คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : ตอนที่23 หงส์ฟ้าเหิน2
ในขณะที่สองพี่น้องสกุลหลวนกำลังร่ายมารยาจับชายงามตรงหน้า
เสียงซวบซาบพลันดังมาจากทิศทางหนึ่ง อึดใจพลันมีเงาดำวูบไหวไปมาอยู่รายรอบ
หลวนเยว่และหลวนเหยาถึงกับชะงักนิ่งจนหยางเหอจินรู้สึกได้
“พวกเจ้าเป็นใคร มีแผนการอันใดกันแน่?” ชายหนุ่มถามสองพี่น้องชายหญิงแปลกประหลาดที่บัดนี้ลุกนั่งและกอดกันจนกลม
สองพี่น้องหาได้ตอบคำ แต่ยังคงจับจ้องที่กลุ่มชุดดำพวกนั้น ยามนี้กลุ่มปริศนากำลังคืบคลานเข้าใกล้มาเต็มที
“พวกหมาป่าทมิฬ” หลวนเหยาเอ่ยขึ้น “พวกมันตามมาจนได้ ให้ตายเถิด” นางตัวสั่นระริกอย่างควบคุมเอาไว้ไม่ได้
หลวนเยว่เห็นน้องสาวของตนกลัวจนตัวสั่นอย่างนั้นจึงเอ่ยปลอบ “ไม่เป็นไร พี่อยู่นี่” เขาโอบกอดน้องสาวเอาไว้พลางปรายสายตามาทางหยางเหอจิน “คุณชายโปรดหนีไป กลุ่มพวกนี้น่ากลัวมากนัก”
หยางเหอจินได้ฟังคำจึงชะงัก เขาก้มหน้ามองสองพี่น้อง เห็นสายตาไร้การเสแสร้งอยู่ในนั้น เขาจึงลุกขึ้นยืนเพื่อสังเกตกลุ่มคนชุดดำที่พรางตัววูบไหวรอบทิศทาง ประสาทสัมผัสอันฉับไวของเขารับรู้ได้ถึงกลิ่นอายสังหารเข้มข้นจากกลุ่มคนพวกนั้น ดวงตาเรียวคมของชายหนุ่มนับได้ถึงจำนวนคนพวกนั้น ไม่ต่ำกว่าสิบห้าคน!
“พวกนั้นตามล่าเจ้าทั้งสองหรือ?” หยางเหอจินเอ่ยถามสองพี่น้องที่นั่งอยู่บนพื้นดิน
หลวนเหยาพยักหน้าหงึกหงักตอบรับตามตรง “เราสองไม่ยอมสวามิภักดิ์ พวกมันจึงตามไม่เลิก น่าเบื่อยิ่ง!”
“พวกท่านรีบไป” หลวนเยว่เริ่มมีสีหน้าจริงจัง ผิดกับยามก่อนหน้าที่แสดงมารยาแย่งบุรุษกับน้องสาว
“พวกเจ้าสองคนเป็นใคร?” หยางเหอจินถามออกไปอย่างระแวดระวัง
แต่ยังไม่ทันที่จะได้ตอบคำหรือฟังคำตอบ ทันใดนั้นคนชุดดำห้าคนพลันพุ่งตัวออกมาจากพุ่มไม้พร้อมกันด้วยความรวดเร็วพร้อมกระบี่คมกริบ เป้าหมายคือสองพี่น้องสกุลหลวน
ซูเจินที่ยืนมองอยู่ไม่ไกลถึงกับเบิกตากว้างด้วยคาดไม่ถึง นางจำอาภรณ์ที่คนพวกนี้สวมใส่ได้ ชุดสีดำด้านมีขลิบสีเหลืองเล็กน้อยที่สาบเสื้อตรงลำคอ คืนนั้นที่บ้านนางถูกถล่ม ทุกสรรพสิ่งย่อยยับ เปลวเพลิงสีแดงฉานโหมกระพือ กลุ่มชุดดำพวกนี้ได้ปะปนมากับเหล่าศัตรูที่มาในชุดทหารสวมเกราะหนัก พวกมันบุกกระหน่ำอย่างอุกอาจ ทำลายบ้านของนางจนสิ้น
นางจำได้ ภาพเหล่านั้น...
ทุกครั้งที่นึกถึงเหมือนมีมีดมากรีดหัวใจ ความแค้นที่ซุกซ่อนเอาไว้พลันปะทุแน่นอก ดวงตากลมโตของซูเจินที่เคยสดใสพลันเปลี่ยนไปในบัดดล
หญิงสาวยืนนิ่งจ้องมองคนชุดดำที่กำลังปรากฏกาย นางมองพวกมันด้วยสายตาคมดุจเหยี่ยวที่เย็นเยียบ เรือนร่างของนางเครียดเขม็ง นางสัมผัสได้เพียงความเจ็บปวดราวกับหัวใจฉีกขาดจนเป็นแผลกว้าง กลุ่มชุดดำที่พากันกรูเข้ามาทำเลือดในกายของนางพลันฉีดพล่าน สองมือน้อยๆ พลันสั่นระริกก่อนจะกำแน่นที่มีดสั้นข้างเอวทั้งสองเล่ม
ท่านพ่อ...
