[JUNSEUNG]จุนซึง องค์ชายรัชทายาทผู้สูงศักดิ์
จะทำเช่นไรต่อเมื่อสิ่งที่อยู่กับเราตอนนี้มีเพียงแค่ร่างกายของท่านเท่านั้น...แต่หัวใจของท่านนั้นหายไป ในเมื่อท่านไม่สามารถรักเราได้...หัวใจของเราดวงนี้ก็ไม่สามารถยกให้ท่านได้เช่นกันองค์ชายยง จุนฮยอง
ผู้เข้าชมรวม
6,926
ผู้เข้าชมเดือนนี้
12
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
จุนซึง องค์ชายรัชทายาทผู้สูงศักดิ์
“เสด็จพ่อตรัสว่าอะไรนะพะยะคะ?” ภายในห้องทรงงานส่วนพระองค์ของกษัตริย์ ยง จีฮุน แห่งแคว้นโชซอน และองค์ชายยง จุนฮยอง องค์ชายรัชทายาทผู้มีนิสัยสุขุม และเด็ดเดี่ยวไม่ต่างจากพระบิดา กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวเมื่อรู้ถึงเจตนาที่พระบิดาเรียกตนมาพบ
“พ่อแก่มากแล้ว สังขารก็ร่วงโรยไปตามกาลเวลา ตอนนี้ลูกเองก็เข้าวัยเบญจเพศแล้ว ถึงเวลาสมควรที่พ่อจะสละบัลลังเสียที” กษัตริย์จีฮุนบอกเจตนารมณ์ของพระองค์อีกครั้ง ถึงแม้นรู้ดีว่าลูกชายคงไม่เต็มใจนัก เพราะวัย 25 ของบุรุษเป็นวัยที่กำลังคึกคะนอง และยังคงรักสนุก แต่ตอนนี้ตัวพระองค์เองอายุก็ 60 แล้ว จะให้มานั่งว่าราชการต่อไปคงจะไม่ไหว สมองและร่างกายเริ่มเชื่องช้ายากต่อการปฏิบัติหน้าที่ พระองค์จึงตัดสินพระทัยว่าจะสละบัลลังให้กับองค์ชายรัชทายาทเสียที
“กระหม่อมไม่อยากขัดพระประสงค์ของเสด็จพ่อหรอกพะยะคะ แต่ตอนนี้กระหม่อมยังไม่พร้อมที่จะรับช่วงบัลลังต่อจากเสด็จพ่อ ไว้กระหม่อมพร้อม กระหม่อมจะทูลขอเสด็จพ่อด้วยตัวกระหม่อมเองพะยะคะ” องค์ชายจุนฮยองใช่ว่าจะไม่รู้ภาระหน้าที่ของตน แต่ตอนนี้เขายังไม่พร้อมที่จะขึ้นครองราชย์จริงๆ เพราะถ้าขึ้นครองราชย์ มีกษัตริย์ ก็ต้องมีมเหสี ซึ่งเป็นสิ่งที่องค์ชายรัชทายาทคิดตระหนักมาโดยตลอด เนื่องจากตอนนี้หัวใจอันแข็งแกร่งดุจหินผาได้มอบให้หญิงสาวนามว่า ปาร์ค โบยัง ไปหมดทั้งหัวใจ แม้รู้ดีว่าทำอย่างไรความรักของตนก็ไม่มีวันที่จะจบอย่างสวยงาม เพราะหนึ่งคนคือองค์ชายรัชทายาทผู้สูงศักดิ์ ส่วนคนรักเป็นเพียงลูกสาวของผู้นำกบฏแห่งดินแดนทางใต้ ที่ถูกส่งมาเป็นเชลย...
