you are in my heart เทอจะอยู่ในใจฉันชั่วนิรันดร
เทอเจอะปัญหาครั้งยิ่งใหญ่เมื่อเทอพบว่าตัวเองเป็นโรคหัวใจแต่ชายอันเปงที่รักของเทอกับไม่รุเขาจะช่วยเทอได้อย่างไง
ผู้เข้าชมรวม
203
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
you are in my heart เทอจะอยู่ในใจฉันชั่วนิรันดร
พรุ่งนี้ก็เป็นวันที่เปิดเรียนวันแรกแล้วน่ะฉันพยายามเตรียมทุกอย่างให้พร้อมก่อนไปโรงเรียนซึ่งดูแล้วมันเป็นอะไรที่ทำให้ฉันนั้นตื่นเต้นมากส่วนคุณนาย ลี แม่ของฉันนั้นก็วกวุ่นกับไมโครเวฟที่แม่ซื้อมาใหม่
“ตรงไหนเนี่ยปักตรงนี้มันเสียบตรงไหนกันพ่อช่วยมาดูให้แม่ทีสิ”แม่ของฉันเองสายตาของแกก็ไม่ค่อยที่จะดีนักเพราะแม่ของฉันแกเป็นคนสายตายาวแต่แกก็ลั้นหมอไม่ยอมใส่แว่นแกหาว่าแว่นมันทำให้เขานั้นดูแก่และมองอะไรไม่ค่อยถนัดไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเพราะอะไรก็แม่ของฉันแกไม่ค่อยที่จะยอมรับอายุของตัวเองสักเท่าไหร่ฝ่ายพ่อของฉันเองวันๆพ่อก็จะนั่งอยู่แต่ในห้องทำงานอ่านแต่หนังสืออย่างเดียวพ่อของฉันจึงไม่ค่อยอยากให้ใครเข้าไปรบกวนมากนักส่วนพี่สาวแสนจะขี้บ่นของฉัน ...ลี ยองเจ ...พี่ก็ชอบการร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจจึงทำให้บ้านของฉันไม่เคยที่จะเงียบเหงาเลย.....
ติด ติ๊ด เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นฉันพยายามควานหามันเพื่อที่จะปิดเสียงแต่มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนมันเดินหนีมือของฉันอยู่ตลอดเวลาแต่เมื่อฉันลืมตาขึ้นสิ่งเดียวที่ฉันเห็นมันคือหน้าของคุณนายลีแม่ของฉันที่จ้องเขม่งอย่างไม่กระพริบตาเลยแม้แต่น้อย
“ตื่นแล้วๆจะรีบไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้แหละ”
นั้นคือน้ำเสียงของฉันที่สงบเสงี่ยมสุดๆ
“ เฮ้อ ”เสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อลงไปทานข้าวแต่ก็ต้องพบกับโต๊ะอาหารที่ว่างเปล่าไม่มีข้าวหรืออาหารอะไรบนโต๊ะเลย
“อะไรกันแม่ทำไมอาหารไม่มีเลยหละ” เสียงที่พูดด้วยความสงสัย
“ก็ช่วยไม่ได้นะก็มันไม่มีคนไปซื้อกับข้าวมาให้นี่นา”แม่พูดพร้อมทำสีหน้าที่ประชดประชันฉันพยายามนึก
อ๋อ! ฉันนึกออก พร้อมกับเดินก้มหน้าตรงไปที่รถจักกระยานคันโปรดของฉัน “เมื่อวานแม่ให้ฉันไปซื้อกับข้าวนี่นาจนได้เลยเราลืมชะสนิทเลย”
พูดไปพร้อมยกเท้าค่อมจักกระยานและขี่ออกจากบ้านไปเพื่อที่จะไปโรงเรียน
“สวัสดี ชูมาง”เขาคือเพื่อนสนิทของฉันตั้งแต่สมัยประถม...
“หวัดดีเป็นไงบ้างหละปิดเทอมสนุกมั้ย” ชูมาง ถามด้วยหน้าใสซื่อ
“สนุกมากเลยหละ”แต่มันคือสิ่งที่ตรงข้ามกับความเป็นจริงชะหรือเกิน
เออ ชูมาง โซว มาโรงเรียนยังฉันพูดในสีหน้าที่อยากรู้สุดๆโซวเป็นเพื่อนที่อยู่ชั้นเดียวกับฉันเขาเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงทุกคนหมายปองก็เขาทั้งเก่งและหล่อมาก”ฉันยังไม่เห็นเลยนะ”ชู มาง ตอบ
เมื่อขึ้นเรียนสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เสียงท้องร้องของฉันมันดันดังขึ้นในห้องเรียนที่แสนจะเงียบสงบ
เพื่อนๆทุกคนต่างก็มองหน้ากันด้วยทีท่าที่สงสัยว่าใครเป็นต้นเสียงนั้นฉันพยายามทำสีหน้าตามเพื่อนแต่ก็มีอยู่คนเดียวที่รู้ว่าต้นเสียงนั้นคือ
ใครเขาคนนั้นก็คือ เคนนี่ เพื่อนของฉันที่แสนจะหูดีประจำในห้อง ฉันพยายามองหน้าของเคนนี่หลายครั้งเหมือนจะบ่งบอกเขาว่าอย่าพูดออกมานะแต่หล่อนกับลุกพรวดพร้อมเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ชู มางต้นเสียงนั้นคือเธอใช่มั้ยมันทำให้ฉันโล่งอกแต่ตัวของ ชู มาง ทำหน้าอย่างอับอายที่สุดมันจึงทำให้ฉันอดที่จะขำไม่ได้ มันก็ช่วยไม่ได้นะที่ ชู มาง ดันมานั่งใกล้ฉันเอง เมื่อครูออกจากห้อง ชู มาง ทำหน้าตาเหมือนรู้ว่าที่จริงแล้วฉันคือต้นเสียงนั้นและยังมีสีหน้าที่โกรธฉันมากเลยด้วย
“ไม่เอาน่า ชู มาง นิดหน่อยเอง”ฉันพยายามพูดปลอบพร้อมเสียงที่หลุดขำออกมานิดนึง
“ก็เธอไม่ใช่หรอที่คือต้นเสียง”ชู มาง พูดด้วยสีหน้าที่เข่รงขรึม
“ไม่เป็นไรหรอกเรื่องมันแล้วไปแล้วนะไปพักกันเถอะ”คำพูดออดอ้อนนิดๆแต่สุดท้าย ชู มาง ก็ยอมคืนดี ชู มางไม่เคยที่จะถือสาอะไรในตัวฉันสักเท่าไหร่เธอมักจะยอมฉันทุกทีและไม่เคยโกรธฉัยเลยมันจึงทำให้ฉันรู้สึกผิดบ้างสิ่งนี้แหละมันจึงทำให้ฉันรัก ชู มาง มาก
เวลาที่ฉันเดินผ่านโซวทีไรมันทำให้ฉันใจแทบจะล่องลอยไปไกลเลยแต่เห็นชูมางบอกว่าชั้นเรามีเด็กเข้ามาใหม่เห็นว่าชื่อ เอ วอน อะไรนี่แหละซึ่งมีหน้าตาน่ารักมากเก่งในทุกๆเรื่องมันจึงทำให้ฉันระแวงความรักของฉันมากขึ้นฉันมักจะเข้าไปเล่นในห้องที่โซวอยู่เสมอแต่ โซว เองชอบจับหัวของฉันมากเลยนะเราสองคนมีความสนิทสนมกันมากแต่ตัวของ โซว ยังไม่รู้เลยว่าฉันคนนี้กำลังแอบหลงรักเขาอยู่เรื่องราวความรักของฉันมันจึงเริ่มต้นขึ้น
“มาทำอะไรอยู่ตรงนี้เนี่ยยายบ๊อง”เสียงของ โซว ที่พูดมาตั้งแต่ไกลจึงทำให้ฉันรีบตอบทันที
“เรื่องของฉันมันไม่เกี่ยวอะไรกับคนทึ่มๆอย่างนายหรอก”มันคือเสียงที่ยั่วโมโหนาย โซวมาก
“นี่เธอ” โซว พูด
“ทำไมฉันพูดผิดตรงไหน”และฉันก็รีบวิ่งหนีไปพร้อมยาย ชู มาง ที่มีเสียงที่ขำอย่างสนุกฝากไว้ก่อน เสียงที่พูดในใจของ ชู มาง ตอนเย็นฉันก็เดินร้องเพลงตรงไปยังรถจักกระยานของฉันอย่างมีความสุข
“เป็นไงบ้างยายบ๊อง” เสียงนี้ทำให้ฉันจำได้ขึ้นมาทันทีว่าเสียงตาทึ่มนั้นนี่นา
”มีอะไร”ฉันพูดพร้อมกับหันหลังไปที่โซว
”ป่าวก็แค่จะทักทายเฉยๆ”โซวตอบด้วยเสียงที่ลังเล ฉันรีบค่อมจักกระยานเพื่อที่จะกลับบ้าน
”อ่าวจะไปแล้วหรอ”
“ใช่ฉันขี้เกียจพูดกันนายมีไรมั้ย” ฉันพูดด้วยสีหน้าที่เบื่อสุดๆ
“อืมงั้นฉันขอกลับบ้านด้วยดิ” เขาพูดอย่างเสียงดัง
“จะบ้าหรอเธอจะกลับกับฉันได้อย่างไงกัน”ตอบด้วยเสียงที่ตกใจ
“นะนะขอกลับด้วยแค่วันเดียวเอง” เขาออดอ้อน
“ไม่ไม่อย่างไงก็ไม่”ฉันเริ่มโมโหและรีบขับหนีออกไปแต่ฉันก็รู้สึกหนักที่ส่วนหลังเหลือเกิน
“นี่นายขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่”ฉันตกใจเมื่อหันหลังกับไปดูลงไปเดี๋ยวนี้เลยนะ
“ไม่ไม่ฉันขึ้นมาแล้วไม่มีทางลงเด็ดขาด”เขาพูดด้วยคำขาดทำให้ฉันใจอ่อน
“บ้านนายอยู่ไหนหละ” ฉันถามเพราะฟังคำตื้อของเขาไม่ไหว (แต่ในใจจริงของฉันฉันก็อยากจะไปส่งอยู่เหมือนกันนะ) ฉันนึกในใจ
“นี่เธอจะไปส่งฉันจริงๆหรอ”
“ใช่”
“เธอช่างใจดีจริงๆเลย”เขาพูดด้วยเสียงที่ดีใจมากพร้อมกับกอดคอฉันซะแน่น
“โอ๊ย! ปล่อยคอฉันจะล้มแล้ว” เอี๊ยดดดด โคร้ม!
