คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่6 เพราะรัก
บนเชิงเขาที่กำลังมีหญิงสาวสองคนยืนจ้องหน้ากันด้วยสายตาดุเดือดปะทะกันกลางอากาศ
หนึ่งคือสตรีรูปโฉมงดงามมั่นใจในตนเอง ท่าทางสูงส่งไม่เคยลงให้ใคร กับอีกหนึ่งเป็นเพียงสตรีรูปร่างธรรมดาแต่ท่าทางอ่อนหวานแลดูอ่อนโยนจริงใจ
ทั้งสองยืนมองกันด้วยประกายตาคล้ายมีขุมพายุโหมกระหน่ำที่บ่งบอกได้ว่าเป็นศัตรูกันมาเนิ่นนาน
เหตุที่เป็นเช่นนี้ สืบเนื่องมาจากทั้งสองเคยเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กในพระตำหนักของไทเฮา และยิ่งสนิทสนมเมื่ออยู่นอกเขตพระราชฐาน ยามดำเนินมายังวังข้างนอกเพื่อไหว้พระ
และเชิงเขาแห่งนี้ พวกนางก็เคยมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
เพ่ยจีเป็นบุตรสาวของนางกำนัลคนสนิทของไทเฮาที่พระนางทรงรักดั่งน้องสาว พระนางจึงมอบพระเมตตาให้มารดาของเพ่ยจีแต่งงานกับชายคนรักได้อย่างใจกว้างเมื่อถึงวัยเพียงยี่สิบปี
ซึ่งเดิมทีตามกฎแล้วนางกำนัลจักได้ออกไปแต่งงานได้นั้น ต้องอายุยี่สิบห้าปี
แต่กระนั้นชีวิตคู่กลับไม่ราบรื่น มารดาของเพ่ยจีถูกชายคนรักนอกใจทิ้งกันไปหลงใหลเพียงภรรยาใหม่ หลายวันที่หายหน้าเขากลับมาพร้อมหญิงแพศยา ทั้งๆ ที่สามารถรับเป็นอนุหรือภรรยารอง หากแต่นังนั่นกลับไม่พอใจ ต่อมาสามียังรวมหัวกับภรรยาใหม่คิดไม่ซื่อต่อสองแม่ลูก หมายยกฐานะขึ้นแทนที่กันในขณะที่เพ่ยจียังอยู่ในครรภ์มารดา
เมื่อความล่วงรู้ถึงไทเฮา พระนางจึงรับตัวมารดาของเพ่ยจีเข้าวังมาเป็นนางกำนัลคนสนิทดังเดิม เพ่ยจีจึงได้เข้ามาอยู่ในความดูแลของไทเฮาจนกระทั่งถือกำเนิด
นางเกิดก่อนลี่เหยาถิงเพียงไม่นาน เมื่อลี่เหยาถิงได้เข้ามาอยู่ในตำหนักของไทเฮาด้วยอีกคน ทั้งสองจึงเป็นเพื่อนกันนับแต่นั้นเป็นต้นมา
พวกนางเติบโตด้วยกันก็จริง แต่ทว่าลี่เหยาถิงมักจะได้ทุกสิ่งยิ่งกว่าเพ่ยจี ด้วยน้ำหนักในพระทัยของไทเฮาย่อมแตกต่าง
ถึงแม้จะมิได้มีเรื่องยศถาบรรดาศักดิ์มากั้นกลางระหว่างสายสัมพันธ์เช่นมิตรสหาย ทว่าทุกคนล้วนคิดได้ว่าเพราะเหตุใด
หากแต่เพ่ยจีกลับคิดไม่ได้ด้วยมีใจริษยาซุกซ่อนอยู่ล้นใจ นางมีนิสัยอ่อนหวานกิริยาอ่อนโยนกิริยาดีงามก็จริง หากแต่ก้นบึ้งในจิตใจนั้น แม้แต่ตัวนางเองก็ยังไม่ตระหนักว่าเลวร้ายปานใด
กระทั่งวันหนึ่ง เหวินเต๋อซึ่งเป็นบุตรชายของราชองครักษ์ส่วนพระองค์ของไทเฮา ที่มักจะได้รับอภิสิทธิ์ให้เป็นเพื่อนเล่นกับสตรีทั้งสองตั้งแต่เด็กในฐานะพี่ชายคนสนิท ในทุกครั้งที่ไทเฮาเสด็จมายังวังฤดูร้อน หรือยามที่พำนักยังอารามนอกวัง เกิดรู้ใจตนเองขึ้นมาเมื่อได้อายุสิบเจ็ดหนาว ว่าชมชอบลี่เหยาถิงในวัยสิบสามปี
เหวินเต๋อในวัยคึกคะนอง ทั้งยังมีนิสัยเปิดเผยไม่เคยเก็บข่มหรือยับยั้งชั่งใจ
จึงแสดงออกชัดเจนถึงความรักที่มีต่อลี่เหยาถิง
และนั่นจึงทำให้เพ่ยจีเปิดเผยธาตุแท้ออกมา
แน่นอนว่าไม่มีผู้ใดล่วงรู้ถึงปีศาจร้ายที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวของเพ่ยจี
นางสามารถเก็บงำเอาไว้ได้เป็นอย่างดีไร้ใครสังเกตเห็น
ทั้งสามเติบโตขึ้นมาท่ามกลางวังวนแห่งความรักฉันมิตรสหายที่เริ่มเปราะบางลงเรื่อยๆ เมื่ออายุมากขึ้น...
