ชีวประวัติซัดดัม ฮุซเซน

เนื้อเรื่อง

เชิญเพื่อนๆอ่านชีวประวัติเผด็จการโลกไม่ลืมครับ

เกิด 28 เมษายน ค.ศ. 1937 ในหมู่บ้านชนบทมีชื่อว่าเอาญะห์ นอกเมือง ตีกรีต ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของนครแบกแดดไป 8 กิโลเมตร ในครอบครัวของคนเลี้ยงแกะ ศ็อดดามแปลว่า "ชนแหลก"

จากแม่ชื่อศุบฮะห์ ตุลฟะห์ เขาเอาชื่อพ่อมาเป็นนามสกุล พ่อชื่อ ฮุเซน อับดุลมาญิด ซึ่งตายไปห้าเดือนก่อนที่เขาจะเกิด ไม่นานหลังจากนั้น พี่ชายวัยสิบสองขวบของเขาก็เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง ทำให้แม่ของเขาที่กำลังตั้งครรภ์ในระยะสุดท้ายต้องเศร้าโศกเสียใจเป็นอันมาก จนเธอพยายามทำแท้งและฆ่าตัวตาย อีกทั้งปฎิเสธที่จะเลี้ยงดูซัดดัมเมื่อแรกเกิด ศุบฮะห์ไปแต่งงานใหม่ได้ลูกอีกสามคน หนึ่งในจำนวนนั้นชื่อว่า หัดดาม" แปลว่า "ถล่มแหลก"

• ค.ศ. 1947 ซัดดัมย้ายไปอยู่กับค่อยรุลลอห์ ตุลฟะห์ ผู้เป็นพี่ชายของแม่ ตอนหลังบุรุษคนนี้พาซัดดัมเข้าพรรค บะอัธ (สังคมนิยม) ที่ไม่นิยมศาสนาและการปกครองระบอบมหากษัตริย์

• ค.ศ. 1958 ซัดดัมฆ่าสามีของญาติผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นปีเดียวที่กษัตริย์ไฟศอล แห่งอิรัก และครอบครัวถูกปลงพระชมน์

• ค.ศ. 1959 ซัดดัมเป็นหนึ่งในผู้ปฏิบัติการสังหารนายกรัฐมนตรีอับดุลกะรีม กอซิม แต่ไม่สำเร็จ ซัดดัมได้รับบาดเจ็บและหนีไปซ่อนตัวอยู่ในซีเรียและอิยิปต์ (ซึ่งสมัยนั้นได้รวมประเทศ ภายใต้การปกครองของญะมาล อับดุลนาศิร และพรรคบะอัธ แพนอาหรับ) รัฐบาลอิรักตัดสินประหารชีวิตซัดดัม แต่เมื่อซัดดัมกลับมาอิรักอีกครั้ง ในปี 1963 เขาเพียงแค่ถูกจำคุกไม่ถึง 2 ปี (1964-1965)

• ค.ศ. 1963 แต่งงานกับซาญิดะห์ ตุลฟะห์ลูกของลุง และได้่ลูกด้วยกัน 5 คน เป็นชายสอง คือ อุดัย และ กุศ็อย และหญิงสามคือ ร่อฆดะห์, ร่อนา และฮะลา

• ค.ศ. 1968 พรรคบะอัธก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจได้

• 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1968 ซัดดัมร่วมในรัฐประหาร อัลบะกัร สถาปนาตนเองเป็นประธานาธิบดี ซัดดัมผู้เป็นญาตได้เป็นรองประธานาธิบดี และรองประธานพรรคบะอัธ

นาศิร อัลฮานี บุคคลสำคัญผู้ร่วมในการรัฐประหารถูกฆ่าแล้วทิ้งลงในคูข้างทาง

• 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1979 ซัดดัม ยึดอำนาจจากอัลบะกัร ผู้เป็นเจ้านายและญาติ และสถาปนาตนเองเป็นประธานาธิบดี หลังจากที่ต้องเป็นรองประธานาธิบดี 11 ปีพอดี ซัดดัมได้สั่งประหารนักการเมืองในพรรคบะอัธของตนประมาณ 20 คน ภายในเวลาไม่กี่วันหลังจากนั้น

• ค.ศ. 1979 การปฏิวัติอิสลามในอิหร่านโค่นล้มชาห์สำเร็จ องค์กรอิสลามต่อต้านซัดดัมในอิรักเริ่มเคลื่อนไหว

