บาเยิร์น บาวาเรีย เยอรมัน มันจริงๆ ตอนที่ 3
ผู้เข้าชมรวม
181
ผู้เข้าชมเดือนนี้
5
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
วันศุกร์วันนี้เป็นวันเที่ยววันที่ 6 วันรองโหล่ของเรา เราแวะที่เมืองRottingen หน้าศาลากลางเมืองกำลังมีการซ่อมแซมอีกแล้วครับท่าน ภาพของ Röttingen Rathaus ที่ว่าสวยงามแบบบาร็อก จึงไม่ได้สวยมาก เรามาถึงที่เที่ยวจริงๆของเราวันนี้ ต้องยกให้กับการได้ชมปราสาทWeikersheim ไวเคอร์ไฮม์ ที่ท่านCount Wolfgang Von Hohenlohe โฮเฮ็นโลเฮ ท่านสร้างตั้งแต่ค.ศ. 1587 ต่อมาคนที่เป็นหลานGrandson Siegfried มาทำหลายอย่างให้สวยสมใจในปีค.ศ. 1680 ที่นี่การเข้าชมภายในต้องรอไกด์ จะพูดเป็นภาษาเยอรมันเท่านั้นนะครับ แต่ให้โพยเราไว้ใบเป็นภาษาอังกฤษ สนุกดี พาชมแบบ เรเนสซองส์ก่อน แล้วมาดูแบบบาร็อก อลังการงานสร้างที่สุดก็ต้องห้อง Rittersaal (Knights Hall )ที่จะได้ชมช้าง สามมิติ 3-D Stucco Elephant จากนั้นก็มาชมสวนสวยSchlossgarten (Palace Gardens) เป็นหนึ่งใน The Best In Germany ทีเดียวครับ ทิวลิปหลากหลายของที่นี่แปลกตาไม่ได้เป็นสายพันธุ์เดียวปลูกกันเรียงเป็นแถว แต่ของที่นี่ หลากสีสัน หลากหลายแบบ หลายสไตล์ไปทั่ว ชื่นชมน้ำพุ รูปปั้น ทางเดิน อากาศดีมาก หย่อนใจได้ดีทีเดียว เราเดินทางต่อมายังเมืองตั้งต้นของคนอื่น แต่สำหรับเราเป็นเมืองปลายทางสุดท้ายของเส้นทางสายโรแมนติก มาถึงซะที เมืองWürzburg
Wurzburg วูร์ซบูร์กเป็นเมืองที่สวยมากเมืองหนึ่งของเยอรมัน เยอรมันเป็นเมืองเบียร์ เมืองนี้เค้าว่าเป็นเมืองไวน์เยอรมัน เพราะมีนักบวชที่มาส่งเสริมการทำไวน์ ซึ่งต่อมาถึงขนาดได้รับการยกย่องให้เป็น ซังค์คิเลี่ยน ไวน์ขาวเมืองนี้มีชื่อเสียงมาก เมืองนี้ยังเป็นเมืองของWilhelm Conrad Roentgen ซึ่งค้นพบรังสี Xray ครั้งแรกที่นี่ เราไปจอดรถที่ Wurzburg Residence ซึ่งเป็นหนึ่งในมรดกโลก เข้าไปชมภายในวังนี้โดยใช้ตั๋ว 14 วันที่เข้าชมภายในปราสาทของคิงลุดวิกได้ฟรี ชมเองได้เลยโดยไม่ต้องรอไกด์พาชม ภายในยิ่งใหญ่สวยงามมาก แนวขั้นบันไดที่พาเราขึ้นไปที่ชั้น 2 ภาพปูนเปียกเฟรสโกบนเพดาน วังเรสซิเดนซ์นี้ก็ถูกบอมบ์ในปีค.ศ. 1945 ในชะตากรรมสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปด้วยเหมือนกัน บูรณะจนเปิดให้ชมได้ตั้งแต่ปีค.