ฉันรถล้มจนได้
“โอ๊ยเจ็บ”เสียงฉันร้องด้วยความเจ็บปวด
“เป็นไรมากมั้ย”โซวพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง ทั้งๆที่แขนเขาก็บาดเจ็บมาก
“เพราะนายนั้นแหละที่ทำฉัน” เสียงของฉันที่พาลใส่เขา
“ งั้นฉันขอโทษหละกันมาเดี๋วยฉันช่วย” เขาตอบด้วยเสียงที่เบาและยื่นมือมาตรงหน้าฉัน ฉันรับมือนั้นของเขา และเขาก็พยุงตัวของฉันขึ้นมา
“ขอบใจนะ”ฉันพูดแล้วปล่อยมือออก
“ไม่เป็นไรหรอกเธอเองเดินไหวหรือป่าว”
“ไหวอยู่แล้ว”ฉันทำหน้าด้วยความมั่นใจ
“เธอให้ฉันเดินไปส่งบ้านนะ”เขาพูดด้วยความเป็นห่วง
“ก็ได้”
เมื่อถึงบ้านเขาก็ขอตัวกลับ
“พรุ่งนี้เจอกันนะ” เขาพูดลาก่อนที่จะเดินจากไป
“อ่าวกลับมาแล้วหรอลูกใครมาส่งหละเห็นแวบๆ” เสียงของแม่พูดมาแต่ไกล
“เพื่อนนะค่ะแม่” ฉันรีบตอบเพราะกลัวจะเข้าใจผิด
ฉันรีบวิ่งขึ้นห้อง “เฮ้อเหนื่อยชะมัดเลย” ฉันพูดพร้องล้มตัวนอน แต่วันนี้ฉันมีความสุขจังที่ได้อยู่ใกล้กับโซว ถึงจะต้องเจ็บแต่ก็ดีใจที่เขาเป็นห่วงฉัน
ฉันลงไปข้างล่างเพื่อที่จะกินข้าวแต่ก็เหมือนเดิมเพราะโต๊ะอาหารว่างเปล่า
“นี่แม่ไม่มีอาหารอีกแล้วหรอ งั้นเอาตังค์มาเดี๋ยวหนูไปซื้อให้”ฉันพูดและยื่นมือเพื่อรับตังค์
“ อ่ะ100 นึง”แม่ยื่นเงินให้
ฉับออกไปซื้อของหน้าปากซอยระหว่างทางฉันก็พบกับชูมาง
“อ่าว ชูมางมาทำอะไรที่นี้หละ” ฉันถาม
“อ๋อ ออกมาซื้อขิงนะไม่มีอะไรหรอก” เขารีบตอบด้วยสีหน้าที่แปลกๆ
“หรอ นี่ชู มาง มีอะไรก็บอกฉันได้นะ” ฉันถามอีกครั้ง
“ไม่มีจริงๆ”
“ชู มาง “ ฉันใช่เสียงดุ
“ เออ คือว่าเมื่อกี้ตอนที่ฉันอยู่หน้าบ้าน ฉันเจอกับ เอ วอนเขามาบอกฉันให้ฉันระวังตัวนะ”เสียง ของ ชู มาง สั่น
“โธ่ แค่นี้เองไม่เอาน่าไม่เป็นไรหรอก ลี ยองเขาเป็นคนดีจะตาย เขาคงจะพูดอะไรไปอย่างนั้นแหละ” ฉันพูด ปลอบ
“เอางี้ช่างมันเถอะเราไม่ต้องไปสนใจโอเคมั้ย ถ้างั้นฉันต้องไปก่อนนะเดี๋ยวแม่จะบ่น” ฉันพูดลา
“ อืมบายนะ” ชูมางตอบ
เมื่อถึงบ้านเราก็รับประทานอาหารกันเสร็จฉันจะเดินเข้าไปพูดคุยอะไรกับพ่อสักหน่อยแต่ก็ต้องชะงักทันทีเมื่อฉันเฆ้นพ่อกำลังอ่านหนังสือ ฉันเลยต้องเดินเซ็งไปนั่งที่ โซฟาเพื่อที่จะดูทีวี พอฉันเปิดเสียงแม่ก็ดังมาทันที
“ปิดเดี๋ยวนี้เลยนะมันเปลืองไฟรู้มั้ย” ฉันลืมไปว่าครอบครังของฉันมันไม่ค่อยที่จะเหมือนใครสักเท่าไหร่โดยเฉพาะแม่ของฉันที่ขี้งกที่สุดอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดถ้าจะทำอะไรก็ต้องผ่านแม่ก่อนถ้าจะถามว่าแม่ฉันทำอะไรอยู่ไม่ต้องนึกเลย ก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับไมโครเวฟตัวใหม่ ฉันอยากจะเอาไมโครเวฟตัวนี้ไปโยนทิ้งไกลๆซะเหลือเกิน ก็คุณนาย ลี นะสิแกก็หาป๊งหาปลั๊กอะไรของแกอยู่ทั้ง วันแล้วสายตาของแก ก็..ไม่ต้องพูดถึงหรอกนะก็รู้ๆกันอยู่ว่าแกสายตาไม่ดี
“โอ๊ยเช้าแล้วหรอ” ตุบ ตุบ แม่ไปโรงเรียนแล้วน่ะ
“ สวัสดียายบ๊องเป็นไงบ้างขานะ” เสียงของตาทึ่มที่ตะโกนมา
“ก็ดีนะ” ฉันตอบด้วยความโมโหนิดๆ
“ ชู มาง “ ฉันเรียกทักเพื่อนของฉัน
“ อ่าว มาแล้วหรอ ปกติมาโรงเรียนสายนี่นา” ชูมางยอกฉัน
“ วันนี้ฉันตื่นเร็วนะ” ฉันพูดแล้วอมยิ้ม
พักเที่ยง
ฉันนั่งอยู่ในห้องโดยที่ไม่ลงไปทานข้าวสักพัก อยู่ดีๆโซว ก็เข้ามาหาฉัน
“นี่ฉันมีอะไรจะให้เธอช่วยหน่อยนะ” โซว พุดกับฉันด้วยเสียงที่ดูเศร้า
“อะไรหละ ถ้าช่วยได้ก็จะช่วย” ฉันตอบไป
“ฉันเห็นว่าเธอมีความสามารถทางด้านบทกลอนอย่างไงเธอก็ช่วย แต่งให้ฉันสักหน่อยได้มั้ย” โซวพูดพร้อมกับยื่นสมุดให้
“ เออ ก็ได้ ฉันจะลองทำให้แต่ถ้าไม่ดีอย่าว่ากันนะ” ฉันพูดรับคำออกไป
“ ขอบใจมากเลย”เขาพูดแล้วยิ้ม
“ไหนเธอทำอะไรอยู่นะ” เมื่อพูดเขาก็หยิบสมุดฉันไป
“เอามานะ”
“อ๋อ ทำเลขอยู่หรอ มาเดี๋ยวฉันช่วย” ฉันลืมบอกไปว่าถึงแม้ว่าโซวจะแต่งกลอนไม่เก่งนะแต่โซวเป็นคนที่เรียนเก่งมากเลยหละโดยเฉพาะเลข
“ไม่เป็นไรหรอก”
“เถอะนะให้ฉันช่วยเถอะนะ” เขาพยายามอธิบายเรื่องเลขให้ฟัง
“เธอสองคนทำอะไรกันนะ” เสียงของอาจารย์ซอง เคียว พูดมาที่ฉันกับ โซว
“เออ คือว่า” เราสองคนพูดพร้อมกัน
“เธอ สองคนลงไปเดี๋ยวนี้เลยฉันจดชื่อเธอสองคนไว้แล้วนะ” อาจารย์พูดแล้วเดินจากไป
“ตายแล้ว” ฉันพูดกับโซวด้วยเสียงที่ตกใจ
“ไม่เป็นไรหรอกไม่เห็นน่ากลัวเลยนี่” เขาพูดสบายๆโดยไม่วิตกอะไรเลย
ฉันกับเขาถูกเรียกให้ไปคุยกับครูและโดนทำโทษโดย ล้างห้องน้ำเป็นเวลาสองอาทิตย์
“ โห แย่มากเลย” ฉันพูดขึ้น
“ นิดหน่อยเองนะ” เขาพูดแล้วตบที่บ่าฉัน
“ไป กันเถอะ” เขาพูดชวน
“ไปไหน” ฉันทำหน้างง
“ ก็กลับบ้านไง”เขาตอบ
“ อย่าบอกนะว่า.........” ฉันพูดขึ้น
“ ใช่กลับบ้านด้วยกันเลยไงทางเดียวกันเราก็ไปด้วยกันไงหละ” เขาพุดแล้วยิ้ม
“ ไม่เอาเล้ว ฉันเข็ดแล้วนะ”เมื่อพูดเสร็จฉันก็รีบวิ่งหนีไป
“รอฉันด้วยสิ” แล้วเขาก็วิ่งตาม เราสองคนวิ่งไล่กันรอบโรงเรียน จนสุดท้ายเราก็กลับบ้านด้วยกันแต่คราวนี้เขาขออาสา ขับ มันเป็นอะไรที่ฉันกลัวมากเลยเพราะฉันกลัวจะเหมือนคราวนั้นอีก ระหว่างทางเราสองคนก็ร้องเพลงกันอย่างเสียงดังและสนุกสนานมาก
“นี่หนูร้องเพลงกันเบาหน่อยๆสิ” ป้าคนนึงที่อยู่ข้างทางพูดขึ้น
“ขอโทษด้วยครับ”เราสองคนขอโทษแล้วขำกันไปตลอดทาง
ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ฉันมีความสุขที่สุดเลย
เมื่อถึงบ้านเราก็ร่ำลากันและโซวก็ขอตัวกลับก่อน
“ไปนะแล้วพรุ่งนี้ค่อยเจอกันแล้วอย่าลืมเรื่องกลอนหละ”เขาพูดแล้วเดินจากไป
ฉันรีบวิ่งขึ้นห้องเพราะขี้เกียจฟังเสียงแม่ถาม เมื่อขึ้นห้องฉันก็นึกเรื่องกลอนของโซวที่เขาให้ฉันแต่งให้ฉันรีบนำสมุดที่เขาให้มารีบแต่งเอวอย่างงี้แหละกัน
...........มองต้นไม้สวยงามเขียวสดใส
ที่มีใบมีลำต้นที่อ่อนแสง
มีทั้งความร่มเย็นบรรเทาแรง
ที่แอบแฝงแข็งแรงและทนทาน
อยากจะเกิดเป็นต้นไม้อย่างงี้บ้าง
ที่ยืนกางหย่อนรากไม่เคลื่อนที่
อยู่ที่ไหนอยู่ที่เดิมกี่ร้อยปี
คงจะมีความสุขได้สมใจ
อยากจะอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน
ไม่ต้องจากใครๆที่ไกลแสน
ไม่ต้องอยู่ที่ไกลและต่างแดน
นี้คือแกนเหตุผลที่อยากเป็น.......
