เขาว่ากันว่าบนท้องฟ้ามีบางสิ่งบางอย่างที่เรายังไม่รู้อีกมากมาย
..
เช่นอะไรล่ะ ??
.
“ คุณหนู!! ตายแล้วคุณหนูคะ คุณหนูเลือดออก “ หญิงสาววัยกลางคนที่รูปร่างค่อนข้างเจ้าเนื้อร้องโวยวายพลางรีบวิ่งไปยังคุณหนูของเธอที่ตอนนี้นั่งทรุดลงอยู่ที่พื้น
“ นมคะ ทำเป็นเสียงดังไปได้ แค่เลือดออกเอง “ จูฮยอนหรือคุณหนูของแม่นมตอบอย่างอารมณ์ดีพลางมองมือของเธอที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเลือดอย่างคนไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด เจ็บน่ะก็เจ็บนะ แต่เธอไม่เป็นไรหรอกก็เธอเป็นนางฟ้านี่นา
“ โถ่คุณหนูก็ ถึงจะไม่มีวันตาย แต่ก็แค่บนสวรรค์บ้านของเราเท่านั้นนะคะ อย่าลงไปบนโลกมนุษย์เชียวลงไปแล้วเราก็เหมือนกับมนุษย์ธรรมดานั่นแหละค่ะ “แม่นมพูดอย่างอ่อนใจกับนิสัยขี้เล่นและซุกซนของจูฮยอนพลางลูบที่มือของเธอเบาๆที่ตอนนี้ปากแผลได้ปิดสนิทเรียบร้อย ไม่มีแล้วคราบเลือดหรือร่องรอยของบาดแผล
“ น่าสนุกดีออกนะคะ อยู่บนนี้น่าเบื่อจะตาย อยากได้อะไรก็ได้ ไม่มีสีสัน ไม่มีความตื่นเต้นเลยสักนิด นี่ฉันก็รอนมเผลออยู่นะคะเนี่ย กะว่าจะแว่บลงไปโลกมนุษย์ดูบ้าง “จูฮยอนตอบแม่นมของเธอยิ้มๆก่อนจะลุกขึ้นเก็บของที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น
“ ตายแล้วคุณหนู ทำไมคิดแบบนี้ล่ะคะ ไม่เอาค่ะอยู่บ้านเราสบายกว่ากันเยอะนะคะ “
“ ค่ะๆ ฉันรู้หรอกค่ะ ถึงฉันจะพ้นหูพ้นตาของนมได้ แต่ก็ไม่พ้นหูตาของพ่อกับแม่ได้หรอกค่ะ “ จูฮยอนตอบแม่นมของเธออย่างขัดใจ ก่อนเดินนำไปยังบ้านของเธอ แม่นมได้แต่มองแผ่นหลังของคุณหนูที่เธอเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กยิ้มๆ เฮ้ออ คุณหนูของเธอโตเป็นสาวขนาดนี้แล้วแต่ก็ยังไม่หายขี้เล่นเป็นเด็กสักที ร่างเจ้าเนื้อยิ้มบางๆอีกครั้งก่อนจะตามคุณหนูของเธอไป
“แถลงการณ์ ฉบับล่าสุดจาก SM กล่าวว่า อาการของคยูฮยอนได้ผ่านจุดอันตรายที่สุดและตอนนี้ได้เข้าสู่อาการคงตัวแล้ว เขาจะต้องใช้เวลาพักรักษาตัวอีกประมาณหลายเดือน ขอให้แฟนๆอย่าได้เป็นห่วง
.. “
ปิ๊บ
“ เฮ้ออออออ วันวันมีแต่ข่าวน่าเบื่อทั้งนั้น “ ร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียงวางรีโมตไว้ข้างตัวก่อนถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย อีกตั้งหลายเดือน นี่เขาต้องนอนบนเตียงบ้าๆนี่อีกหลายเดือนหรอเนี่ย คยูฮยอนที่ตอนนี้สภาพร่างกายของเขาไม่มีรอยบาดแผลอะไรมากแล้วมีก็แต่แผลที่ยังไม่สนิทดีเท่านั้นเอง แต่หมอก็ยังให้เขาพักฟื้นอีกตั้งหลายเดือน โถ่จะมีใครน่าสงสารแบบเขาอีกไหมเนี่ย