ศ. 1987 เค้าไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพภายใน ชมกันเสร็จ จึงพากันเดินมาเข้าใจกลางเมือง ถึงซะทีตลาดใจกลางเมืองMarktplatz ได้ชิมซะทีขนมปังไส้กรอกเยอรมัน ราดคัสตาร์ด เธอแวะร้านขายยา ได้ยาสีฟันกล่องสีแดงที่มีชื่อของเยอรมันด้วย ตลาดกลางเมืองนี้ เด่นที่สุดต้องยกให้โบสถ์สีแดงเข้ม รูปทรงสะดุดตา เป็นโบสถ์พระแม่มารี Marienkapelle Church แล้วก็บ้านสวยที่กลายเป็นสำนักงานท่องเที่ยวที่ชื่อว่าบ้านฟัลคอนFalkenhaus เราเดินไปเรื่อยแวะชิมไอศกรีมเยอรมันที่หน้าโบสถ์ใหม่ นอยมึนสเตอร์Neumünster Church เดินกันอีกนิดเดียวก็เห็นโบสถ์ ซังค์คิลเลี่ยนSt. Kilian Dom ที่นี่ก็เป็นถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองมุ่งหน้าไปสะพานอัลเทอร์ไมน์Alte Mainbrückeสะพานข้ามแม่น้ำไมน์ที่คล้ายสะพานชาลส์เมืองปราก แต่ที่นี่เล็กกว่ามาก รูปปั้นนักบุญ ทั้ง 12 รูปก็สวยงามดี ก่อนถึงสะพานมีหอสูงเป็นศาลากลางเมืองเก่า ตอนนี้เป็นภัตตาคาร เมื่อถึงตัวสะพาน มองสูงขึ้นไปเบื้องหน้าก็จะได้ชมMarienberg Fortress สร้างขึ้นบนตำแหน่งที่เค้าว่ามีโบสถ์คริสถ์แห่งแรกในเยอรมัน เดินย้อนกลับมาจากสะพาน ร้านรวงเต็มไปหมด เธอแวะชมสินค้าต่างๆจนมาถึงหน้าโบสถ์ ซังค์คิลเลี่ยน เราแวะซื้ออาหารทอดจากน็อทซี แล้วเดินเลี้ยวขวาไปชม มหาวิทยาลัยของเมืองนี้ เดินมาถึงสวนด้านข้างวังเรสซิเดนซ์ เธอถ่ายรูปดอกไม้ในสวน แม้ว่าไม่สวยเท่ากับดอกไม้ในสวนของปราสาทWeikersheim เราแวะนั่งเล่น พักขา ชมสวนอันร่มรื่น กินอาหารทะเลทอดที่ซื้อติดมือมารองท้อง ภายในสวน ก่อนเตรียมตัวขับรถยาว 100 กว่ากิโลเมตรเข้าเมืองNuremberg หรือNurnberg เมืองภูผาหิน
เมืองเนินแบร์กเป็นเมืองใหญ่เก่าแก่อันดับ สอง ของบาวาเรีย รองจากมิวนิคเท่านั้น การขับรถบนออโตบาห์น Autobahnที่เชื่อมระหว่างเมืองใหญ่แบบWurzburg กับNurnberg จึงให้ประสบการณ์แบบหนึ่งที่น่าจดจำ รถดี ถนนดี มารยาทคนขับรถดี แต่เรายังไม่เก่งจริง ขับตามรถบรรทุกใหญ่ อาศัยความเร็วไม่สูงมากประมาณแบบ 120-130 เท่านั้น มองไปทั่วๆ เหมือนขับกันช้าๆ แต่ทุกคันแล่นด้วยความเร็วขนาดนี้ มีรถเร็วแรงมากๆก็แล่นฉิวไปเท่านั้น แซงซ้ายไปอุตลุด มองไปฝั่งตรงข้าม บางเวลามีรถติดด้วยแฮะบนทางด่วนแบบออโต้บาห์น แต่เรามาแบบเรื่อยๆ ไม่มีรถติด เย็นราวๆ 6โมงเราก็ถึงโรงแรม