แค่นี้คงพอแล้วมั้ง ฉันนึกในใจ ฉันลองอ่านกลอนของฉันทบทวนอีกที
“ โห กลอนแต่งได้ดีจริงๆ” ฉันพยายามเข้าข้างกลอนตัวเอง แต่ฉันกลับรู้สึกไม่กล้าที่จะให้กลอนนี้กันเขาเลย ฉันกลัวเขาบอกว่าไม่ดี แต่ก็ลองดูสักตั้งหละกัน
เมื่อแต่งกลอนได้เสร็จฉันก็รีบนอนทันทีเพื่อที่จะได้ฝันเรื่องกลอน
เช้าวันเสาร์
ฉันรีบตื่นนอนทันทีและไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะเอากลอนมาให้โซว
ฉันแต่งตัวสวยมากเลยทีเดียวและฉันก็รีบเดินออกจากบ้านไปเมื่อฉันเดินไปถึงบ้านของโซว นั้นบ้านของเขามีลักษณะที่สวยงามมากเลย เมื่อเห็นฉันก็รีบเคาะประตูทันที
“ อ่าว มาหาโซวหรอ” แม่ของโซวออกมาเปิดประตู”
“คะแล้วเขาอยู่หรือป่าวคะ” ฉันถาม
“อยู่จ๊ะเดี๋ยวแม่ไปตามให้นะ” เขาพูดพร้อมเดินเข้าบ้านไป
“ รอแป็ปนะยายบ๋อง” เสียงของโซวพูดออกมา
“ เรียกฉันยายบ๊องอีกแล้วนะฉันชื่อ ลี กึง ยอง ไม่ใช่ยายบ๊อง” ฉันตะโกนใส่
แล้วเขาก็ออกมายิ้มให้
“ ปะจะไปไหนกันดี...อืม....เอาเป็นสวนสาธารณะก็แล้วกัน” เขาพูดแล้วก็รีบจูงมือฉันไปทันทีเมื่อไปถึง
“ มีอะไรก็ว่ามา” เขาพูดแล้วยิ้ม
“ ฉันเอากลอนมาให้นะ” ฉันตอบไปด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะดี
“ เหรอไหนขออ่านหน่อยสิ” เขาพูดแล้วหยิบสมุดไปเมื่อเขาอ่านจบเขาก็มองหน้าฉันอย่างเดียว
“ ทำไมเธอแต่งได้ดีอย่างงี้หละ” เขาพูดด้วยสีหน้าที่แปลกใจ
“ จริงหรอก็ไม่รู้สิคนเรามันเก่งอะนะ” ฉันทำเสียงอวดตัวเองทันที
“เพื่อเป็นการขอบใจให้ฉันเลี้ยงไอติมเธอนะ”
“ได้สิของฟรีฉันไม่เกี่ยงหรอก” ฉันพูดแล้วขำ
เราสองคนก็นั่งกินไอติมที่ร้านไอซ์แลนด์ซึ่งเป็นร้านที่อร่อยมากเลยแหละ
“ ฉันเอาฟรุ๊ตตี้หละกัน” ฉันพูดพร้อมกับเขา
“เธอชอบเหมือนกันหรอ” ฉันถาม
“ใช่ฉันชอบมาตั้งนานแล้วหละ” เขาตอบ
“เหมือนฉันเลยฉันก็ชอบมันมากเลยแหละ” ฉันพูดพร้อมทำท่าทาง
“ ฟรุ๊ตตี้ได้แล้วครับ”
“ อะอันนี้ของเธอส่วนอันนี้ของฉัน” เขาพูดพร้อมส่งถ้วยไอติมให้
“โห ทำไมอันนั้นเยลลี่มันใหญ่จังอะของฉันเล็กนิดเดียวเอง” ฉันพูดแล้วหยิบถ้วยของเขามา
“ก็ไม่รู้สิฉันดวงดี” ฉันกับเขาแย่งถ้วยไอติมกันจนเยลลี่หล่นลงพื้น
“ว้าย เยลลี่หล่นแล้วอะ” ฉันพูดแล้วทำหน้าทรุดลง
“ไม่เป็นไรหรอกเรามากินอันเล็กกันคนละครึ่งดีกว่า” เขาพูดแล้วหั่นเยลลี่เป็นสองอัน
เมื่อเราสองคนกินไอติมหมดเราก็เดินไปที่สวนสาธารณะระหว่างทางเราสองคนก็ผ่านร้านคอนดี้ซึ่งในร้านมีสร้อยเส้นหนึ่งที่ฉันอยากได้มันมีสองเส้นในชุดนึงแต่ราคามันแพงฉันก็เลยรีบเดินผ่านไป
“ นี่ เราแยกกันตรงนี้นะ” ฉันพูดแล้วลาเขา
“อืมแล้วค่อยเจอกันใหม่” เขาลาเช่นกัน
เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆฉันกับโซวก็เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น
เช้าวันจันทร์ที่โรงเรียน
“ นี้ ยาย กึง” เสียงนี้ดังมาจากข้างหลัง
“ อ่าวนายเองหรอ” ฉันพูดด้วยสีหน้าที่เหมือนจะไม่สบาย
“นี่เธอเป็นไรหรือป่าว” เขาถามฉันด้วยความเป็นห่วง
“ ฉันไม่เป็นไรหรอก” ฉันตอบแล้วเดินออกมา
“ ลี กึง ยองๆๆๆ ใครก็ได้ช่วยที”เสียงของชูมางที่ร้องด้วยความตกใจ ฉันเป็นลมนั้นเองเมื่อโซวเห็นก็รีบเข้ามาอุ้มฉันไปที่ห้องพยาบาลเมื่อไปถึงหมอก็บอกว่าเป็นไข้เดี๋ยวก็หายจึงทำให้โซวหายตกใจเมื่อฉันลืมตาขึ้นฉันก็เห็นโซวมองฉันอยู่
“นี่ฉันเป็นลมหรอ” ฉันถามเขา
“อืม เธอรู้สึกอย่างไรบ้าง” เขาถามฉันด้วยความเป็นห่วง
“ หายแล้วหละ” ฉันตอบ
“ถ้างั้นก็ดีแล้วฉันไปก่อนนะ” เขาพูดแล้วเดินจากไป
ฉันทำหน้างง แปลกใจนิดหน่อยแล้วฉันก็รีบออกจากห้องพยาบาลทันทีเมื่อฉันเดินออกไปฉันก็พบกับเอ วอน เด็กใหม่ที่น่ารักมาก
“เธอเป็นไรหรือป่าว” เอ วอน ถามฉัน
“ไม่ป็นไรแล้วหละ” ฉันตอบไป
แล้วเอวอนก็เดินไป ฉันก็เลยรีบเดินเพื่อที่จะกลับบ้าน
“ ให้ฉันไปส่งนะ” เสียงของเขาพูดออกมาทำให้ฉันตกใจ
“ก็เธอเพิ่งหายไข้นี่นาฉันก็เลยอยากจะไปส่งนะ” เขาพูดอ้อมอีกที
“ ก็ได้” ฉันตอบไป
“แต่ขอบอกนะถ้าทำฉันล้มคราวนี้ฉันโกรธเธอแน่” ฉันพูดขู่
“ครับคุณผู้หญิง” เขาพูดแล้วทำมือต้อนรับ
เมื่อถึงบ้านเราก็ต่างแยกย้ายกัน
“ไปแล้วนะ” เขาลาฉัน
เวลาผ่านไป 1 ปี ฉันขึ้น ม.3 แล้ว
“หวัดดีโซว” น่าเสียดายนะที่เราไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน
“อืม” โซวตอบ
“โซวเธอเป็นไรหรือป่าวทำไมหน้าเธอดูไม่ดีเลย” ฉันถาม
“ ฉันมีปัญหากับทางบ้านนิดหน่อยนะไม่มีอะไรหรอก” เขาตอบแล้วเดินหนีไป
ฉันงงกับสิ่งที่เขาพูดมาก หรือว่าเค้าจะมีปัญหากับทางบ้านจริงๆแต่ว่ามันเรื่องอะไรกันหละ ฉันนึกในใจ
“ ลี ลี” เสียงชูมางมาจากด้านหลัง
“มีอะไร” ฉันตอบไป
“ เธอรู้ยังว่าตอนนี้โซวเข้าโรงพยาบาล”ชูมางทำเสียงหลง
“เป็นอะไรหละเมื่อกี้ยังเห็นอยู่เลย” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงที่ตกใจมาก
“ เขาถูกรถชนฉันว่าเรารีบไปเถอะ” ชูมางรีบจูงมือฉันไป
เมื่อไปถึง
“ โซวๆๆ” เสียงฉันที่ตะโกนเข้าไป
“ ใจดีๆก่อนลี กึง ยอง” เสียงชูมางตอบฉัน
เมื่อหมอออกมาหมอก็บอกว่าเขาปลอดภัยแล้วฉันรีบวิ่งเข้าไปจูบโซวทันทีโซวอึ้งไปสักพัก
“ เป็นไงบ้างหละเธอนี่ดวงแข็งจริงๆ” เสียงฉันที่สั่นคล้ายจะร้องไห้
“ ไม่เป็นไรแล้วหละ” โซวตอบ
“ ฉันต้องไปแล้วนะเดี๋ยวคืนนี้ฉันมาเฝ้าเธอนะ” ฉันพูดแล้วเอามือไปจับที่มือโซว
“ แล้วเธอไม่ไปโรงเรียนหรอ” เขาถาม
“ไม่เป็นไรหรอกนะเรื่องเล็ก บายนะ” ฉันรีบวิ่งออกไป
ฉันรีบกลับไปบ้านแล้วไปเตรียมของ
“ ฉันมาแล้วเป็นไงบ้าง” ฉันพูดพร้อมเอาของวาง
“มาแล้วหรอไปซะนานเลย” เขาพูด
“นี่ก็ยังดีกว่าไม่มานะ”
“ กินผลไม้มั้ยฉันแวะซื้อมาให้นะ” ฉันนั่งปลอกส้มให้เขา
“ อะ” ฉันส่งส้มให้
“ ป้อนสิฉันกินเองไม่ได้” เขาทำเสียงอ้อน
“ ฝันไปเถอะ” ฉันพูดใส่
“ นะนะสงสารคนป่วยหน่อยสิ” เขาทำเสียงออดอ้อนอีกครั้ง
“ อะอะเอาปากมา” ฉันป้อนส้มให้เขา
ป้อนไปป้อนมาเราก็เอาส้มมาบีบแกล้งใส่กันน้ำส้มเลอะทั่วห้องและสุดท้ายฉันก็มานั่งเช็ดอยู่คนเดียวโอ้พระเจ้า
“ สบายเลยนะ” ฉันพูดประชดใส่
“แน่นอนเช็ดเร็วๆหน่อยสิ” เขาพูดแกล้งใส่
“นี่ๆเกินไป” ฉันเอาผี้ริ่วโยนใส่แล้วล้มตัวนอน
“ราตรีสวัสดิ์” ฉันพูดแล้วปิดไฟ
เช้า
วันนี้หมอบอกว่าโซวคงจะกลับบ้านได้แล้วหละ
ฉันช่วยโซวเก็บของทั้งหมดแล้วกลับบ้านพร้อมกัน
“ โชคดีฉันกลับบ้านก่อนนะ” ฉันพูดลาเขา
“แล้วพรุ่งนี้เราค่อยเจอกันนะ”เขาก็บายฉันเช่นกัน
วันอังคาร
“ หายดีแล้วสินะ” ฉันเดินมาถามโซวแต่เช้า
“ ใช่แล้วหละ” เขาตอบ
“เธอว่ามั้ยเวลานี้ผ่านไปเร็วจังเลยนะอีกมั้ยกี่เดือนเราก็จะจบแล้ว” ฉันถามเขาอีกครั้ง
“ ฉันหวังว่าคงเป็นอย่างนั้นแหละนะ”เขาพูดจาแปลกๆแล้วเดินจากไป
เมื่อขึ้นห้องเรียน
“ นี่ทำคณิตไม่ได้อีกหละสิมาเดี๋ยวฉันสอน” เหยิบสมุดฉันไป