“ อ้าวว่าไงไอ้กี้ ทำไมทำหน้าเบื่อโลกอย่างนั้นล่ะ “ ซองมินเอ่ยขึ้นพลางวางขนมร้านโปรดของน้องเล็กตัวแสบของวงที่ตอนนี้ทำหน้าบูดเป็นตูดเป็ดไปซะแล้ว
“ นอนอยู่ในโรงพยาบาลทั้งวันแบบนี้ จะให้ผมทำหน้าสนุกเหมือนไปสวนสนุกหรอครับ คงไม่หรอกนะ “ คยูฮยอนตอกกลับซองมินอย่างกวนๆ พลางหยิบถุงขนมมาดู “ โอ้โห ขนมเยอะแยะเลย ขอบคุณนะครับ แต่วันหลังซื้อมาเยอะกว่านี้นะครับ เพราะผมยังอยู่โรงพยาบาลอีกนานโข “
“ ปกติเขาต้องเกรงใจ แล้วบอกว่าไม่ต้องซื้อมาอีกไม่ใช่หรอ นายนี่มันขี้งก แล้วก็ตะกละชะมัด “ ซองมินตอบพลางกลั้วหัวเราะ อุบัติเหตุครั้งนี้น่าจะเอานิสัยกวนโอ๊ยของเจ้ามักเน่จอมแสบนี่ไปสักนิดก็ยังดี ให้ตายเถอะถ้ามันหายดีเมื่อไหร่วงคงกลับมาวุ่นวายอีกแน่ๆ
“ เผอิญผมเป็นคนตรงๆ คิดอะไรก็บอกไปอย่างนั้น “ ร่างสูงบนเตียงตอบเรียบๆพลางกัดขนมในมืออย่างเอร็ดอร่อย ทำให้ซองมินอดส่ายหัวกับนิสัยของคยูฮยอนไม่ได้ แต่ก็เอาเถอะ นี่แหละนิสัยของไอ้กี้มัน ถ้าไม่กวนก็ไม่ใช่ไอ้กี้หรอก
“ เอ้อ พี่ทึกฝากมาบอกว่าหายไวๆนะ แล้วก็ขนมนั่นน่ะ ของพี่ทึกเขา ไม่ใช่ของพี่หรอก “ คยูฮยอนพยักหน้าขอบคุณเบาๆพลางกัดเค้กชิ้นที่สามในมืออย่างเอร็ดอร่อย จนซองมินทนไม่ไหวอดที่จะเขกหัวไอ้เจ้าน้องเล็กตัวแสบไม่ได้
“ ตะกละ งั้นพี่ไปก่อนนะ ดูแลสุขภาพด้วยล่ะ ทุกคนเป็นห่วง “ ซองมินพูดยิ้มๆพลางโบกมือ
“ อ้าวเฮ้ย แค่เนี้ย “คยูฮยอนหยุดกินเค้กพลางทำสีหน้าไม่พอใจ
“ นายก็รู้ว่าพวกพี่มีโปรเจคเพลง แต่ทุกคนเป็นห่วงนายนะ “ ซองมินพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ ที่พวกเขามีโปรเจคเพลงตอนคยูฮยอนอยู่โรงพยาบาลจะทำให้เขาไม่พอใจหรือเปล่านะ
“ อันนั้นผมรู้ ผมไม่ได้ว่าอะไร แต่หมายถึงของฝากอ่ะ แค่นี้หรอ “ นายจอมแสบบอกพลางทำหน้าทะเล้น
“ ไอ้เจ้านี่ เอ้า! เอาเกมส์พี่ไปเล่นก่อนแล้วกันจะได้ไม่เบื่อ “ ซองมินพูดพลางส่งเกมส์ดีเอสของเขาให้กับคยูฮยอน
“ พี่น่าจะขอบคุณผมนะ จะได้มีข้ออ้างไปเล่นกับซุนคยูไง ฮ่าๆๆ “ คยูฮยอนรับเกมส์มาพลางหยอกซองมิน จนคนที่ถูกหยอกหน้าขึ้นสีอย่างไม่มีสาเหตุ
“ อย่าไปพูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าพี่ทึกนะ “
“ รู้หรอกน่ะ ภาพลักษณ์ของวงน่ะสำคัญที่สุด “ คยูฮยอนเบ้ปาก
“ เอาน่าไอ้กี้ ที่พี่ทึกเขาทำแบบนั้นก็เพื่อพวกเรา นายก็รู้ดีว่าแฟนคลับเขาไม่ชอบ “ ซองมินพูดเสียงเครียด เป็นศิลปินนั้นมันไม่ง่ายเลย ความรู้สึกของเขาก็เหมือนความรู้สึกสาธารณะที่ไม่สามารถทำตามใจตัวเองได้ แต่เพราะนี่มันคืองานที่เขารัก และมีแฟนคลับที่เขารัก
