ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นางร้ายพ่ายรัก(ดวงใจแม่ทัพ) [ภาคต่อจอมใจจอมมาร]

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่4 คิดถึงสุดใจ

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ค. 67


    ภายในห้องพักกว้างขวาง ประดับประดาไปด้วยผ้าโปร่งพลิ้วไหว ซ้อนทับด้วยผ้าปักลายงดงาม

    กลิ่นหอมรัญจวนใจคละคลุ้งตลบอบอวลไปทั่วห้อง   หลังฉากกั้นบังตามีอ่างไม้พร้อมน้ำอุ่นโปรยด้วยกลีบดอกไม้หลากสี มีเครื่องหอมพร้อมสรรพ แม่ทัพหนุ่มจึงนั่งแช่น้ำอย่างสบายอารมณ์ ทั้งยังสบายตัวเป็นอย่างมาก

    และยิ่งสบายใจเป็นหนักหนา ที่ได้มาเจอใครบางคน

    เวลาผ่านไปราวครึ่งเค่อ แม่ทัพหนุ่มก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้

    ใบหน้าหล่อเหลาพลันเกิดประกายเจ้าเล่ห์ในแววตา

    หยวนจงยกฝ่ามือขึ้นแล้วปล่อยพลังลมปราณสายหนึ่งออกไป ทำให้ฉากกั้นบังตาเลื่อนชิดมุมห้อง เผยให้เห็นตัวเขาที่กำลังเปล่าเปลือยแช่น้ำอยู่ จากนั้นก็นั่งนิ่ง รอคอยต่อไป 

    ที่หน้าห้องพัก...

    ฟางหลันค่อยๆ เปิดประตูห้องแล้วเดินเข้ามา พร้อมอาหารรสเลิศจนเต็มถาด

     หญิงสาวนำอาหารมาวางเอาไว้ที่โต๊ะกลางห้อง แล้วมองหาหยวนจง

    “ข้าวมาแล้ว มากิน หือ...”

    ทันทีที่เห็นหยวนจงนั่งแช่น้ำอยู่ พวงแก้มของฟางหลันพลันแดงเห่อ ดวงตาคู่งามพลันเบิกกว้าง 

    นั่นชายงามใช่หรือไม่?

    มิใช่ว่าไม่เคยเห็น เพียงแต่เนิ่นนานหลายเดือนที่ห่างหาย ผสมผสานกับกลิ่นเครื่องหอมชวนรัญจวนใจที่อบอวลอยู่เต็มห้อง

    ทำให้ฟางหลันถึงกับจ้องมองชายงามน่าหลงใหลในอ่างไม้จนเต็มตา

    ช่วงไหล่หนั่นแน่นลาดชันเปิดเปลือย แผ่นหลังมีหยดน้ำเกาะพราว เส้นผมดำขลับยาวสลายเปียกชื้น ปัดออกไปข้างหนึ่งให้ลู่ลงแนบลำคอหนา เผยสันกรามแกร่ง

    ยามเอียงหน้าเห็นจมูกโด่งเป็นสันตั้งตรงรับกับปลายคางทรงพลัง เรียวคิ้วเข้มพาดเฉียงรับกับดวงตาเรียวคม 

    ริมฝีปากนั่นก็...

    ฟางหลันถึงกับยืนเหม่อ มองหยวนจงอย่างล่องลอย

    มุมปากของหยวนจงลอบยกโค้งแทบมองไม่เห็น

    เขาค่อยๆ ลุกขึ้นยืนในถังไม้ เปิดเผยกล้ามเนื้อตึงแน่นทุกสัดส่วน พาน้ำใสกลิ้งไปตามลำตัว ไล้ไปอย่างสวยงามตามแผงอกบึกบึน ลงไปถึงเอวสอบได้รูป ก่อนจะกลิ้งลงไปที่...

    ฟางหลันแทบมีเลือดพุ่งออกมาจากจมูก

    นางรีบหันหน้าหนี รีบจัดอาหาร จัดถ้วยข้าว จัดตะเกียบ จัดเท่าไหร่ก็ไม่เสร็จสักที

    ในใจก็เต้นโครมครามรุนแรงไม่หยุด

    ในอกก็ร้อนรุ่มไปหมด

    ไม่เจอกันเจ็ดเดือน มิคาดว่าอาการกระสันจะพวยพุ่งรุนแรงเช่นนี้ 

    ในขณะที่ฝ่ายหนึ่งกำลังฟุ้งซ่าน อีกฝ่ายหนึ่งก็ยังคงยั่วยวนไม่เลิกรา

    หยวนจงเดินตัวเปลือยไร้ยางอายไปหยิบผ้ามาซับน้ำออกจากกายแกร่ง แล้วสวมเพียงกางเกงผ้าเนื้อบางเพียงตัวเดียว เห็นบางอย่างใต้ขอบกางเกงรำไร ก่อนจะเดินเข้ามาทางฟางหลันที่กำลังหันหน้าหนีอย่างลนลาน