• ค.ศ. 1980 ซัดดัมเริ่มทำสงครามกับอิหร่าน เพราะเกรงว่าอิรักซึ่งเป็นศูนย์กลางของโลกชีอะหฺ จะก่อการปฏิวัติอิสลามเหมือนอิหร่าน ซัดดัมอ้างว่า เพื่อแย่งชิงแหลมโฮรโมซ โดยมีกลุ่มประเทศอ่าวเปอร์เซีย เช่นซาอุดิอารเบีย และคูเวต ให้การสนับสนุนด้านทรัพย์สิน สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นคู่อริกับอิหร่านหลังจากปฏิวัติอิสลาม ให้การสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ ซัดดัมเนรเทศชาวอิรักที่มีเชื้อสายอิหร่านออกจากประเทศ 130,000 คน

• 5 เมษายน ค.ศ. 1980 ซัดดัมสั่งจับอายะตุลลอหฺ มุฮัมมัด บากิร อัศศ่อดรุ ประธานพรรคเผยแผ่อิสลาม และ บินตุลฮุดา น้องสาวไปทรมาณ ในวันที่ 8 ซัดดัมสั่งให้เอาศพของท่านมาให้แก่อายะตุลลอหฺ มุฮัมมัด ศอดิก อัศศ่อดรุ ทำพิธีฝังอย่างเงียบ ๆ แต่ไม่ได้เอาศพของน้องสาวท่านมาคืน

• ค.ศ. 1982 อดีตประธานาธิบดี อัลบะกัร ตายอย่างเป็นที่น่าสงสัย

• ค.ศ. 1987-1989 ซัดดัมสั่งปฏิบัติการ "อันฟาล" เพื่อลบล้างเผ่าพันธ์ชาวกุรดิสตาน ชาวเคิร์ดถูกฆ่า 18,000 คน และ หมู่บ้านชาวเคิร์ด 4,000 หมู่บ้านถูกทหารเข้าตรวจค้นและปล้นทำลาย

• 16 มีนาคม ค.ศ. 1988 ซัดดัมสั่งให้ใช้แก็สพิษโจมตีชาวกุรดิสตาน(เคิร์ด) ในฮาลับจาห์ มีผู้ล้มตาย 5,000 คน

• สิงหาคม 1988 ซัดดัมสั่งให้ใช้แก็สพิษโจมตีชาวกุรดิสตาน(เคิร์ด) ในท้องถิ่นริมชายแดนตุรกี มีผู้ล้มตายเป็นพันคน

• 20 สิงหาคม ค.ศ. 1988 อิรักหมดศักยภาพที่จะรบกับอิหร่านได้ จึงทำสัญญาสงบศึกกับอิหร่าน ทหารอิรักตาย 250,000 คน รวมผู้คนที่ตายในสงครามนี้กว่าหนึ่งล้านคน

• ค.ศ. 1989 แต่งงานกับซะมีเราะห์ ชาห์บันดัร ภรรยานายทหารคนหนึ่งซึ่งซัดดัมขอให้หย่า เพื่อตนจะได้เอาไปเป็นภรรยา

• พฤษภาคม ค.ศ. 1989 ซัดดัมสั่งฆ่า อัดนาน ค่อยรุลลอห์ พี่ชายของภรรยาคนแรก ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของตน ที่เป็นเพื่อนเล่นมาตั้งแต่วัยเด็กเมื่อครั้งที่อยู่กับลุง โดยให้ใส่ระเบิดในเฮลิคอปเตอร์ที่อัดนานขึ้น

• ค.ศ. 1989 ซัดดัมคิดจะทำสงครามกับซีเรีย จึงส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ไปเลบานอน หมายจะยึดเอาเลบานอนเป็นสนามรบ

• 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 ซัดดัมสั่งบุกคูเวต เนื่องจากไม่อาจจะจ่ายหนี้ให้แก่คูเวตที่ยืมไปทำสงครามกับอิหร่านได้่ สหรัฐอเมริกาไม่ได้สะกัดกั้นซัดดัมแต่อย่างใดในตอนแรก เพราะต้องการให้ประเทศอาหรับแถบอ่าวเปอร์เซีย เห็นความสำคัญของสหรัฐ ซัดดัมสั่งปล้นทรัพย์สินในประเทศคูเวต ทำลายบ่อน้ำมัน และประกาศให้คูเวตเป็นจังหวัดที่ 19 ของอิรัก

