คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #47 : ตอน๔๓ เสือพบสิงห์
ตอน๔๓ เสือพบสิงห์
ตะวันสาดแสงส่องเข้ามาทางช่องว่างของหน้าต่างที่เปิดแง้มออกเพื่อรับความอบอุ่นและกลิ่นหอมจากไอแดดผสมผสานกับน้ำค้างพร่างพราวที่หยดอยู่ตามต้นไม้ดอกไม้ใบหญ้ารอบทิศทางที่เป็นตัวบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ารับอรุณของเช้าวันใหม่แล้ว
แต่ร่างบางของหงเหม่ยหลงยังคงอ่อนเพลียเกินกว่าที่จะเยื้องย่างลุกออกจากเตียงนอนไปทางใด
หลี่ซื่อหมินแต่งกายด้วยชุดสีนวลงามสง่าชวนมองเหมือนดังเช่นทุกวัน
เขาเดินมานั่งลงตรงขอบเตียงนอน ก่อนก้มหน้าลงจุมพิตที่หน้าผากกลมมนของสตรีในดวงใจ พลางกระซิบ
“ข้าจะรีบไป รีบกลับ...”
หงเหม่ยหลงปรือตามองชายหนุ่มก่อนจะลุกขึ้นนั่ง “เดี๋ยวก่อน ข้าจะไปส่งท่าน”
“เจ้าควรพักผ่อน”
“ไม่เอา”
“อย่าดื้อ”
“ท่านเดินทางไปรอบนี้ หลายวันเลยนะ”
“ข้าจะรีบจัดการให้เสร็จโดยเร็ว”
“แต่...”
หงเหม่ยหลงยังคงเป็นกังวล เพราะสถานที่ ที่หลี่ซื่อหมินจะไปครานี้ เป็นพื้นที่คาบเกี่ยวกับอาณาเขตของสำนักหมื่นโลกันต์
หงซือกวนบิดาของนางอาจจะปรากฎตัวออกมาก็เป็นได้
“ตอนนี้...เจ้ามีสิ่งที่ต้องห่วงมากกว่านะ หลงเอ๋อร์” หลี่ซื่อหมินกล่าวอย่างรู้ทันสตรีตรงหน้า พลางเลื่อนสายตามองต่ำลงมาที่หน้าท้องของหญิงสาวก่อนเอ่ย “บิดาของเจ้า คงไม่อยากให้หลานเป็นกำพร้าหรอกกระมัง”
หงเหม่ยหลงยกมือขึ้นจับเบาๆที่หน้าท้องกลมนูนของตนเอง กล่าวพึมพำ “หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น...”
“ย่อมเป็นเช่นนั้น” จบคำหลี่ซื่อหมินเพียงก้มลงจูบอย่างอ่อนโยนที่ริมฝีปากนาง
ซักพักชายหนุ่มค่อยๆถอนริมฝีปากแดงสดออกจากริมฝีปากอิ่มนุ่มของหงเหม่ยหลง เห็นหญิงสาวยังคงจับตานิ่งที่เขาอยู่อย่างอาลัยอาวรณ์ทั้งยังสื่อความห่วงใยมากมายจากสายตาคมเฉี่ยวคู่งาม เขาจึงก้มลงจูบนางอีกครั้งอย่างอ้อยอิ่ง เนิ่นนาน
นางกำลังทำให้เขาไม่อยากจากนางไปที่ใดจริงๆ
คณะเดินทางของหลี่ซื่อหมินออกไปจากวังเป็นเวลานานแล้ว หงเหม่ยหลงยังคงยืนอยู่ที่เดิม มองไปทางเดิมที่หลี่ซื่อหมิน เคลื่อนตัวออกไป ขณะที่มือเรียวเล็กของนางยังคงลูบเบาๆอยู่บริเวณหน้าท้องของตน
ตอนนี้ครรภ์ของหญิงสาวนูนเด่นออกมาอย่างเห็นได้ชัดแล้ว หลังจากวันที่เสี่ยวอิงและเสี่ยวซิงเป็นธุระจัดการให้นาง
