
    สถานที่แห่งความฝันและจินตนาการที่ทุกคนควรมีความสุข...
     
    ...แต่คงต้องเว้นไว้รายหนึ่ง
     
    อาหนังสือที่กำลังกินไอติมหายร้อนในใจ ยังคงร้อนต่อไปเมื่อจับได้ถึงกลิ่นฟีโรโมนและสัญญาณประสาทแห่งความเป็นศัตรูของสองสาว...
     
    " ...ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่ไปยอมมัน "
    ไอเบ้ปากเมื่อเห็นว่าเบื้องหน้าคือสวนสนุกที่มีผู้คนคับคั่ง มือเอื้อมไปดึงฮู้ดให้ต่ำลงไปอีก
     
    ส่วนเนปเลนก็...
    "ว้าาาาาววววววว~"เนื่องจากเธอยังไม่เคยเห็นสวนสนุกตั้งแต่แรกเกิด จึงไม่แปลกหรอกนัก ที่เธอร้องกระโดดดีใจตื่นเต้นน่ะ
     
    ไอมองหญิงสาวเต่าก็ได้แต่ถอนหายใจ...
    "สวนสนุกมันก็แค่สถานรื่นเริงไม่ต่างไปจากผับบาร์ร้านเหล้าและโรงแรมที่ผู้คนเข้าไปหาความสุขชั่วขณะ" เธอพูดกับอาหนังสือที่กำลังกินไอติมอย่างไม่ค่อยอร่อยหน่อย
     
    แต่คำพูดนั้น ทำให้อารู้สึกเริ่มสนุกแล้วสิ
     
    "อืม... ก็จริงของเธอ แต่ก็นะ According to Vsauce ความเบื่อเป็นที่มาของการแสวงหา การแสวงหาเป็นที่มาของปรัชญาและวิทยาศาสตร์... 
    การไปหาความสุขชั่วคราวที่เธอพูดก็มาจากการเบื่อนั้นแหละ แค่พวกเขาขี้เกียจหรือไม่มีแรงเท่านั้นแหละ
    ว่าแต่โรงแรมที่เธอพูด มัน Hotel หรือไอ้สถานที่ที่ฉันไม่อยากแม้แต่จะเอ่ยชื่อเนี่ย พระเจ้ามองอยู่"
     
    อาหนังสือกล่าวถึง Admin ของเด็กดีหรือที่คนใน ADSO รู้จักในนามของผู้ปราบและบัญชาเมดเกอร์ มาสเตอร์ออฟเมดเกอร์ดี
     
    ไอตอบกลับทันควัน "ก็ม่านร..."
    "เฮ้ยๆๆๆ ไอ เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวพวกนั้นมาปิดปากพวกเราโดยถล่ม Multiverseเลยนะเฮ้ย!!!"
     
    อาหนังสือหลุดปากเผยความลับของพวกเขาออกไป อาจจะเรียกว่าโชคดีที่เสียงกรี้ดรถไฟเหาะกลบจนมีแค่อากับไอที่ได้ยิน
    พอรู้เขา อาถึงกับช็อค "เวรแล้ว"
     
    "เหรอ"
    แต่ไอกลับนิ่งเฉยกับคำพูดอีกฝ่าย
     
    แล้วไอต้องประหลาดใจที่ ตนนั่น รู้สึกอะไรอุ่นๆร้อนๆในมือขวาของหล่อน ที่เคยแข่แข็งมานับนาน
    "ไปเล่นกันเถอะค่ะ"เนปเลนที่จูงมือไอนั่น ก็ลากเจ้าสาวที่คิดว่า ทุกอย่างก็เป็นแค่การหลอกลวง ทุกอย่างก็เป็นเพียงแค่การละเล่นที่สักวัน ก็ต้องพังไป แม้ไออยากห้ามดึงแรงกลับเพียงใด แต่มันไม่ได้ผลสักนิดกับเด็กสาวผู้ใสซื่อ
    สุดท้าย ไอก็ได้แต่ให้หล่อนทำตามใจชอบ แต่น่าแปลก...ที่จู่ๆร่างกายเธอก็ยอมปล่อยให้โดนลากไปแต่โดยดี ไอหันไปมองคนข้างๆ แววตาลุกวาวด้วยความสงสัยปนประหลาดใจเล็กน้อย
     
    " เด็กประหลาด...แต่ก็น่าสนใจดี"เธอพึมพำออกมาเบาๆ
     
    โดยที่ไม่มีใครได้ยินนอกจากตัวเธอ
     
    และสถานที่พวกเธอไปคือ... 
    บ้านผีสิง!!
     
    "เธอน่าจะชอบนะ ไอ" อาหนังสือเดินนำทุกคนมาก่อนหันไปเห็น...
     
    "กรี๊ดดด!!"เนปเลนถึงกับ ขอกระโดดกอดไอเลยล่ะ
     
    "ลงไปเดี๋ยวนี้"ไอสั่งเสียงเข้ม
     
    "ไม่เอาๆๆๆๆ เนปเลนไม่อยากลง เนปเลนกลัว!!!!"แต่เจ้าตัวก็ไม่โวยยังกอดติดหนึบอยู่
     
    "ถ้าจะมีอะไรที่น่ากลัวกว่าผี ก็เธอนี้แหละ! " เด็กสาวพยายามดันๆหัวเขียวออกไป "อาหนังสือ! มาแกะยัยนี้ไปเดี๋ยวนี!!"
     
    "คร้าบๆ" อาหนังสือกล่าว ก่อนให้ตั๊วเนปเลน พล่างมอบกระป๋องสีแดงให้เนปเลน "อ่ะ นี่ตั๊วผมนะ อยากเล่นอะไรก็ไปเล่นเลย เจ้ากระป๋องนี้จะช่วยหนูเองหากเกิดอะไรขึ้นนะ เป็นเด็กดีนะ"
     
    เนปเลนโค้ง "ขอบคุณค่า คุณอาหนังสือ งั่นคุณไอคะ"
     
    แล้วก็... ไม่พ้น... ไอศิลาเช่นเดิม
    แต่เมื่อหันมามองอีกที ก็ไม่มีเจ้าของชื่อที่ว่ายืนอยู่อีกแล้ว ไอเผ่นไปแล้วเรียบร้อย
     
    "...เวทมนตร์การ์เดี้ยนเลียนแบบ เทพา เสียงร้องของวิญญาณ!" อาหนังสือก็อปพลังลูกตนก่อนเดินเข้าไปในบ้านผีสิง
     
    ในบ้านผีสิง...
     
    สตาปคนหนึ่งที่แต่งเป็นผีเฟรนดี้ถือเลื่อย...
     
    "แฮ่!!!"
     
    "กรี้ด"
     
    แขกกลุ่มแรกตกใจ
     
    "แฮ่!"
    "กรี้ด!"
     
    แขกกลุ่มสองตกใจ
     
    และแล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินมา...
     
    "แฮ่!!"
    "...เหอะ"
     
    ไอไม่มีปฎิกิริยาอะไรทั้งสิ้น ก่อนจะเดินจากไป
     
    ("อะไรกันเนี่ย...")
    แต่ไม่ทันที่ผีเฟรนดี้ปลอมของเราจะได้ทำอะไร...
     
    ตูม!!
     
    "ไอ รอเดี๋ยว!!!"
    ก็โดนร่างขับเคลื่อนด้วยพลังมอเตอร์แรงสูง ชนน็อคเรียบร้อย...
     
    จนกระทั่ง.. ไอรู้สึกเสียงอันคุ้นเคยนั่น กำลังมาเข้าไกล้ตัวเธอ อย่างต้องอุดหูรักษาชีวิตอันควร
     
    "แฮ่กๆ" อาหนังสือหอบ "ให้ตายสิ ร่างหุ่นยนต์ไม่ช่วยอะไรเลย..."
     
    และ ไอต้องถอนหายใจกุมขมับกับ..
    "กรี๊ดดดดด!!! ออกไปน่า!!! ออกไปน่า!!!"เสียงเด็กวัยน้อย กรีดร้องขานหวาดกลัวค่อยเข้าระยะใกล้ตัวไอมากขึ้น
     
    เนปเลนที่ควรจะไปเล่นที่อื่น ดันมาเล่นบ้านผีสิงตามอาซ่ะงั้น
     
    "เผ่นล่ะ" ว่าแล้วไอก็โกยเท้าในทันที
    แต่เสียงกล่อมประสาทแก้วหูแตกนี้ ก็ไม่ละพยายามเข้าใกล้ตัวสาวเจ้าไม่อยากเข้าใกล้จ้องตามากนักหรอกนะ จนกระทั่ง...
     
    โครม!!!
     
    อา เนปเลนและไอชนกันล้มระเนระนาด
     
    "ยัยนี้" ไอบ่น
     
    "โอย..." อาคราง
     
    "เนนนน~"เด็กสาวเรือนเขียวอ่อนล้มตัวนาบแผ่นหลังนอนแผ่อ้า วินเวียนศีรษะมึนไปหมด ดวงตากลมโตในตอนนี้.. เริ่มจับความไม่ได้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเธอ
     
    ...........................................................................................................
     
    อาหนังสือตัดสินใจพาสองสาวไปเล่นม้าหมุน...
    โดยเขากับไอ ดันไปนั่งใกล้กัน
     
    ส่วนเด็กสาวอ่อนต่อโลกอย่างเนปเลนร้องดีใจสนุกสนานชี้มองทางเหมือนในนี้ มันคือสวนสวรรค์สีขาวห้วงฝูงม้าบินเพกาซัส โดยที่เด็กสาวเอเมรัสนั่น นั่งเล่นห่างตาจากทั้งสองเว้นระยะห่างสองที่นั่งพึงม้า มิให้ยินแว่วเรไรเป็นอันขาด
     
    ม้าหมุนเริ่มหมุนไปอย่างๆช้า...
     
    "ม้าหมุน...มันก็เหมือนชีวิตมนุษย์ที่วนเวียนอยู่ซ้ำซาก" ไอกล่าวอย่างนิ่งเงียบ "สุดท้ายก็ได้แต่รอวันที่เน่าเฟะ แต่ว่า..."
    ...ดวงตาหญิงสาวฉายแววเศร้าอย่างไร้สาเหตุ...
     
    อาซึ่งสังเกตเห็นดวงตา ตัดสินใจเก็บการโต้เถียงไว้...
     
    ม้าหมุนไร้ซึ่งเสียงของทั้งสอง ระหว่างที่เสียงของเนปเลนและเด็กคนอื่นยังดัง
    และแล้ว...
     
    ไอก็เอ่ยปากพูดอีกครั้ง
    "รู้รึเปล่าว่าในบรรดาจำนวนไพ่ ไพ่ใบไหนที่ฉันชอบที่สุด?"
     
