ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สาวใช้พระกาฬ

    ลำดับตอนที่ #35 : ตอนที่32 คนรักเก่า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 22.26K
      1.98K
      27 พ.ค. 66

    การพักแรมกลางป่าริมลำธารผ่านพ้นไป ท่ามกลางเศษกระดูกของไก่ป่าหลายตัว เช้าวันใหม่เข้ามาเยือน การเดินทางของรถม้าได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

    แต่ก่อนที่จะเดินทางไปยังบ้านของหนิงเหมย พวกเขาจึงตัดสินใจกล่าวคำร่ำลาเพื่อแยกทางกันที่โรงเตี๊ยมริมชานเมืองแห่งหนึ่ง

    บนชั้นสองของโรงเตี๊ยมซูฝู่ที่ถูกเหมาทั้งชั้น คงเหลือเพียงโต๊ะมากมายแต่ไร้ลูกค้านั่ง เฟยหลงเซียนพาหนิงเหมยมานั่ง เพื่อคุยกันที่โต๊ะมุมด้านในทางฝั่งหนึ่ง โดยมีหยวนคังและหนี่ม่านคอยดูต้นทางให้

    ส่วนหยางเหอจินและซูเจินนั่งยังโต๊ะที่มุมด้านในอีกฝั่งหนึ่ง พร้อมพรั่งด้วยอาหารเลิศรสมากมายเต็มโต๊ะ หญิงสาวนั่งกินอาหารโดยไม่มองหน้าผู้ใด เห็นนางเป็นเด็กสาวตัวเล็กแต่นางจำต้องกินให้มากเข้าไว้เพื่อกักเก็บพลังงาน หยางเหอจินย่อมเข้าใจและตามใจนางอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง

    เหตุที่เฟยหลงเซียนพาหนิงเหมยมาคุยกันอย่างจริงจังยังโรงเตี๊ยมชั้นยอดแห่งนี้ก็คือ หนึ่ง...เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ซึ่งชายหนุ่มมักจะชอบทำมาตลอดทางด้วยเกรงว่าคนงามจะเบื่อหน่าย สอง...คือพวกเขาตกลงกันแล้วว่าจะแต่งงานกันแน่นอน สาม...คือเรื่องที่คุยกันช่างสำคัญยิ่ง และสี่...พวกเขาคุยกันไม่รู้เรื่องสักที

    ก่อนที่เฟยหลงเซียนจะกลับเข้าวังไปเข้าพบเสด็จพ่อของตน และหนิงเหมยจะกลับเข้าบ้านไปเตรียมตัวเตรียมใจในถิ่นฐานเดิม พวกเขายังต้องเปิดใจคุยกันให้ดีให้รู้เรื่องสักที

    “เราไม่ควรเถียงกันอีก” รัชทายาทหนุ่มเอ่ยปิดทางเอาไว้ก่อน เนื่องจาก ว่าที่ชายา ของเขาช่างดื้อรั้น

    หนิงเหมยเม้มปากแน่น นึกขัดเคืองไม่สร่างซา เหตุที่เถียงกันมาตลอดทางล้วนเป็นเพราะเขาทั้งสิ้น

    บนใบหน้าหล่อเหลาที่มีผิวพรรณขาวเนียนดั่งหยกชั้นดี มีสายตาเรียวคมแฝงเสน่ห์ลึกล้ำจ้องมองนางไม่วางตา

    หากเป็นสตรีนางอื่นคงหลุบตาหลบไปอย่างขวยเขินเกินประมาณ พร้อมรอยยิ้มพริ้มเพราแฝงเสน่ห์ยั่วเย้าล่อลวงใจชาย

    แต่ทว่าสตรีตรงหน้าของเฟยหลงเซียนในยามนี้กลับไม่ใช่

    ดวงตาคู่หวานบนใบหน้างดงามฉายแววดื้อดึงไม่ไว้วางใจ ทั้งยังมองมาอย่างไม่มีหลบเลี่ยง พวงแก้มนวลเนียนมีสีแดงระเรื่อน้อยๆ ที่บ่งบอกว่ากำลังข่มกลั้นจากการเม้มปากแน่น

    นางทำให้เขาต้องตามตื้อขอนางแต่งงาน และทั้งๆ ที่นางตกลงแต่งงานกับเขาแล้ว แต่นางไม่หลงใหลเขาเลยสักนิด ทั้งยังไม่คิดจะตีสนิทเข้าหา

    ทั้งๆ ที่เขาออกจะดีเลิศปานนี้ อนุหรือก็ไม่มี ภรรยานางใดก็ยังมิได้แต่ง ในวังบูรพาของเขาช่างปลอดโปร่งโล่งสบาย เสด็จพ่อกับเสด็จแม่หรือก็ตามใจ ขุนนางน้อยใหญ่ล้วนยำเกรง

    อา...หรือว่านางจะยังไม่รู้ว่าเขาประเสริฐเพียงใด

    ช้าก่อน! 

    หากคิดให้ดีอีกที

    หรือว่านางจะยังไม่ลืมคนรักเก่า!

