คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ( u n f o r t u n a t e l y ) ; chapter 1 || markbam. 100%
{ markbam }
- c h a p t e r 1 –
“เธอเรียนที่นี้ต่อไปไม่ได้แล้วล่ะภูวกุล”
เด็กหนุ่มร่างเล็กขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัย เสียงเล็กเอ่ยถามครูฝ่ายทะเบียนอย่างไม่เข้าใจ
“ทำไมถึงเรียนต่อไม่ได้ล่ะครับ ผมถูกไล่ออกหรอ? ผมไม่ได้ทำเรื่องเสียหายอะไร แล้วผมก็ไม่ได้ค้างค่าใช้จ่ายอะไรกับทางโรงเรียนด้วยนะครับคุณครู”
ถามออกไปด้วยความสงสัย ครูสาวฝ่ายทะเบียนยกมือเรียวลูบใบหน้าของตัวเองอยู่เล็กน้อย สีหน้าเหน็กเหนื่อยราวกับไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตอบคำถามให้แบมแบมอย่างไร
แบมแบมก็แค่ต้องการเหตุผล ..เขาเพียงแค่สงสัยว่าทำไมเขาถึงเรียนที่นี้ไม่ได้ แล้วถ้าหากเขาโดนไล่ออก อย่างน้อยๆ ทางโรงเรียนก็ต้องเรียกตัวมาแจ้งให้เขารู้และเตรียมหาที่เรียนใหม่
แต่นี้มันกะทันหันเกินไป...
โดนไล่ออกทั้งๆที่อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะสอบปลายภาค.. จะมีโรงเรียนที่ไหนรับนักเรียนที่เขามาเรียนกลางคันแบบเขากันล่ะ?
“ฟังนะภูวกุล เธอไม่ได้โดนไล่ออก แต่เธอถูกย้ายไปเรียนที่อื่นแล้ว”
“ย้าย? ย้ายไปไหนครับ? ผมไม่ได้ขอย้ายนะครับ”
ครูสาวหมุนปากกาในมือเล่น น้ำเสียงหวานแต่เข้มอยู่ในทีกล่าวอธิบายออกมาอย่างช้าๆ ชัดๆ “ครูไม่แน่ใจหรอกว่าเธอย้ายได้ยังไง แต่เมื่อเช้านี้ ผอ.ยื่นซองเอกสารนี้มาให้ครู หลักฐานการย้ายที่เรียนของเธอมันครบไปทุกอย่าง ครูทำอะไรไม่ได้นอกจากดำเนินการให้เรียบร้อย”
“แต่เรียนที่นี้ผมก็มีความสุขดีนะครับครู” แบมแบมแย้งอีกฝ่าย ครูสาวยิ้มน้อยๆ
“ครูว่าเธอย้ายไปเรียนที่มัธยมจินยองก็ดีนะ ถ้าเธอไปเรียนที่นั่น เด็กเก่งๆอย่างเธอคงไปได้ไกลเชียวล่ะ อีกอย่าง ทางจินยองก็จะดูแลเธอในเรื่องของทุนการศึกษาและค่าใช้จ่ายอื่นๆด้วย”
“แต่คุณครูครับ..”
“ไปเถอะภูวกุล ผอ.คงอยากให้เธอมีอนาคตที่ดีเหมือนกัน แล้วครูก็รู้นะว่าเธอต้องเหนื่อยแค่ไหนกับการต้องหาเงินเพื่อจ่ายค่าเรียน และค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกมากมาย”
“...”
แบมแบมก้มหน้าลง คนตัวเล็กนำคำพูดของครูสาวไปคิดทบทวน
เขาไม่เถียงหรอกว่าตัวเองยากจน และต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเองเพื่อให้มีชีวิตรอดไปวันๆ ทั้งชีวิตนี้เขาไม่มีใคร นอกจากตัวเอง เขาไม่มีทั้งพ่อและแม่ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทั้งคู่นั้นยังมีชีวิตบนโลกใบนี้หรือเปล่า
“ครูอยากเห็นเธอมีอนาคตที่ดีนะภูวกุล”
“ครับ”
ตอบตกลงที่จะย้ายที่เรียนไป ทั้งๆที่ลางสังหรณ์ในใจบางอย่างเตือนเขาขึ้นมาถี่ๆว่าอย่าไป ความรู้สึกไม่ปลอดภัยกลับมาเล่นงานเขาอีกครั้ง
ภายหลังจากรับเอกสารยืนยันตัวจากครูฝ่ายทะเบียนแล้ว เสียงเล็กจึงเปล่งออกมาอย่างแผ่วเบาคล้ายพึมพำกับตัวเองว่า “ผมรู้สึกว่ามัธยมยางกึนปลอดภัยที่สุดก็เท่านั้น.. ทำไมต้องผลักไสผมไปที่อื่น?”