“เป็นเพราะเชลยศึกนางนั้นใช่หรือไม่ ที่ทำให้ลูกตัดสินใจไม่ได้” คำกล่าวของพระบิดาทำให้องค์ชายจุนฮยองต้องใจกระตุก นี่เสด็จพ่อรู้เรื่องระหว่างเขากับคนรักอย่างนั้นหรือ ในเมื่อมาถึงขั้นนี้ องค์ชายจุนฮยองไม่ใช่คนที่ทำอะไรไว้แล้วไม่กล้ารับผิดชอบ ตอนนี้เขาควรจะปกป้องหญิงผู้เป็นที่รักให้ถึงที่สุด
“นางเป็นหญิงคนแรกที่กระหม่อมหลงรักหลังจากสิ้นเสด็จแม่ไป และกระหม่อมคิดว่านางคือหญิงคนสุดท้ายที่กระหม่อมจะมอบหัวใจให้ กระหม่อมรู้ว่าไม่ควรเผลอใจให้กับเชลยแบบนี้ แต่กระหม่อมไม่สามารถห้ามหัวใจของกระหม่อมได้พะยะคะ” ในความทุกข์ใจก็ยังคงมีความโล่งใจอยู่ประปลาย เมื่อได้พูดทุกอย่างที่เก็บไว้มานานแรมปี ถึงแม้จะรู้ดีว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เขาก็ขอน้อมรับ
“แต่ลูกรู้ใช่หรือไม่ ว่าไม่ว่าอย่างไรความรักของลูกกับเชลยนางนั้นก็ไม่มีทางเป็นไปได้...ยังไงลูกก็ต้องอภิเษกกับคนที่คู่ควร” ใช่ ข้อนี้เขารู้ดี และไม่ได้ต่อต้านแต่อย่างใด เขาทำใจยอมรับมานานแล้วว่าซักวันหนึ่งเขาต้องอภิเษกกับคนอื่นที่ไม่ใช่คนรัก แต่จะให้เขาทิ้งคนรักไปอย่างนั้นหรือ เขาคงทำไม่ได้
“หม่อมฉัน...”
“เอาล่ะ...ลูกไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว ถ้าลูกรักเชลยนางนั้นจริง พ่อจะยอมให้นางเป็นสนมของลูกต่อเมื่อลูกยอมอภิเษกกับคนที่คู่ควร” องค์ชายจุนฮยองไม่อยากเชื่อ นี่เขาคิดว่าพระบิดาจะสั่งจองจำหรือไม่ก็เนรเทศคนรักของเขาเสียอีก แต่ถึงพระบิดาของตนทำอย่างนั้นจริง มีหรือว่าตนจะยอมอยู่เฉย
ใบหน้าหล่อเหลาดูมีความหวังขึ้นมาอย่างปิดไม่มิด ถึงกษัตริย์ยง จีฮุนจะแข็งแกร่งและเด็ดขาดเพียงใด พระทัยของพระองค์ยังคงอ่อนโยนต่อราชโอรสเสมอ
“ขอบพระทัยพะยะคะ...ก่อนกระหม่อมจะขึ้นครองราช กระหม่อมตรัสถามบางอย่างกับเสด็จพ่อได้หรือไม่พะยะคะ?”
