ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จอมใจจอมมาร(จบ)

    ลำดับตอนที่ #19 : กลั่นแกล้ง

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.พ. 67



    ภายใต้หุบเหวลึกที่ห้อมล้อมไปด้วยป่ารกทึบอับชื้น

    เยื้องจากปากถ้ำขนาดย่อมไม่ไกล มีหนึ่งบุรุษรูปร่างสง่างามท่าทางกร้าวแกร่งกับนกประหลาดตัวใหญ่ทรงพลัง สร้างความน่าสะพรึงในครรลองสายตาของสัตว์ป่าน้อยใหญ่ มิให้ย่างกรายเข้ามาใกล้ หากแต่สตรีงดงามท่าทางอ่อนหวานกลับพาเรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นเดินเข้ามาแล้วยืนเคียงข้าง หาได้หวาดหวั่นแต่อย่างใด นางคลี่ยิ้มหยาดเยิ้มพร้อมดวงตาฉ่ำชื้นเอ่ยเรียกเสียงหวาน

    “พี่หง”

    เหม่ยหลินดีใจเหลือเกินที่เขาไม่ทอดทิ้งกัน ก่อนหน้าที่มองหาเขาในถ้ำแล้วไม่เจอ หัวใจของนางคล้ายกับจะหลุดออกมานอกอก รู้สึกหวาดกลัวไปหมด แต่เมื่อเดินออกมานอกถ้ำแล้วเห็นเขายืนอยู่ตรงนี้ หัวใจของนางพลันเต้นแรงจนไม่อาจควบคุม รู้สึกอุ่นซ่านไปทั่วทั้งโพรงอก

    “ท่านอยู่ที่นี่ ข้าเกรงว่าท่านจะไปเสียแล้ว...” ข้ามิอาจทนหากมองไม่เห็นท่าน นางมิกล้าเอ่ยจนจบประโยค แค่นี้นางก็ไร้ซึ่งการเก็บอารมณ์อันใดจนเกินงามมากนัก

    เมื่อฉุกคิดได้ หญิงสาวจึงยืนอย่างสำรวม กิริยาสงบเฉกเช่นสตรีชั้นสูง ท่าทางขยับตัวเผยความสง่างามให้ได้เห็น นางพยายามเก็บข่มอารมณ์ทุกอย่าง นางก้มหน้า มิกล้าสบตา ภายใต้แพขนตางามงอน ซ่อนพวงแก้มที่แดงระเรื่อเอาไว้ยากเย็น

    หงซือกวนเพียงยืนนิ่งจ้องมองนางข้างกาย สายตาเฉี่ยวคมไร้คลื่นอารมณ์อันใด หากแต่กลิ่นกายหอมกรุ่นและสัมผัสนุ่มนิ่มทุกสัดส่วนยังคงติดตรึง มุมปากได้รูปบนใบหน้าเย็นชาจึงลอบยกโค้งบางเบา ก่อนเอ่ยเสียงต่ำราบเรียบ

    “เจ้าควรพักผ่อน ไม่ควรเดินออกมาโดยพลการ”

    เหม่ยหลินรีบปรับอารมณ์แล้วตอบคำเสียงแผ่ว “ข้าไม่เป็นไรแล้ว” นางเงยหน้าสู้สายตาคมด้วยดวงตาฉ่ำน้ำ “ข้าเป็นห่วงท่าน ก็เลยรีบออกมาตามหา” จบคำก็คลี่ยิ้มส่งให้ เป็นยิ้มที่ทอประกายเจิดจ้ารับแสงตะวันเป็นอย่างมาก

    “อ้อ...” ชายหนุ่มผู้ถูกห่วงใยถึงกับลากเสียงยาว “ข้าทำให้สตรีเช่นเจ้าเป็นห่วงหรือ?

