ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดาบสายฟ้าแห่งเซียร์นารี่

    ลำดับตอนที่ #2 : การเดินทางของเสียงดนตรี

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 102
      0
      25 ธ.ค. 49

    การเดินทางของเสียงดนตรี

     

                หลังจากนั้นไม่กี่วันเจ้าหญิงโดริสก็เตรียมเก็บข้าวของ และไม่ลืมที่จะหยิบซรูตรอง ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีโปรดไปด้วย และเวลาแห่งการออกเดินทางก็มาถึง

                โชคดีนะโดริส ลูกจะต้องเอาดาบสายฟ้ากลับมาให้ได้จำไว้ และที่สำคัญลูกต้องดูแลอัญมณีอีกครึ่งหนึ่งให้ดี แล้วเจอกันนะลูกรัก

    เจ้าหญิงโดริสกำอัญมณีที่ตอนนี้กลายเป็นจี้ห้อยคอของเธอไว้แน่น

     โซโต้พูดสั่งลาพร้อมกับสวมกอดลูกสาวสุดที่รักทีหนึ่ง แล้วหันไปสั่งออร่าและเคนว่า

                เจ้าสองคนต้องดูแลโดริสให้ดีด้วยล่ะ

                เราจะดูแลเจ้าหญิงโดริสด้วยชีวิตค่ะ/ครับ

    ทั้งสองคนประสานเสียงกันพูดอย่างพร้อมเพรียง

                แล้วคาดิซล่ะคะ ทำไมป่านนี้ยังไม่มาอีก

    เจ้าหญิงโดริสถามขึ้น

                อ๋อ พ่อลืมบอกไป ลูกจะยังไม่พบกับเขา ถ้าเขาไม่ต้องการให้ลูกพบ แต่เขาจะมาให้ลูกพบในเวลาที่ลูกต้องการเสมอ

    ท่านพ่อพูดอะไรเนี่ย เรางงไปหมดแล้วนะ แต่ช่างเถอะ เขาจะเป็นใครก็ช่าง ขอแค่เป็นคนดีก็พอ

                หลังจากล่ำลากันเสร็จ ทุกคนก็เริ่มออกเดินทาง โดยใช้ไคเร สัตว์พื้นเมืองชั้นสูงของเซียร์นารี่ ที่มีลักษณะคล้ายกับสิงโต แต่ตัวใหญ่กว่ามาก มีลำตัวและแผงคอสีขาวดังหิมะ เขี้ยวโค้งยาวลากดิน เหมือนเสือเขี้ยวดาบ และที่สำคัญเจ้าไคเรสามารถพูดได้ด้วย ส่วนนิสัยของไคเร แตกต่างจากรูปร่างและหน้าตาที่น่าหวาดกลัวมาก ไคเรเป็นมิตรและขี้เล่นกับทุกคน แต่จะมีนิสัยดุร้ายเฉพาะเวลาที่ต้องต่อสู้เท่านั้น

                ไคเร เจ้าหนักมั๊ย

    เจ้าหญิงโดริสเอ่ยถามขึ้น หลังจากขึ้นไปนั่งบนหลังของไคเรเรียบร้อยแล้ว

                ไม่หรอก ตัวท่านออกจะเบา

    ส่วนออร่ากับเคนก็ต้องเดินเท้าตามหลังเจ้าหญิงโดริสไป พอไปถึงหมู่บ้านชานเมืองหมู่บ้านหนึ่ง ก็เกิดพายุหนัก พัดหอบเอาเศษใบไม้และฝุ่นละอองฟุ้งกระจายไปทั่ว จนทุกคนมองไม่เห็นทาง

                เจ้าหญิงโดริสคะ เข้าไปหลบพายุในบ้านหลังนั้นเถอะค่ะ

    ออร่าเสนอความคิดขึ้น เมื่อเห็นท่าว่าพายุครั้งนี้จะรุนแรงเกินที่จะเดินทางต่อ ทุกคนจึงเข้าไปขอหลบพายุในบ้านหลังนั้นทันที

