คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #46 : ตอนที่๔๒ ความอดทน
ตอนที่๔๒ ความอดทน
ในตลาดด้านนอกของวังหลี่ซื่อหมินขณะนี้ หนาแน่นไปด้วยผู้คนตลอดตามแนวทางเดินที่หงเหม่ยหลงเดินผ่าน
วันนี้หงเหม่ยหลงได้ออกมาเดินชมตลาดตามคำชวนแบบแอบกระซิบกระซาบของสาวน้อยเสี่ยวอิง
ซึ่งเดิมทีนั้น หงเหม่ยหลงจำเสี่ยวอิงไม่ได้จริงๆ แต่เสี่ยวอิงนั้นแสดงออกชัดเจนว่าค่อนข้างสนิทสนมกับหงเหม่ยหลงอยู่ไม่น้อย
ทั้งยังเล่าเรื่องราวในอดีตเมื่อสามปีก่อนให้หงเหม่ยหลงฟังอย่างเจื้อยแจ้วเป็นธรรมชาติตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ทำให้หงเหม่ยหลงนึกชมชอบเสี่ยวอิงขึ้นมาหลายส่วน
นอกจากเสี่ยวอิงแล้วยังมีเสี่ยวซิงซึ่งเป็นมารดาของเสี่ยวอิงมาด้วยอีกหนึ่งคน รวมเป็นสามคนที่กำลังเดินด้วยกันในตลาดขณะนี้
เดิมทีหงเหม่ยหลงยังไม่เข้าใจว่าเสี่ยวอิงจะกระซิบกระซาบคล้ายกับว่าเป็นความลับระหว่างแคว้นให้มาเดินตลาดด้วยกันทำไม แต่เมื่อมาถึงยังจุดหมายปลายทาง ความจริงเป็นที่ประจักษ์ หงเหม่ยหลงถึงกับถลึงตาโตหน้าแดง
“ไม่ต้องอายเจ้าค่ะ” เสี่ยวอิงยังคงกระซิบกระซาบเสียงใสเกินอายุ “ข้าน้อยรู้มาว่าองค์รัชทายาทได้รับคำสั่งให้ผลิตทายาท ข้าน้อยอยู่ฝ่ายชายาเหม่ยหลงนะเจ้าคะ”
เสี่ยวอิงได้ยินข่าวลือเรื่องนี้มาจากสาวใช้คนสนิทขององค์หญิงเว่ยฟาง ดังนั้นจึงไปบอกต่อมารดาของตนให้ช่วยกันเป็นธุระจัดการเพื่อหงเหม่ยหลง
สาวน้อยไม่ยอมให้องค์หญิงเว่ยฟางสมหวังแน่นอน
ขณะนี้ทั้งสามนางกำลังยืนอยู่ในร้านขายโอสถแห่งหนึ่ง สิ่งที่เสี่ยวซิงเป็นธุระจัดการให้คือพาหงเหม่ยหลงมาให้หมอประจำร้านตรวจชีพจร
ซึ่งหมอคนนี้เป็นถึงหมอเทวดาตามคำเล่าขานของชาวบ้านทั้งหลาย ไม่ว่าใครที่มีบุตรยากขนาดไหนถ้าเจอหมอเทวดาและโอสถของเขา รับรองว่า ได้บุตรกันถ้วนหน้าทุกผู้คน
หมอเทวดาท่านนี้เก่งกาจหาตัวจับยากยิ่งกว่าหมอหลวงประจำวังเสียอีก