“ ไม่เป็นไรหรอกฉันทำได้นะ” ฉันแย่งสมุดคืน
“นี่โซวมาหาครูหน่อยสิ” เสียงของคุณครูซอง เคียว
เขาคุยกันในสีหน้าที่ขรึมมากฉันเรียกชูมางมาคุย
“เธอว่ามั้ยโซวมีท่าทางแปลกมากเลยพูดจาก็แปลก” ฉันซุบซิบกับชูมางจนเค้าคุยกันเสร็จแล้วโซวก็เดินออกไปฉันกันชูมางจึงเดินตามไป โซวเดินไปที่ห้องปกครองพร้อมกระดาษอะไรสักอย่างมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย
ฉันจึงบอกให้ชูมางรอตรงนี้ก่อน เมื่อฉันเดินเข้าไปรู้สึกว่าเขาจะตกใจมาก
“ กระดาษอะไรนะโซว” ฉันถามด้วยความสงสัย
“ เปล่าไม่มีอะไรหรอก” เขาพูดแล้วรีบร้อนเดินจากไป
ฉันรู้สึกจะไม่ค่อยดีแล้วมันต้องมีอะไรเกิดึ้นกับเขาแน่
หลังเลิกเรียนฉันพยายามจะดักเจอเขาเพื่อที่จะถามให้รู้เรื่อง
“ โซว เธอบอกฉันมาซะดีๆนะว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ” ฉันทำเสียงเข้ม
“ เปล่าฉันไม่มีอะไรสักหน่อย” เขาทำเสียงอย่างซึมๆ
“ ถ้าไม่มีแล้วจดหมายนั้นคืออะไร” ฉันพยายามถามอีกครั้ง
“ โอเคฉันบอกก็ได้ ” เขาพูดขึ้น
“ จดหมายนั้นมันคือจดหมายลาฉันจะไปทะเลในวันจันทร์นี้” เขาพูด
“ แล้วนายจะปิดบังฉันทำไมหละ” ฉันถามอีก
“ เธอลืมไปแล้วหรอว่าวันจันทร์มันวันเกิดของเธอฉันจึงอยากพาเธอไปเที่ยว”
“ เหรอ งั้นบาย” ฉันพูดด้วยความเขิน
“ นี่เธอยังยังไม่ได้บอกฉันเลยนะว่าเธอจะไปกับฉันหรือป่าว” เขาวิ่งเข้ามาถาม
“ ไปสิต้องไปแน่ๆ” ฉันทำเสียงดีใจ
ในวันจันทร์ฉันกับโซวเราก็ไปเที่ยวทะเลกันซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่
“ สวยจังเลยเนอะ” ฉันพูดพร้องสูดอากาศเข้าไป
“อืมเธอชอบหละสิ” เขาถาม
“ใช่แล้ว” ฉันตอบ
“ งั้นเรามาก่อทรายเล่นกันดีกว่า” เขาพูดขึ้นแล้ววิ่งไปที่ทราย
“ ได้เลย” เราสองคนก่อทรายกันอย่างสวยงามและใหญ่มากด้วย
“นี่นายกำลังทำอะไรหนะ” เสียงฉันถามด้วยความสงสัย
“ ฉันก็วาดรูปเธอไง” เขาพูดแล้ววาดต่อ
“ นี่ฉันน่าเกลียดขนาดนั้นเชียว” ฉันพูดแล้วตั้งใจดูต่อ
เขาขำเมื่อเวลาผ่านไปจะเย็นแล้วเราสองคนก็นั่งดูพระอาทิตย์ตกพร้อมกับไอติมคนละแท่งแล้วเราก็กลับบ้านกัน
“แล้วค่อยเจอกันใหม่นะวันนี้เป็นวันที่สนุกมากเลยหละ”เมื่อพูดจบฉันก็เดินเข้าบ้านไป
เช้าที่โรงเรียน
“ นี่เมื่อวานเธอสองคนไปไหนกันมา” เสียงของชูมางที่ถามฉัน
“ ไม่บอกหรอก” ฉันกวนใส่
“ ก็ได้งั้นไม่ถามแล้ว” เขาแกล้งงอน
“ ฉันว่าเราไปที่บ่อเลี้ยงปลาหน้าอาคารกันเถอะ” ฉันชักชวนชูมาง
“ ก็ได้” เขาก็เดินไปกับฉัน
“ ดูสิปลาใหญ่มากเลย” ฉันถามชูมาง
แก็ก ๆๆตุ๋ม.ๆๆ
เสียงเงิน 5 บาทที่หล่นมาจากกระเป๋าเสื้อของชูมาง
“ เฮ้ย เงินหล่นอะทำไงดี” เสียงของชูมางกระตือรือร้น
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวหยิบให้”ชูมางยื่นไม้ให้ฉันฉันพายามเขี่ย ว้าย ตู้ม
ฉันตกน้ำ
เสียงหัวเราะของโซวดังมาแต่ไกล
“ ลงไปทำอะไรในนั้น” เขาถามและขำ
“ น่าช่วยฉันก่อน” ฉันพูดเขาก็ยื่นมือมาให้ฉันพยายามดึงที่จะให้เขาตกลงมาและสุดท้าย ตู้ม ฮะฮะๆๆๆเขาตกน้ำอีกคน
“นายลงมาทำอะไร” ฮะๆๆๆๆๆๆ
“ นี่เธอสองคนรีบขึ้นมาเลยนะ” เสียงของคุณครูพูดขึ้น
เมื่อเราสองคนขึ้นมาเนื้อตัวก็เปียกแฉะเราสองคนจึงขอกลับบ้านเพื่อจะเปลี่ยนเสื้อผ้าส่วนเหรียญห้านั้นก็ยังอยู่ในน้ำที่เดิม
อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันคริตมาสแล้ว
“นี่นายเตรียมตัวหรือยัง” ฉันถามโซว
“ เตรียมตัวอะไรไม่เห็นจะมีให้เตรียม”
“ ก้เตรียมตัวสอยดาวไงปีนี้ต้องดีกว่าทุกปีแน่ๆว่ามั้ย” ฉันถามโซว
“ คงจะเป็นอย่างงั้น”เขาตอบ
สุดท้ายวันคริสมาสก็มาถึง
“ ไปสอยดาวกันเถอะโซว” ฉันจูงมือเขาไป
“ซื้อบัตรสอยดาวสิบใบคะ”
“ เอาเลยนะ”ฉันพูดขึ้น
“ฉันได้เบอร์ 248คะ” ฉันตื่นเต้นกับรางวัลที่จะได้สักพักก็มีพนักงานหยิบตุ๊กตาหมีตัวใหญ่มาทางนี้มันต้องเป็นของฉันแน่เลย
“ ตุ๊กตาตัวนี้ของคุณโซวคะ” แง๋วๆ
“นี่คะแก้วน้ำของคุณคะ” ฉันได้แก้วน้ำหรอ
โซวถือตุ๊กตามาอวดฉัน
“น่ารักมั้ยหละ” เขาพูดเยาะเย้ย
“ อืม”
“ ปีนี้สอยดาวมันแย่ที่สุดเลย” ฉันพูดประชด
“ แย่ที่ไหนกันนี่ฉันให้” โซวยื่นตุ๊ตาหมีตัวนั้นให้ฉัน
“ให้ฉันจริงๆหรอ” ฉันทำหน้าลังเล
“ ใช่ฉันให้”
“ ขอบใจมากนะ”ฉันดีใจจนกระโดดโลดเต้น
“ ปีนี้เป็นสอยดาวที่ดีมากๆเลยหละ”ฉันตะโกนดังๆ
ฉันเหลือบไปเห็นหนูแฮมเตอร์มันน่ารักมากฉันเลยซื้อไว้สองตัวฉันให้โซวตัวนึงฉันตัวนึง
“เธอต้องเลี้ยงไว้นะ”
“อืม”
“ นี่โซวปีนี้เธอไม่ได้ขึ้นไปร้องเพลงหรอ” ฉันถาม
“ ร้องสิ” เขาตอบแล้วยิ้ม
เขาขึ้นไปร้องเพลง
...........ไม่ว่าเธอจะอยู่ไหนสายตามองกันไม่เจอแต่ใจจะคิดถึงเสมอส่งรักให้เธอไม่ขาดหล่อหลอมด้วยหัวใจระเหยเป็นไอลอยในอากาศ.....................................
เมื่อเขาร้องจบก็มีเสียงตบมืออย่าง่กรียวกราว
“ นายร้องเพราะมากเลย” ฉันพูดแล้วตบมือให้
“ขอบใจมาก” เขายิ้ม
หลังจากวันงานคริสมาสฉันก็สนิทกับเขามากขึ้น
เมื่อวันงานผ่านไปหลังเลิกเรียนฉันก็ลับบ้าน
ฉันจับจักรยานเพื่อที่จะกลับบ้าน
“ จะกลับแล้วหรอ” เสียงองโซวถามขึ้น
“ นายคงไม่ต้องกลับกับฉันแล้วหละนายก็มีจักรยานแล้ว” ฉันพูดขึ้น
“ เราก็ขับไปด้วยกันไง”
เราสองครขี่จักรยานคุยกันตลอดทางจนกระทั่งฝนก็ตอลงมาเราจึงไปนั่งรอฝนหยุดที่ศาลาข้างทาง
“ โหแย่จังเลยฝนดันมาตกซะก่อน” เสียงฉันทักขึ้น
“อืมแต่อีกไม่นานฝนก็คงจะหยุดแล้วหละ” เขาพูด
สักพักฝนก็หยุดตก
เราก็ต่างแยกย้ายกันลับบ้าน
เมื่อถึงบ้านฉันก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงเรื่อง you are in my heart for everซึ่งมันเป็นนวนิยายที่สนุกมากเลยและฉันก็ชอบอ่านมันอยู่ทุกวัน
เมื่ออ่าได้สักพักฉันก็ลงข้างล่าง
“ นี่ลูกไกล้จะจบ ม.3 ยัง” แม่ถามขึ้น
“ ก้ไกล้แล้วค่ะ”ฉันตอบไป
เมื่อไปถึงโรงเรียนฉันก็คุยเล่นกับโซวตามปกติ
“ นี่ทำการงานเสร็จยัง” ฉันถามโซวขึ้น
“ ก็ไกล้จะเสร็จแล้วหละ” เขาตอบ
“ นี่ถ้าเสร็จเมื่อไหร่แล้วบอกด้วยหละกันฉันจะเอาไปหลอก”
“จ๊ะ”
หลังเลิกเรียนโซวเดินเมาหาฉันแล้วยื่นจดหมายใบหนึ่งให้กับฉันและเขายังบอกอีกว่าห้ามอ่านจนกว่าจะมาโรงเรียนพรุ่งนี้เช้า
เมื่อมาถึงโรงเรียนอีกวันหนึ่งฉันก็รีบแกะจดหมายนั้นข้างในเขียนว่า
......ถึง ลี กึง ยอง
ขอบใจมากนะที่ธอรักษาสัญญาที่ให้ไว้ก่อนอื่นฉันต้องขอโทษเธอด้วยนะเข้าเรื่องเลยหละกัน
วันนี้ฉันจะต้องไปเรียนต่อที่อเมริกาฉันจะกลับเมื่อไหร่ฉันก็ยังไม่รู้เลยฉันต้องไปเรียนที่นั้นตามแม่ของฉันไปฉันสัญญานะว่าฉันจะต้องมาหาเธอให้ได้เธอยังคงจำกลอนที่เธอแต่งให้ฉันได้นะฉันจะเก็บกลอนบทนี้เอาไว้และเจ้าหนูตัวนั้นฉันจะเลี้ยงมันให้โตวันโตคืนเลยหวังว่าเธอคงเข้าใจฉันนะที่ใต้โต๊ะเธอฉันวางกล่องสร้อยที่เธออยากได้ไว้ให้ฉันให้เธอเก็บไว้อันนึงฉันอีกอันนึงนะบาย....................โซว...........
