2014 ปีแห่งความเจ็บปวด
ผู้เข้าชมรวม
722
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ความรักมันเป็นสิ่งที่ทุกคนต่างโหยหา ใช่!!! ฉันคิมฮโยยอนก็เป็นเช่นนั้น ฉันมีความฝันที่จะแต่งงานและเป็นแม่บ้านที่ดีของสามี แต่ด้วยความฝันของฉันมันทำให้ฉันต้องตัดใจเรื่องความรักเพื่อจะทุ่มเทให้กับความฝัน เช่นเดียวกับเพื่อนๆของเธอทั้งแปดคนที่ต่างต้องอดทนเพื่อทำให้บรรลุเป้าหมาย และวันนี้ก็มาถึงวันที่เธอมาถึงจุดที่เธอได้หวังไว้ นั่นก็คือการเป็นศิลปินที่โด่งดังไปทั่วโลก มีกลุ่มแฟนคลับมากมาย กว่าเธอจะผ่านมาถึงจุดนี้ได้พวกเธอทั้งแปดคนต้องโดนทั้ง ปาไข่ ปาแท่งไฟ โดนโห่ไล่ โดนปิดไฟใส่ โดนกระแสแอนตี้ต่างๆนานา หลายคนคงสงสัยว่าผู้หญิงตัวเล็กทั้งเก้าคนผ่านจุดนั้นมาได้อย่างไร……คงบอกได้แค่ว่าเพราะความรักคะ ความรักจากครอบครัว และแฟนๆที่รักเรา และปีนี้ก็เข้าช่วงปี2014 ปีที่วงของพวกเราเดบิวต์มาได้ครบเจ็ดปี และปีเบญจเพศของสมาชิกทั้งหกคน ใครจะไปรู้ละว่าปีนี้จะมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในขณะที่ยังไม่ถึงครึ่งปีเลยด้วยซ้ำ เรื่องราวต่างๆมันเกิดขึ้นโดยไม่มีใครตั้งตัว เมื่อมีการเปิดเผยซึ่งการเดทของเมมเบอร์สองคนนั้นก็คือ ซูยอง และ ยุนอา ในช่วงเดือนมกราคม นั่นยังเป็นสิ่งทุกคนต่างดีใจ แต่เรื่องราวร้ายๆก็ยังเกิดขึ้นในเดือนถัดมา เมื่อมีค่ายต่างๆและวงรุ่นน้องต่างค่ายตั้งใจแต่งเพลงที่จะเหน็บแนมพวกเรา พวกเราต้องทนกระแสวิจารณ์ต่างๆ และตามมาด้วยเมษายนเป็นเดือนที่เราจบการโปรโมทอัลบัม และเป็นเดือนที่เรื่องราวความรักของฉันคิมฮโยยอนและทิฟฟานี่ที่ถูกเก็บไว้ก็ได้ถูกเปิดเผยมา มันคงจะน่าดีใจสินะถ้ามันเป็นเรื่องการเดท เรื่องราวของทิฟฟานี่นะใช่เรื่องเดทคะ แต่สำหรับฉันมันคือการเลิกลา มันคือวันที่ความรักของฉันและเขาช่วยกันประคับประคองมาตลอดสองปี ฉันเก็บความลับเก่งใช่มั้ยละคะ
ทุกคนคงได้ติดตามข่าวแล้วใช่มั้ยคะ เรื่องที่ฉันถูกผู้ชายคนหนี่งแจ้งความจับข้อหาที่ฉันไปทำร้ายร่างกายเขา นั่นละคะเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันเลิกกับเขา มันทำให้ฉันรู้ว่าสองปีที่ฉันคบกับเขามันไม่มีประโยชน์อะไรเลย ฉันได้แต่ตั้งคำถามว่าแล้วสองปีที่ผ่านมาละ มันคืออะไร มันเจ็บปวดมากนะคะ แต่ฉันก็พยายามจะไม่แสดงออก ฉันพยายามจะทำหน้าเรียบๆนิ่งๆเพื่อปกปิดความเจ็บปวด ใครจะไปรู้ละว่าภายใต้ใบหน้าเรียบๆนิ่งๆมันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด หัวใจเต็มไปด้วยน้ำตา แต่ที่ฉันเลือกจะเก็บความเจ็บไว้ เพราะฉันแคร์แฟนๆ และเพื่อนฉันที่กำลังอินเลิฟอยูในขณะนี้ ฉันไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วงคะ อย่างที่ฉันเคยบอกมาตลอดว่า ถ้าฉันร้องไห้ ใครล่ะจะเป็นคนปลอบโยนเมมเบอร์ และแฟนๆ เหตุการณ์ครั้งนี้มันทำให้ฉันยอมแพ้ต่อความรักคะ ฉันเลือกที่จะอยู่กับแฟนๆคะ ตอนนี้ฉันก็เชื่อแล้วละคะว่าอาถรรพ์เลขเจ็ดกับอาถรรพ์เบญจเพศนั้นมีอยู่จริง
29 มีนาคม 2014
วันนี้เป็นที่อากาศแจ่มใส่เหมาะสำหรับการเที่ยว หรือการพาคู่รักไปเดท และมันก็เป็นสิ่งที่เหล่าเมมเบอร์โซชิที่กำลังอินเลิฟกำลังจะทำกันในวันนี้
“จะไปเดทอีกลัวสินะ” ผู้เป็นลีดเดอร์เอยถามสาวผมบลอนหนึ่งในสมาชิกที่อยู่หอกับเธอ
“ใช่ อิจฉาอ่อ” ฮโยยอนหันหน้ามาถามแทยอนที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่
“ไม่เคยอ่ะ ฉันมีแฟนๆก็พอละ” แทยอนยิ้มส่งไปให้ฮโยยอนในทันที
“ฟานี่ละ!! ”ฮโยยอนพูดพร้อมกับหันมองหาเมมเบอร์อีกคน
“คุณรับพาไปเที่ยวนะ” ฮโยยอนยิ้มและพยักหน้าให้ทันที
“นี่ จะเก็บความลับไปถึงเมื่อไหร่” คำพูดของแทยอนทำให้ฮโยยอนถึงกับหยุดยืนอยู่กับที่
“ไม่รู้สิ คงจะเร็วๆนี่อะแหละ” ฮโยยอนยิ้มแหยะให้แทยอน
“อื้ม ฉันไม่ได้ว่าเธอกับเรื่องเจย์คิมหรอกนะ แต่ฉันจะบอกครั้งสุดท้ายว่า ก่อนที่จะเปิดเผลให้แฟนๆได้รู้ เธอควรมั่นใจก่อนว่าคนของเธอน่ะดีพอให้แฟนยอมรับหรือยัง” แทยอนลุกขึ้นพร้อมกับใช้มือตบบ่าฮโยยอนเบาๆก่อนจะเดินขึ้นห้องเธอ มีเพียงฮโยยอน ที่ได้แต่ยืนคิดถึงคำพูดของแทยอน แทยอนมักจะพูดกับเธอเสมอตั้งแต่วันแรกที่เธอตัดสินใจคบหากับเจย์คิม ทุกๆวันแทยอนจะพูดประโยคนี้ให้ฉันเสมอ และมันมักจะเป็นโยคที่เหมือนแฝงไปด้วยคำบอกเล่ามากมาย จนบางครั้งฮโยยอนก็คิดว่าแทยอนอาจจะได้รู้บางเรื่องเกี่ยวเจย์คิมมา
31 มีนาคม 2014 วันเกิดเหตุ
“จะไปเที่ยวกับเจย์คิมอีกแล้วหรอ เสียงคนคุ้นเคยเอยถาม” ฮโยยอนพยักหน้าให้แทนคำตอบ แต่แปลกที่ครั้งนี้แทยอนไม่ได้กล่าวห้ามหรืออะไรเลย ฮโยยอนจึงออกมายังรถของเธอ ก่อนที่จะตรงไปยังบ้านของเจย์คิมผู้ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของเธอ เธอมักจะไปบ้านเขาได้โดยไม่มีข้ออ้าง แต่ฉันกับเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์พิเศษกันหรอกนะ ก็แค่ไปนั่งกินข้าว และไปปรึกษาเรื่องงานแค่นั้นแหละ
“บ้านเงียบจังแหะ” ฮโยยอนพูดพร้อมกับเดินมานั่งยังโซฟาตัวประจำที่เธอมาทุกจะมานั่งทุกครั้งที่มาบ้านของเขา
“อยู่ข้างบนแน่เลย” ฮโยยอนพูดจบเธอเดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน เธอก็พบเขาอยู่จริง เขาหันมามองหน้าเธอก่อนยิ้ม
“มาพอดีเลย ผมเตรียมอาหารไว้ให้คุณมากินสิ” เจย์คิมพูดพร้อมกับพาฮโยยอนมานั่งยังโต๊ะอาหาร ฮโยยอนมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ
“ไม่ชอบหรอ” เจย์คิมเอยถามเมื่อเห็นใบหน้าของฮโยยอน
“ป่าวอ่ะ พอดีมีเรื่องเคลียดนิดหน่อย” ฮโยยอนยิ้มให้เจย์คิมทันที แต่ดูเหมือนว่าเจย์คิมจะไม่เชื่อคำพูดของเธอ เขาทำสีหน้าโกรธอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารและเดินไปในทันที ฮโยยอนได้แต่มองตามหลังเขาอย่างไม่เข้าใจ
“โกรธอะไรอ่า กลับมาคุยกันก่อนสิ” ฮโยยอนเอยเรียกแต่ดูเหมือนเจย์คิมจะไม่ได้สนใจเธอเลย ฮโยยอนได้แต่ยืนมองก่อนที่ในหัวเธอจะคิดอะไรออก นั่นก็คือมุกเก่าๆที่เธอมักจะใช้กับเมมเบอร์ของเธอ เธอจึงตรงไปยังระเบียง
“ฉันจะกระโดดแล้วนะ ถ้านายไม่สนใจกัน” ฮโยยอนกระโกนออกมาสุดเสีย เมื่อเจย์คิมได้ยินเขาจึงหันกลับมามองเธอ
“จะกระโดดจริงๆนะ” ฮโยยอนก้าวขาออกไปในอากาศ และทำท่าจะปล่อยมือจะลาวระเบียง แต่เจย์คิมก็มาดึงเธอไว้ในทันที แต่ด้วยแรงดึงของเขาทำให้ฮโยยอนตกใจจนมือของเธอตีเข้าตรงเบ้าตาของเจย์คิมเต็มๆ จนเจย์คิมล้มลงไปกองกับพื้น ฮโยยอนตกใจทำอะไรไม่ถูก เธอรีบพยุงเข้าในทันที เจย์คิมมองเธอก่อนจะเดินออกไปด้วยความอารมณ์เสีย
ณ หอพักโซชิ
ฮโยยอนเดินเข้ามาภายในบ้านด้วยสีหน้าไม่ดีมากนัก นั่นทำให้แทยอนที่อยู่บ้านต้องเอยถาม