เมื่อตรวจจับชีพจรของหงเหม่ยหลงเสร็จสรรพ หมอท่านนี้จึงจัดยาชุดใหญ่ให้หงเหม่ยหลง มีทั้งยาบำรุงร่างกายหอบใหญ่และยาสร้างอารมณ์ระหว่างทำกิจกรรมห่อเล็กห่อน้อย ทำเอาหงเหม่ยหลงถึงกับยืนตะลึงทำตาปริบๆ
เมื่อเสร็จจากร้านหมอเทวดา ทั้งสองแม่ลูกก็พาหงเหม่ยหลงมายังร้านขายเสื้อผ้าในทันที
เสื้อผ้าอาภรณ์ที่เจ้าของร้านนำมาให้หงเหม่ยหลงเลือกตามโจทย์ที่สองแม่ลูกให้ไป มีแต่ชุดที่หงเหม่ยหลงคิดว่า จะใส่หรือไม่ใส่ก็มีค่าเท่ากัน หญิงสาวจึงไม่ตอบรับ แต่เมื่อถูกสองแม่ลูกรวมทั้งเจ้าของร้านส่งสายตาอ้อนวอนเชิงกดดันมาให้ หงเหม่ยหลงจึงทำท่าคิดหนัก
อืม... ลองใส่ดูก็คงไม่เสียหายกระมัง
หลายวันมานี้หลี่ซื่อหมินดูจะผิดปกติวิสัยเสียด้วย
หลายวันมาแล้ว หลังจากที่หลี่ซื่อหมินเสร็จจากงานราชกิจจากท้องพระโรงในราชวังและต่อด้วยงานราชกิจกับฮ่องเต้ก็มืดค่ำ เมื่อมาถึงก็เพียงแต่นอนกอดนาง มิได้ทำสิ่งใด...
“ว่าอย่างไรเจ้าคะ” เสียงเสี่ยวอิงดังขึ้น
“จัดมาเลยเจ้าค่ะ” เสียงเสี่ยวซิงสั่งเจ้าของร้านโดยไม่รอคำตอบของหงเหม่ยหลง...
เมื่อค่ำคืนแห่งรัติกาลมาเยือน โอสถทั้งหลายและชุดยั่วยวนสวยงาม จึงถูกจัดเตรียมอย่างพร้อมเพรียง โดยเสี่ยวซิงและเสี่ยวอิง
ทั้งสองยืนมองหงเหม่ยหลงดื่มกินโอสถจนหมดทุกชนิดด้วยสายตาออดอ้อนเชิงกดดัน ทั้งยังบรรจงช่วยกันแต่งองค์ทรงเครื่องให้หงเหม่ยหลงเป็นอย่างดี
ยามนี้หงเหม่ยหลงนั้นกำลังอยู่ในอาภรณ์สวยงามชนิดที่ว่า บุรุษคนใดได้เห็นเป็นต้องเกิดอาการกำหนัดขั้นรุนแรง
ทันใดนั้นประตูห้องพลันถูกเปิดออก
ทั้งสามหันไปตามเสียงประตู เห็นเป็นหลี่ซื่อหมินกำลังเดินเข้ามา
เสี่ยวซิงและเสี่ยวอิงจึงรีบหมุนตัวออกไปในทันที
ปล่อยหงเหม่ยหลงยืนนิ่งอยู่กับที่ นางหลบไม่ทัน...
หลี่ซื่อหมินมองหงเหม่ยหลง อย่างตกตะลึง
นางกำลังทำอะไร?
เขาพยายามแล้วที่จะสะกดกลั้นมันเอาไว้
แล้วดูนางทำ!
หลี่ซื่อหมินยืนมองหงเหม่ยหลงเพียงครู่เดียว ก่อนจะเดินเลี่ยงเข้าห้องอาบน้ำไป
หงเหม่ยหลงมองตามหลี่ซื่อหมินอย่างฉงน
เขาเป็นอะไร?
ทำไม?
ท่าทางเย็นชานั่น...