    อาสะดุ้งเล็กน้อย "เอ ไม่รู้ ถ้าเป็นไพ่ที่คนหลายคนไว้เล่นเรียกตำรวจ ของเดาว่า... Ace"
     
    ไอแสยะยิ้มเล็กน้อยพร้อมหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ "เอซอาจจะไพ่ที่แข็งแกร่งที่สุดในเกมนั้น แต่ก็ไม่ได้เป็นไพ่ที่ดีทีสุดในเกมอื่นๆ
    โจ๊กเกอร์...คือไพ่ที่ฉันชอบที่สุด โจกเกอร์ที่ไม่ได้มีค่าเริศหรู แต่ตีราคาเท่ากับ 0...และนั้นหมายความว่าโจกเกอร์จะสามารถแปรเปลี่ยนเป็นเลขใดก็ได้ตามสถานการณ์"
    เธอจ้องมองอาหนังสือเข้าถึงดวงตาอิเล็กทรอนิกส์ "จงอย่าได้แต่นึกถึงสิ่งที่อยากจะเป็น แต่ให้นึกถึงสิ่งที่'ควร'จะเป็นต่างหาก"
    อายิ้ม เขารู้สึกอยากรู้จักเธอคนนี้ให้มากขึ้นแล้วสิ
    "นั้นสินะ แต่คำถามคือแล้วเราควรเป็นอะไรล่ะ..." อาหนังสือถามกลับ
     
    ในขณะเดียวกัน
    "ไพ่.. เอช.. โจ๊กเกอร์.. มันคืออะไรน่ะ"น้ำเสียงแผ่กระซิบบางเบาขยับผ่านริมปากของเนปเลนที่ได้ยินบทสนทนาของอาหนังสือและไอ 
    ถึงแม้เธอจะไม่รู้ความหมายถ่องแท้เนื้อใน แต่กระนัยนั่น เธอก็ยังเก็บความสงสัยนี้ เข้าก้องในใจก่อน
     
    อาหนังสือจู่ๆได้ยินเสียงในหัว... เสียงของหญิงสาวเย็นชา
    "อาหนังสือ"
     
    "อ้าว ไง เกรย์พล็อต มีอะไร?" เขาถามดื้อๆ
     
    "มีการพยายามโจมตี Canon ของ Hyperverse นี้"
     
    "อะไรนะครับ!?" อาหนังสือตื่นตกใจ ก่อนหันไปมองรอบๆ พยายามหาปัญหา...
     
    ในช่วงภาวะแห่งความสงบ ตอนนั้นเองที่ไอก็รู้สึกถึงความเย็นยะเยือกอันน่าขนลุกที่เธอเคยชินกับมันมานาน 
    ใช่...มันคือความรู้สึกรับรู้ถึงความตาย ไอรีบกระโดดไปจากตัวม้าหมุนท่ามกลางสายตาอันตื่นตะลึงของทุกคน
    อาหนังสือเองก็วิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่สาวผู้เห็นลิขิตจะวิ่งไปกระชากคอเสื้อพนักงานคุมเครื่องเล่นชิงช้าสวรรค์
    "หยุดไอ้เครื่องนั้นเร็ว!!" ทว่าฝ่ายตรงข้ามยังคงไม่เข้าใจ "เร็วสิ! เดี๋ยวก็มีคน--"
    ตู้ม!!!
     
    ชิงช้าสวรรค์ระเบิด!!!
     
    และตัวมันกำลังจะถล่มใส่ไอและอา
     
    "เวรเถอะ Mathematic Magic: Vector!!"
    อาหนังสือบงการเวกเตอร์การเคลื่อนที่ทั้งหมดของชิงช้าสวรรค์อย่างระมัดระวังและรวดเร็ว จนชิ้นส่วนลงจอดอย่างนุ่มนวล
     
    ถึงกระนั้นก็ยังมีคนตาย
     
    "ชิ..."
    ไอสบถขึ้นเบาๆ มีคนตายต่อหน้า...โดยที่เธอไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว
     
    แต่...
     
    "...สวีทนัน อย่าเอาไปบอกไทรวีลหรือเพื่อนฉันนะ..." อาหนังสือกล่าวก่อนเดินไปยังร่างไร้วิญญาณของคู่หนุ่มสาวคู่หนึ่ง
     
    "เวทมนตร์ศาสนา พุทธศาสนา การเวียนว่ายตายเกิด!!!"
    เขาแบมือ และเริ่ม"เจาะ"โค้ดของนิยาย
     
    รหัสดาต้าไหลเข้ามา... ก่อนที่เขาจะดึงวิญญาณของทั้งสองกลับมาได้
    แต่ไม่พอ ร่างพวกเขายังเสียหายหนัก
     
    "เอามาให้หมด! Back Up! Stem Cell! Bioelectricity! Cell Division! Immunity system! เวทมนตร์คืนระบบร่างกายขั้นสูง!!!"
    ร่างกายทั้งสองเริ่มซ่อมแซมตัวเองด้วยเวทอันเหนือชั้นของอีกฝ่าย...
     
    สองคนนั้นรอดชีวิต!!!
     
    อาหนังสือลงนั่งกับพื้น "โอย เหนื่อย..."
    นั้นทำให้อีกฝ่ายตื่นเต้นมาก
    "ว้าว แบบนี้สิ ที่เค้าเรียกว่าโกงความตาย" ไอใช้เท้าสะกิดตัวอาหนังสือที่นั่งทรุดอยู่ข้างๆ "เฮ้ๆ อย่าพึ่งตาย นายยังมีงานที่ต้องทำอยู่นะ"
     
    แต่แล้วก็มีสองร่างเดินเข้ามา
     
    "โลกเธอมีสองเรื่องเนี่ยฉายสิน่า..." อาหนังสือหันไปหาไอ "รู้จักไหม ดีเคดกับโดราเอมอนนะ"
     
    แน่นอนว่าไม่มีคนไหนที่เธอไม่รู้จัก แต่ตามเดิม ไอยังคงมาดนิ่งของตัวเองเอาไว้ เด็กสาวยกมือขึ้นกอดอกระหว่างพูด "เรื่องไร้สาระ"
     
    ใช่...
    คาเมนไรเดอร์สีชมพูแดงผู้ก้าวข้ามโลกไรเดอร์เพื่อทำลายทุกสิ่่งและเชื่อมโยงทุกอย่าง...
    และหุ่นยนต์แมวไร้หูสีฟ้าจากอนาคต...
     
    Crossroad... Decade...
    Earless... Doraemon...
     
    กำลังเล็งที่จะปลิดชีพไอศิยา!!!
     
    อา "อืม... แต่ตอนนี้เรื่องไร้สาระมันมีสาระแล้วล่ะ... ฉันหมดแรงข้าวต้ม"
     
    "งั้นก็แปลว่าฉันกำลังจะตายสินะ ปลื้มใจจริงๆ"แม้ในเวลาคับขันเด็กสาวก็ยังคงอุตส่าห์พูดประชด " แต่น่าเสียดายฉันจะยังตายไม่ได้..."
     
    โดราเอมอนเห็นดังนั้นจึงใช้ปืนลมยิงเล็งไปที่ไอ
     
    "ก็จริง" นักวิทย์ตอบพล่างหลับตา
     
    โป๊ะ
     
    ตูม!!!!!!!!!!!
    กระสุนลมไปกระแทกเคาท์เตอร์ไร้คน
     
    "...บอก ว่า เหนื่อยอยู่ไงเฟ้ย!!!!!!!!!!!!" อาหนังสือ ยังนั่งหลับตาอยู่ ตะโกน "ไอ้คนชักใยอยู่ไหนฟ่ะ จะเตะซักที"
     
    ดีเคดไม่รอช้าชักดาบออกมา ก่อนพุ่งเข้าสู่ แต่มิทันไรก็ถูกเถาวัลย์มัดไว้
    "ไม่ยอมให้ทำอะไรอาหนังสือกับไอหรอก!" เธอกล่าวพล่างรั้งร่างดีเคดไว้ให้แน่น
     
    "KAMEN RIDE: FAIZ!"
    เปรี้ยง! เถาวัลย์ขาดเมื่อดีเคดเปลี่ยนร่างเป็นไฟซ์
     
    "ฉันกำลังจะมีบทบู้ ตื่นเต้นแฮะ" เด็กสาวนามไอลงไปนั่งข้างๆนักวิทย์อย่างหน้าตาเฉย "แล้วไงต่อ?"
     
    "พลังมองลิขิตเธอ ทำนายอนาคตได้ขนาดไหน"
     
    "เห็นว่าจะเจ็บ จะตายเมื่อไหร่และยังไง แล้วก็ไอ้นี่..." ไอล้วงเกม 15 puzzle อันเล็กออกมาชูให้คนข้างๆได้เห็น จะมองมุมไหนมันก็แค่เกมยุคโบราณขึ้นหิ้งแล้วชัด "ปกติแล้วไอ้นี่มันสามารถใช้เพื่อมองเห็นอุปสรรคขนาดบิ๊กได้ แล้วถ้าสมมติ...เอามันมาใช้เพื่อสร้างอุปสรรคซะเองล่ะ...?"
     
    "หืม น่าสนนิ... นานไหม เพราะถ้านาน..." อาหนังสือลืมและยิ้มพร้อมดาต้าในหัว....
    [
    ชื่อ - คาเมนไรเดอร์ดีเคด (รหัส Crossroad)
    จาก - TriToku Verse "Decade AR World" (Verse # SubVerse # )
    Crisis Level - I4 แต่ที่พลังสูงสุด สามารถก่อให้เกิด M2 ได้
    ความเสี่ยง -
    ดีเคดเคยเป็นผู้นำไดช็อกเกอร์ จึงมีความเสี่ยงเล็กน้อยที่เขาจะหันกลับไปทำงานให้ไฟนอลช็อกเกอร์อีก
     
    การจัดการ -
    Operation Cardless - ไร้ซึ่งคาเมนไรด์การ์ด ดีเคดก็ไม่สามารถใช้พลังได้ ดังนั้น จึงควรเล็งการโจมตีไปที่ไรด์บุ้กเกอร์
    Operation Whitebat - นันซึมิเป็นคนที่ดีเคดรัก จึงเป็นไปได้ที่จะใช้เธอเพื่อหยุดดีเคด
    ]
    "...ฉันจะเล่นอีกซักพัก"
     
    "เชิญตามสบาย"ไอผายมือไปยังศัตรูทั้งสองด้วยท่าทางกวนๆ
     
    อาหนังสือลุกขึ้นก่อนกล่าว "ปลดลิมิตเตอร์ถึงหมายเลข 5"
     
    ดีเคดในร่างไฟซ์ใช้ดาบเลเซอร์ ไฟซ์เอจ เตรียมตัดร่างด้วยพลังงานความร้อน
    "Entropy!"
    แต่พลังงานโฟตอนก็สลายเป็นพลังงานความร้อนที่ใช้การไม่ได้จนร่างไฟซ์ถูกแคนเซิลไป
     
    ดีเคดกำลังจะใช้การ์ดใหม่...
     
    "เวทมนตร์กฎหมาย การริบทรัพย์"
     
    และแล้ว การ์ดของดีเคดทั้งหมดก็ไล่ไปหาอาหนังสือ ไม่เหลือแม้แต่ใบเดียว...
     