ที่พักที่อยู่แนวกำแพงเมืองเก่าพอดีชื่อ Hotel am Färbertorหาที่จอดรถของโรงแรมไม่ได้ มาจอดใกล้ๆชั่วคราวเอากระเป๋าลง แล้วขับหาที่จอดรถจนเจอ ลงมาอุดหนุนอาหารจีนที่ทำขายโดยคนเวียดนาม พูดไทยอวดเราด้วย วันนี้เย็นแล้วเราจึงขอพักผ่อนเลย เมืองนี้เป็นเมืองขนมปังขิง มีขนมปังขิงชิ้นเล็กๆวางไว้ต้อนรับให้เราได้ชิมภายในห้องพักด้วย
เช้าวันเสาร์ ที่เราว่าเป็นการเที่ยวเยอรมันแบบส่งท้าย ได้แค่ไหน ก็เที่ยวกันเท่านั้น เธอทำอาหารเช้า กินกัน กับอาหารจีนเมื่อวานที่เก็บไว้ ทำเผื่อเป็นอาหารกลางวันด้วย แล้วเราก็เช็คเอาท์จากโรงแรม ไม่ได้กินอาหารเช้าเค้า แต่ต้องจ่ายค่าจอดรถคืนนึง 13 ยูโร เสร็จแล้วได้ใบมาใบหนึ่งเค้ามาเสียบที่ตู้แทนบัตรเครดิตได้เลย จากนั้นเราก็เดินมาเก็บของที่รถ แล้วเดินอย่างปลอดโปร่งโล่งใจเที่ยวเนินแบร์ก จุดหมายแรกเดินจนพบ St Lawrence Church (Lorenzkirche)โบสถ์ใหญ่ใจกลางเมือง มีห้างรายรอบด้วยมากมาย ชมแล้วเดินมาสะพานข้ามแม่น้ำที่แบ่งเมืองใหม่ เมืองเก่า เราได้เห็นแล้วที่เค้าเรียกว่า Heilig-Geist-Spitalแรกๆเค้าว่าเป็นโรงพยาบาลสำหรับคนจน ตอนนี้เป็นภัตตาคารกลางน้ำ เดินข้ามสะพานมาตลาดกลางเมือง เจอกับHaupt Marketมีคนมาขายของมากมาย เราได้แวะเข้าไปชมFrauenkirche มีเสียงซ้อมออแกนดังไพเราะกังวานไปทั้งโบสถ์ จากนั้นชม Schoener Brunnen แปลว่า น้ำพุที่สวยงาม ที่ตรงตลาดกลางเมืองนั้นเอง เดินไปอีกนิดก็เจอโบสถ์ใหญ่มาก ชื่อ St Sebald Church (Sebalduskirche) ภายในยังได้ชมภาพสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่บอมบ์จนเนินแบร์ก แบนราบ พินาศมากมาย แล้วเราไปจนถึงที่หมายสุดท้าย ใช้ตั๋ว 14วัน 40 ยูโรชมได้ด้วยนะที่โฆษณาไว้ ที่นั่นคือ Keiserburg เดินหลงไปที่ที่ติดๆกันก่อนเรียกที่นั่นว่าKaiserstallungพบว่ามันเป็นyouth hostelเลยเดินมาอีกทางเป็นเส้นทางเดินขึ้นเนินสูง แล้วก็ถึงKeiserburg เค้าว่าจักรพรรดิ องค์ไหนองค์ไหน ก็ต้องมาพักที่นี่ เราไปดูตั๋วอยากเข้าไปชมภายใน เค้าว่าปิดซ่อม ดูไม่ได้อีกแล้วครับท่าน พกเอาความเก้อกับเยอรมันปิดซ่อมดูได้เพียงอาคาร ทิวทัศน์ภายนอกเท่านั้น เธอเดินมาหาซื้อเนยแข็งที่ตลาดกลางเมือง แวะห้างรอบๆโบสถ์ St Lawrence ได้ไส้กรอกเยอรมันย่างร้อนๆเก็บมากินกับเส้นมาม่า ขับรถออกจากที่จอดรถ ไม้กั้นไม่ยอมเปิดให้ คนพื้นที่มาช่วยเรา กดปุ่มสัญญาณคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ จนไม้กั้นเปิดให้เราออกมา จึงได้เดินทางออกจากเนินแบร์กกลับมายังมิวนิค หาทางให้ใกล้ๆสนามบินเข้าไว้ก่อนกลับกรุงเทพบ้านเรา