เมื่อนับเวลาดูก็เข้าเดือนที่ห้าพอดิบพอดี หมอเทวดาท่านนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ โอสถของเขายิ่งไม่ธรรมดา
หลังจากค่ำคืนอันร้อนแรงคืนนั้นและอีกหลายคืนต่อมาเวลาผ่านไปเพียงเดือนเศษ หงเหม่ยหลงก็เริ่มมีอาการผิดปกติจนหลี่ซื่อหมินต้องเชิญหมอหลวงมาตรวจร่างกายของนางเสียวุ่นวายยกใหญ่ จนรู้แจ้งแล้วว่านางได้ตั้งครรภ์
หลังจากนั้น นางก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปที่ใดอีกเลย แม้แต่ไปเดินตลาด หลี่ซื่อหมินก็ไม่ให้นางได้ย่างกรายไป
การรักษาความปลอดภัยทั้งภายในและภายนอกวังเพิ่มขึ้นมากกว่าแต่ก่อนอยู่หลายส่วน มากกว่าตอนที่หลี่ซื่อหมินยังไม่ได้เป็นองค์รัชทายาทเสียอีก
และเมื่อข่าวการตั้งครรภ์ของหงเหม่ยหลงแพร่ไปถึงวังหลวง มีผลทำให้ฮองเฮาทรงโกรธเคืองหยางเจียนเป็นอย่างมากที่ทำให้ผิดหวัง
ทำให้หยางเจียนยิ่งเกลียดหงเหม่ยหลงเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว ผิดกับเว่ยฟางที่ทำตัวเงียบเชียบผิดปกติ
ส่วนฮ่องเต้กลับมิได้มีกระแสรับสั่งอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับทายาทของหลี่ซื่อหมิน เพียงแต่หลี่ซื่อหมินจะต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อปรับสมดุลของอำนาจทางการเมืองที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
การเดินทางครั้งนี้ของหลี่ซื่อหมินเกี่ยวข้องกับการเจรจาต่อรองระหว่างเขตแดนของแคว้นสองแคว้นที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกัน
การเจรจาเรื่องเขตแดนหงเหม่ยหลงไม่นึกห่วงแต่อย่างใด
แต่สิ่งที่หงเหม่ยหลงนึกกังวล คือบิดาของนาง
หงซือกวนย่อมรู้แล้วว่านางอยู่ที่ใด แต่ที่ไม่ส่งคนมารังควานคงเพราะเรื่องที่นางกำลังตั้งครรภ์
แต่ปัญหาระหว่างชายแดนที่เป็นสาเหตุให้หลี่ซื่อหมิน ต้องไปจัดการเจรจาในครั้งนี้นั้น หงเหม่ยหลงคาดเดาว่าแท้จริงแล้วอาจเกิดจากแผนการของหงซือกวน
บิดาของนางกำลังอยากเจอกับหลี่ซื่อหมิน!
หญิงสาวยังคงลูบคลำอยู่ที่หน้าท้องของตนอย่างเบามือ คล้ายกับว่าต้องการขอกำลังใจจากทารกในครรภ์
ฝ่ายหนึ่งคือบิดาที่รักและเคารพ ฝ่ายหนึ่งคือชายอันเป็นที่รักดั่งดวงใจ
นางทำได้เพียงขอกำลังใจจากเด็กน้อยในร่างกายของนางเอง...