แบมแบมยืนเก้ออยู่หน้าโรงเรียนมัธยมจินยองได้พักใหญ่ๆ คนตัวเล็กมองแผนที่กระดาษในมืออีกครั้งพลางเกาท้ายทอยอย่างมึนงง เพราะแผนผังโรงเรียนมัธยมจินยองนั้นซับซ้อนกว่าที่คิด ด้วยชุดยูนิฟอร์มที่แตกต่างจากนักเรียนคนอื่นๆ ก็ไม่แปลกนักที่นักเรียนคนอื่นๆจะมองหนุ่มร่างเล็กอย่างนึกสงสัย
เล่นยืนเด่นในชุดยูนิฟอร์มของยางกึนในรั้วของจินยองแบบนี้ก็ไม่แปลกหรอก!
“ขอโทษนะ คือว่าเห็นนายยืนเก้อตั้งนานแล้ว.. มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
แบมแบมหันไปตามเสียงหวานที่เอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นมิตร หนุ่มร่างบางที่มีส่วนสูงไม่ต่างกันกับเขาเท่าไหร่ แบมแบมยิ้มส่งกลับไปให้คนตรงหน้าเล็กน้อยแล้วจึงยื่นกระดาษใบน้อยให้
“เห? แผนผังหรอ? อ๋ออ นายกำลังจะไปของผอ.สินะ โอเค งั้นเดี๋ยวฉันพานายไปแล้วกันนะ”
ไม่เพียงแค่พูดเปล่า หากแต่เพื่อนคนใหม่ในรั้วโรงเรียนใหม่ยังถือวิสาสะฉุดข้อมือเล็กแล้วพาไปยังห้องผู้อำนวยการอย่างคุ้นเคย แบมแบมถือโอกาสนี้สำรวจสภาพแวดล้อมของโรงเรียนไปในตัว
“อ่ะ จริงสิ! ลืมแนะนำเลย ปาร์ค จินยอง ม.ปลายปีสามห้องเอ”
“แบมแบมครับ อยู่ม.ปลายปีสอง จากโรงเรียน...”
“ยางกึนสินะ”
“ครับ?”
“ฮ่ะๆ ช่างเถอะ ชุดยูนิฟอร์มนายเด่นไปน่ะ ฉันเลยพอเดาออก”
แบมแบมพยักหน้ารับเชิงเข้าใจ ก่อนที่บทสนทนาระหว่างเราจะเงียบไป จนกระทั่งจินยองพาเขามาหยุดอยู่หน้าห้องผอ.เท่านั้น แบมแบมขมวดหัวคิ้วมุ่น เมื่ออ่านชื่อจากป้ายหน้าห้อง
‘ผู้อำนวยการ ปาร์ค จินยอง’
“ปาร์ค จินยอง..”
“เรียกฉันทำไมหรอ?” จินยองหันมาถามพลางยิ้มขำ เพียงเท่านั้นแบมแบมก็ดูออกแล้วว่าร่างบางตรงหน้ากำลังอำเขาเล่น ใบหน้ากลมเล็กจึงเผยรอยยิ้มกว้างน้อยๆ
“เข้าไปเถอะ ผอ.คงรอนายนานมากแล้ว อยากให้ฉันยืนรอนายหน้าห้องไหม?”
