คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : หมายมาด
ภายในครัวที่พังยับของบ้านหลังน้อยทรุดโทรม
เสียงร้องไห้โฮของฟางหลันดังเล็ดลอดออกมาให้เหม่ยหลินที่ยืนนิ่งในห้องโถงได้ยินชัดเจน แน่นอนว่านางรู้สึกผิดยิ่งนักที่ทำบ้านของฟางหลันเสียหาย นางจึงคิดจะพาฟางหลันกลับเมืองหลวงเสียด้วยกัน หากฟางหลันไม่ต้องการเข้าไปอยู่ในวัง นางก็จะหาซื้อบ้านใหญ่ๆ ให้สักหลัง เพื่อเป็นการชดใช้
เมื่อเสียงร่ำไห้เริ่มเงียบลง เหม่ยหลินจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาฟางหลันในทันที
“เจ้าพูดถูกต้อง ข้าเป็นองค์หญิงจริงดั่งเจ้าว่ามา” เสียงแว่วหวานเอ่ยเนิบช้าเพื่อเสวนากับสตรีที่กำลังสูญเสียห้องครัว “หากเจ้าไม่คิดรังเกียจกัน ข้าพร้อมชดเชยให้ทุกอย่าง”
ใบหน้าที่มีหยาดน้ำตาเกาะพร่างพราวอย่างสวยงามของฟางหลันหันมาทางเหม่ยหลินในทันที
“คนที่พังครัวของข้าคือท่านหรือ?” นางถามเสียงสั่นเครืออย่างน่าสงสาร
เหม่ยหลินพยักหน้าน้อยๆ ยอมรับด้วยแววตาสวยหวานที่แสนใสซื่อ
ฟางหลันถึงกับยกมือขึ้นปิดหน้าร้องให้โฮในอีกครา สมแล้วที่องค์หญิงผู้นี้จักเป็นคนรักของท่านประมุขหงซือกวน องค์หญิงช่างโหดเหี้ยมนัก ทำร้ายครัวอันเป็นที่รักของนาง ฮือ...
“เอาเถิด ฟางหลัน” เหม่ยหลินเอ่ยเสียงแผ่วเบาแต่หนักแน่น “เพื่อทดแทนครัวของเจ้า ข้าเหม่ยหลินขอรับปากว่า เจ้าจะได้บ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม มีบ่าวไพร่มากมาย เครื่องประดับหายาก อัญมณีเลอค่า เสื้อผ้าแพรพรรณเนื้อดีนับไม่ถ้วน”
ฟางหลันได้ฟังพลันชะงัก น้ำตาเหือดแห้งในฉับพลัน หันขวับจ้องมองเหม่ยหลินทันใด “จริงรึ?”
“อืม” เหม่ยหลินพยักหน้าให้
“จริงนะ”
“อืม”
“องค์หญิงทรงตรัสแล้วอย่าคืนคำนะเพคะ” การพูดคุยของฟางหลันที่มีต่อเหม่ยหลินเปลี่ยนไปในทันที
“แน่นอน”
ดวงตาฉ่ำชื้นของฟางหลันพลันทอประกายสดใสคล้ายฟ้าหลังฝนที่มีแสงแดดสาดส่องพร้อมสายรุ้งหลากสี รอยยิ้มของนางกว้างมากจนเห็นฟันขาวกระจ่างเรียงตัวอย่างสวยงาม
“เสื้อผ้าของข้าต้องมีสีแดงมากหน่อยนะ ข้าชอบที่สุด” หญิงสาวเริ่มเรียกร้อง “แล้วสีอื่นๆ ก็ขอแบบจัดจ้านด้วย”
เหม่ยหลินคลี่ยิ้มงดงามแล้วเอ่ย “เจ้าเหมาะกับสีแดงมาก สีสันแสบตาทั้งหลายก็ด้วย”
“แล้วก็ปิ่นปักผม ข้าขอสั่งทำเป็นพิเศษนะ เอาดอกไม้ช่อใหญ่ประดับลงไปด้วย”