    แต่เหมือนจะไม่พอจะหยุดดีเคด... เขายังระดมยิงกระสุนใส่อาจนต้องเสกบาเรียมาป้องกัน
     
    เนปเลนก็เรียกดาบของตน มาปะทะกับโดราเอมอน แม้พลังของเธอไม่เทียบเท่ากับคนตรงหน้าก็จริง แต่ถึงยังไง เนปเลนก็ยังสู้ สู้ให้ถึงที่สุด สู้เท่าที่ตนกระทำได้
    โดราเอมอนชักดาบออกจากกระเป๋า ก่อนจะเข้าสู้อย่างสูสีและขี้โกง...
     
    เพราะดาบเขาเป็นดาบที่ช่วยในการต่อสู้แบบอัตโนมัติ!!
     
    แต่สัญชาตญาณอันแม่นยำของเนปเลนไม่รอช้า เธอก็ตีตัวออกห่าง เรียกเถาวัลย์จากใต้พื้นดินจำนวนมาก เข้าประชันกับโดราเอม่อนแบบไม่ยั่ง และ.. ไม่มีวันหมด...
     
    โดราเอมอนยังคงฟาดฟันสู้กับเถาวัลย์ไปเรื่อยๆอย่างไร้ซึ่งทีท่าจะหมดแรง....
     
    " หลบออกมา ไม่งั้นตาย! " เด็กน้อยที่กำลังประดาบรวมไปถึงอาหนังสือต้องชะงักไปเมื่อได้ยิน  
     
    และตอนนั้นเอง...จู่ๆเรือไวกิ้งขนาดยักษ์(ที่มาจากไหนก็ไม่รู้)ก็ซัดเข้าใส่ตัวโดราเอม่อนและดีเคด  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฝีมือใคร
     
    " มองทำไม ตะโกนให้รู้ตัวแค่นี้ก็เป็นบุญแค่ไหนแล้ว" ไอในสภาพเหนื่อยหอบเหมือนพึ่งไปวิ่งมาราธอนมาพูดขึ้น " โอ้ย เหนื่อยโว้ย"
     
    "Scarlet witch ชัดๆ" อาบอกพล่างยิ้ม "ว่าแต่ไหวไหม"
     
    " ไม่ พึ่งลองทำครั้งแรก ไม่นึกว่าจะเหนื่อยขนาดนี้ " เด็กสาวปาดเหงื่อ
     
    แต่ขณะนั้น...
    ไอก็รู้สึงลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีเลย เธอ ผู้รู้ความตายดั่งมัจุราชขึ้นบัญชีอย่างไอศิยานั่น ต้องกังวลใจเป็นพิเศษ...
     
    เมื่อสัมผัสถึงกลิ่นอายแห่งความตาย... ที่หาที่มาไม่ได้...
    แถมยัง... แปลกจากทุกครั้งที่เธอเคยเจอ...
     
    ซึ่งไม่น่าแปลก...
     
    เมื่อมันเป็นฝีมือของ Mind Virus!!
     
    ทันใดนั้นเอง...
     
    "มีการแทรกแซงโค้ดและใช้ Diabolus Ex Machina Trope!" อาแจ้งเตือน "ไทรเตือนผมมา"
    ไอสงสัย "ช่วยแปลไทยเป็นไทยที"
     
    และแล้ว...
     
    บึ้ม!!!!!!!!!!!!
     
    "รอยแยก"ได้ปรากฎขึ้นเหนือท้องฟ้า เผยซึ่งภาพของสถานที่แห่งหนึ่ง...
     
    พลาเนปจูน!!!
     
    แย่กว่านั้น เมื่อซากเรือไวกิ้งได้สลายหายไป ก่อนเผยร่างของดีเคด คอมพลีทฟอร์มและโดราเอมอนหูเหลือง...
     
    "นั้นแหละ Diabolus Ex Machina เมื่อจู่ๆตัวร้ายก็ได้แต้มต่อแบบไร้เหตุผล" อาหนังสืออธิบายอย่างใจไม่เย็นนัก
    พรึบ! การ์ดลอยหนีจากอาไปหมด
     
    "เอาเข้า!" อาหนังสือร้องคราง...
     
    "ตูม!!"
     
    ถ้าจะให้อะไรร้ายเข้าไปอีก ก็คงหนีไม่พ้นที่รอยแยกอีกรอยระเบิดขึ้น
     
    ทุกๆคนที่เห็นรอยแยกอันแตกหักนั่น ต้องตกใจเป็นเท่าตัว ยิ่งกว่านั่น.. ส่งผลให้.. เด็กสาวเรืองเขียวนั่น.. อันต้องสั่นเทา
    และ...
     
    "อึ้ก!!" จู่ๆ ไอก็กุมขมับเมื่อภาพ"ลิขิต"ของสิ่งมีชีวิตที่ถูกไวรัสกัดกินเริ่มระดมไหลเข้าสมองเธอ
     
    อาหนังสือมองไปที่ร่างของเนปเลน เขาเองก็ต้องตกใจ
    ไม่มีใครเห็น แต่ข้อมูลที่ประกอบเป็นเนปเลน... กำลังถูก"รีไรท์"
     
    "ยัยเด็ก..." ไอพยายามจะอ้าปากพูด แต่ด้วยความเจ็บปวดจากภาพลิขิตทำให้เธอต้องทรุดลง แม้จะมองเห็นลิขิตของเนปเลน แต่ก็ไม่อาจช่วยอะไรได้
     
    "FINAL ATTACK RIDE: D D DECADE!!!"
    ดีเคดกระโดดขึ้นฟ้า ส่วนโดราเอมอนเตรียมปาระเบิดปรมาณูใส่พวกเขา
     
    "ไม่ยอมหรอกเฟ้ย!!" อาหนังสือกู่ร้อง "เวทมนตร์แห่งปาฎิหารย์และความหวัง AMNESTY INTERNATIONAL, RED CROSS, MIRROR FOUNDATION, UN: ULTIMATE HOPE AND MIRACLE OF HUMANITY! POWER NULLIFIER!!!"
     
    ตูม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
     
    "อ๊ากกก"
    อาหนังสือกระเด็นไปกระแทกกำแพงหลังระเบิดพลังงานเต็มพิกัด...
     
    "[NUTRINO RECIEVER: FAILED]"
    เขาหันไปมองดีเคด ที่ได้คืนร่างเป็นสึคาสะ และโดราเอมอนที่กลับมาไร้หูเหมือนเดิม...
     
    "...อา... ฮาๆ" อาหนังสือหัวเราะก่อนมองไปที่รอยแยก "...แล้วฉันจะขอฮายาเตะเรื่องกำลังซ่อมบำรุงยังไงดีเนี่ย..."
     
    รอยแยกเริ่มร้าว...
     
    ณ ตอนนี้ ทุกประเทศในอาเซียน บวกญี่ปุ่นและอเมริกา ได้เผชิญกับรอยร้าวของมิติความจริงจนหมดแล้ว!!!
     
    แต่ก็ไม่ใช่ว่า... จะจบลง...
    รอยแยกนั่น.. ยังดำเนินบรรเลงโหมโรงสู่หายนะอยู่..
     
    แต่ทว่า...
    มีสิ่งที่เหนือความคาดหมายนั่น.. ก็มาบรรจบ... สู่ต่อหน้าอาหนังสือ...
    เนปเลนที่พุ่งทะยานหมายที่จะ... หยุดทุกอย่างไว้เอง จะหยุดทุกอย่าง ด้วยตัวของเธอเอง!!
     
    กลับมา DCAU Verse ในมิติของ ADSO
     
    แบทแมนกำลังนั่งวิเคราะห์เหรียญสีเงิน เซลเมเดิล ที่เขาดึงมันออกมาจากร่างของโทวมะ
    แต่แล้ว จู่ๆ เขาก็รู้สึกใจคอไม่ค่อยดี...
     
    และนั้นไม่ใช่ความผิดเขา...
     
    สวีทนันกำลังใช้พลังตนสร้าง Deus Ex Machina!!
     
    "เร็วสิ พี่ค้าวคาว" เธอพูดจากด้านนอกอาคารในโหมดไร้ตัวตน "เร็วสิ!!!"
     
    "..." ไม่รอช้า แบทแมนตัดสินหยิบโทรศัพท์โทรหาใครบางคน
     
    "มิคุ? ช่วยติดต่อฮายาเตะกับแซนหน่อย"
     
    "เยสสสสส!!!!!!!!!!!!!!!!" เธอกำหมัดแน่นอย่างดีใจ...
    โดยมีเกรย์พล็อตยืนหัวเสียให้กับพฤติกรรมการใช้คอมมากเกินของเซฟเวอร์และการใช้ Trope แย่ๆของเขา...
    กับดาร์กกรีด
     
    .....................................................................................................................................................................................
     
    ซักแห่ง เหนือจาก P Dimension พหุภพอันแสนปกติ(?)
     
    "[DETECT THE PLOT DISTROTION!]"
    "โอยตายๆๆๆๆ" เซฟเวอร์เดินกลุ้มไปมา "โอย ทำไงดีๆๆๆ ดาร์กกรีดเล่นแรงเกินไปแล้วววว"
     
    แล้วเขาก็นึกได้ "จริงสิ! Open gate!"
    ประตูมิติที่ใช้พลังจากเฟสบุ้คได้เปิดออก
    ไปทางที่บีบุกตามหาเมคเกอร์ทีอย่างเลือดร้อนรีบรนราน หวังพึงทางสุดท้าย ที่จะช่วยหยุดยั่งได้
    แต่ทว่า.. เขาย่างก้าวเข้าห้องนั่น กลับพบว่า... ว่างเปล่า... 
    เซฟเวอร์แทบไมเกรนขึ้นกินหัวอยากจะตะโกนให้ๆทั่วมุมได้ยินกันไปเลย
     
    "โอย พี่ที!!!"
     
    เขาอุตส่าห์บงการแบทแมนให้ไปตามฮายาเตะกับแซนท์มาแล้วแท้ๆ แต่หากผู้มีพลังมหาศาลอย่างเมดเกอร์ไม่มา เขาก็ต้องพึ่งร่าง"บอท"ของเมดเกอร์และวิซิสเตอร์แทน ซึ่งไร้วิญญาณของตัวจริง
     
    จนเขาหัวเสียอยากชกเจ้าประตูห้องแสนโชคร้ายแบบไม่รู้ว่า ประตูห้องไปทำอะไรผิดมา 
    แต่พอหมัดไม่ถึงประชิดชัน เขาก็เห็นแผ่นโน้ตสีเขียวอ่อนตรนหน้าประตู ในข้อความบางอย่างนั่น ทำให้เซฟเวอร์อยากจะโขกหัวลงกำแพงเลยนั่น
    'ขอล่วงหน้าไปก่อนนะ 
                               จาก ที'
     
    "โอย จะบ้ากับตัวเอง!!" เขาไม่แปลกใจซักนิดที่ PAT 1 เขาห่วยสุดๆ
     
    ควันสีขาวปรากฏขึ้น พร้อมกับตัวเด็กสาวผมสั้นในแว่นทรงสี่เหลี่ยม ถ้ามองดีๆแล้วจะเห็นว่าหน้าของเธอนั้นคลับคล้ายคลับเคลากับใครบางคน แต่ต่างกันที่ดวงตาแสนขี้เล่นนั้น
    "ว่าไงบีบีเซฟเวอร์คุง วันนี้วอลเล่ย์บอลหญิงชนะแหละ"
    มาด้วยความเกรียนเป็นที่หนึ่ง 
     
    "ขอบใจที่อัพเดทความรู้ใน Prime Verse ให้นะ น... ไอน้ำ" เขาหันมามองเพื่อนของตน เมดเกอร์ไอน้ำ ผู้ลิขิตทุกลิขิตในจักรวาลของไอ!
    "อะแฮ่ม..ขอบใจที่ตบมุกให้" คราวนี้ดวงตาสีดำสนิททั้งสองกลายมาเป็นแววตาจริงจัง " แล้วจะไม่ไปเหรอ?"
     