สักพักหงเหม่ยหลงรู้สึกเวียนหัว และเริ่มมีอาการแปลกๆอย่างประหลาด สงสัยว่ายาที่กินเข้าไปจะเริ่มออกฤทธิ์
หญิงสาวรู้สึกร้อนเห่อขึ้นมา เหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามใบหน้า มือไม้เริ่มสั่นเล็กน้อย
นางยืนรอหลี่ซื่อหมินอยู่
นางยืนรอหลี่ซื่อหมินของนาง
ภายในห้องอาบน้ำซึ่งอยู่ถัดออกมาจากห้องนอนไม่ไกลกันนั้น หลี่ซื่อหมินยังคงนั่งแช่น้ำอุ่นอยู่ในอ่างอาบน้ำอย่างใจเย็น
เขาจะแช่น้ำอยู่อย่างนี้ เขาจะรอให้หงเหม่ยหลงนอนหลับเสียก่อนเหมือนดั่งเช่นทุกคืนที่ผ่านมา
เขาคิดเอาไว้แล้ว ตามคำบอกกล่าวของซือเว่ย
ภรรยาทั้งเจ็ดของซือเว่ยกำลังทยอยกันตั้งครรภ์ ตามเคล็ดลับประจำตระกูลของซือเว่ย ที่บอกให้อดทน การงดกิจกรรมเอาไว้ให้ครบเก้าคืน
เก้าคืน...
คืนนี้กำลังเข้าคืนที่หก...
อีกสามคืนเท่านั้น
อดทนไว้
ต้องอดทน...
หลังจากเก้าคืนอันทรมานนี้ เขาอาจจะมีข่าวดีในเร็ววัน
ถึงแม้ว่าเสด็จพ่อของเขา จะทรงต้องการให้เขาเข้าหอกับชายาสองนางนั่น เพื่อสร้างทายาทกับพวกนาง
แต่เขาก็หาได้สนใจไม่
เขาต้องการสร้างทายาทกับหงเหม่ยหลงเพียงคนเดียวเท่านั้น
อำนาจของฝ่ายต่างๆ ก็ใช่ว่าเขาจะไม่มี การสร้างอำนาจมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา
สิ่งที่ยากสำหรับเขาคือ เขาต้องการผูกมัดหงเหม่ยหลงเอาไว้ เผื่อว่าวันข้างหน้า ฝ่ายอิทธิพลมืดจะมาพาตัวนางกลับไป
อย่างน้อย ถ้าหากว่านางมีทายาทกับเขา การต่อรองกับบิดาของนาง อาจจะเป็นไปได้ด้วยดี
หลี่ซื่อหมินนั่งหลับตาข่มอารมณ์กับภาพที่เห็นหงเหม่ยหลงเมื่อครู่ ขณะนั่งแช่น้ำอุ่นอยู่อย่างนั้น...
โอย...
หลี่ซื่อหมินทำอะไรอยู่
ทำไมไม่ออกมาเสียที
นางเริ่มทนไม่ไหวแล้ว...
หงเหม่ยหลงยังคงยืนอดทนกับอาการที่เกิดจากฤทธิ์ของโอสถเหล่านั้น
ค่ำคืนอันทรมานของทั้งสองกำลังดำเนินไปอย่างเชื่องช้า
ค่ำคืนนี้ เวลาเหมือนหยุดอยู่กับที่
เปลวไฟบนเชิงเทียนยังคงสั่นไหวเบาๆ
ค่ำคืนแห่งรัติกาลยังคงปกคลุมอยู่โดยรอบ
ภายในห้องส่วนตัวแห่งนี้คล้ายกับว่าไม่มีผู้ใดอยู่ภายใน
หงเหม่ยหลงรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว นางต้องทำอะไรซักอย่าง
อย่างแรก... นางต้องค่อยๆถอดอาภรณ์ชุดนี้ออกก่อน
ก่อนที่นางจะฉีกมันแทน...
เวลาต่อมา... หลี่ซื่อหมินแช่น้ำอุ่นจนพอใจ จึงเดินออกจากห้องอาบน้ำมา
เขาเห็นหงเหม่ยหลงยังคงยืนอยู่ที่เดิม นางกำลังทำท่าทางอย่างใช้ความพยายามในการถอดอาภรณ์ที่ใส่อยู่อย่างยากลำบาก
นางคล้ายกับกำลังทรมานกับอะไรซักอย่าง
“หลงเอ๋อร์...” เสียงทุ้มต่ำของหลี่ซื่อหมินเอ่ยเรียก
“เจ้าเป็นอะไร” เขาถามขึ้นอย่างห่วงใย
หงเหม่ยหลงที่กำลังพยายามดึงชุดออกจากตัวถึงกับชะงักกึก
นางจะบอกเขาได้อย่างไร
นางต้องการร่วมรักกับเขา
ตอนนี้
เดี๋ยวนี้
แม้จะเป็นสามีภรรยากันแล้ว
แต่จะให้บอกตรงๆ...