“เจ้าอย่าได้ห่วงจนเกินไป” เสียงของหลิวฉวนหยู่ร์ดังขึ้นเนิบๆอยู่ข้างๆหงเหม่ยหลง
“อืม...” หงเหม่ยหลงก้มหน้าน้อยๆขณะตอบคำของหลิวฉวนหยู่ร์
ทั้งสองสตรีเพียงยืนอยู่นิ่งๆไม่ต่อคำใด ด้วยเพราะว่าเข้าใจกันและกันเพียงแค่มองตา
การเจรจาระหว่างแคว้นผ่านไปได้ด้วยดีตามที่หลี่ซื่อ หมินได้คาดการณ์เอาไว้ การจัดสรรปันส่วนเป็นไปตามความต้องการของแต่ละฝ่าย ทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกันเป็นอย่างดี
การต่อรองเรื่องหนึ่งจบสิ้นลง
ขณะนี้หลี่ซื่อหมินกำลังรอการเจรจาต่อรองเรื่องสำคัญเรื่องใหม่อยู่ภายในห้องพักห้องหนึ่งของโรงเตี๊ยมขนาดใหญ่
“องค์ชาย” เสียงซือเว่ยดังขึ้น “เขามาแล้ว”
จบคำของซือเว่ย ร่างสูงโปร่งงามสง่าของหลี่ซื่อหมิน เพียงลุกขึ้นยืนรอรับบุคคลผู้มาใหม่ ที่กำลังเดินเข้ามาในห้องพักของเขาขณะนี้
บุรุษร่างใหญ่กำยำผู้หนึ่งเดินเข้ามาด้วยท่าทางสุขุม สีหน้าเคร่งขรึม เมื่อเข้ามายืนอยู่ตรงด้านหน้าของหลี่ซื่อหมิน เขาเพียงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มใหญ่ว่า “เชิญท่าน...ตามข้ามา”
ซุนตี้ สมุนคนสนิทของหงซือกวนกล่าวพลางมองสำรวจบุคคลที่อยู่ตรงหน้าของเขาเงียบๆ
บุรุษหนุ่มที่อยู่ต่อหน้าเขานั้น แม้จะอยู่ในชุดธรรมดา มิได้ใส่อาภรณ์หรูหรา แต่รัศมีของผู้สูงศักดิ์กลับแสดงออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยม ใบหน้างดงามปานเทพเซียน แม้เป็นชายด้วยกันยังอดชื่นชมมิได้ เมื่อมองเทียบกันกับหงซือกวน ราวกับเป็นด้านสว่างกับด้านมืด อย่างเห็นได้ชัด
หลี่ซื่อหมินเพียงเดินตามร่างใหญ่ของบุรุษผู้นั้นด้วยท่วงท่าปกติ สีหน้าเรียบนิ่ง มิได้หวั่นเกรงใดๆ โดยมีซือเว่ยเดินตามมาด้วยเพียงคนเดียว
เมื่อมาถึงห้องใหญ่อีกห้องหนึ่ง บุรุษร่างใหญ่เพียงรั้งซือเว่ยเอาไว้ให้อยู่ด้านนอกกับตน มีเพียงหลี่ซื่อหมินที่ได้รับอนุญาตเข้าไปด้านในห้องนั้นแค่คนเดียว
“ข้าซือเว่ย” ซือเว่ยกล่าวแนะนำตนเอง ขณะยืนอยู่หน้าห้องกับบุรุษร่างใหญ่คนนั้น
ซุนตี้ปรายตามองมาทางซือเว่ยก่อนกล่าวนิ่งๆ “เรียกข้าว่าซุนตี้...”
ซือเว่ยก้มหน้าน้อยๆเป็นเชิงรับคำ นี่แค่สมุนยังน่ากลัวถึงเพียงนี้
แล้วผู้เป็นหัวหน้าเล่า...