    "ไปอยู่แล้ว..."
     
     
    .........................................................................................................................................................
     
    กลับมาโลกของไอ... ไม่สิ "Fused World of Ai and Nep-T!"
     
    เนปเลนกำลังจะไปถึงรอยแยก...
     
    หมับ!
    ขาเธอถูกหุ่นเหล็กสีแดงจับไว้
     
    "เนปเลน!" อาหนังสือร้องเมื่อร่างน้อยๆ ถูกขว้างลงพื้นอย่างไร้ความเมตตา!
    อาหนังสือพยายามจะลุกขึ้น ก่อนพบว่า
     
    "ชิ ไฮดรอลิก มอเตอร์ และสายไฟที่ไขสันหลังพังงั้นรึ..." เขาพยายามรีดเค้นมานาออกมาร่ายคาถา ก่อนพบว่าโครงสร้างมิติที่เละเทะได้ลดอัตราการรีเจนมานาเขาลง...
     
    ไอที่ยังนั่งพักอยู่ หันไปมองข้างหลัง...
    "ฉึก!"
     
    เธอกระโดดหลบดาบคาตานะจากหญิงสาวผู้ควรปกป้องเธอ...
     
    เทพธิดาสีม่วงแห่งประเทศพลาเนปจูนจาก ADSO รหัสในไฟล์ SEGA: Purple Heart! เนปจูนบีนั้นเอง!!
     
    "ฮาๆๆๆ ลูกน้องฉันทำงานได้สมบูรณ์แบบ ว่าไหม อัศวินแห่งความรู้"
    เสียงหัวเราะแบบนางมารดังมาจากด้านหลังอาหนังสือ เหนือหัวเขา...
     
    "ดาร์กกรีด?" อาหนังสือหันหัวไปด้านบน แต่ก็เห็นแต่ภาพกำแพง
     
    บนเพดาน คือร่างหญิงสาวเจาะหูเสื้อเอวลอย กระโปรงขาสั้นจนครู(ที่กล้ามากๆ)คนไหนๆก็คงอยากเรียกไปอบรม ผมสีแดง ดวงตาสีดำ... เล็บยาวไม่ต่างจากปีศาจ...
    ดาร์กกรีด ตัวตนแห่งกิเลสตัณหา!!
     
    และข้างๆเธอ คือสัตว์ประหลาดสวมเข็มขัดทอง ร่างกายคล้ายมดยักษ์สีแดง ดวงตาและใบหน้าคล้ายมนุษย์ที่กำลังโกรชกริ้ว และด้านหลังมีเห็ดยาวงอกออกมา...
     
    มันคือ Zombie Ant Yummy ปีศาจที่เบสจาก Ophiocordyceps unilateralis ฟังไจที่ยึดร่างมดและบงการมันให้ฆ่าตัวตายเพื่อที่ตนจะแพร่สปอร์ได้!
     
    "ออกมาแล้วเหรอ แม่บอสตัวสุดท้าย!"ไอพูดไปโดยที่ตัวเองก็กำลังพยายามหลบดาบคาตานะที่ถูกกระหน่ำแทงมาทางเธออย่างไม่ยั้งมือ
     
    "โฮะๆ ปากดีจังน่า ไอศิยา... สมกับเป็นตัวตนแห่ง Dark Reality Through ของ..."
     
    "หุบปากที่กำลังจะละเมิด Privacy ของเมดเกอร์เดี๋ยวนี้นะ!" อาหนังสือตะโกนลั่น "คิดจะทำอะไรนะ!!"
     
    "ฉันได้สังเกตคำพูดของเนปเลนแล้วล่ะ มันช่าง..." เธอยิ้ม "...งี่เง่า และน่าหัวเราะ หัวใจชนะทุกสิ่ง? ไร้สาระ"
    แล้วเธอก็มองไอ "ส่วนเธอ ไอ... ฉันล่ะ อยากให้เธอมาเจอบอสหญิงฉันจริงๆ น่าจะคุยเข้าคอกันดี..."
     
    "ขอเสนอน่าสนใจดี " อาหนังสือหันไปมองทางคนพูดด้วยสีหน้าตกตะลึง ในใจแอบหวั่นว่าไออาจจะไปหานายหญิงคนนั้นจริงๆ  " แต่เสียใจด้วยนะ เผอิญว่าฉันเกลียดขี้หน้าเธอ"
     
    อาหนังสือยกนิ้วโป้งให้อย่างอ่อนแรง
     
    "แล้วนี่ ทำอะไรกับมิติ!?" เขายังถามไปเรื่อยๆ ทวงเวลาระหว่างซ่อมระบบตัวเอง
     
    "...ก็แค่จะทำเหมือนแฟนฟิคเรื่องหนึ่ง ที่เอาโค้ดกีอัสมาครอสเพื่อทำลายนาโนฮะไง..." 
    ทันใดนั้น ดาร์กกรีดก็มาโผล่ตรงหน้าอาหนังสือ "...โดยการมอบความจริงให้มิติที่อ่อนแอกว่า"
     
    จนสักพัก ชั่วขณะต้องให้เวลาไหลหยุดนิ่ง..
    ก็ได้ยินเสียง.. ร้องกระหน่ำจอชีวิตลูกช้างจากระยะ.. ห่างไกล.... จนอาหนังสือหันมายังต้นเสียงต้อง... อยากหายาพาราสักสิบลังมากระเดือกจัง กับไอที่ได้ยินเสียงนั่น.. ถึงกับยิ้มปวนหัวเสียสลับปนกีนมั่ว
    "จ๊าาาาาาากกกกกกกกก!!!! ลูกตะกั่วมาแล้ววววว!!!!"
    "เนนนนนนนนนนนน!!!!!!!"
     
    อาหนังสือก็ได้รับข้อความแปลกๆจากตัวเขา ซึ่ง เป็นข้อความที่มาจาก... เมคเกอร์คนอื่น...
    "คือว่า.. ยัยนี่มันหลงทางมาน่ะ ยังไงก็ดูหน่อยนะ"
     
    "ย้าาากกก ถึงที่รอดแล้ว!!!!"ซึ่ง ทำให้ไอต้องอึ้งตะลึงยิ่งกว่าอะไร 
    "ดูท่าจะ.. รอดแล้วนะคะ.. มาม้า"
     
    อาหนังสือเริ่มเดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
    "เมดเกอร์มาลุยเองแล้วล่ะ ดาร์กกรีด!"
     
    ดาร์กกรีดกัดฟันกรอด...
    "สงสัยนายจะแย่งความรู้จากหนังสือ 500 ล้านปีของความรักจากยัยบ้านั้นไปหมดเลยนะ"
     
    เสียงปริศนา เรียกความสนใจของอาและดาร์กกรีดได้
     
    "เมดเกอร์เซฟเวอร์!!"
    วัยรุ่นสวมแว่นในชุดสีขาวสดใน กางเกงขายาวดำ ดันแว่นหนาๆของตนขึ้นๆ ข้างเขาคือหญิงสาวใส่แว่นสีฟ้าอีกคนที่กำลังตื่นเต้นได้ใจ
    "นานๆทีจะได้โผล่ ขอบู้แหลกไปข้างหน่อยละกัน!" เมดเกอร์ไอน้ำกล่าว
    ดาร์กกรีดไม่รี่รอให้เสียเวลา ยิงกระสุนเมเดิลใส่
    แต่...
    ตูม!!!!
    "...You gonna have a bad time"
    โครงกระดูกอ้วนๆเดินได้ มีดวงตาที่ลุกโชนหนึ่งข้าง... กำลังยืนอยู่บนหัวกะโหลกปีศาจ ข้างๆเขาคือหญิงสาวในชุดสีดำ ถือคทาขนาดใหญ่ กำลังจ้องดาร์กกรีดอย่างเห็นได้ชัด
    "แซนท์!" เซฟเวอร์เรียกชื่ออีกฝ่าย "มาได้เวลา Party พอดีเลย"
    "ฮายาเตะ!!!" ไอน้ำกรี้ดเมื่อได้เห็นสาวน้อยจอมเวทที่ตนชื่นชอบออกมาปกป้องตน
    "โทษทีที่มาช้า Anomaly" แซนท์กล่าวกับเมดเกอร์เซฟเวอร์ "ฉันมีปัญหากับมิตินิดหน่อยนะ"
    "เอาล่ะ ดาร์กกรีด!" ฮายาเตะชี้คทาไปที่อีกฝ่าย "คุณได้ถูกพิพากษาให้รับโทษในคดีพยายามทำลายมิติคู่ขนานที่เรายังไม่รู้จักสองมิติ พยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ ADSO และบงการสภาพจิตใจของการ์เดี้ยนเพื่อใช้ในทางที่ผิด"
     
    แล้วศึกระดมระหว่างผู้ปกป้อง กับ ผู้ทำลายล้าง ก็เริ่มต้นขึ้น
    ตัดมายังที่... 
    "ดูเหมือนว่า.. เราจะมาผิดเวลานะ ว่ามั่ย"
    "นั่นสิคะ มาม้า"ทั้งสองผู้มาใหม่ไม่เห็นวี่แววใครมาสนใจ จ้องมองศึกตะลุมบอมกันอย่างสงสัย.. แต่ก็ยังไง.. ทั้งคู่ไม่ใช่มัวแต่ยืนดูหนังบู้สดไม่มีเสียยตังค์หรอกนะ เพราะพวกเธอนั่น...
     