“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้นละ” แทยอนเอยถาม ฮโยยอนได้แต่ส่ายหน้า เธอยิ้มให้แทยอนก่อนจะเดินขึ้นห้องพักของเธอ
เรื่องราวต่างๆเหมือนจะไม่มีอะไร แต่มันกลับเกิดขึ้นในวันรุ่งขึ้น เมื่อฮโยยอนได้ถูกตำรวจเรียกตัวไปยังโรงพัก เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีทำร้ายร่างกาย
“ฮโยยอน มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมตำรวจถึง” แทยอนเอยถามเมื่อทั้งแทยอน ฮโยยอนและเมเนเจอร์ของเธอต่างเดินทางมายังโรงพักทันที ฮโยยอนไม่ได้ตอบอะไรแทยอน ในหัวเธอมีแต่เรื่องเมื่อคืน ในใจภาวนาว่าคงไม่ใช่เขาที่แจ้งความจับเธอ แต่เมื่อมาถึงความหวังของเธอก็จบลงทันที เมื่อคนที่แจ้งจับเธอก็คือเจย์คิม ผู้ที่ได้ชื่อว่าคนรักของเธอ และเขาก็อยู่ตรงหน้าเธอ ฮโยยอนมองใบหน้าผู้ชายที่ได้ที่ชื่อว่าเป็นคนรักอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอ จะนั่งลงข้างๆเขา
“เอาล่ะ คุณจะรับข้อกล่าวหาหรือไม่” ตำรวจเอยถามในทันที ฮโยยอนพยักหน้าตอบรับนั่งสร้างความมึนงงให้กลับแทยอนและเมเนเจอร์
“มันเป็นอย่าที่เขาเล่านั่นละคะ เพียงแต่มันแค่อุบัติเหตุ” ฮโยยอนพูดพร้อมกับหันหน้าไปมองเจย์คิม
“งั้นผมจะลำดับเหตุการณืให้ฟังนะคับ” นายตำรวจจัดการเล่าเหตุการณ์ที่เจย์คิมได้บอกไว้ มันทำให้แทยอนและเมเนเจอร์เข้าใจทันที
“ผมว่า ผมคิดๆดูแล้วเธอไม่ได้ตั้งใจหรอกครับ ผมขอถอนแจ้งความ” เจย์คิมเอยพร้อมกับหันไปมองหน้าฮโยยอนที่แทบจะร้องไห้ออกมา
“จากที่คุณเล่า มันก็เป็นเพียงอุบัติเหตุจริงๆ แต่ผมจะขอเตือนพวกคุณว่าอย่าเล่นเกินเลยกันอีกนะครับ” ฮโยยอนพยักหน้ารับก่อนที่จะถูกปล่อยตัวออก เธอเลือกที่จะไม่หันกลับไปมองหน้าชายคนนั้นอีก เธอเลือกที่จะหลีกหนีจากเขาและเดินขึ้นรถไปในทันที
“ผู้ชายอะไร แค่เรื่องนี้แค่นี้ต้องแจ้งความด้วย เลวจริงๆ” เมเนเจอร์พูดด้วยความหงุดหงิด ฮโยยอนทำได้แค่เพียงนั่งอยู่ในรถกเงียบๆ แทอยนมองหน้าเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วงก่อนใจใช้ของตัวเองคว้ามือฮโยยอนมาจับไว้บนตัก
“ฉันโอเค ไม่เป็นไร” ฮโยยอนพูดพร้อมกับส่งยิ้มไปให้แทยอนอย่างที่เธอเคยทำ
ณ หอพักโซชิ
“ฮโย เธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย” ซันนี่เอยถามเมื่อฮโยยอนและแทยอนกลับมาถึง ฮโยยอนหันไปมองเพื่อนเธอทั้งแปดคนพร้อมกับส่งยิ้มให้
“`พวกแกมาทำอะไรกันเนีย ไม่ไปเดทกันหรือไงห๊ะ ไปๆกลับกันไปได้ละ ดึกแล้ว ฉันไปนอนแล้วง่วงจะตาย” ฮโยยอนพูดจบเธอก็เดินขึ้นห้องไปทันที ทุกคนต่างหันมามองหน้ากันทันที
“ดึกอะไรกัน นี่เที่ยงวันเองนะ ท่าจะเป็นมาก!! ” ซูยองพูดพร้อมกับดูนาฬิกาในทันที ทุกคนต่างถอนหายใจด้วยความเป็นห่วงฮโยยอน
22.30 น.
“จะไปไหนหรอ” แทยอนเอยถามเพื่อนสาวทันทีเห็นฮโยยอนเดินลงมาจากห้อง
“ไปเดินนะ ไปก่อนนะ” ฮโยยอนพูดจบก็เดินออกไปในทันที แทยอนเห็นสีหน้าของฮโยยอนไม่ดีเธอจึงลุกขึ้นไปหยิบเสื้อกันหนาวและรีบตามฮโยยอนไปทันที
“ฮโยยอน!!” แทยอนตะโกนเรียกเพื่อนของเธอ ฮโยยอนหันมามองด้วยความสงสัยทันที
“ ฉันขอไปเดินเล่นด้วยคนนะ อยู่เฉยๆมันก็เหงานะ ” ฮโยยอนพยักหน้ารับก่อนจะหันกลับมาเดินต่อ โดยมีแทยอนเดินตามหลังไม่ห่างไปไหน แทยอนทำได้เพียงมองแผ่นหลังของเพื่อนสาวคนนี้อยู่ห่างๆ แทยอนเป็นห่วงฮโยยอนมากเหลือเกิน เป็นห่วงมากกว่าคนอื่น เป็นห่วงที่สุดในวง เพราะฮโยยอนเป็นคนเก็บความรู้สึกเก่ง เวลาเสีย ก็จะบอกว่าไม่เป็นไร และยิ้มให้กับเพื่อนๆ ทั้งๆที่ตัวเองต้องแอบมาร้องไห้ในห้องน้ำคนเดียว
ตึ๊ด~ตึ๊ด~
ฮโยยอนหยุดยืนนิ่งในทีที่โทรศัพท์ของเธอสั่น แต่เมื่อเธอเห็นชื่อผู้โทรเข้าคือเจย์คิม ฮโยยอนได้แต่มองก่อนจะเดินต่อและปล่อยให้มันดังไปเรื่อยๆ มีเพียงแทยอนที่มองด้วยความไม่เข้าใจ
ตึ๊ด~ตึ๊ด~
เสียงโทรศัพท์ยังดังต่อเนื่องแต่ฮโยยอนยังเดินไปโดยไม่สนใจโทรศัพท์ในมือเธอเลย แทยอนที่พอจะรู้ว่าใครคือคนที่โทรเข้ามา แทยอนจึงวิ่งเข้าไปและคว้าโทรศัพท์ฮโยยอนมา
“จะทำอะไรอะ”ฮโยยอนมองความแปลกใจ เมื่อแทยอนเอาโทรศัพท์ของเธอไป
“ถ้าไม่อยากรับ ก็ทิ้งมันไปซะ” แทยอนพูดจบเธอก็ปาโทรศัพท์ของฮโยยอนทิ้งไปในแม่น้ำทันที ฮโยยอนมองตามด้วยความตกใจ
“เธอนี่มัน ”ฮโยยอนพูดก่อนจะหัวเราะออกมาในทันที
“ หัวเราะอะไรอ่ะ” แทยอนทำหน้าสงสัย แต่จริงๆเธอก็ดีใจที่ทำให้เพื่อนของเธอหัวเราะออกมาได้
“ก็เธอนะแกล้งฉันเพราะ ไม่มีทิฟฟานี่ไว้ให้แกล้งแล้วใช่มั้ย” ฮโยยอนพูดพร้อมกับขำออกมา
“แกล้งฟานี่ ก็โดนคุณว่านะสิ กลับกันเถอะหนาวละ” แทยอนพูดจบก็คว้ามือฮโยยอนไปในทันที ฮโยยอนได้แต่มองมายังจุดที่แทยอนโยนโทรศัพท์ของเธอ
4 เมษายน 2014
เรื่องทุกดำเนินมาตามปกติ ทั้งเรื่องการทำงาน และการใช้ชีวิตยังคงดำเนินไปในสิ่งควรจะเป็น รวมถึงความเจ็บปวดของฮโยยอน แต่สำหรับวันนี้มันไม่ปกติเท่าที่ควรจะปกติ เมื่อสื่อสำนักต่างๆในเกาหลีต่างตีแผ่ข่าว การเดทกันระหว่าง ทิฟฟานี่และนิชคุณ รวมถึงข่าวของฮโยยอนที่ได้เลิกกับเจย์คิม
“พวกเธอคงจะได้เห็นข่าวแล้วใช่มั้ย” เจ้านายของพวกเธอเอยถาม เมื่อวันนี้เขาได้นัดพวกเธอมาพบยังบริษัท
“ทราบแล้วคะ” ทุกต่างเอยตอบพร้อมกันยกเว้นฮโยยอนที่ยังคงนั่งเหม่อลอยอยู่
“ต้องขอบใจทิฟฟานี่มากนะ ที่ตดสินใจเปิดเผยความสัมพันธ์เพื่อปกป้องฮโยยอน” ชายผู้ได้ชื่อเป็นหัวเอยขึ้น ทิฟฟานี่พยักหน้ารับและหันไปมองเพื่อนสาวของเธอที่ยังคงนั่งเหม่อลอย
“มันหน้าของฉันอยู่แล้วคะ ฉันไม่มีทางทิ้งเพื่อนให้อยู่อย่างลำบากหรอกคะ” ทิฟฟานี่ตอบและยกยิ้มขึ้น แต่เมื่อฮโยยอนได้ยินคำพูดทั้งหมด เธอตัดสินลุกขึ้นยืนทันที ทุกคนต่างมองด้วยความมึนงง
“ฉันขอไปเข้าห้องน้ำนะคะ” ฮโยยอนไม่รอคำตอบเธอเดินออกไปในทันที แต่จุดหมายของเธอกลับไม่ใช่ห้องน้ำ เธอเดินออกมาจากบริษัท ก่อนจะเดินไปตามทางเรื่อยๆ โดยไม่สนใจว่าจะมีใครเห็นเธอ ฮโยยอนนั่งลงบนโต๊ะไม้ของสวนสาธารณะที่ไม่ไกลจากบริษัทมากนัก ในหัวหัวของเธอมีเรื่องราวมากมายตีกันอยู่ในหัว
“นั่งอยู่คนเดียวไม่เบื่อหรอ” เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้น ฮโยยอนหันไปมองเขาด้วยความตกใจ
“แล้วโอ้ปป้าละคะ ไม่กลัวคนจำได้หรอ” ฮโยยอนเอยถามเมื่อคนที่ทักเธอคืออึนฮยอกรุ่นพี่คนสนิทของเธอ
“ไม่อ่ะ อะน้ำ” อึนฮยอกพูดพร้อมกับส่งกระป๋องน้ำอัดลมให้กับฮโยยอน ฮโยยอนรับมาแต่ก็ยังคงไม่พูดอะไร
“เคลียดเรื่องนั้นอยู่หรอ” ฮโยยอนพยักหน้าตอบรับในทันที
“อะ ดูซะเผื่อจะหายเคลียด” อึนฮยอกยื่นโทรศัพท์มือถือของตัวเองให้กับฮโยยอน ฮโยยอนรับมาแต่เธอก็ต้องเงยหน้าขึ้นมองอึนฮยอกในทันที เพราะภาพพักหน้าจอของโทรศัพท์เขาเป็นรูปของเธอ