หญิงสาวระลึกถึงบุคคลสำคัญขึ้นมา
อึดใจแววตากลมโตสดใสพลันมืดดำ นางขยับปลายเท้าเพียงนิดทะยานตัวขึ้นสูงพร้อมมีดสั้นในมือสะบัดพรึบ
เมื่อสองแขนกางออกมีดสั้นที่เคยเล็กน่ารักก็ยาวขึ้นในฉับพลัน ปลายของมันมีแส้โปร่งใสแหวกอากาศออกมา
เพียงนางพลิกข้อมือเล็กน้อยพร้อมหมุนตัวเหนือกลุ่มของสองชายหนึ่งหญิงตรงหน้า แส้ไร้รูปลักษณ์พลันสะบัดไร้ทิศทางจนเกิดเสียงดังออกมา
เสียง ซวบ ซวบ ของแส้นั้นกรีดอากาศจนเสียดแทงแก้วหู
เมื่อซูเจินหมุนตัวอีกเล็กน้อยเพื่อลงมาทรงกายตรงพื้นดิน มีดสั้นพลันกลับสู่สภาพเดิม กลุ่มชุดดำทั้งห้าก็ร่วงตกลงมาราวกลีบดอกไม้โปรยปราย พวกมันยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตายได้อย่างไร
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วชนิดฉับพลัน ท่ามกลางสายตาอึ้งงันของหยางเหอจินและสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริดของพี่น้องสกุลหลวน
หญิงสาวยืนนิ่งอยู่ที่เดิมตรงหน้าหยางเหอจินและพี่น้องสกุลหลวน แผ่นหลังเล็กบางของนางตั้งตรงอย่างสง่า สายตาของนางจ้องเขม็งที่กลุ่มชุดดำรอบใหม่ โดยรอบเรือนกายแผ่กลิ่นอายสังหารเข้มข้น
ซูเจินในยามนี้ไร้ซึ่งความเป็นสาวน้อย
ในยามนี้ แม้แต่หยางเหอจินยังคงอึ้งยืนนิ่ง ในขณะที่สองพี่น้องทำได้เพียงนั่งตัวเกร็ง
ซูเจินยืนอยู่เบื้องหน้าของทุกคน ดวงตาสีดำสนิทฉายแววน่าสะพรึงมองกราดกลุ่มชุดดำที่อำพรางตัววูบไหว
ครานี้พวกมันพร้อมใจกันพุ่งตัวออกมาถึงสิบคน หญิงสาวหรี่ตามองนับหัวชั่วพริบตาก่อนพุ่งตัววิ่งเข้าไปอย่างไม่มีหวั่นเกรง
สองมือเล็กพลิกมีดสั้นในอีกครา กระบี่ไร้เส้นสายอ่อนพลิ้วคล้ายแส้ตรวนสะบัดแหวกอากาศในอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีถึงสามเส้นในหนึ่งมีดสั้น สองมีดสั้นรวมเป็นหกเส้น มันกางออกแผ่สยายทั้งทรงพลังทั้งแผ่กำจายบางสิ่งที่มองไม่เห็น
หญิงสาวหมุนตัวชายกระโปรงคลี่บานพลิ้วไหว นางกางแขนพลิกข้อมืออีกนิด สายแส้ที่โผล่ออกมาจากปลายมีดสั้นพลันแผ่กว้างโบกสะบัดอย่างฉับไว ทั่วทั้งร่างอาบไล้ไปด้วยพลังงานที่มองไม่เห็น มองดูแล้วคล้ายนางพญาหงส์โผบินพร้อมกรีดปีกสยายสาดประกายอำนาจเข้าฟาดฟัน
ในยามนี้นั้น เจินเจินน้อยคล้ายลอยขึ้นมาจากขุมนรกเพื่อกลับสู่สรวงสวรรค์ แต่ระหว่างทางยังต้องกลายร่างเป็นหงส์สังหารฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อมนุษย์เพื่อให้พวกมันได้หลุดพ้นชดใช้เวรกรรม
เพียงพริบตาเดียว คนชุดดำพลันถูกปลิดชีพ ร่างกายปลิดปลิวร่วงหล่นลงพื้นดังตุ้บ อาวุธในมือของพวกมันหล่นกระแทกพื้นเสียงดังเคล้ง หัวกับตัวของพวกมันขาดออกจากกันด้วยสายแส้เส้นนั้นที่มองอย่างไรก็มองไม่ทันและมองไม่เห็นแม้เพียงชั่วอึดใจ
ซากศพกระจัดกระจาย ดวงตาแดงก่ำเบิกโพลง พวกมันตายโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเกิดสิ่งใด