“ไม่ดีกว่าครับ รบกวนรุ่นพี่แย่ ขอบคุณที่สละเวลานะครับ” กล่าวออกไปอย่างนอบน้อมและติดเกรงใจ จินยองยิ้มบางๆ ก่อนจะโบกมือลาเด็กน้อยต่างโรงเรียนอย่างเอ็นดู “ไปนะ แบมแบม”
ลับหลังรุ่นพี่ร่างบาง แบมแบมจึงถอนลมหายใจออกมาน้อยๆ ก่อนจะรวบรวมลมหายใจสูดตุนไว้ลึกเต็มปอด ราวกับเก็บเกี่ยวความกล้าทั้งหมดเข้าไปในตัวพร้อมกัน
แอ๊ดด
เปิดประตูห้องของผู้อำนวยการแล้ว ตามที่คาดไว้ ผอ.ปาร์ค จินยอง กำลังรอเขาอยู่ที่โต๊ะทำงานของตน อาจเป็นเพราะเสียงประตูที่ดังจนเกินไป ผอ.จึงละความสนใจจากงานที่ทำค้างไว้ แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองบุคคลมาใหม่ ซึ่งนั้นก็คือเขาเอง
“ส สวัสดีครับ ผมแบมแบม กันพิมุกต์ ภูวกุลครับ”
“ภูวกุล? นักเรียนที่เพิ่งย้ายใช่ไหม?” ผู้อำนวยการปาร์คถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ดวงตาของเขาดูคล้ายกับรำคาญและไม่ได้อยากให้เขาย้ายมาเรียนที่นี้เสียด้วยซ้ำ แบมแบมรู้สึกจุกน้อยๆที่สามารถอ่านสายตาของคนตรงหน้าออก
“ครับ เพิ่งย้ายมาวันนี้ครับ”
“ซองเอกสารบนโต๊ะคือข้อมูลคร่าวๆเรื่องที่พักและทุนของเธอ อ้อ รวมถึงห้องเรียนของเธอด้วย”
“ครับ” รับเอกสารจากผู้อาวุโสตรงหน้าด้วยความประหม่า ผอ.ปาร์คกระตุกยิ้มน้อยๆ น้ำเสียงทุ้มกล่าวโดยไม่แสดงอารมณ์ใด “เธอต้องเซ็นยินยอมตรงนี้ด้วยคุณภูวกุล”
“อ่า ครับๆ เรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ?” จรดลายหมึกลงบนแผ่นกระดาษอย่างเงอะงะ พลางเอ่ยถาม ชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานตรงหน้าเพียงพยักหน้ารับ เสียงทุ้มกล่าวเอ่ยขึ้นมาอีกว่า
“ยังมีพาเธอไปสำรวจโรงเรียน แต่วันนี้งานฉันล้นมือมากจริงๆ”
แบมแบมอยากบอกผอ.ปาร์คไปว่าไม่เป็นไรหรอกถ้าไม่สามารถพาเขาชมรอบโรงเรียนได้ แต่ปากของแบมแบมอาจจะช้าไปกว่าบุคคลที่เพิ่งเข้ามาใหม่อีกคน
“โอเค ขอบคุณที่พระเจ้าส่งเธอมาประธานนักเรียนที่รักของฉัน พานักเรียนใหม่ไปสำรวจโรงเรียนแทนฉันที เธอไม่มีปัญหาใช่ไหม?”
เมื่อไปมองประธานนักเรียนคนดังกล่าว คิ้วเรียวก็ขมวดเป็นปมอีกครั้ง
‘ประธานนักเรียนคือผู้ชายคนนี้หรอ?’