“ลูกสงสัยอะไรก็ถามมาเถิด”
“คนที่คู่ควรที่จะเป็นมเหสีของกระหม่อมคือใครเหรอพะยะคะ?” เขามีสิทธิ์ที่จะรู้ว่าหญิงที่จะมายืนเคียงข้างเขาตอนที่ขึ้นบัลลังเป็นใคร ถึงจะไม่สามารถมอบความรักให้นางได้ แต่เขาจะดูแลนางให้สมกับเกียรติของนางอย่างแน่นอน
“องค์ชาย จาง ฮยอนซึง...องค์ชายรัชทายาทแห่งแคว้นอันยาง”
“เสด็จพ่อ!!!” นี่มันราหูอมจันทร์หรืออย่างไร เสด็จพ่อทรงตรัสถึงว่าที่มเหสีของเขาคือ องค์ชาย จาง ฮยอนซึง...องค์ชาย อย่างนั้นเหรอ อย่างนี้ก็แปลว่าเขาต้องเข้าอภิเษกกับผู้ชายด้วยกัน เป็นไปไม่ได้ เขาต้องหูฝาดแน่ๆ
“ลูกก็รู้ดีว่าศึกครั้งที่แล้วถ้าไม่ได้แคว้นอันยางมาช่วยแคว้นเราคงไม่ได้อยู่จนถึงทุกวันนี้...ตอนนี้แคว้นอันยางกำลังมีปัญหาบ้านเมือง เราจึงจำเป็นต้องช่วยทางนั้นด้วยการรวมเมืองเป็นหนึ่งเดียว แล้วการที่จะรวมเมืองก็มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นคือการให้ราชโอรสหรือราชธิดาของทั้งสองเมืองอภิเษกสมรสกัน กษัตริย์จาง ดงอุคมีราชโอรสเพียงคนเดียว คือองค์ชาย ฮยอนซึง”
“แต่เขาเป็นบุรุษไม่ใช่หรือพะยะคะ?”
“ใช่...แต่ว่างดงามเหนือสตรีทุกนาง” งดงามเหนือสตรีอย่างนั้นเหรอ จะมีบุรุษคนใดที่จะงดงามยิ่งกว่าสตรี เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น นี่พระบิดาของเขาทรงงานหนักมากจนพระเนตรพล่ามัวหรืออย่างไรกัน
“ให้เขามาเยือนแคว้นเราก่อนเถิดพะยะคะ...กระหม่อมอยากเห็นนักว่าองค์ชายฮยอนซึงของเสด็จพ่อจะงดงามเพียงได ถ้างดงามเหนือสตรีทุกนางจริง กระหม่อมก็จะยอมผิดผี อภิเษกกับเขาโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆพะยะคะ” เขาพูดไปอย่างนั้นเพื่อเป็นการหยั่งเชิงพระบิดา เขารู้ดีแม้ว่ามเหสีของเขาจะเป็นใคร มาจากไหน เพศอะไร หน้าตาเป็นเช่นไร เขาก็ต้องอภิเษกกับคนนั้นอยู่ดี
กษัตริย์จีฮุนไม่ได้ตรัสอะไรอีก ได้แต่เพียงแย้มสรวลให้ราชโอรส พระองค์พอพระทัยกับผลลัพท์ที่ออกมา แล้วพระองค์ก็มั่นพระทัยว่า เมื่อราชโอรสของพระองค์ได้พบกับองค์ชายแห่งแคว้นอันยางนั้น ต้องพอใจเหมือนเช่นพระองค์เป็นแน่ ครั้นก็หวนนึกถึงตอนไปราชการที่แคว้นอันยางแล้วได้ทอดพระเนตรเห็นราชโอรสของแคว้นนั้นเข้าครั้งแรก พระองค์ยังคิดว่าเป็นสตรีที่งามที่สุดตั้งแต่เคยพานพบมา แต่ก็นึกฉุกคิดว่าสตรีนางใดจะสวมอาภรณ์เป็นบุรุษ ไม่นานความจริงก็กระจ่างเมื่อองค์กษัตริย์ดงอุค พระสหายของพระองค์แนะนำให้รู้จักกับลูกชาย คิดแล้วก็เหนื่อยพระทัยกับตัวพระองค์เองนัก ที่เผลอไปคิดว่าราชโอรสของสหายเป็นราชธิดาไปซะได้...
อ่านฟิคแล้วช่วยคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ด้วยเถิด
ได้โปรด T_T
ไรเตอร์จะได้มีแรงฮึดแต่งต่อจนจบเรื่องยังไงเล่าเออ
เพลงประกอบฟิค
แนะนำว่าเปิดฟังเพลงไปอ่านไปจะได้อัถรสมากขึ้นไปอีก
ผลงานอื่นๆ ของ องค์หญิงขี้วีน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ องค์หญิงขี้วีน
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น