ออโตบาร์นมามิวนิค รถมากเป็นตอนๆ แต่ทำความเร็วได้ดีตลอด เริ่มชินกับถนน วิธีการขับ แม้จะยังกลัวๆ บ้าง จีพีเอสเจ๋งมากมาถึง Dachau Palace and Court Garden แบบชิวๆ หาทางเข้าชมภายในปราสาทลำบากนิดหน่อยต้องติดต่อที่ภัตตาคารชั้นล่าง ไม่มีที่ขายตั๋ว ไม่ได้เก็บเงิน ชมสวน ชมภายในปราสาทแล้ว ไม่เห็นว่าสวยงาม มาทำไมไม่รู้ เวลายังมี ยังไม่ได้เวลานัดหมายคืนรถเช่าเลย อาศัยหนังสือท่องเที่ยว ทดลองกับ จีพีเอส พบข้อมูลว่ายังมีปราสาทที่ยังใช้ตั๋วชมได้อีกที่นึง เราจึงขับรถไปชม ปราสาท ชะไลไฮม์ Schleißheim palace ถ้าไม่ได้มาที่นี่คงเสียดายแย่ เราแวะชมปราสาทเก่าที่เป็นมิวเซียมเล็กๆ แล้วเข้าชมภายในปราสาทใหม่ สวยมากมาก ถ่ายรูปได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นห้องชื่ออะไรก็ตามห้องใหญ่ ห้องเล็ก ภาพสีปูนเปียกบนเพดานก็สวยมาก แล้วจึงออกมาชมสวน สมควรแก่เวลาก็กลับมาสนามบิน บินกลับ กรุงเทพ
เยอรมันมันจริงๆ 2013 บาวาเรีย เยอรมันยิ่งใหญ่มาก ทีมบาเยิร์น มิวนิคได้แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีค ได้ทั้งแชมป์บุนเดสลิกา แชมป์เดเอฟเอโพคาล ปีนี้มูลค่าทีมบาเยิร์นจึงมีมากกว่าทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเสียอีก และขึ้นเป็นทีมที่มีมูลค่าเป็นอันดับหนึ่งของโลก เยอรมันได้รับการโหวตว่าเป็นประเทศน่าเชื่อถืออันดับหนึ่งแซงญี่ปุ่นขึ้นไปอีก เยอรมันนายแน่มากจริงๆ ได้เห็นมา ได้สัมผัสมาแล้วจริงๆ ระเบียบวินัย ประหยัด ขวดน้ำก็ยังมีค่า ผู้คนที่ได้เจอ ประทับใจจริงๆ แหล่งท่องเที่ยว โรงแรมมาตรฐานดียิ่ง เหมือนของทำเนี้ยบ ระเบียบจัด ทำให้ขาดเสน่ห์ของความไม่สมบูรณ์แบบไปบ้าง แต่ไม่ต้องไปหาที่ไหน เมืองไทยของเราอุดมไปด้วยเสน่ห์ของพวกนี้มากกว่าใครๆอยู่แล้ว
ฟังเพลง Thais ได้ที่นี่
http://music.truelife.com/song/2653336/thais-meditation
Ludwig castle 2013
Romatic Road 1
Romantic Road 2
Romantic Road 3
ผลงานอื่นๆ ของ Jack1960 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Jack1960
ความคิดเห็น