สหรัฐอเมริกาและอังกฤษช่วยขับไล่อิรักออกจากคูเวต และทำสงครามกับอิรักตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 1991 ถึง 17 กุมภาพันธ์ 1991 "ละครสงคราม" ได้รับความสำเร็จ สหรัฐได้รับผลประโยชน์ในการปล่อยซัดดัมให้มีอำนาจ เพื่อเป็น "เสือ" ให้ "วัว" อาหรับกลัว

สหรัฐอ้างว่าได้โจมตีสถานที่ ๆ คิดว่าซัดดัมอาศัยอยู่ถึง 200 ที่ในสงครามอ่าว 1991 และไม่สามารถฆ่าซัดดัมได้

• ค.ศ. 1994 ประธานาธิบดีซัดดัมแต่งตั้งตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี ครองสองตำแหน่งในเวลาเดียวกัน

• ค.ศ. 1995 พี่น้องตระกูล อับดุลมะญีด 2 คน ซึ่งเป็นลูกเขยและลูกพี่ลูกน้องของซัดดัม ได้หนีออกจากอิรักพร้อมลูก ๆ และภรรยาเข้าจอร์แดน เพื่อสวามิภักดิ์กับสหรัฐอเมริกาถูกเกลี้ยกล่อมให้กลับบ้าน แล้วถูกซัดดัม สั่งฆ่าทิ้ง

• 12 ธันวาคม ค.ศ. 1996 อุดัยผู้มีอำนาจรองจากพ่อถูกทำร้ายจนพิการ ซัดดัมจึงแต่งตั้งให้กุศ่อยมีอำนาจแทน

• กันยายน ค.ศ. 1996 ซัดดัมสั่งให้มีการเลือกตั้งตามธรรมเนียม โดยให้ตอบคำถามว่า จะให้ซัดดัมอยู่ในอำนาจอีกเจ็ดปีไหม ให้คำตอบใช่ กับไม่ใช่ คะแนนที่ประกาศออกมา 99.66%! เลือกซัดดัม

• 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1999 ซัดดัมสั่งให้ลอบสังหาร อายะตุลลอหฺฺ มุฮัมมัด มุฮัมมัด ศอดิก อัศศอดรุ ผู้นำจิตวิญญาณของชาวชีอะห์ พร้อมกับลูกชายอีก 2 คน แต่บุตรอีกคนหนึ่ง คือ มุกตะดา อัศศอดรุ รอดพ้นจากการลอบสังหาร

• ตุลาคม ค.ศ. 2002 ซัดดัมสั่งให้มีการเลือกตั้ง มีผู้เลือกซัดดัม 100%!!!

• พฤษภาคม ค.ศ. 2001 ซัดดัมให้กุศอยเป็นประธานพรรคบะอัธ

ซัดดัมพร้อมที่จะฆ่าทุกคนที่ขวางทาง ซัดดัมเคยถูกฆ่าตายไปแล้ว 1 คน แต่ข่าวลือบอกว่ายังมีอีก 7 คน หนึ่งในจำนวนนั้นได้หนีไปสหรัฐและเขียนหนังสือ เกี่ยวกับตัวเองว่าเคยแสดงเป็นซัดดัมอย่างไร อีกคนหนึ่งได้หนีไปยุโรปและเขียนหนังสือขายดีมีชื่อว่า "ฉันเคยเป็นลูกคนหนึ่งของซัดดัม" เพราะเคยแสดงเป็นอุดัย

ซัดดัมมีวัง 50 หลัง มีบ้าน 200 หลังที่สามารถเชื่อมต่อกันได้เพื่อซัดดัมสามารถจะเดินเหินอย่างสะดวก นอกจากนี้มีหลุมบังเกอร์ใต้ดินที่เป็นกองบัญชาการที่ปลอดภัยที่สุดอีกด้วย

ซัดดัมมีทหารยามรักษาตัว 15,000 คน มีกุศอย ลูกชายเป็นหัวหน้า

ในช่วงปี ค.ศ. 2001-2003 ซัดดัมไม่เคยปรากฏในสาธารณชน

วันที่31 ธันวาคม 2549 ถูกแขวนคอตายอย่างสงบ