หงเหม่ยหลงยืนนิ่ง เหงื่อซึมอยู่ทั่วตัว
นางเพียงค่อยๆหันไปมองหลี่ซื่อหมินด้วยสีหน้าที่ยากเกินจะเก็บอาการ
หลี่ซื่อหมินยืนตะลึงมองหงเหม่ยหลงด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก
ชุดที่หงเหม่ยหลงใส่ช่างงดงามบาดตา ใบหน้านวลเนียนขึ้นริ้วอมชมพูระเรื่อ ริมฝีปากแดงสดกัดเม้มน้อยๆ แววตายั่วยวนเว้าวอน
นั่นนางกำลังทำอะไร!?
จะทำให้เขาคลั่งหรืออย่างไร
“หลงเอ๋อร์...” หลี่ซื่อหมินเรียกนางเสียงต่ำเริ่มแหบพร่า อารมณ์บางอย่างยากเกินควบคุม
เขาจะทนได้อย่างไร ในเมื่อนางมารน้อยของเขา ร้ายกาจถึงเพียงนี้
อีกสามคืนหรือ มันนานเกินไป...
หงเหม่ยหลงเหม่อมองใบหน้าของหลี่ซื่อหมิน ในขณะที่มือเรียวเล็กของตนกำลังพยายามปลดอาภรณ์ออกจากร่างงาม
แต่มัน...ถอดไม่ออก
ทำไมมันถอดยากอย่างนี้
หญิงสาวทำได้เพียงลูบไล้ฝ่ามือไปทั่วเรือนร่าง ดึงผ้ามุมนั้นที มุมนี้ที อย่างยากลำบาก ผ้าบางเบาชิ้นนี้กำลังแนบสนิทอยู่ตามลำตัวที่โค้งเว้างามงอนด้วยเหงื่อที่เปียกชื้น
มือเรียวเล็กของนาง เลื่อนผ่านเนินอก ผ่านช่วงเอว ผ่านช่วงล่างสลับกับช่วงบนไปมา
เหงื่อยังคงไหลซึมอยู่ทั่วลำตัว นางร้อน...ร้อนเหลือเกิน...
หลี่ซื่อหมินยืนนิ่ง จ้องมองหงเหม่ยหลงอยู่อย่างอดทน
เหงื่อเริ่มซึม ใจเต้นแรง
เขามองตามมือเรียวงามของนางที่ลูบไล้ไปตามส่วนต่างๆทั่วทั้งเรือนร่างงามระหง ทุกสัดส่วนของนางช่างเย้ายวน
เรือนร่างสวยงามนั่นถูกปกปิดด้วยผ้าบางเบา จนเขานึกอยากฉีกมัน
“ซือ...หมิน...” เสียงกระเส่าถูกปล่อยออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มได้รูปของหงเหม่ยหลง
เสียงนั้น
ทำใครบางคนสติหลุดทันที
ความอดทนของหลี่ซื่อหมินมาถึงขีดสุด
เขาทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
ไม่ทนแล้ว
มานี่เลย
เขาคิดพร้อมกับเดินเข้าไปดึงร่างบางยกขึ้นแล้วจับกดลงบนโต๊ะใกล้ตัว ผ้าบางเบาบนตัวของหญิงสาว ถูกชายหนุ่มฉีกทึ้งในทันที
หงเหม่ยหลงที่กำลังอดทนอยู่กับอารมณ์ร้อนรุ่ม รีบตอบสนองเขาอย่างร้อนรน ริมฝีปากอุ่นจัดของนางเข้าควบคุมริมฝีปากของเขาในทันทีที่เขาเคลื่อนใบหน้าเข้ามา