หยางเหอจินถึงกับลืมหายใจ นั่นคือวิชายุทธ์หงส์ฟ้าเหินของท่านอาจารย์ซูหยางอย่างไม่ต้องสงสัย มีดสั้นเล่มนั้นคือปีกหงส์ของเจินเจินน้อยที่ถูกเด็ดออกไป และบัดนี้ก็ได้กลับคืนมาสู่นางแล้ว
เมื่อปลายเท้าน้อยๆ ของซูเจินแตะถูกพื้นดินที่มีซากศพกระจัดกระจายชะโลมไปด้วยโลหิตสีแดงฉาน หญิงสาวพลันรู้สึกถึงขุมพลังคับแน่นอยู่ในโพรงอก นางถึงกับกระอักเลือดออกมา
ความรู้สึกนั้นคือความคั่งแค้นที่มันสุมทรวง นางอยากคลุ้มคลั่งให้เหมือนไฟบรรลัยกัลป์ หากแต่นางกลับทำอันใดไม่ได้มากไปกว่านี้
นางมิได้สะใจที่ได้ฆ่าเศษสวะเหล่านี้ คนพวกนี้เป็นเพียงแค่มดปลวกไร้ค่าของอำนาจมืดเบื้องหลัง
หากแต่ภาพตรงหน้าทำให้นางเจ็บปวดรวดร้าวไปหมด ซากศพของกลุ่มชุดดำพวกนี้ มันคือภาพที่คล้ายกับคืนนั้นที่สำนักของนางบนยอดเขานั่น คืนนั้นที่นางทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากพ่ายแพ้และตกหน้าผาถูกกระแสน้ำกลืนหาย
ซูเจินนั่งคุกเข่าลงกับพื้น นางรู้สึกรุ่มร้อนไปหมด ดวงตาของนางแดงก่ำคล้ายมีเส้นเลือดพาดผ่าน ลมหายใจหอบหนักกระชั้นถี่ แววตาของนางช่างชั่วร้ายแต่กลับน่าหลงใหลนัก หยางเหอจินรีบเข้ามาจับนางอุ้มขึ้นมาแนบอก
“อาเจิน...” เขาเรียกนางเสียงนุ่มใกล้ใบหน้านาง “ไม่เป็นไร...ไม่เป็นไรแล้ว”
เสียงทุ้มนุ่มของหยางเหอจินช่วยปลอบประโลมซูเจินอย่างไม่น่าเป็นไปได้
นางผ่อนลมหายใจและหลับตาลง ค่อยๆ เอียงหน้าซบแผงอกอุ่น ความรู้สึกผ่อนคลายค่อยๆ แผ่ปกคลุม
แต่ทว่า...ธาตุไฟภายในกายยังคงปะทุดุเดือด เลือดในกายยังคงพลุ่งพล่าน เลือดสีแดงฉานเปรอะเปื้อนริมฝีปากนาง
สองพี่น้องที่ได้แต่นั่งอึ้ง เนิ่นนานกว่าวิญญาณจะกลับเข้าร่าง อึดใจจึงรีบลุกขึ้นแล้วเข้ามาถามไถ่
“ให้ข้าดูหน่อยเถิด” หลวนเยว่เอ่ยขึ้นก่อน
“นางอาจจะถูกธาตุไฟเข้าแทรกได้” หลวนเหยาเอ่ยตาม
หยางเหอจินอุ้มน้องน้อยเบี่ยงตัวหลบอย่างหวงแหน “พวกเจ้าเป็นใครกันแน่! เหตุใดต้องติดตามข้ามา ทั้งยังชักนำคนเหล่านั้น”
หลวนเยว่รีบเอ่ยตอบ “พวกข้ามิได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนี้ คนพวกนั้นเกินคาดการณ์ของพวกข้า พวกท่านอย่าได้กังวล เราสองพี่น้องมิได้ประสงค์ร้าย” ข้าแค่อยากได้ท่านผู้หล่อล่ำ!
บุรุษหน้าหยกคนพี่คลี่ยิ้มเพิ่มเสน่ห์อีกนิดหมายล่อลวงชายด้วยกันแล้วกล่าวต่อ “พวกข้าเป็นสองพี่น้องหมอเทวดา และข้าอยากช่วยแม่นางน้อยจากใจจริง หากชักช้าแล้วนางเกิดเป็นอะไรขึ้นมา ข้าก็นับว่าเนรคุณแล้ว” เมื่อครู่นางช่วยข้าเอาไว้นะ แม้ข้าจะมิใคร่ชมชอบสตรีก็ตาม
“คุณชาย...” หลวนเหยารีบเอ่ยบ้าง นางไม่มีทางยอมพี่ชายได้หน้าอยู่ฝ่ายเดียว “ให้ข้าช่วยคนรักของท่านเถิด ข้ารับรองว่าจะเป็นอนุที่ดีของท่าน”
หืม...คนพี่ลอบมองค้อนขวับ น้องพี่ช่างชัดเจน
หยางเหอจินยิ่งไม่ไว้ใจเข้าไปใหญ่ เจินเจินน้อยเปิดเผยวิชาประจำตัวยิ่งนับว่าไม่ปลอดภัย
ชายหนุ่มจึงรีบพาน้องน้อยของเขาพุ่งตัวหายไปในทันที ทิ้งเอาไว้เพียงพี่น้องสกุลหลวนที่มีซากศพล้มตายรายล้อม
อ้าว!?
|
ความคิดเห็น