“อ่อ โอปป้าชอบโทรสีของภาพนะ มันสวยดี ” ฮโยยอนพยักหน้ารับก่อนจะกดโทรศัพท์ของอึนฮยอก
“นั่นนะ มันเป็นทวิตที่ให้กำลังใจเธอ” อึนฮยอกพูดพร้อมกับชี้ที่มือถือตนเอง ฮโยยอนค่อยๆไล่อ่าน น้ำตาที่สะสมไว้ค่อยๆไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“ร้องไห้ออกมาเลย เอามันออกมาให้หมด” อึนฮยอกพูดพร่างใช้ผ้าเช็ดหน้าของตนซับน้ำตาให้ฮโยยอน ฮึนฮยอกไม่ได้พูดอะไรต่อเขาเลือกที่จะนั่งข้างฮโยยอนและนั่งดูฮโยยอนร้องไห้
“หมดแรงแล้วหรอ” อึนฮยอกเอยถาม เมื่อเห็นฮโยยอนหยุดร้องไห้
“โอปป้า ห้ามบอกใครนะ ว่าฉันร้องไห้หนักขนาดนี้” ฮโยยอนหันไปมองอึนฮยอกในทันที
“ได้สิ ไม่บอกใครหรอก แต่ถ้าเธอกลับตอนนี้ พวกเขาก็รู้กันอยู่ดีว่าเธอร้องไห้” อึนฮยอกพูดพร้อมกับชี้หน้าฮโยยอนเพื่อให้เธอรู้ตัวว่าตอนนี้ตาเธอบวมขนาดไหน
“ทำไงละที่นี่” ฮโยยอนใช้มือทั้งสองข้างจับไปที่แก้มของเธอทันที
“โทรบอกพวกเขาสิ ว่าเธอออกไปทำธุร อะไรที่ไหนก็ได้” อึนฮยอกพูด ฮโยยอนทำท่าจะล้วงเอาโทรศัพท์เธอก็ต้องชะงักในทันที
“ฉันไม่มีโทรศัพท์คะ” ฮโยยอนเอยพูดเมื่อเธอนึกขึ้นได้ว่าโทรศัพท์ของเธอถูกแทยอนทิ้งลงน้ำไปเป็นที่เรียบร้อย
“เธอนี่นะไม่มีโทรศัพท์!!” อึนฮยอกพูดพร้อมกับแสดงสีหน้าตกใจ
“แทยอนโยนมันทิ้งน้ำไปแล้ว” ฮโยยอนพูดพร้อมกับทำหน้ามุ้ย แต่คำพูดของเธอกับทำให้อึนฮยอกหัวเราะออกมา
“อะนี่ โทรสิ” อึนฮยอกยื่นโทรศัพท์ให้กับคนตรงหน้า ฮโยยอนรับไปก่อนจะโทรหาเมเนเจอร์ของเธอทันที
“นี่คะ” ฮโยยอนพูดพร้อมกับยื่นโทรศัพท์คืนให้กับอึนฮยอก
“ไม่ต้องอะ เธอเก็บไว้ใช้เถอะ พี่ให้ยืม” อึนฮยอกโบกมือและพูดกับฮโยยอน
“แล้วโอปป้าละคะ จะใช้อะไร” ฮโยยอนเอยถามด้วยความสงสัย แต่เธอก็หายสงสัยทันที เมื่ออึนฮยอกหยิบโทรศัพท์อีกเครื่องออกมาจากกระเป๋าและชูให้ฮโยยอนดู
“พี่มีสองเครื่องนะ” ฮโยยอนพยักหน้ารับก่อนจะสำรวจโทรศัพท์ในมือเธอ
“ไปนั่งรถเล่นมั้ย” อึนฮยอกเอยถามด้วยเสียงแผ่วเบา ฮโยยอนได้แต่ทำหน้าสงสัย
“ไปเถอะไป!!” อึนฮยอกไม่รอคำตอบเขาคว้ามือเธอไปขึ้นรถเขาทันที
2 ชั่วโมงผ่านไป
“ถึงบ้านแล้ว” อึนฮยอกเอยบอกเมื่อตนขับรถมาถึงหอพักของฮโยยอน
“หลับหรอกเนีย” อึนฮยอกพูดเมื่อหันไปก็พบฮโยยอนหลับไปเรียบร้อย เขาจ้องใบหน้านั่นอย่างเนินนาน ก่อนจะค่อยๆใช้มือปัดผมที่ปกปิดใบหน้าของเธอ
“เฮ้อ~~ เมื่อไหร่เธอจะรู้ใจพี่สักทีนะ” อึนฮยอกพูดพร้อมกับค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปใกล้กับใบหน้าของฮโยยอน ก่อนจะประกับริมฝีปากของตนเข้ากับของฮโยยอนอย่างแผ่วเบา
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
อึนฮยอกรีบผละออกจากริมฝีปากของฮโยยอนทันที เขาหันไปมองตามเสียงเขาก็พบยูริยืนทำหน้าโกรธอยู่
“เปิดประตูรถเดี๋ยวนี้เลยดอปป้า!!!” ยูริตะโกนสุดเสียงเมื่อเธอได้เห็นภาพที่รุ่นพี่ร่วมค่ายล่วงเกินเพื่อนสาวของเธอ อึนฮยอกตกใจก่อนจะปลดล็อกรถทันที ยูริประตูกเข้ามาก่อนจะส่งสายตาอาฆาตให้กับอึนฮยอก
“ฮโย ตื่นๆ ตื่นๆ” ยูริเขย่าตัวเพื่อนเพื่อเรียกให้ตื่น
“อื้อ~~ อะไรรร” ฮโยยอนค่อยๆลืมตาขึ้นก็พบกับยูริก่อนจะหันไปมองหน้าอึนฮยอกในทันที
“ถึงแล้วหรอ ทำไมโอปป้าไม่ปลุกฉันละ” ฮโยยอนหันไปถามด้วยงั่วเงีย
“เขาคงอยากดูเธอหลับมั่ง” ยูริพูดพร้อมกับมองหน้าอึนฮยอกด้วยความโกรธ ฮโยยอนเมื่อได้ยินคำตอบเธอก็หันมามองยูริด้วยความงงทันที
“ไปๆ เธอน่ะเข้าบ้านไปได้แล้ว ฉันเรื่องสำคัญ!!`คุยกับโอปป้าที่เคารพสักหน่อย!!” ฮโยยอนหันมามองหน้าคนทั้งสองก่อนที่เธอจะเดินเข้าบ้านไปในทันที อึนฮยอกใช้ช่วงโอกาสที่ยูริหันไปมองฮโยยอนเขารีบปิดประตูรถแต่ยูริก็รู้ตัวทันเธอรั้งประตูไว้ก่อนจะยิ้มให้อึนฮยอก
“ไม่ต้องเลย โอปป้า!!” `ยูริพูดพร้อมกับมองหน้าอึนฮยอกอย่าหารื่อง อึนฮยอกได้แต่ยิ้มแหยะให้
“บอกฉันมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ว่าโอปป้าคิดแบบนั้นกับฮโยตั้งแต่เมื่อไหร่” ยูริถามขึ้นพร้อมกับขึ้นไปนั่งบนรถทันที
“ก็ตั้งแต่พวกเธอเดบิวต์อะแหละ พี่ก็คิดกับฮโยแบบพี่น้องมาตลอด” คำตอบของอึนฮยอกทำให้ยูริหันไปมองตาขวางใส่เขาทันที
“หึ ใครเชื่อก็บ้าละ พี่น้องอะไรเขาจูบกันห๊ะ!! บอกความจริงมา!!!!” ยูริตะโกนถามด้วยความโมโห
“เออๆ ก็ได้ ก็ตั้งแต่พวกเธอเดบิวต์อะแหละ” อึนฮยอกยอมที่จะเล่าทุกอย่างให้ยูริฟังว่าเขาแอบชอบฮโยมาตั้งแต่พวกเธอเดบิวต์ใหม่ๆ
“ทำไมโอปป้าไม่บอกเธอละ” ยูริเอยถามด้วยน้ำเสียงเรียบ
“เมื่อสองปีก่อน ตอนที่ฮโยเริ่มรู้จักเจย์คิม พี่ตัดสินใจว่าจะบอกทุกอย่างกับฮโย แต่วันนั้นพี่ได้เจอกับแทยอน แทยอนบอกกับพี่ประโยคหนึ่ง พี่เลยตัดสินใจว่าจะเก็บให้มันเป็นความลับต่อไป” ยูริหันมามองหน้าอึนฮยอกด้วยความสงสัย
“แทยอนพูดอะไรกับพี่คะ” ยูริเอียงคอถามด้วยความสงสัย
“…… ถ้าเรารักอะไรสักอย่างมากจริงๆ เราต้องหัดเรียนรู้ที่จะปล่อยมันไป” อึนฮยอกพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา คำพูดของเขามันสร้างความเงียบได้ในทันที ยูริหันมามองหน้าอึนฮยอกก่อนที่จะเดินลงจากรถในทันที เอเดินตรงมายังห้องนั่งเล่นของบ้านที่คิดว่าแทยอนจะอยู่
“เธอรู้มาตลอดมาอึนฮยอกโอปป้าคิดอะไรกับฮโย….” ยูริเอยพูดขึ้น แทยอนที่นั่งอ่านหนังสือสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆหันมามอง
“เธอพูดประโยคนั้นกับโอปป้าทำไมกัน!!” ยูริทำหน้าสงสัย
“ประโยคอะไร??” แทยอนเอยถามหร้อมกับลุกขึ้นยืนทันที
“ก็ไอ้ประโยคบ้าๆของเธอไง ประโยคที่มันทำให้ฉันต้องสูญเสียคนสำคัญไปไง” ยูริพูดพร้อมกับเดินมายืนตรงหน้าแทยอนทันที
“ฉันก็แค่เป็นห่วงฮโย” แทยอนอธิบายพร้อมกับหยักไหล่
“หึ ความจริง!?” ยูริเอยถามด้วยน้ำเสียงเข้ม ทำให้แทยอนตกใจเล็กน้อย
“ฉันก็แค่ไม่อยากให้มีข่าวรักร่วมค่าย มันจะพาให้คนอื่นดูวงเราไม่ดี แล้วฉันก็กลัวว่าอึนฮยอกโอปป้าจะดูและฮโยยอนไม่ดีแค่นั้น!!!” แทยอนอธิบายทุกอย่างออกมา ก็เธอไม่คิดนี่ว่าอยู่ๆไปเจย์คิมจะเป็นแบบนี้
“ฮโยโตแล้วนะ ฮโยมีสิทธิที่จะเลือกว่าเธอจะรักใคร จะคบใคร จะทำอะไร ไม่ใช้ให้เธอต้องมาขีดเส้นให้” ยูริพูดพร้อมกับมองหน้าแทยอนคนที่เคยทำให้เธอเสียคนรักไป
“ฉันเป็นหัวหน้าวงนะ” แทยอนเอยบอกด้วยน้ำเสียงเข้ม
“เลิกใช้ความเป็นหัวหน้าทำร้ายหัวใจเพื่อนสักทีได้มั้ยแทยอน!!” ยูริเอยพูด แทยอนได้แต่ยืนนิ่งกับคำพูดของยูริ
“ให้ฉันเป็นคนเดียวและคนสุดท้ายที่เธอจะทำร้ายหัวใจ ขอร้องละปล่อยให้ฮโยตามหาหัวใจของตัวเองเถอะ ” ยูริทิ้งคำพูดสุดท้ายก่อนที่เธอจะเดินขึ้นไปบนห้องทันที แทยอนได้แต่ยืนนิ่งด้วยความรู้สึกผิดที่ทำกับยูริไว้เมื่อสี่ปีก่อน