เพ่ยจีชอบเหวินเต๋อร์ และชอบมากยากจะตัดใจ
ส่วนเหวินเต๋อร์ชอบลี่เหยาถิง เขาชอบนางมากยากจะตัดใจเช่นกัน
แต่ทว่าลี่เหยาถิงมีชายในดวงใจมาเนิ่นนานแล้ว นางจึงไม่อาจเปิดใจให้ชายใดได้อีก
หญิงสาวมีนิสัยตรงไปตรงมา เปิดเผยจริงใจ ไม่เคยปิดบังหรือหลวกลวงใคร นางจึงบอกกล่าวเหวินเต๋อร์ไปตามสัตย์ ว่าหากนางถึงวัยออกเรือนแล้ว นางจะแต่งงานกับเหอหย่งหมิงเท่านั้น ไม่ว่าเมื่อไหร่นางก็จะรอเป็นภรรยาของเหอหย่งหมิงเพียงผู้เดียว ไม่มีสายตาเหลียวแลผู้ใดอีก จากนั้นก็ตัดรอนเหวินเต๋อร์เพื่อมิให้เขาหวังอันใดในตัวนางอีก
ทำให้เหวินเต๋อร์เสียใจมาก เขาดื่มเหล้าเมามายทุกวัน ไม่เป็นอันฝึกเพลงดาบ ร่ายตัวอักษรแม้ครึ่งตัว
จนกระทั่งถูกบิดาลงโทษขั้นรุนแรง โดยการขับไล่ออกจากบ้าน ให้ไปเรียนรู้ความยากลำบากในใต้หล้า ใช้ชีวิตเองเพียงลำพังจนกว่าจะตระหนักว่าสิ่งใดควรมิควร
นับแต่นั้นเหวินเต๋อร์ก็เหมือนหายสาบสูญไป
นั่นจึงทำให้เพ่ยจีที่ชอบเหวินเต๋อร์มาก ไม่อาจได้พบหน้าชายในดวงใจได้อีกเลย
หญิงสาวจึงเอาความผิดทั้งหมดมาลงที่ลี่เหยาถิง
เพ่ยจีเคือดแค้นลี่เหยาถิงเหลือจะกล่าว เพราะลี่เหยาถิงเป็นตัวการที่ทำให้นางดูด้อยกว่าทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นรูปโฉมหรือสิ่งของมีค่ามากมาย ทุกสิ่งล้วนเป็นของลี่เหยาถิง ไม่เคยเลยที่เพ่ยจีจะได้อาจเอื้อม
งามกว่าแล้วอย่างไร? มีคนที่รักมากกว่าแล้วอย่างไร? สูงส่งกว่าแล้วอย่างไร? ไหนเล่ายศศักดิ์ที่มี! เฮอะ!