    หญิงสาวพลันสะดุดใจกับประโยคที่พลั้งเผลอ พวงแก้มที่แดงอยู่แล้วยิ่งแดงเพิ่มขึ้นอีก “เอ่อ...” นางเริ่มเสียการควบคุมในอาการสำรวม ถึงแม้จะถูกฝึกมาดีตั้งแต่เกิด หากแต่สตรีในห้องหอเยี่ยงนาง อาการเช่นนี้นางมิเคยเกิดกับใคร 

    “ข้าหมายถึง...” นางรีบอธิบาย “ข้าเป็นห่วงว่าท่านได้พักผ่อนหรือไม่ ท่านไปนอนที่ใด ในเมื่อถ้ำนั้นเล็กมากนัก” แต่ยิ่งพูดก็ยิ่งไปกันใหญ่

    “อ้อ...” หงซือกวนได้ฟังจึงครางเสียงต่ำในลำคออีกครา “เจ้าเป็นห่วงที่หลับนอนของข้าปานนั้น” อึดใจเจ้าของร่างสูงพลันเบี่ยงกายเข้าหาโดยมีเจ้านกตัวใหญ่เกาะไหล่อยู่นิ่งๆ เขาก้มหน้ามองนางแล้วเอ่ยเสียงแหบต่ำ “เจ้าอย่าได้ห่วง ข้าได้นอนจนสบายตัวและหลับฝันดี” เขาแฝงความนัยที่รู้เพียงตนเอง

    เหม่ยหลินถึงกับเบิกตากว้างแหงนหน้ามองเขา เริ่มรู้ตัวว่ากล่าวสิ่งไม่ควร ก็ได้แต่ทำหน้าเหลอหลา และยิ่งทำสิ่งใดไม่ถูกทั้งนั้น น้ำตาที่ยังเอ่อคลอจึงหยาดหยดแล้วตกจากพวงแก้ม คล้ายมุกเม็ดกลมกลิ้งลงอย่างสวยงาม

    หงซือกวนก้มมองนางตรงหน้าที่สูงแค่แผงอก สายตาคมกริบมีแต่ความมืดดำไร้ประกายอันใด เขาอยากถามนางเสียจริง ว่าทำอย่างอื่นเป็นหรือไม่ นอกจากร่ำไห้และยิ้มล่อลวง

    “พี่หง” เหม่ยหลินเรียกร่างสูงตรงหน้าเสียงหวานเพื่อเป็นการแก้เก้อกระดาก แต่หาได้เอ่ยวาจาใดได้มากไปกว่านั้น นางยังคงคลี่ยิ้มจริงใจ กะพริบตาเบาๆ

    เจ้าของนามเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยคล้ายท้าทายกัน การเรียกนามกันเยี่ยงนี้ เขาแน่ใจว่ามิใคร่พอใจ แต่หากจะให้นางเรียกใต้เท้าหง ก็เกรงจะไม่เหมาะ หรือให้เรียกคุณชายหง ผู้คนคงหัวเราะเยาะ

    แต่เอาเถิด...เขาจะเว้นให้นางคนหนึ่งล่ะกัน!

    สายตมคมเฉี่ยวที่มองกันเริ่มลดแรงกดดันให้เบาบางลงไป ก่อนจะละจากใบหน้างามแล้วเบี่ยงกายสูงสง่าเดินไปอีกทางหนึ่ง เจ้านกตัวใหญ่ยังคงหุบปีกอย่างนอบน้อมเอียงหัวไปมา สายตาสีแดงวาวของมันมองกราดสาดประกายคมกล้าไปทั่วเพื่อระวังภัยตามวิสัย สองร่างต่างสายพันธุ์ยังคงสร้างความน่าหวาดหวั่นขวัญผวาแฝงความน่าเกรงขามที่แสนจะอันตรายแผ่กำจายไปทุกหัวระแหง หากสังเกตให้ดีจะเห็นสายตาจ้องเขม็งน่ากลัวของเหล่าสัตว์ร้ายรายรอบที่ต่างพากันหลุบหายไปคล้ายกับกลัวเกรงมิกล้าย่างกรายเฉียดใกล้

    มีเพียงเหม่ยหลินที่รีบหมุนร่างระหง แล้วเดินตามสิ่งที่เรียกได้ว่าอันตรายทั้งสองไปติดๆ นางมิได้กลัวเกรงเขาเลยสักนิด ไม่แม้แต่จะคิดประหลาดใจ