4 ปีก่อน
“นัดฉันมาพบมีอะไรหรอ คุณ” ยูริเอยถามนิชคุณ
“สวยมั้ย” นิชคุณพูดพร้อมกับเปิดกล่องแหวนให้คนตรงหน้า ยูริมองแหวนวงนั่นก่อนจะปิดกล่องทันที
“งั้นๆอะ” ยูริพุดขึ้นพร้อมกับมองหน้านิชคุณ นิชคุณพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกไปทันที
“นี่!!! สร้อยเส้นเดียวก็พอแล้ว แหวนนะฉันใส่ไม่ได้ฉันใส่นักข่าวก็เล่นงานตายเลย ตาซื่อบื้อ!!” ยูริตะโกนตามนิชคุณทันที
ณ หอพักโซชิ
“เป็นอะไร หน้ามุ้ยกลับมาเชี่ยว” แทยอนเอยถามยูริทันที เมื่อเดินเข้าพร้อมพร้อมกับทำหน้ามุ้ย
“ป่าวอะ” ยูริพูดพร้อมกับนั่งลงข้างๆแทยอน
“เรื่องนิชคุณอีกแล้วสินะ” ยูริพยักหน้ารับ ก่อนจะมองหน้าแทยอน
“ขึ้นไปนอนเถอะ พรุ่งนี้มีงานนะ” ยูริไม่พูดอะไร เธอพยักหน้ารับก่อนจะเดินขึ้นบนห้องทันที
ตึ๊ด~~ ตึ๊ด~~
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นไม่หยุด แทยอนหันมองตามเสียง เธอก็พบโทรศัพท์ของยูริตกอยู่บนพื้น แทอยนหยิบมาเปิดดู มันเตือนว่ามีข้อความที่ไม่อ่าน แทยอนจึงกดเปิดอ่านทันที
‘ยูริ ออกมาพบฉันหน่อยได้มั้ย ฉันรออยู่ที่แม่น้ำฮันนะ ….. นิชคุณ’ แทยอนอ่านข้อความนั่นจบเธอจึงวางโทรศัพท์กับที่เดิมก่อนจะรีบออกมาที่หมายทันที
ริมแม่น้ำฮัน
นิชคุณที่ยืนรอยูริอยู่เขาถือกล่องแหวนนั่นไว้ในมือ วันนี้เขาตัดสินใจที่จะขอยูริเป็นแฟนสักที
“ยูริ!!” นิชคุณพูดพร้อมกับหันไปมองทันที แต่เขากลับต้องหุบยิ้มเมื่อคนตรงหน้าไม่ใช่ยูริแต่เป็นแทยอน
“ฉันเอง ไม่ใช่ยูริหรอก” แทยอนพูดพร้อมกับเดินมาหยุดตรงหน้านิชคุณ
“เรื่องยูริ นายรู้ใช่มั้ย ว่าเธอเป็นคนอ่อนแอ และอ่อนไหวแค่ไหน” แทยอนเอยถามนิชคุณทันที
“รู้สิ ” นิชคุณพยักหน้ารับ
“ยูริยังเด็กเกินไป เกินกว่าจะรับความผิดหวังไหว…..” นิชคุณหันมามองแทยอนทันที
“เธอต้องการจะพูดอะไรกันแน่” นิชคุณเอยพร้อมกับมองแทยอนด้วยความไม่เข้าใจ
“เลิกยุ่งกับยูริเถอะนะ” คำพูดของแทอยนทำให้นิชคุฯได้แต่มองออกไปข้างหน้าโดยที่ไม่กล้าจะต่อกลอนกับผุ้หญิงตัวเล็กคนนี้
“นายเคยได้ยินคำคำหนึ่งมั้ย….. ถ้านายรักอะไรสักอย่างมากจริงๆ นายต้องหัดเรียนรู้ที่จะ…..ปล่อยมันไป!!!” แทยอนพูดจบเธอตบบ่านิชคุณก่อนจะเดินออกไป มีเพียงนิชคุณที่ยืนกำแหวนแน่นอยู่ตรงนั้น
หอพักโซชิ
“ลืมโทรศัพท์ได้ไงนี่” ยูริพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ของตนขึ้นมา
ตึ๊ด~~ตึ๊ด~~
ยูริชะงักเล็กน้อย ก่อนจะกดดูข้อความที่เข้ามา
‘ถ้านายรักอะไรสักอย่างมากจริงๆ นายต้องหัดเรียนรู้ที่จะ…..ปล่อยมันไป แทยอนเขาพูดถูกเนอะ ผมควรจะต้องปล่อยคุณไปจริงๆ ลาก่อนควอนยูริ’ เมื่อยูริได้อ่านข้อความก็ถึงกับตกใจ ก่อนที่เธอจะรีบวิ่งออกมาขึ้นรถพร้อมกับขับไปยังเป้าหมายทันที ไม่นานนักยูริก็มาถึงแม่น้ำฮันที่นิชคุณได้ส่งข้อความมาก่อนหน้านี้ ยูริวิ่งมาทันที แต่เอก็ต้องหยุดยืนอยู่กับที่เมื่อถาพที่เห็นคือ นิชคุณยืนกอดกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งนั่นก็คือ…..ทิฟฟานี่ ยูริยืนมองภาพนั่นน้ำตาค่อยไหลอาบสองข้างแก้ม มันจบแล้วจริงๆ ความรักของเธอมันจบแล้ว ยูริค่อยๆหมุนตัวและเดินออกมาจากจุดนั้น หยาดฝนค่อยหล่นลงมาจากฟ้าทีละเม็ดทีละเม็ดแต่ยูริไม่ทีท่าจะกลัวมันเลย เธอยังเดินฝ่าสายฝนมาเรื่อยๆๆ
“ยูริ เธอจะบ้าหรือไง ทำไมมาเดินตากฝนห๊ะ!!” แทยอนเมื่อขับรถผ่านมาเห็น เธอจึงจอดรถและมาขวางหน้ายูริทันที ยูริมองแทยอนด้วยโกรธกับสิ่งที่เธอ
“ซะใจมากใช่มั้ย ที่ทำร้ายหัวใจคนอื่น!!” ยูริเอยถามพร้อมกับมองแทยอน ในขณะที่ฝนเริ่มตกหนักขึ้นทุกที
“พูดอะไรอะ ขึ้นรถเถอะเดี๋ยวไม่สบาย” แทยอนคว้ามือยูริ แต่ยูริสะบัดมือแทยอนจนหลุด
“เพราะเธอไล่เขา! เพราะเธอ! เลิกยุ่งกับชีวิตฉันสักที ออกไปจากชีวิตฉันซะ ต่อจากนี้เราไม่ใช่เพื่อนกันอีกต่อไป เราสองคนจะอยู่ในฐานะเพื่อนร่วมงาน!!” ยูริพูดจบเธอก็เดินออกไปทันที มีเพียงแทยอนที่มองตามยูริ น้ำตาของทั้งสองต่างไหลหลั่งออกไม่หยุด
ต่อ--
“ยูริ!! เหม่ออะไร” ทิฟฟานี่เอยพร้อมกับเขย่าตัวยูริ
“อ่อ ป่าวอะ” ทิฟฟานี่ส่ายหน้าและยิ้มให้ยูริ
“เลือกสิ ว่าฉันจะใส่ชุดไหนไปเที่ยวกับนิชคุณดี” ทิฟฟานี่หยิบชุดทั้งสองชุดเพื่อให้ยูริช่วยเลือก
“ชุดนี่แหละ เหมาะกับเธอ” ยูริชี้ไปยังชุดเดรสสีชมพู ทิฟฟานี่พยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มออกมา
“อื้ม ฉันไปเอาของก่อนนะ” ยูริพูดจบก็เดินเข้าห้องมา ทันทีที่ปิดประตูห้องทุกอย่างกลับจู่โจมใส่ตัวยูริทันที ยูริหันหลังพิงประตูเธอค่อยๆทรุดลงไปนั่งกับพื้น น้ำตาที่อัดอั้นไว้มานานแสนนานไหลออกมายังกับห่าฝน
ตึ๊ด~~ตึ๊ด~~
“มาแล้ว มาแล้ว” ฮโยยอนร้องขึ้นเมื่อโทรศัพท์ดังไม่หยุด เอรีบออกมาจากห้องน้ำในทันที ก่อนจะหยิบโทรศัพท์และกดรับ
“อ่า อึนฮยอก นายโดดซ้อมอีกแล้วนะ อยู่ไหน มาเดี๋ยวนี้เลย” เสียงไปสายร้องเรียกเจ้าของโทรศัพท์ ฮโยยอนทำหน้ามึนงงก่อนตัวเองจะนึกขึ้นได้ว่าอึนฮยอกให้โทรศัพท์เธอมาใช้
“ลีทึกโอปป้า นี่ฮโยนะคะ อึนฮยอกโอปป้าพึ่งกลับไปเมื่อกี้เองคะ” ฮโยยอนตอบกลับปลายสาย ปลายสายเงียบสักพักก่อนจะตอบกลับมา
“ย๊า!! แล้วโทรศัพท์อึนฮยอกไปอยู่ที่เธอได้ไงห๊า” ฮโยยอนทำหน้ามึนนงงทันที เมื่อเสียงนี้ไม่ใช่เสียงลีทึก แต่กลับเป็นเสียงเหล่า เมมเบอร์เอสเจ
“ก็…. ‘ตุ๊ด~~ตุ๊ด~~’ ” ยังไม่ทันที่ฮโยจะอธิบายสายก็ถูกตัดไป
“อะไรกัน ยังไม่ทันจะได้อธิบายเลย” ฮโยยอนทำหน้ามุ้ยก่อนจะวางโทรศัพท์ลงบนที่นอน
ตึ๊ด~~ ตึ๊ด~~
“อ่า อะไรอีกเนีย” ฮโยยอนพูดพร้อมกับกดรับสายในทันที
“นี่ไอ้ลูกบ้า ทำไมยอมกลับบ้านห๊า~~” เสียงปลายสายพูดด้วยความโมโห
“ออมมา~~ นี่ฮโยเองคะ โอ้ปป้าไม่อยู่หรอกคะ” ฮโยเอย
“อ่า หนูฮโยหรอ บอกเจ้านั่นให้แม่ด้วยว่าพรุ่งนี้ให้มาเอาของที่บ้านด้วย” ปลายสายเอยบอก
“ได้คะๆ” ฮโยยอนพูดพร้อมกับตัดสายไป
“จะบอกไงเนีย เบอก็ไม่มี” ฮโยเกาหัวก่อนจะตัดสินใจเปิดตารางงานของอึนฮยอกที่ถูกบันทึกไว้ในเครื่อง
“อ่า มีซ้อมเต้นตอนเช้า งั้นไปบอกที่บริษัทละกัน” ฮโยยอนวางโทรศัพท์ไว้หัวนอน ก่อนที่เธอจะล้มลงนอนและเข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด
วันถัดมา >>ตึกsm<<
ฮโยยอนเดินทางมายังตึก เธอไม่ได้มาทำงานหรือซ้อมอะไรหรอกเพราะช่วงนี้มันคือช่วงวันหยุดยาวของเธอ แต่ที่เธอต้องมาเพราะรุ่นพี่ตัวแสบของเธอนี่สิ
“อยู่ไหนนี่” ฮโยยอนพยายามมองสอกส่องหาอึนฮยอก แต่ก็ไม่พบ ก่อนที่เธอจะเดินตรงมายังห้องซ้อมของเอสเจ ฮโยยอนตัดสินที่จะเกิดประตูเข้าไปทันที เมื่อเปิดประตูเข้าไป ทุกคนในห้องต่างหันมามองที่ฮโยยอนจุดเดียว