นั่นคือคำถามท้าทายในใจของเพ่ยจีที่มีมาเนิ่นนาน
กระทั่งมารดานางยังเอ็นดูลี่เหยาถิงมากกว่านางที่เป็นลูกสาวแท้ๆ คอยพร่ำใส่หูนางเสมอมาว่านางเป็นเพียงบ่าวไพร่ ต้องคอยรับใช้ลี่เหยาถิงให้ดีตลอดไป อย่าได้ผยองถือตัวว่าเป็นสหาย
หึ! หากมารดาต่อสู้แย่งชิงบิดาจากนังแพศยาของบิดา นางก็คงไม่ต้องมาเป็นเพียงบ่าวไพร่ชั้นต่ำเช่นนี้หรอก
ทุกสิ่งเป็นเพราะมารดาของนางไม่ได้เรื่องเองแท้ๆ ยังจะกล้าสอนสั่งนางอีกรึ?
เพ่ยจีจึงเก็บงำความอิจฉาริษยาเอาไว้ภายในอกจนสุมทรวงคับแน่นไปหมด รอเพียงเวลาที่จะได้สำแดงฤทธิ์เดชออกมาให้สาแก่ใจ เพื่อระบายความน้อยเนื้อต่ำใจที่มีมาตั้งแต่เกิด
หากเป็นสตรีที่มียศศักดิ์มิอาจเทียบชั้นแน่นอนว่าเพ่ยจีย่อมไม่กล้า ทว่ากับลี่เหยาถิงที่เห็นกันมาตั้งแต่เกิด ทั้งยังเป็นเพื่อนกันไร้ซึ่งการแบ่งแยกชนชั้นด้วยอีกฝ่ายมอบความสนิทสนมให้มากกว่าใคร กลับกลายเป็นดาบสองคมอย่างไม่น่าให้อภัย
นอกจากตีตนเสมอกันยังอาจหาญมีความคิดเทียมฟ้าที่จะเหนือกว่า
เพ่ยจีจึงมีความคิดจะแย่งทุกอย่างของลี่เหยาถิงมาเป็นของตน แม้กระทั่งชายในดวงใจ...
อันที่จริงเพ่ยจีเคยได้เจอกับเหอหย่งหมิงแล้วโดยบังเอิญที่ตลาด และก็มิใช่เรื่องยากหากนางจะใช้มารยาเจอกับเขาอีกมาโดยตลอด
ในขณะที่ลี่เหยาถิงมัวแต่เก็บตัวอยู่ในห้องหอเพื่อทำตัวเป็นสตรีที่เพียบพร้อมเพื่อเขา
นางฝึกดีดพิณปักผ้าร่ายกลอนร่างภาพ หมายมั่นที่จะเป็นภรรยาที่ดีของเหอหย่งหมิงจนกว่าจะถึงวันออกเรือน
เพ่ยจีสร้างสถานการณ์ทำทีบังเอิญเจอกับเหอหย่งหมิงบ่อยๆ ใช้ความอ่อนโยนอ่อนหวานกิริยางดงามเข้ามัดใจ แม้แต่ความอ่อนแอเพื่อให้บุรุษปกป้อง นางก็นำมาใช้
ชายชาตินักรบที่มีนิสัยหยาบกระด้างเติบโตมากับค่ายทหารจนอายุยี่สิบปี ไม่เคยได้สัมผัสมารยาแห่งสตรีวังหลังอย่างเหอหย่งหมิงจึงหลงกลโดยง่าย
กระทั่งไม้ตายที่จักทำให้เขากลายเป็นคนรักนางก็สามารถทำได้ไม่ยากเย็น
เพ่ยจีทำตัวเองให้บาดเจ็บและอยู่ในภาวะอ่อนแอเพื่อให้เหอหย่งหมิงเข้าช่วยเหลือโดยบังเอิญ ก่อเกิดสัมพันธ์ที่เรียกได้ว่าคนคุ้นเคยกัน เนื่องจากบังเอิญเจอกันบ่อยเหลือเกิน
ต่อมาหญิงสาวยังว่าจ้างอันธพาลที่เห็นแก่เงินให้ติดต่อกับโจรป่าเข้ามาทำร้ายเหอหย่งหมิง ยามที่นางกับเขาได้เจอกันตรงเชิงเขาอันมีทิวทัศน์งดงาม
ในแผนนั้นนางแสร้งทำเป็นตัวถ่วงให้เขา ด้วยการกระโดดกอดขาเขา กอดแขนเขา ยามที่เขากำลังต่อสู้
จนกระทั่งเขาพลาดท่าแล้วบาดเจ็บ นางก็ดูแลเขาอย่างดี ไม่ทิ้งกันไปที่ใดจนเขาซาบซึ้งใจ นางจึงบอกรักเขาและขอคบหาเพื่อดูใจอย่างเปิดเผย
เรื่องนี้หากไม่บอกต่อก็ไม่สนุก!