ชายหนุ่มหญิงสาวประกบปากจูบกันอย่างแนบแน่นหนักหน่วงเร่าร้อน มือไม้ของคนทั้งสองต่างพยายามถอดสิ่งขวางกั้นนวลเนื้อของกันและกันอย่างร้อนรน
เสียงครางทุ้มต่ำถูกปลดปล่อยออกมาจากลำคอของหลี่ซื่อหมิน เมื่อหงเหม่ยหลงกระตุกสาบเสื้อคลุมของเขาออกอย่างรวดเร็วแล้วใช้ฝ่ามือเรียวเล็กลูบไล้เค้นคลึงไปมาทั่วแผงอกบึกบึนอย่างยั่วเย้าเชิญชวนก่อนจะเอื้อมขึ้นไปโอบรอบต้นคอของหลี่ซื่อหมินเอาไว้แน่นเพื่อโน้มร่างกำยำของเขาให้เคลื่อนเข้ามาอย่างต้องการเติมเต็มสนองตอบอารมณ์พลุ่งพล่าน
ชายหนุ่มประคองกอดร่างบางเอาไว้ให้อยู่บนโต๊ะเล็กตัวเดิม ขณะที่ริมฝีปากยังคงพรมจูบนางไปทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ
เสื้อผ้าอาภรณ์ของคนทั้งสองไม่มีแม้แต่เวลาได้ร่วงหล่นสู่พื้นห้อง ร่างร้อนกรุ่นของพวกเขาพลันแทรกแซงเบียดเสียดเข้าหากันและกัน
หญิงสาวกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโต๊ะตัวนั้น สองแขนของนางโอบรอบลำคอของชายหนุ่มเอาไว้แน่นคล้ายกับเกรงว่าเขาจะผละออกไปก่อนเวลาอันควร
“โอว....” หงเหม่ยหลงส่งเสียงครางครวญออกมาเมื่อริมฝีปากร้อนระอุของหลี่ซื่อหมินค่อยๆเลื่อนลงไปตามส่วนต่างๆบนเรือนร่างของนาง
“ซือ...หมิน...” หญิงสาวกระซิบเรียกเขาเสียงเบาแผ่ว “ไม่ไหวแล้ว....”
หลี่ซื่อหมินเลื่อนริมฝีปากไต่ขึ้นมาจากด้านล่างของเรือนร่างนวลเนียน พลางกระซิบ “ข้าเอง....ก็ไม่ไหวเช่นกัน...”
ชายหนุ่มเอ่ยพลางฉีกทึ้งผ้าชั้นในบางเบาของหญิงสาวออกอย่างไม่ไยดี แล้วจับกระชับยกสะโพกกลมกลึงของนางให้แอ่นเข้าหาร่างกำยำของเขา
หลี่ซื่อหมินเริ่มต้นจังหวะเข้าถาโถมร่างงามบนโต๊ะตัวนั้นอย่างไม่ยินยอมให้เสียเวลาเคลื่อนกายไปทางใด
หงเหม่ยหลงรีบสนองตอบจังหวะตามร่างกำยำของหลี่ซื่อหมินเป็นอย่างดี
“ซื่อหมิน...อา..” เสียงกระเส่าอย่างร้อนรุ่มพร้อมด้วยวงแขนเรียวขาวของหญิงสาวโอบรัดโรมรันพันเกี่ยวชายหนุ่มเอาไว้อย่างแนบแน่น
“หลงเอ๋อร์...อา...เจ้า...” หลี่ซื่อหมินรีบโอบกระชับร่างงามเพื่อตอบสนองให้นางอย่างไม่รีรอ
ทั้งสองตอบสนองกันและกันอย่างร้อนแรงอยู่บนโต๊ะตัวนั้น...