    ตูม!! ไอรอนแมนยิงลำแสงเข้าใส่สองแม่ลูกอย่างไม่กลัวตาย
     
    อาหนังสือซึ่งซ่อมแซมตนเองเสร็จสิ้นโหลดวิธีหยุดไอรอนแมน...
    ก่อนจะรู้ว่าตัวเองสามารถหยุดเขาได้
    [
    ชื่อ - ไอรอนแมน (รหัส Genius Businessman)
    จาก - Marvel Verse "MCU" (Verse # SubVerse # )
    Crisis Level - L1 ถ้าแค่ชุดเขา แต่ด้วยเทคโนโลยีที่เขามีทั้งหมด สามารถก่อให้เกิด L2 ได้อย่างง่ายดาย
    ความเสี่ยง -
    ไอรอนแมนมีความเครียดและปมจำนวนมาก จนเสี่ยงต่อการระเบิดออกมา
    จากประวัติ เขาเคยทำผิดพลาดจนทำให้ Ultron อาละวาด จนเกิด Age of Ultron Incident ขึ้นมา
    จากการทำนายของอาหนังสือ จะเกิดเหตุ Civil War ที่จะทำร้ายจิตใจไอรอนแมนได้อีก
     
    การจัดการ -
    Operation Anonymous: แม้จะล้ำสมัย แต่ชุดของไอรอนแมนยังทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ หากไอรอนแมนเกิดอาละวาดหรือถูกควบคุม ให้ใช้ไวรัสคอมพิวเตอร์จาก SCP Foundation เข้าแทรกแซงและสร้าง Backdoor ในระบบเพื่อเปิดทางให้แฮกเกอร์ใน ADSO เข้าควบคุม
    Operation Solar Flare: ในกรณีที่ Op Anonymous ไม่ได้ผล วิธีการที่ใช้ได้ผลดีที่สุดคือการใช้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าแรงสูงลัดวงจรระบบทั้งหมดของไอรอนแมน
    ]
    "โทษทีพวก ขอเล่นกับของเล่นนายหน่อย..."
    ไอรอนแมนจู่ๆก็บินมั่วซั่วกลางอากาศ
     
    "แต๊งนะ อาหนังสือ"หญิงสาวที่หมอบลงพื้นหลบบีมแสงจากไอรอนแมนนี้ ขอยกมือขวาตั้งทักกล่าวขอบคุณผู้ช่วยชีวิต ส่วนเด็กน้อยที่มานั่น ก็กล่าวขอบคุณเช่นกัน
     
    "ไม่เป็นไร" เขาลุกขึ้นก่อนจะเรียกดาบมาในมือ และหันไปหาผู้เขียนตน "เฮ้! ขอใช้นะ!"
    "จัดไป"
     
    หลังได้คำอนุมัติ อาหนังสือชูมือขึ้นก่อนกล่าว "Access To Maker's Data!!!"
    สายฟ้าฟาดใส่ร่างอาหนังสือ ก่อนดวงตาเขาจะเป็นสีทอง ดาบงอกปีกออกมา 3 คู่ เช่นกับหลังอาหนังสือที่งอกปีกสองข้าง ข้างหนึ่งเป็นขนนก อีกข้างเป็นจอฮอโลแกรมข้อมูล
     
    "Loading The Tech and Live Wings... Completed!"
    "ปรากฎตัว อาหนังสือ ก็อดโหมด... Time for The Future!"
     
    แล้วพอเสี้ยววินาที ไอก็กระเด็นผ่านทางพวกเธอจนล้มลง เสียงปลายดาบที่สองแม่ลูกได้ยินนั่น.. มันเหมือนของหญิงสาวผู้เป็นแม่ดั่งกับแกะ
    "คุณไอ!!!" เด็กสาวเห็นอาการของไอไม่สู้ดี ก็มาดูด้วยความเป็นห่วง
     
    "นะ... นี่มัน... "ดวงตาสว่างม่วงไพลินเบิ่งตากว้างเหมือนกับว่า.. เธอได้ส่งมองในกระจกก็ไม่ปาน
    ตัวเธอที่จับจ้องตรงหน้านั่น... มันเหมือนกับ... ตัวเธอไม่ผิดเพี้ยน
     
    เหมือนเดาความคิดออก อาหนังสือตอบคำถามให้
    "นั้นคือเนปจูนฝั่งฉันเอง... โดนไปด้วยงั้นรึ"
     
    "ตัวฉันอีกฝั่งหรอ"หญิงสาวยิ่งได้ยินคำตอบต้องรีบหันควับไปยังต้นเสียงสังกัดเฉลยความ 
    เนปจูน... ไม่สิ เนปจูนฝั่งมิติเกมทีนั่น ต้องหันกลับมองตัวเธอฝั่งของอาหนังสือที่.. กำลังจะสังหารเด็กสาวผู้ที่รับบาดเจ็บอยู่
    "เนปเลน!! พาเธอคนนั่นไปหลบที่ปลอดภัยก่อน"
    "ค่ะ มาม้า"เด็กสาวนามว่า เนปเลน ก็ขนย้ายพยุงตัวไอไปที่ปลอดภัยตามคำสั่งของผู้เป็นแม่
    เพอเพิ้ลฮาร์ทแห่งแอดโซพุ่งเข้าหมายทำร้ายเนปเลนก่อนจะถูกเนปทีและอาหนังสือเอาดาบมากั้นขวางไว้
     
    ก่อนอาจะรูดการ์ด
     
    "K - Carl Sagan!"
    "The Billion Star of Scinetific Interest!!!" ก่อนจะระเบิดพลังดวงดาวกระแทกใส่ร่างอีกฝ่ายให้กระเด็นออกไป
     
    [
    ชื่อ - เพอเพิ้ลฮาร์ท (รหัส SEGA)
    จาก - Gamindustri Verse "Hyper Dimension A" (Verse # SubVerse # )
    Crisis Level - L1
    ความเสี่ยง -
    เพอเพิ้ลฮาร์ทเป็นคนเลือดร้อนพอควรเวลาแปลงร่าง ทำให้อาจเกิดความเสี่ยงที่เธอจะหลุดการควบคุม นอกจากนี้ การทำนายของอาหนังสือได้กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่ระบบเทพธิดาจะถูกควบคุมโดยแอนติเอนเนอร์จี้
     
    การจัดการ -
    Operation Crack: แอนติเอนเนอร์จี้สามารถใช้ลดทอนพลังของเทพธิดาแห่งเกมได้ การใช้เวทอาณาเขตที่มีพลังงานรูปแบบเดียวกันสามารถใช้การได้
    Operation Bankrupt: แชร์เอนเนอร์จี้อันเป็นแหล่งกำเนิดพลังของเธอ มีที่มาจากความศรัทธาของประชาชน หากเราสามารถลดหรือทำลายความศรัทธาได้ ก็สามารถตัดพลังของเพอเพิ้ลฮาร์ทได้
    ]
    เขานั่งอ่านในใจ... ก่อนจะหยิบการ์ดใบหนึ่งออกมารอ
     
     
    "ไอน้ำ ได้เวลาเราลุยแล้วล่ะ" เซฟเวอร์หยิบแผ่นวงจรบางอย่างออกมา มีปุ่มกดสีแดงตรงกลาง "Are you ready my friend?"
    "Yep" เมดเกอร์ไอน้ำตอบกลับด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีก่อนจะเรียกอาวุธออกมาจากมือข้างขวา มันคือ'กรงเล็บสีขาว'ที่แสนคุ้นเคย...เจ้าของแว่นกรอบสี่เหลี่ยมทำท่ารูปซิปปากให้เพื่อนคนข้างๆ " อย่าไปบอกเจ้าหมานั้นล่ะ ว่าฉันแอบจิ๊กมา"
     
    เขาพยักหน้า ก่อนกดปุ่มตรงกลาง "Boot Up!"
    สิ้นเสียง ชุดสีเขียวเข้มของนักศึกษาวิชาทหารก็โผล่มาเป็นภาพฮอโลแกรม ก่อนจะประกอบเข้าร่างเซฟเวอร์ ชุดแปลงเปลี่ยนเป็นชุดรัดรูปสีเขียว สวมหน้ากากกรองแสงดำ พร้อมหมวกที่ดีไซส์ไม่ต่างจากทหารราบเวลาออกรบ รองเท้าคอมแบทสีดำปรากฎที่เท้า คงมีเพียงมือที่ยังโผล่ให้ผิวอีกฝ่าย
    ปืนกลที่ถูกปลดประจำการแปลงเปลี่ยนเป็นปืนไฮเทลไซไฟ ก่อนเมดเกอร์เซฟเวอร์จะจับมันมา ก่อนเข้าท่าวัทยาวุธ
    "Savior Heart รายงานตัวครับ!"
     
    แล้วเขาก็บินไปหาอาหนังสือ ให้ไอน้ำเข้านำฮายาเตะกับแซนท์ตีกรีดแห่งโรคร้าย
    "โอ้โห~ นี่ระเบิด หรือดอกไม้ไฟกันเนี่ย อาหนังสือ"เพอเพิ้ลฮาร์ทที่น่าเคารพที่ตอนนี้.. เงยมองท้องฟ้าดูดอกไม้ไฟพุ่งเป็นดาวกระจายของฝีมือ
     
    หุ่นนักวิทย์อันได้เข้าหู ต้องเหงื่อตกแทนที่ ได้ยินจากปากเจ้าหล่อนชุดออกศึกในสภาพ... บ้ายอแสนแสบแบบนี้
    "Carl Sagan เขาเป็นคนพยายามทำให้วิทยาศาสตร์ดูน่าสนใจ... พลังเลยแร..."
     
    แล้วเขาก็เห็บดาบแสงสามเล่มพุ่งลงมา
    "...แรง แต่ไม่พอจะทำให้เธอสลบ!"
     
    "ติดตั้ง Eyecon Reader ปฎิบัติ!"
    เซฟเวอร์ฮาร์ทบินเข้าขวางทั้งสองก่อนจะติดเครื่องมือปริศนาเข้าที่ปืนก่อนใส่อะไรเข้าเครื่อง
     
    "AWAKEN! NEWTON! RINGO GA RAKKA! HIKIYOSE MAKKA!"
    "DAI AWAKEN! FALLING APPLE! OMEGA SCAN!"
     