เขาคิดในใจนึกหวาดหวั่นแทนองค์ชายของตน
ภายในห้องที่หลี่ซื่อหมินเดินเข้ามา ปรากฎบุรุษรูปร่างสูงใหญ่ ท่าทางน่าเกรงขาม แผ่กลิ่นอายทรงอำนาจทรงพลังอยู่เหนือทุกผู้คน
แม้ชายหนุ่มจะมองเห็นแค่เพียงด้านหลัง แต่กลิ่นอายของความดุดันเหี้ยมเกรียมกลับฉายชัดออกมาได้อย่างเข้มข้นจนน่ากลัว
บุรุษที่ยืนหันหลังให้หลี่ซื่อหมินอยู่ เพียงชำเลืองมองมาทางหลี่ซื่อหมินนิ่งๆ มิได้กล่าววาจาใดๆ ก่อนหันหน้ากลับไปมองด้านนอกของหน้าต่างบานหนึ่งดังเดิม
หลี่ซื่อหมินไม่แปลกใจกับแววตานั่นของบุรุษผู้นี้
มันเป็นแววตาเดียวกับหงเหม่ยหลง
แม้บุรุษผู้นี้จะมิได้แนะนำตัว แต่เพียงแค่เขามองแววตานั่นเขาก็รู้ได้ในทันทีว่าบุรุษตรงหน้าของเขาขณะนี้คือใคร
หลี่ซื่อหมินเพียงเดินไปหยุดยืนอยู่ทางด้านข้างของบุรุษผู้นี้นิ่งๆ
เขายังคงยืนเคียงข้างหงซือกวนเนิ่นนานไร้วาจาเช่นกัน
ทั้งสองเพียงยืนเคียงข้างกันไม่เอื้อนเอ่ยคำใด
ความสงบเยือกเย็นปกคลุมอยู่รอบรายตัวของพวกเขาทั้งสองอยู่อึดใจใหญ่
“ข้ารักธิดาของท่าน จากใจจริง” หลี่ซื่อหมินเลือกที่จะเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน ด้วยอีกฝ่ายสูงวัยกว่าและเป็นถึงบิดาของสตรีอันเป็นที่รักของเขา
หงซือกวนเพียงยืนฟังนิ่งๆ ท่าทางเย็นชา ไร้เสียงตอบรับใดๆ
“ข้าอยากดูแลนางตลอดไป” ชายหนุ่มยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติ ทว่ามั่นคง ไม่มีความหวาดหวั่นใดๆออกมาให้ได้เห็น
หงซือกวนเพียงปรายหางตามาทางหลี่ซื่อหมิน
ชายหนุ่มมองสบสายตาของหงซือกวนนิ่งๆ
“ข้าไม่แปลกใจ ว่าทำไมหลงเอ๋อร์จึงปักใจรักเพียงเจ้า” เสียงทุ้มต่ำแต่ทรงพลังของหงซือกวนเอ่ยขึ้น
แม้น้ำเสียงจะปกติ แต่แววตากลับดุดันอยู่หลายส่วนจนหลี่ซื่อหมินรู้สึกได้
หงซือกวนนั้นยังนึกเคืองบุรุษรูปงามผู้นี้อยู่หลายส่วนนัก ที่บังอาจทำให้บุตรสาวของเขาต้องอยู่อย่างสตรีไร้ฐานันดร แต่เขาเองก็ต้องยอมรับ ว่าหงเหม่ยหลงเลือกคนไม่ผิด
“ข้ามีสองทางให้เลือก” หงซือกวนเอ่ยขึ้นขณะหันหน้าออกไปที่บานหน้าต่างดังเดิม
“มาเป็นประมุขคนต่อไปของสำนักหมื่นโลกันต์ หรือส่งตัวหลงเอ๋อร์กลับมา”
หลี่ซื่อหมินได้ฟังถึงกับชะงัก
“ในภายภาคหน้า” หงซือกวนยังคงเอ่ยต่อด้วยสีหน้าเยือกเย็น
“แม้เจ้าจะเป็นองค์จักรพรรดิ หลงเอ๋อร์จะเป็นฮองเฮา ข้าก็ยังมีแค่สองทางเลือกนี้ให้แก่เจ้า...”
*********
รุ่นพ่อ คลิก>>> จอมใจจอมมาร
**********************
|
|
|
|
ความคิดเห็น