“อ่า สวัสดีคะ คือฉันมาหาอึนฮยอกโอปป้า” ฮโยยอนโค้งศีรษะให้ก่อนจะเงยหน้ายิ้มให้ทุกคน
“อึนฮยอกยังไม่มาหรอก เดี๋ยวก็คงมา มานั่งรอก่อนสิ” เมเนเจอร์พูดพร้อมกับพาฮโยยอนมานั่งตรงเก้าอี้
“อืม….. ไปอู้ที่ไหนเนีย” เมเนเจอร์พูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์โทรหาอึนฮยอก
ตึ๊ด~~ ตึ๊ด~~
ทุกคนหันมามองตามเสียงที่ดัง ฮโยยอนสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะชูโทรศัพท์ของอึนฮยอกที่มีสายเรียกเข้าของเมเนเจอร์ขึ้นอยู่ ทุกคนต่างจับจ้องมองมาที่ฮโยยอน ฮโยยอนได้แต่ยิ้มแหยะๆให้
“มาแล้วครับ!!” ทุกคนต่างละสายตาจากฮโยยอนแล้วมองไปทางอึนฮยอกที่วิ่งเข้ามาด้วยอาหารเหนื่อยหอบ
“เออ….ฉันขอคุยกับอึนฮยอกโอปป้าแปปหนึ่งนะคะ” ฮโยยอนพูพร้อมกับคว้ามืออึนฮยอกและวิ่งออกมานอกห้องทันที ทุกคนได้แต่มองตาม
“ลากพี่มามีอะไรเนีย” อึนฮยอกเอยถาม
“ไม่ต้องมาพูดเลย เพราะโทรศัพท์ของโอปป้าทำให้ฉันไม่ได้หลับไม่ได้นอนแล้วรู้มั้ย” ฮโยยอนทำหน้ามุ้ยพร้อมกับชูโทรศัพท์ให้อึนฮยอกดู
“ฮ่าๆ นั่นละ ใช้ไป” อึนฮยอกพูดพร้อมกับรวบมือฮโยยอนมาจับไว้
“ไม่ต้องมาขำเลย ตอนเย็นแม่ของโอปป้าให้ไปเอาของด้วย” ฮโยยอนพูดพร้อมกับพลักอึนฮยอก
“อ่า โอเคๆ เราน่ะกลับบ้านไปได้ละ ไปๆ” อึนฮยอกพูดพร้อมกับดันหลังฮโยยอนไปทันที
“อะไรของเขา ไล่เราเฉย ชิส์กลับก็ได้” ฮโยยอนบ่นไปพลางเกาหัวไป
ตึ๊ด~~ตึ๊ด~~
ฮโยยอนหยุดเดินและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาในทันที
‘กลับดีๆละ นี่เบอร์พี่มีอะไรโทรมาได้เลย’ ฮโยยอนยิ้มและส่ายหน้าเมื่อได้อ่านข้อความของอึนฮยอกที่ส่งมาให้เธอ
“ฉันกลับของฉันได้มาเกือนสิบปีละ ทำอย่างกับฉันเป็นเด็กเทรนคนใหม่ของบริษัทไปได้” ฮโยยอนพูดพร้อมกับก้าวเท้าออกมาจากบริษัท แต่ภาพตรงหน้าต้องทำให้เดินหยุดเดินในที นั่นก็คือเจย์คิมยืนพิงรถรอเธออยู่ ฮโยยอนตัดสินหันหลังกลับ แต่ก็ถูกเจย์คิมคว้ามือไว้
“จะทำอะไรอะ” ฮโยยอนเอยถาม แต่เขาไม่ทีท่าจะตอบ แต่เขากลับออกแรงลากเธอมามที่รถและพลักเธอขึ้นรถไปทันที และขับออกไปทันที
ณ บ้านเจย์คิม
“เจ็บนะ” ฮโยยอนร้องขึ้นเมื่อถูกเจย์คิมบีบแขน
“นายต้องการอะไร เราสองคนเลิกกันแล้วนะ” ฮโยยอนเงยหน้ามองเขา
“นั่นมันก็แค่ทางคุณ แต่สำหรับผมเราสองคนอย่างเหมือนเดิม” เจย์พูดก่อนเดินไปหยิบขวดไวน์และแก้วไวน์มาวางบนโต๊ะ
“พูดบ้าอะไร ฉันจะกลับ!” ฮโยยอนพูและลุกขึ้นเดินไปแต่เธอก็ถูกเจย์คิมจับมานั่งที่เดิม ฮโยยอนมองหน้าเขาก่อนจะที่แอบล้วงหยิบโทรศัพท์ก่อนที่จะโทรหาอึนฮยอกโดยไม่ให้เจย์คิมเห็น ไม่นานนักปลายสายก็เอยทัก
“นายต้องการอะไร เรื่องของเรามันจบแล้ว ปล่อยฉันกลับเถอะ” ฮโยยอนเอยถามพร้อมกับกำโทรศัพท์แน่น เธอพยายามเล่งเสียงให้ดังเพื่อหวังให้อึนฮยอกได้ยิน
“จบหรอ ที่คุณอยากจบกับผม เพราไอ้หน้าปลวกนั่นใช่มั้ย” เจย์คิมพูดพร้อมกับดึงฮโยยอนขึ้นมา
“ฉันเจ็บนะ” ฮโยยอนร้องเมื่อเจย์คิมดึงมือเธออย่างแรง
“ตอบสิ เพราะมันใช่มั้ย!” เจย์พูดพร้อมกับออกแรงบีบข้อมือของฮโยยอน ฮโยยอนได้แต่กัดฟันด้วยความเจ็บปวด
“ใช่สิ เพราะจูบของมันทำให้เธอหลงเลยใช่มั้ย” ฮโยยอนเงยหน้ามองด้วยความสงสัย
“นายพูดอะไร ฉันไม่เคยจูบกับใคร” ฮโยยอนพูดขึ้นในทันที
“หึ ทำไมผมจะไม่เห็น เธอนะนั่งให้มันจูบเฉยๆ” ฮโยยอนได้แต่ทำหน้าสงสัย
“อย่าทำซื่อเลย ตอบผมมาเพราะมันใช่มั้ย” ฮโยยอนยังคงไม่ตอบ
“ปล่อยนะ” ฮโยยอนร้องด้วยความเจ็บ
“เพราะมันใช่มั้ย!! เพราะมันใช่มั้ย เพราะมันใช่มั้ย เพราะมันใช่มั้ย!!!”เจย์คิมพูดพร้อมกับเขย่าตัวฮโยยอน
“มันไม่เกี่ยวกับใครทันนั้นและ!!” ตุ๊บ!
ร่างของเจย์คิมล้มลงไปกองกับพื้นในทันทีที่โดนลูกหมัดของอึนฮยอกชกเข้า
“นี่สำหรับที่แกทำกับคนที่รักแก” อึนฮยอกชี้หน้าเจย์คิมก่อนจะเดนิเข้าไปจับเจย์คิมลุกขึ้น
ตุ๊บ
หมัดที่สองถูกชกเข้าที่เบ้าตาของเจย์คิมอีกรอบ
“นี่สำหรับหน้าตัวเมีย ที่แจ้งความจับผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าแฟนแก” อึนฮยอกหันไปมองหน้าฮโยยอน ก่อนที่เขาจะเดินไปจับเจย์คิมขึ้นมา
ตุ๊บ!!
และหมัดที่สามก็กระทบเข้าใบหน้าของเจย์คิมอีกรอบ
“หมัดนี้สำหรับที่ว่าฉันหน้าปลวก และที่ทำให้ข้อมือของเธอช้ำ” อึนฮยอกพูดก่อนจะเดินไปคว้ามือฮโยยอนและพาเธอออกไปในทันที
ซ่า!!~~~ เอียด~~!!
“อ่า เป็นอะไรอีกเนีย!!” ยูริพูดขึ้นเมื่อรถของเกิดควบคุมไม่ได้จนเธอต้องเบรกกะทันหัน ยูริจึงรีบออกไปดูทันที
“ยางแตก!!” ยูริพูดพร้อมกับเขกหัวตัวเอง ด้วยฝนที่กำลังตกหนัก ยูริจึงต้องรีบกลับเข้ารถไปในทันที ยูริหยิบโทรศัพท์ของตนเพื่อที่จะติดต่อช่างซ่อม แต่เธอก็ไม่สามารถเปิดเครื่องได้
“แบตหมด!! อะไรมันซวยได้ขนาดนี้เนีย” ยูริปาโทรศัพท์ของไว้บนเบาะรถในทันที
ก็อกๆ ก๊อกๆ
ยูริรีบหันไปตามเสียงเมื่อมีคนเคาะกระจกรถของตน เธอก็พบนิชคุณที่กำลังบอกให้เปิดประตูรถให้ ยูริมองเขาก่อนจะเปิดประตูรถให้เขา
“รถเป็นอะไรอะ” นิชคุณเอยถามในทันที
“ยางแตก!” ยูริพูดเพียงสั้นๆ นิชคุณพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะวิ่งฝ่าฝนไปเปิดกระโปรงหลัง
รถเพื่อดูยางอะไหล่
“นี่ จะทำอะไรอะ” ยูริตะโกนถามในทันที
“ก็เปลี่ยนยางให้คุณไง คุณอยู่ในนั้นและ เดี๋ยวเปลียกฝน”นิชคุณพูดก่อนจะจัดการเปลี่ยนยาง ยูริได้แต่มองการกระทำของเขา ก่อนที่ตนจะตัดสินใจหยิบเสื้อคลุมในรถ และวิ่งฝ่าฝนออกไป เพื่อเอาเสื้อคลุมกันฝนให้เขา
“เธอทำอะไรอ่า” นิชคุณเงยหน้าถามทันที ที่เห็นยูริยอมเปลียกแล้วเอาเสื้อคลุมมากันฝนให้เขา
“นายทำไปเถอะ ฉันตากฝนบ่อยจนจะเป็นเพื่อนกับฝนอยู่แล้ว ฝนแค่นี้ไม่ทำอะไรฉันได้หรอก” นิชคุณรู้ดีขืนเถียงไปก็ไม่ชนะผู้หญิงอย่างยูริได้หรอก เขาจึงก้มหน้าก้มตาเปลี่ยนยางต่อไป
“เสร็จแล้ว~~” นิชคุณพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนในทันที
“ขอบใจนะ” ยูริยิ้มให้ นิชคุณส่ายหน้า
“นายมาไงอะ” ยูริพูดพร้อมกับมองหารถหของนิชคุณแต่ก็ไม่พบ
“แท็กซี่นะ พอดีพึ่งกลับจากส่งฟานี่ที่หอ” ยูริพยักหน้ารับก่อนจะเดินขึ้นรถไปทันที
“ขึ้นมาสิ เดี๋ยวฉันไปส่ง” นิชคุณไม่พูดอะไรเขาเดินขึ้นรถมาอย่าเงียบ ก่อนที่รถจะออกตัวไป รถแล่นมาด้วยความเร็วพอประมาณ บรรยากาศในรถเงียบสงบ ต่างไม่มีใครคิดจะเริ่มบทสนทนาเลย
“รถนายอยู่ไหนหรอ” ยูริเอยถามขึ้น
“อยู่ร้านเหล้านะ พอดีมีคนคยบอกผมว่าเวลาดื่มเหล้าไม่ควรขับรถนะ ผมเลยไม่ขับ” คำพูดของนิชคุณทำให้ยูริชะงักเล็กน้องย เธอคิดถึงเมื่อสี่ปีก่อนที่เธอเคยเตื่อนเขาเรื่องนี้ หลังจากกนั้นทุกอย่างก็เข้าสู่ความเงียบเช่นเคย