     

    เวลาผ่านไปราวสามก้านธูป[1]

    หงซือกวนเดินนำหน้าอย่างใจเย็นแต่ทว่ากลับเดินไปไกลโข ปลายเท้าน้อยๆ ที่มักจะเดินนวยนาดชดช้อยในห้องหออย่างเหม่ยหลิน ไหนเลยจักเดินตามปลายเท้าหนาใหญ่ของคนตัวโตได้ทัน แต่นางกลับไม่บ่นออกมาแม้เพียงครึ่งคำ และทั้งๆ ที่ใบหน้าแดงก่ำลามไปถึงลำคอจนเหงื่อผุดพรายไปทั่ว แสดงให้เห็นถึงความเหน็ดเหนื่อยเกินกำลัง นางก็ยังคงเดินตามอย่างแข็งขัน จนสุดท้ายเรียวขางามภายใต้อาภรณ์สีขาวนวลไร้สีสันถึงกับอ่อนยวบจนร่างทั้งร่างทรุดฮวบลงนั่ง

    หญิงสาวกัดฟันเม้มปากแน่นพยายามลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามอีกครา ทุกกิริยาล้วนอยู่ในสายตาคมของชายหนุ่มร่างสูง ทำให้เขาอดมิได้ที่จะหยุดเดินแล้วมองนาง

    มุมปากพลันยกโค้งบางเบา แล้วหมุนกายเดินต่อไปอย่างใจเย็น คล้ายกลั่นแกล้งให้ใครบางคนได้เดินตามอย่างทุลักทุเล



    [1] 1 ก้านธูป = 15 นาที

     **********************



    e-book ในชุดเดียวกัน รุ่นลูกและรุ่นหลาน

    นางร้ายพ่ายรัก(ดวงใจรัชทายาท)เล่ม1
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    นางเป็นสตรีร้ายกาจ หน้าตาดุดัน นิสัยไม่เหมือนใคร ส่วนเขาเป็นถึงโอรสสวรรค์ รูปร่างสง่างาม เป็นที่หมายปองของเหล่าสตรี

    นางร้ายพ่ายรัก(ดวงใจรัชทายาท)เล่ม2
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    “ต่อไป ข้าจะไม่ให้ใครเข้าใกล้ท่านอีก ข้าจะฆ่าทิ้งให้หมด” หญิงสาวกล่าวด้วยสีหน้าและแววตาดื้อรั้นจนหลี่ซื่อหมินนึกขัน“ข้ารู้ เจ้าเป็นนางมารน้อยของข้า หลงเอ๋อร์” เขากล่าวพลางยกมือขึ้นบิดแก้มนวลนั้นอย่างนึกเอ็นดู“ข้าจะไม่ทนอีกแล้วนะ” “อืม...”“ข้าไม่ได้ล้อท่านเล่น”“ข้ารู้”หงเหม่ยหลงยังคงบ่นอุบอิบอย่างขัดเคืองพลางก้มหน้าซุกซบอยู่กับแผงอกอบอุ่นของหลี่ซื่อหมินชายหนุ่มเพียงยืนอมยิ้มประคองกอดนางพลางนึกขอบคุณสวรรค์ เขาขอบคุณทุกสรรพสิ่งไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ส่งสตรีนางนี้ให้เกิดมา ขอบคุณที่ทำให้เขาได้พบเจอกับนางได้รักนาง... นางเป็นหนึ่งเดียวในดวงใจของเขาเป็นสตรีนางเดียวที่เขาจะรักตลอดไป...

    สะดุดรักยัยกะล่อน坠入爱河
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    เขาคือบุรุษรูปงามที่แสนเย็นชา    นางคือสตรีใจกล้านิสัยไม่ดี

    นางร้ายพ่ายรัก(ดวงใจรัชทายาท)ภาคทะลุมิติรัก
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    จะเป็นอย่างไรเมื่อบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้าต้องมาเจอกับสตรีตัวเล็กๆที่คิดว่าตนเอง ยิ่งใหญ่กว่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×