    ดวงตาคู่คมของเฟยหลงเซียนพลันวูบไหว หัวใจพลันเต้นระส่ำ รู้สึกบีบรัดอย่างประหลาด อึดใจริมฝีปากได้รูปพลันเอ่ยพร้อมตบโต๊ะเสียงดัง “เหมยเอ๋อร์!

    หนิงเหมยถึงกับสะดุ้งตกใจ จ้องหน้ากันอยู่ดีๆ ตบโต๊ะทำไม?

    “เจ้าบ้านั่นเป็นใคร จงบอกข้ามา!” เสียงทุ้มต่ำถามออกมาอย่างไม่มีเกรงใจ

    หญิงสาวตรงข้ามโต๊ะถึงกับงุนงง “เจ้าบ้าหรือ? ท่านหมายถึงใครกัน?

    เฟยหลงเซียนหรี่ตาคมคล้ายหยั่งเชิง “คนรักของเจ้าประไร ชายคนที่น้องสาวเจ้าแย่งไปอย่างไรเล่า!

    หนิงเหมยได้ฟังพลันตาโต “ท่านหมายถึงพี่เหวินหลางน่ะหรือ?

    อา...นางลืมเขาไปเลย นางลืมได้อย่างไร?

    สีหน้าของคนงามยามนี้ แสดงออกถึงคนที่ลืมสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปเสียสนิท แล้วพลันระลึกได้ขึ้นมาโดยบังเอิญ

    เฟยหลงเซียนได้เห็นอย่างนั้นพลันตกใจยิ่งกว่า เมื่อเห็นได้ชัดว่าสตรีตรงหน้าลืมเจ้าบ้านั่นไปแล้ว นางลืมมันผู้นั้นแล้วจนสิ้น

    แต่ทว่า...เขากลับสะกิดให้นางจำได้ขึ้นมาเสียนี่

    อา...พลาดแล้ว

    หนิงเหมยจ้องหน้าเฟยหลงเซียนด้วยสีหน้าเริ่มมีความหวัง สร้างความหวาดหวั่นแสนประหลาดเข้าจับขั้วหัวใจของชายหนุ่มยิ่ง

    “อาเซียน” เสียงหวานเริ่มเอ่ย

    “อันใด” เสียงทุ้มเริ่มระแวง

    “ข้าลืมไปเลยว่าข้ามีคนรัก” นางคลี่ยิ้มงามนัก “หากนี่คือเหตุผลที่งานแต่งงานของเรา...”

    “หยุด!

    “...”

    เฟยหลงเซียนให้รู้ตัวว่าเขาพลาดไปแล้วจริงๆ นางอาจจะอ้างเรื่องคนรักเก่า เพื่อยกเลิกงานแต่ง บัดซบ!

    “เจ้าอย่าแม้แต่จะคิด” เสียงกดต่ำเอ่ยออกมา “ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าให้กลับไปหาชายโลเลหลายใจเยี่ยงนั้นเป็นแน่ เรากำลังจะแต่งงานกัน มันผู้นั้นไม่มีสิทธิ์ในตัวเจ้าอีกแล้ว” เขากล่าวหนักแน่นปานหินผาที่ทั้งแข็งทั้งกระด้าง

    หนิงเหมยกะพริบตาปริบๆ แล้วตอบตามจริง “แน่นอนว่านั่นคือสิ่งที่ข้ากำลังจะเอ่ยเมื่อครู่ ข้าไม่มีวันกลับไปหาเขา อันที่จริง ข้าตั้งใจไปถือศีลที่วัดเพื่อหลบเลี่ยงเขา และให้เขาได้มีโอกาสสานสัมพันธ์กับน้องรองได้อย่างเต็มที่ เพียงหวังว่ากลับมาจะได้ยินข่าวดี แล้วข้าก็จะเป็นอิสระจากพี่เหวินหลาง”

    นางกำลังคิดว่า เรื่องแต่งงานของนางกับอาเซียนช่างประจวบเหมาะ อืม...นางคิดเช่นนี้ดีแล้วหรือ?

    ครานี้เป็นเฟยหลงเซียนบ้างที่ต้องกะพริบตา

    ริมฝีปากสีชมพูของคนงามคลี่ยิ้มเล็กน้อยแล้วเอ่ยต่อว่า “ข้าควรกลับไปที่วัดและถือศีลต่ออย่างยาวนาน หากท่านไม่กล่าวเตือนสติ ข้าคงลืมไปแล้วจนสิ้น” นางทำท่าครุ่นคิดชั่วครู่แล้วกล่าวต่อ

    “การกลับมาเร็วก่อนกำหนดเยี่ยงนี้ จะทำให้พวกเขายังมิทันได้ลงเอยกัน แล้วพี่เหวินหลางอาจจะหาทางกลับมาหาข้าโดยอ้างเหตุผลที่เคยคุยกันกับผู้ใหญ่”

    ดวงเนตรดำขลับฉายแววสับสนเมื่อได้ฟัง

    นี่เขาพลาดไปได้อย่างไร? ให้ปวดใจนัก!