“ถึงแล้ว” ยูริเอยเมื่อรถแล่นมาจอดหน้าหอพักของนิชคุณ นิชคุณพยักหน้ารับก่อนจะออกจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ ยูริมองตามแผ่นหลังนั้น น้ำตาที่เก็บไว้ไหลอาบสองข้างแก้มอย่างไม่ทันตั้งตัว ยูริเช็ดน้ำตานั้นก่อนจะออกไปทันที นิชคุณหยุดยืนอยู่กับ เขาค่อยๆหันมามองรถที่แล่นตัวออกไป น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว
“เจ็บมากมั้ย” อึนฮยอกพูดพร้อมกับคว้าข้อมือของฮโยยอนขึ้นมา เขาค่อยๆจับที่รอยช้ำตรงข้อมืออย่างแผ่วเบา
“ไม่เป็นไรแล้วคะ โอปป้าสนใจถนนเถอะ” ฮโยยอนพูดพร้อมกับส่ายหน้าเป็นการบอกว่าเธอไหว อึนฮยอกพยักหน้ารับก่อนจะหันกลับไปสนใจถนนต่อ
“โอปป้า~~” ฮโยยอนเอยเรียกอย่างแผ่วเบา อึนฮยอกเอียงหน้ามองด้วยความสงสัย
“เมื่อหลายวันก่อน โอปป้าทำอย่างที่เขาพูดจริงๆหรอ” อึนฮยอกได้ยินคำถามถึงกับสะดุ้งก่อนจะหยุดรถในทันที
“โอปป้าทำอย่างที่เจย์พูดจริงๆหรือป่าวคะ” ฮโยยอนหันมามองหน้าอึนฮยอกด้วยความสนใจ อึนฮยอกได้แต่เพียงแต่นั่งเงียบ
“ขอโทษ….” อึนฮยอกพูดออกเพียงสั้นๆ
“ไม่คิดเลยว่าโอปป้าจะฉวยโอกาสกับฉันแบบนี้ ส่งฉันแค่นี้ละคะ ฉันกลับเองได้” ฮโยยอนพูดและทำท่าจะลงไปจากรถแต่ก็ถูกอึนฮยอกคว้ามือไว้ ฮโยยอนมองหน้าด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนที่เขาจะคว้าร่างเธอมากอดไว้
“ปล่อยนะ!!” ฮโยยอนพยายามจะดิ้นแต่ไม่สามารถสู้แรงของอึนฮยอกได้
“ฉันบอกให้ปล่อย” ฮโยยอนยังคงออกแรงดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดของเขา แต่ก็ไม่เป็นผล ฮโยยอนหยุดดิ้นด้วยความหมดแรง อึนฮยอกเห็นดังนั้นเขาจึงปล่อยฮโยยอนออกจากอ้อมกอด เขาใช้มือจับไหล่ทั้งสองข้างของฮโยยอน ฮโยยอนหน้าไม่เข้าใจการกระทำของเขา ฮึนฮยอกจ้องใบหน้าของฮโยยอน ก่อนที่เขาจะประทับริมฝีปากของเขาเข้ากับริมฝีปากของฮโยยอน ฮโยยอนได้แต่ตกใจที่เขาฉวยโอกาสจูบเธอ
“เลวที่สุด!!!” ฮโยยอนพูดเมื่อเธอหลุดจากการฉวยโอกาสของเขา
เพรี๊ย!
ฮโยยอนตบหน้าของอึนฮยอกก่อนที่เธอจะลงจากรถไปในทันที
“พี่รักเธอ!! ฮโยยอน” ฮโยยอนหยุดยืนอยู่กับทีทันที ที่ได้ยินคำพูดของอึนฮยอก
“พี่รักเธอมาตั้งแต่วันแรกที่รู้จักเธอ รักมาก่อนที่เธอจะเดทซะอีก” อึนฮยอกยังคงพูด
“จะให้โอกาสพี่ได้มั้ย” ฮโยยอนค่อยหันมามองหน้าอึนฮยอกในทันที
“ฉันยอมรับนะ ว่าฉันก็มีความรู้สึกเดียวกับโอปป้า แต่….เราห่างกันสักพักเถอะนะ ไม่แน่ความรู้สึกแบบนี้มันอาจจะแค่ความรู้สึกผูกพันธ์ก็ได้ ขอโทษนะ” ฮโยยอนพูดจบเธอก็เดินออกไป อึนฮยอกได้แต่มองตามหลังเธอโดยไม่สามารถทำให้เธอหันมามอง
หอพักโซชิ
“ย๊า!! ทำไมมันเงียบนี่อ่ะ” ซันนี่เอยเมื่อสภาพหอของเธอมันช่างเงียบเหงาเกินไป
“ยัยแท มานั่งทำไรคนเดียวตรงนี้” ซันนี่เอยถามแทยอนทันทีที่เอเห็นแทยอนนั่งเหม่อลอยอยู่
“เรื่องฮโย กับยูรินะ” ซันพยักหน้ารับก่อนที่จะนั่งลงข้างๆแทยอน
“แกทำมันผิดมาตั้งแต่ต้น แกก็ทำให้มันถูกสิวะ” ซันนี่แตะบ่าแทยอนอย่างเข้าใจ เพราะเธอเองมักจะเป็นที่ระบายปัญหาให้ฮโยเสมอ
“แม้คนเจ็บคือฟานี่!?” แทยอนหันหน้ามามองซันนี่ ซันนี่พยักหน้ารับเมื่อเธอคิดว่ามันคงต้องเป็นเช่นนั้น
บ้านยูริ
ฮัดชิ้ว!!
“ก็รู้ว่าตัวเองป่วยง่าย ยังจะตากฝนอีก” ผู้เป็นแม่ส่ายหัวให้กับความดื้อของลูกสาว
“เดี๋ยวมันก็หายคะ เป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาเอง” ยูริพูดพร้อมกับล้มตัวลงนอนบนเตียง
“ตัวร้อนจี้เงี้ยนะ เดี๋ยวแม้โทรไปบอกเมเนเจอร์ของลูกก่อน เขาจะได้ไม่เป็นห่วง” ยูริพยักหน้า ผู้เป็นแม่จึงเดินออกไปเพื่อโทรบอกบรรดาเมมเบอร์ของยูริทันที
ภาพเรื่องราวต่างๆมันกับทำให้ยูริที่นอนป่วยอยู่ไม่สุข เธอได้แต่พลิกตัวไปมาเพื่อลืมมันให้หมด แต่ก็ไม่เป็นผล จนเธอต้องยอมรับความจริงว่าจริงๆแล้วเธอยังคงรักนิชคุณ น้ำตาค่อยไหลหล่นอบมองที่เธอหนุ่น
“เมื่อไหร่ฉันจะลืมนายได้สักทีนะ นิชคุณ” ยูริพูดพร้อมกับเพ่งมองไปที่กรอบรูปปลายเตียงที่มีรูปเธอ ทิฟฟานี่และนิชคุณอยู่
รุ่งเช้าวันถัดมา
“ยูริ!!! ตื่นๆๆ” เสียงอันคุ้นเคยเรียกสติให้ยูริฟื้นจากห้วงนิทราขึ้นมา
“อ้าวพวกเธอมาได้ไง” ยูริเอยเมื่อเห็นแทยอน ซันนี่ ทิฟฟานี่ และนิชคุณยืนอยู่
“พวกฉันก็มาเยี่ยมพวกเธอไง นี่นิชคุณก็เป็นห่วงเธอเลยขอมากับฉันด้วยนี่” ทิฟฟานี่พูดพร้อมกับยิ้มไปทางนิชคุณ
“อ่า เธอยังไม่ได้กินอะไรใช่มั้ย งั้นเดี๋ยวพวกฉันไปมาให้นะ” ซันนี่เอยบอกยูริที่ ได้นั่งมองนิชคุณ
“ยังไงก็ได้ ขอแค่ไม่เป็นฝีมือเจสสิก้าก็พอ” ทุกคนต่างหัวเราะให้กับคำพูดของยูริที่มันช่างเป็นความจริงที่นตลก
“งั้นปะ ทิฟฟานี่ แทยอนไปกัน” ซันนี่คว้ามือเพื่อนทั้งสองและทำท่าจะเดินออกไป แต่ซันนี่ก็ต้องหยุดเมื่อนิชคุณก็เดินตามไปเช่นกัน
“นายอยู่เป็นเพื่อนยูรินี่ละ พวกฉันไปไม่นาน”ซันนี่พูดจบเธอก็พาเพื่อนทั้งสองออกไปในทนที
“อ่า เดี๋ยวพวกเธอสองคนไปกันก่อนนะ ฉันลืมของ” ทิฟฟานี่และแทยอนพยักหน้าก่อนจะเดินลงไป ซันเดินกลับมายังหน้าห้อง ก่อนจะจัดการล็อกห้องจากภายนอก
“เคลียกันให้รู้เรื่องนะจ๊ะ” ซันนี่ยิ้มก่อนจะเดินออกไป
“ไหนบอกจะทำอาหารไง ไหงต้องขับรถออกมาข้างนอกละ” ทิฟฟานี่ถามด้วยความสงสัยเมื่อเธอถูกเพื่อนทั้งสองลากขึ้นรถมาอย่างไม่รู้สาเหตุ
“เธอรู้ใช่มั้ย เรื่องยูริกับนิชคุณ” ซันนี่เอยถาม และมองไปทางทิฟฟานี่ ทิฟฟานี่ทำหน้าเลิ่กลั่ก
“เรื่องอะไร เธอพูดอะไร” ทิฟฟานี่ยังคงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง แล้วยังคงมองไปนอกรถ
“ฉันรู้ว่าเธอรู้ทิฟฟานี่ เราอยู่ด้วยกันมาสิบปีแล้วทำไมฉันจะดูเธอไม่ออก………..” ทิฟฟานี่มีสีหน้าซีดเมื่อได้ยินคำพูดของแทยอน
“ฉันขอละ ปล่อยให้ยูริกับนิชคุณได้ทำตามหัวใจตัวเองเถอะ เขาทั้งสองคนรักกันนะ” ซันนี่เอยขอร้อง ในขณะที่ทิฟฟานี่น้ำตากำลังไหลอาบสองข้างแก้มอย่างไม่หยุดหย่อน
“แล้วฉันล่ะ” ทิฟฟานี่กัดฟันพูดและหันมามองทางแทยอนสลับกับซันนี่
“แกก็ยังมีพวกฉันไง ฉันรักแกนะเว้ย!” ซันนี่ไม่ว่าเปล่า เธอคว้าเพื่อทั้งสองคนมากอดในทันที
บรรยากาศภายในห้องเงียบสงบ ไม่มีใครคิดจะเปิดบทสนทนาเลย ต่างคนต่างนั่งนิ่ง ทำเหมือนอีกภายเป็นอากาศธาตุ
“ไหนบอกเป็นเพื่อนกับฝน ฝนไม่ทำร้ายไง” นิชคุณเปิดบทสนทนาทำร้ายความเงียบทันที
“ไม่รู้สิ ฝนมันคงรังเกลียดฉันไปอีกคนแล้วมั่ง” ยูริพูดพร้อมกับยกยิ้มก่อนที่จะนั่งนิ่งเหมือนเดิม แต่แล้วความเงียบก้ปกคลุมอีกครั้ง ยูริมองไปทางนิชคุณเล็กน้อย ก่อนที่จะลุกขึ้นจสกเตียงแล้วเดินไปทางประตู
“ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ยูริออกแรงเปิดประตู แต่ก้เปิดไม่ออก
“ประตูเปิดไม่ออกอ่ะ” ยูริหันไปบอกกับนิชคุณ นิชคุณเห็นดังนั้นจึงเดินมาช่วยยูริเปิดประตู แต่ก็ยังเปิดไม่ออก