เพ่ยจีจึงได้บอกกล่าวกับลี่เหยาถิงทุกเรื่องราวหลังจากที่ได้คบหากับเหอหย่งหมิงแล้วเป็นที่เรียบร้อย
เป็นความจริงที่ว่า เพ่ยจีรู้อยู่แก่ใจว่าลี่เหยาถิงปักใจต่อเหอหย่งหมิง และก็เป็นความจริงอีกเช่นกันว่าลี่เหยาถิงรู้ดีแก่ใจว่าเพ่ยจีชอบเหวินเต๋อร์มาก เพราะนั่นก็คือเหตุผลหนึ่งที่ลี่เหยาถิงต้องจัดการให้เหวินเต๋อร์ตัดใจจากนางอย่างเด็ดขาด
หากแต่ลี่เหยาถิงก็มิอาจคาดเดาใจของบุรุษได้ นางไม่คิดว่าเหวินเต๋อร์จะหายตัวไป
‘เป็นเพราะเจ้า เหวินเต๋อร์ของข้าจึงหายตัวไปไม่กลับมา’
‘ข้าจะพรากชายที่เจ้ารักไปจากเจ้าบ้าง…’
ประโยคนี้เพ่ยจีกล่าวด้วยเสียงนุ่มละมุนตามวิสัย หากแต่ริมฝีปากกลับแย้มยิ้มเย้ยหยันชัดเจน
ลี่เหยาถิงได้แต่ยืนอึ้งนิ่งนาน ด้วยไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเพ่ยจีจักมีความคิดเช่นนี้
เป็นเพื่อนกันมาหลายปีตั้งแต่จำความได้ เพ่ยจีอ่อนโยนกับนางเสมอมา อ่อนหวานไร้ที่ติ ทุกคนไว้ใจเพ่ยจีมาก ท่านยายก็เช่นกัน และนางก็ไว้ใจถึงขั้นให้เป็นเพื่อนรักไม่แบ่งแยกชนชั้น
ทว่านิสัยเช่นลี่เหยาถิงมีหรือจะยอมแพ้
นางไม่มีวันปล่อยให้ชายในดวงใจกลายเป็นเครื่องมือให้สตรีวิปลาสเช่นเพ่ยจีแน่
และยิ่งไม่ยอมปล่อยให้บุตรชายของลุงเหอถูกการกระทำของปีศาจนามว่าเพ่ยจีครอบงำ
ลี่เหยาถิงจึงเข้าหาเหอหย่งหมิง และพยายามบอกความจริงข้อนี้ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน
แน่นอนว่ามันสายเกินไปแล้ว
เหอหย่งหมิงกับเพ่ยจีสานสัมพันธ์กันจนกลายเป็นคนรักกันไปแล้ว
ทำให้ลี่เหยาถิงที่มีลักษณะจริงใจเปิดเผยกลายเป็นหญิงหยิ่งยโสเกรี้ยวกราดเอาแต่ใจอย่างเหลือร้าย
และยิ่งนางเปิดปากถึงความชั่วช้าของเพ่ยจีที่มีลักษณะนุ่มนวลอ่อนโยน เอาแต่ร่ำไห้ตัวสั่นเช่นนั้น
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ลี่เหยาถิงจักกลายเป็นตัวอันใดในสายตาของเหอหย่งหมิง
ลี่เหยาถิงพยายามแล้วที่จะทำตัวสงบเสงี่ยม พูดจาดีๆ แต่ทว่าบุคลิกของนางเป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร จึงกลายเป็นประชดประชันร่ายมารยาไปเสียสิ้น
จนสุดท้าย ลี่เหยาถิงก็ใช้วิธีขั้นเด็ดขาด นั่นก็คือขอสมรสพระราชทานเสียเลย
เหตุผลนั้น นางล้วนคิดมาดีแล้วทุกสิ่ง
หนึ่งคือนางรักเขาทั้งใจ และสองเพื่อตอบแทนลุงเหอ นางต้องดูแลบุตรชายของลุงเหอให้ดี ไม่มีใครมาเปลี่ยนความคิดนี้ของนางได้
