มายาแห่งจดหมาย
อลิชา สาวน้อยวัย 18 ปี ที่รอคอยให้ถึงวันเกิด เพราะเธอจะได้รับจดหมายจากพ่อ ผู้ที่เธอไม่เคยเห็นมาตลอด 18 ปี
ผู้เข้าชมรวม
350
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
ในเวลาสายของวันอังคาร ฝนกำลังตกปรอย ๆ อลิชาหรืออลิชนั่งอยู่หน้าบ้านเพื่อรอลุงสน คนส่งจดหมายประจำหมู่บ้าน อลิชนั่งรออย่างนี้มากว่า 2 ชั่วโมงแล้ว ถึงแม้ว่าอรนภาแม่ของอลิชจะบอกให้เข้าไปในบ้าน เดี๋ยวลุงสนก็มาเรียกเอง แต่อลิชไม่อยากพลาด เพราะเธอกำลังรอจดหมายของคนที่รักมากคนหนึ่ง ทั้งที่อลิชไม่เคยได้เห็นหน้าหรือสัมผัสกับอ้อมกอดนั้นเลยตลอดอายุ 17 ปี ของเธอ
ใช่แล้ว วันนี้เป็นวันเกิดอายุครบ 17 ปีของอลิช ในทุกวันเกิด อลิชจะได้รับจดหมายจากพ่อศตวรรษ คุณพ่อที่ไปทำงานเป็นสายลับอยู่ที่ต่างประเทศ เพราะเป็นสายลับพ่อศตวรรษจึงเปิดเผยตัวไม่ได้ พ่อไปทำงานตั้งแต่อลิชอยู่ในท้องแม่จ๋าได้แค่ 6 เดือน รออีกไม่นานลุงสนก็มาส่งจดหมาย อลิชรีบกางร่มแล้วออกไปรับจดหมายทันที
แค่เห็นซองจดหมายที่จ่าหน้าเป็นชื่อของตนเองเท่านั้น อลิชถึงกับยิ้มกว้าง เธอกล่าวขอบคุณลุงสนแล้วรีบวิ่งกลับเข้าไปในบ้าน ตรงดิ่งไปที่ห้องนอน เปิดกล่องขนาดเท่ากระดาษเอสี่ออกมา ข้างในเป็นจดหมายและการ์ดอวยพรวันเกิดอยู่หลายใบ อลิชหยิบจดหมายเหล่านั้นขึ้นมาจุมพิตช้า ๆ ก่อนที่จะวางกลับไว้อย่างเดิม
อลิชเดินไปนั่งบนที่นอนของตนเอง บรรจงแกะซองจดหมายออกมาอ่าน เธอไล่สายตาไปตามตัวอักษรที่เขียนขึ้นด้วยปากกา ลายมือที่หนักแน่นและสวยงามเมื่อปีที่แล้ว กลับกลายเป็นโย้เย้เล็กน้อย อลิชแค่เพียงสะดุดตาแต่เธอมัวแต่ตื่นเต้นกับเนื้อหาของจดหมายด้านใน จึงเลิกสนใจไปโดยปริยาย
จดหมายเริ่มต้นด้วยการกล่าวสุขสันต์วันเกิดเหมือนเช่นทุกปี ถามไถ่ถึงสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ พ่อจ๋ายังถามเธออีกว่า เธอได้รับจดหมายที่พ่อจ๋าฝากไว้ให้หรือไม่ แล้วได้อ่านทุกฉบับหรือเปล่า เธออยากบอกพ่อจ๋าเหรอเกินว่า เธอสบายดี ได้รับจดหมายทุกฉบับและอ่านมันทุกตัวอักษรมากกว่าสิบครั้ง และเธอยังเก็บจดหมายทุกฉบับไว้อีกด้วย
อลิชนอนอ่านจดหมายของพ่อจ๋าไปแล้วกว่า 3 รอบ แต่ระหว่างที่กำลังมีความสุขกับจดหมายของพ่อจ๋า อรนภามาเคาะประตูบอกให้เธอออกไปถวายเพลพระที่วัดใกล้บ้าน เนื่องในวันเกิด อลิชรีบเก็บจดหมายไว้ในกล่องเหมือนเดิม แล้วออกไปสมทบกับอรนภาที่เตรียมของไว้พร้อมแล้ว
อลิชกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีหน้า เธอจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เธอจะได้ไปเรียนที่กรุงเทพฯ ในเมืองหลวงที่มีแต่แสงสีเสียง มิใช่บ้านนอกเหมือนที่เธออยู่ตอนนี้ อลิชเบื่อแม่ที่คัดค้านไม่ให้เธอไปเรียนหรือทำงานที่กรุงเทพฯ เบื่อสังคมบ้านนอก เธออยากมีชีวิตของชาวกรุงเทพฯ อยากเหมือนในทีวีที่ดูบ่อย ๆ