เมื่อฉันอ่านจดหมายนั้นจบนับจากวินาทีนั้นฉันแทบจะบ้าตายฉันโกรธที่เขาไม่ยอมมาบอกฉันก่อนและก็เสียใจที่ฉันยังไม่ได้บอกรักเขาในวันนั้นฉันไม่มีกะจิตกะใจจะเรียนหนังสือเลย
หลังจากเลิกเรียนมันทำให้ฉันแทบจะร้องไห้อีกครั้งเมื่อฉันเห็นรถจักรยานที่เราเคยกลับบ้านด้วยกันมันทำให้ฉันอดนึกถึงไม่ได้ฉันไม่รู้เลยว่าฉันจะได้เจอเขาอีกเมื่อไหร่
เมื่อกลับถึงบ้านฉันก็ร้องไห้อีกครั้งร้องไห้แทบจะไม่มีน้ำตาอยู่แล้วสักพักฉันก็เผลอหลับไป
เมื่อไปถึงโรงเรียนฉันก็คิดถึงเขาคึดถึงเขามากไม่ว่าฉันจะเดินไปทางไหนมันก็มีแต่ภาพความทรงจำที่มีไว้กับโซว
เวลาผ่านไป 8 ปี ฉันก็เรียนจบปริญญาตรี ตอนนี้ฉันก็อายุ 22 ปีแล้ว
“ เรียนจบกันสักที” เสียงของชูมางพูดขึ้น
“ใช่แล้วเธอคิดว่าเธอจะไปทำอะไรต่อหละ”ฉันถามชูมาง
“ ยังไม่รู้เลยแล้วเธอหละ”ชูมางถามฉันกลับ
“ก็เหมือนเธอนั้นแหละ” ฉันตอบไป
ในตอนเช้าวันหนึ่งฉันก็เดินไปกินไอติมที่ร้านไอซ์แลนด์เจ้าเดิม
เมื่อกินเสร็จฉันก็เดินไปเรื่อยๆจนไปถึงที่ทะเลนั้นฉันเห็นผู้ชายอยู่คนหนึ่งหล่อมากและฉันก็คุ้นๆ ใช่แล้วโซวนั้นเองฉันรีบวิ่งเข้าไปกอด
“ เธอคือโซวของฉันใช่มั้ย” เสียงฉันที่ร้องไห้
“ ลี กึง ยอง หรอ” เสียงของโซวทักขึ้นเช่นกัน
“ ใช่” ฉันร้องไห้ออกมา
เราไปนั่งคุยกันที่ใต้ต้นไม้
“เป็นไงบ้างสบายดีมั้ย” โซวถามฉัน
“ ก็ดียังไม่ได้ถามเลยนะว่าทำไมเธอไปแล้วไม่ยอมบอกฉัน” ฉันถามเ
“ ก็ฉันไม่อยากให้เธอต้องเสียใจนี่นา” เขาตอบ
“ สร้อยนั้นเธอยังใส่ไว้อีกหรอ” เขาถามฉัน
“ ใช่ฉันใส่ติดตัวไว้ตลอด” ฉันตอบ
“ ฉันก็เหมือนกัน” เขาพูดแล้วยิ้ม
“เธอยังจำเจ้าตัวนี้ได้มั้ย” เขาพูดแล้วโชวึ้นมา
“ เจ้าลินจู ทำไมตัวมันใหญ่จังเลย” ฉันหยิบหนูตัวนั้นขึ้น
“ น่ารักใช่มั้ยหละ” เขาพูด
“ อืม”
“แล้วนี่เธอคงจะเรียนจบแล้วสินะ” เขาถามฉัน
“ใช่ฉันเรียนจบแล้วหละ” ฉันตอบ
เราเดินคุยกันไปเรื่อยๆๆแล้วนี้โซวคิดจะทำอะไรต่อหรือป่าว ว้าย
เราสองคนตกหลุมที่เขากำลังก่อสร้าง
“ ทำไงดีนี่มันก็จะเย็นอยู่แล้วจะมีใครผ่ามมาทางนี้หรือป่าว” ฉันพูด
“ เรารอกันอีกสักพักดีกว่ามันต้องมีคนผ่านมาแถวนี้แน่” เขาพูด
“ ฉันหนาวจังเลย” ฉันรู้สึกหนาวขึ้นมา
“ เอาเสื้อฉันไปใส่ก่อนนะ” เขายื่นเสื่อให้
“ ขอบใจมาก”
เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง
“ ไปทำอะไรกันอยู่ในนั้น” เสียงคนก่อสร้างทักขึ้น
“ คือพวกเราตกลงมานะคะ” ฉันตะโกนขึ้นไป
“ รอแปบนะเดี๋ยวมาช่วย” เขาพูดแล้ววิ่งไป
เมื่อขึ้นมาได้โซวก็ขออาสาไปส่งฉันที่บ้าน
“ กลับแล้วนะ” เขาพูดลา
“ เดี๋ยวก่อนสิเข้าไปกินอะไรกันก่อนสิ” ฉันทักรั้งไว้
“ ไม่เป็นไรหรอกขอบใจนะ” เขาพูดแล้วเดินจากไป
“ พรุ่งนี้ฉันรอเธอที่ร้าน ไอซ์แลนด์นะอย่าลืมหละ” ฉันพูดแล้วเดินเข้าบ้านไป
“แม่รู้มั้ยคะว่าวันนี้หนูเจอใคร” ฉันพูดกับแม่
“ เจอหมาข้างถนนอีกแล้วสิ” แม่พูดแล้วขำ
“ ไม่ใช่คะหนูเจอโซว”
“ อ่าวเขากลับมาแล้วหรอ” แม่ทำหน้างง
“คะ”
เช้า
“ อ่าวรอนานยัง” เสียงโซวพูดพร้อมกับเดินเข้ามา
“ ไม่นานหรอกฉันสั่งฟรุ๊ตตี้ให้แล้วนะ” ฉันพูดแล้วยิ้ม
“ เธอมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันหรอ” เขาถามพร้องกับตักไอติม
“ ฉันกำลังจะประกวดนางงามประจำเมืองเธอว่าไง” ฉันพูดขึ้น
“ เธอว่าอะไรนะเธอจะประกวดหรอ” เขาทำเสียงตกใจ
“ ทำไมหละฉันไม่เหมาะเหรอโหแย่จังนะ” ฉันทำเสียงเศร้า
“ ป่าวไม่ใช่อย่างนั้นคนที่ประกวดเขาสวยๆกันทั้งนั้นเลยเธอไม่กลัวหรอ” เขาพูด
“ไม่หรอกฉันไม่กลัว” ฉันพูดแล้วยิ้ม
“ ขอให้ชนะนะ” เขาพูดแล้วตักไอติมต่อ
“ แน่นอนฉันจะต้องชนะให้ได้” ฉันพูดด้วยความมั่นใจ
“ ที่ฉันมาวันนี้ฉันอยากจะชวนเธอไปดูให้กำลังใจหน่อยนะ” ฉันพูดชักชวน
“ ฉันไปแน่อยู่แล้วแหละแล้วเมื่อไหร่หละ” เขาถาม
“ อีก 3วันจ๊ะ” ฉันพูดแล้วทำมือ
“ ถ้างั้นเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเธอต้องไปงานประจำปีปีนี้กับฉันนะ” เขาชวนตอบ
“ ได้สิ” ฉันรีบตอบทันที
เมื่อกินเสร็จเราก็เดินคุยเล่นกันอย่างสนุกสนาน
“งานประจำปีปีนี้เราจะไปเล่นอะไรกันดีหละ” เขาถามฉัน
“ไปเล่นตักปลากันดีมั้ย” ฉันพูดแล้วขำ
“ ก็ดีปีที่แล้วนะฉันตักไม่ได้สักตัวเลย”เขาขำด้วยเช่นกัน
ในช่วงเวลาสามวันเขาก็ช่วยฉันในเรื่องของการประกวด
“ ฉันจะเอาความสามารถพิเศษอะไรดีหละ” ฉันถามโซว
“ อืมเอาเป็นแต่งกลอนดีมั้ย” เขาพูดเพื่อให้เลือกดู
“ ฉันคงแต่งไม่ทันแล้วหละ” ฉันพูดด้วยความเสียดาย
“ เธอยังจำกลอนที่เธอแต่งให้ฉันได้มั้ยหละ” เขาพูดเสนอ
“ จริงด้วยสิแต่ฉันจำไม่ได้แล้วแหละ” ฉันทำท่าทำทาง
“ แต่ฉันจำได้” เขาพูดขึ้นแล้วจดให้ฉัน
“ ตลอดเวลาที่ฉันอยู่ที่อเมริกาฉันจำกลอนของเธอได้ดีตลอดเลยเพราะเวลาที่ฉันนึกถึงกลอนนี้ทีไรฉันก็นึกถึงเธอทุกที” เขาจดไปแล้วก็เล่าไป
“ หรอส่วนฉันนะเวลาฉันมองรถจักรยานทีไรฉันก็นึกถึงเธอเช่นกัน” ฉันพูดทำหน้าอย่างจริงจัง
เราสองคนพูดไปแล้วก็ขำไป
และแล้ววันประกวดก็มาถึงเมื่อฉันเข้าไปในหลังเวที
“ โฮคนสวยๆทั้งนั้นเลยอย่างที่โซวบอกเรา” ฉันพูดเหมือนเริ่มท้อ
“แต่ฉันต้องทำให้ได้” ฉันกลับมามั่นใจอีกครั้ง
ในวันนี้สิ่งที่ทุกคนรอคอยกันก็มาถึงเรามาดูผู้ที่เข้าร่วมประกวดกนทั้งหมด10ท่านกันดีกว่า หมายเลข 1 คุณ
หมายเลข 2 คุณ..........
หมายเลข8 คุณ.......
หมายเลข9 คุณ..........
หมายเลขสุดท้าย คุณ ลี กึง ยอง
ผู้ที่ได้รับตำแหน่งนางงามประจำเมืองได้แก่..หมายเลข 9 คับ
ผู้ที่ได้รับตำแหน่งอันดับสองได้แก่...หมายเลข 10 คับ
หลังจากงานเลิก
“ เป็นไงเหนื่อยมั้ย” โซวพูดปลอบใจ
“ ฉันเสียใจจริงๆที่ไม่สามารถคว้าตำแหน่งมาได้” ฉันก้มหัวทำหน้าเศร้า
“ ไม่เห็นเป็นไรเลยเธอก็ได้ที่สองนี่” พูดปลอบอีกครั้ง
“ อย่าลืมสัญญานะที่ว่าจะไปเที่ยวงานประจำปีกัน” เขาพูดแล้วยิ้ม
“ อืม ฉันไม่ลืมหรอก” ฉันยิ้มกลับ
วันงานประจำปี...