เหตุผลเหล่านี้ ไม่มีใครรู้ แต่ทว่า นางเคยใช้กล่าวอ้างให้เหวินเต๋อร์ตัดใจจากนาง
และมันก็ได้ผล ทำให้เหวินเต๋อร์ที่ชอบนางมาหลายปีไม่ตัดใจเสียที ต้องออกจากบ้านไปไม่กลับมานั่นล่ะ
ทว่ายามนี้มีเหตุผลเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งประการ นั่นก็คือเพื่อดึงเหอหย่งหมิงออกจากเพ่ยจี
และแล้วเหอหย่งหมิงก็ไม่ทำให้นางผิดหวัง เมื่อเขาได้รับคำสั่งให้ออกไปกำราบชนเผ่าแห่งหนึ่งและกำชัยจากศึกนั้นได้สำเร็จในเวลาเพียงไม่นาน
ลี่เหยาถิงจึงเป็นรางวัลรอเขาอยู่ด้วยสมรสพระราชทานที่ยังไม่เปิดเผยจนกว่าเขาจะกลับเข้าวังหลวงมา
หญิงสาวมิได้สนใจเลยสักนิดว่าอีกฝ่ายจะเต็มใจรับหรือไม่ นั่นคือนิสัยของนาง
บนเชิงเขาแห่งเดิมยังคงมีหญิงสาวสองคนยืนจ้องหน้ากันด้วยสายตาดุเดือดปะทะกันกลางอากาศ
ฝ่ายหนึ่งที่มีรูปลักษณ์สะคราญโฉมมากกว่าเอื้อมมือขึ้นมาสะบัดตบหน้าอีกฝ่ายหนึ่งเสียงดัง เพี๊ยะ อีกครั้ง หลังจากที่นางได้ยินประโยคหนึ่งจากอีกฝ่ายว่า
เหอหย่งหมิงถูกข้าวางยาปลุกกำหนัดในคืนเข้าหอ ทำให้เขาต้องหลับหูหลับตาร่วมรักกับเจ้าสาวเช่นนาง หลังจากที่ไม่สมปรารถนากับหญิงคนรักของเขาในเรือนพักแห่งนั้น
ประโยคนี้ของเพ่ยจีเสียดแทงใจของลี่เหยาถิงอย่างแรง
เพราะนางคิดเพียงว่าได้ร่วมรักกับเขาตามธรรมนองคลองธรรมอันเหมาะสม ทั้งยังมั่นใจในเสน่ห์แห่งสตรีของตนเองยิ่งนัก
ใครจะไปคาดคิดว่า เขาร่วมรักกับนางก็เพราะถูกวางยา!
หญิงสาวสะบัดมือใส่หน้าอีกฝ่ายฉาดใหญ่
เพี๊ยะ
และอีกทีแรงๆ
เพี๊ยะ
ใบหน้าของเพ่ยจีสะบัดตามแรงตบอีกครั้ง และอีกครั้ง
ครานี้นางรับรู้ได้ถึงรสเค็มปร่าของเลือดในโพรงปาก หากแต่นางก็เพียงแค่แสยะยิ้มแล้วเอ่ยเสียงเย็นว่า
“วันนี้ข้านัดเจอกับหย่งหมิงที่นี่ เจ้าควรเข้ามาขัดขวางข้าเหมือนทุกครั้งด้วยล่ะ หึหึ!”
จบคำก็หันหลังเดินจากไปยังทิศทางหนึ่ง
เป็นอีกคราที่ลี่เหยาถิงได้แต่อึ้งนิ่งไป
ทุกอย่างเกินคาดการณ์ของนางทั้งสิ้น นางแค่มายืนไว้อาลัยให้ท่านยาย เพ่ยจีก็มาปรากฏตัวยั่วโทสะ อีกทั้งยังมี....
ทันใดนั้น หางตาคู่งามก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มรูปงามผู้หนึ่งกำลังเดินอยู่ไกลๆ ก่อนจะไปหยุดยืนยังมุมหนึ่งของเชิงเขาแห่งนี้
เหอหย่งหมิง...
เขาไม่กลับจวนมาหานาง แต่มาตามนัดเพ่ยจี...
*******
นิยายเรื่องนี้ ฉบับอีบุ๊ค คลิก>>>
|
ความคิดเห็น