คล้ายๆคลับคลาว่าแบมแบมจะเคยเจอผู้ชายร่างสูงคนนี้ที่ไหนมาก่อน แต่ร่างสูงที่เป็นประธานนักเรียนกลับมองไม่เห็นเขาเสียอย่างนั้น ใบหน้าหล่อเหลาเพียงยิ้มรับคำจากผอ.ปาร์คอย่างนอบน้อม เสียงนุ่มทุ้มกล่าว
“ครับ ผอ. ผมจะพาเขาไปสำรวจเองครับ”
ตลอดทางที่ประธานนักเรียนหนุ่มรุ่นพี่พาเขาแนะนำสถานที่ต่างๆบริเวณโรงเรียน แบมแบมได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างของร่างสูงตรงหน้าอย่างแปลกใจ
“นักเรียนใหม่ มีอะไรอยากถามผมหรือเปล่า? ผมว่าคุณมองผมนานไปนะ”
แบมแบมสะดุ้งน้อยๆ ที่จู่ๆประธานนักเรียนร่างสูงหันมาจี้ถามแบบไม่ทันตั้งตัว และอาจจะด้วยท่าทางเลิกลั่กราวกับทำตัวไม่ถูก ประธานนักเรียนร่างสูงจึงหลุดยิ้มออกมา แบมแบมชักสีหน้าเล็กน้อยเชิงไมพอใจที่โดนคนตรงหน้ายิ้มเชิงว่าขำกับท่าทางของเขาเอง
“ถ้านักเรียนใหม่ไม่มีอะไรสงสัย ผมก็จะพาคุณไปห้องเรียนของคุณนะ อ้อ วันนี้คุณคงต้องเรียนด้วยชุดยูนิฟอร์มของยางกึนไประยะหนึ่งก่อนล่ะ จนกว่าชุดของคุณจะตัดเสร็จ”
“ตัดชุดหรอครับ?” หลุดถามออกไปเป็นประโยคแรกด้วยน้ำเสียงแผ่วจนแทบจะกลืนหายไปกับสายลม
ประธานนักเรียนร่างสูงพยักหน้ารับ เพียงเท่านั้น อาการวิตกจัดก็กลับมาเยือนหาแบมแบมอีกครั้ง
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดีใจหรอกนะ ที่จะมีทุนการศึกษาให้ แต่ถ้าต้องตัดชุดใหม่โดยที่เขาแทบจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องจ่ายค่าชุดหรือเปล่า? และชุดนั้นราคาเท่าไหร่? มันทำให้คนตัวเล็กคิดมากเรื่องเงินในกระเป๋าจนหัวคิ้วขมวดอย่างเห็นได้ชัดว่ากำลังวิตก
และประธานนักเรียนอาจจะสังเกตได้ถึงจุดนี้
“นายห่วงค่าชุดหรอ?”
“...” ไม่ตอบแต่ก็พยักหน้ารับคำของอีกฝ่าย
ร่างสูงคลี่ยิ้มบาดจิตออกมา เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยกล่าวออกมาว่า “ไม่ต้องคิดมากหรอก ทางโรงเรียนจะออกให้ครึ่งหนึ่ง นายไม่ได้จ่ายราคาเต็มหรอก นักเรียนใหม่”
โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง.. ที่จ่ายไปเพียงครึ่ง
“แล้วครึ่งหนึ่งนี้เท่าไหร่หรอครับ? เอ่อ.. ขอโทษครับที่ถามอะไรแบบนั้นไป”
เห็นสายตาคมมองมาราวกับว่า ‘คุณถามออกมาได้ยังไงกัน?’ แบมแบมจึงเอ่ยขอโทษอีกฝ่ายไปอย่างเกรงใจ แต่ดูท่า ประธานนักเรียนจะไม่ได้คิดมากอย่างที่คนตัวเล็กคาดการไว้
“ที่นายต้องจ่ายหรอ.. อืม ไม่แพงมากนักหรอก แค่..ห้าแสนวอน ก็เท่านั้น”
“ห้าแสนวอน!!”
ตาแทบลุกโพลงขึ้นมาทันทีเมื่อได้ฟังราคาที่ตัวเองต้องจ่าย แขนขาแทบจะทรุดลงกับพื้นราวกับอ่อนแรง ห้าแสนวอนนั้นคือค่ากินของเขาทั้งปีด้วยซ้ำ!
“อย่าคิดมากเลยนะนักเรียนใหม่ นายไปเรียนเถอะ”
“...”
“ขอโทษนะครับ คือว่าผมสงสัยว่า เอ่อ.. ผมเคยเจอคุณที่ไหน..”
ประธานนักเรียนร่างสูงหัวเราะออกมาน้อยๆ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเปล่งรัศมีเจิดจรัสออกมาจนแบมแบมนึกอยากตบปากตัวเองที่ถามอะไรอย่างนั้นไป เพียงเพราะคุ้นหน้าร่างสูงตรงหน้าจึงเอ่ยปากถาม เพราะแบมแบมไม่ค่อยจะแน่ใจ ว่าคนที่ยิ้มเจิดจ้าราวดวงอาทิตย์ส่องคนนี้ จะเป็นคนเดียวกับที่ดูลึกลับคนนั้นหรือเปล่า
“นายกำลังใช้มุขตีสนิทกับผมหรอนักเรียนใหม่?”