“ อืม จะทำอะไรก็รีบทำนะพี่ พอวงของซุนคยูเดบิวต์ จะทำอะไรไม่ค่อยได้ ฮ่าๆๆๆ “
“ ไอ้กี้ !! นายนี่มัน “ ซองมินเอ็ดเสียงเขียวกับคำพูดชวนคิดของคยู ก่อนจะขอตัวไปทำงานต่อแต่ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่าที่ไอ้ตัวแสบมันพูดก็น่าสนเหมือนกัน
คยูฮยอนมองพี่ร่วมวงยิ้มๆก่อนจะวางเกมส์ในมือลงข้างหัวเตียงพลางมองท้องฟ้าเพราะหวังจะลดความเหงาความน่าเบื่อของแต่ละวันให้กับเขาได้ มันช่วยไม่ได้หรอก
ร่างสูงหันกลับมามองตัวเองก่อนถอนหายใจเบาๆ
“ ยูริอา~~~~ “ เสียงจากหญิงสาวตัวเล็กดังขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นพลอยทำให้หญิงสาวอีกคนที่นั่งฟังเพลงอยู่บนโซฟาอดแปลกใจไม่ได้
“ว่าไง ซุนคยูอา~~~~ “ ยูริถอดหูฟังออกพร้อมๆกับล้อชื่อของเพื่อนฝึกหัดด้วยกันอย่างอารมณ์ดี
“ ซันนี่สิ โถ่ยัยยูลบอกตั้งหลายครั้งแล้วนะ “ ซันนี่เม้มปากด้วยความขัดใจ โถ่ บอกให้เรียกซันนี่ ซันนี่ๆๆๆ
“ โอ๋ๆ อย่างอนไปซันบัน แค่ล้อเล่นหน่อยเดียวเอง “ ยูริเดินเข้าไปกอดคอพร้อมกับโยกเบาๆ “ ว่าแต่ที่เรียกเนี่ย มีอะไรหรือเปล่า “
“ เอ้อลืมไปเลย ยัยยูลรู้ไหมพวกเราจะได้เดบิวต์แล้วนะ “ ซันนี่พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ จริงหรอ เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ “ ยูริเบิกตากว้างก่อนจะส่งเสียงด้วยความดีใจพร้อมๆกับซันนี่ ในที่สุดความฝันของพวกเราก็เป็นจริง เธอคิดพลางเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาด้วยความดีใจ จนเพื่อนสาวที่ดีใจอยู่ข้างๆมองภาพนั้นด้วยดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำตาไม่ต่างจากยูริเลย
“ เอ เมื่อกี้ยังเห็นกระรอกกับลิงกระโดดโลดเต้นกันอยู่เลยนี่นา ทำไมตอนนี้กลายเป็นว่ามีเด็กขี้แยสองคนมากอดคอกันร้องไห้ซะแล้วล่ะ “
“ แทแท เราจะได้เดบิวต์แล้วนะ “ ซันนี่พูดพลางเช็ดน้ำตา แทยอนพยักหน้าเชิงว่ารู้แล้วก่อนจะเดินเข้ามากอดทั้งสองคน
“ รู้แล้วๆ วงเรามีตั้งเก้าคน เรามารอคอยกันดีกว่าว่าเพื่อนร่วมวงของเราจะมีใครบ้าง “ แทยอนตอบเสียงใสอย่างคนอารมณ์ดีพลางเช็ดน้ำตาให้กับเด็กขี้แยสองคน
“ นั่นสินะ ฉันจะดูว่าจะมีใครเตี้ยกว่าซันบันคนนี้หรือเปล่า “ ยูริที่ตอนนี้น้ำตาได้หายไปหมดแล้วพูดขึ้นหยอกซันนี่เพื่อนสาวตัวเล็กอย่างอารมณ์ที่แจ่มใสขึ้น
“ นี่!! ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าหรอกนะยัยยูล แทแทฉันว่าเราไปบอกข่าวดีให้กับพวกพี่ๆฟังกันดีกว่า ปล่อยยัยยูลไว้ตรงนี้คนเดียวเถอะ “ ซันนี่พูดก่อนหันไปแลบลิ้นใส่ยูริพลางดึงแทยอนเดินไปด้วยกัน