เวลาผ่านไปดั่งสายน้ำ อลิชเรียนจบชั้นมัธยมปลาย กำลังเรียนพิเศษเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ตนเองใฝ่ฝัน อีกแค่ไม่นานเธอจะหลุดพ้นสังคมบ้านนอกนี้แล้ว อลิชกลับมาจากเรียนพิเศา เธอเดินเข้าไปในบ้าน เอ๊ะ! ทำไมวันนี้บ้านเงียบจัง เธอเดินตามหามารดาก่อนจะเจอกับอรนภาที่นอนไม่ได้สติอยู่บนพื้นในห้องครัว อลิชรีบวิ่งเข้าไปเขย่าเรียกมารดา แต่อรนภาก็แน่นิ่งไม่ไหวติ่ง
อลิชตัดสินใจวิ่งไปเรียกเพื่อนบ้านให้มาช่วย โชคดีที่ลุงสนผ่านมา ลุงสนจึงพาคนป่วยนำส่งโรงพยาบาล อลิชและลุงสนนั่งรออยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินกว่า 3 ชั่วโมง พยาบาลได้ออกมาแจ้งว่ามารดาที่เธอเบื่อนักหนาได้เสียชีวิตแล้ว โลกของอลิชดับลงไปทันที มารู้ทีหลังว่ามารดาป่วยเป็นโรคร้ายมะเร็งในสมองมาระยะหนึ่งแล้ว แต่เธอไม่เคยรู้เลยว่ามารดาป่วยหนัก
งานฌาปนกิจศพของมารดา อลิชได้แต่ร้องไห้ ทำอะไรไม่ได้เลย โชคดีที่ลุงสนเป็นธุระจัดการให้ทั้งหมด คืนนี้เป็นคืนแรกที่อลิชนอนที่บ้านหลังนี้คนเดียว มันเงียบเหงาและวังเวง ทั้งหดหู่และเสียใจ อลิชได้แต่เปิดกล่องสี่เหลี่ยมที่เก็บจดหมายของพ่อศตวรรษขึ้นมาอ่านเพื่อปลอบใจตนเอง
อลิชเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากบริษัทประกันชีวิตที่อรนภาทำไว้ให้ อลิชจะได้เรียนจนจบปริญญาตรี และยังมีเงินอีกก้อนหนึ่งซึ่งมันมากพอที่จะให้อลิชมีชีวิตที่สุขสบายในอนาคต หลังจากงานศพของอรนภาแค่ 2 สัปดาห์ก็ถึงวันเกิดอายุครบ 18 ปีของอลิช เช่นทุกปีที่ผ่านมา อลิชจะมารอจดหมายของพ่อศตวรรษเหมือนเช่นเคย แต่ปีนี้ลุงสนขับรถยนต์ผ่านหน้าบ้านเธอไป
เธอไม่มีจดหมายของพ่อศตวรรษในวันเกิดอายุครบ 18 ปี ทำไม! คำถามที่ไม่มีใครสามารถตอบได้ อลิชเศร้าเกินกว่าจะฉลองวันเกิดให้กับตนเอง อีกแค่สองเดือนเธอจำเป็นต้องย้ายเข้าไปเรียนที่กรุงเทพฯ เธอต้องส่งเอกสารการสมัครเรียนให้เสร็จภายในวันพรุ่งนี้
อลิชจึงต้องไปที่ห้องของอรนภาเพื่อค้นหาใบเกิดของตนเอง รวมถึงสำเนาทะเบียนบ้าน เธอจำได้ว่าแม่เก็บเอกสารสำคัญไว้ตรงโต๊ะใกล้หัวเตียง อลิชจึงเดินไปค้นดู แล้วเธอถึงเจอใบเกิดและสำเนาทะเบียนบ้าน ไม่รู้เพราะเหตุใดอลิชจึงไล่อ่านข้อมูลบนใบเกิดของตนเอง อลิชถึงกับอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อบนใบเกิดของเธอ ชื่อบิดา กลับไม่ใช่ นายศตวรรษ อย่างที่แม่เธอบอก ในใบเกิดมันระบุไว้อย่างชัดเจนว่า บิดาไม่ปรากฏชื่อ
เกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอจึงไม่มีชื่อบิดาว่า ศตวรรษ อลิชหยิบสำเนาทะเบียบบ้านมาเปิดดูอีกเล่มเพื่อยืนยันในสิ่งที่ในหัวของเธอกำลังกู่ร้องว่า มันต้องไม่ใช่เรื่องจริง แต่รายชื่อเจ้าบ้านที่เป็นชื่อแม่ของเธอ และเธอ เป็นผู้อาศัย มีแค่ 2 รายชื่อที่ปรากฏในสำเนาทะเบียนบ้าน ซึ่งสำเนาทะเบียนบ้านเล่มนี้มันเป็นเล่มเก่า มันคงเป็นไปไม่ได้ที่พ่อศตวรรษจะถูกคัดชื่อออกไป
อลิชจึงค้นตู้ข้างเตียงนอนของมารดาออกมาจนหมด สุดท้ายเธอจึงเห็นสมุดบันทึกเล่มหนึ่ง อลิชเอื้อมมือไปหยิบด้วยมือที่สั่นเทา เธอหยิบสมุดบันทึกเล่มนั้นออกมา และนั่งลงไปบนเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง เธอเปิดอ่านตั้งแต่หน้าแรกถึงหน้าสุดท้าย แปลกนะลายมือของมารดาเหมือนกับลายมือของพ่อศตวรรษแทบจะเป็นคนเดียวกันเขียน
สมุดบันทึกเขียนเล่าเรื่องราวของอรนภาที่ถูกใครไม่รู้ข่มขืนในวันเลี้ยงฉลองปีใหม่ที่บริษัทฯ อรนภาตั้งท้องจึงต้องออกจากงานที่กรุงเทพฯแล้วกลับมาขออยู่กับมารดา แต่มารดาของอรนภาต้องการให้เธอเอาเด็กออก แต่เธอไม่ยอม เพราะถึงอย่างไร เด็กในท้องก็คือลูกของเธอ อรนภาจึงยอมย้ายมาอยู่ที่นี่ บ้านนอกที่อลิชรังเกียจเพื่อรักษาชีวิตของเด็กในท้องไว้
เมื่ออลิชอายุได้ 5 ขวบ อลิชเริ่มรู้ความและถามหาบิดาผู้ให้กำเนิด เนื่องจากอลิชถูกเพื่อนร่วมชั้นล้อว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ อรนภาจึงต้องกุเรื่องของพ่อศตวรรษขึ้นมาและอรนภาเป็นคนเขียนจดหมายนั้นด้วยตนเอง อลิชจึงเชื่อมาตลอด 13 ปี ว่าเธอมีบิดาชื่อศตวรรษ ทำงานเป็นสายลับอยู่ที่ต่างประเทศ เพราะเป็นสายลับ จึงเปิดเผยตัวไม่ได้ และไม่สามารถอยู่ร่วมกับเธอและแม่ได้ อรนภาจะฝากจดหมายให้ลุงสนเป็นคนนำมันมาให้อลิชทุกปี
อลิชอ่านสมุดบันทึกจนจบ เธอถึงได้เข้าใจว่าทำไม วันเกิดอายุ 18 ปี เธอจึงไม่ได้รับจดหมายของพ่อศตวรรษ เพราะพ่อศตวรรษ พ่อที่อลิชรักนักหนา พ่อที่อลิชเทิดทูน พ่อที่อลิชปรารถนาที่จะได้เห็นหน้าและสัมผัส มันไม่มีอยู่จริง เธอมันโง่ที่เห็นภาพมายาเป็นสิ่งที่สวยงาม ทำไม! เธอถึงปล่อยให้แม่ของเธอต้องทุกข์ใจและเพราะแม่ไม่อยากให้เธอมีชีวิตเหมือนกับแม่ แม่จึงคัดค้านการไปเรียนที่กรุงเทพฯ
แม่ทำให้เธอทุกอย่างแม้แต่ในตอนที่แม่เจ็บหนัก แม่ไม่แม้แต่จะให้เธอรับรู้และต้องกังวลใจ
แม่จ๋า อลิชขอโทษ...
จดหมายทั้ง 12 ฉบับอลิชจะเก็บไว้รวมถึงสมุดบันทึกเล่มนี้ด้วย เพื่อย้ำเตือนให้อลิชสำนึกว่า
แม่รักอลิชมากแค่ไหน
อลิชก็รักแม่นะคะ..... ถึงแม้ว่ามันจะสายไปแล้วก็ตาม
********
จงแสดงความรักและบอกให้อีกฝ่ายได้รับรู้ในวันที่ยังเห็นหน้า
หากจากลาไปแล้ว อยากบอกรักแค่ไหนก็เหมือนภาพมายาที่
ไม่อาจจับต้อง
*******
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ มนต์พระจันทร์ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ มนต์พระจันทร์
ความคิดเห็น