“ โฮ ปีนี้ดีกว่าทุกปีนะ” ฉันพูดกับโซว
“ เราไปตักปลากันดีกว่า” เขาชวนฉันไป
“ เอาตัวใหญ่นี้สิ ระวังไม้ขาด” ฉันเชียร์อยู่ข้างๆ
“ เย้! ตัวใหญ่ด้วย” ฉันพูดด้วยความดีใจ
“ ฉันให้เธอนะเอาไปเลี้ยงให้ดีดีหละ” เขายื่นถุงปลาให้กับฉัน
“ อืม” ฉันตอบรับคำ
“ เล่นอะไรอีกดีหละ” ฉันถามโซว
“ เราไปหาอะไรกินกันเถอะ” โซวแนะนำ
“ อืม” เราเดินไปทานข้าวแถวๆงาน
เมื่อกินเสร็จโซวก็เดินไปส่งฉันที่บ้าน
“ วันนี้สนุกมากเลยนะ” ฉันพูดกับโซวแล้วเดินเข้าบ้านไป
“ แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะ” เขาพูดแล้วเดินกลับบ้านไป
เมื่อเข้าบ้านไปฉันก็เอาปลามาใส่ตู้ไว้
“ ฉันจะตั้งชื่อเธอว่าไรดีหละ” ฉันยืนนึกชื่อ
“ ชื่อ โซวหละกัน ฮะฮะ เขาไม่รู้หรอก” ฉันขำ
เช้า
“หวัดดีโซว” ฉันทักทายโซว
“ หวัดดี” เขาทักทายกลับ
“ เธออยากอ่านเรื่อง you are in my heart for ever มั้ยสนุกนะ” ฉันพูดแนะนำหนังสือเล่มนี้ให้กับโซว
“ ยังเลยงั้นฉันขออ่านบ้างสิ” เขาพูดเพื่อขอยืม
“ ได้สิเพราะฉันเองก็อ่านจบแล้วหละ” ฉันพูด
“ จริงสิไหนเล่าตอนจบให้ฟังหน่อย” เขาพยายามให้ฉันเล่าให้ฟัง
“ไม้ได้เล่าให้ฟังก่อนมันก็ไม่สนุกสิ” ฉันปฏิเสธไป
“ โธ่ ก็ได้ถ้าฉันอ่านจบเมื่อไหร่นะฉันจะเอามาคืน” เขาพูดแล้วหยิบหนังสือไป
“ กึง ยอง วันนี้ฉันอยากพาเธอไปทะเลเธอไปด้วยกันนะ” เขาชวนฉัน
“ ได้สิ” ฉันรับคำ
“ โฮ ทะเลยังสวยเหมือนเดิมเลยนะเห็นแล้วนึกถึงตอนเด็กจังเลย” ฉันพูดแล้วจินตนาการภาพ
“ ใช่งั้นฉันวาดรูปเธออีกนะ” เขาพูดแล้วหยิบไม้มาวาดรูป
“ โฮ ภาพฉันน่าเกลียดอย่างงี้อีกแหละ” ฉันพูด
“ ยังฉันยังไม่ได้วาดเลย” เขาพูดแล้วขำ
“ เธอไปนั่งรอตรงนี้ก่อน”
เมื่อเขาวาดเสร็จเขาก็ให้ฉันดู
“ สวยจัง ฉันสวยขนาดนั้นเลยหรอ”ฉันเข้าข้างตัวเอง
“ งั้นฉันขอวาดเธอบ้างนะ” ฉันขอวาดบ้าง
“ ได้สิ”
เมื่อฉันวาดเสร็จฉันก็ให้เขาดูบ้าง
“ เสร็จแล้วหละ” ฉันพูดแล้วขำ
“ นี่ฉันหรอ ทำไมมันเหมือนพ่อมดจัง” เขาทำหน้างง
“ ก็เธอคือพ่อมดในใจของฉันไงอีกอย่างเธอก็ชอบหายตัวอยู่เธอก็หายไปโดยไม่ร่ำลาอยู่ๆเธอก็มาเฉย” ฉันพูดแล้วทำท่าทาง
“ จริงสินะ” เราสองคนก็เดินกลับบ้านด้วยกัน
“ ฝันร้ายนะ” เขาพูดลาฉัน
“ ถ้างั้นคืนนี้ต้องฝันถึงหน้าเธอแน่เลย” ฉันขำแล้ววิ่งเข้าบ้านไป
เช้า
“ กึง ยอง” เสียงนั้นคือเสียงของเอวอนเด็กใหม่คนนั้น เขาทั้งสวยและดูสง่าจังเลย
“ มีอะไรหรอเอวอน” ฉันถามเขา
“ ฉันจะมาบอกเธอว่าฉันเป็นคู่หมั้นกับโซวตั้งแต่อยู่ที่อเมริกาแล้ว” เอวอนบอกฉันฉันก็ได้แต่ยืนอึ้ง หมั้นหรอ
“ โซวหมั้นกันเธอแล้วหรอ” ฉันถามย้ำอีกครั้ง
“ ใช่” เอวอนตอบ
ฉันรีบวิ่งไปที่สวนและร้องไห้อย่างเดียวเขาหมั้นแล้วทำไมไม่บอกฉันฉันไม่น่าทำให้เอวอนต้องเสียใจเลย
“ อยู่นี้เองฉันก็ตามหาตั้งนาน” เสียงของโซว
“ โซวฉันว่าตั้งแต่ที่ฉันพบกับเธอฉันทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อนถ้าฉันไปซะหละทุกคนก็จะได้สบายใจ” ฉันพูดแล้วร้องไห้
“ ไม่ เธอไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน” เขาพูดแล้วกอดฉัน
“ เอ วอนกลับมาแล้ว” ฉันพูดขึ้น
“ กลับมาแล้วหรอ” เขายืนอึ้ง
“ โซว” เสียงของเอ วอน ที่ดังมาพร้อมวิ่งเข้ามากอดโซว
“ ฉันขอตัวก่อนนะ” ฉันหันหลังเดินกลับบ้าน
“ เธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมถึงไม่บอกผมหละผมจะได้ออกไปรับ” โซวพูดกันเอ วอน
“ ก็ฉันอยากเซอร์ไพร์เธอนี่” เอ วอน ตอบกลับ
“ ฉันว่าเรากลับบ้านไปหาแม่ผมก่อนดีกว่า” เขาจูงมือเอ วอนไป
“ คะ” เอ วอนก็เดินไปกับเขา
ส่วนฉันก็ไม่ได้เสียใจอะไรอีกอย่างโซวก็ไม่ได้ชอบฉันนี่นาและฉันก็ดีใจกับโซวด้วยที่เข้าได้คู่ครองที่ดีอย่าง เอ วอน
เช้า
ฉันเดินไปที่บ้านของโซวเพื่อที่จะชวนไปกินไอติม
“ โซววันนี้ไปกินไอติมกันนะ” ฉันถามโซว
“ ไปสิ” เขาตอบ
“ หวัดดีโซว” เสียงของเอวอน
“ อ่าวเอวอนไปกินไอติมด้วยกันนะ” ฉันชวนเอวอน
“ ได้สิคะ” เอวอนตอบรับตำ
เราก็นั่งกินไอติมกัน
“ ตอนที่อยู่ที่อเมริกาก็เห็นเขาพูดเรื่องเธอบ่อยมากเลยนะเดี๋ยวนี้น่ารักขึ้นเยอะเลย” เอวอนพูดขึ้น
“ เหรอคะถึงว่าสิตอนที่อยู่ที่นี้โซวเขาก็พูดถึงเรื่องคุณเหมือนกัน” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงอย่างยินดี
เราทั้งสามคน็แยกย้ายกลับบ้าน
“ ให้ฉันไปส่งมั้ย” โซวถามฉัน
“ ไม่เป็นไรหรอกขอบใจนะ” ฉันพูดแล้วเดินแยกไป
เมื่อถึงบ้าน
กริ๊งๆๆ
“ ลูกโทรศัพท์จากชูมาง”
“ ฮัลโหล ชูมางหรอ” ฉันทัก
“ จ๊ะ ฉันหางานในเมืองหลวงให้เธอได้แล้วนะ” ชูมางพูด
“ เหรอแล้วเริ่มงานเมื่อไหร่หละ” ฉันถาม
“ แล้วแต่เธอหละนะ” ชูมางตอบ
“ อืมขอบใจมาก” ฉันวางสายไป
“ แม่คะหนูได้งานในเมืองหลวงแล้วนะคะทำที่เดียวกับชูมางคะ”
“ ดีแล้วหละแล้วลูกจะไปเมื่อไหร่หละ” แม่ตอบ
“ คงจะเป็นเดือนหน้านะคะเพราะนี้ก็ไกล้จะสิ้นปีแล้ว”
“ อืม” แม่พูดเห็นด้วย
ฉันไปเดินเล่นแถวๆสวนเพื่อสูดอากาศและคิดเรื่องงาน
“ อ่าวกึง มาเดินเล่นหรอ” เสียงของโซวที่ถามมา
“ อืม นี่ฉันมีอะไรจะบอก” ฉันชวนเขาคุย
“ ฉันได้งานทำที่เมืองหลวงแล้วนะ” ฉันพูดด้วยความดีใจ
“ ดีใจด้วยนะ” เขาพูดล้าเอามือตบที่บ่าฉัน
“ ระหว่างที่ฉันไม่อยู่ดูแลเอวอนให้ดีหละ” โซวพยักหน้า
“ ฉันไปก่อนนะ” ฉันพูดลา
“ อย่าพึ่งไปทำงานเมืองหลวงเมื่อไหร่บอกฉันด้วยนะฉันจะได้ไปรับไปส่ง”
ฉันก็เดินกลับบ้านไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
เช้า
“ กึง ยอง”
เสียงของโซวตะโกนเรียก
“ มีอะไรหรอ” ฉันตะโกนตอบ
“ คืนนี้เรามีงานเลี้ยงกันที่บ้านพ่อแม่ฉันกลับมาจากอเมริกาด้วยอย่าลืมไปนะ”
“ อืมฉันไปตอนนี้เลยดีกว่าจะได้ไปช่วยจัดงาน” ฉันพูดแล้วเดินไปพร้อมโซว
“ อ่าวกึง ยอง มาด้วยหรอ” เสียงเอวอนพูดทัก
“ คะมีอะไรให้ช่วยมั้ยเดี๋ยวไปช่วยในครัวดีกว่า” ฉันเสนอช่วยงาน
แล้วงานก็เริ่มกินอาหารเย็นด้วยกัน
“ อ่าวหนูกึง ยอง กินเลยจ๊ะ” เสียงของคุณแม่ของโซวพูด
“ คะ” ฉันตอบไป
เมื่อกินเสร็จฉันก็ขอตัวกลับบ้าน
“ กลับก่อนนะโซว สวัสดี คุณพ่อคุณแม่ และก็คุณเอวอน” ฉันร่ำลาทุกคน
“ งั้นเอวอนก็ขอตัวกลับเลยนะคะบายคะโซว”เอวอนพูด
“ ให้ผมไปส่งมั้ย เอวอน” โซวพูดแล้วจะเดินไปส่ง
“ ไม่เป็นไรคะไปนะคะ” เอวอนพูดแล้วก็กลับบ้านไป
เมื่อฉันถึงบ้านฉันก็ขึ้นไปนอนเลยเพราะพรุ่งนี้ฉันก็ไปทำงานที่เมืองหลวงหรอ
เช้า
“ โซวฉันจะไปทำงานที่เมืองหลวงแล้วนะ” ฉันมาบอกโซว
“ เดี๋ยวผมไปส่ง” เขาก็พาฉันไปส่งที่เมืองหลวง
เมื่อโซวเริ่มไปรับไปส่งฉันเรื่อยๆจึงทำให้เอวอนเริ่มสงสัยและเริ่มหึงโซวพอโซวกับมาที่บ้าน
“ โซวคะเมื่อไหร่เราจะแต่งงานกันสักทีหละคะ” เอวอนถามโซวขึ้น
“ ไว้ก่อนเถอะผมยังไม่คิดเรื่องนี้” โซวตอบ
“ โซว คุณรักเธอใช่มั้ยคะ” เอวอนเริ่มโมโห
“คุณอย่าเหลวใหลน่าเธอไปเกี่ยวอะไรด้วย” โซวเริ่มโมโหเช่นกัน
“ ฉันขอโทษคะ” เอวอนทำเสียงเศร้า
“ ผมก็ต้องขอโทษคุณเหมือนกันผมขอตัวก่อน” เขาก็เดินออกไป
“ ว่าไงกึงยองงานยากไปมั้ย” เสียงของชูมางที่คุยกับฉัน
“ ไม่หรอก สบายมากเลย” ฉันตอบแล้วยิ้ม
“ เราไปกินข้าวกันเถอะ” ชูมางชวนฉัน
“ อืมไปสิ” ฉันก็เดินไปกินข้าวกัน
“ นี่ชูมางฉันว่าเราน่าจะไปเที่ยวกันบ้างนะ” ฉันพูดชวนชูมางไปเที่ยว
“ จริงสิจะไปไหนดีหละ” ชูมางถามฉัน
“ แล้วแต่เธอนะแล้วเดี๋ยวเราค่อยว่ากันมั้ย” ฉันพูดแล้วเราก็ไปทำงานกันต่อ
หลังเลิกงาน
“ ทำงานเสร็จยังกึงยอง” เสียงของโซวที่พูดมาจากด้านหลัง
“ เลิกแล้ว” ฉันตอบ
“ งั้นเรากลับบ้านกันเถอะ” เขาก็พาฉันกลับบ้าน
ระหว่างทางโซวก็ชวนฉันไปที่พักของเขาซึ่งเป็นฟาร์มแกะของเขา
“ ได้สิแล้วพรุ่งนี้ค่อยเจอกัน” ฉันตอบไป
พอวันพรุ่งนี้ฉันก็นั่งรอเขาแต่เอวอนเกิดอุบัติเหตุจึงทำให้โซวมารับฉันไม่ได้
ส่วนฉันก็นั่งรอจนถึงเย็นก็เลยตัดสินใจเดินกลับบ้าน
ที่ร.พ
“ เป็นไงบ้างเอวอน” โซวถามเอวอนด้วยความเป็นห่วง
“ โซวคุณต้องอยู่เฝ้าฉันนะคุณอย่าไปนะ” เสียงของเอวอนพูดด้วยน้ำตา
“ ผมจะเฝ้าคุณ” โซวร้องไห้ออกมา
พอเอวอนออกจากโรงพยาบาลโซวก็พาไปส่งที่บ้านและมุ่งรถมาที่บ้านของกึงยอง