“มันคงถูกล็อกจากด้านนอก” นิชคุณเอยบอกเมื่อออกแรงเท่าไหร่ประตูก็ไม่เปิด ทั้งสองจึงเดินมานั่งบนเตียง
“ต้องเป็นยัยพวกนั้นแน่ๆเลย” ยูริเอยพร้อมกับส่ายหน้า
“เขาคงอยากให้เราปรับความเข้าใจกัน” สิ้นคำพูดของนิชคุณ ยูริเงยหน้ามองนิชคุณ ก่อนที่ทั้งตู่จะเข้าสู่โหมดความเงียบ
“ทำไมเธอถึงไม่มานัดผมละ” นิชคุณเอยถามในขณะที่ส่ายตายังคงจ้องไปที่รูปที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ
“ฉันไป….. ไปตอนที่นายกับทิฟฟานี่กอดกันอะ ฉันเลยไม่อยากกวน” ยูริพูดออกมา นิชคุณหันหหน้ามามองยูริในทันที
“มาช่วยกันเปิดประตูเถอะ” ยูริลุกขึ้นเดินไปยังประตู แต่ก็ถูกนิชคุณดึงมือไว้
“ตอบหน่อยได้มั้ย ว่าเธอรักฉันหรือป่าว” นิชคุณเอยถามในขณะที่ยังคงจับมือยูริ ยูริไม่มีทีท่างว่าจะตอบคำถามเลยสักนิด
“ตอบมาสิ!” นิชคุณยังคงเรียกร้องคำตอบจากปากของยูริ
“นายจะอยากรุ้ไปทำไม ในเมื่อนายรักทิฟฟานี่ไม่ได้รักฉ…..” ยังไม่ทันที่ยูริจะพูดจบ นิชคุณก็ดึงตัวยูริเข้าไปสวมกอด
“ฉันรักเธอ ควอนยูริ” นิชคุณพูดจบ เขาก็ประคองหน้ายูริให้เชิดขึ้น แล้วจึงค่อยประกบริมฝีปากของเขาเข้ากับริมฝีปากของยูริ
--------------------------------------------ต่อ
“ฉันยอมแพ้….” ทิฟฟานี่เอยเมื่อเธอตัดสินใจกลับมายังบ้านยูริ และเปิดประตูให้ทั้งคู่ และเมื่อเอเปิดประตูออกมา ภาพที่เอเห็นกลับทำให้เธอยอมแพ้โดยง่าย
“ทะ….ทิฟฟานี่” ทั้งนิชคุณและยูริต่างร้องขึ้นพร้อมกันเมื่อเห็นเพื่อนสาวยืนน้ำตกอยู่
“ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว….” ทิฟฟานี่เอยบอกทั้งน้ำตา และเธอก็เดินตรงมายังยูริ ยูริได้แต่ทำหน้ามึนงง
“ความจริงฉันรู้ว่าเธอกับเขารักกัน แต่ฉันรักเขา และฉันก็เห็นแกตัวเลยคิดจะแย่งเขาไป โดยไม่รู้เลยว่าเธอกับเขารักกันขนาดไหน ฉันขอโทษ” ยูริฟังคำสารภาพของเพื่อนสาว เธอเงยหน้ามองนิชคุณที่ยืนอยู่
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เธอไม่ผิด เรื่องมันผ่านมาแล้ว แต่ถ้าเธออยากไถ่โทษ เธอควรจะไปบอกแทยอนว่าให้เขาไปจัดการกับฮโยเถอะ” ยูริเอย ในเมื่อในสมองเธอมีแต่เรื่องเพื่อนสาว ที่ไม่รู้จะเป็นยังไง
“ฮโยทำไม??” ทิฟฟานี่เงยหน้ามอง เมื่อยูริเอยชื่อเพื่อนรักอีกคนออกมา
ณ หอพัก
“นี่ๆ ฉันหิวข้าวแล้วนะ เมื่อไหร่จะทำอะไรให้ฉันกินนน” เจสสิก้าเอยด้วยความหงุด แต่ฮโยยอนก็ยังคงนั่งนิ่งไม่ตอบรับใดๆ
“แปลกแหะ วันนี้ไม่ยักจะมาทะเลาะกับฉัน” เจสสิก้าบ่นพึมพำ ก่อนจะเดินไปใกล้ฮโยยอนที่นั่งเหม่อลอยอยู่
“ฮโย! ฮโยยอนนนนนนนน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” เจสสิก้าตะโกนลั่นข้างหูของฮโยยอน ทำให้เจ้าตัวสะดุ้งในทันที
“อ่า หิวใช่มั้ย เดี๋ยวฉันไปทำกับข้าวให้นะ” ฮโยยอนไม่รอช้า เธอตรงเข้าห้องครัวไปในทันที มีเพียงเจสสิก้าที่ยืนมองอย่างงง
ตึ๊ด…..ตึ๊ด….
เสียงไอโฟนเครื่องสวยดังสนั่น ฮโยยอนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหยิบมันมาดู และเปิดอ่านข้อความที่ส่งมา
“ขอโทษ…. ที่รักเธอ” เป็นข้อความสั้นๆ แต่มันสามารถทำให้คนอ่านน้ำตาเอ่อได้ในทันที
“ในทรมานนะ ที่เราไม่สามารถรักคนที่เรารักได้” เจสสิก้าเอย ฮโยยอนหันไปมองในทันที
“เธอคิดว่าสิ่งที่ทำมันถูกแล้วหรอ” เจสสิก้าเอียงคอรอคำตอบตอบจากเพื่อนสาว
“เจสสิก้า…..พวกเราต่างไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะมีความรักได้ไม่ใช่หรอ” ฮโยยอนไม่ได้ตอบ แต่เธอกลับย้อนถามกลับ
“ใช่ เราไม่ได้อยู่ในสถานะนั้น…..แต่เราก็มีสิทธิที่จะรักไม่ใช่หรอ เหมือนเธอกับเจย์คิม แล้วทำไมเธอกับโอ้ปป้าอึนฮยอกถึงจะทำแบบนั้นบ้างไม่ได้ละ” ฮโยบยอนได้แต่ก้มหน้าให้กับคำพูดของเจสสิก้า เจสสิก้าได้แต่มองเพื่อนสาวตรงด้วยความสงสาร
“รีบไปซะ ก่อนทุกอย่างจะสาย” เจสสิก้าไม่ว่าเปล่า เธอดันตัวฮโยยอนสุดแรงเพื่อจะให้ไปจุดหมาย ฮโยยอนหันมามองเจสสิก้าก่อนที่ตนจะรีบวิ่งสุดแรง แต่เธอก็ต้องหยุด เมื่อแทยอนมายืนดักหน้าเธอไว้
“ทะ แทยอน” ฮโยยอนเรียกชื่อคนตรงหน้าด้วยความตกใจ
“ฉันมันน่ากลัวขนาดทำให้เธอตกใจขนาดนี้เลยหรอ” แทยอนหัวเราะแหยะออกมาเมื่อเห็นท่าทางกลัวของฮโยยอน
“ไปเถอะ รีบไปสิ” แทยอนยอมหลีกทางให้กับฮโยยอน ฮโยยอนได้แต่ทำหน้างง และเดินจากไป
“ฮโยยอน!! โชคดีนะ” แทยอนโบกมือให้เพื่อนสาว ฮโยยอนยิ้มเล็กก่อนที่จะรีบวิ่งออกไป แต่เอก็ต้องหยุดชะงักในทันที
“ไปกับฉัน!!” เสียงชายหนุ่มพูดกระซิบข้างหู พร้อมกับใช้ปืนจ่อที่เอวของฮโยยอน ฮโยยอนกลืนน้ำลาย น้ำเสียงแบบนี้มีหรือที่ฮโยยอนจะจำไม่ได้ เขาแน่ๆ เจย์คิม!!
“อย่าดุกดิก”เจย์คิมไม่ว่าเปล่า เขาจับเธอยัดใส่รถไป ก่อนที่จะขับออกมา ฮโยยอนใช้ทีเผลอ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะโทรขอความช่วยเหลือ แต่ก็โดนเจย์คิมจับได้
“อย่าใช้มุกเดิมเลย ไม่ได้ผลหรอก” เจย์คิมดึงโทรสัพท์ของฮโยยอนมา และปาออกนอกกระจกไป
“ต้องการอะไร!!” ฮโยยอนหันไปถามชายข้างๆที่กำลังใช้มือจับข้อมือเธออยู่
“ทุกอย่างที่เป็นเธอ!!” เจิย์คิมไม่ว่าป่าว เขาพรมจูบลงบนมือของฮโยยอนในทันที ฮโยยอนได้แต่ดิ้นเพื่อจะให้มือของเธอหลุดจากการทำบ้าๆแบบนั้น
“ไม่มีทาง!! นายไม่มีวันจะได้อะไรไปจากฉันอีก” ฮโยยอนพูดด้วยเสียงเกลี้ยวกราด
“มีสิ ตอนนี้ไง ฉันได้เธอมาแล้ว และอีกไปนานทั้งหัวใจและตัวของเธอจะเป็นของฉันอย่างสมบูรณ์แบบ” เจย์คิมยิ้มเยาะ ก่อนที่จะออกแรงดึงฮโยยอนมาในอ้อมกอด ไม่ว่าเปล่าเค้าหยุดรถพร้อมกับซุกไซร้ซอกคอขาวของฮโยยอน
“นายมันบ้าไปแล้ว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” ฮโยยอนใช้แรงที่มีดันเจย์คิมออกจนสำเร็จ
“อดใจรอนิดหนึ่งนะ แล้วเราจะขึ้นสวรรค์ด้วยกัน” เจย์คิมเร่งความเร็วของรถให้เร็วขึ้น อโยยอนได้แต่นั่งมองความบ้าของคนตรงหน้า
ตุ๊บ! เสียงสิ่งของบางสิ่งกระทบเข้ากับกระจกรถแตก
“เห้ย! ” ซูยองร้องด้วยความตกใจเธอรีบหยุดรถและลงมาดูในทันที
“ไอ้บ้าเอย เล่นพิเรณอะไรของแกกันว่ะ” ซูยองชักสีหน้าไม่พอเมื่อรถคันหน้าปาบางสิ่งมาใส่รถเธอ ซูยองที่สิ่งที่เป็นต้นเหตุขึ้นมาดู
“นี่มันโทรศัพท์ฮโยยอนนิ แล้ว…..”ซูยองหันควับไปมองรถต้นเหตุที่หยุดอยู่กับที่ ห่างจากเธอไปไกล
“นั่นมันรถไอ้เจย์คิมนี่” ซูยองชี้ไปยังรถของเจย์คิม และเธอก็รีบสาวเท้าตรงมายังรถของเจย์ แต่ก็ไม่ทันวะแล้ว รถได้พุ่งออกตัวด้วยความรวดเร็ว แต่ก็ไม่รอดสายตาที่ซูยองจะเห็นฮโยยอนอยู่ในรถคันนั้นด้วย “แย่ละ มันต้องมีเรื่องไม่ดีแน่ๆ” ซูยองวิ่งกลับมาที่รถ แล้วเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก่อนที่จะกดโทรในทันที
ณ หอพักโซชิ
ตึ๊ง ตึ้ง!!