    ชายหนุ่มเลือกที่จะเข้าหานางจากทางด้านหลัง เพราะว่าทุกครั้งที่เข้าหานาง หากเขาเข้าทางด้านหน้า นางจะกางกรงเล็บข่วนเขา แล้วก็จับแท่งหยกของเขาบิดไปมาทุกที

    ครานี้อย่าได้หวังจะเล่นงานแท่งหยกกันอีกเลย

    ฝ่ามือหนาค่อยๆ โอบเอวบางของนาง แล้วกระชับเข้าสู่แผงอกแข็งแรง จนร่างนุ่มนิ่มจมเข้ามาในอ้อมกอด พาความอบอุ่นโอบล้อมร่างนาง พาความพลุ่งพล่านแผ่ไปทั่วร่างแกร่ง

    ทั้งสองพลันตัวแข็งทื่อโดยมิได้นัดหมาย

    เจ็ดเดือนที่มิได้เจอหน้า มิคาดว่าความปรารถนาต่อสัมผัสจะรุนแรงถึงเพียงนี้

    ร่างสูงพลันสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุม

    ใบหน้าคมคายซุกซบตรงซอกคอนางทันใด ไม่คิดจะให้นางหันหน้ามาแน่นอน

    เขาก้มหน้าสูดดมกลิ่นหอมที่เฝ้าฝันคะนึงหา ลอบจุมพิตเบาๆ ที่ข้างแก้มนวล ไล้ปลายจมูกโด่งสันไปเรื่อยๆ พ่นลมอุ่น กรุ่นร้อนไปตามลำคอระหงอย่างอ่อนโยน ทุกสัมผัสล้วนกระทำอย่างระมัดระวัง มิให้ล่วงล้ำกัน แต่ก็ยังมากไปด้วยการเอาแต่ใจ

    “คิดถึง...” เสียงทุ้มแหบพร่าเย้ายวนดังอยู่ใกล้หูฟางหลัน

    ลมหายใจอุ่นเริ่มร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ หยวนจงแทบควบคุมตนเองไม่อยู่เสียแล้ว “คิดถึงเจ้า...”

    ฟางหลันพลันตัวแข็งทื่อ ใบหน้านวลแดงวาบไปถึงใบหู

    หยวนจงทำนางตื่นเต้นไม่น้อย เพราะว่าเมื่อก่อนเขามักจะพุ่งเข้าใส่นางอย่างรวดเร็วเสมอ มิได้อ่อนโยนเช่นนี้

    แล้วคำว่าคิดถึง กับน้ำเสียงทุ้มนุ่มที่ข้างหู คืออันใด?

    หญิงสาวกลอกตาไปมา ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี

    เจอกันครานี้เขาเปลี่ยนไป มิรู้ได้ว่าเจ็ดเดือนที่ผ่านมา เขาได้ตรึกตรองจนคิดใฝ่ดีได้แล้วหรืออย่างไร

    หากเป็นเช่นนั้นจริงย่อมดียิ่ง นางจึงไม่ต้องการผลักเขาออกไป ด้วยชมชอบรสสัมผัสนี้ไม่เบา

    แต่ถ้าไม่ผลัก เขาก็จะย่ามใจ

    เจ้าโจรราคะผู้นี้ ได้กลายเป็นปีศาจล่าสวาทไปแล้วอย่างเต็มตัว ทั้งยังมีฝีมือฉกาจมากเสน่ห์อีกด้วย การแนบชิดนุ่มนวลแฝงความร้อนเร่าเช่นนี้ ทำนางร้อนผ่าวไปถึงหัวใจ

    และก็เป็นจริงดั่งนางคิด หยวนจงนั้นคิดไปคิดมาอยู่หลายครั้งหลายครา เกี่ยวกับคนงามนามว่าฟางหลัน

    และหลังจากที่ห่างหายกันไปนานถึงเจ็ดเดือน เขาก็ยิ่งมั่นคงแน่วแน่ในหัวใจตน

    เขาจึงกลายเป็นปีศาจล่าสวาทไปแล้วอย่างสมบูรณ์

    ยิ่งเขาเห็นนางไร้ท่าทีปัดป้องเช่นนี้ มิได้ปฏิเสธกันเหมือนเช่นเคย ก็ยิ่งกระหยิ่มในใจ