    "ไรเดอร์ ก็อด กราวิตี้ บลาส!!"
    ว่าแล้วก็ยิงกระสุนแรงโน้มถ่วงสวนทำลายกระสุนสิ้น
     
     
    ขณะเดียวกัน
     
    ไอกุมใบหน้าของตัวเองด้วยความเจ็บ แรงกระแทกเมื่อครู่ทำให้ศีรษะเธอแตกและมีเลือดไหลออกมา และยังมีบางอย่างที่หลุดออกมาด้วย...ตาข้างซ้ายที่ไอที่ควรจะเป็นสีดำเหมือนกับข้างขวา มันกลับเป็นสีขาวอันโดดเด่น
     
    เนปที หลังรอดจากการโจมตีไปหมาดๆก็ตะโกนใส่เธออีกคน
    "ย้าาากกกกก!!! มาสู้สักตั้งเถอะ!!! เจ้าตัวฉัน!!!!" ปีกแสงล่องลอยสู่ท้องนภา เรียกบีมคาตานะหมายที่จะประชันชัยประกาศดวลดาบในไม่ช้านี้
    จนเสียงตะโกนบ้าบิ่นนี่ เข้าลอดมายังที่หลบซ่อนตัวพึงต้นไม้ของสองสาว
    "แฮะแฮะแฮะแฮะแฮะแฮะแฮะ มาม้านี่ล่ะก็"
    เนปเลนฟังเสียงแว่ววาวปั้นหน้ายิ้มแหย่ พลางมองอาการของไอที่.. ยังคล้ายคลึงสาหัสก็ไม่ปาน
     
    ไอรีบยกมือขึ้นปิดดวงตาซ้าย กลัวว่าใครจะมองเห็นเข้า  
     
    ...แต่นั้นก็ไม่พ้นสายตาจากเมดเกอร์โลกของเธอ 
     
    ไอน้ำมาปรากฏตัวต่อหน้าเด็กน้อย สายตาของเธอนั้นยังคงเต็มไปด้วยความเรียบเฉย
     
    "โย่ว" ไอน้ำทักทายขึ้นโดยไม่ลืมยิ้มประจำตัว " ดูท่าทางสบายดี...รึเปล่า?" 
    " ..... " ไม่มีเสียงตอบจากเลขหมายที่ท่านเรียก 
    " ไม่ได้จะตอแยอะไรนักหรอก แค่มาเอาของ" คู่สนทนาเมินหน้าไปอีกทาง "รู้น่าว่าลิขิตที่ล้มเหลวอยู่...ไหนๆก็ไม่ใช้แล้วนี่ " 
     
    ไอถอนหายใจออกมาอีกครั้งก่อนจะยอมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบเอาก้อนคริสตัลสีซีดออกมาและส่งมันให้คนตรงหน้าแต่โดยดี 
     
    "จะทำอะไรก็รีบๆทำ" ไอน้ำยิ้มตอบก่อนจะรับของในมือมา คริสตัลสีซีดเริ่มส่องประกายอีกครั้งเมื่อมันมาอยู่ในมือของเธอ
     
    "ความรู้สึกและความหวังทั้งปวงของโลกคู่ขนานถูกดึงกลับมาแล้ว...เอ้า! เอาไปเลยคุณเพื่อน! " เจ้าของแว่นคนเดิมโยนคริสตัลที่กำลังส่องประกายไปให้เซฟเวอร์ที่กำลังอยู่บนฟ้า
     
    "ไม่ให้ใช้หรอก!!!" ดาร์กกรีดกู่ร้อง แต่มิทันไรก็ถูกกระดูกเสียบทั้งตัว แถมเจอ Karma Retribution อันเป็นเอกลักษณ์ของแซนท์ซ้ำเข้าไป
     
    "อ อั๊ก"
     
    เซฟเวอร์รับคริสตัลนั้นออกมา "กำลังหา Material เลย"
     
    "หยุดมัน!"
     
    เพอเพิ้ลฮาร์ทและไอรอนแมนที่กำลังเล็งไปที่ผู้มาจากมิติของเมดเกอร์หันไปเล็งเมดเกอร์เซฟเวอร์
    แต่แล้ว.... เพอเพิ้ลฮาร์ทแอดโซ.. ก็ไม่สามารถออกจาก.. อาณาเขตได้
    กับ ไอรอนแมนที่.. เล็งเป้าหมายที่ต้องเป็นเมดเกอร์นั่น.. กลับกลายเป็น.. เป้าหมายที่.. ดาร์กกรีดแทน!!
     
    ตูม
    ดาร์กกรีด HP = 0
     
    เพอเพิ้ลฮาร์ทยังพยายามหาทางออก
    "G - YIN YANG!"
    อาหนังสือฟาดคลื่นดาบที่มีพลังงาน"แชร์"และ"แอนติ"ใส่เทพธิดาสีม่วงที่ติดแหงกอยู่ในอาณาเขตเพื่อชะล้างมนต์ดำให้หมดสิ้น!
     
    "AWAKEN! TURING! An Gou BREAKER, Kashikoi COMPUTER!"
    เซฟเวอร์ฮาร์ทไม่ปล่อยโอกาศให้หลุดลอย ดึงพลังของนักคณิตศาสตร์ออกมาเจาะเข้าระบบของไอรอนแมน 
    "ปลดการใช้ Corruption Trope!" เขาตะโกนเสียงหนักแน่นก่อนลั่นไกยิงใส่
     
    "DAI AWAKEN! CODE BREAKER! OMEGA SCAN!"
     
    ปัง นัดเดียว เมเดิลก็เด้งออกจากร่างของอีกฝ่าย ก่อนจะแหลกเป็นเสี่ยง
    ไอรอนแมนร่วงลงพื้นหมดสติ
     
    "นี่ๆ ท่านอา สิ่งที่เนปบีจังโดนน่ะ.. มันไม่ใช่ของ.. ทางโลกนั่นหรอกนะ"เสียงเงียบอันผสมหลักการปราชญาจนทั้งหมดต้องหันมายังที่มาของต้นเสียง
    "ไม่ใช่งั้นรึ ผมไปตรวจมาแล้ว มันเป็นพลังของดาร์กกรีด... เดี๋ยวๆๆ ซอมบี้แอนท์ยามี่ล่ะ!"
    เมดเกอร์เซฟเวอร์ถาม ก่อนหันไปมา
     
    "ตูม!!!"
     
    เหมือนว่าแซนท์และฮายาเตะ ยังจัดการพวกมันไม่ได้
     
    "ดูท่าจะ.. คนที่ชื่อดาร์กกรีดนี่.. คงจะได้.. แอนติคริสตัลจาก 'เจ้านั่น' สินะ"
    เซฟเวอร์อึ้งในคำพูดของเนปเลน
     
    จริงของเธอ... 
    "สแกนหา HDN Anti Energy ปฎิบัติ!" เซฟเวอร์สแกนหาพลังงานที่สามารถคอรัปตัวละครใน Hyperdimension Neptunia...
    และก็เจอ...
     
    ในยามี่ตนนั้น!!
     
    "เจอแล้วหนึ่ง ในนั้น"
     
    อาหนังสือหันไปมองเนปเลน "เก่งมากเลยจ้ะ"
     
    ฮายาเตะและแซนท์ยังใช้อาวุณมหาพิฆาตถล่มไม่ยั้งใส่ยามี่ที่เอาแต่วิ่งหลบไปมา...
    และพวกเขาก็ได้ยินเสียง...
    เสียงฝีเท้าเดินเงียบสงัดพาปริศนาให้ทุกคนสงสัย ค่อยย่ำเงาลางเผยตัวตนอันแน่ชัดที่เมดเกอร์ทั้งสอง คุ้นเคยอย่างดี
     
    "ไง เซฟคุง ไอน้ำจัง โทษนะ ที่มาช้าน่ะ"เผยตัวเป็น หญิงสาวที่ไม่ค่อยจะเหมือนผู้หญิงทักทายกันเองจนเมดเกอร์ทั้งสองอยากไถ่ถามกันมาก
    "ไงมาช้าอ่าาาา" เมดเกอร์เซฟเวอร์ถาม
    "ไว้ถามทีหลังดีกว่ามั้ง" ไอบอกก่อนจะแหงหน้ามองท้องฟ้า "รอยแยกพวกนี้ยังไม่ถูกซ่อม"
     
    "โอ้ย สบาย แค่เราจัดการเจ้ายามี่นั้นเสร็..."
     
    ชะอุ้ย Temptimg fate...
     
    มิทันไร ก็มีอะไรกำลังโผล่มา
     
    "...บอกผมทีว่านั้นไม่ใช่ Dark Megami..." อาหนังสือคราง
    "มัน...ใช่อะ"
     
    "ฉันโดดงานได้ปะ" เสียงไอน้ำดังโดดขึ้นมาจนทุกคนต้องหันไปมอง คนพูดยิ้มแห้งออกมาเมื่อรู้สึกถึงสายตารอบด้าน "ยังไม่โดดตอนนี้ก็ได้"
     
    "เฮ้อ.... ดูท่าจะเสร็จแล้วสินะ"เธอผู้นั่นดิดนิ้วจน.. สิงที่เรียกนามว่า ดาร์ก เมกามินั่น ค่อยสลายไป จนที่สุด.. มิติแตกหักนั่น ก็ค่อยกลับคืนสภาพอย่างช้าๆ
     
    "นี่มัน" ฮายาเตะได้แต่อ้าปากค้าง
    "มิติปริศนามิติหนึ่ง... ได้ถูกซ่อมแซมไปแล้ว!!" แซนท์ร้องอุทาน
    "เยี่ยม!!" เซฟเวอร์กำหมัดก่อนปลดร่างแปลง
     
    และแค่นั้นแหละ
     
    ฉึก!!
     
    "..." เซฟเวอร์มองท้องตัวเองที่มีรากงอกแทงทะลุท้องเขา
     
    "เอ้า เอาเข้าไป" นักเขียนคราง "ถ้าเป็นโลกจริง ฉันตายแล้วแน่ๆ ค่า Luck ฉันเท่าไรเนี่ยวันเนี่ย มือถือพังไปทีหนึ่งแล้ว หนังสือหนีบก็อีก"
     
    แล้วก็มีรอยแยกระเบิดมาจากด้านหลังพวกเขา
     
    "หึๆ ฮาๆๆๆๆ สมแล้วที่เป็นเมดเกอร์ที ผู้อาบน้ำร้อนมาก่อนสองเมดเกอร์หนุ่มสาวคู่นี้" ดาร์กกรีดหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง "แต่ฉันยังมียามี่แห่งโรคร้าย!!"
    ว่าแล้วเธอก็ดีดนิ้วอีกรอบก่อนจะเผยร่าง... เป็น"ก้อนมะเร็ง"... ไม่สิ ก้อนอะไรซักอย่างที่ระยางเต็มไปหมด!!
     
    "โว้ย!! รู้งี้ไปตามเรดมาด้วยก็ดีหรอก!!" เซฟเวอร์ที่กำลังฮีลตัวเองบ่นตะโกน
     
    ลิขิตในมือเมดเกอร์เริ่มส่องแสง...
     
    "อ่ะเด๊ะ?"
     
    เพล้ง!!
     
    มันระเบิดออกและกลายสภาพเป็นการ์ดสองใบกับกุญแจหนึ่งดอก
     
    "Final Form Ride: Ai"
    "Final Form Ride: NepLen"
    อาหนังสือมองดูและพิจารณา "หึๆ ไอ จำได้ไหม เรื่องที่เธอพูดถึงเรื่องคุณธรรม"
     
    ไอพยักหน้าก่อนเธอและเนปเลนจะมองไปที่หุ่นยนต์นักวิทย์ที่กลับมาแย่งบทคนที่แย่งบทตน(ผมกับพี่ที ==)
     
    "...พวกเราไม่รู้หรอก ว่าอะไรมันถูกมันผิด" อาหนังสือหลับตา หนวดพุ่งเข้ามา โดยถูกไอน้ำและเนปทีค่อยฟัดให้ขาด
     
    "...และนั้นคือ เหตุผลว่าทำไมผมต้องปกป้องทุกคน ทุกมิติ..."
     
    "...ธรรมชาติได้เลือกให้การอยู่รวมกันเป็นฝูงและการไว้ใจกัน พร้อมกับการหวาดระแวงและการคัดเลือกสมาชิก เป็น Choice ที่ดีที่สุดของคนแล้ว"
    อาหนังสือรูดการ์ดสองใบนั้นเข้าดาบพร้อมการ์ดแห่งความรู้อีกสี่ใบ
     
    "...ผมเลยเชื่อว่า ถ้าเราสามารถรักษาทุกคนเอาไว้ได้ เราอาจจะสามารถหาคำตอบนี้ไปได้ด้วยกัน!!"
     