    “อาเซียน” เสียงอ่อนหวานเริ่มออดอ้อน

    “อันใด?” เสียงห้าวใหญ่ตอบสะบัดนึกขัดใจ

    หนิงเหมยคลี่ยิ้มงดงามอย่างเป็นธรรมชาติหาได้ล่อลวงใจใครไม่ แต่ทว่าใจแกร่งของคนตัวใหญ่กลับแกว่งไกวไม่เป็นจังหวะ

    นางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ที่ข้าบอกท่านก็เพราะว่า ข้าไม่ต้องการโกหกท่านไม่ว่าเรื่องใด และข้าคิดว่าท่านคงหลอกถามเรื่องของข้าจากหนี่ม่านแล้วจนสิ้น”

    เฟยหลงเซียนถึงกับกระแอมออกมา

    “เช่นนั้นแล้ว ท่านก็คงรู้ว่า บิดาของข้าเป็นคนเช่นไร ข้าเติบโตมาอย่างไร เจอคนแบบใดมา” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุน แต่ทว่าแววตากลับแฝงไปด้วยความเศร้าสลด จนคนฟังรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวด

    เสียงแว่วหวานยังคงดังให้ได้ยิน “และข้า...ก็กลายเป็นสตรีเช่นนี้ ข้ามิใช่สตรีที่จะมอบหัวใจให้ใคร กระทั่งบุรุษที่เป็นบิดา ข้ายังไม่อาจมอบความรักให้ ข้าไม่อยากร้องไห้อีกแล้ว”

    ความรักเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน แต่การเสียใจเพราะความรักเป็นสิ่งที่แน่นอนนัก นางผุดรอยยิ้มแฝงความหม่นเศร้า

    ชายหนุ่มผู้นั่งตรงข้ามได้ฟังนางที่เปล่งวาจาด้วยน้ำเสียงอย่างนั้น สีหน้าอย่างนั้น รอยยิ้มอย่างนั้น ยังผลให้ดวงเนตรสีนิลบนใบหน้าคมคายเริ่มหม่นแสงลงทุกจังหวะที่หายใจ

    “อาเซียน” หนิงเหมยเรียกขานเสียงหวานคล้ายปลอบประโลม

    สายตาเรียวคมดั่งหงส์เสมองไปทางอื่น หาได้ตอบรับคำนาง

    “อาเซียน ข้ายอมให้ท่านโกรธข้า ยอมให้ท่านเกลียดข้า แต่ข้าจะไม่ยอมหลอกลวงท่าน”

    น้ำเสียงของนางที่เอื้อนเอ่ยช่างจริงใจนัก แต่เขาคนฟังกลับปวดใจยิ่ง! เฟยหลงเซียนยังคงไม่หันหน้ามองนางแม้แต่น้อย

    เมื่อเห็นชายงามทำท่าทางไร้ชีวิตชีวาคล้ายโดนสูบวิญญาณไปอย่างนั้น หนิงเหมยจึงรู้สึกผิดขึ้นมา “อาเซียน” นางเรียกเขาเสียงอ่อน

    รัชทายาทไม่คิดจะขานรับแต่อย่างใด นางกำลังทำร้ายจิตใจเขา

    “ท่านตรองให้ดีเถิด...หากจะแต่งงานกับสตรีเช่นข้า”

    ชายงามยังคงใบหน้าหล่อเหลาหากแต่มีลักษณะงอง้ำเล็กน้อย

    นางจบประโยคสนทนาก่อนจากลาด้วยเสียงแผ่วเบา “อาเซียน ข้าขอโทษ...” จบก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้องอาหารไป

    คนฟังได้แต่นั่งเงียบงัน หาได้เจรจาต่อคำหรือเหนี่ยวรั้งอันใดไม่

    แน่นอนว่าเขารู้อยู่แก่ใจ ตั้งแต่คราแรกที่เจอกันก็ใช่ว่าเขาจะดูนางไม่ออก นางย่อมเป็นเช่นนี้ และนางยังคงยึดมั่นที่จะเป็นตัวของตัวเองอย่างนั้น

    ชั่วครู่ต่อมา...เรียวตาคมดำพลันเย็นเยียบ ความมั่นใจพลันบังเกิด ความคิดหนึ่งเริ่มตีวน 

    หากจะหาพระชายาในรัชทายาทโดยไม่สนใจขั้วอำนาจ

    นางนี่ล่ะ!


    นิยายสาวใช้พระกาฬ ฉบับจบบริบูรณ์ คลิก>>>สาวใช้พระกาฬ(ภาค 1)





    นิยายสาวใช้พระกาฬ ฉบับ E-Book คลิก>>>สาวใช้พระกาฬ

    https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTU0NTM5NSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6Ijg1ODk5Ijt9

    Thumbnail Seller Link
    สาวใช้พระกาฬ
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    จะเป็นอย่างไรเมื่อทายาทสาวน้อยจ้าวยุทธ์ ต้องมาอยู่ในคราบสาวใช้ของนายสาวผู้อ่อนแอ..."คุณหนูท่านรักบุรุษผู้นั้น""ข้ากับเขาคบหากันมา...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×