    เขาจึงหอมแก้มนางซ้ำๆ ไปหลายที ขบติ่งหูนางเบาๆ อย่างยั่วเย้า ลากปลายลิ้นร้อนตวัดดูดดันอย่างยั่วยวน แล้วก้มหน้าลงซุกไซ้ที่ไหล่นาง ตามด้วยไล่กดจูบไปตามลำคอระหงแบบย้ำๆ ปากก็พร่ำเสียงต่ำพร่าแต่คำว่า

    “ข้าคิดถึงเจ้า...คิดถึงสุดหัวใจ”

    ดวงตาเรียวสวยของฟางหลันพลันเบิกกว้าง ทั่วทั้งร่างร้อนฉ่าปานถ่านไฟในเตาแดง

    หญิงสาวใจเต้นระส่ำแทบทะลุออกมานอกอก ราวกับกลายร่างเป็นสาวน้อยวัยแรกแย้มไปแล้วกระนั้น

    ขนอ่อนทั่วร่างก็พากันลุกขึ้นชูชันยามริมฝีปากนุ่มชื้นไล้สัมผัสไปมา ความอบอุ่นและร้อนรุ่มที่โอบล้อมไปทั่วร่าง ทำนางแทบจะละลายกลายเป็นขี้ผึ้งลนไฟอยู่แล้ว

    หญิงสาวเริ่มหลับตาพริ้ม ร่างกายเริ่มอ่อนระทวยเพื่อตอบสนอง ปากเล็กเริ่มเผยอเตรียมครวญคราง

    อา...ไม่ได้การ...

    ขืนปล่อยให้เขากระทำการอย่างย่ามใจเช่นนี้ นางคงได้ล่องลอยไปบนฟากฟ้า แล้วตกลงมากระอักเลือดเป็นแน่

    นางยังไม่พร้อมทั้งกายใจ เขาจะเอาเปรียบนางเช่นนี้มิได้

    ชั่วขณะนี้ หยวนจงกำลังย่ามใจจริงๆ เขาเอื้อมฝ่ามือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในสาบเสื้อของฟางหลัน แล้วบีบเนินเนื้อหยุ่นนุ่มของนางตามด้วยเคล้นคลึงอย่างสบายมือ

    ส่วนเรียวนิ้วอุ่นอีกข้างก็กระตุกสายรัดที่เอวจนหลุด  ก่อนจะค่อยๆ ลดฝ่ามือลงต่ำ มาลูบคลำตรงกลางกายนาง

    “โอ๊ย!

    เสียงทุ้มแผดดังก้อง เมื่อฟางหลันเลือกที่จะบิดข้อมือของหยวนจงข้างที่กำลังลูบกลางลำตัวของนางก่อน

    “โอ๊ย!

    เสียงร้องลั่นอีกครา เพราะฟางหลันบิดมืออีกข้างของเขา ที่กำลังล้วงเข้ามาตรงหน้าอกอวบตึงและกำลังเคล้นคลึงเมื่อครู่

    “อ่า...”

    หยวนจงโอดครวญก่อนจะถอยหลังไปถึงสองก้าว

    ฟางหลันพลิกกายเข้าหา แล้วเอื้อมวงแขนโอบรอบลำคอหนาของเขาเข้ามา ตามด้วยยืดตัวขึ้นแล้วยื่นหน้าเข้าจุมพิตเขาตรงริมฝีปาก

    “...!?

    ชายหนุ่มพลันเบิกตากว้าง เมื่อถูกจู่โจมกลีบปากเช่นนั้น

    ฟางหลันมิได้จับแท่งหยกของหยวนจงมาหักเหมือนที่เคย นางเพียงจูบเขาอย่างรวดเร็ว สอดปลายลิ้นเล็กเกี่ยวกระหวัดกับปลายลิ้นใหญ่

    สายตาของทั้งสองสบประสานกันในระยะชิดใกล้

    การจุมพิตเกิดขึ้นอย่างเร่าร้อนเนิ่นนาน

    จนรู้สึกได้ถึงบางอย่างของหยวนจง กำลังตื่นผงาดชูคอดันกางเกง    

    แท่งหยกทรงพลังของชายหนุ่มปวดหนึบไปหมด แต่เพียงชั่วครู่ ฟางหลันก็ถอนริมฝีปากออกไป  

    ชายหนุ่มมองใบหน้างามที่กำลังถอยห่างอย่างงุนงง หูอื้อตาลายทันใด

    เขากำลังพ่ายแพ้ให้นางอย่างราบคาบ

    “มากินข้าวได้แล้ว”