“ เมื่อวานเธอได้รอฉันหรือป่าว” โซวถามฉัน
“ ฉันต้องขอโทษด้วยเอวอนเขาเกิดอุบัติเหตุ” โซวพูดอีกครั้ง
“ ป่าวเมื่อวานฉันไม่ได้รอเธอ” ฉันตอทั้งๆที่ฉันรอเขาทั้งวัน
“ งั้นเราไปกันวันนี้เลยนะ” โซวชวนฉันอีกครั้ง
“ อืม” เราสองคนก็ไปที่ฟาร์มของโซว
เมื่อไปถึงฟาร์มของเขาสวยมากและน่าอยู่มากด้วย
“ ที่นี้สวยมากนะคะ” ฉันทักโดยที่สายตามองไปรอบๆ
“ ใช่มันเป็นสิ่งที่ผมต้องดูแล” เขาตอบ
“ ฉันว่าเรารีบกลับกันเถอะเดี๋ยวเอวอนจะเป็นห่วงเธอป่าวๆ” ฉันพูดเพื่อชวนโซวกลับ
“ อืม” แล้วโซวก็ไปส่งฉันที่บ้าน
เช้า
วันนี้ฉันก็ต้องไปทำงานที่เมืองหลวงแล้วโซวก็ไปส่งฉันอีกแล้ว
ฉันสนุกกับงานที่ฉันทำมากและฉันก็มีเพื่อนที่ฉันรักอยู่อีกคนนั่นกฌคือชูมางการทำงานของฉันก็เป็นไปอย่างดีเรื่อยๆ
วันนี้ก็เป็นวันครบรอบวันเกิดของฉันอีกวัน
“ วันนี้เธออยากไปไหนในวันเกิดของเธอ” โซวถามฉัน
“ ฉันอยากทะเล” ฉันพูดตอบ
“ ทำไมเธอถึงชอบไปทะเลจัง” เขาถามฉัน
เพราะทะเลเป็นที่ที่มีความทรงจำที่ดีดีของฉันเวลาฉันไปทีไรมันก็จำให้ฉันนึกถึงความทรงจำนั้น” ฉันตอบพร้อมกับร้องไห้
“ ได้ สิ งั้นเราไปกันเลยนะ” เขาพูด
ฉันกับเขาเราก็ไปเที่ยวทะเลกันมันทำให้ฉันมีความสุขมากเลยทีเดียว
โซวก็ชวนฉันไปที่บ้านเขาก่อนเมื่อโซวกลับไปถึงบ้านเอวอนก็นั่งรอโซวอยู่ก็เห็นฉันกับโซวมาด้วยกัน
“ ไปไหนกันมาหรอคะ” เอวอนถาม
“ เราไปทะเลกันมาวันนี้เป็นวันเกิดของกึงยองเค้า” โซวตอบ
“ หรอคะงั้นก็ แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะกึงยอง” เขาพูดแล้วก็ยิ้มให้
“ ขอบคุณคะ” ฉันจึงขอตัวกลับบ้านก่อน
“ จะให้ไปส่งมั้ย”เขาพูดถาม
“ ไม่เป็นไรหรอก” ฉันก็เดินกับบ้านอีกตามเคย
เมื่อถึงบ้านฉันก็ได้แต่นอนนึกเรื่องของโซวและฉันคิดว่าฉันไม่อยากมาทำหรือสร้างปัญหาให้กันเอวอนเลยฉันจะไปทำงานเมืองหลวงโดยไม่ให้โซวรู้เขาจะได้ไม่ต้องไปส่งฉัน
“ ชูมาง ฉันมาทำงานแล้ว” ฉันเรียกทักชูมาง
“ หายไปหลายวันเลยนะไปฉลองวันเกิดหละสิท่า” ชูมางแซว
“ วันนี้ฉันจะกลับบ้านเองนะ” ฉันพูดขึ้น
“ อ่าวแล้ววันนี้โซวเขาไม่มารับแล้วหรอ” ชูมางทำหน้างง
“ ไม่แล้วหละฉันไม่อยากเข้าไปวุ่นวายเท่าไหร่” ฉันทำหน้าซึม
หลังจากเลิกงานฉันก็กลับบ้านด้วยตัวเองเมื่อไปถึงบ้านฉันก็พบโซวรออยู่ที่หน้าประตูบ้านโซวก็วิ่งเข้ามากอดฉัน
“ ทำไมไปทำงานแล้วถึงไม่บอกหละรู้มั้ยว่าฉันเป็นห่วง” โซวพูดเหมือนจะโกรธฉัน
“ ฉันไม่อยากรบกวนนะ”ฉันตอบไป
“ ต่อไปนี้ถ้าเธอจะไปไหนต้องให้ฉันไปส่งนะ” เขาพูดแล้วเดินกลับบ้านไป
เมื่อโซวกำลังกลับบ้านเธอก็พบกับเอวอนที่ยืนร้องไห้อยู่
“ เป็นไรเอวอน” โซวถามเธอ
“ เมื่อไหร่คุณจะแต่งงานกับฉันสักทีหละ” เอวอนถามเรื่องเดิม
“ คุณก็รู้ว่าผมยังไม่พร้อม” เขาเดินหนีไป
“ คุณพูดอย่างงี้ตลอดแหละ” เอวอนโกรธแล้ววิ่งหนีไป
เช้า
เอวอนเข้าโรงพยาบาลอีกแล้วเมื่อคืนเอวอนสลบทำให้แม่เข้าไปต่อว่ากับโซวและเขาก็บอกว่าให้ดูแลเอวอนให้มากๆเพราะเธอขี้โรคป่วยบ่อย
“ ครับผมจะดูแลเธอให้มากกว่านี้” หลังจากที่เอวอนหายป่วยโซวก็ดูแลไกล้ชิดกับเอวอนอยู่ตลอด
“ กึง ยอง ผมต้องขอโทษด้วยนะที่ผมไม่ค่อยมาหาคุณ” โซวเดินเข้ามาคุยกับฉัน
“ ไม่เป็นไรหรอกคะ” ฉันตอบ
โซวโอบกอดฉันแล้วร้องไห้ที่เข้าไม่สามารถมีเวลาให้กับฉันได้เลย
เมื่อโซวกลับไปบ้านโซวก็พบกับเอวอนที่รอเขาอยู่
“ มีอะไรหรอเอวอน” เขาถามเอวอน
“ โซวฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ” เอวอนพูดด้วยเสียงที่เบาๆ
“ มีอะไรก็ว่ามาสิ” เขาถามอีกครั้ง
“ คุณรักฉันบ้างมั้ยฉันอยากรู้ว่าคุณรักฉันบ้างมั้ย” เอวอนถามด้วยเสียงที่ร้องไห้
“ ผมอยากจะรักคุณแต่ผมรักคุณไม่ได้” โซวพูดออกไปด้วยเสียงที่ซึมเศร้า
“ ทำไมๆคุณถึงไม่รักฉัน” เมื่อเอวอนพูดจบเธอก็วิ่งกลับบ้านไป
โซวเองก็เสียใจมากเช่นกัน
ในบ่ายวันหนึ่งที่ฉันกำลังทำงานชูมางก็มาบอกฉันว่ามีคนมาขอพบ
“ อ่าวแม่ของเอวอนนี่นา”
เมื่อฉันเดินเข้าไปแม่ของเอวอนก็ตบฉัน
“ เธอทำให้ลูกสาวของฉันต้องเสียใจมากรู้มั้ย” เขาพูดด้วยคำที่รุนแรงกับฉัน
“ ฉันขอโทษด้วยนะคะฉันขอตัวก่อน” ฉันร้องไห้และวิ่งออกไป
ในวันหนึ่งโซวก็มาหาฉันและพาฉันไปเที่ยวที่สวนดอกไม้
“ วันนี้เราไปที่สวนดอกไม้กันเถอะนะ”โซวชวนฉัน
“ คะฉันจะไปกับเธอ” เราสองคนก็ไปเที่ยวที่สวนดอกไม้กัน
“ดอกไม้นี่สวยมากเลยนะ” ฉันถามเขา
“ ใช้สวยมากเลยสวยเหมือนเธอนั้นแหละ” เขาพูดแล้วยิ้มให้
“ หรอคะแต่ฉันไม่อยากสวยดหมือนดอกไม้นี่” ฉันพูดแล้วขำ
“ คุณหิวหรือยังเราไปหาอะไรกินกันเถอะ” เขาพูดแล้วจูงมือฉันไป
“ อืม” เราสองคนก็ไปกินข้าวต้มันข้างทาง
“ข้าวต้มนี่อร่อยนะอร่อยมากด้วยแหละ” ฉันพูดขึ้น
“ ใช่เราไม่ค่อยได้กินข้าวด้วยกันนานแล้วนะ” เขาพูดแล้วก็กินข้าวต้มต่อ
เมื่อเราสองคนกินเสร็จเราก็ไปเดินเล่นในสวนดอกไม้ต่อเรานั่งท่องเรื่องกลอนกันอย่างสนุกสนาน
“ คุณจำเพลงที่คุณร้องเมื่องานคริสมาสได้มั้ยฉันอยากบอกคุณว่าเมื่อฉันได้ฟังคุณร้องคราวนั้นฉันชอบมันมากเลนแหละฉันชอบมันมากจริงๆ” ฉันพูดแล้วจินตนาการ
“จริงหรองั้นผมร้องให้ฟังอีกมั้ย” เขาพูดทำเหมือนจะร้องฉันจึงเอามือปิดปาก
“ไม่ต้องแลเวแหละเพราะฉันอัดเสียงเพลงนั้นไว้ในใจของฉันแล้วหละ” ฉันพูดแล้วยิ้ม
“คุณอยากรู้อะไรมั้ยว่าตั้งแต่ที่เราต้องแยกจากกันตอนที่เรายังเด็กผมใช้อะไรเพื่อแทนความคิดถึง” เขาพูดแล้วจับมือฉัน
“ อะไรหละ”
“ ก็เจ้าหนูน้อยที่คุณให้ผมไว้ไงหละผมคุยกับมันทุกวันเลยนะมันเหมือนทำให้ผมได้คุยกับเธอ”
“หรอและคุณรู้มั้ยว่าเมื่อฉันได้อ่านจดหมายที่คุณได้ให้ไว้ก่อนไปมันทำให้ฉันร้องไห้แทบไม่หยุด”
เมื่อฉันพูดได้สักพักฉันก็เป็นลมไปโซวรีบพาฉันไปส่งโรงพยาบาล
“ หมอช่วยเธอด้วยนะครับ” โซวทำเสียงตกใจ
เมื่อผลออกมาหมอก็บอกฉันว่าฉันเป็นโรคหัวใจตอนนี้หัวใจของคุณกำลังจะหยุดทำงานคุณมีเวลาอีกไม่นานฉันย้ำหมอไว้ว่าอย่าให้โซวรู้และหมอก็รับปากกับฉันว่าจะไม่บอก
“ หมอครับเธอเป็นไรครับ” โซวซักถามหมอ
“ เธอแค่ ..เป็นลมเฉยๆนะครับ” หมอพูดจบหมอก็เดินจากไป
“ เป็นไงบ้างกึงยอง” โซวถามฉัน
“ ฉันไม่เป็นไรแล้วหละ” ฉันพูดแล้วน้ำตาไหล
“ ผมจะพาคุณกลับบ้านนะ” เขาพูดแล้วพยุงตัวฉันขึ้นมา
แล้วเขาก็พาฉันกลับบ้าน
เมื่อถึงบ้านฉันก็นึกถึงคำหมอ
คุณอาจจะตายได้เพราะคุณไม่ดูแลสุขภาพของคุณเลยคุณต้องทำตามที่หมอ
คุณต้องพักผ่อนให้เพียงพอ
คุณต้องกินอาหารที่บำรุงหัวใจให้มากๆหลีกเลี่ยงจากของเย็นเช่นไอติม
คุณต้องทานยาให้ตรงเวลา
เมื่อฉันนึกแล้วฉันก็ต้องเสียใจเพราะฉันไม่สามารถทำตามที่หมอบอกได้เลย
เช้า
โซวมาหาฉัแต่เช้า
“ กึงยองเธอเป็นไงบ้างอาการดีขึ้นมั้ย” เถามด้วยความเป็นห่วง
“ ดีแล้วหละ” ฉันตอบไป
“ เธอช่วยพาฉันไปทะเลหน่อยได้มั้ย” ฉันพูดอร้องให้เข้าพาไป
“ ได้สิ” เขาก็พาฉันไปที่ทะเล
“ ฉันชอบที่นี้ฉันรักที่นี้มาก” ฉันพูดกับโซว
“ ถ้าคุณชอบคุณก็มาสิผมจะพาคุณมา”เขาพูดด้วยความสมัครใจ
“ วันนี้ผมจะมาบอกคุณว่าผมจะไปอเมริกาอีกครั้งเพื่อที่จะไปเคลียงานที่โน้นให้เสร็จแล้วผมจะรีบกลับมา” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเศร้า
“ เอวอนไปด้วยใช่มั้ย” ฉันถาม
“ใช่แต่ผมจะรีบกลับมา” เขาพูดแล้วเดินจากไป
ตอนนี้โซวก็เดินทางไปแล้ว
ฉันลืมกินยามาเป็นเวลาหลายวันแล้วแต่ตัวของฉันยังไม่รู้
ฉันมาที่ทะเลทุกวันมานั่งวาดรูปหรือไม่ฉันก็มานั่งเล่นกินลมทุกวัน
เมื่อไม่นานฉันก็ตัดสินใจไปทำงานอีกครั้ง
“ เป็นไรหรือป่าวหน้าเธอดูซีดๆนะ” เสียงของชูมางที่ถามฉัน
“ ไม่เป็นไรสักหน่อยฉันคงไม่ได้แต่งหน้ามั้ง” ฉันพูดกลบ
“ ไมนะมันไม่ใช่ว่าไม่ได้แต่งหน้าแต่มันเหมือนเธอไม่สบายมากกว่า” ชูมางพูดอีกครั้ง
“ช่างมันเถอะเธอไปทำงานได้แล้ว” ฉันรีบบอกให้ชูมางไปทำงาน
ฉันเดินเล่นแถวๆที่ทำงานเรื่อยๆฉันก็เห็นดอกไม้มันจึงทำให้ฉันนึกถึงโซวและน้ำตาของฉันมันก็ค่อยๆใหล
ฉันร้องเพลงที่โซวเคยร้อง
....ไม่ว่าเธอจะอยู่ไหนสายตามองกันไม่เจอแต่ใจจะคิดถึงเสมอส่งรักให้เธอไม่ขาดหล่อหลอมด้วยหัวใจระเหยเป็นไอลอยในอากาศ......