“ห๊ะ ป เปล่านะครับ”
“ผมชื่อ มาร์ค ต้วน ม.ปลายปีสามห้องเอ ดำรงตำแหน่งประธานนักเรียนของโรงเรียนมัธยมจินยอง”
“ม มาร์ค?” ทวนชื่ออีกฝ่ายอย่างละล่ำละลัก ราวกับว่าเคยได้ยินชื่อนี้จากที่ไหนมาก่อนหน้านั้น
“จะเอาคืนกูหรอ! กูชื่อมาร์ค!! มีปัญญาเอาคืนก็ตามมานะไอ้โรคจิต!!! อย่าให้กูรู้ว่ามึงตามเด็กคนนั้นอีก เข้าใจไหม!!”
“อ่า ผมไม่คิดว่าเราจะสนิทกันขนาดนั้นนะ ฮ่ะๆ” รุ่นพี่ร่างสูงว่า พลางหัวเราะกลบเกลื่อน คนตัวเล็กสะดุ้งไปน้อยๆ ก่อนจะโค้งหัวขอโทษขอโพยไปหลายครั้ง แต่ก็ได้รับปฏิกิริยากลับมาคือ รุ่นพี่มาร์คโบกไม้โบกมือเชิงว่าไม่ต้องคิดมาก
“อย่าคิดมากเลย ผมแค่แกล้งนายก็เท่านั้น ฮ่ะๆ ไปล่ะ.. หลังจากนี้นายคงได้เจอผมยาวเลยล่ะ”
“ค ครับ?”
ไม่มีประโยคใดหลังจากนั้น รุ่นพี่ร่างสูงหันหลังเดินจากไปเมื่อมาส่งแบมแบมหน้าห้องเรียน คนตัวเล็กได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างที่คุ้นตาไปอย่างไม่คลายสงสัย
มาร์ค.. ใช่คนเดียวกันหรือเปล่านะ?
สะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองทิ้ง มือเล็กทึ้งหัวตัวเองเบาๆ
คนชื่อมาร์คมีเป็นร้อยเป็นพัน จะใช่คนเดียวกันได้ยังไง?
“บ้าไปแล้ว.. กันพิมุกต์”
ก่อนจะได้เดินเข้าห้อง ร่างบางของใครบางคนก็เดินผ่านหน้า แบมแบมมองตามแผ่นหลังบางของใครสักคนที่ให้ความรู้สึกเยือกเย็นราวกับมีไอสีดำคลุ้งแผ่วนรอบตัวชวนไม่น่าเข้าใกล้ และน่าจะเรียนอยู่รุ่นเดียวกันกับเขา
“นี้ ชเว ยองแจผ่านหน้าห้องพวกเราล่ะ รีบเอาอะไรมาล้างมนตร์ดำของเจ้านั่นเร็วเข้า!”
หือ? มนตร์ดำ... มนตร์ดำอะไรกัน
แบมแบมมองตามแผ่นหลังบางที่ไกลออกจากกรอบสายตาไปแล้วอย่างนึกสงสัย ก่อนจะหันมามองเพื่อนร่วมห้องเรียนชุดใหม่ที่กำลังทำความสะอาดหน้าห้องเรียนกันวุ่นวาย บ้างก็สวดบทไล่ผี ไล่วิญญาณ
“คนพวกนี้เป็นอะไรกันไปหมดนะ?”
บ่นพึมพำกับตัวเอง แล้วจึงเดินเข้าห้องเรียนไปท่ามกลางความแปลกใจของเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่มีเด็กนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามา ซึ่งแบมแบมก็ได้ที่นั่งว่างติดหน้าต่าง เพื่อนใหม่ที่ได้นั่งคู่กับเขาคือ
คิม ยูคยอม
------------------------
เอามาร์คแบมตอนแรกมาแล้วค่ะ 555 ขอบคุณที่ทุกคนให้ความสนใจกับฟิคเรื่องนี้กันนะค่ะ เราก็จะพยายามแต่งให้เต็มที่น้า
ฟิคเรื่องนี้คือแบ่งสองพาร์ทนะค่ะ และนี้คือตอนที่หนึ่งของพาร์ทมาร์คแบมน่อ ของคู่แจ็คแจนั้นรอไรท์ มาปริ้นกันแป๊ปค่าา
#' เอ๋อมึนฮา
O W E N TM.
ความคิดเห็น