“มาแล้วค่า” เจสสิก้าเอยบอกบุคลหน้าประตู
“อ้าว สวัสดีคะโอปป้า” เจสสิก้าเอยทักเมื่อคนหน้าเธอ คืออึนฮยอก รุ่นพี่ของเธอเอง
“ฮโยยอนไม่อยุ่หรอ” อึนฮยอกเอยถาม เจสสิก้าได้แต่ทำหน้างง ในเมื่อฮโยยอนออกไปอึนฮยอกนี่น่า
“ก็….ออกไปหาโอ้ปป้านี่” เจสสิก้าไปปว่าเปล่า เธอรีบวิ่งเข้าไปหยิบโทศัพท์เครื่องสวยแล้วกดโทรในทันที
“ฮโยปิดเครื่อง……” เจสสิก้าหันมาบอกชายหนุ่ม ด้วยสีหน้ากังวล
“ฮโยออกไปนานหรือยัง”ชายหนุ่มเอยถามด้วยความเป็นห่วง
“นานแล้วคะ”เจสสิก้าตอบในขณะที่กำลังพยายามติดต่อฮโยยอนอยู่
“อ่า เธออยู่ไหน!!”เจสสิก้าร้องถามเมื่อปลายสายมีการตอบรับฃ
“ฉันซูยองเอง ตอนนี้ฮโยยอนถูกเจย์คิมพาไปไหนไม่รู้ ฉันกำลังขับรถตามอยู่” เสียงปลายสายบอกด้วยความร้อนรน
“หะ!! เธออยู่ที่ไหน ส่งพิกัดมาเลย” อึนฮยอกที่ได้ยินไม่รอช้าที่จะเอยปากบอกซูยองก่อนที่รีบวิ่งไปที่รถของตนเอง โดยมีเจสสิก้าตามไปด้วย
“โอ้ปป้า!! จะไปไหนกันอ่ะ” แทยอนเอยถาม และมองดวยความสงสัย โดยมียูริ ทิฟฟานี่ เดินตามมาติดๆ
“ฮโย….ฮโยถูกนายเจย์คิมจับตัวไป” อึนฮยอกพูด พร้อมกับเรียกพวกเธอไห้ขึ้นรถไปกับเขา
“แล้วมันพาฮโยไปที่ไหนคะ” ยูริเอยถาม
“อีกเดี๋ยวซูยองคงส่งพิกัดมา” อึนฮยอกยังคงขับรถไปด้วยความเร่งรีบ
ตึ๊ด………….ตึ๊ด……..
อึนฮยอกกดมือถือของตัวเองไม่นานหน้าจอแสดงพิกัดก็โชว์ขึ้น อึนฮยอกไม่รอช้าเขาเหยีบคันเร่งและขับไปยังพิกัดตามที่ซูยองส่งมาในทันที
“ทะ………ทีนี่ ที่ไหน” ฮโยยอนเอยถาม และพลางมองไปบรรยากาศของตัวบ้าน
“ที่ที่ใครก็ไม่สามารถหาเธอเจอไง” เจย์คิมไม่ว่าเปล่า เขาเดินอ้อมมายังฝั่งฮโยยอน ก่อนจะใช้แรงลากเธอออกมาจากรถ
“แต่ฉันหาเจอ…………” เสียงหญิงสาวที่คุ้นเคยเอยขึ้นด้านหลังของเจย์คิม เขาจึงหันไปมองเขาก็พบกับซูยองที่ยืนกอดอกมองที่เขาอยู่
“ซูยอง!” ฮโยยอนเรียกด้วยความดีใจ ก่อนที่จะทำท่าวิ่งออกไปหาเพื่อนสาว แต่เธอก็ถูกเจย์คิมดึงไว้
“เธอมาทำอะไร” เจย์คิมเอยถาม ในขณะที่ยังคงกำมือของฮโยยอนแน่น
“ฉันก็แค่จะมาเพื่อนของฉันกลับ แค่นั้น!
“นายคงไม่อยากจะเป็นข่าวดังใช่มั้ย” ซูยองยิ้มเยาะเย้ย พร้อมกับโชว์โทรศัพท์ที่หน้าจอขึ้นโชว์เบอร์ของตำรวจ
“ปล่อยมือสกปรกออกจากเพื่อนฉันซะ!!!!” ซูยองตะโกนออกมา ก่อนจะออกแรงดึงตัวฮโยยอน จนสำเร็จ ซูยองหันไปยิ้มให้กับเจย์ก่อนจะทำท่าพาฮโยยอนกลับขึ้นรถของตน แต่ก็ต้องหยุด เมื่อเจย์คิมกลับดึงตัวฮโยยอนกลับไป และเขายังควักปืนออกมาจ่อเล่งมาที่เธอ
“จะเป็นยังไงนะ ถ้านักข่าวมาเจอสพของนางฟ้าเกาหลี ตายเพาะลูกปืนของฉัน….ฮ่าๆ คิดแล้วก็ซะใจ” เจย์คิมพูดออกมาอย่างซะใจ
“นายสิจะต้องตาย”อึนฮยอกเอยบอกพร้อมกับเดินมายืนข้างซูยอง โดยมีทิฟฟานี่ เจสสิก้า ยูริและแทยอนตามมาด้วย
“มากันพร้อมหน้าพร้อมกับเลยเนอะ ไม่สิ……ยังขาดอีกตั้ง 3 คน ก็ดี…..จะได้จัดการแม่งทุกคน เริ่มจากแกก่อนเลย!” เจย์คิมไม่ว่าเปล่า เขาหันปืนไปทางอึนฮยอกที่ยืนไม่ไกลจากเขา
“อย่าทำอะไรเขานะ ถ้านายทำอะไรเขาฉันแม้แต่ปลายเล็บ นายจะไม่ได้อะไรจากตัวฉันเลยสักอย่าง!” ฮโยยอนเอยพูด และหันไปมองชายหนุ่มที่ยืนจ่อปืนไปทางอึนฮยอก เจย์หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“ถึงฉันฆ่ามัน เธอก็ต้องเป็นของฉันวันยังค่ำ” เจย์คิมเอยบอก และออกแรงกระชากตัวฮโยยอนเข้ามาในอ้อมกอดของเขา ทำไห้ฮโยยอนร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด นั่นทำไห้อึนฮยอกกลับก้าวเข้าใกล้มากขึ้น
วี๋วอ………….วี๋วอ………….
“นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ! ปล่อยเธอซะ” เจยืคิมถึงกลับตกใจเมื่อตำรวจต่างแห่มากันที่นี่หมด เขาหันไปมองทางซูยองที่ตอนนี้กำลังยิ้มเยาะเขาอยุ่
“นายไม่รอดแล้ว ปล่อยฮโยยอนมาซะ” อึนฮยอกเอยบอก เจย์คิมกลืนน้ำลายอึนใหญ่ ก่อนที่เขาจะยอกปล่อยมือจากแขนของฮโยยอนและพลักเธอไห้เดินไปทางอึนฮยอก
เมื่อฮโยยอนถูกปล่อยไห้เป็นอิสระ เธอรีบวิ่งไปสวมกอดอึนฮยอกในทันที โดยไม่สังเกตเลยว่า เจย์คิมกำลังลั่นไกลปืนมาทางเธอ
ปัง! ปัง! ปัง!
ร่างบางในอ้อมกอดของอึนฮยอกถึงกลับล้มทั้งยืน เมื่อมีวัตถุเหล็ก เจาะเข้ากลางหลังของเธอ
“ฮโยยอน!!!!!” อึนฮยอกร้องขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อหลังของสาวกลับเต็มไปด้วยเลือด ร่างบางทรุดลงไปกองกับพื้นในทันที
“ฮโย ทำใจดีๆไว้นะ” อึนฮยอกเอยบอกหญิงสาวในอ้อมกอด เธอยิ้มไห้กับเขา ก่อนที่จะหมดสติไปในทันที
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
“อ๊า……… เจ็บชะมัด” ฮโยยอนร้องด้วยความเจ็บปวด เธอลืมตาขึ้น
“ฟื้นแล้วหรอ” ยูริเอยถาม เมื่อเห็นเพื่อนสาว พยายามดันตัวลุกขึ้นมา
“นี่ฉันหลับไปนานแค่ไหนกัน” ฮโยยอนเอยถาม เพราะเอจำได้แค่ว่าเธอถูกยิงแล้วก็สลบไป
“3วัน” ฮโยยอนพยักหน้า แต่ฮโยยอนก็ต้องมองมายังเพื่อนสาวของเธอ ที่ยืนจัดดอกไม้กับนิชคุณ
“นี่พวกเธอสองคนลงเอย และเคลียร์กันแล้วหรอ” ฮโยยอนเอยถาม
“อื้ม! ทิฟฟานี่เขาเข้าใจแล้วทุกอย่าง” ยูริเอยและหันมายิ้มทางฮโยยอน ที่ตอนนี้เธอกำลังมองไปรอบๆห้อง เหมือนกำลังมองหาใครบางคนอยู่
“อึนฮยอกโอ้ปป้านะ เขาไม่ขึ้นมาหรอก แต่เขาฝากดอกไม้มาทุกวันเลยนะ นั่นไง” ยูริเอยบอกอย่างรู้ทันหญิงสาวในชุดคนไข้ ฮโยยอนหันไปมองทางที่ยูริชี้ เธอก็พบดอกไม้ช่อที่วางอยู่บนโต๊ะ
ชายหนุ่มได้แต่เดินกระวนกระวาย ไปมาอยุ่หน้าห้องของหญิงสาวนามฮโยยอน ในมือเขามีดอกไม้ช่อหนึ่งที่เตรียมมาไห้เธอเหมือนทุกวัน แปลกแค่ที่วันนี้เธอฟื้นขึ้นมาแล้ว
“ทำไมไม่เข้าไปในห้องละคะ” เสียงหญิงสาวเอยทัก เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินไปมา
“ฮโยยอน! อ่อ…….โอป้าแค่ไม่อยากไห้เราลำบากใจนะ” อึนฮยอกเอยบอก
“โอป้าแน่ใจได้ยังไง ว่าฉันจะลำบากใจละคะ” ฮโยยอนเอยถามพลางส่งยิ้มให้กับอึนฮยอก
“ก็เรื่องที่พี่สารภาพกับเธอ มันอาจจะทำไห้เธออึดอัดเวลาที่อยู่กับพี่ แล้วมันก็ดีซะอีกที่พี่จะไป เพราะยังไงเธอก็ไม่………….” ยังไม่ทันทีอึนฮยอกจะพูดจบ คำพูดทั้งหมดกลับถูกร่างบางกลืนกินไปหมด เมื่อจู่ๆร่างบางกลับ เดินเข้ามาหาเข้า และจูบขา
“แค่นี้ คงจะแทนความรู้สึกของฉันได้นะคะ!” ฮโยยอนเอยบอก ก่อนจะเดินเข้าห้องของเธอไป ทิ้งไว้เพียงอึนฮยอกที่ยืนอึ้ง
“ไชโย!!!!!!!!!!!!!” อึนฮยอกตะโกนออกมาสุดเสียง แล้วจึงวิ่งตามฮโยยอนไป
ผลงานอื่นๆ ของ jeanfeaw ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ jeanfeaw
ความคิดเห็น