    "K - Evolution!"
    "K - 500 ล้านปีของความรัก!"
    "I - FINAL FORM RIDE AI"
    "I - FINAL FORM RIDE NEPLEN!"
    "G - Diversity!"
    "G - Eye to eye, teeth to teeh!"
     
    ลำแสงเปล่งประกายออกจากดาบของอาหนังสือก่อนอาบไล้ร่างของเนปเลนและไอ...
    หนึ่งคือด้านสว่างสดใสของมนุษย์ พลังแห่งหัวใจ...
    หนึ่งคือด้านมืดมิดของมนุษย์ พลังแห่งการระแวดระวัง...
     
    แต่สองคนนั้นตามมีเป้าหมายเดียว...
     
    เพื่อก้าวข้าม"ลิขิต"ของตน... ด้วยพลังของตนเอง!!
     
    "Verse-Breaking Lady Arms!"
     
    "โห ดูท่าจะรอดเส้นยาแดงผ่าแปดนะ แต่ก็นะ"ทีกล่าวอย่างใจเย็นไม่มีท่าทีอ่อนไหวตามสถานการณ์นั่น.. อยู่ด้านหลังดาร์กกรีดตั้งแต่เมื่อไรกัน และก็..
    "โซ่แห่งแสงอันสูงส่ง ผู้ชำระบาปทั้งปวง.. พัธณาการ"ทีกล่าวร่ายเวทสีขาวทอแสง จนปรากฎเป็นโซ่นับล้าน มาตรึงดาร์กกรีดอย่างไร้ทางสู้ แม้จะทำยังไงก็.. ไม่อาจแก้มันออกได้
    "นี่เธอคนนั่นเป็นตัวอะไรกันเนี่ย.. ว่าแต่.. แล้วไหงฉันต้องโดนขังกับตัวฉันอีกคนด้วยล่ะห๊ะ!!!!"เนปทีที่นั่งสับปะหงกมองดูเหตุการ์ณอย่างช่วยไม่ได้
    "น่าๆ ก็จะให้เธอน่ะ.. ลองค้นหาคำว่า.. หัวใจที่ถูกกลืนกินดูน่ะ เนปที"เมดเกอร์ของเจ้าหล่อนเพียงตอบได้แค่.. คำกำกวมต้องไขรหัสปริศนา
     
    "Thank พี่ที" เซฟเวอร์ตะโกนกล่าว "จะได้จัดการดาร์กกรีดได้ง่ายๆหน่อย... ไอ เนปเลน มันจะจั๊กจี้หน่อยนะ"
     
    สองสาวหันมามองเซฟเวอร์ก่อนจะสะดุ้งเมื่อร่างกายแปลงเปลี่ยน
     
    เนปเลนแปลงสภาพไปเป็นโล่รูปเต่าก่อนลอยไปหาเมดเกอร์ทีที่อยู่ด้านหลัง ส่วนไอแปลงสภาพเป็นมีดลอยไปหาไอน้ำที่อยู่ด้านหน้าปีศาจร้าย
     
    "พาฉันไปด้านบนที" เซฟเวอร์กล่าวกับอา 
     
    "ผมขอปิดศึกนี่เองครับ" ว่าแล้วอาหนังสือก็บินขึ้นไปด้านบน เตรียมเผด็จศึกร่วมกับสองสาวและสองเมดเกอร์
     
    "เนปทีจัง หยิบตราแห่งเวนด้ามาชูเหนือแสงหน่อย" ทีเรียกเพอเพิ้ลฮาร์ทฝั่งของตน ให้หยิบก้อนอัญมณีเอเมรัสรูปทรงขนมเปียกปูน ยกชูเหนือฟาดฟ้า ก่อนเธอโยนโล่เวนด้าน้อยบินตัวสูงขึ้น
    "แล้วก็.. ตามไปด้วย.. ดาบศักดิ์สิทธิ์ของเธอนะ ช่วยหน่อยนะ เนปทีจัง"
    "ได้เลย ฉันคนนี้ จะจัดให้อลังการเลยล่ะ"
     
    "รีบๆทำให้มันจบดีกว่า หิวมาม่าเต็มทีแล้ว" เมดเกอร์ไอน้ำควงมีดสีดำสนิท รู้สึกชำนาญราวกับเคยคุ้นชินมานาน 
    "เอาไปกินซะ" มีดสีดำเล่มเล็กข้างขวาถูกตวัดเบาๆจากซ้ายไปขวา ทันใดนั้นเองคลื่นดาบสีดำก็พุ่งออกมา 
    "เขี้ยวเงาดำ" มือข้างซ้ายที่ว่างก็ตวัดตามมาโดยครั้งนี้เป็นแนวยาวไล่จากบนลงล่าง 
    "เขี้ยวเงาขาว" ลำแสงสีขาวในแนวตั้งก็ปราก็ออกมาซ้อนทับกับคลื่นดาบสีดำเมื่อครู่ "กางเขนทะลวงสวรรค์"
     
    อาหนังสือหยุดบินกลางอากาศก่อนทิ้งตัวลงมา พร้อมเอาดาบปักใส่หลังดาร์กกรีด
    "Go to the TRASH CAN!!"
    ยามี่แห่งซอมบี้มดเห็นดังนั้นจึงรีบกระโดดไปหาอาหนังสือ... แค่ที่จะโดนพลังงานมานาเผาเราจนหายเกลี้ยง หลังรอดจากเหล่าการ์เดี้ยนมาได้นาน =="
     
    คมดาบอาบไล่ด้วยพลังแห่งความหวังและลิขิตที่ถูกรีไรท์...
     
    "ท่านอา ถอยไป"ทีตะโกนให้อาหนังสือถอยออกห่างจากบริเวณตรงดาร์กกรีดนั่น ห่างที่สุด เท่าที่จะทำได้ เพราะว่า..
    "ดาบศักษ์สิทธิ์ X32 ไดท์เวอร์  จงมา ณ บัดนี้"เธอที่ท่องมนต์ร่ายเวทโดยกายเธอแต่เดิมนั่น ต้องทำท่าทีแสดงความเท่ทุกครั้ง แต่กลับเป็นว่า เนปทีกำตราแห่งเวนด้าแน่นเอียด ด้วยสายสัมพันธ์อันเชื่อมต่อของหัวใจนั่น ยากจะตัดขาดได้ 
    เนปบีเห็นท่าจะไม่ดีนั่น ก็รีบกายหมายจะฟันแทงให้สิ้นซาก แต่ทำไมกัน ทำไมร่างกายเนปบีนั่น.. ถึงไม่ยอมทำตามคำสั่งล่ะ แค่อยากจะก้าวเท้าก็ก้าวไม่ได้ ทำไมกัน
     
    อาหนังสือที่ได้ยินคำสั่งก็รีบหันเหการโจมตีไปยังเนปบี
    "Restart YOUR HEART RIGHT NOW, PURPLE HEART!!!" อาหนังสือตะโกนลั่น ก่อนเขาจะฟันร่างของเนปบี... แต่ไร้ซึ่งร่องรอยความเสียหาย...
     
    ...ด้วยความรักของลูกสาวจากต่างโลก นามเนปเลน...
    ...และจิตวิญญาณที่แสนจะลึกล้ำแต่ยิ่งใหญ่ ของไอศิยา...
    ...สิ่งที่เสียหายคือความเสียหายจากการล้างสมองที่ดาร์กกรีดใช้
     
    เนปจูนคืนร่างมนุษย์ก่อนสลบลงไป...
    ส่วนดาร์กกรีด...
    ก็กำลังจะถูกเผด็จศึก
    "จัดการมันเลย!" ไอน้ำตะโกนบอกเมดเกอร์รุ่นพี่
     
    "ฉันขอกำจัดนาย  ด้วย... "เนปทีจะกล่าวในท่อนต่อไปนั่นก็..
    "พลังแห่งสรวงสวรรค์ บันดาล ณ ตรงนี้  ศรดาบแห่งการลงทันณ์"ทีพูดประสานกับเนปทีจนที่สุด..
    ดาบแก้วมณีขนาดใหญ่ส่องแสงจ้าไม่อาจมองตาเปล่าได้เห็นถึง ตัวดาบสีฟ้าคริสตัลสลักงามสง่ารวบประดับด้ามดาบด้วยก้อนเอเมรัสให้กลมกลืนยิ่งแลดูมีมูลค่ามากขึ้น ตัวดาบที่เกิดจากความรักของสองแม่ลูกที่ลึกซึ้งแน่นหนา กับพลังของเมดเกอร์ที่หนุนแลเพิ่มพูลให้เปิดทางสูพลังที่ไม่อาจค้นหาได้ 
    แล้วตอนนี้ ดาบแห่งหัวใจนั่น ได้ลงทันณ์กับ ผู้ผิดบาปอย่าไม่อาจจะให้อภัยได้
    ตูมมมมมมมมมมมมมม
     
    "Dark Greed, Deactivated" เซฟเวอร์รายงานอย่างเซ็งๆ
     
    แซนท์กับฮายาเตะมองเมดเกอร์ที เมดเกอร์ไอน้ำ และเนปทีอย่างตื่นตะลึง
     
    สองสาวแห่งแสงและลิขิตได้คืนร่างตนเอง
    มีดสีดำในมือเมดเกอร์ไอน้ำค่อยๆคืนสภาพกลายเป็นรูปร่างของมนุษย์ตามเดิม
    ร่างของไอในฮู้ดดำค่อยๆร่อนลงสู่พื้นดิน เนื่องจากแรงลมที่ตีกลับขึ้นมาจากด้านล่างเลยทำให้ตัวหมวกฮู้ดสีดำที่ไอใส่ปกปิดตัวเองแทบตลอดเวลาเปิดออก 
    ผมตัดสั้นสีรัตติกาลปรากฏออกมาให้เห็น แม้นิสัยจะเย็นชาหรือโหดร้ายไปบ้าง...
    ทว่าใบหน้าด้านในกลับเป็นเด็กสาวธรรมดาๆหน้าตาดูเหมาะกับเด็กวัยสิบสามถึงอายุจริงจะต่างกันลิบลับก็ตาม และที่สำคัญ...ใบหน้านั้นเหมือนกันกับไอน้ำแบบเป๊ะๆ!!
     