“ได้สิ ข้าจะให้ช่างของวังหลวงออกแบบให้เจ้าอย่างดี ยกทั้งพุ่มใส่ลงในปิ่นเลย”
“อา...” ฟางหลันเริ่มระแวง “หากเป็นเช่นนั้น ผู้คนคงมองปิ่นมากกว่ามองหน้าข้าแล้วล่ะ”
ภายในห้องครัวที่เหลือเพียงซากไม่น่ามอง จึงมีเสียงหัวเราะสดใสเกิดขึ้นทันใด สตรีทั้งสองคุยกันอย่างถูกคอขึ้นมาทันที
เมื่อตกลงกันได้แล้วเหม่ยหลินจึงคิดจะออกไปรอหงซือกวนที่หน้าบ้าน แต่ยังมิทันได้เอ่ยปากบอกฟางหลัน พลันมีเสียงไก่ป่าร้องลั่น และเสียงของหมูป่าดังผสาน ทั้งสองจึงเดินไปมองตามเสียงสัตว์เหล่านั้นที่ดังมาจากหลังครัวตรงแปลงผัก จึงได้เห็นว่าตรงนั้น มีทั้งไก่ป่า หมูป่า และกระต่ายป่า ถูกจับมัดแน่นหนาเพื่อรอเชือด
สตรีทั้งสองรีบหันซ้ายแลขวามองหาผู้จับสัตว์ป่ามาทันใด แต่แล้วพวกนางต้องผงะตกใจ เมื่อมองไม่เห็นใครที่จับสัตว์ป่ามา จะมีก็เพียงชายหนุ่มร่างสูงสง่า ใบหน้าหล่อเหลา สายตาเย็นชา แผ่กลิ่นอายมากอำนาจไม่ธรรมดา นั่งอยู่นิ่งๆ ในห้องรับรอง
คล้ายกับว่าเขานั่งอยู่เป็นนานแล้ว ไม่เคยออกจากบ้านไปที่ใดทั้งสิ้น
หงซือกวนนั้น ไปมาไร้ร่องรอย ฝีมือไร้เทียมทาน สองสตรีไม่นึกแปลกใจ
ฟางหลันรีบหันหน้ามากล่าวกับเหม่ยหลิน “องค์หญิงรีบไปนั่งรอก่อนเถิด เรื่องทำอาหารปล่อยเป็นหน้าที่ข้า” แน่นอนว่าคนงามอย่างฟางหลันมิได้มีดีเพียงใบหน้าโฉมสะคราญ หากแต่ฝีมือการทำอาหารยังเลิศล้ำอีกด้วย โฮะๆๆ
ด้วยประเมินฝีมือการเข้าครัวของตนที่ยังต้องปรับปรุงอีกมากโข มีหรือที่เหม่ยหลินจะปฏิเสธ นางจึงเดินออกจากครัวมาหาหงซือกวนในทันที
“พี่หง” เสียงแว่วหวานเอ่ยเรียกขานชายหนุ่มที่นั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะในห้องโถง “ท่านกลับมาแล้ว” นางถามด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานประหนึ่งภรรยาออกมารับหน้าสามีที่เพิ่งกลับจากทำงาน
“ท่าทางเจ้าคงเจอสหายถูกคอเข้าแล้ว” เสียงราบเรียบเอ่ยเชิงเย้าด้วยใบหน้านิ่งเฉย สายตาคมเฉี่ยวมองนางนิ่งๆ คล้ายประเมินกัน
เหม่ยหลินเห็นสายตานั้นของเขาจึงรู้สึกร้อนวาบขึ้นมา ด้วยกำลังมีเรื่องปิดบังเขา นางจึงตื่นตระหนกไม่เบาแต่ก็พยายามระงับเอาไว้ แล้วเอ่ยรัวเร็ว “ท่านคงคอแห้งกระมัง ข้าจะเข้าครัวไปหาอะไรมาให้ท่านดื่มเพื่อดับกระหาย” กล่าวจบก็รีบหมุนกายระหงเดินหายไปในซากห้องครัวอย่างลุกลี้ลุกลน