                นี่พวกเจ้าจะเดินทางไปไหนกันล่ะ

    โลคัสชายชราเจ้าของบ้านถามขึ้น

                เอ่อ... ข้าจะไปหาสมุนไพรในป่าโฟราโคน่ะ

    เคนตอบ แบบบ่ายเบี่ยงไป

                อ๋อ งั้นหรือ ทางไปป่าโฟราโคเนี่ย มันอันตรายมากนะ

                เราทราบแล้ว แต่จำเป็นจะต้องไปจริงๆ

    โลคัสลุกขึ้นไปหยิบน้ำชาร้อนมาให้ทุกคนดื่ม เพื่อแก้หนาว พร้อมกับพูดว่า

                ถ้าอย่างนั้น พวกเจ้าก็พักอยู่ที่นี่จนกว่าพายุจะพัดผ่านไปก็แล้วกัน

    ออร่ากล่าวขอบคุณโลคัสที่มีน้ำใจ

                ขอบคุณคุณลุงมากนะคะ

    ชายชรายิ้มให้อย่างอ่อนโยนแทนคำตอบว่า ไม่เป็นไร

                ในกระท่อมล้างเก่าซ่อมซ่อแห่งหนึ่ง มีชายหนุ่มรูปงาม ผู้ที่ผมสีน้ำตาลทองราวกับรวงข้าว นั่งอยู่กลางกระท่อม ความเปียกปอนนั้น ไม่ทำให้ความงามของเขาลดลงไปเลย ดวงตาสีน้ำตาลกลมโต จ้องมองไปกลางสายฝน คิ้วเข้มๆรับกับใบหน้าขมวดเข้าหากัน หลังจากมองหาใครบางคนไม่เจอ เธอคนนั้นไปอยู่ที่ไหนแล้วนะ เขานึกเป็นห่วงเธออยู่ในใจ ไม่ได้เป็นเพราะความรักใคร่อะไรหรอก สำหรับเขามันเป็นเพียงแค่หน้าที่เท่านั้นแหละ จมูกโด่งเป็นสันของเขาหายใจทิ้งออกมาเบาๆ

                โดริส

    ปากบางๆขมุบขมิบออกมาเป็นชื่อของเธอ คนที่เขาต้องปกป้อง... ไปตลอดชีวิต

               

                ชายหนุ่มผมสีแดงเพลิงรีบเดินมาเคาะประตูห้องห้องหนึ่ง ที่ปิดเงียบมานาน

                เข้ามาได้

    เสียงอันทรงอำนาจนั้นดังขึ้น แล้วมาโซรัสก็เปิดประตูเดินเข้าไปในห้องนั้นอย่างเร่งรีบ

                เราสืบข่าวมาว่า เจ้าหญิงโดริสกำลังออกเดินทางตามหาดาบสายฟ้าขอรับนายท่าน

                จัดการส่งคนตามล่ามัน เอาอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ส่วนที่เหลือมาให้ได้

                ขอรับ...แต่ว่า...ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าเจ้าหญิงโดริสอยู่ที่ไหนขอรับ

    มาโซรัสตอบเสียงสั่น ส่วนเอลาโซก็หันขวับมาทันที แววตาที่บ่งบอกว่า เขากำลังโกรธจัดฉายชัดขึ้น ทันใดนั้นกระจกที่หน้าต่างและกระจกเงาในห้องก็เริ่มร้าวแล้วแตกลงในที่สุด เพล้ง! มาโซรัสยืนตัวแข็งด้วยความกลัว

                ออกไป...

    เอลาโซตะโกนสั่ง ก่อนจะพูดต่อไปว่า

                แล้วอย่าลืมไปหาตัวเจ้าหญิงโดริสให้เจอ ก่อนที่มันจะบุกเข้ามาในปราสาทของข้าล่ะ

    มาโซรัสพยักหน้าอย่างหวาดกลัว ก่อนจะเดินออกไปจากห้องทันที

     

                เมื่อเวลายามค่ำคืนเยือนมาถึง ห้วงแห่งนิทราของเจ้าหญิงโดริส ก็มีร่างของหญิงงามคนหนึ่งปรากฏขึ้น

                โดริสหลานรัก

    เสียงที่คุ้นเคยนี้จะเปฌนใครไปไม่ได้นอกจากโบก้าท่านย่าของเจ้าหญิงโดริสนั่นเอง

                ท่านย่า...

    เจ้าหญิงโดริสอุทานอย่างตกใจ โบก้าส่งยิ้มเมตตามาให้หลานสาวคนเดียวของเธอ

                ย่ามีเรื่องสำคัญจะบอกหลานนะ

                เรื่องอะไรหรือคะ

    เจ้าหญิงโดริสเอียงคอถามอย่างน่ารัก

                การเดินทางในครั้งนี้ หลานจะพบกับ 3 สิ่งด้วยกัน คือ ความรัก มิตรภาพและศัตรู ก่อนอื่นหลานจะต้องหามิตรแท้นั่นก็คือ เจ้าแห่งธรรมชาติทั้ง 5 ให้พบ เจ้าแห่งพายุ เจ้าแห่งเม็ดทราย เจ้าแห่งผืนป่า เจ้าแห่งภูผา และเจ้าแห่งสายชล ส่วนความรักและศัตรูคือสิ่งที่ตามมา ย่าบอกหลานได้แค่นี้ล่ะ จงจำไว้อย่าลืมตัวตนของตนเอง

    แล้วร่างของท่านโบก้าก็ค่อยๆเลือนหายไป เจ้าหญิงโดริสก็สะดุ้งตื่นขึ้น พร้อมกับพบว่า รอบๆกายของเธอนั้น มีแสงจ้าสีขาวล้อมรอบอยู่ และแสงนั้นก็ค่อยๆจางหายไป

                อย่าลืมตัวตนของตนเองงั้นหรือ แล้วตัวตนของเราคืออะไรล่ะ

    เจ้าหญิงโดริสครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะผลอยหลับไปในที่สุด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×