เสียงของโต๊ะที่โยกกระทบกับกำแพงห้องผสมผสานเสียงลมหายใจหอบหนักกระชั้นถี่เป่ารดกันและกันของชายหนุ่มหญิงสาวดังตลบอบอวลอื้ออึง
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่
จากบนโต๊ะพลันเปลี่ยนมาเป็นเตียงนอนหนานุ่ม
ชายหนุ่มหญิงสาวยังคงหอบเหนื่อยกันอยู่บนเตียงอุ่น
บรรยากาศภายในห้องนอนของพวกเขายังคงตลบอบอวลไปด้วยกระแสบางอย่างไม่จืดจาง
รอบแรกผ่านไป... เพียงอึดใจรอบสองพลันตามมา...
“หลงเอ๋อร์...” เสียงแหบพร่าของหลี่ซื่อหมินยังคงเรียกชื่อของหงเหม่ยหลงอยู่อย่างสุดจะทนกับอารมณ์พลุ่งพล่านที่ค่ำคืนนี้สตรีอันเป็นที่รักของเขากำลังกระตุ้นเขาได้อย่างน่าชื่นชม
“ข้า...ต้องการ...ท่าน...ซื่อ...หมิน” เสียงกระเส่าของหงเหม่ยหลงยังคงเอื้อนเอ่ยขณะแอ่นอกยกกายให้เรือนร่างนุ่มนิ่มเบียดเสียดเข้าหาเรือนร่างแข็งแกร่งของหลี่ซื่อหมินอย่างต้องการเติมเต็มความสุขสมด้วยอารมณ์เว้าวอน
ร่างสองร่างที่บัดนี้ถูกฉีกอาภรณ์ออกไปจนไม่เหลือแม้แต่เศษผ้ายังคงเสียดสีกันอยู่ด้วยจังหวะอันแสนหฤหรรษ์พร้อมเสียงครวญครางสุดแสนจะรัญจวน
แม้เวลาจะล่วงเลย
แม้แสงไฟจากเชิงเทียนจะมอดดับ
แต่เปลวเพลิงแห่งอารมณ์ปรารถนายังคงโหมกระหน่ำ
อีกทั้งยังคงรุนแรงคล้ายเปลวเพลิงบรรลัยกัลป์
“ซื่อ...หมิน...อา” หงเหม่ยหลงยังคงเรียกร้องหลี่ซื่อหมิน
“อา...หลงเอ๋อร์...เจ้า...” หลี่ซื่อหมินยังคงเต็มเติม
ทั้งสองร่างเปลือยเปล่ายังคงผลัดกันรุกผลัดกันรับ คลอเคลียนัวเนียโรมรันกันและกันอย่างโหยหาอยู่จนตลอดทั้งคืน
ในค่ำคืนเดียวกันนี้ยังคงมีอีกตำหนักหนึ่งที่กำลังมีอีกอารมณ์หนึ่งที่แตกต่าง
“เจ้าแน่ใจนะ ว่ายาบำรุงกับฤกษ์งามยามดี ได้ถึงมือองค์รัชทายาทแล้ว” เสียงเว่ยฟางบ่นพึมพำกับนางกำนัลคนสนิท อยู่ในตำหนักของตน
“ถึง...ถึงแล้วเพคะ” เสียงนางกำนัลตอบกลับไปอย่างหวั่นเกรงจะถูกตำหนิ
เว่ยฟางชำเลืองมองนางกำนัล ก่อนเอ่ยเสียงดังขึ้น “นั่นเป็นฤกษ์งามยามดีตามคำสั่งของฮ่องเต้ให้มาเลยนะ”
“เพ...เพคะ” เสียงนางกำนัลเบาลง
“ตามฤกษ์แล้วคือคืนนี้” เว่ยฟางยังคงบ่นต่อเนื่อง
“องค์รัชทายาทกล้าขัดคำสั่งฮ่องเต้ได้อย่างไร หา!”
นางกำนัลตัวสั่นเทาก้มหน้าหลุบตาลงแนบกับพื้น ขณะคิดในใจ
ใครจะกล้าบอกเล่า ว่าองค์รัชทายาทไม่แม้แต่จะปรายตามอง... เฮ่อ!
*********
รุ่นพ่อ คลิก>>> จอมใจจอมมาร
**********************
|
|
|
|
ความคิดเห็น