    อาหนังสือที่ปลดร่างก็อดมาเห็นก็อดหัวเราะไม่ได้ "ฮาๆ กะแล้วเชียว"
     
    "อยากรู้ไว้หลังไมค์เอาละกัน" เมดเกอร์สาวขยิบตาให้อย่างรู้ทันใจ
     
    "มาม้าคะ"เด็กสาวที่คืนร่างจากดาบศักดิ์สิทธิ์นั่นไม่รอช้า ก็มารีบกอดแม่ของตน แต่..
    "เดี๋ยวก่อนนะฮะ เนปเลนจัง"ทีดีดนิ้วจนอาณาเขตที่กักขังสองเนปสลายไป
     
    เนปทีแบกร่างเนปบีออกมาในท่าอุ้มเจ้าหญิง จนอาอดถ่ายรูปเก็บไว้ไม่ได้
     
    "ยังไง เธอต้องซ่อมมิติหน่อยนะ ไอน้ำ" เซฟเวอร์ขยิบตาให้เพื่อนตน
    "อ้าว ทำไมอ่ะ"
    "ก็เธอเป็นเจ้าของมิตินี้นิ"
     
    แซนท์กับฮายาเตะรู้สึกเหมือนตนเองเป็นตัวประกอบ...
     
    .....................................................................................................................
     
    และแล้วมิติก็ซ่อมแซมเสร็จสมบูรณ์
     
    ทุกคนถูกส่งกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ...
     
    เหล่าเหยื่อถูกลบความทรงจำ เหลือเพียงเมดเกอร์ ไอศิยา อาหนังสือ แซนท์(ซึ่งลบความจำไม่ออก) เนปเลนและเนปทีที่จำได้...
     
    ฮาร์ดไดรฟ์ยังคงอยู่กับไอ แต่ไอพบว่ามันได้ปล่อยกรดทำลายจนใช้การไม่ได้เสียแล้ว
    แถมพาลไปกัดลิ้นชักด้วยเนี่ยสิ
     
    แต่นั้นไม่ใช่ปัญหา...
    เพราะว่า...
    "ขออีกจาน"
    "ค่ะ"ตอนนี้ เหล่าสามเมดเกอร์กับ ผู้ร่วมปกป้องมิตินั่น.. ได้ฉลองกันที่ร้านอาหารแห่งนึง
     
    "เย้!! ว่าแต่เราอยู่ไหนครับ" เซฟเวอร์ถามอย่างสุภาพ ระหว่างจิ้มไอโฟนที่เพิ่งซื้อใหม่หลังอันเก่า... เจ้าตัวส่งมันไปสวรรค์เรียบร้อย
     
    "ร้านอาหารในย่างมิติปริศนาที่พวกเนปทีจังติดอยู่น่ะ"ทีกล่าวตอบพลางเปิดดูเมนูไปมา ไม่รู้ว่า จะสั่งอะไรดี
    "อื้มๆ แถมที่นี่อร่อยสุดๆไปเลวล่ะ"เนปทีพูดไปทานข้าวหน้าเนื้อไป
     
    บุคคลภายในโต๊ะพากันฉลอง... 
    "...." 
    "...." 
    ในขณะที่บุคคลหน้าเหมือนสองคนกลับนั่งเงียบเป็นเป่าสาก
     
    "ไม่แปลกหรอกนะ ที่ทำไมไอจังกับไอน้ำจังหน้าเหมือนกันน่ะ"ทีกล่าวลอยๆ พลางชี้เมนูให้กับพนักงานรับทราบ
     
    "อืม ว่าแต่เป็นไง ไอ" อาหนังสือถาม "ฮาร์ดไดรฟ์เป็นไงบ้าง อุตส่าห์ให้"
     
    "เป็นไงบ้างบ้าอะไรล่ะ ไอ้ฮาร์ดไดร์ฟเฮงซวยนั้นพังลิ้นชักฉันซะเละ " คนถูกถามที่ตอนนี้สภาพตากลับทาเป็นตามเดิม พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด อารมณ์ยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อนึกถึงสภาพโต๊ะที่ถูกกรดกร่อนจนเละ 
    "ซื้อโต๊ะใหม่ให้ด้วย" เด็กสาวยื่นคำขาด
     
    อาหนังสือเคาะโต๊ะสองสามที "ผมขอให้สวีทนันแก้ไขโค้ดแล้ว ตอนนี้โต๊ะนั้นกลับมาเป็นปกติเหมือนไม่เคยมีฮาร์ดไดรฟ์ แหม เทคป้องกันข้อมูลรั่วไหลของ SCP Foundation กับแบทแมนมันดีจริงๆ"
     
    "ว่าแต่...ดูไม่แปลกใจกันเลยแหะ เรื่องหน้าตาเรากับ..." ไอน้ำเหล่คนข้างๆ
    "ก็ ฉันอ่านไลน์เธอไง" เซฟเวอร์(ผม)กับอาหนังสือตอบพร้อมกัน
     
    "อ๊า...ลืมสนิทเลยแฮะ" เมดเกอร์สาวตัวเล็กในกลุ่มโขกหัวกับโต๊ะรัวๆ ดันลืมเรื่องสำคัญไปได้ยังไง
     
    กริ๊งๆ
    "อ้า หิวจัง"
    เสียงของเนปจูนดังมาจากด้านหลัง...
    ทำให้ผมสะดุ้ง
    "เฮ้ยๆๆ ผมลืมปิดประตูมิติใช่ไหม"
     
    อาหนังสือหันควับก่อนเห็นทีม Next Genesis มากันยกทีม บวกฟุบุกิ
    เอ้าๆ มากันแล้วหรอ ตอนนี้ยังทานกันอยู่เลย"เนปทีเสนอหน้าต้อนรับแขกอย่างหน้าด้านสุดทนจนจะ..
     
    "มาม้าอีกคนคะ สวัสดีค่า"ลูกเนปทีก็ต้อนรับเช่นกัน
    "เอ้! มีตัวฉันอีกคนเหรออออออ" เนปบีตกใจก่อนจะเข้าไปกอดเนปเลน "แถมมีลูกสาวน่าร้ากกกกก"
     
    เมดเกอร์เรดที่มานั่งกินก่อนแล้ว จึงแอบขยิบมากินข้างๆ โดยมีมะลิเดินตามมา
    "พวกเขาดูสนุกกันจังนะคะ" มะลิกล่าวกับเมดเกอร์ตน
     
    "อืมๆ ยินดีที่รู้จักนะ ฉันชื่อว่า เนปจูน จากมิติอินบัสทรีที ส่วนนี้ เนปเลน ลูกสาวของฉันเองน่ะ"เนปทีทักทายเนปบีเป็นกันเองดั่งรู้จักนิสัยไปมา
    "ค่าา เนปเลนมีชื่อว่า เนปเลน ยินดีที่รู้จักค่ะ"แล้วไม่รอช้า เนปทีคว้าเมนูรายการผลาญทรัพยากรให้เนปบีชวนชิม
    "นี่เลยๆ ข้าวหน้าปลาไหลราดไข่นี่ ทั้งนุ่มกลมกล่อม และหวานระดมกลมเกรียวสุดๆ และก็ๆ ข้าวหน้าเนื้อราดซอสที่อัดแน่นด้วยเนื้อย่างเต็มตัง แล้วๆก็ๆนะ บราๆๆๆๆๆ"จนเมดเกอร์ตนเองต้องมองอมยิ้ม พลางราดซอสมะเขือเทศกับเขย่าน้ำมะนาวโซดาเข้าขั่ว 
    "ฮะฮะฮะ การจบอย่างที่มีรอยยิ้มแบบนี้นี่.. ฮ่า~ รู้สึกดีจริงๆ"
     
    เหล่าการ์เดี้ยนก็เลยสังสรรเหหาและได้แลกเปลี่ยนความรู้กันอย่างสนุกสนาน
     
    เว้นเพียงเซฟเวอร์ที่นั่งเซ็ตติ้งไอโฟนตัวเองไปโซยอาหารไป กับอาหนังสือที่ยังเถียงปรัชญากับไอไม่เลิก
     
    และแล้วตอนก็จบลง...
    จะว่าไป โนวาลหายไปไหน
    ............................................................................................................................
    ในห้องมืดๆ
     
    การิน... มองเอกสารรายงานที่เล็ดรอดจากการลบของเมดเกอร์เซฟเวอร์... ซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้เพราะมันไม่ต่างจากการทำให้บ้านหลังหนึ่งรอดจากมหาอุทกภัย
     
    แต่เป็นไปแล้ว
     
    "หึๆ ยัยเครื่องเล่นเกมสีดำนั้น ช่วยได้เยอะจริงๆ" เขาค่อยๆอ่านข้อมูลต่างๆ...
    ที่ได้มาจาก Rootkit ที่ SCP Foundation แอบติดตั้้งในโดรนทุกตัวที่ส่งไปโลกของไอ!!
     
    และแล้ว การินก็หยุดการอ่าน...
    ..ตรงที่ข้อมูลการวิเคราะห์ของไอศิยา
     
    "...หืม ไอ... ลิขิต... งั้นรึ" เขาเริ่มหัวเราะหึๆ ในลำคอ...
    ก่อนจะเอาเอกสารเหล่านั้นหย่อนใส่เครื่องทำลายเอกสารแล้วเดินไปเครื่องวาร์ปเพื่อไปเรียนดังนักเรียนปกติ...
     
    พร้อมส่งข้อความไปบอกแบทแมนให้รู้ถึง Rootkit นั้นซ่ะที...
     
    ..................................................................................................................................
     
    ร่างของไอศิยาเดินไปตามทางของถนนที่โล่งว่าง ดวงตาสีเดียวกับท้องฟ้ายามค่ำคืนเหลือบมองดวงดาวที่กำลังส่องแสงอยู่...มือข้างขวายกขึ้นทาบอกซ้ายโดยไม่รู้ตัว
    หัวใจของเธอถูกเยียวยา...ตัวเธอที่ถูกแช่แข็งมานานกลับได้รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นที่ไม่ได้รู้สึกมานานนับปี  รอยยิ้มบางผุดขึ้นที่มุมปาก แต่ครั้งนี้มันไม่ได้เป็นยิ้มเจ้าเล่ห์แต่อย่างใด
    คำพูดของเจ้าหุ่นนั้น...ทำให้เธอรู้สึกอยากจะฮึดสู้กลับมาใช้ชีวิตตามเดิมอีกครั้ง
     
    ไม่นานนักยิ้มนั้นก็หายไปเหลือแต่เพียงความว่างเปล่า เมื่อในใจเธอกำลังนึกถึงใครอีกคน...ใครคนที่มีจิตใจอันบิดเบี้ยวและเทิดทูลพระเจ้ายิ่งกว่าชีวิตตัวเอง
     
    "ถ้าพูดประโยคนั้นให้เจ้านั่นฟัง...หมอนั้นจะตอบว่ายังไงกันนะ"
     
    'ยูราห์ วิพรรฆ์สิรกุล'
     
    "แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องหยุดเอาไว้ให้ได้...แม้จะต้องฆ่าหมอนั้นด้วยมือนี้ก็ตาม" และผู้ตามล่าลิขิตก็เดินหายไปในความมืดอีกครั้ง เหลือทิ้งไว้แค่คำพูดซ้ำๆที่ยังคงดังก้องอยู่ในความมืด
     
    ................................................................................................................................

    ภาพส่งท้าย



    บนลงล่าง ไอ อา และเนปที



    ไอเถียงกับเนปเลน โดยมีอายืนมึน

    ทั้งหมดวาดโดยนัทโตะครับผม

    บายยยย
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×