“ รอด้วยสิ ไปด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยย “ ยูริพูดพลางเดินไปเกี่ยวแขนทั้งสองคนไปยังห้องซ้อมของวงรุ่นพี่อย่างซุปเปอร์จูเนียร์
“ อ้าวไอ้มินกลับมาแล้วหรอ ไอ้กี้เป็นไงบ้าง “ ฮันคยองหนุ่มชาวจีนถามขึ้นหลังจากที่ซองมินเดินเข้ามาในห้องซ้อม
“ ก็ดีขึ้น แต่ปากมันนี่สิเสียแก้ไม่หายจริงๆ “ ซองมินตอบพลางวางสัมภาระไว้ที่ล็อคเกอร์ก่อนจะมาสมทบกับพวกเราที่กำลังซ้อมเพลงใหม่อยู่ ฮันคยองหัวเราะกับท่าทีหงุดหงิดของซองมินก่อนจะตบบ่าของเพื่อนเบาๆ
“ โดนล้อเรื่องซุนคยูล่ะสิ ใช่มั๊ย “ หนุ่มชาวจีนถามยิ้มๆ จนซองมินทนไม่ไหวส่งสายตาตักเตือนพลางพยักเพยิดไปยังลีทึกหัวหน้าวงที่กำลังเดินเข้ามาในห้องซ้อม
“ โทษทีๆ ลืมไป “ ฮันคยองบอกเบาๆก่อนที่เขาและซองมินจะแยกย้ายกันไปซ้อม
ก๊อก ก๊อก
“ สวัสดีค่ะรุ่นพี่ พวกเรามากวนเวลาซ้อมหรือเปล่าคะ “ แทยอนโผล่หน้าขาวๆเข้ามาพลางถามเสียงใส
“ อ้าวแทยอน เข้ามาก่อนสิ “ คังอินรุ่นพี่ที่ดูจะสนิทกับแทยอนที่สุดชักชวนอย่างอารมณ์ดี “ไอ้บอม ไปปิดเพลงสิ “ คังอินหันไปบอกคิบอมก่อนจะเดินเข้าไปหาแทยอนที่ตอนนี้เธอกำลังแอบมองคนที่ไปปิดเพลงอย่างขัดใจ เย็นชาชะมัด หันมามองสักนิดไม่มี
“ วันนี้ฉันไม่ได้มาคนเดียวนะคะ แต่นแต๊นน “ แทยอนพูดพลางดันประตูให้กว้างขึ้น “ ยูริ กับ ซันนี่ก็มานะคะ “
“ ซุนคยูอา~~~~~ “ ชายหนุ่มในห้องพูดพร้อมกันอย่างรู้งานจนยูริที่ยืนอยู่ข้างๆอดขำไม่ได้พลางมองเพื่อนของเธอที่ตอนนี้หน้าแดงเป็นมะเขือเทศซะแล้ว
“ รุ่นพี่!!!” ซันนี่ร้องขึ้นมาอย่างขัดใจ พลางตีเพื่อนสาวที่หัวเราะอยู่ข้างๆ แกล้งได้แกล้งดีเลยนะ จนเพื่อนสาวกับรุ่นพี่หัวเราะออกมาอีกครั้งกับท่าทีของซันนี่ ก่อนจะรุมเข้ามาขยี้หัวอย่างเอ็นดู
“ รุ่นพี่ วันนี้ซ้อมเหนื่อยไหมคะ “ แทยอนเดินออกมาจากวงสนทนาพลางเดินเข้ามาทักคิบอมที่กำลังนั่งมองพี่ๆในวงกับรุ่นน้องกำลังหยอกล้อกันอยู่
“ เหนื่อย “ คิบอมตอบสั้นๆจนแทยอนที่รอคำตอบยิ้มอย่างอึดอัด
“ อะ เอ่อ หรอคะ แล้ว “
“ แต่ก็สนุกดีเพราะนี่คือสิ่งที่ฉันรัก” คิบอมตอบยิ้มๆ แทยอนที่มองอยู่ก็พลอยยิ้มตามไปด้วย อย่างน้อยที่พี่ยิ้มเวลาพี่คุยกับฉันก็แปลว่าพี่ไม่ได้เกลียดฉัน
“ พี่คะ วันนี้ไปกินข้าวด้วยกันไหมคะ “ แทยอนถามเสียงใส คิบอมหันมามองแทยอนนิ่งๆก่อนส่ายหัว ไม่ใช่เขาไม่อยากไปกินกับเธอหรอกนะ แต่สถานะตอนนี้ทำให้เขาไปกินกับเธอไม่ได้ต่างหาก
“ แทยอน วันนี้มีอะไรล่ะถึงมาห้องซ้อมได้ “ ลีทึกถามขึ้นมาเงียบๆหลังจากที่เขาแอบดูรุ่นน้องสาวกับคิบอมนั่งคุยกันได้สักพักแล้ว เขาพยายามคิดว่าที่เขาพูดขัดไม่ใช่เพราะความรู้สึกของเขา แต่เขาทำเพื่อรักษาวงของเขาต่างหาก