“ กึงยองๆเธออยู่ไหน” เสียงของชูมางเรียกหาฉัน
“ ฉันอยู่นี่มีอะไรหรอ” ฉันพูดทักขึ้น
“ ฉันจะมาชวนเธอกลับบ้านกลับด้วยกันนะ” ชูมางพูด
“ ได้สิ” ฉันพูดตอบ
ฉันก็กลับถึงบ้าน
เช้าวันนี้ฉันตัดสินใจไปหาหมออีกครั้ง
ฉันให้หมอดูอาการอีกครั้งหมอบอกว่าอาการของฉันไม่ค่อยดี
ฉันจึงเดินกลับบ้าน
“ กึงยองฉันมาแล้ว” เสียงของโซว
“ โซว”
ฉันรีบวิ่งเข้าไปกอดเขา
“ ผมต้องขอโทษด้วยนะที่มาช้า” เขาพูดขึ้น
“ไม่เป็นไรหรอกคุณก็กลับมาแล้วนี่” ฉันยิ้ม
“นี่ฉันเอาหนังสือมาคืนฉันอ่านจบแล้วนะ” เขาพูดแล้วส่งหนังสือคืนให้
“ สนุกมั้ย” ฉันถาม
“ สนุกและก็เศร้าด้วย” เขาตอบ
“เราไปกินไอติมกันเถอะ” โซวชวนฉัน
“ ไปสิกำลังอยากกินอยู่พอดี” ฉันตอบรับคำ
เราสองคนกินไอติมกันอย่างอร่อยและก็คุยกันไปเรื่อยๆ
“ ไม่ได้กินไอติมนานเลยเห็นอย่างงี้แล้วคิดถึงตอนเด็กจัง” ฉันพูดขึ้น
“งั้นเราก็กินให้เต็มที่สิ” โซวพูดแล้วสั่งให้ฉันอีก2ถ้วย
พวกเราเดินหิ้วท้องออกจากร้านด้วยความอิ่ม
เราไปนั่งพักที่สวนสาธารณะ
“ ได้กินอะไรอิ่มๆพอนั่งพักแล้วมันสบายนะ” โซวพูดแล้วขำ
เมื่อคุยกันอย่างสนุกสนานฉันก็ขอกลับบ้าน
เมื่อถึงบ้านฉันก็เป็นลมล้มไปอีกครั้งคราวนี้ฉันอาการหนักอาเจียนออกมาเป็นเลือดพ่อกับแม่รีบพาฉันไปส่งโรงพยาบาล
หมอก็ได้บอกกับแม่ฉันว่าลูกคุณเป็นโรคหัวใจขั้นโคม่าแม่ฉันถึงกับเป็นลมไป
หมอยังบอกอีกว่าต้องการหัวใจมาเปลี่ยนลูกคุณจึงจะสามารถยื้อชีวิตได้
เมื่อฉันฟื้นมาฉันก็เห็นพ่อกับแม่ร้องไห้แปลว่าท่านคงรู้แล้ว
“ แม่คะพ่อคะแม่ห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกโซวนะคะ” ฉันพยายามพูดเพื่อขอร้องท่าน
“ ลูกๆเป็นอะไรมากมั้ย” แม่ฉันถามและก็ร้องไห้กันอย่างเดียว
“ ไม่แล้วคะหนูไม่เป็นไรแล้ว” ฉันพูดอย่างเข้มแข็ง
“ ลูกต้องหายนะ” แม่พูดแล้วกอดฉัน
แม่รีบกลับไปที่บ้าน
เพื่อที่จะไปเตรียมกระเป๋าเสื้อผ้าระหว่างออกมาแม่ก็พบกับโซว
“ อ่าวนี่จะไปไหนกันครับ” โซวถามแม่
“ ไปโรงพยา..ไม่มีอะไรหรอก” แม่พูดกลบเกลื่อนทันที
“ ใครๆเป็นไรบอกผมสิครับว่ากึงยองเป็นอะไร” เขาขอร้องให้แม่ฉันบอก
เมื่อโซวไปที่โรงพยาบาลเขาก็เข้าไปหาฉัน
“ กึงยองๆคุณเป็นไรมากมั้ยทำไมคุณไม่บอกผม” เขาถามฉันพร้อมร้องไห้
“ โซวคุณรู้” ฉันหันหน้าหนี
“ ผมจะช่วยคุณ” เขาพูดพร้อมจับมือฉันไว้แน่น
เขาไปถามหมอแล้วหมอก็บอกว่าต้องการหัวใจดวงใหม่
เมื่อฉันออกจากโรงพยาบาลโซวก็เฝ้าดูแลฉัน
“ โซวมานี่หน่อย” เสียงแม่ของฉันที่เรียกโซวให้ไปหา
ฉันจึงแอบฟัง
“ ผมจะเอาหัวใจของผมให้เธอเอง” เสียงของโซวที่พูดออกมา
เมื่อฉันได้ยินฉันก็ไปนอนรอที่เตียง
“ ฉันมาแล้ว” โซวพูดเสียงยาวมา
“ โซวทำไมทำไม” เสียงฉันที่ร้องไห้
“ คุณจะมาตายแทนฉันทำไมคุณห้ามตายแทนฉันเด็ดขาด”
โซวกอดฉัน
“ไม่ผมจะตายแทนคุณผมจะมายอมอยู่คนเดียวโดยไม่มีคุณ” เสียงของโซวที่ร้องไห้
“ ทำไมๆคุณต้องทำแบบนี้ด้วย” ฉันถามเขา
“ เพราะผมรักคุณไงผมรักคุณ” เสียงของโซวที่พูดมาทำให้ฉันอึ้ง
“ถ้าคุณรักฉันคุณห้ามตายแทนฉันห้ามเด็ดขาด” ฉันพูดยืนยันคำเดิม
“ ผมว่าคุณนอนเถอะพักผ่อนเถอะนะ” เขาพูดเปลี่ยนเรื่อง
“ คุณห้ามตายแทนฉันนะ” ฉันพูดย้ำอีกครั้งก่อนที่จะหลับไป
และแล้วกึงยองก็ต้องโรงพยาบาลอีกครั้ง
หมอบอกว่าเธอจะต้องผ่าตักเพื่อแลกหัวใจ
ฉันรู้ดีว่าฉันจะต้องผ่าตัดฉันจึงขอร้องให้โซวพาฉันไปทะเล
และโซวก็พาฉันไปทะเล
“หลังจากผ่าตัดครั้งนี้เห็นหมอบอกว่าได้หัวใจของคนอื่นมา” โซวพูดด้วยคำที่โกหก
“ ฉันรักคุณนะโซวคุณคือคนที่ฉันรักมาตลอดคุณต้องรักฉันแล้วห้ามลืมฉันนะ” ฉันพูดแล้วร้องไห้
“ ผมรักคุณเหมือนกันนะและผมก็จะรักคุณตลอดไปผมจะอยู่ในใจของคุณตลอดไปผมอยากให้คุณรู้ไว้ว่าถ้าคุณไม่มีใครขอให้คิดไว้ว่ายังมีผมอีกคน”
และกึงยองก็เข้ารับการผ่าตัดซึ่งคนที่ให้หัวใจครั้งนี้ก็คือโซวโดยที่ฉันไม่รู้เลยว่าโซวมอบหัวใจให้กับฉันซึ่งเขาเป็นคนบอกเองว่าเป็นคนอื่น
เวลาผ่านไป4 ชั่วโมงการผ่าตัดก็สำเร็จ
เมื่อฉันลืมตาขึ้นมาฉันก็เรียกหาโซวเป็นคนแรก
“ แม่คะโซวหละคะโซวอยู่ไหน” ฉันถามด้วยเสียงที่ดัง
“ คือว่าโซวเขาสละหัวใจให้กับลูก”
เมื่อฉันได้ยินฉันแทบจะบ้าทำไมทำไมกันทำไมเขาต้องมาตายแทนฉันด้วยฉันรักเธอฉันขาดเธอไปไม่ได้จริงๆ
“ เขาฝากจดหมายไว้ให้ลูก” แม่พูดพร้อมยื่นจดหมายให้
ฉันรีบอ่านทันที
ผมขอโทษที่ผมต้องโกหกคุณถึงแม้ว่าการไปของผมในครั้งนี้มันจะไม่มีวันกลับแต่ผมก็ดีใจที่ผมได้ทำให้คนที่ผมรักได้ยังอยู่
ผมรักคุณนะผมจะไม่มีวันลืมคุณแน่ผมขอให้ชาติหน้าเราได้เจอกันอีกนะ..............รัก .........โซว
เมื่อฉันอ่านจบฉันร้องไห้แทบไม่หยุด
เขายังได้ฝากคำพูดไว้ว่า
เขายังอยู่ในใจของฉันตลอดไป
หลังจากที่ฉันได้หายดีแล้วฉันก็ยังคิดถึงเขาอยู่เสมอฉันกลับไปที่ทะเลอีครั้งเพื่อที่จะทิ้งอดีตไว้ที่นี้
ฉันตัดสินใจแล้วว่าฉันจะไปเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกาก่อนที่ฉันจะไปฉันอยากจะฝากกลอนบทนี้ไว้
ในวันนี้รู้สึกคิดถึง
ใจละเมอเพ้อถึงเธอเมื่อลาฝัน
ในวันนี้ฉันและเธอต้องจากกัน
ไม่เห็นเธอใจของฉันแทบขาดใจ
อยากจะบอกว่าใจฉันยังรักเธอ
ไม่ได้เจอหรือเธอนั้นจะอยู่ไหน
แม้ว่าเธอจะห่างฉันที่แสนไกล
ถึงอย่างไงฉันจะรักเธอตลอดกาล.
ผลงานอื่นๆ ของ Winter Lo[V]esong ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Winter Lo[V]esong
ความคิดเห็น