ทำอย่างไรได้ นางยังไม่พร้อมให้เขารู้เรื่องตัวตนแท้จริงของเขาแม้แต่นิดเดียว นางยังไม่ต้องการแยกจากเขานี่นา
หงซือกวนมองตามเจ้าของแผ่นหลังบอบบางที่เริ่มมีความคิดลึกลับนั่นอย่างนึกสนุก เมื่อเห็นความเจ้าเล่ห์มีมารยาของเหม่ยหลิน ยังคงไร้เดียงสาอยู่มาก เขายิ่งชอบใจนัก
ที่แปลงผักหลังบ้าน ฟางหลันกำลังสังหารสัตว์ป่าอย่างโหดร้าย เพื่อนำมาปรุงอาหารรสเลิศให้แก่แขกกิตติมศักดิ์ของนาง ผู้เป็นถึงท่านประมุขหงซือกวน ที่หาโอกาสได้ยากนักที่จะได้ยลโฉมอันหล่อเหลามากบารมีของเขาใกล้ๆ
มิใช่ว่าใครจักได้รับสิทธิ์นี้ง่ายๆ หรอกนะ ขนาดเจ้าหอฮว๋าฮ่าวผู้คุมร้านอาหารเป็นร้อยแห่ง ต้องการเชิญท่านประมุขไปชิมอาหารที่ปรุงขึ้นเป็นพิเศษ ยังมิอาจได้รับโอกาสนั้นเลย
เช่นนั้นแล้ว เจ้าไก่เอ๋ยจงตายไปแล้วกลายร่างเป็นไก่อบขิงเสีย เจ้าหมูป่านี่ก็ด้วย อ๊ะๆ เจ้ากระต่าย เจ้าอยากกลายร่างเป็นอาหารใด?
ในขณะที่คนงามกำลังเสวนากับสัตว์ป่าไร้วิญญาณ เส้นเสียงหวานล้ำพลันกระซิบกระซาบให้ได้ยิน “ฟางหลัน”
“เจ้าคะ” ผู้ถูกเรียกเพียงขานรับหาได้หันมองเพราะกำลังเชือดไก่อยู่
เหม่ยหลินรีบกระซิบอีกครา “เจ้ามีเหล้าบ้างหรือไม่?”
ฟางหลันหันหน้าสบตาเหม่ยหลินแวบหนึ่ง ก่อนจะอมยิ้มกรุ้มกริ่มตอบรับ “ย่อมมีแน่นอน องค์หญิงโปรดกลับไปนั่งรอครู่เดียว” จบคำก็วิ่งไปทางหลังบ้านอีกฝั่งหนึ่งในทันที
เหม่ยหลินยืนนิ่งอยู่ที่เดิมพลางครุ่นคิดถึงแผนการผูกมัดชายในดวงใจ นางจะมอมเหล้าพี่หงของนางให้เมามาย เพราะหากเขารู้เรื่องราวของตนเองขึ้นมา แน่นอนว่าเขาคงคิดจะไปจากนาง เขาจะทิ้งนางไป แต่หากเขาเมาแล้วก็อาจจะบอกนางว่าไม่ทิ้งกันก็เป็นได้ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนพูดน้อย วาจาเพียงประโยคเดียวมีค่ายิ่งกว่าทองคำ แต่นางพอจะดูออกว่าเขาเป็นบุรุษที่ยึดมั่นต่อวาจาปานใด หากคำใดที่เขาเอ่ยออกมา ทุกถ้อยวาจาย่อมถือเป็นคำสัตย์ เป็นสัจจะที่มั่นคงดั่งขุนเขา ยามเขาเมาเหล้า นางจะกล่อมเขาให้เอ่ยออกมาว่าจะไม่ทิ้งกัน ทั้งยังจะให้เขาลงนามเสียด้วยเลย
หญิงสาวคิดอย่างหมายมาดพลางมองหากระดาษสักแผ่นในบ้านของฟางหลันด้วยใจที่เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
**********************
|
|
|
|
ความคิดเห็น