    หญิงสาวกล่าวเสียงนุ่มในระยะแนบชิดเพียงนิ้วกั้น พลางยกยิ้มอบอุ่นละมุนตา เป็นยิ้มที่งดงามสะกดใจ เป็นมารยาระดับเทพบนฟ้ายังต้องยอมลงให้

    ครานี้หยวนจงพลันตาพร่า ความอุ่นชื้นเมื่อครู่ยังติดตรึงที่ริมฝีปาก ซึมลึกไปถึงกลางใจ

    แสนเสียดายที่นางถอนใบหน้าออกไปเร็วนัก  

    “เจ้า...”

    เขาเอ่ยเสียงแตกพร่าได้แค่นั้น สายตาคมดำขลับทำได้แค่จับจ้องนางไม่วางตา ความปรารถนาในตัวนางยิ่งท่วมท้น หัวใจในอกแกร่งเต้นระส่ำอย่างบ้าคลั่ง

    นางกำลังจะทำให้เขากลายเป็นบ้า

    ฟางหลันหลุดหัวเราะคิก

    ยังก่อน ยังไม่ถึงเวลา

    “มากินข้าวก่อน...” นางเอ่ยแค่นั้น แล้วจับดึงแขนเขาให้ไปนั่งลงที่โต๊ะแต่โดยดี

    หยวนจงหมดหนทางต่อกรกับนางมารตนนี้จริงๆ

    การทักทายกันด้วยความคิดถึง เริ่มต้นที่จุมพิตร้อนแรงและจบลงที่กินข้าวก็เท่านั้น

    เมื่อกินข้าวจนอิ่มหนำ ฟางหลันก็ทำท่าเตรียมผละจาก นางเก็บถ้วยทุกใบใส่ถาด แล้วทำท่าจะเดินออกจากห้องไป

    “ช้าก่อน!

    หยวนจงส่งเสียงเข้ม สูดหายใจเข้าอกลึกหนึ่งเฮือกใหญ่  พยายามกักเก็บอารมณ์กระสันอย่างสุดความสามารถ

    “ไม่เจอกันตั้งนาน ไม่คิดจะอยู่คุยกันสักหน่อยหรือไร?

    เจ็ดเดือนที่มิได้เจอกัน หรือว่านางมิใคร่ใส่ใจเขาแล้ว

    ชายหนุ่มนึกน้อยใจขึ้นมา หัวใจชายแกร่งวูบไหวเบาๆ

    ฟางหลันทำหน้าเหลอหลา คิ้วเรียวโก่งเลิกขึ้นน้อยๆ เอ่ยปากเรียบเรื่อยว่า “ข้าแค่จะเอาถาดข้าวไปเก็บแล้วก็จะกลับมาหาท่าน ข้าเย็บผ้าเอาไว้ให้ท่านตั้งหลายชุด เตรียมถุงหอมเอาไว้หลายใบ รองเท้าหรือก็ปักให้ กระทั่งภาพวาด โคลงกลอนก็ยังมี”

    จบคำก็หมุนตัวเดินจากไปเลย ไม่แม้แต่จะสนใจใครบางคนที่โง่งมไปแล้ว


     คลิกเรื่องที่เกี่ยวข้อง >>>จอมใจจอมมาร

    อีบุ๊ค ของหยวนจงและฟางหลัน ให้ได้ฟินกันเต็มๆ คลิก >>>

    นางร้ายพ่ายรัก(ดวงใจแม่ทัพ)
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    กาลก่อน เขามักจะได้ลิ้มลองหญิงงามจนอิ่มหนำทุกค่ำคืน แต่ยามนี้เขามิใคร่อยากจะทำเช่นนั้น แค่คิดว่ายามร่วมรักกับสตรีอื่นแล้วมีใบหน้าของนางมารตนหนึ่งลอยมา ตามด้วยกรงเล็บเข้าจิกหน้าเขา แหวกอกเขา จังหวะที่กำลังเสพสมก็พลันหยุดลงจนอารมณ์หดหาย มิใช่ว่ากลัวตาย แต่ไม่รู้ว่าทำไม นางมารตนนั้นช่างน่ากลัวนัก! หากนางโกรธเขาขึ้นมาจริงๆ เขาต้องบ้าตายเป็นแน่!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×