“ เอ้อลืมไปเลย ยัยยูล ยัยซันบัน มานี่ๆๆๆ “ แทยอนร้องเรียกเพื่อนสาวสองคนที่ตอนนี้สนุกสนานกับการคุยให้มาหาเธอ “ วันนี้พวกเรามีข่าวดีมาบอกค่ะ “
“ เรื่องอะไรล่ะ ดูยิ่งใหญ่จังเลยนะ “ ฮันคยองถามขึ้นยิ้มๆพลางเหล่มองยูริเงียบๆแต่ก็ไม่พ้นสายตาของลีทึกที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ ระวังหน่อย “ หัวหน้าวงเอ็ดเบาๆ
“ ข่าวดีก็คือพวกเราจะได้เดบิวต์แล้วค่า~~~ “ ซันนี่ร้องบอกพร้อมกับกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจพลางมองปฎิกิริยาของรุ่นพี่ร่วมค่ายว่าคงจะตกใจและแปลกใจ แต่เอ.. ทำไมเขาทำหน้าเฉยๆอ่ะ
“ พวกพี่ไม่ดีใจกับพวกเราหรอคะ “ ยูริที่ยืนมองอยู่เงียบๆถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ชายหนุ่มมองหน้ากันยิ้มๆ
“ พวกเรารู้แล้วแหละ ดีใจด้วยนะ เดี๋ยววันนี้เราไปฉลองกันไหม “ คังอินเสนอความคิด สามสาวพยักหน้าแทบจะทันที
“ แล้วพี่คยูละคะ ไปกินที่โรงพยาบาลไหมคะ “
“ แหมยัยยูล พี่เขาไม่สบายอยู่ เอาไว้วันหลังเราไปเยี่ยมพี่เขาด้วยกันก็ได้ “ ซันนี่พูดยิ้มๆก่อนจะเดินตามรุ่นพี่ร่วมค่ายไปเลี้ยงฉลอง
“ อะไร ไอ้พวกนี้จะฉลองไม่ถามฉันสักคำ “ ลีทึกส่ายหัวเบาๆกับนิสัยซุกซนของสมาชิกในวงของเขา
“ หาเรื่องอู้ซ้อมใช่มั้ยละคะ “ แทยอนถามยิ้มๆ
“ ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ “ เขาตอบพลางกลั้วหัวเราะ “ ไปเถอะ ไม่ต้องซ้อมแล้ว เดบิวต์ได้ซะทีนะพวกเธอ ดีใจด้วยนะ “
“ ขอบคุณค่ะ “ แทยอนยิ้มสดใสก่อนจะเดินตามเพื่อนสาวของเธอออกไป แต่คนที่โดนรอยยิ้มสดใสอย่างเขาได้แต่กุมหัวใจที่เต้นแรงพลางหลับตาสงบจิตใจตัวเอง ไม่ได้เขาจะรู้สึกไม่ได้เพราะเขามีหน้าที่ต้องทำ หน้าที่ที่ไม่สามารถแสดงความรู้สึกอะไรได้
“ พี่ทึกยืนนิ่งอะไรอยู่ ไม่กินหรอคะ ร้านโปรดพี่นะคะ “ แทยอนตะโกนจากหน้าประตูทำให้เขาหลุดจากความคิดพลางมองรอบตัวว่าตอนนี้มีแค่เขากับคิบอมเท่านั้น เขายิ้มให้นิดๆก่อนจะชี้ไปทางประตูเชิงว่าจะไปกินด้วยกันไหม คนถูกชวนพยักหน้านิดๆตามสไตล์ก่อนเดินมาพูดเบาๆกับเขา
“ ความรู้สึกคนเรามันเก็บยากนะครับ “
-----------------------------------------------------------------
อัพแล้วววว ตอนแรกของเรื่องนี้ ไรเตอร์ลองบรรยายแบบนี้ดู ดีไม่ดีลองติชมดูนะคะ
เรื่องนี้คงมีตัวละครเยอะน่าดูอ่ะเน๊อะ ก็ยกมาทั้งสองวงเลยนี่นา 5555555555555555
ยังไงก็ฝากฟิคเรื่องนี้อีกสักเรื่องนะคะ ขอบคุณมากนะคะ
ฝันหวานทุกคนเลยน้า ชุ้บุ จุ้บๆ
ความคิดเห็น